“คุณชายใหญ่เค่อ นายน้อยลี่ ทั้งสองคนล้อเล่นแล้ว”“ในเมื่อพวกนายยินดีที่จะซื้อ หมิงเหยากรุ๊ปของเราจะปฏิเสธทั้งคู่ได้ยังไง พวกเราปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน…”ซูห่าวพูดด้วยรอยยิ้ม“ถ้างั้นก็ดี…”เค่ออั๋งและลี่หย่งเจี๋ยลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดหัวใจที่ค้างเติ่งอยู่ของพวกเขาก็วางลงได้เสียทีหลังจากนั้น ภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือดของทุกคน ทั้งยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งและยาหลอมลมปราณระดับสองก็ขายหมดอย่างรวดเร็วเนื่องจากยาหลอมลมปราณมีจำนวนจำกัด ผู้คนจำนวนมากจึงไม่ได้ยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งกลับไป ซื้อได้เฉพาะยาหลอมลมปราณระดับสองเท่านั้นนอกจากนี้ บางคนยังถึงขั้นแย่งยาหลอมลมปราณระดับสองไม่ทันด้วยซ้ำ เนื่องจากยืนอยู่ห่างเกินไปลี่หย่งเจี๋ยเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาโชคไม่ดีมาก ๆ เขาซื้อยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งไม่ทัน จึงทำได้เพียงซื้อยาหลอมลมปราณระดับสองกลับไปสองร้อยเม็ดอนิจจา เมื่อเทียบกับทายาทบางคนจากตระกูลชั้นนำที่ไม่ได้อะไรติดมือเลย เขานับว่าค่อนข้างดีมากแล้ว!มองดูคนจำนวนมากแย่งชิงเอาเป็นเอาตายเฝิงหลุนหัวเราะจนแทบเป็นบ้าอยู่แล้ว คนอื่นซื้อยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งอย่างยากแสนยา
นักธุรกิจและสุภาพสตรีที่ร่ำรวยเหล่านี้ ล้วนมาที่นี่เพื่อซื้อยาบำรุงร่างกายและยาเสริมความงามเนื่องจากยาหลอมลมปราณถูกเปิดตัวก่อน ทุกคนจึงไว้วางใจในคุณภาพยาของหมิงเหยากรุ๊ปมาก นอกจากนี้ผลของยาเหล่านี้ยังดีมากจริง ๆ มันย่อมเป็นที่รักและที่ต้องการของทุกคนโชคดีที่ยาเหล่านี้ไม่ได้มีค่าเท่ากับยาหลอมลมปราณและราคาของมันก็ไม่ได้แพงมากขนาดนั้น มีราคาขายตั้งแต่สองสามร้อยไปจนถึงหลักหลายพันฉินหมิงหลอมพวกมันไว้ล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่ามันจะขาดแคลนเช่นยาหลอมลมปราณแต่ถึงกระนั้น ทุกคนก็ยังคงแสวงหายาเหล่านี้ ในไม่ช้าบรรยากาศในงานเลี้ยงก็ถูกผลักไปจนถึงจุดสูงสุด…เบื้องหลังฝูงชนหลินเถิงฮุ่ยไม่ได้รีบร้อนที่จะจากไปเขามองดูยอดขายของยาชนิดต่าง ๆ ตรงหน้า มองภาพการแย่งชิงกัน สีหน้าก็ดูไม่ดีอย่างถึงที่สุดสี่ตระกูลใหญ่แข่งขันกันทั้งทางตรงและทางอ้อมมาโดยตลอด ใครก็อยากขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ตระกูลหลินเองก็ไม่มีข้อยกเว้น!ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในเจียงเฉิงก็คือเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ตัวใหม่ที่เปิดตัวโดยอาร์ทิสทรีกรุ๊ปด้วยเวชสำอางระดับ
ซูห่าวและตระกูลซูกำลังง่วนอยู่กับการขายยาในพิธีเปิดด้านหลังเวทีที่ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่แถวนี้“ซินเหยา เรียกหาผมมีอะไรหรือเปล่า”ฉินหมิงถาม“คือแบบนี้ นายเป็นประธานบริษัท ฉันก็เลยอยากจะรายงานผลประกอบการในวันนี้ให้นายได้ทราบ…”“เมื่อกี้นี้ฉันได้คำนวณคร่าว ๆ แล้ว ยอดขายของบริษัทเราในวันนี้เกินสองพันล้านแล้ว และกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียวก็เกือบถึงหนึ่งพันล้านแล้ว…”ซูซินเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม เธออธิบายสถานการณ์โดยย่อแม้ว่าทรัพย์สินโดยรวมของตระกูลซูนั้นจะสูงถึงหนึ่งหมื่นล้าน ดังนั้นผลกำไรเพียงหนึ่งพันล้านนี้ย่อมไม่นับว่าเป็นอะไรอย่างไรก็ตาม นี่เป็นบริษัทที่เธอและฉินหมิงจัดตั้งขึ้น แถมยังเป็นครั้งแรกที่เธอได้มีส่วนร่วมในธุรกิจอย่างจริงจังตอนนี้บริษัทเริ่มต้นได้ดี มีกำไรมากกว่าหนึ่งพันล้านในวันเดียว เธอย่อมรู้สึกมีความสุขมาก!“อะไรนะ?”“กำไรสุทธิเกินหนึ่งพันล้าน?”“นี่...มากขนาดนี้เชียวเหรอ!”ฉินหมิงตกใจมากและอดไม่ได้ที่จะแสดงความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขาเช่นเดียวกับซูซินเหยา นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเขาในการเริ่มต้นทำธุรกิจตอนนี้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมาก และผลกำไรที่เขาทำได้ใน
นี่คือความปรารถนาสูงสุดของเขาในขณะนี้!“ฉินหมิง ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”“ตระกูลซูของเราได้กักยาหลอมลมปราณระดับหนึ่งไว้ล่วงหน้าแล้วหนึ่งพันเม็ด ในบรรดานี้คุณปู่ของฉันขอให้ฉันนำมามอบให้คุณห้าร้อยเม็ด”ซูซินเหยาหยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวหยกออกมาหลายขวดแล้วมอบให้ฉินหมิงจำนวนยาหลอมลมปราณชั้นยอดที่ฉินหมิงหลอมครั้งสุดท้ายมีจำนวนจำกัด ตระกูลซูได้รับยาทั้งสิ้นเพียงสองพันหกร้อยเจ็ดสิบเม็ดเท่านั้นยาหลอมลมปราณชั้นยอดเหล่านี้มีจำนวนน้อยเกินไป ไม่เพียงพอให้ตระกูลซูใช้ทุกวัน ดังนั้นนายท่านซูจึงลอบกักยาหลอมลมปราณชั้นหนึ่งไว้อีกหนึ่งพันเม็ดอย่างไรก็ตาม ตระกูลซูและฉินหมิงนั้นมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน คนหนึ่งรับผิดชอบในด้านการจัดหาวัตถุดิบยา ส่วนอีกคนรับผิดชอบการหลอมยาทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมกันคนละครึ่ง ดังนั้นยาที่หลอมได้จึงต้องแบ่งให้เท่า ๆ กันนี่คือหลักการใช้ชีวิตของนายท่านซู“ผม…”ยาหลอมลมปราณชั้นยอดบนตัวฉินหมิงนั้นเพียงพอแล้ว ในตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้หลอมลมปราณระดับหนึ่งมากขนาดนี้เดิมทีเขาต้องการปฏิเสธความหวังดีของนายท่านหลิน แต่เมื่อเขาจำได้ว่าตระกูลหลินดูเหมือนจะต้องการยาหลอ
ด้วยระดับการบ่มเพาะขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานของซูห่าว ตราบเท่าที่เขาใช้ยาปราณแท้หนึ่งเม็ด ระดับการบ่มเพาะของเขาจะทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ทันที!“ดีจริง ๆ!”ซู่หาวตื่นเต้นมาก แต่เมื่อจำได้ว่าตัวยาหลักอายุห้าร้อยปีนั้นหายากและล้ำค่าเพียงใด ความตื่นเต้นของเขาก็ลดลงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้“คุณฉิน พูดตามตรงนะครับ ตัวยาหลักที่มีอายุมากกว่าห้าร้อยปีขึ้นไปนั้นหาได้ยากมากจริง ๆ แม้แต่กับตระกูลซูของเราก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้มา”“อย่างไรก็ตาม คุณวางใจเถอะ กลับไปผมจะส่งคนไปสอบถามตามเมืองรอบ ๆ เพิ่ม ขอแค่มีข่าว ผมสัญญาว่าจะแจ้งให้คุณทราบโดยเร็วที่สุด!”“ได้ ผมจะรอฟังข่าวดีจากคุณ”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับวัตถุดิบยา ฉินหมิงก็หยิบยายาเสริมความงามและยาอายุวัฒนะ จากนั้นถึงกลับไปที่ห้องโถงเห็นว่าฉินหมิงกลับมาแล้ว หลินหว่านชิงก็อดไม่ได้ถามแปลก ๆ "ฉินหมิง ฉันไม่เจอนายในห้องโถงเลย นายไปไหนมา?"“อ้อ ผมไปซื้อเม็ดยามาน่ะ…”“นี่คือยาเสริมความงาม สามารถช่วยบำรุงผิวหน้าให้คงความอ่อนเยาว์ตลอดไปได้ และได้ผลดีที่สุดสำหรับคุณสาว ๆ…”ฉินหมิงหยิบขวดยายาเสริมความงาม
หลังจากที่ฉินหมิงเห็นกว่านโม๋ เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าทำไมซูห่าวถึงได้เป็นศัตรูกับเหลิ่งจวิ้นข้างหลังหลินเถิงฮุ่ยนำคนของเขาหลายคนติดตามมาแล้ว เมื่อเห็นฉากที่เหลิ่งจวิ้นและคนของเขาล้อมฉินหมิงและหลินหว่านชิงเอาไว้“นายท่าน คุณหนูใหญ่ดูเหมือนจะมีปัญหา เราควรยื่นมือเข้าแทรกดีไหมครับ?”ลูกน้องคนหนึ่งของเขาถามหลินเถิงฮุ่ยเพื่อขอคำแนะนำ“ไม่จำเป็น!”“ดูเหมือนว่าเหลิ่งจวิ้นจะมุ่งเป้ามาที่ฉินหมิง เขาไม่น่าจะแตะต้องหว่านชิง”“อย่างไรก็ตาม เรามาดูสถานการณ์กันก่อน ถ้าเหลิ่งจวิ้นกล้าที่จะทำร้ายหว่านชิงจริง ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปที่เราจะออกหน้า”หลินเถิงฮุ่ยลังเลเล็กน้อยและกล่าวตระกูลหลินและตระกูลเหลิ่งนั้นไม่ได้มีความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์กัน ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าเหลิ่งจวิ้นจะฉลาดพอและไม่ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายหลินหว่านชิงของเขาสำหรับฉินหมิง ไอ้หนูที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนหนึ่ง ถึงกับกล้าที่จะหมายปองลูกสาวของเขา!เขาเกลียดชังฉินหมิงจับใจ และหวังว่าเหลิ่งจวิ้นจะช่วยสั่งสอนบทเรียนให้กับฉินหมิงแรง ๆ แล้วเขาจะออกหน้าแทนฉินหมิงได้ยังไง!แน่นอนว่า ถ้าลูกสาวของเขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าฉินหม
ความเร็วในการพัฒนาความสัมพันธ์นี้ เร็วกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก ซึ่งเกินความคาดหมายของเขาอย่างมากชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเกลียดชังฉินหมิงมากขึ้นไปอีกถ้าเมื่อสักครู่นี้เขาแค่อยากให้เหลิ่งจวิ้นสั่งสอนบทเรียนให้กับฉินหมิงสักยก ตอนนี้เขาอยากให้เหลิ่งจวิ้นฆ่าฉินหมิงให้ตาย ๆ ไปเสียจะได้จบเรื่อง!“หลินหว่านชิง คนอื่นอาจจะกลัวตระกูลหลินของเธอ แต่ฉันเหลิ่งจวิ้นไม่กลัว!”“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเขาจะเป็นแฟนของเธอหรือเปล่า สรุปง่าย ๆ คือเขาทำลายเรื่องดี ๆ ของฉันเมื่อครั้งที่แล้ว ดังนั้นวันนี้ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปเด็ดขาด!”“ถ้าเธอยังเกะกะไม่เลิก อย่าหาว่าฉันหยาบคายกับเธอก็แล้วกัน!”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชามากไม่ต้องพูดถึงว่าฉินหมิงเป็นแค่แฟนของหลินหว่านชิง แม้ว่าฉินหมิงจะเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลิน และสถานะของเขาก็ทัดเทียมกับเขามากที่สุด เขาก็ไม่กลัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไอ้หนูนี่ในตอนนี้เลย เขาไม่เห็นฉินหมิงอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ!“ฉันไม่…”หลินหว่านชิงกำลังจะหักล้างคำพูดของเขา แต่ก็ถูกฉินหมิงขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดอะไร“หว่านชิง เรื่องนี้มีต้นเหตุมาจากฉัน เพราะงั้นให้ฉันจัดการเถอะ”ฉินหมิงก้าวขึ้น
“หว่านชิง วางใจเถอะ ผมไม่เป็นไรหรอกเชื่อสิ!”ฉินหมิงตบมือของหลินหว่านชิงแล้วเอ่ยปลอบใจให้เธอสบายใจก่อนเดินออกไปหลินหว่านชิงรู้สึกจนปัญญามาก เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ไม่มีที่ว่างสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะหวนกลับอีกแล้วเธอไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากต้องเชื่อใจฉินหมิง“ไอ้หนู แกคงไม่คิดว่าจะมีวันนี้ใช่ไหม”“ครั้งที่แล้วที่แกลอบโจมตีฉัน ทำให้ฉันต้องนอนพักฟื้นนานกว่าครึ่งเดือน”“วันนี้ฉันจะใช้เลือดของแกล้างความอัปยศในครั้งนั้น!”กว่านโม๋จ้องเขาเขม็ง“ตาแก่ อย่าได้ไม่รู้ดีชั่ว ไม่เห็นน้ำใจของคนอื่น!”“ครั้งที่แล้วฉันอุตส่าห์มีเมตตา ไว้ชีวิตของแก”“แต่ครั้งนี้แกจะไม่โชคดีแบบนั้นอีกแล้ว!”ฉินหมิงพูดอย่างสงบ เขายกมือขึ้นไพล่หลังราวกับว่าเป็นปรมาจารย์ ดวงตาที่เข้มงวดของทั้งสองข้างมองไปที่กว่านโม๋ราวกับว่ากำลังมองดูมดปลวกตัวหนึ่ง“ผายลม!”“ไอ้หนู แกกำลังรนหาที่ตาย!”กว่านโม๋โกรธมาก กลิ่นอายที่ทรงพลังพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา จากนั้นเขาก็หยุดพูดไร้สาระ โจมตีไปที่หน้าอกของฉินหมิงอย่างรวดเร็วด้วยหมัดที่ทรงพลังพอที่จะทำให้รูปปั้นหินแหลกเป็นชิ้น ๆ“ฉินหมิง ระวัง…”ใบหน้าที่สวยงามของ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ