บูม!สิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง ฉากที่ทำให้ทั้งเหลิ่งยงและเหลิ่งเหยียนตกใจก็เกิดขึ้น คนที่ถูกซัดออกไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นไม่ใช่ฉินหมิง แต่เป็นเหลิ่งชาง!กร๊อบ!เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างคมชัด แขนทั้งแขนของเหลิ่งชางถูกฉินหมิงหัก เขาส่งเสียงกรีดร้องราวกับหมูที่ถูกเชือด ร่างกายก็ถูกฉินหมิงซัดจนกระเด็นไป“ไปตายซะ!”ดวงตาของฉินหมิงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เขากระโดดขึ้นไปในอากาศแล้วโจมตีเป็นครั้งที่สอง เล็งฝ่ามือไปที่หน้าอกของเหลิ่งชางอย่างโหดเหี้ยมเมื่อสักครู่นี้เขาได้พูดไปแล้วว่าเขาจะเอาคืนแทนเฝิงรั่วซวงเป็นสองเท่า เขาพูดได้ทำได้!เหลิ่งชางตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างโชคดีที่ระดับการบ่มเพาะของเขานั้นใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์แล้ว ในช่วงเวลาวิกฤต เขาที่ซึ่งไม่ใช่ไก่อ่อนก็เบี่ยงตัวออกไปด้านข้างกว่าสิบเซนติเมตร ทำให้รอดพ้นจากกระบวนท่าสังหารของฉินหมิงอย่างหวุดหวิด ทว่าหน้าอกของเขาก็ยังโดนลมจากฝ่ามือของฉินหมิงกระแทกจนบาดเจ็บอยู่ดีพรวด! พรวด!เหลิ่งชางกระอักเลือดออกมาสองคำติดต่อกัน ร่างใหญ่โตของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้สีเขียวที่อยู่ข้างหลัง ล้มมากองกับพื้นอย่าง
แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าระดับการบ่มเพาะของคู่ต่อสู้นั้นจะไปถึงระดับครึ่งก้าวราชาสงครามแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะประมาทอย่างน้อย อีกฝ่ายก็เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ที่แท้จริงคนหนึ่ง แถมยังมียอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์อีกสองคนคอยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ ถ้าพวกเขาทั้งสามคนนี้ร่วมมือกัน มันจะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลยในทางกลับกัน เขายังต้องแบ่งสมาธิส่วนหนึ่งไปที่เฝิงรั่วซวงที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ข้างหลังเขา เขาสามารถรุกคืบได้ แต่ไม่อาจถอยกลับได้ ไม่อย่างนั้นจะตกเป็นฝ่ายรับอย่างแน่นอนสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายขึ้น ๆ ลง ๆ ขอแค่อีกฝ่ายตระหนักได้และคว้าโอกาสนี้ไว้ เขาก็จะพายแพ้ในที่สุด!สรุปก็คือ จากภาพรวมในปัจจุบัน สถานการณ์ทางฝั่งเขานั้นไม่ค่อยดี เขาจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและใช้ประโยชน์จากความประมาทของศัตรูที่ยังประเมินเขาต่ำเกินไป พยายามโจมตีอีกฝ่ายให้บาดเจ็บหนักด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!ด้วยวิธีนี้เท่านั้น เขาถึงจะสามารถพลิกกระแสของการต่อสู้ได้!“ไปตายซะ!”ดวงตาของเหลิ่งยงมีประกายเย็นเยียบวาบผ่านเขาเชื่อว่าความแข็งแกร่งของเขาสูงกว่าของฉินหมิงมาก
“ไปตายซะ!”ฉินหมิงหัวเราะเสียงเย็น ใช้ประโยชน์จากชัยชนะกระโดดขึ้นไปและชกไปที่เหลิ่งยงที่ยังลอยอยู่ในอากาศเหลิ่งยงที่ลอยอยู่ในอากาศ เพราะไม่มีจุดให้ยึดและทรงตัวได้เลย แถมตอนนี้พลังเขาก็เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น จึงพอจะฝืนซัดหมัดไปที่อกของฉินหมิงได้บ้าง พยายามหาวิธีช่วยตัวเองจากฉินหมิง ให้ฉินหมิงเลิกไล่ล่าเขาซะจุดประสงค์ของฉินหมิงแต่เดิมก็คือการทำร้ายเหลิ่งยงให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วเขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร หลังจากที่เขาเบี่ยงหน้าอกไปด้านข้างสองสามเซนติเมตร มือที่ออกหมัดไปนั้นกลับไม่ได้ลดพลังลง ยังคงมุ่งเป้าไปที่จุดสำคัญบนหน้าอกของเหลิ่งยง“จบสิ้นแล้ว…”สีหน้าของเหลิ่งยงเปลี่ยนไปอย่างมาก อารมณ์ของเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอย่างไรก็ตาม เขาสมกับที่เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ ในช่วงเวลาวิกฤติ ร่างกายของเขาก็ขยับไปมากกว่าสิบเซนติเมตร ทำให้การโจมดีพลาดจุดสำคัญบนหน้าอกไปแกร๊ก!เสียงกระดูกแตกที่ชัดเจนดังส่งมา หมัดของฉินหมิงกระแทกเข้ากับไหล่ของเหลิ่งยง ทำให้สะบักไหล่ของเหลิ่งยงแตกโดยตรง เหลิ่งยงถูกซัดปลิวไปทันทีในเวลาเดียวกันแม้ว่าหน้าอกของฉินหมิงจะหลีกเลี่ยงฝ่ามือของเหล
เขาไม่สนใจเรื่องปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของฉินหมิงและเฝิงรั่วซวงอีกแล้ว รีบวิ่งขึ้นไปหาฉินหมิง ตั้งใจที่จะช่วยเหลิ่งยงจัดการกับฉินหมิงด้วยกันอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาลองคิดในอีกมุมหนึ่ง ฉินหมิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าเขาและเหลิ่งยงจะร่วมมือกัน ก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะฉินหมิงได้!ทันทีที่เขาคิดได้แบบนี้ เขาก็หันหลังกลับและพุ่งไปหาเฝิงรั่วซวงซึ่งนั่งอยู่บนพื้น คิดใช้เธอเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนีออกไป“ต่ำช้า!”ฉินหมิงตวาดด้วยความโกรธ เขาต้องหยุดโจมตีเหลิ่งยงและเปลี่ยนทิศทางพุ่งไปโจมตีที่หลังของเหลิ่งเหยียนอย่างรวดเร็วเหลิ่งเหยียนเห็นเมื่อสักครู่นี้แล้วว่าฉินหมิงแข็งแกร่งขนาดไหน เขาไม่กล้าที่จะรับการโจมตีนี้โดยตรง จึงเบี่ยงหลบการโจมตีของฉินหมิง“คิดหลบเหรอ?”“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”ฉินหมิงเยาะเย้ย ระเบิดการโจมตีระลอกที่สองทันทีแม้ว่ากระบวนท่านี้ของเขาจะเคยถูกใช้ไปแล้ว แต่พลังปราณขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างนั้นก็ยังพวยพุ่งออกมาและโจมตีไปที่หน้าอกของเหลิ่งเหยียนโดยตรงเหลิ่งเหยียนตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างเช่นเดียวกับเหลิ่งยง เขาไม่คิดเลยว่าฉินหมิงจะสามารถโจมตีครั้งที่สองได้ทันทีหลังจ
ถ้าไม่มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะเหลิ่งยงทั้งสองคนได้ภายในเวลาไม่เกินสิบนาที ถึงตอนนั้นฝ่ายนั้นจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!เหลิ่งยงและเหลิ่งเหยียนเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี พวกเขาแอบกังวลในใจและยิ่งรู้สึกหนักใจมากขึ้น แต่ก็จนปัญญาอีกด้านหนึ่ง เหลิ่งชางที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากพักไปชั่วครู่ อาการบาดเจ็บของเขาก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นจากพื้นได้และได้เห็นฉากดังกล่าวเหลิ่งยงและเหลิ่งเหยียนก็มีความสุขมาก พวกเขาเกือบจะสิ้นหวังแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับมามีความหวังริบหรี่อีกครั้ง!ค่อนข้างแตกต่างจากความสุขของพวกเหลิ่งยงทั้งสองคน หัวใจของฉินหมิงจมดิ่งลงตอนนี้สถานการณ์ทางฝั่งเขากำลังดีมาก ถ้าเหลิ่งชางเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอีกคน ตัวแปรบางอย่างจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โชคดีที่เขาเพิ่งหักแขนของเหลิ่งชางไปข้างหนึ่ง และเหลิ่งชางเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเหลิ่งชางจะเข้าร่วมการต่อสู้ ก็อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก“หมายเลขสาม ไปเอารถมาเดี๋ยวนี้!”“พวกเราถอนตัว!”เหลิ่งยงรีบออกคำลั่ง หมายเลขสามที่เขาพูดถึงนั้นก็คือชื่อรหัสของเหลิ่งชางเพื่อป้
“รนหาที่ตาย!”ฉินหมิงโกรธมาก เขาโจมตีกลับด้วยพลังที่ใครก็ยากจะทัดเทียมได้ โจมตีเสื้อกั๊กของเหลิ่งยงอย่างรวดเร็ว พยายามบังคับให้เหลิ่งยงหยุดโจมตีเฝิงรั่วซวงสู้ตายแล้ว!เหลิ่งยงกัดฟัน เขาเพิกเฉยต่อฝ่ามือของฉินหมิงที่ซัดมาด้านหลังและโจมตีเฝิงรั่วซวงต่อไปด้วยหมัดที่ทรงพลังราวกับสายฟ้าเฝิงรั่วซวงตกตะลึงมาก ใบหน้าของเธอซีดเผือด ร่างของเธอร่นถอยไปด้านหลัง พยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของเหลิ่งยงอย่างไรก็ตาม ระดับการบ่มเพาะของเธอด้อยกว่าเหลิ่งยงมาก ไม่ว่าเธอจะหลบอย่างไร เธอก็ไม่สามารถหลบการโจมตีระยะใกล้นี้ของเหลิ่งยงพ้นฉินหมิงกัดฟันด้วยความเกลียดชังเขารู้ว่าเหลิ่งยงจงใจบังคับให้เขาช่วยเฝิงรั่วซวง เพราะถ้าเขาไม่ช่วยเฝิงรั่วซวง ฝ่ามือของเขาย่อมฆ่าเหลิ่งยงได้อย่างแน่นอน แต่หมัดของเหลิ่งยงนั้นก็อาจจะฆ่าเฝิงรั่วซวงได้เช่นกัน!พูดตรง ๆ เหลิ่งยงแค่อยากแลกชีวิตกับชีวิต สร้างโอกาสที่จะหลบหนีไปข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเหลิ่งยงมีความกล้าหาญมากและเขาก็เดิมพันชนะ!ฉินหมิงไม่กล้าล้อเล่นกับชีวิตของเฝิงรั่วซวง ดังนั้นเขาจึงต้องละทิ้งการไล่ล่าเหลิ่งยง และมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเฝิงรั่วซวง เพ
ฉินหมิงจับชีพจรให้เฝิงรั่วซวงก่อน จากนั้นก็เอื้อมมือไปแตะไหล่ที่บาดเจ็บของเธออย่างอ่อนโยน ต้องการตรวจดูอาการบาดเจ็บของเฝิงรั่วซวง“เจ็บ…”ฉินหมิงเพิ่งจะแตะไหล่ที่บาดเจ็บของเธอ เฝิงรั่วซวงก็อดไม่ได้ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและขมวดคิ้ว“พี่ซวง พี่โง่มาก เมื่อกี้นี้เข้ามารับการโจมตีแทนผมทำไม พี่อยากตายใช่ไหม?”อารมณ์ของฉินหมิงซับซ้อนมาก ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัวในภายหลังถ้าฝ่ามือของเหลิ่งชางเบี่ยงไปอีกไม่กี่เซนติเมตรและไปโดนจุดสำคัญอาทิเช่นหัวใจและปอดของเฝิงรั่วซวง เฝิงรั่วซวงคงตายไปนานแล้ว!“นายเรียกฉันว่าพี่ซวง และฉันก็บอกไปแล้วนี่ว่าฉันมองนายเป็นน้องชายคนหนึ่ง”“น้องชายตกอยู่ในอันตราย พี่สาวคนนี้ย่อมช่วยรับแทน มีสิ่งไหนที่ไม่ควรหรือไง?”“อีกอย่าง ตอนนี้ฉันแค่เจ็บไหล่ ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงสักหน่อย…”เฝิงรั่วซวงยิ้มกว้าง“พี่สาวเหรอ?”ฉินหมิงตกตะลึง ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ประเดประดังเข้ามาในหัวใจของเขาเขาเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เด็กก็ไม่มีญาติพี่น้องมาคอยห่วงใยหรือไถ่ถามเฝิงรั่วซวงเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าเธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนน้องชาย เดิมทีเขาคิดว่าเธอเพียงพูดไปอย่างนั้นด้
ผ่านไปประมาณสิบนาทีฉินหมิงรักษาเสร็จ เขาทยอยถอนเข็มเงินออกมาทีละเล่มเฝิงรั่วซวงใช้ประโยชน์จากตอนนี้จัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อย“พี่ซวง ตอนนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”ฉินหมิงถามอย่างกังวล“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไหล่เย็นมาก ไม่ปวดและไม่เจ็บเหมือนเมื่อกี้นี้อีกแล้ว”เฝิงรั่วซวงขยับกล้ามเนื้อเล็กน้อย สีหน้าดูประหลาดใจ เธอถูกทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของฉินหมิงทำให้ประทับใจอีกครั้ง“ดีแล้วล่ะครับ”“ผมจะสั่งยาให้พี่ทีหลัง พี่ต้องกินยาให้ตรงเวลา แล้วผมจะไปฝังเข็มให้พี่อีกในไม่กี่วัน”“ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ผมรับประกันว่าอาการบาดเจ็บของพี่จะหายเป็นปลิดทิ้ง”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มอาการบาดเจ็บของเฝิงรั่วซวงนั้น ปกติต้องใช้เวลาถึงหนึ่งร้อยวันกว่าจะหาย แต่ด้วยทักษะทางการแพทย์อันยอดเยี่ยมของเขา ใช้เวลาแค่หนึ่งเดือนก็ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่แล้ว“ฉินหมิง ขอบคุณนะ”เฝิงรั่วซวงยิ้มและกล่าวอย่างซาบซึ้ง“พี่เพิ่งพูดเองไม่ใช่เหรอว่าพี่เป็นพี่สาวของผม พี่สาวไม่จำเป็นต้องสุภาพกับน้องชายมากขนาดนี้”ฉินหมิงพูดติดตลก แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเล็กน้อย นี่คือความปรารถนาต่อความรักในครอบครัวของเขา“พ