จุดตันเถียนคือรากฐานของการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ เมื่อตันเถียนถูกทำลาย ระดับการบ่มเพาะทั้งหมดของเขาจะสูญหายไปและเขาจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์นับจากนั้นเป็นต้นไปฉินหมิงไม่ต้องการฆ่าคน จึงทำเพียงทำลายการบ่มเพาะของหลัวซื่อฉง ไว้ชีวิตของเขาสักครั้งหนึ่งนี่ถือเป็นความเมตตาอย่างถึงที่สุดของเขาแล้ว!“เนี่ยอู๋ ช่วยส่งสองคนนี้ไปรักษาที่โรงพยาบาลที อย่าให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น”ฉินหมิงสั่งซุนกวนชงและหลัวซื่อฉงได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาอ่อนแอมากและจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะตายได้ และเมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูของตำรวจ มันจะไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ กับเขาเลย“ครับ”เนี่ยอู๋รับคำสั่ง จากนั้นก็สั่งให้คนของตัวเองหลายคนแบกซุนกวนชงและหลัวซื่อฉงขึ้นมา เดินออกจากสถานที่นั้นก่อนเป็นคนแรก“นายน้อยเฝิง คุณชายใหญ่ซู และก็หว่านชิง เรื่องในครั้งนี้ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ นะสำหรับความช่วยเหลือ ขอบคุณ…”ฉินหมิงไม่ลืมที่จะขอบคุณซูห่าวและคนอื่น ๆ “คุณฉิน คุณเกรงใจเกินไปแล้วครับ บุญคุณที่คุณมีต่อตระกูลซูของพวกเราหนักแน่นดั่งขุนเขา นี่เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”ซูห่าวพูดด้วยรอยยิ้มซูซินเ
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเมื่อไหร่กันที่ฉินหมิงซึ่งเป็นสินค้ามือสองที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วคนนี้ ได้รับความนิยมมากขนาดนี้นี่เกือบจะทำให้เธออึ้งไป!“คุณฉิน ถ้าคุณไม่มีคำสั่งอื่นแล้ว ถ้างั้นผมกับซินเหยาขอตัวกลับไปก่อนนะครับ”ซูห่าวไม่ได้สังเกตว่าน้องสาวของเขาและหลินหว่านชิงกำลังฟาดฟันกันผ่านสายตา เขาเป็นคนที่กล่าวคำอำลาออกมาก่อนเป็นคนแรก“นายน้อยฉิน ไว้พบกันใหม่ในภายหลังนะครับ!”เฝิงหลุนเองก็บอกลาเหมือนกัน“ฉินหมิง ไม่คิดเลยนะว่านายจะมีความสามารถมากขนาดนี้!”“ไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตระกูลซู นายยังมีมิตรภาพดี ๆ กับเฝิงหลุนลูกชายของราชาแดนใต้อีกด้วย!”“ดูเหมือนก่อนหน้านี้ฉันจะประเมินความสามารถของนายต่ำเกินไปจริง ๆ!”เมื่อเห็นว่าซูห่าวและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว หลินหว่านชิงก็มองไปที่ฉินหมิงด้วยท่าทางเย็นชา เธอรู้สึกซับซ้อนมากฉินหมิงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซู เรื่องนี้เธอรู้อยู่ก่อนแล้วจึงไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของสองพี่น้องซูห่าวแต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่คาดฝันก็คือ ฉินหมิงรู้จักกับเฝิงหลุนลูกชายของราชาแดนใต้ด้วย นี่ค่อนข้างเกินความคาดหมายมาก!แต่นั่นยังไม่ใช่จุดที่สำ
ฉินหมิงส่ายหัวและตอบอย่างเหม่อลอย แต่หัวใจของเขาบินไปที่หลินว่านชิงนานแล้ว เขากำลังคิดว่าอีกเดี๋ยวตัวเองจะอธิบายให้หลินว่านชิงฟังว่ายังไง“ไม่ใช่ก็ดีแล้ว!”หลี่เจียฮุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของเธอเธอสามารถบอกได้ว่าแม้หลินหว่านชิงจะยังไม่ใช่แฟนของฉินหมิงแต่จากน้ำเสียงของฉินหมิงดูเหมือนว่าเขาจะชอบหลินหว่านชิงอย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินหมิงนั้นลึกซึ้งมาก บางทีลึก ๆ ฉินหมิงก็อาจจะชอบเธอด้วยเหมือนกันตราบใดที่หลินหว่านชิงยังไม่ใช่แฟนของฉินหมิง เธอก็ยังมีโอกาส!นอกจากนี้เธอรู้จักฉินหมิงเร็วกว่าหลินหว่านชิงเจ็ดถึงแปดปี ทั้งสองคนถือได้ว่าเป็นคู่รักในวัยเด็ก ไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะพ่ายแพ้ให้กับหลินหว่านชิง!“เจียฮุ่ย เมื่อกี้นี้เธอพูดว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ชัด”หลังจากฉินหมิงได้สติกลับมา เขาก็ถาม“ไม่มีอะไร…”หลี่เจียฮุ่ยกัดริมฝีปากของเธอเมื่อนึกถึงสิ่งที่แม่ของเธอสั่งสอนเธอก่อนหน้านี้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่แม่ของเธอพูดทั้งหมดนั้นสมเหตุสมผลมากถ้าเธอไม่รีบคว้าโอกาสนี้ไว้ ผู้ชายที่โดดเด่นและวิเศษเช่นฉินหมิงจะ
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลอกตาใส่ฉินหมิงด้วยความโกรธ“ถ้างั้นฉันควรทำยังไงดี?”“เสี่ยวเตี่ย เธอต้องช่วยฉันนะ”ใบหน้าของฉินหมิงหมองลง เขามองไปที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยแล้วขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว“สองมือของนายว่างเปล่า ไม่มีความจริงใจเอาซะเลย แล้วนายจะให้ฉันช่วยยังไง?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยตวาดด้วยความโกรธ“ความจริงใจอะไร?”ฉินหมิงชะงัก เขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยหมายถึงอะไร“นายคิดว่าไงล่ะ?”“โง่จริง!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลอกตาอีกครั้ง จากนั้นเธอก็โบกมือให้ฉินหมิงเข้ามา กระซิบเสียงเบาว่า "ไอ้โง่ ถ้านายต้องการง้อให้ลูกพี่ลูกน้องของฉันหายโกรธ อย่างน้อยนายก็ควรเตรียมดอกไม้สักช่อหรือไม่ก็ของขวัญสักกล่องเพื่อทำให้เธอมีความสุขไม่ใช่เหรอ"“ไม่งั้นมันก็ไร้ประโยชน์แม้ว่าเธอจะเปิดประตูให้นายก็ตาม หรือว่านายคิดจะอาศัยแค่ลิ้นและคำพูดเพียงไม่กี่คำเพื่อทำให้เธอหายโกรธจริง ๆ?”"นี่..."ความคิดของฉินหมิงหมุนวนทันที เขาเหมือนกับถูกตบหน้า ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว“เสี่ยวเตี๋ย ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ ฉันจะรีบไปเตรียมเดี๋ยวนี้!”ฉินหมิงดูมีความสุขมาก รีบวิ่งจากไปทันที......ในห้องเมื่อได้ยินว่าฉินหมิง
หลินหว่านชิงยืนขึ้น เดินไปและปลดล็อกประตูแกร็ก!ขณะที่ประตูถูกผลักเปิดออก หลินหว่านชิงก็รู้สึกว่าดวงตาของเธอพร่าไปเล็กน้อย ดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอจากนั้นก่อนที่เธอจะทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินหมิงก็ก้าวเข้ามาในห้องและปิดประตูลง“ฉินหมิง นาย...นายเข้ามาทำไม!”ใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอเข้าใจทันทีว่ากว่าครึ่งตัวเองคงถูกลูกพี่ลูกน้องและฉินหมิงรวมหัวกัน ‘หลอก’ แล้ว“หว่านชิง ดอกไม้คู่ควรกับสาวงาม ผมขอมอบดอกกุหลาบช่อนี้ให้ หวังว่าคุณจะชอบ…”ฉินหมิงยิ้มกว้าง ชื่นช่อดอกไม้ในมือของเขาให้กับเธอ“ใครจะสนใจดอกไม้ของนาย…”หลินหว่านชิงปากแข็ง เสมองไปทางอื่นและไม่อยากสนใจฉินหมิง“หว่านชิง ผมรู้ว่าคุณยังโกรธผมอยู่”“แต่ฟังผมอธิบายก่อนนะ ผมกับเจียฮุ่ยเราบริสุทธิ์ใจต่อกัน มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ…”“ตอนนั้นผมเข้าไปช่วยเธอไว้ เธอรู้สึกตื่นเต้นมากก็เลยหอมแก้มผมเป็นการขอบคุณ มันก็เท่านั้น...”ฉินหมิงอธิบายอย่างกระชับและรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ฉันไม่สนหรอกนะว่าพวกนายสองคนจะบริสุทธิ์ใจต่อกันไหม มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน!”“ฉันบอกนายไปก่อนหน้านี้แ
สุดท้าย การดิ้นรนของเธอก็ยิ่งดิ้นยิ่งอ่อนแรงลง แล้วค่อย ๆ ล้มตัวลงในอ้อมแขนของฉินหมิงเนิ่นนานจนกระทั่งใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ กระทั่งเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว ฉินหมิงถึงปล่อยริมฝีปากแดงที่มีเสน่ห์ของเธอไปอย่างไม่เต็มใจ ยุติการจูบอันเร่าร้อนนี้“คนเลว นี่เป็นจูบแรกของฉัน และมันก็ถูกนายพรากไปแบบนี้...”หลินหว่านชิงหน้าแดงก่ำ เธอยกกำปั้นสีชมพูขึ้นและทุบหน้าอกของฉินหมิงหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ออกแรงมากนัก“จูบแรกเหรอ?”“ไม่น่าจะใช่มั๊ง!”“จูบแรกของคุณถูกผมพรากไปนานแล้ว...”ฉินหมิงมีสีหน้าแปลก ๆ ในหัวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงครั้งก่อนที่ตัวเองแอบจูบหลินหว่านชิง“นายพูดไร้สาระอะไร?”“นายพรากจูบแรกของฉันไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หรือว่านาย...นายเคยทำมิดีมิร้ายกับฉันมาก่อน...”สีหน้าของหลินหว่านชิงดูหวาดหวั่นมากไม่ว่าฉินหมิงจะโง่แค่ไหน เขาก็ไม่มีทางยอมรับเรื่องนี้ รีบร้อนพูดไปว่า “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าตอนที่เราสองคนพบกันครั้งแรก ผมช่วยผายปอดให้กับคุณ”“ตอนนั้นจูบแรกของคุณก็เป็นของผมแล้ว!”ฉินหมิงยิ้มกล่าวอย่างภาคภูมิใจในตอนนั้นเมื่อเขาได้เห็นหลินหว่านชิงครั้งแรก เขาก็ต
ตอนนี้ความสุขมาอย่างกะทันหันเกินไป หลินหว่านชิงตอบรับการจีบของเขาจริง ๆ ความตื่นเต้นในใจของเขานี้ ใครก็ยากที่จะจินตนาการได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่อาจระงับความสุขในใจได้อีกต่อไปแล้ว ก้มศีรษะลงแล้วจูบริมฝีปากแดงอันมีเสน่ห์ของหลินหว่านชิงอีกครั้งโชคดีที่ในครั้งนี้หลินหว่านชิงตอบสนองค่อนข้างเร็ว รีบยกมือที่ละเอียดอ่อนราวกับหยกของเธอขึ้นไปปิดปากของเขา“นายฟังสิ่งที่ฉันพูดให้จบก่อนจะได้ไหม”“ฉันตกลงยอมรับนายก็ได้ แต่คุณปู่และพ่อของฉันอาจไม่เห็นด้วย”“ดังนั้นฉันหวังว่าในอนาคตนายจะพยายามให้หนักขึ้น มุ่งมั่นที่จะได้รับการยอมรับจากคุณปู่ของฉันและคนอื่น ๆ!”หลินหว่านชิงตำหนิเล็กน้อยอย่างโกรธเคือง ในใจค่อนข้างกังวลในความเป็นจริง เธอมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับฉินหมิงมานานมากแล้ว เพียงแต่ว่าด้วยสถานะของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันมากเกินไป ตั้งแต่ต้นจนจบเธอจึงไม่กล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกนี้ตรง ๆท้ายที่สุดแล้ว ฉินหมิงเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่มีภูมิหลังทางตระกูลคนหนึ่ง แถมยังเป็นชายที่เคยผ่านการหย่าร้างมาก่อนด้วย ทั้งสองฝ่ายไม่เหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง คุณปู่และพ่อของเธอไม่มีทางเห็นด้วยกับเรื่องนี้
“ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ร้ายฉินยังเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง เขากับพี่ ชายโสดหญิงสาวอยู่ในห้องด้วยกันเพียงลำพัง จะทนไหวได้ยังไง!”“โอ้...ไม่สิ จะเรียกว่าสัตว์ร้ายฉินไม่ได้อีกแล้ว จากนี้ไปฉันต้องเปลี่ยนไปเรียกว่าพี่เขยถึงจะถูกสินะ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดพร้อมกับขยิบตาให้ฉินหมิง รอยยิ้มฉายชัดเต็มใบหน้าของเธอ “พี่เขย ฉันพูดถูกไหมคะ?”“อื้ม มีเหตุผลมาก!”ฉินหมิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ถูกเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเรียกว่าพี่เขยคำหนึ่งแบบนี้ มันได้ผลกับเขามากจริง ๆอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดในอีกแง่หนึ่ง เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ แบบนี้ไม่เท่ากับยอมรับว่าตัวเองทนไม่ไหวหรอกเหรอ?“พวกเธอ...”หลินหว่านชิงถลึงตาจ้องฉินหมิงอย่างดุร้าย รู้สึกเขินอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เธออยากจะหาหลุมบนพื้นแล้วมุดเข้าไปเสียเดี๋ยวนั้น“เอาล่ะ พี่สาว พี่เขย ที่ฉันเข้ามาก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะพูดกับพวกคุณสองคน!”“วันนี้เรายังไม่ได้เริ่มบ่มเพาะกันเลยนะ เรารีบฝึกกันเถอะ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเร่งเร้าอย่างอดทนไม่ไหวแล้ว ในที่สุดก็เปิดเผยความตั้งใจของเธอ“เธอกระตือรือร้นในเรื่องการบ่มเพาะจริง ๆ นะ!”ฉินหมิงกลอกตาแล้