“ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ร้ายฉินยังเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง เขากับพี่ ชายโสดหญิงสาวอยู่ในห้องด้วยกันเพียงลำพัง จะทนไหวได้ยังไง!”“โอ้...ไม่สิ จะเรียกว่าสัตว์ร้ายฉินไม่ได้อีกแล้ว จากนี้ไปฉันต้องเปลี่ยนไปเรียกว่าพี่เขยถึงจะถูกสินะ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดพร้อมกับขยิบตาให้ฉินหมิง รอยยิ้มฉายชัดเต็มใบหน้าของเธอ “พี่เขย ฉันพูดถูกไหมคะ?”“อื้ม มีเหตุผลมาก!”ฉินหมิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ถูกเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเรียกว่าพี่เขยคำหนึ่งแบบนี้ มันได้ผลกับเขามากจริง ๆอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดในอีกแง่หนึ่ง เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ แบบนี้ไม่เท่ากับยอมรับว่าตัวเองทนไม่ไหวหรอกเหรอ?“พวกเธอ...”หลินหว่านชิงถลึงตาจ้องฉินหมิงอย่างดุร้าย รู้สึกเขินอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เธออยากจะหาหลุมบนพื้นแล้วมุดเข้าไปเสียเดี๋ยวนั้น“เอาล่ะ พี่สาว พี่เขย ที่ฉันเข้ามาก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะพูดกับพวกคุณสองคน!”“วันนี้เรายังไม่ได้เริ่มบ่มเพาะกันเลยนะ เรารีบฝึกกันเถอะ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเร่งเร้าอย่างอดทนไม่ไหวแล้ว ในที่สุดก็เปิดเผยความตั้งใจของเธอ“เธอกระตือรือร้นในเรื่องการบ่มเพาะจริง ๆ นะ!”ฉินหมิงกลอกตาแล้
ซุนลี่จ้งโกรธมาก เขายกมือขึ้น กะจะตบหน้าหม่าลู่อีกสองสามฉาด“พ่อครับ หยุดเถอะ...”ในตอนนี้เอง เสียงแผ่วเบาก็ดังมาจากเตียงผู้ป่วย เรียกสติของซุนลี่จ้งกลับมา“กวนชง แกตื่นแล้วเหรอ?”“แก...ตอนนี้แกรู้สึกยังไงบ้าง?”ซุนลี่จ้งระงับความโกรธในใจของเขาแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว“ผม…”ซุนกวนชงอ้าปาก เขาจำได้ว่าตัวเองถูกฉินหมิงทำให้พิการแล้ว ในใจจึงอดไม่ได้รู้สึกเศร้าและสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด“กวนชง ฉันรู้ว่าตอนนี้แกกำลังเสียใจมาก”“แกวางใจเถอะ ต่อให้ฉันต้องแลกด้วยทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซุนของเรา ฉันก็จะสับไอ้เด็กฉินหมิงนั่นเป็นชิ้น ๆ ล้างแค้นให้กับแกอย่างแน่นอน!”ซุนลี่จ้งตบโต๊ะ พูดพลางกัดฟันกรอด“พ่อครับ อย่า...”ซุนกวนชงตกใจมาก ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำแล้วถ้าอาการบาดเจ็บของเขาไม่รุนแรงขนาดนี้ เขาคงจะกระโดดลงจากเตียงไปนานแล้ว“กวนชง แกเป็นอะไรไป?”สีหน้าของซุนลี่จ้งดูสับสนและประหลาดใจมาก“พ่อครับ พ่อไม่รู้อะไร แม้ว่าฉินหมิงนั่นจะเป็นเด็กกำพร้า แต่เขาก็สามารถปีนขึ้นไปผูกมิตร กับเฝิงหลุนลูกชายของราชาแดนใต้ ตระกูลซู และตระกูลหลินในเวลาเดียวกันได้..."“เพื่อปกป้องเขา
“พ่อครับ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผมก็ตาสว่างขึ้นมาก”“แขนเล็ก ๆ ไม่อาจงัดกับท่อนขาใหญ่ได้ พวกเราหยุดกันแค่นี้เถอะ ผมไม่อยากให้ทั้งตระกูลซุนของเราถูกฝังไปพร้อมกับผม!”“นอกจากนี้ ฉินหมิงนั่นยังล่วงเกินนายน้อยลี่ลูกชายของราชาแดนเหนือและคุณชายใหญ่ตระกูลเค่อไปแล้ว นายน้อยลี่และคุณชายใหญ่เค่อจะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่นอน เราอย่าดึงปัญหามาให้ตัวเองอีกเลย…”ซุนกวนชงพูดอย่างใจเย็นครั้งนี้ หลังจากรอดพ้นจากประตูนรกมาได้ สภาพจิตใจของเขาก็เติบโตขึ้นมากแม้ว่าฉินหมิงจะทำลายเขา แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ด้วยอำนาจและความมั่งคั่งของตระกูลซุน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นผู้ชายได้อีกตลอดชีวิต แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถอยู่รอดและใช้ชีวิตอย่างรุ่งโรจน์และมั่งคั่งต่อไปได้!ดังสุภาษิตที่ว่า ตายอย่างปลอดโปร่งไม่สู้หน้าด้านอยู่ต่อไปเรื่องต่าง ๆ ได้ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่อยากทำลายชีวิตรุ่งโรจน์ที่เหลือของตัวเองเพราะความโง่เขลาอีก นี่ไม่เป็นผลดีต่อเขาเลยสำหรับเรื่องแก้แค้น เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะฉินหมิงได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงคาดหวังกับลี่หย่งเจี๋ยและเค่ออั๋งเท่านั้นเขาเชื่อว่าด้วยสถานะของพว
บางทีนี่อาจเป็นการลงทัณฑ์ที่พระเจ้าทรงมีต่อเธอ!......สองวันถัดมาจู่ ๆ ตระกูลซูก็ประกาศข่าวหนึ่งที่ทำเอาทั้งเมืองโกลาหล พวกเขากำลังเตรียมจัดตั้งบริษัทยาแห่งใหม่ที่ชื่อว่าหมิงเหยากรุ๊ป เข้าสู่วงการเภสัชกรรมโดยสมบูรณ์พิธีเปิดหมิงเหยากรุ๊ปนั้นมีกำหนดจัดขึ้นในอีกสามวันหลังจากนี้ และเม็ดยาที่พวกเขาจะจัดจำหน่ายในงาน ประกอบด้วยเม็ดยาหลอมลมปราณ ยาเสริมความงาม ยาอายุวัฒนะและอื่น ๆ แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นยาสามชนิดนี้นอกจากนี้ ตระกูลซูไม่เพียงแต่ใช้ช่องทางต่าง ๆ ในการโปรโมตบริษัทนี้เท่านั้น พวกเขายังส่งคำเชิญไปยังตระกูลซึ่งเป็นขุมกำลังใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง เชิญชวนทุกคนให้เข้าร่วมพิธีเปิดในวันนั้นด้วยทันทีที่มีข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ก็ทำให้เกิดความโกลาหลใหญ่ในเจียงเฉิงทันทีขุมกำลังใหญ่ทั้งหลายไม่สนใจว่าตระกูลซูจะก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาหรือเปล่า สิ่งที่พวกเขาสนใจคือยาหลอมลมปราณที่ตระกูลซูโฆษณาว่าสามารถช่วยผู้ฝึกยุทธยกระดับการบ่มเพาะของตัวเองได้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกใจอย่างแท้จริง!เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าโฆษณาเชิญชวนนี้ของตระกูลซูนั้นจริงเท็จกี่ส่วน หรือจงใจสร้างเรื่องขึ้นมา
หลินเถิงฮุ่ยเป็นทายาทคนแรก ควบคู่กับตำแหน่งผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของตระกูลหลิน เขาจึงเป็นผู้นำในหมู่ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลหลินและมีสถานะสูงส่งกว่าทายาทสายตรงรุ่นที่สามของตระกูลหลินมากการที่นายท่านหลินมอบหมายให้เขาไปร่วมพิธีเปิดหมิงเหยากรุ๊ปด้วยตัวเองแบบนี้ ถือว่าได้ให้หน้าตระกูลซูมากพอแล้ว!“อื้ม ผมเข้าใจแล้วครับพ่อ”หลินเถิงฮุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงลังเลใจนิดหน่อย "พ่อครับ มีอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้หว่านชิงนำกองกำลังส่วนหนึ่งของเราไปช่วยเหลือไอ้เด็กฉินหมิงนั่น นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย..."หลินเถิงฮุ่ยอึกอัก สีหน้าของเขาดูไม่พอใจเล็กน้อยเขารู้ว่าหลินหว่านชิงใช้อำนาจของตระกูลหลินช่วยฉินหมิงตามหาใครคนหนึ่ง แต่เขาไม่รู้รายละเอียดโดยเฉพาะอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดก็คือหลินหว่านชิงมีนิสัยดื้อรั้น เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไร เธอจึงไม่ค่อยจะพึ่งพาตระกูลหลินแต่คราวนี้หลินหว่านชิงถึงกับแหกกฎของตัวเองเพื่อฉินหมิง!ความรู้สึกของเขา ใครก็ยากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ!“มีเรื่องแบบนี้ด้วย?”นายหลินรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆเ
“ยาหลอมลมปราณเหรอ?”“ตระกูลซูกำลังทำอะไรอยู่? พวกเขาสามารถหลอมยาที่ยกระดับและเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะให้กับผู้ฝึกยุทธได้จริง ๆ เหรอ?”เฝิงเจิ้นเซิงมองดูเทียบเชิญในมือด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจมาก“พ่อครับ นี่เป็นเรื่องจริงนะ ยาหลอมลมปราณนั่นผมเคยใช้มันมาก่อนแล้ว และผลของมันก็ดีมากจริงๆ!”เฝิงหลุนพูดด้วยดวงตาเป็นประกายนับตั้งแต่ที่เขาได้ใช้ยาหลอมลมปราณชั้นยอดไปเมื่อครั้งที่แล้ว เขาก็หมกมุ่นอยู่กับผลของยาหลอมลมปราณและตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว!นี่ยังแสดงให้เห็นทางอ้อมด้วยว่าฉินหมิงไม่ได้โกหกเขา!“ตระกูลซูยังไม่ได้เริ่มวางขายยาหลอมลมปราณอย่างเป็นทางการเลยนี่ แกมีโอกาสใช้มันได้ยังไง?”เฝิงเจิ้นเซิงรู้สึกประหลาดใจ“ฉินหมิงมอบมันให้กับผมครับ”เฝิงหลุนตอบตามความจริง“ฉินหมิงคือใครกัน?”“เขามาจากตระกูลซูเหรอ?”เฝิงเจิ้นเซิงยิ่งสับสนมากขึ้น เขาคิดอย่างรอบคอบแต่ก็จำไม่ได้ว่าตระกูลซูมีคนชื่อฉินหมิงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่ในบรรดาขุมกำลังชั้นนำของเมื่องเจียงเฉิง เขาก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่ชื่อฉินหมิงมาก่อน!“เขาไม่ได้มาจากตระกูลซูครับ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลซูนั้นไม
นอกจากนี้ยังมีคนดังและคนที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธรุกิจมาที่นี่เพื่อซื้อยาบำรุงร่างกายและยาอายุวัฒนะนอกจากนี้ยังมีเหล่าคุณผู้หญิงและคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง ฯลฯ พวกเธอมาที่นี่เพื่อแย่งชิงยาเสริมความงามโดยเฉพาะเพียงพริบตา สถานที่แห่งนี้ก็ดูยิ่งใหญ่!“ในครั้งนี้ตระกูลซูทุ่มเทมากจริง ๆ!”หลินหว่านชิงประหลาดใจมากเมื่อเธอได้เห็นฉากนี้ดวงตาที่สวยงามของเธอกวาดมองภาพโดยรอบ เห็นว่าคนที่มาร่วมงานในวันนี้แต่ละคนมีแต่ใบหน้าคุ้นตา มีทั้งทายาทสายตรงของตระกูลที่มีอำนาจ นักธุรกิจ คุณผู้หญิงและคุณหนูจากตระกูลชั้นนำต่าง ๆการที่ตระกูลซูสามารถรวบรวมบุคคลสำคัญมากมายในเมืองเจียงเฉิงให้มารวมตัวกันที่นี้ได้ อิทธิพลของพวกเขานั้นชัดเจนว่าไม่ธรรมดาเลย!“นั่นสิ ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่ามันจะได้รับการตอบรับขนาดนี้”ฉินหมิงลอบอุทานในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่าอำนาจของขุมกำลังหนึ่งนั้นแท้จริงแล้วทรงพลังขนาดไหน!ช่างสมคำร่ำลืออย่างแท้จริงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างล้วนมีข้อดีและข้อเสียฉินหมิงรู้ดีแก่ใจว่าที่ครั้งนี้ตระกูลซูเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ เพราะพวกเขาได้วางเดิมพันทุกอย่างกับยาหลอมลมป
“ไอ้หนู แกเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง กล้าดียังไงคิดมาอาจเอื้อมหว่านชิง ช่างเป็นคางคกที่ริอาจอยากกินเนื้อหงส์จริง ๆ!”เค่ออั๋งเยาะเย้ย สีหน้าเขาดูถูกเหยียดหยามมากหลังจากเกิดเรื่องครั้งที่แล้ว เขาก็ได้ส่งคนไปตรวจสอบฉินหมิงอย่างละเอียด และพบว่าฉินหมิงนั้นเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่มีอะไรเลยจริง ๆ แถมยังเคยได้ชื่อว่าเป็นขยะไร้ประโยชน์อีกด้วยอย่างไรก็ตาม ฉินหมิงสามารถปีนขึ้นไปเกาะตระกูลหลิน ตระกูลซู และเฝิงหลุนลูกชายของราชาแดนใต้ได้ยังไงนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป“เป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไหนกัน!”“นายน้อยเค่อ คุณไม่รู้อะไร ไอ้หนูนี่เคยถูกอดีตเมียสวมหมวกเขียวให้มาก่อน ก่อนหน้านี้เคยเป็นข่าวโด่งดังอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถูกไล่ออกจากบ้าน เป็นยิ่งกว่าสุนัขข้างทางที่ไม่มีบ้านให้กลับซะอีก!”“ถ้าฉันต้องใช้ชีวิตขยะเหมือนเขา ฉันซื้อเต้าหู้สักก้อนแล้วเอาหัวโขกให้ตายดีกว่า!”ทันใดนั้นเสียงกระแนะกระแหนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ลี่หย่งเจี๋ยลูกชายของราชาแดนเหนือเดินเข้ามาพร้อมกับคนของเขาหลายคน มองมาที่ฉินหมิงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร“ที่แท้ไอ้หนูนี่ก็เป็นเด็กกำพร้า!”“แถมยังเป็นเต่าสวมหมวกเขียวที่เคยผ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ