ถ้าเธอไม่ได้เห็นฉากนี้กับตา เธอคงไม่มีวันเชื่อว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริง!พวกหลิวเหว่ยและคนอื่น ๆ เองก็เป็นเหมือนกัน แต่ละคนมีสีหน้าตกตะลึง คลื่นพายุในใจซัดโหมกระหน่ำ เนิ่นนานก็ไม่อาจสงบใจลงได้“พี่ครับ ผมบอกพี่ไปก่อนหน้านี้แล้วไงว่านายน้อยฉินไม่ใช่จอมลวงโลก เขาแข็งแกร่งมากจริง ๆ..."“เป็นไงล่ะ ตอนนี้พี่เชื่อที่ผมพูดแล้วใช่ไหม?”เฝิงหลุนมีสีหน้าภาคภูมิใจมาก“อืม ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ฉันจะเข้าใจเขาผิดไปจริง ๆ...”เฝิงรั่วซวงใบหน้าแดงก่ำ ครั้งนี้เธอไม่ปฏิเสธแล้ว ฉินหมิงสามารถล้มลี่หย่งเจี๋ยได้ในกระบวนท่าเดียว ดังนั้นระดับการบ่มเพาะของเขาแม้จะยังไม่ถึงระดับปรมาจารย์ แต่ก็อยู่อีกไม่ไกลแล้วด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ ในหมู่คนรุ่นเยาว์ของเมืองเจียงเฉิงจะบอกว่าเขาเป็นอันดับที่หนึ่งก็ไม่ถือว่าเกินไปเลย เขาโดดเด่นกว่าเค่ออั๋ง ซูห่าว และเหลิ่งจวิ้นอย่างแท้จริง!แล้วแบบนี้เขาจะเป็นจอมลวงโลกได้ยังไง!บนเวทีประลองฉินหมิงมองลงไปที่ลี่หย่งเจี๋ยจากจุดที่สูงกว่า พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ลี่หย่งเจี๋ย นายแพ้แล้ว!"“แก...แกโกง!”ดวงตาทั้งสองข้างของลี่หย่งเจี๋ยลุกเป็นไฟ เขากุ
ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้เขาจงใจลอบโจมตี ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรีบ ฉินหมิงไม่มีทางรับหมัดที่โจมตีเต็มแรงของเขาได้อย่างแน่นอน!“ช่างไม่ประเมินความสามารถตัวเอง!”ฉินหมิงหัวเราะเยาะ จากนั้นก็ชกสวนไปหนึ่งหมัดระดับการบ่มเพาะของลี่หย่งเจี๋ยมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาจึงทัดเทียมกับตนถ้าหากลี่หย่งเจี๋ยใช้วิธีการยืดเวลาสู้ออกไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็อาจรับกระบวนท่าของเขาได้สักหลายสิบกระบวนท่า แต่ลี่หย่งเจี๋ยกลับหยิ่งและทะนงตัวเกินไป ยังไงก็จะเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ นี่เท่ากับรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย!พลังวิญญาณและพลังปราณแท้จริงแบบโจมตีคู่ของเขาไม่ใช่ไก่กาแน่นอน!ตู้ม!หลังจากเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง ผลก็เป็นเหมือนกับเมื่อสักครู่นี้ทุกประการ ร่างสูงของลี่หย่งเจี๋ยลอยกระเด็นออกไปอีกครั้ง จากนั้นก็กระแทกลงกับพื้นอย่างหนัก “นี่...เป็นไปได้ยังไง...”ลี่หย่งเจี๋ยโน้มตัวแล้วกระอักเลือดออกมา สายตาที่เขามองไปที่ฉินหมิงเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อถ้าครั้งก่อนหน้านี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ ถ้าอย่างนั้นสองครั้งก็คือเรื่องจริงแล้ว!ฉินหมิงสามารถรับการโจมตีเต็มแรงของเ
เมื่อนึกถึงว่าตัวเองพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าฉินหมิงเป็นจอมลวงโลก เฝิงรั่วซวงก็หน้าแดงก่ำและรู้สึกอับอายเล็กน้อย ในที่สุดเธอก็ขอโทษฉินหมิงอย่างจริงใจ“คุณหนูใหญ่เฝิง ผมกับนายน้อยเฝิงเราเป็นเพื่อนกัน คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพมากขนาดนี้”“ขอแค่คุณไม่มองว่าผมเป็นพวกโกหกอีกก็พอแล้ว”ฉินหมิงพูดติดตลกใบหน้าที่สวยงามของเฝิงรั่วซวงขึ้นสีแดงก่ำมากขึ้นไปอีก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและยิ้มอย่างอ่อนหวาน พูดว่า "ฉินหมิง ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนของเสี่ยวหลุน ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเรียกฉันว่าคุณหนูใหญ่เฝิงเลย นี่ห่างเหินกันมากเกินไป"“ถ้าคุณไม่รังเกียจ จากนี้ไปเรียกฉันว่าพี่ซวงก็พอ!”“นี่…ถ้าอย่างนั้นผมก็เคารพไม่สู้ทำตามแล้ว"ฉินหมิงค่อนข้างจะคาดไม่ถึงเขาไม่คิดว่าทัศนคติของเฝิงรั่วซวงจะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เฝิงรั่วซวงยังอยากจะจับเขาโยนออกไป แต่ตอนนี้เธอกลับเริ่มให้เขาเรียกเธอว่าพี่ซวงแล้ว!หัวใจของผู้หญิงลึกล้ำดุจเข็มใต้ก้นมหาสมุทร อยากที่จะคาดเดาจริง ๆ!แน่นอนว่า เขาไม่รู้เลยว่าผู้คนของโลกใต้ดินนั้นนับถือความแข็งแกร่งมากที่สุด เมื่อสักครู่นี้เขาแสดงความแข็งแกร่งของตัวเอ
ฉินหมิงถามด้วยรอยยิ้ม“ฉินหมิง เรื่องที่คุณไปจากบริษัทแล้วก็เลิกรากับหว่านชิง ฉันได้ยินมาแล้ว"“พวกคุณสองคนมีปัญหาอะไรกันเหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงเลิกกันกะทันหัน?”หานซีถามตรงเข้าประเด็นหลังจากที่เธอเลิกงาน เธอก็โทรนัดฉินหมิงมาพบเป็นพิเศษทันที จุดประสงค์ก็เพื่อถามเรื่องนี้ให้ชัด“เลิกก็คือเลิก จะมีเหตุผลอะไร…”รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินหมิงแข็งทื่อ สีหน้าเขาดูหมองหม่นเล็กน้อยหลังจากเหตุการณ์ดื่มเพื่อคลายทุกข์เมื่อคืนนั้นและซูซินเหยาเริ่มเข้ามากวนใจเขา อารมณ์ของเขาดีขึ้นมากแต่ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินหานซีเอ่ยถึงชื่อหลินหว่านชิง ความรู้สึกเศร้าก็ประเดประดังเข้ามาในหัวใจ ตอนนี้เองที่เขาถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าสถานะของหลินหว่านชิงในหัวใจของเขานั้น มันสำคัญมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก!“เลิกตอบแบบยียวนไม่ใส่ใจแบบนี้จะได้ไหม?”“ถ้าคุณยังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อน พูดมาตามตรงว่าเกิดอะไรขึ้น?”หานซีพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก“นี่…ก็ได้”ฉินหมิงถอนหายใจออกยาว หานซีพูดถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง จึงบอกหานซีว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างละเอียด“คุณกำลังบอกฉันว่าหว่านชิงสงสัยว่าคุณเป็นผู้บงการอยู่เ
หานซีนิ่งงัน นี่คือเจตนาดีของเธอ เธอต้องการช่วยให้ฉินหมิงและหลินหว่านชิงกลับมาคืนดีกันจริง ๆแต่เธอไม่คิดว่าฉินหมิงจะปฏิเสธ!“อดีตมันผ่านไปแล้ว ในเมื่อเธอไม่เชื่อใจในตัวผม ผมไปขอร้องเธอก็ไม่มีประโยชน์…”“อีกอย่างในเมื่อเธอไม่ไว้ใจผมแล้วครั้งหนึ่ง ก็จะมีครั้งที่สอง หรือแม้กระทั่งครั้งที่นับไม่ถ้วนตามมา”“แม้ว่าคุณจะช่วยให้ผมคืนดีกับเธอได้ในครั้งนี้ แต่ครั้งต่อไปล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอยังไม่เชื่อใจผมอยู่ หรือผมต้องขอร้องเธอแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า?”ฉินหมิงพูดอย่างเศร้า ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงคำพูดยอดนิยมบนอินเทอร์เน็ตที่ว่า พยายามไปก็ไร้ประโยชน์ตอนนี้ไม่ใช่แค่หลินหว่านชิงเท่านั้นที่ไม่ไว้ใจเขา แต่นายท่านหลินและหลินเถิงฮุ่ยสองพ่อลูกเองก็ไม่เชื่อใจเขาเหมือนกันถ้าเขายอมละศักดิ์ศรีของตัวเองและกลับไปขอร้องหลินหว่านชิง แม้ว่าหลินหว่านชิงจะสงบสติอารมณ์ลงแล้วและเปลี่ยนใจ เขาก็จะต้องใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยต่อหน้าหลินหว่านชิงและคนตระกูลหลินไปตลอดชีวิต!เขาไม่ต้องการที่จะอยู่อย่างต่ำต้อยแบบนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการละทิ้งศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจเดียวที่ตัวเองมี!สิ่งเดียวที่เขาทำได้ใ
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดความตั้งใจของเธออันที่จริงเธอเองก็เป็นเหมือนกับหานซี จุดประสงค์ของเธอก็คือต้องการช่วยให้ฉินหมิงและหลินหว่านชิงกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง “ไม่ต้องแล้ว น้ำใจนี้ของเธอฉันรับไว้แล้ว” ฉินหมิงปฏิเสธเจตนาดีของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอย่างสุภาพ“ทำไมถึงไม่ต้องแล้วล่ะ?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรู้สึกประหลาดใจมากย้อนกลับไปตอนที่ฉินหมิงเพิ่งจีบหลินหว่านชิงติดใหม่ ๆ เขายังขอบคุณเธอที่ช่วยทำให้เขาสมหวังอยู่เลย เธอรู้ดีว่าฉินหมิงชอบหลินหว่านชิงจริง ๆ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมฉินหมิงถึงยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนี้“เรื่องนี้ซับซ้อนมากกว่าที่เธอคิด ไม่ใช่แค่ลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ไม่เชื่อฉัน แม้แต่ตาและลุงของเธอเองก็สงสัยในตัวฉัน…”“สรุปก็คือ ช่วงนี้ฉันอยากอยู่คนเดียวและสงบสติอารมณ์ ไว้เราค่อยมาพูดเรื่องนี้กันใหม่ทีหลัง”ฉินหมิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“นายกำลังกังวลว่าคุณตาและคุณลุงจะขัดขวางพวกนายเหรอ”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเงียบเธอรู้ว่าสิ่งที่ฉินหมิงพูดนั้นสมเหตุสมผล ต่อให้ฉินหมิงจะผ่านการทดสอบจากลูกพี่ลูกน้องของเธอแล้ว แต่เขาก็ไม่มีทางผ่านการทดสอบของคุณตาและคุณลุงของเธอ!“สัตว์ร้ายฉิน ไม่ว่ายังไงก
เป็นเรื่องดีไม่น้อยที่จะใช้โอกาสนี้พบปะกับราชาแดนใต้ มีราชาแดนใต้เป็นเกราะคุ้มกันอยู่ ราชาแดนเหนืออาจจะมุ่งเป้ามาที่เขาน้อยลงเห็นฉินหมิงวางสายโทรศัพท์ ซูซินเหยาก็ครุ่นคิด เธอพูดอย่างไม่มีความสุขเล็กน้อยว่า “ฉินหมิง คุณจะออกไปข้างนอกอีกแล้วเหรอ?”“อืม เฝิงหลุนมีธุระต้องการหาผมน่ะ…”ฉินหมิงยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดเขาเพิ่งมาที่บริษัทได้เพียงสองวัน แต่กลับออกไปข้างนอกทุกวัน ไม่แปลกใจเลยที่ซูซินเหยาจะติติงเขา“ทำไมถึงเป็นเฝิงหลุนอีกแล้ว!”ซูซินเหยาสับสนมาก เธอมองฉินหมิงขึ้น ๆ ลง ๆ หลายครั้งด้วยสีหน้าพิลึก “ฉินหมิง เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากโดนคนรักหักอก รสนิยมทางเพศของคุณก็เลยเปลี่ยนไป?”“รสนิยมทางเพศเปลี่ยนไปอะไร…”ฉินหมิงชะงักเล็กน้อย คำพูดยังไม่ทันได้พูดจบ เขาก็ตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว“ซินเหยา คุณอย่าพูดเหลวไหลเชียวนะ รสนิยมทางเพศของผมปกติดี!”ฉินหมิงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก แต่ในใจกลับรู้สึกหวิว ๆ“ถ้างั้นก็ดีแล้ว”“ฉันไม่อยากให้ผู้ชายที่ตัวเองตกหลุมรัก มีรสนิยมพิเศษหรอก?”ซูซินเหยาพูดด้วยรอยยิ้มขี้เล่นฉินหมิงกลอกตาของเขา เขารู้ว่าซูซินเหยาจงใจล้อเขาเล่นจึงไม่ได้
“คุณฉิน โปรดยกโทษที่ฉันพูดตรง ๆ “ฉันได้ยินมาจากรั่วซวงและหลุนเอ๋อร์ว่าระดับการบ่มเพาะของคุณมาถึงขั้นขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว ห่างจากระดับปรมาจารย์อีกไม่ไกลแล้ว”“ด้วยอายุที่น้อยแบบนี้ แต่ระดับการบ่มเพาะกลับสูงมากขนาดนี้ คุณจะต้องมีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากแน่ ๆ”“ไม่ทราบว่าอาจารย์ของคุณเป็นใครและมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไรเหรอ?”เฝิงเจิ้นจี้ถามอย่างไม่ยอมตัดใจ“นี่...”ฉินหมิงสีหน้าลำบากใจมากเรื่องนี้เกี่ยวพันกับมรรคาแห่งเต๋าและความลับของเขา เขาย่อมไม่สามารถบอกเฝิงเจิ้นได้เฝิงรั่วซวงเห็นสีหน้าที่ลำบากใจของฉินหมิง จึงเอ่ยแทรกขึ้นช่วยพูดแทนฉินหมิงว่า “พ่อคะ พ่อไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนบ้านสักหน่อย จะถามมากขนาดนี้ไปทำไม”“เอ่อ...เป็นฉันที่ล้ำเล้นแล้ว”เฝิงเจิ้นยิ้ม แต่ในใจรู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อยฉินหมิงเป็นแขกที่ตระกูลเขาเชิญมา ปกติเขาย่อมไม่ถามคำถามอะไรแบบนี้แต่คราวนี้แตกต่างออกไปเมื่อคืนที่ผ่านมา เฝิงหลุนยกย่องความเป็นเลิศของฉินหมิงต่อหน้าเขา แถมยังพูดด้วยว่าฉินหมิงและเฝิงรั่วซวงนั้นเหมาะสมกันมาก สิ่งนี้กระแทกใจของเขาโดยตรง!เนื่องจากลูกสาวเขาเคยถูกทำ