“ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ร้ายฉินยังเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง เขากับพี่ ชายโสดหญิงสาวอยู่ในห้องด้วยกันเพียงลำพัง จะทนไหวได้ยังไง!”“โอ้...ไม่สิ จะเรียกว่าสัตว์ร้ายฉินไม่ได้อีกแล้ว จากนี้ไปฉันต้องเปลี่ยนไปเรียกว่าพี่เขยถึงจะถูกสินะ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดพร้อมกับขยิบตาให้ฉินหมิง รอยยิ้มฉายชัดเต็มใบหน้าของเธอ “พี่เขย ฉันพูดถูกไหมคะ?”“อื้ม มีเหตุผลมาก!”ฉินหมิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ถูกเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเรียกว่าพี่เขยคำหนึ่งแบบนี้ มันได้ผลกับเขามากจริง ๆอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดในอีกแง่หนึ่ง เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติ แบบนี้ไม่เท่ากับยอมรับว่าตัวเองทนไม่ไหวหรอกเหรอ?“พวกเธอ...”หลินหว่านชิงถลึงตาจ้องฉินหมิงอย่างดุร้าย รู้สึกเขินอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เธออยากจะหาหลุมบนพื้นแล้วมุดเข้าไปเสียเดี๋ยวนั้น“เอาล่ะ พี่สาว พี่เขย ที่ฉันเข้ามาก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะพูดกับพวกคุณสองคน!”“วันนี้เรายังไม่ได้เริ่มบ่มเพาะกันเลยนะ เรารีบฝึกกันเถอะ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเร่งเร้าอย่างอดทนไม่ไหวแล้ว ในที่สุดก็เปิดเผยความตั้งใจของเธอ“เธอกระตือรือร้นในเรื่องการบ่มเพาะจริง ๆ นะ!”ฉินหมิงกลอกตาแล้
ซุนลี่จ้งโกรธมาก เขายกมือขึ้น กะจะตบหน้าหม่าลู่อีกสองสามฉาด“พ่อครับ หยุดเถอะ...”ในตอนนี้เอง เสียงแผ่วเบาก็ดังมาจากเตียงผู้ป่วย เรียกสติของซุนลี่จ้งกลับมา“กวนชง แกตื่นแล้วเหรอ?”“แก...ตอนนี้แกรู้สึกยังไงบ้าง?”ซุนลี่จ้งระงับความโกรธในใจของเขาแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว“ผม…”ซุนกวนชงอ้าปาก เขาจำได้ว่าตัวเองถูกฉินหมิงทำให้พิการแล้ว ในใจจึงอดไม่ได้รู้สึกเศร้าและสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด“กวนชง ฉันรู้ว่าตอนนี้แกกำลังเสียใจมาก”“แกวางใจเถอะ ต่อให้ฉันต้องแลกด้วยทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซุนของเรา ฉันก็จะสับไอ้เด็กฉินหมิงนั่นเป็นชิ้น ๆ ล้างแค้นให้กับแกอย่างแน่นอน!”ซุนลี่จ้งตบโต๊ะ พูดพลางกัดฟันกรอด“พ่อครับ อย่า...”ซุนกวนชงตกใจมาก ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำแล้วถ้าอาการบาดเจ็บของเขาไม่รุนแรงขนาดนี้ เขาคงจะกระโดดลงจากเตียงไปนานแล้ว“กวนชง แกเป็นอะไรไป?”สีหน้าของซุนลี่จ้งดูสับสนและประหลาดใจมาก“พ่อครับ พ่อไม่รู้อะไร แม้ว่าฉินหมิงนั่นจะเป็นเด็กกำพร้า แต่เขาก็สามารถปีนขึ้นไปผูกมิตร กับเฝิงหลุนลูกชายของราชาแดนใต้ ตระกูลซู และตระกูลหลินในเวลาเดียวกันได้..."“เพื่อปกป้องเขา
“พ่อครับ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผมก็ตาสว่างขึ้นมาก”“แขนเล็ก ๆ ไม่อาจงัดกับท่อนขาใหญ่ได้ พวกเราหยุดกันแค่นี้เถอะ ผมไม่อยากให้ทั้งตระกูลซุนของเราถูกฝังไปพร้อมกับผม!”“นอกจากนี้ ฉินหมิงนั่นยังล่วงเกินนายน้อยลี่ลูกชายของราชาแดนเหนือและคุณชายใหญ่ตระกูลเค่อไปแล้ว นายน้อยลี่และคุณชายใหญ่เค่อจะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่นอน เราอย่าดึงปัญหามาให้ตัวเองอีกเลย…”ซุนกวนชงพูดอย่างใจเย็นครั้งนี้ หลังจากรอดพ้นจากประตูนรกมาได้ สภาพจิตใจของเขาก็เติบโตขึ้นมากแม้ว่าฉินหมิงจะทำลายเขา แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ด้วยอำนาจและความมั่งคั่งของตระกูลซุน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นผู้ชายได้อีกตลอดชีวิต แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถอยู่รอดและใช้ชีวิตอย่างรุ่งโรจน์และมั่งคั่งต่อไปได้!ดังสุภาษิตที่ว่า ตายอย่างปลอดโปร่งไม่สู้หน้าด้านอยู่ต่อไปเรื่องต่าง ๆ ได้ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่อยากทำลายชีวิตรุ่งโรจน์ที่เหลือของตัวเองเพราะความโง่เขลาอีก นี่ไม่เป็นผลดีต่อเขาเลยสำหรับเรื่องแก้แค้น เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะฉินหมิงได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงคาดหวังกับลี่หย่งเจี๋ยและเค่ออั๋งเท่านั้นเขาเชื่อว่าด้วยสถานะของพว
บางทีนี่อาจเป็นการลงทัณฑ์ที่พระเจ้าทรงมีต่อเธอ!......สองวันถัดมาจู่ ๆ ตระกูลซูก็ประกาศข่าวหนึ่งที่ทำเอาทั้งเมืองโกลาหล พวกเขากำลังเตรียมจัดตั้งบริษัทยาแห่งใหม่ที่ชื่อว่าหมิงเหยากรุ๊ป เข้าสู่วงการเภสัชกรรมโดยสมบูรณ์พิธีเปิดหมิงเหยากรุ๊ปนั้นมีกำหนดจัดขึ้นในอีกสามวันหลังจากนี้ และเม็ดยาที่พวกเขาจะจัดจำหน่ายในงาน ประกอบด้วยเม็ดยาหลอมลมปราณ ยาเสริมความงาม ยาอายุวัฒนะและอื่น ๆ แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นยาสามชนิดนี้นอกจากนี้ ตระกูลซูไม่เพียงแต่ใช้ช่องทางต่าง ๆ ในการโปรโมตบริษัทนี้เท่านั้น พวกเขายังส่งคำเชิญไปยังตระกูลซึ่งเป็นขุมกำลังใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง เชิญชวนทุกคนให้เข้าร่วมพิธีเปิดในวันนั้นด้วยทันทีที่มีข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ก็ทำให้เกิดความโกลาหลใหญ่ในเจียงเฉิงทันทีขุมกำลังใหญ่ทั้งหลายไม่สนใจว่าตระกูลซูจะก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาหรือเปล่า สิ่งที่พวกเขาสนใจคือยาหลอมลมปราณที่ตระกูลซูโฆษณาว่าสามารถช่วยผู้ฝึกยุทธยกระดับการบ่มเพาะของตัวเองได้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกใจอย่างแท้จริง!เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าโฆษณาเชิญชวนนี้ของตระกูลซูนั้นจริงเท็จกี่ส่วน หรือจงใจสร้างเรื่องขึ้นมา
หลินเถิงฮุ่ยเป็นทายาทคนแรก ควบคู่กับตำแหน่งผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของตระกูลหลิน เขาจึงเป็นผู้นำในหมู่ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลหลินและมีสถานะสูงส่งกว่าทายาทสายตรงรุ่นที่สามของตระกูลหลินมากการที่นายท่านหลินมอบหมายให้เขาไปร่วมพิธีเปิดหมิงเหยากรุ๊ปด้วยตัวเองแบบนี้ ถือว่าได้ให้หน้าตระกูลซูมากพอแล้ว!“อื้ม ผมเข้าใจแล้วครับพ่อ”หลินเถิงฮุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงลังเลใจนิดหน่อย "พ่อครับ มีอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้หว่านชิงนำกองกำลังส่วนหนึ่งของเราไปช่วยเหลือไอ้เด็กฉินหมิงนั่น นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย..."หลินเถิงฮุ่ยอึกอัก สีหน้าของเขาดูไม่พอใจเล็กน้อยเขารู้ว่าหลินหว่านชิงใช้อำนาจของตระกูลหลินช่วยฉินหมิงตามหาใครคนหนึ่ง แต่เขาไม่รู้รายละเอียดโดยเฉพาะอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดก็คือหลินหว่านชิงมีนิสัยดื้อรั้น เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไร เธอจึงไม่ค่อยจะพึ่งพาตระกูลหลินแต่คราวนี้หลินหว่านชิงถึงกับแหกกฎของตัวเองเพื่อฉินหมิง!ความรู้สึกของเขา ใครก็ยากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ!“มีเรื่องแบบนี้ด้วย?”นายหลินรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆเ
“ยาหลอมลมปราณเหรอ?”“ตระกูลซูกำลังทำอะไรอยู่? พวกเขาสามารถหลอมยาที่ยกระดับและเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะให้กับผู้ฝึกยุทธได้จริง ๆ เหรอ?”เฝิงเจิ้นเซิงมองดูเทียบเชิญในมือด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจมาก“พ่อครับ นี่เป็นเรื่องจริงนะ ยาหลอมลมปราณนั่นผมเคยใช้มันมาก่อนแล้ว และผลของมันก็ดีมากจริงๆ!”เฝิงหลุนพูดด้วยดวงตาเป็นประกายนับตั้งแต่ที่เขาได้ใช้ยาหลอมลมปราณชั้นยอดไปเมื่อครั้งที่แล้ว เขาก็หมกมุ่นอยู่กับผลของยาหลอมลมปราณและตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว!นี่ยังแสดงให้เห็นทางอ้อมด้วยว่าฉินหมิงไม่ได้โกหกเขา!“ตระกูลซูยังไม่ได้เริ่มวางขายยาหลอมลมปราณอย่างเป็นทางการเลยนี่ แกมีโอกาสใช้มันได้ยังไง?”เฝิงเจิ้นเซิงรู้สึกประหลาดใจ“ฉินหมิงมอบมันให้กับผมครับ”เฝิงหลุนตอบตามความจริง“ฉินหมิงคือใครกัน?”“เขามาจากตระกูลซูเหรอ?”เฝิงเจิ้นเซิงยิ่งสับสนมากขึ้น เขาคิดอย่างรอบคอบแต่ก็จำไม่ได้ว่าตระกูลซูมีคนชื่อฉินหมิงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่ในบรรดาขุมกำลังชั้นนำของเมื่องเจียงเฉิง เขาก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่ชื่อฉินหมิงมาก่อน!“เขาไม่ได้มาจากตระกูลซูครับ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลซูนั้นไม
นอกจากนี้ยังมีคนดังและคนที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธรุกิจมาที่นี่เพื่อซื้อยาบำรุงร่างกายและยาอายุวัฒนะนอกจากนี้ยังมีเหล่าคุณผู้หญิงและคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง ฯลฯ พวกเธอมาที่นี่เพื่อแย่งชิงยาเสริมความงามโดยเฉพาะเพียงพริบตา สถานที่แห่งนี้ก็ดูยิ่งใหญ่!“ในครั้งนี้ตระกูลซูทุ่มเทมากจริง ๆ!”หลินหว่านชิงประหลาดใจมากเมื่อเธอได้เห็นฉากนี้ดวงตาที่สวยงามของเธอกวาดมองภาพโดยรอบ เห็นว่าคนที่มาร่วมงานในวันนี้แต่ละคนมีแต่ใบหน้าคุ้นตา มีทั้งทายาทสายตรงของตระกูลที่มีอำนาจ นักธุรกิจ คุณผู้หญิงและคุณหนูจากตระกูลชั้นนำต่าง ๆการที่ตระกูลซูสามารถรวบรวมบุคคลสำคัญมากมายในเมืองเจียงเฉิงให้มารวมตัวกันที่นี้ได้ อิทธิพลของพวกเขานั้นชัดเจนว่าไม่ธรรมดาเลย!“นั่นสิ ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่ามันจะได้รับการตอบรับขนาดนี้”ฉินหมิงลอบอุทานในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่าอำนาจของขุมกำลังหนึ่งนั้นแท้จริงแล้วทรงพลังขนาดไหน!ช่างสมคำร่ำลืออย่างแท้จริงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างล้วนมีข้อดีและข้อเสียฉินหมิงรู้ดีแก่ใจว่าที่ครั้งนี้ตระกูลซูเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ เพราะพวกเขาได้วางเดิมพันทุกอย่างกับยาหลอมลมป
“ไอ้หนู แกเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง กล้าดียังไงคิดมาอาจเอื้อมหว่านชิง ช่างเป็นคางคกที่ริอาจอยากกินเนื้อหงส์จริง ๆ!”เค่ออั๋งเยาะเย้ย สีหน้าเขาดูถูกเหยียดหยามมากหลังจากเกิดเรื่องครั้งที่แล้ว เขาก็ได้ส่งคนไปตรวจสอบฉินหมิงอย่างละเอียด และพบว่าฉินหมิงนั้นเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่มีอะไรเลยจริง ๆ แถมยังเคยได้ชื่อว่าเป็นขยะไร้ประโยชน์อีกด้วยอย่างไรก็ตาม ฉินหมิงสามารถปีนขึ้นไปเกาะตระกูลหลิน ตระกูลซู และเฝิงหลุนลูกชายของราชาแดนใต้ได้ยังไงนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป“เป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไหนกัน!”“นายน้อยเค่อ คุณไม่รู้อะไร ไอ้หนูนี่เคยถูกอดีตเมียสวมหมวกเขียวให้มาก่อน ก่อนหน้านี้เคยเป็นข่าวโด่งดังอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถูกไล่ออกจากบ้าน เป็นยิ่งกว่าสุนัขข้างทางที่ไม่มีบ้านให้กลับซะอีก!”“ถ้าฉันต้องใช้ชีวิตขยะเหมือนเขา ฉันซื้อเต้าหู้สักก้อนแล้วเอาหัวโขกให้ตายดีกว่า!”ทันใดนั้นเสียงกระแนะกระแหนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ลี่หย่งเจี๋ยลูกชายของราชาแดนเหนือเดินเข้ามาพร้อมกับคนของเขาหลายคน มองมาที่ฉินหมิงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร“ที่แท้ไอ้หนูนี่ก็เป็นเด็กกำพร้า!”“แถมยังเป็นเต่าสวมหมวกเขียวที่เคยผ