ฉินถิงถิงน้ำตาไหลเป็นสายน้ำ สีหน้าเต็มไปด้วยความสำนึกและความรู้สึกผิดฉินหมิงถึงกับอึ้ง เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวอันขมขื่นอยู่เบื้องหลังเฉินถิงถิงเช่นนี้เขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็ก ๆ ชีวิตก็ไม่ได้ดีไปกว่าเฉินถิงถิง เขาจึงเข้าใจความรู้สึกของเฉินถิงถิงเป็นอย่างดีและยังเข้าใจถึงความสิ้นหวังและความไร้หนทางของเฉินถิงถิงเมื่อเผชิญกับความยากลำบาก...โลกนี้มันโหดร้าย!ตอนนี้ฉินหมิงรู้สึกโล่งใจอย่างมากและเขาก็เข้าใจพร้อมทั้งเห็นใจเฉินถิงถิงมากขึ้นอีกเล็กน้อยตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกงานพอดี เรื่องของฉินหมิงและเฉินถิงถิงจึงกลายเป็นจุดสนใจจากบรรดาเพื่อนร่วมงานที่อยู่โดยรอบ“นี่มาดูเร็ว!”“ผู้หญิงสวย ๆ ที่คุกเข่าลงบนพื้นอยู่ไม่ใช่เลขาเฉินที่เป็นเลขานุการของประธานหรอกเหรอ? ผู้ชายตรงข้ามเธอเป็นใครน่ะ?”“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“น่าแปลกใจจริง ๆ พวกเขาสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ?”...ผู้คนรอบข้างพูดคุยกันไม่หยุดและมองไปที่ฉินหมิงและเฉินถิงถิงด้วยสีหน้าแปลก ๆฉินหมิงตกใจ เขาไม่ต้องการเป็นจุดสนใจเลยรีบพูดขึ้นว่า “นี่คุณเลขาเฉิน ลุกขึ้นมาครับ!”“ไม่ค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมให้อ
ฉินหมิงพาเฉินถิงถิงซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ทุกคนต่างเลิกงาน เพราะฉะนั้นรถที่อยู่บนท้องถนนและผู้คนจึงเยอะมากพอมาถึงสี่แยกไฟจราจรเนื่องจากฉินหมิงกำลังหลีกเลี่ยงคนเดินถนน เขาจึงเหยียบเบรกมอเตอร์ไซค์และหยุดอย่างกะทันหัน มีลูกบอลนุ่มสองลูกกระทบที่หลังของเขาและเกิดสัมผัสที่นุ่มนวลและน่ามหัศจรรย์มากเฉินหมิงตะลึงและตระหนักว่าเฉินถิงถิงและแผ่นหลังของเขาเกิดการ 'สัมผัสใกล้ชิด' โดยไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งยังผ่านเสื้อผ้าบาง ๆ เขาสัมผัสได้ถึงขนาดของก้อนที่อ่อนนุ่มทั้งคู่นั้นได้อย่างชัดเจน!ใบหน้าสวยของเฉินถิงถิงแดงระเรื่อ เธอพยายามถอยกลับไปให้มากที่สุดให้ห่างจากฉินหมิงแต่ยิ่งเธอขยับห่างไปมากเท่าไร ความเฉื่อยของแรงเบรกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และลูกบอลนุ่มทั้งสองก็กระแทกหลังของฉินหมิงอย่างแรงหลายครั้งเริ่มแรกฉินหมิงยังไม่ได้คิดมากอะไรนัก แต่เขาก็เป็นผู้ชายเลือดสูบฉีดคนหนึ่งเมื่อจำนวนการเบรกและการชนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าเขาจะมีสมาธิดีแค่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มฟุ้งซ่าน!คิดไม่ถึงว่ามีสาวซ้อนรถมอเตอร์ไซค์มันจะดีขนาดนี้!ถ้าครั้งต่อไปหลินหว่านชิงมาซ้อนล่ะก็ จะไม่ดีไปยิ่งกว่านี้
“เลขาฉินเขามีทักษะการแพทย์นิดหน่อยน่ะ ที่เขามากับพี่ครั้งนี้มาเพื่อตรวจสุขภาพแม่ของเราเลยนะ เผื่อว่าพอจะช่วยอะไรแม่ของเราได้บ้าง”เฉินถิงถิงอธิบายด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ“อะไรนะพี่ เขาเป็นหมอเหรอ?”เฉินฮ่าวประหลาดใจและงงมาก ในเมื่อเขาเป็นเลขานุการแล้วทำไมถึงเป็นหมอไปได้ล่ะ?“ผมไม่ได้เป็นหมอหรอกครับ”“แต่ว่า ผมเคยเรียนทักษะทางการแพทย์ของบรรพบุรุษมาน่ะครับ”ฉินหมิงยิ้ม เขาวางตะกร้าผลไม้ไว้บนตู้ข้างเตียงโรงพยาบาล“ที่แท้ก็มือสมัครเล่น!”เฉินฮ่าวขมวดคิ้วและพูดโผงผางออกมา “นี่พี่ ในโรงพยาบาลมีหมอเฉพาะทางเยอะขนาดนี้ยังรักษาแม่เราไม่หาย นี่พี่พามือสมัครเล่นมาจะมีประโยชน์หรือไง?”“เฉินฮ่าว นายอย่าพูดจาเหลวไหล!”“เลขาฉินเขามีเจตนาดี ทำไมถึงทำตัวไม่มีมารยาทอย่างนี้ใส่เขา!”เลขาเฉินตำหนิอย่างไม่พอใจ หลังจากนั้นเธอก็หันไปยิ้มให้ฉินหมิงอย่างขอโทษขอโพย “เลขาฉินคะ น้องชายฉันไม่ค่อยรู้ความปากไม่มีหูรูด คุณอย่าไปสนใจคำของเขาเลยนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจอารมณ์ของเขา”ฉินหมิงพูดพลางยิ้มตอบเฉินฮ่าวอยากอ้าปากพูด แต่ก็เพราะมารยาทเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ว่าในใจเขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก และเ
“เลขาฉินคะ แม่ฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ?”เฉินถิงถิงถามด้วยสีหน้ากังวล“อาการค่อนข้างซับซ้อนน่ะครับ ยากที่จะอธิบายให้ฟังสั้น ๆ ได้ในประโยคเดียวน่ะครับ”“แต่โชคดีที่เป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ น้อยๆ เช่นการอักเสบน่ะครับ ตอนนี้ยังไม่มีอาการร้ายแรงอะไรขอแค่เพียงให้ผมฝังเข็มให้สักครั้งแล้วกินยาจีนสักสองสามวัน อาการก็คงจะหายขาดได้ครับ "ฉินหมิงยิ้มและพูดปลอบใจหลี่ฉินจะได้รับการรักษามาพักหนึ่งแล้ว อาการไขสันหลังที่เสียหายก็ได้ฟื้นตัวขึ้น แต่ภาวะแทรกซ้อนบางอย่างยังคงอยู่ หากตอนนี้รีบรักษาให้ทันอาการภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจร้ายแรงมาก เบาหน่อยก็เป็นอัมพาตถ้าอาการหนักก็อันตรายถึงชีวิต“คุณสามารถรักษาให้หายได้เหรอคะ?”“จริงเหรอคะ? ดีมาก ๆ เลยค่ะ!”เฉินถิงถิงดีใจมากตอนแรกเธอก็แค่อยากจะลองดู ไม่ได้คาดหวังในทักษะการแพทย์ของฉินหมิงเลยแต่ที่คาดไม่ถึงว่าฉินหมิงบอกว่าอาการป่วยนี้สามารถรักษาได้เธอจึงดีใจและก็ตื่นเต้นมาก“ปัญหาเล็กน้อยอย่างนั้นเหรอ?”“หมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลก็ยังรักษาแม่พวกเราไม่หาย นี่คุณยังจะมาบอกว่านี่เป็น
ห้องผู้ป่วยนี้เป็นห้องผู้ป่วยธรรมดา ด้านในมีเตียงสามเตียง นอกจากหลี่ฉินแล้วก็ยังมีผู้ป่วยอีกสองเตียงที่นอนพักอยู่บนเตียง“นี่เจ้าหนุ่ม ข้าวน่ะจะกินอะไรก็ได้แต่คำพูดจะพูดจาส่งเดชไม่ได้นะ!”“หลี่ฉินก็อยู่โรงพยาบาลมาตั้งนาน แม้แต่หมอในโรงพยาบาลหลายคนก็หมดปัญญาจะรักษาแล้ว!”“เธอยังเด็กขนาดนี้แถมก็ไม่ใช่หมอเฉพาะทาง จะมีความสามารถรักษาให้หายได้อย่างไร!”“นั่นน่ะสิ! อย่าคิดแค่ว่าตัวเองเรียนทักษะการแพทย์มานิด ๆ หน่อย ๆ ก็ถือว่าเป็นหมอแล้ว ถ้ารักษาคนอื่นแล้วเป็นอะไรไป ใครจะรับผิดชอบไม่ทราบ!”...ผู้ป่วยทั้งสองคนต่างส่ายหน้า ใคร ๆ ก็ดูถูกทักษะการแพทย์ของฉินหมิงเฉินฮ่าวสงสัยอยู่แล้วว่าแรงจูงใจของฉินหมิงนั้นไม่บริสุทธิ์ พอยิ่งได้ฟังผู้ป่วยสองคนพูดขนาดนี้แล้ว เขายิ่งไม่เชื่อในทักษะการแพทย์ของฉินหมิงขึ้นไปอีก!“นี่พี่ ที่ลุงสองคนพูดมาก็ถูกนะ พวกเราไม่สามารถเอาชีวิตแม่มาล้อเล่นได้นะ!”“นี่…”เมื่อกี้เฉินถิงถิงได้เชื่อในตัวฉินหมิงไปแล้ว แต่ตอนนี้เมื่อมีชีวิตของแม่เธอเป็นเดิมพัน เธอจึงอดลังเลใจขึ้นมาไม่ได้“ในเมื่อคุณไม่เชื่อผมก็ช่างเถอะ”“แต่ว่าผมจะขอเตือนคุณอีกสักประโยคหนึ่งนะครับ อาการ
หกเข็มพลิกชะตาต้องควบคุมเข็มด้วยพลังชี่ ครั้งที่แล้วตอนที่เขารักษานายท่านหลิน เนื่องจากร่างกายไม่มีพลังจิตวิญญาณจึงเหนื่อยมากจนแทบจะเป็นลมคราวนี้การฝึกฝนของเขาได้มาถึงระดับแรกของการฝึกพลังชี่แล้ว และสภาพร่างกายเขาก็ดีขึ้นมากจึงสามารถใช้วิชาหกเข็มพลิกชะตาได้ง่ายขึ้นแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นหลังจากที่เขาใช้เทคนิคการฝังเข็มเสร็จแล้ว เม็ดเหงื่อเล็ก ๆ ก็ยังผุดเรียงเป็นแถวปรากฏบนหน้าผากของเขา เนื่องจากระดับพลังของเขาต่ำเกินไปทำให้รู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าตอนนั้นเองได้มีเสียงฝีเท้าหนึ่งดังขึ้นมาคนผู้นั้นสวมชุดกาวน์สีขาว เป็นหมอหนุ่มอายุประมาณยี่สิบเจ็ดปี ด้านหลังเขามีพยาบาลสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอกเพื่อตรวจคนไข้ในประจำวันพอเขาเห็นหลี่ฉินโดนฝังเข็มไปทั้งตัว หมอหนุ่มคนนั้นตกใจมากและรีบเดินเข้ามาอย่างไว“ถิงถิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? พวกเธอทำอะไรกัน!”“พี่เถียนคือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ เลขาฉินคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง เขามีทักษะการแพทย์นิดหน่อยน่ะค่ะ”“เขากำลังรักษาแม่ฉันด้วยวิธีการฝังเข็ม…”เฉินถิงถิงอธิบายอย่างง่าย ๆ หมอหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าชื่อว่าเถียนปั๋ว เขาเป็นหมอประจำตัว
“แก้มของป้าหลี่แดงก่ำน่าจะเป็นเพราะวิธีการรักษา ชีวิตเธอตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าพระพรหมหน้าไหนก็เกรงว่าจะช่วยเธอไม่ได้!”เถียนปั๋วส่ายหน้า สายตาที่เขามองที่ฉินหมิงก็เยาะหยัน“อะไรนะ?”สองพี่น้องเหมือนถูกฟ้าผ่าหลังจากนั้นเฉินฮ่าวก็ลุกขึ้นยืนทันที ดวงตาของเขาลุกโชน“คุณฉินเป็นเพราะคุณ คุณทำร้ายแม่ผม ผมจะสู้ตายกับคุณ!”เฉินฮ่าวตะโกนด้วยความโกรธราวคลุ้มคลั่ง กำลังจะเตรียมชกหน้าฉินหมิงฉินหมิงที่ยังไม่ได้ตั้งหลัก จึงโดนต่อยเข้าเบ้าตาไปเต็ม ๆ “พยาบาลเฝิง คุณรีบไปแจ้งผู้อำนวยการโดยเร็ว ให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับการช่วยชีวิตครั้งสุดท้ายของผู้ป่วย!”“แล้วก็เรียกรปภ.หรือใครก็ได้มาที่นี่ แล้วจับคนนี้ ๆ ที่รักษาคนป่วยส่งเดชส่งให้ตำรวจจัดการ!”เถียนปั๋วหันกลับมาและออกคำสั่งกับพยาบาลหญิงที่อยู่ข้างหลังเขานางพยาบาลเฝิงพยักหน้าและออกไปอย่างรวดเร็ว“ทำไม…”“ทำไมถึงเป็นแบบนี้…”เฉินถิงถิงทรุดลงข้างเตียง น้ำตาไหลเป็นสายน้ำ เธอร้องไห้จนไม่มีเสียงร้องออกมาฉินหมิงยกมือปิดตาด้วยความเจ็บปวด ในที่สุดก็เขาโต้ตอบด้วยโทสะ “เฉินฮ่าวใจเย็น ๆ ก่อน ที่คุณป้าเป็นอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ…” จาก
เฉินฮ่าวไม่ลังเลสักนิด เขาคุกเข่าดังตุ้บลงตรงหน้าฉินหมิงพลางยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองแรง ๆ สองที "เลขาฉิน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้เป็นความผิดของผมเอง คุณช่วยแม่ของผมด้วยเจตนาดี แต่ผมกลับทำกับคุณแบบนี้.......” "ผมมันไม่เอาไหน..." เฉินฮ่าวรู้สึกผิดเอามาก ๆ และเอาแต่โทษตัวเอง "ช่างมันเถอะ ก็แค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้นเอง วันหน้าผมหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรวู่วามแบบนั้นอีก..." ฉินหมิงรู้ว่าเฉินฮ่าวไม่ได้ตั้งใจเดินมาชนเขาและเขาก็ไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น ฉะนั้นเขาจึงยื่นมือออกไปช่วยประคองให้เฉินฮ่าวลุกขึ้น เถียนปั๋วไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องราวจะกลับตาลปัตร เขาจึงมีสีหน้าเหยเกพลางแค่นเสียงเย็นชา "ถิงถิง เธอไม่ต้องขอบคุณหมอนี่หรอก!" "ช่วงนี้หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของพวกเรา อาการของป้าหลี่ก็เกือบจะหายดีแล้ว มันก็แค่บังเอิญเท่านั้นแหละ!" "พี่ใหญ่เถียน พี่พูดผิดถนัดเลยล่ะ!" "พวกเราต่างก็เห็นว่าก่อนหน้านี้อาการแม่ของฉันไม่ดีขึ้นเลย กระทั่งจะลุกขึ้นจากเตียงก็เป็นเรื่องยากแล้ว เลขาฉินฝังเข็มรักษาโรคให้ท่าน นี่จะเป็นเรื่องบังเอิญไปได้ยังไงกัน!" เฉินถิงถิงเอ่ยขึ้นด้วยความทุกข์ใจอยู่บ้าง
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ