“ส่วนกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป ควบคุมช่องทางการขายในตลาดเพียง 20% เท่านั้น ความสามารถของพวกเขายังตามหลังโจวกรุ๊ปอยู่มาก”“ในเมื่อกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ปก้าวร้าวมากขนาดนี้ ทำไมบริษัทคังกรุ๊ปของพวกคุณไม่ลองหารือเรื่องความร่วมมือกับโจวกรุ๊ปแทนล่ะ”ฉินหมิงถามอย่างสับสน“นี่…ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”หลี่เจียฮุ่ยส่ายหัวการเลือกบริษัทผู้จัดจำหน่ายที่จะร่วมมือด้วย เป็นการตัดสินใจของคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เธอเป็นเพียงผู้จัดการแผนกตัวเล็ก ๆ ในฝ่ายขายของบริษัท ยังไปไม่ถึงระดับผู้อาวุโส เธอย่อมไม่รู้ข้อมูลภายในมากนัก“ฉันจะบอกคุณแทนเอง!”“แบรนด์เสื้อผ้าที่ผลิตและดำเนินการโดยบริษัทของเรานั้นเป็นแบรนด์ระดับกลางถึงระดับสูง ในขณะที่โจวกรุ๊ปเดินอยู่บนเส้นทางของแบรนด์ระดับไฮเอนด์และสินค้าหรูหรา”“ฉันเคยเป็นตัวแทนของบริษัทไปหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับบุคคลที่รับผิดชอบซึ่งเป็นตัวแทนของโจวกรุ๊ปมาก่อนแล้ว พวกเขาไม่เห็นสินค้าเราอยู่ในสายตาเลย จากนั้นก็ปฏิเสธคำขอของฉันโดยตรง…”หยางจิงถอนหายใจ สีหน้าดูจนใจและทำอะไรไม่ถูก“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!”“ถ้าคุณไม่เตือนผม ผมก็เกือบจะลืมไปแล้ว!”ฉินหมิงตบห
โจวกรุ๊ป มีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่อยู่นั่นก็คือตระกูลโจวซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงเฉิง มีทรัพย์สินโดยรวมมูลค่ามากกว่าหมื่นล้านโจวเจี้ยนยังเป็นประหนึ่งรัชทายาทของตระกูลโจว สถานะของเขานั้นสูงกว่าฉินหมิงคนธรรมดา ๆ แบบนี้หลายร้อยเท่า!สองคนนี้แตกต่างกันราวกับเมฆและโคลน พวกเขาจะมีความสัมพันธ์กันได้อย่างไร!ถ้าเธอเชื่อฉินหมิง มันก็คงจะแปลกมาก!“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะครับ ผมพูดความจริง...”เมื่อเห็นว่าหยางจิงเหมือนจะไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูด ฉินหมิงก็ต้องการอธิบายต่ออีกสักสองสามคำ แต่ก็ถูกหยางจิงขัดจังหวะไว้ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ“เอาล่ะ ฉันไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของคุณอีกแล้ว!”"ไม่ว่าสิ่งที่คุณพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม สรุปก็คือโจวกรุ๊ปเดินอยู่บนเส้นทางของแบรนด์ระดับไฮเอนด์และสินค้าหรูหรา แบรนด์ของบริษัทคังกรุ๊ปของเราไม่ตรงตามข้อกำหนดของโจวกรุ๊ป มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะยกเว้นและยอมร่วมมือกับบริษัทของเรา!”หยางจิงโบกมือ สีหน้ายิ่งไม่น่ามองมากขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ความประทับใจแรกของเธอที่มีต่อฉินหมิงนั้นไม่เลวเลย เธอรู้สึกว่าฉินหมิงน่าจะเป็นคนที่น่าเชื่อถื
นี่มันไม่สมจริงสักนิด!“ฉันพูดความจริงนะคะ…”หลี่เจียฮุ่ยกำลังจะเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น แต่ก็ถูกฉินหมิงขัดจังหวะก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบ“เจียฮุ่ย คุณไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตอนนี้ผมออกจากตระกูลหลินแล้ว…”ฉินหมิงรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ภาพของหลินหว่านชิงผุดขึ้นมาในใจของเขาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นความปรารถนาและความคิดถึงทั้งหมดก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของเขาราวกับน้ำพุการตั้งคำถามของหยางจิงเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมากพอแล้ว ตอนนี้เมื่อหลี่เจียฮุ่ยเอ่ยถึงหลินหว่านชิง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้เหยียบลงบนแผลเก่าของเขาอย่างจัง ทำให้เขายิ่งรู้สึกแย่ไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขานึกถึงหลินหว่านชิง ความรู้สึกคิดถึงเธอมันทำให้เขาเจ็บจนแทบทนไม่ไหววินาทีนี้ เขาตระหนักได้ชัดเจนยิ่งกว่าทุกครั้งว่าเขาไม่สามารถปล่อยความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงไปได้!“ฉินหมิง นาย...นายเป็นอะไรไป?”หลี่เจียฮุ่ยดูตกตะลึง เธอไม่เข้าใจว่าฉินหมิงหมายความว่าอะไร“ไม่มีอะไร…”“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”ฉินหมิงอดทนต่อความเจ็บปวดในใจ ลุกขึ้นยืนและรีบออกจากห้องส่วนตัวมองดูแผ่นหลังของฉินหมิงที่จากไปอย่างเร่งรีบ หล
“รองประธานหลี่ ในที่สุดคุณก็มาสักที!”หยางจิงยิ้มอย่างฝืน ๆ ลุกขึ้นยืนและเดินขึ้นไปทักทายเขา“ประธานหยาง ผมค่อนข้างมีธุระรัดตัว เพราะงั้นเลยปลีกตัวมาไม่ได้เลย คุณก็อย่าได้โกรธไปเลยนะ…”รองประธานหลี่หัวเราะ ทว่าในใจกลับรู้สึกไม่แยแสสักนิดอีกฝ่ายต้องการบางอย่างจากเขา รอเขานานสักหน่อยก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?“รองประธานหลี่ เชิญนั่งค่ะ”หยางจิงรู้สึกไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงกลืนความขมขื่นนั้นลงท้องไปเท่านั้นหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ทยอยกันนั่งลง หยางจิงเรียกพนักงานเสิร์ฟของโรงแรมแล้วให้พวกเขาออกไปเตรียมไวน์และอาหาร“ประธานหยาง ไม่รู้ว่าสาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ คุณนี้คือใครเหรอ เธอชื่ออะไร”รองประธานหลี่มองหลี่เจียฮุ่ยที่สวยเสียจนจับใจเขา ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อย เขาเกิดความรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที“รองประธานหลี่ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือหลี่เจียฮุ่ย ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทเรา ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอนี้ เขาคือฉินหมิง”หยางจิงแนะนำทั้งสองฝ่ายโดยย่อ“ผู้จัดการหลี่ เพิ่งได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก ยินดีที่ได้รู้จัก”รองประธานหลี่ยื่น
รองประธานหลี่พูดอย่างถ่อมตัว แต่สีหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“8% ยังสูงเกินไป…”“รองประธานหลี่ ผลกำไรของบริษัทเรานั้นน้อยมาก เราสามารถให้สัมปทานผลกำไรได้มากสุดเพียง 3% เท่านั้น โปรดผ่อนปรนให้กับทางเราด้วย!”“ขอแค่การตกลงครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จ บริษัทเราจะตอบแทนคุณอย่างงามแน่นอน!”หยางจิงพูดอย่างจริงใจ“3% เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”“ผลกำไรขั้นต่ำสุดที่กลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ปของเราต้องการนั้นก็คือ 8%!”“ประธานหยาง ผมไม่สามารถตอบตกลงด้วยอัตรากำไรที่ต่ำเช่นนี้ได้ ถ้ายังไงพวกเราทั้งส่องฝ่ายกลับไปขอคำแนะนำจากบริษัทกันก่อนดีไหม แล้วค่อยนัดหารือกันอีกครั้งในวันอื่น!”รองประธานหลี่พูดจบ ก็ลุกขึ้นแล้วทำท่าทางจะกล่าวคำอำลา พร้อมจากไปทุกเมื่อไอ้จิ้งจอกเฒ่า!จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำพูดจริงออกมาจากปากเขาแม้แต่ประโยคเดียว เขารับมือได้ยากมากจริง ๆ!หยางจิงสาปแช่งในใจ เธอรู้ว่ารองประธานหลี่เสแสร้งแกล้งทำ และก็รู้ด้วยว่าอัตรากำไร 8% นั้น ไม่ใช่ขั้นต่ำสุดที่อีกฝ่ายสามารถรับได้!เพียงแต่อาศัยอยู่ใต้ชายคาผู้อื่นไม่อาจไม่ก้มหัว ครั้งนี้รองประธานหลี่ไม่เพียงแต่เจตนามาสายถึงหนึ่งชั่วโมงกว่าเ
“ขอแค่คุณตกลงที่จะไปทานมื้อเย็นกับผมสองต่อสอง เห็นแก่หน้าของคุณ ผมสามารถตอบตกลงให้อัตรากำไรของบริษัทลดเหลือเพียง 5% ได้!”รองประธานหลี่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้และระบุเงื่อนไขของเขาเช่นเดียวกับที่หยางจิงเดาไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากฉินหมิงที่เป็นผู้ชายนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ทำกับหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเกินเลยไปนักและเพราะเขาไม่สามารถที่จะล่วงเกินสาวสวยสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ได้ ดังนั้นจึงเลือกพูดออกมาอย่างชัดเจน!"อะไรนะ?"“นี่เป็นไปไม่ได้!”ใบหน้าที่สวยงามของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนไป ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนทันทีพวกเธอทั้งสองคนไม่ใช่เด็กใหม่ในที่ทำงาน ดังนั้นย่อมเข้าใจถึงเจตนาเบื้องลึกของรองประธานหลี่ว่านั่นไม่ใช่แค่การทานมื้อเย็นง่าย ๆ อย่างแน่นอน!“ผู้จัดการหลี่ คุณอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธไป ต้องคิดให้รอบคอบล่ะ!”“แม้ว่าความแตกต่างระหว่างอัตรากำไร 8% และ 5% นั้นจะเป็นเพียงตัวเลขเล็ก ๆ แค่ 3% แต่มูลค่าต่อปีของมันนั้นอาจจะสูงกว่าหลายร้อยล้านเลยทีเดียว!”“ถ้าคุณสามารถช่วยบริษัทประหยัดเงินไปได้กว่าหลายร้อยล้านในทุกปี ไม่ต้องพูดถึงการเลื่อนตำแหน่งและการเพิ่มเงินเดือน บริษั
เขาคิดอยู่เสมอว่าฉินหมิงเป็นเพียงลูกน้องของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ย ตอนนี้ฉินหมิงหักแขนของเขาข้างหนึ่ง เขาจะร่วมมือกับอีกฝ่ายต่อไปได้อย่างไร!แม้ว่าบริษัทคังกรุ๊ปตอนนี้จะเปลี่ยนใจและให้ผลกำไร 10% มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!“รองประธานหลี่ ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อน เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ โปรดฟังคำอธิบายของฉันสักนิด…”หยางจิงพูดอย่างร้อนใจความร่วมมือในครั้งนี้มีความสำคัญกับบริษัทคังกรุ๊ปของพวกเธอเป็นอย่างมาก ถ้าความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายตลอดหลายปีมานี้สิ้นสุดลงทั้งแบบนี้จริง ๆ เธอจะมีหน้ากลับไปอธิบายให้ท่านประธานฟังได้อย่างไร?“ผมไม่อยากฟังคำอธิบายของคุณ!”“นอกจากนี้ เรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้แน่ พวกคุณทั้งสามคนรอไปก่อนเถอะ ผมจะไม่ปล่อยพวกคุณไปง่าย ๆ แน่!”หลังจากที่รองประธานหลี่ทิ้งคำพูดที่รุนแรงเอาไว้ เขาก็เตรียมที่จะจากไปด้วยสภาพอเน็จอนาถ“คิดไป?”“ฉันปล่อยแกไปแล้วหรือยัง?”ฉินหมิงเยาะเย้ยและเตะรองประธานหลี่ให้ล้มไปกับพื้นอีกครั้ง“ฉินหมิง คุณเลิกสร้างปัญหาสักทีจะได้ไหม?”หยางจิงถลึงตาจ้องเขาด้วยความโกรธเดิมทีเรื่องนี้ก็ปกติดี อย่างน้อย ๆ ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ แต
เธอไม่รู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี“ได้ยินแล้วสินะ ยังไม่รีบไสหัวออกไปจากที่นี่อีก!”ฉินหมิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ครับ ครับ…”ราวกับได้รับการนิรโทษกรรม รองประธานหลี่ก็ลุกขึ้นและคลานออกจากห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาเดินออกจากห้องส่วนตัว เขาก็มองย้อนกลับไปที่ฉินหมิงและอีกสองคนในห้องส่วนตัว ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อคิดว่าตัวเองที่เป็นถึงรองประธานของกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป เขาบุคคลที่สำคัญของบริษัทต้องมาได้รับความอับอายและอัปยศอดสูแบบนี้!เขาก็ลอบสาบานในใจว่าเขาจะฆ่าฉินหมิงในภายหลังอย่างแน่นอน เอาคืนสิ่งที่เขาได้รับจากฉินหมิงเมื่อสักครู่นี้เป็นสิบเท่า!นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิงสองคนนั่นอีก หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเขาจะเล่นกับพวกเธอให้หนำใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจขจัดความแค้นและเกลียดชังในใจของเขาไปได้!หลังจากที่แผ่นหลังของรองประธานหลี่หายไปจากห้อง่สวนตัว ในที่สุดหยางจิงก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง“ฉินหมิง คุณทำได้ดีมาก!”“คุณกำลังคิดที่จะฆ่าเจียฮุ่ยกับฉันอยู่ใช่ไหมอัปยศอดสู”หยางจิงตบโต๊ะและเกือบจะระเบิดความโกรธของเธอออกมาแม้ว่ารองประธานหลี่จะเป็นคนผิดก่อนแ