แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าระดับการบ่มเพาะของคู่ต่อสู้นั้นจะไปถึงระดับครึ่งก้าวราชาสงครามแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะประมาทอย่างน้อย อีกฝ่ายก็เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ที่แท้จริงคนหนึ่ง แถมยังมียอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์อีกสองคนคอยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ ถ้าพวกเขาทั้งสามคนนี้ร่วมมือกัน มันจะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลยในทางกลับกัน เขายังต้องแบ่งสมาธิส่วนหนึ่งไปที่เฝิงรั่วซวงที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ข้างหลังเขา เขาสามารถรุกคืบได้ แต่ไม่อาจถอยกลับได้ ไม่อย่างนั้นจะตกเป็นฝ่ายรับอย่างแน่นอนสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายขึ้น ๆ ลง ๆ ขอแค่อีกฝ่ายตระหนักได้และคว้าโอกาสนี้ไว้ เขาก็จะพายแพ้ในที่สุด!สรุปก็คือ จากภาพรวมในปัจจุบัน สถานการณ์ทางฝั่งเขานั้นไม่ค่อยดี เขาจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและใช้ประโยชน์จากความประมาทของศัตรูที่ยังประเมินเขาต่ำเกินไป พยายามโจมตีอีกฝ่ายให้บาดเจ็บหนักด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!ด้วยวิธีนี้เท่านั้น เขาถึงจะสามารถพลิกกระแสของการต่อสู้ได้!“ไปตายซะ!”ดวงตาของเหลิ่งยงมีประกายเย็นเยียบวาบผ่านเขาเชื่อว่าความแข็งแกร่งของเขาสูงกว่าของฉินหมิงมาก
“ไปตายซะ!”ฉินหมิงหัวเราะเสียงเย็น ใช้ประโยชน์จากชัยชนะกระโดดขึ้นไปและชกไปที่เหลิ่งยงที่ยังลอยอยู่ในอากาศเหลิ่งยงที่ลอยอยู่ในอากาศ เพราะไม่มีจุดให้ยึดและทรงตัวได้เลย แถมตอนนี้พลังเขาก็เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น จึงพอจะฝืนซัดหมัดไปที่อกของฉินหมิงได้บ้าง พยายามหาวิธีช่วยตัวเองจากฉินหมิง ให้ฉินหมิงเลิกไล่ล่าเขาซะจุดประสงค์ของฉินหมิงแต่เดิมก็คือการทำร้ายเหลิ่งยงให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วเขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร หลังจากที่เขาเบี่ยงหน้าอกไปด้านข้างสองสามเซนติเมตร มือที่ออกหมัดไปนั้นกลับไม่ได้ลดพลังลง ยังคงมุ่งเป้าไปที่จุดสำคัญบนหน้าอกของเหลิ่งยง“จบสิ้นแล้ว…”สีหน้าของเหลิ่งยงเปลี่ยนไปอย่างมาก อารมณ์ของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอย่างไรก็ตาม เขาสมกับที่เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ ในช่วงเวลาวิกฤติ ร่างกายของเขาก็ขยับไปมากกว่าสิบเซนติเมตร ทำให้การโจมดีพลาดจุดสำคัญบนหน้าอกไปแกร๊ก!เสียงกระดูกแตกที่ชัดเจนดังส่งมา หมัดของฉินหมิงกระแทกเข้ากับไหล่ของเหลิ่งยง ทำให้สะบักไหล่ของเหลิ่งยงแตกโดยตรง เหลิ่งยงถูกซัดปลิวไปทันทีในเวลาเดียวกันแม้ว่าหน้าอกของฉินหมิงจะหลีกเลี่ยงฝ่ามือของเหล
เขาไม่สนใจเรื่องปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของฉินหมิงและเฝิงรั่วซวงอีกแล้ว รีบวิ่งขึ้นไปหาฉินหมิง ตั้งใจที่จะช่วยเหลิ่งยงจัดการกับฉินหมิงด้วยกันอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาลองคิดในอีกมุมหนึ่ง ฉินหมิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าเขาและเหลิ่งยงจะร่วมมือกัน ก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะฉินหมิงได้!ทันทีที่เขาคิดได้แบบนี้ เขาก็หันหลังกลับและพุ่งไปหาเฝิงรั่วซวงซึ่งนั่งอยู่บนพื้น คิดใช้เธอเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนีออกไป“ต่ำช้า!”ฉินหมิงตวาดด้วยความโกรธ เขาต้องหยุดโจมตีเหลิ่งยงและเปลี่ยนทิศทางพุ่งไปโจมตีที่หลังของเหลิ่งเหยียนอย่างรวดเร็วเหลิ่งเหยียนเห็นเมื่อสักครู่นี้แล้วว่าฉินหมิงแข็งแกร่งขนาดไหน เขาไม่กล้าที่จะรับการโจมตีนี้โดยตรง จึงเบี่ยงหลบการโจมตีของฉินหมิง“คิดหลบเหรอ?”“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”ฉินหมิงเยาะเย้ย ระเบิดการโจมตีระลอกที่สองทันทีแม้ว่ากระบวนท่านี้ของเขาจะเคยถูกใช้ไปแล้ว แต่พลังปราณขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างนั้นก็ยังพวยพุ่งออกมาและโจมตีไปที่หน้าอกของเหลิ่งเหยียนโดยตรงเหลิ่งเหยียนตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างเช่นเดียวกับเหลิ่งยง เขาไม่คิดเลยว่าฉินหมิงจะสามารถโจมตีครั้งที่สองได้ทันทีหลังจ
ถ้าไม่มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะเหลิ่งยงทั้งสองคนได้ภายในเวลาไม่เกินสิบนาที ถึงตอนนั้นฝ่ายนั้นจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!เหลิ่งยงและเหลิ่งเหยียนเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี พวกเขาแอบกังวลในใจและยิ่งรู้สึกหนักใจมากขึ้น แต่ก็จนปัญญาอีกด้านหนึ่ง เหลิ่งชางที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากพักไปชั่วครู่ อาการบาดเจ็บของเขาก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นจากพื้นได้และได้เห็นฉากดังกล่าวเหลิ่งยงและเหลิ่งเหยียนก็มีความสุขมาก พวกเขาเกือบจะสิ้นหวังแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับมามีความหวังริบหรี่อีกครั้ง!ค่อนข้างแตกต่างจากความสุขของพวกเหลิ่งยงทั้งสองคน หัวใจของฉินหมิงจมดิ่งลงตอนนี้สถานการณ์ทางฝั่งเขากำลังดีมาก ถ้าเหลิ่งชางเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอีกคน ตัวแปรบางอย่างจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โชคดีที่เขาเพิ่งหักแขนของเหลิ่งชางไปข้างหนึ่ง และเหลิ่งชางเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเหลิ่งชางจะเข้าร่วมการต่อสู้ ก็อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก“หมายเลขสาม ไปเอารถมาเดี๋ยวนี้!”“พวกเราถอนตัว!”เหลิ่งยงรีบออกคำลั่ง หมายเลขสามที่เขาพูดถึงนั้นก็คือชื่อรหัสของเหลิ่งชางเพื่อป้
“รนหาที่ตาย!”ฉินหมิงโกรธมาก เขาโจมตีกลับด้วยพลังที่ใครก็ยากจะทัดเทียมได้ โจมตีเสื้อกั๊กของเหลิ่งยงอย่างรวดเร็ว พยายามบังคับให้เหลิ่งยงหยุดโจมตีเฝิงรั่วซวงสู้ตายแล้ว!เหลิ่งยงกัดฟัน เขาเพิกเฉยต่อฝ่ามือของฉินหมิงที่ซัดมาด้านหลังและโจมตีเฝิงรั่วซวงต่อไปด้วยหมัดที่ทรงพลังราวกับสายฟ้าเฝิงรั่วซวงตกตะลึงมาก ใบหน้าของเธอซีดเผือด ร่างของเธอร่นถอยไปด้านหลัง พยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของเหลิ่งยงอย่างไรก็ตาม ระดับการบ่มเพาะของเธอด้อยกว่าเหลิ่งยงมาก ไม่ว่าเธอจะหลบอย่างไร เธอก็ไม่สามารถหลบการโจมตีระยะใกล้นี้ของเหลิ่งยงพ้นฉินหมิงกัดฟันด้วยความเกลียดชังเขารู้ว่าเหลิ่งยงจงใจบังคับให้เขาช่วยเฝิงรั่วซวง เพราะถ้าเขาไม่ช่วยเฝิงรั่วซวง ฝ่ามือของเขาย่อมฆ่าเหลิ่งยงได้อย่างแน่นอน แต่หมัดของเหลิ่งยงนั้นก็อาจจะฆ่าเฝิงรั่วซวงได้เช่นกัน!พูดตรง ๆ เหลิ่งยงแค่อยากแลกชีวิตกับชีวิต สร้างโอกาสที่จะหลบหนีไปข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเหลิ่งยงมีความกล้าหาญมากและเขาก็เดิมพันชนะ!ฉินหมิงไม่กล้าล้อเล่นกับชีวิตของเฝิงรั่วซวง ดังนั้นเขาจึงต้องละทิ้งการไล่ล่าเหลิ่งยง และมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเฝิงรั่วซวง เพ
ฉินหมิงจับชีพจรให้เฝิงรั่วซวงก่อน จากนั้นก็เอื้อมมือไปแตะไหล่ที่บาดเจ็บของเธออย่างอ่อนโยน ต้องการตรวจดูอาการบาดเจ็บของเฝิงรั่วซวง“เจ็บ…”ฉินหมิงเพิ่งจะแตะไหล่ที่บาดเจ็บของเธอ เฝิงรั่วซวงก็อดไม่ได้ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและขมวดคิ้ว“พี่ซวง พี่โง่มาก เมื่อกี้นี้เข้ามารับการโจมตีแทนผมทำไม พี่อยากตายใช่ไหม?”อารมณ์ของฉินหมิงซับซ้อนมาก ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวในภายหลังถ้าฝ่ามือของเหลิ่งชางเบี่ยงไปอีกไม่กี่เซนติเมตรและไปโดนจุดสำคัญอาทิเช่นหัวใจและปอดของเฝิงรั่วซวง เฝิงรั่วซวงคงตายไปนานแล้ว!“นายเรียกฉันว่าพี่ซวง และฉันก็บอกไปแล้วนี่ว่าฉันมองนายเป็นน้องชายคนหนึ่ง”“น้องชายตกอยู่ในอันตราย พี่สาวคนนี้ย่อมช่วยรับแทน มีสิ่งไหนที่ไม่ควรหรือไง?”“อีกอย่าง ตอนนี้ฉันแค่เจ็บไหล่ ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงสักหน่อย…”เฝิงรั่วซวงยิ้มกว้าง“พี่สาวเหรอ?”ฉินหมิงตกตะลึง ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ประเดประดังเข้ามาในหัวใจของเขาเขาเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เด็กก็ไม่มีญาติพี่น้องมาคอยห่วงใยหรือไถ่ถามเฝิงรั่วซวงเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าเธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนน้องชาย เดิมทีเขาคิดว่าเธอเพียงพูดไปอย่างนั้นด้
ผ่านไปประมาณสิบนาทีฉินหมิงรักษาเสร็จ เขาทยอยถอนเข็มเงินออกมาทีละเล่มเฝิงรั่วซวงใช้ประโยชน์จากตอนนี้จัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อย“พี่ซวง ตอนนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”ฉินหมิงถามอย่างกังวล“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไหล่เย็นมาก ไม่ปวดและไม่เจ็บเหมือนเมื่อกี้นี้อีกแล้ว”เฝิงรั่วซวงขยับกล้ามเนื้อเล็กน้อย สีหน้าดูประหลาดใจ เธอถูกทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของฉินหมิงทำให้ประทับใจอีกครั้ง“ดีแล้วล่ะครับ”“ผมจะสั่งยาให้พี่ทีหลัง พี่ต้องกินยาให้ตรงเวลา แล้วผมจะไปฝังเข็มให้พี่อีกในไม่กี่วัน”“ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ผมรับประกันว่าอาการบาดเจ็บของพี่จะหายเป็นปลิดทิ้ง”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มอาการบาดเจ็บของเฝิงรั่วซวงนั้น ปกติต้องใช้เวลาถึงหนึ่งร้อยวันกว่าจะหาย แต่ด้วยทักษะทางการแพทย์อันยอดเยี่ยมของเขา ใช้เวลาแค่หนึ่งเดือนก็ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่แล้ว“ฉินหมิง ขอบคุณนะ”เฝิงรั่วซวงยิ้มและกล่าวอย่างซาบซึ้ง“พี่เพิ่งพูดเองไม่ใช่เหรอว่าพี่เป็นพี่สาวของผม พี่สาวไม่จำเป็นต้องสุภาพกับน้องชายมากขนาดนี้”ฉินหมิงพูดติดตลก แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเล็กน้อย นี่คือความปรารถนาต่อความรักในครอบครัวของเขา“พ
“ไม่เป็นไร ฉันจะช่วยนายเอง”เฝิงรั่วซวงคว้าแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงและพาฉินหมิงเข้าไปในคฤหาสน์โดยพยุงกึ่งกอดประคองเขาไว้จนถึงห้องส่วนตัวของเธอ เฝิงรั่วซวงวางฉินหมิงไว้บนเตียงแล้วปล่อยให้ฉินหมิงนอนลงและพักผ่อนสักพักในเวลานี้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นราชาแดนใต้เฝิงเจิ้นที่ก้าวเข้ามาจากด้านนอกเมื่อฉินหมิงและเฝิงรั่วซวงกลับมาเมื่อครู่นี้ ยามหลายคนที่ประตูก็สังเกตเห็นแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบรายงานเรื่องนี้ให้เฝิงเจิ้นทราบเฝิงเจิ้นรีบวิ่งเข้ามา“รั่วซวง เกิดอะไรขึ้นกับฉินหมิง? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”เฝิงเจิ้นรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นฉินหมิงนอนอยู่บนเตียง“พ่อคะ ฉินหมิงและหนูถูกกลุ่มชายลึกลับสามคนที่สวมหน้ากากลอบโจมตีเมื่อสักครู่นี้…”เฝิงรั่วซวงเล่าให้เฝิงเจิ้นฟังอย่างสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น“อะไรนะ?”“ลูกบอกว่ามียอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์หนึ่งคนและขั้นสูงระดับปรมาจารย์อีกสองคนลอบโจมตีลูกและฉินหมิง?”“แล้วฉินหมิงก็เอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างนั้นเหรอ?”เฝิงเจิ้นตกตะลึงมาก เขาไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเลย“อื้ม ใช่ค่ะ”เฝิงรั่วซวงพยักหน้า“นี่...นี่เป็นไปไม่ได้
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ