“สวัสดีค่ะคุณโจว”หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในสายตาของพวกเธอทั้งสองคน โจวเจี้ยนเป็นบุคคลระดับสูง ตอนนี้พวกเธอได้พูดคุยกับอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ย่อมรู้สึกกดดันและทำตัวไม่ถูกหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายทักทายกันเล็กน้อยแล้ว“คุณฉิน ที่คุณบอกว่ามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากผม เรื่องอะไรเหรอ?”โจวเจี้ยนถาม“เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมเพิ่งทำลายความร่วมมือระหว่างบริษัทคังกรุ๊ปและกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมเลยต้องช่วยหาบริษัทใหม่เพื่อมาทำสัญญาร่วมมือกับบริษัทคังกรุ๊ปแทน แล้วผมก็เลือกโจวกรุ๊ปของพวกคุณ…”ฉินหมิงอธิบายสถานการณ์โดยย่อ“ได้สิ ไม่มีปัญหา!”โจวเจี้ยนพยักหน้าและตอบตกลงอย่างง่ายดายด้วยความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและตระกูลโจว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปฏิเสธฉินหมิงเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้“นี่...โอเคจริง ๆ เหรอคะ แค่นี้ก็จบเรื่องแล้ว?”หยางจิงตกตะลึง เธอยังไม่อยากจะเชื่อหูและสายตาของเธอเองแต่ตอนนี้แม้ว่าเธอจะโง่สักแค่ไหน เธอก็รู้ชัดแล้วว่าฉินหมิงและโจวเจี้ยนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากทว่าปัญหาคือ
โจวเจี้ยนเพราะเห็นแก่หน้าของฉินหมิงถึงได้ตอบตกลงที่จะร่วมมือกับบริษัทคังกรุ๊ป!“ฉินหมิง ขอบคุณนะ…”หยางจิงยิ้มอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าที่จะสบตากับฉินหมิงก่อนที่รองประธานหลี่จะมาถึง ฉินหมิงเคยบอกเธอแล้วว่าเขาสามารถช่วยบริษัทคังกรุ๊ปให้เซ็นสัญญากับโจวกรุ๊ปได้แต่ในตอนนั้น เธอคิดว่าฉินหมิงกำลังคุยโม้อยู่จึงไม่ได้มีสีหน้าที่ดีให้กับฉินหมิงเลยจนกระทั่งตอนนี้เธอถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าสิ่งที่ฉินหมิงพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด!เธอประเมินฉินหมิงต่ำเกินไป!“ไม่ต้องขอบคุณ ตราบเท่าที่คุณไม่กล่าวโทษผมที่ทำลายความร่วมมือระหว่างบริษัทของคุณกับกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ปแค่นั้นก็พอแล้ว…”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มล้อเลียนเล็กน้อย“ฉัน...ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณจะมีความสามารถมากขนาดนี้!”“สรุปก็คือ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ล้วนเป็นความผิดของฉันทั้งหมด คุณอยากจะช่วยฉันและเจียฮุ่ยด้วยเจตนาดี ฉันไม่ควรตั้งคำถามและดูถูกคุณ ฉันขอโทษค่ะ…”หยางจิงหน้าแดงและเอ่ยขอโทษฉินหมิงอย่างจริงใจถ้าเธอเชื่อฉินหมิงก่อนหน้านี้ เธอและหลี่เจียฮุ่ยคงไม่ต้องมาทุกข์ทนกับความต่ำช้าของรองประธานหลี่ และฉินหมิงก็คงจะไม่เกิ
แต่ในตอนนี้ หลังจากที่เธอเห็นว่าท่าทีของโจวเจี้ยนที่มีต่อฉินหมิงนั้นดูเหมือนจะเป็นฝ่ายที่ต่ำศักดิ์กว่าโดยสมบูรณ์ ในใจก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเธอก็ลอบคาดเดาว่าบางทีโจวเจี้ยน อาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างถ่อมตัวก็เป็นได้!เพราะนอกจากนี้ เธอก็ไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้อีกแล้ว“ฉินหมิง ตอนนี้สัญญาก็เซ็นแล้ว เรากลับกันเถอะ”หลี่เจียฮุ่ยพูด“ไม่ต้องรีบ เมื่อกี้นี้พวกคุณเอาแต่คุยเรื่องงานยังไม่ได้กินข้าวเลย”“รอกินอะไรให้อิ่มท้องก่อนค่อยกลับไปก็ยังไม่สาย”ฉินหมิงยิ้มและพูด เขาเคยชินกับการใช้ชีวิตที่ประหยัดมาก่อน เมื่อมีอาหารมื้อหรูบนโต๊ะตรงหน้าเขาก็ไม่อยากจะทิ้งมันไปให้เสียเปล่า“อย่ากินจะดีกว่านะ!”“ฉินหมิง คุณไม่รู้อะไร รองประธานหลี่เป็นคนใจแคบและเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก คุณทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ฉันไม่คิดว่าเขาจะยอมปล่อยมันไปง่าย ๆ !”“ในความคิดของฉัน เราควรออกไปก่อนจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นขืนคนพวกนั้นตามมาแก้แค้น คงได้เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!”หยางจิงพูดอย่างรวดเร็ว“แก้แค้นเหรอ?”“ผมแค่กลัวว่าเขาจะไม่มีความกล้านั้น!”“ตราบเท่าที่เขากล้ามา ผมรับประกันได้เลยว่าเขาจะทำให้เขามาได้แต่กลับไปไม่ไ
"คุณ..."หยางจิงโกรธมากเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าฉินหมิงไปเอาความกล้ามากมายขนาดนี้มาจากไหน หรือฉินหมิงคิดว่าเขาโชคดีปีนขึ้นไปเกาะคุณชายใหญ่ของตระกูลโจวได้ทั้งเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ตัวเองก็ไร้เทียมทานแล้ว?หรือบางที ฉินหมิงแค่อยากจะพูดคุยกับคนตระกูลโอวด้วยเหตุผลจริง ๆ?นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกเหรอ!แกร็ก!ในขณะนี้เอง จู่ ๆ ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกผลักเปิดออก ชายวัยกลางคนในวัยห้าสิบปีมีท่าทางดุร้ายก็เดินเข้ามาจากข้างนอกพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคนในชุดสูทและรองเท้าหนังสีดำสนิทคงไม่ใช่ว่าเป็นรองประธานหลี่ที่พาคนของตระกูลโอวมาแก้แค้นแล้วหรอกนะ?หัวใจของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเต้นผิดจังหวะ พวกเธอรีบหันหน้ามองไปที่ประตูพร้อมกันหลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของชายที่เดินเข้ามา พวกเธอทั้งสองคนก็จำได้แล้วรู้สึกสบายใจขึ้นที่แท้อีกฝ่ายก็ไม่ใช่รองประธานหลี่ แต่เป็นประธานบริษัทคังกรุ๊ป!“ประธานคัง คุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน?”หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยดูมีความสุขมาก ทั้งคู่รีบลุกขึ้นและปรี่ขึ้นไปทักทายเขาอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหยางจิง เธอเป็นบุคคลหลักที่รับผิดชอบในการเจรจาความร่วมมือครั้งนี้ ตอนนี้เธอได้ช่ว
"คุณ..."ดวงตาของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยครั้งนี้เธอและหยางจิงได้รับสิทธิ์ความร่วมมือจากโจวกรุ๊ป แถมยังช่วยให้บริษัทประหยัดกำไรไปได้ 10% เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแต่ประธานคังกลับไม่สอบถามพวกเธอสักคำ เข้ามาก็ตำหนิแล้วไล่เธอกับหยางจิงออกจากบริษัทสิ่งนี้ทำให้เธอทั้งรู้สึกน้อยใจและเสียใจเมื่อเทียบกับความคับข้องใจของหลี่เจียฮุ่ยแล้ว หยางจิงดูสงบกว่ามากเธอเกิดมาในตระกูลธรรมดา ๆ แม้ว่าตระกูลของเธอจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่พ่อแม่ของเธอก็รักเธอมาก ไม่เคยที่จะลงไม้ลงมือตบตีเธอแม้สักครั้ง!แต่ตอนนี้ประธานคังที่เป็นเพียงเจ้านายของเธอ เขาไม่ใช่พ่อแม่ของเธอด้วยซ้ำ แต่กลับตบหน้าเธออย่างแรง!นี่สำหรับเธอแล้วนับว่าเป็นความอัปยศอดสูครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเธอช่างดูสงบมากจนน่าประหลาดใจ“ประธานคัง ฉันเข้ามาทำงานในบริษัทนี้จะว่าไปก็เป็นเวลากว่าหกปีแล้ว หลายปีที่ผ่านมาฉันทำงานอย่างขันแข็งและเจรจาสัญญาติดต่อลูกค้าให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะไม่มีผลงาน แต่อย่างน้อยก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันทำเพื่อบริษัทไปเยอะมาก!”“แม้ว่าการหารือเรื่องความร่วมมือกับกับกลุ
“เยี่ยม นี่มันเยี่ยมมาก!!”ประธานคังดีใจแล้วหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น“ประธานคัง คุณพูดได้ถูกต้อง ฉันกับเจียฮุ่ยช่วยให้บริษัทได้ทำสัญญากับโจวกรุ๊ปแล้วจริง ๆ!”“แต่ว่าต้องขอโทษด้วย ตอนนี้เราทั้งคู่ถูกไล่ออกจากบริษัทคุณแล้ว!”“เพราะงั้น สัญญานี้ถือว่าเป็นโมฆะ!”หยางจิงยิ้มอย่างเย็นชา คว้าสัญญาออกมจากมือของประธานคังอย่างแรง!หลังจากที่หยางจิงยึดสัญญานี้กลับไป รอยยิ้มบนใบหน้าของประธานคังก็แข็งค้าง จากนั้นเขาถึงเพิ่งจำได้ว่าตัวเองเพิ่งไล่หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยออกจากบริษัท!หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยได้ช่วยให้บริษัทของพวกเขาได้รับความร่วมมือกับโจวกรุ๊ป ซึ่งพวกเธอสมควรจะได้รับความชื่นชมมากที่สุด!แต่สิ่งที่น่าหัวเราะก็คือ เมื่อสักครู่นี้เขาตบหยางจิงโดยไม่ถามอะไรสักคำ แถมยังไล่หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยออกจากบริษัท ไม่ให้โอกาสผู้หญิงทั้งสองได้อธิบายแม้แต่น้อย!นี่มันโง่เขลามาก!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเสียใจภายหลังจนลำไส้เขียวคล้ำไปหมดแล้ว“ประธานหยาง นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นฉันที่เข้าใจทั้งสองคนผิดไป…”“ตอนนี้ฉันขอคืนคำสั่งที่ไล่ทั้งสองคนออกจากบริษัท หวังว่าทั้งสองคนจะไม่ถือสาหาความกับฉั
“ฉันจะหางานที่มีรายได้สูงแบบนี้ได้อีกไหม คุณไม่ต้องมากังวลแทนฉันหรอก!”หยางจิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาแต่แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้ ในใจของเธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอทำงานอยู่ที่บริษัทคังกรุ๊ปมานานกว่าหกปีแล้ว ไม่รู้ว่าเธอใช้ความพยายามไปมากแค่ไหนกว่าจะก้าวขึ้นมานั่งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายได้ในที่สุดถ้าเธอออกจากบริษัทคังกรุ๊ป มันจะเป็นเรื่องยากมากที่เธอจะหางานใหม่ที่มีตำแหน่งเดียวกันและมีรายได้ปีละกว่าหนึ่งล้าน เกรงว่าเธออาจจะต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่!ซึ่งค่าตอบแทนนี้มันสูงมาก!“พวกเธอสองคนก็รู้ดี ว่าพวกเธอได้มีส่วนร่วมอย่างมากในการช่วยให้บริษัทได้รับสิทธิ์ความร่วมมือกับโจวกรุ๊ปในครั้งนี้ ผลงานนี้ใหญ่มาก และฉันก็จะไม่ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างเลวร้ายอย่างแน่นอน!”“ประธานหยาง ตราบเท่าที่เธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อ ฉันจะเลื่อนตำแหน่งให้เธอขึ้นเป็นผู้จัดการใหญ่ จะเพิ่มเงินเดือนและผลประโยชน์ให้เธอเป็นสองเท่าด้วย!”“ส่วนผู้จัดการหลี่ หลังจากที่ประธานหยางได้รับการเลื่อนตำแหน่งแล้ว ตำแหน่งของเธอจะตกเป็นของเธอ และเธอจะขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายคนใหม่ของบริษัทเรานับจากนี้!”“ตอนนี้พวกเธอสองคนยั
“สำหรับเงินเดือน ผมจะให้เงินคุณปีละสามล้าน ไม่นับโบนัสและสวัสดิการอื่น ๆ ของบริษัทซึ่งจะแยกคิดอีกที!”“อะไรนะ? รายได้ปีละสามล้าน?”“ฉินหมิง คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นใข่ไหม?”“คุณเปิดบริษัทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมฉันถึงไม่รู้เลย”หลี่เจียฮุ่ยตกตะลึง“เรื่องที่ว่าผมเปิดบริษัทเมื่อไหร่นั้นตอนนี้ยังอธิบายได้ไม่ชัดเจน ไว้ผมจะเล่าให้คุณฟังอีกทีหลังจากนี้”“ยังไงก็ตามคุณเชื่อผมเถอะ!”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มในช่วงที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ หลี่เจียฮุ่ยใจดีกับเขาแล้วช่วยเหลือเขาไว้มากเขาอยากจะตอบแทนบุญคุณนี้มาหลายครั้งแล้ว!ตอนนี้เขามีชื่อเสียงและสถานะในเมืองเจียงเฉิงแล้ว ย่อมไม่ปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณเก่าของตัวเองอย่างเลวร้าย เขาเสนองานให้หลี่เจียฮุ่ยด้วยรายได้สามล้านต่อปี ประการแรกก็เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของเธอประการที่สอง เขาคือประธานบริษัทของหมิงเหยากรุ๊ป แต่ก็มักจะมีภาระอื่น ๆ ทำให้เขาไม่อยู่บริษัทบ่อย ๆ ทำให้งานต่าง ๆ ตกไปเป็นภาระของซูซินเหยาเพียงลำพังหลี่เจียฮุ่ยเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาไว้วางใจมากที่สุด ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะฝึกฝนหลี่เจียฮุ่ยแล้วให้เธอเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระและคว
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ