หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการต่อสู้นี้ เขาเองก็ได้สั่งสมเส้นสายไว้พอสมควร นอกจากตระกูลเจียแล้วยังมีตระกูลซูและตระกูลโจวที่ความสัมพันธ์ก็ถือว่าไม่เลวโดยเฉพาะตระกูลซู ไม่เพียงแต่มีข้อตกลงที่ดีกับเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทยาอีกด้วยด้วยสายสัมพันธ์ของเขา เขาอาจไม่สามารถแข่งขันกับนายน้อยสายตรงของตระกูลใหญ่ได้ แต่เขาก็ยังไม่สนใจคนชั้นต่ำเช่นนายน้อยโหว!“ความกล้าของฉันก็คือเงินกับอำนาจนี่ไง!”“เมื่อกี้แกทำร้ายคนของฉัน ถือจงใจทำร้ายผู้อื่น ตอนนี้ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”“พอถึงตอนนั้นแกรอตำรวจมาจับแกส่งโรงพักได้เลย!”นายน้อยโหวยกยิ้มและยกมือถือขึ้นมา”คุณนี่จริง ๆ …”“นี่คุณโหว ก็เห็นอยู่ว่าเป็นคนที่หาเรื่องฉินหมิงก่อน ทำไมคุณถึงได้โยนความผิดไปให้ฉินหมิงล่ะ?”“คุณนี่มันหน้าไม่อายจริง ๆ !1หลี่เจียฮุ่ยตกตะลึงและโกรธ เธอเคยเห็นคนไร้ยางอายมาก่อน แต่เธอไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่านายน้อยโหวมาก่อน!“ไม่ว่าใครลงมือก่อน ตามกฏหมายแล้ว คนที่เริ่มทำร้ายคนอื่นจะต้องชดใช้เรื่องค่าหมอค่ายา นี่คือความจริงขั้นพื้นฐานที่สุด! "“แต่คนจน ๆ อย่างมัน ผมเดาได้เลยว่าคงไม่มีเงินชดใช้ คุณรอ
ถึงตอนนั้น ตราบเท่าที่นายน้อยโหวใช้เส้นสายบางอย่าง ในอนาคตไม่แน่ฉินหมิงอาจได้เข้าไปนอนอยู่ในคุกจริง ๆ!“เจียฮุ่ย ไม่ต้องกังวลไปหรอก เขาอยากแจ้งตำรวจก็ปล่อยให้เขาแจ้งไป!”“ฉันอยากจะเห็นเหมือนกันว่าเขามีความสามารถมากแค่ไหน สามารถกลับขาวให้เป็นดำ ปิดท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียวได้จริง ๆ เหรอ!”ฉินหมิงยิ้มอย่างเหยียดหยามสมัยนี้กฎหมายไม่ใช่ของเล่น ๆ ตำรวจมักจะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่อาจจับกุมคนตามอำเภอใจได้คำพูดนี้ของนายน้อยโหวทำได้เพียงข่มขู่คนธรรมดาอย่างหลี่เจียฮุ่ยให้กลัว แต่พวกเขาไม่สามารถทำให้เขากลัวได้!นอกจากนี้เขายังมีเส้นสายบางอย่างอยู่ข้างหลังเขาด้วย ถ้านายน้อยโหวกล้าเล่นสกปรก นั่นเท่ากับรนหาที่ตาย!“ไอ้หนู ฉันให้โอกาสนายแล้ว ในเมื่อนายไม่เห็นค่าของมัน ถ้างั้นจะมาโทษฉันไม่ได้!”นายน้อยโหวหักใจ เตรียมที่จะโทรแจ้งตำรวจ ให้ฉินหมิงได้ลิ้มรสผลที่ตามมาจากการเป็นปฏิปักษ์กับเขา!ในเวลานี้เอง ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้ารวดเร็วดังขึ้น ขัดขวางการกระทำของนายน้อยโหว“ใครกล้ามาก่อปัญหาในโรงแรมของฉัน”“บังอาจมากจริง ๆ!”เสียงตะโกนด้วยความโกรธดังขึ้นจากนั้นชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี สวมชุด
อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าหลี่เจียฮุ่ยและคนอื่น ๆ เขาถูกตบหน้าสองครั้ง เขาจะกล้ำกลืนความโกรธนี้ลงไปได้อย่างไร จึงตะโกนไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า "แกรอก่อนเถอะ พ่อของฉันคือโหวเทียนเฉียว ประธานของโหวเอนเตอร์ไพรส์!”“แกทำร้ายฉันแบบนี้ ถ้าเขารู้ พ่อของฉันจะไม่ปล่อยแกไปอย่างแน่นอน!”“โหวเทียนเฉียวเหรอ? เขาเป็นใคร?”ชายวัยกลางคนยิ้ม "ไอ้หนู อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสแก โทรหาโหวเทียนเฉียวนั่นตอนนี้เลย ฉันอยากจะเห็นเหมือนกันว่าเขาจะทำอะไรฉันจ้าวหงเซิงได้!"“ได้ แกพูดเองนะ มาดูกัน!”นายน้อยโหวดีใจมาก รีบหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรหาพ่อของเขาแต่ในเวลานี้เอง บอดี้การ์ดทั้งสองที่นอนอยู่บนพื้นไม่อาจเสแสร้งได้อีกต่อไป พวกเขารีบลุกขึ้นมาจากพื้น“นายน้อยโหว อย่า...”เมื่อได้ยินชื่อจ้าวหงเซิง บอดี้การ์ดทั้งสองก็สีหน้าเปลี่ยนไปและรีบพูด หยุดการกระทำของนายน้อยโหว“พวกแกสองคนหยุดฉันทำไม”นายน้อยโหวตวาดด้วยท่าทางไม่ชอบใจบอดี้การ์ดทั้งสองคนนั้นมีสีหน้าดูหวาดกลัว พวกเขารีบอธิบายว่า "นายน้อยโหวครับ คุณไม่รู้อะไร ชายคนที่อยู่ตรงหน้าคุณคนนี้คือนายท่านหง พยัคฆ์ขนทองหนึ่งในสี่พยัคฆ์แห่งโลกใต้ดินผู้โด่งดัง เขาไม
“ใครก็ได้ หักขาไอ้เด็กนี่ข้างหนึ่งแล้วโยนเขาออกจากโรงแรมเพื่อเป็นการลงโทษ!”จ้าวหงเซิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใต้ดินให้ความสำคัญกับหน้าตามากที่สุด กับคนที่จงใจมาก่อเรื่องแบบนี้ จำเป็นต้องลงโทษอย่างรุนแรง ไม่อย่างนั้นหากคนอื่นลอกเลียนแบบและทำตาม ก่อเรื่องเสร็จจ่ายเงินแล้วสะบัดก้นเดินจากไปง่าย ๆถึงตอนนั้น เขาพยัคฆ์ขนทองยังจะเหลืออำนาจและความน่าเกรงขามอะไรอีก จะใช้อะไรมาทำให้ตัวเองยืนหยัดในโลกใต้ดินได้อีก!คำสั่งของจ้าวหงเซิงเพิ่งจะสั่งไป อันธพาลสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็แสยะยิ้มแล้วเดินขึ้นไปหานายน้อยโหว“ไม่…”นายน้อยโหวรู้สึกหวาดกลัวมาก แต่ทันใดนั้นเองความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจเขา“นายท่านหงครับ ฟังผมอธิบายก่อน…”“แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นคนของผมที่พังประตู แต่ผู้ร้ายตัวจริงคือเด็กที่ชื่อฉินหมิงต่างหาก ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขา…”นายน้อยโหวชี้นิ้วไปทางฉินหมิง รีบโยนความผิดทั้งหมดใส่หัวฉินหมิงทันทีอันที่จริงสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้องแล้ว เป็นเพราะฉินหมิงล้มบอดี้การ์ดสองคนของเขา ประตูห้องส่วนตัวถึงถูกพัง เรื่องนี้ฉินหมิงไม่อาจสลัดพ้นได้!“มือข้างเดียวตบไม่ดังหรอก
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาจะเห็นการข่มขู่ของจ้าวหงเซิงอยู่ในสายตาได้อย่างไร!“ไอ้หนู ความตายอยู่ตรงหน้าแล้วยังกล้าปากแข็ง แกใจกล้ามากจริง ๆ แต่ก็โง่มากเหมือนกัน!”“จัดการซะ!”“ลงมือกับไอ้เด็กคนนี้ก่อน หักขาเขาแล้วโยนออกไป!”จ้าวหงเซิงโกรธมาก เขาโบกมือครั้งเดียว อันธพาลหลายคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบวิ่งขึ้นไปหาฉินหมิงอย่างดุร้าย“เด็กนี่จบสิ้นแล้ว!”“สมน้ำหน้าจริง ๆ!”นายน้อยโหวมีความสุขบนความสุขของผู้อื่น ในใจอดไม่ได้ภาวนาให้คนของจ้าวหงเซิงสั่งสอนฉินหมิงหนัก ๆ เขาจะได้ระบายความโทสะของตนด้วยส่วนชะตากรรมของตัวเองในอนาคตจะเป็นยังไงนั้น เขาไม่กังวลตราบเท่าที่จ้าวหงเซิงระบายความโกรธใส่ฉินหมิงเสร็จแล้ว เขาจะโทรหาพ่อเขาให้ตาแก่นั่นออกหน้า ถือโอกาสสร้างเส้นสายใหม่จ้าวหงเซิงคลายความโกรธแล้ว หน้าตาก็รักษาไว้ได้แล้ว มีความเป็นไปได้กว่าครึ่งที่เขาจะปล่อยเขาไป!“สวรรค์ทำชั่วอาจอยู่รอดได้ คนทำชั่วไม่อาจรอดพ้นกรรม!”เจียงหลานและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและถอนหายใจ มองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาสงสารแม้ว่าเมื่อสักครู่นี้พวกเขาจะเห็นทักษะยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมของฉินหมิงแล้วว่าเขาสามารถอาศัย
“งั้นเหรอ? งั้นเราก็มารอดูกัน!”“ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าอาศัยร่างเล็ก ๆ ของเขา จะรับหมัดของนายท่านหงได้ยังไง!”นายน้อยโหวเยาะเย้ยเจียงหลานและคนอื่น ๆ เองก็พยักหน้าเห็นด้วยพวกเขาทั้งหมดได้เห็นกับตาตัวเองเมื่อสักครู่นี้แล้วว่าฝ่ามือของจ้าวหงเซิงนั้นทรงพลังมากแค่ไหน ท้ายที่สุดร่างกายของฉินหมิงก็ถูกสร้างขึ้นจากเลือดและเนื้อ ไม่ว่าจะถูกต่อยตรงจุดใด อย่างน้อยเขาก็น่าจะกระดูกหัก!นอกเสียจากจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นฉินหมิงไม่มีทางสกัดกั้นหมัดของจ้าวหงเซิงได้!อย่างไรก็ตาม ไม่ทันรอให้พวกเขาได้คิดจนจบ ฉากต่อมาก็ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้านเห็นเพียงว่าฉินหมิงไม่เคลื่อนตัวจากจุดที่ยืนอยู่เลย เพียงยื่นมือไปข้างหน้าและคว้าหมัดของจ้าวหงเซิงไว้ด้วยมือของเขาไม่ว่าจ้าวหงเซิงจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะการออกแรง เขาก็ไม่อาจชักมือกลับจากมือของฉินหมิงได้!“สี่พยัคฆ์แห่งโลกใต้ดินที่แท้ก็แค่นี้!”ฉินหมิงยิ้มเยาะเบา ๆ บิดตัวแล้วยกเท้าเตะไปที่หน้าอกของจ้าวหงเซิง ร่างของจ้าวหงเซิงก็กระเด็นปลิวออกไปโดยตรงตู้ม!ร่างของจ้าวหงเซิงกระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรง โต๊ะไม
จ้าวหงเซิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขามองออกลาง ๆ ว่าฉินหมิงดูระแวดระวัง จึงยิ่งรู้สึกมั่นใจมากขึ้น “พูดได้ดี!”“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร กล้าต่อต้านพ่อของฉัน นั่นเท่ากับกำลังรนหาที่ตาย!”ในขณะนี้เอง ก็มีเสียงเยาะเย้ยเสียงหนึ่งดังขึ้นหลังจากนั้น ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบสามหรือยี่สิบสี่ปีก็เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวจากด้านนอกพร้อมกับลูกน้องสองสามคนชายหนุ่มคนนี้ หล่อเหลาและดูสง่างามมาก ดูจากภายนอกเหมือนจะเป็นคนอ่อนโยน แต่บรรยากาศที่แผ่ออกมารอบตัวเขานั้นกลับคมกริบและดุร้ายเหมือนดาบที่ชักออกมาจากฝัก ทั้งคมและยากที่จะต้านทานได้เขาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือเฝิงหลุน ลูกชายของราชาแดนใต้“นายน้อยเฝิง คุณมาได้จับจังหวะดีจริง ๆ!”จ้าวหงเซิงใบหน้าแสดงออกว่ามีความสุขมาก รีบก้าวไปข้างหน้า โค้งคำนับและทักทายเขาด้วยความเคารพ“นายเป็นใคร?”ฉินหมิงมองไปที่เฝิงหลุน สีหน้าดูสับสน“ไอ้หนู เงี่ยหูของแกแล้วตั้งใจฟังให้ดี นี่คือลูกชายสายตรงของราชาแดนใต้ของเรา นายน้อยเฝิงหลุน!”จ้าวหงเซิงพูดอย่างภาคภูมิใจ“ลูกชายของราชาแดนใต้?”ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจมากคนอื่น ๆ อย่างนายน้อยโหวและเจียงหลานเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
ในเวลานี้เอง จู่ ๆ ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลังของเฝิงหลุนชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือพยัคฆ์ภูเขาเนี่ยอู๋!“นายน้อยเฝิง ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ”“ผมขอแนะนำให้คุณรู้จัก นี่คือนายน้อยฉิน เขาก็คือนายน้อยฉินหมิงคนนั้นที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้!”“เขาไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เท่านั้น ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อีกด้วย”“คุณชายใหญ่ของตระกูลซูซูห่าวและคุณหนูใหญ่ซูซินเหยา ล้วนเป็นเพื่อนของเขา” เนี่ยอู๋แนะนำ“ว่าไงนะ?”“เขาก็คือนายน้อยฉินคนนั้น!”เฝิงหลุนตกใจมากหลายคนรู้ดีว่าระดับลมปราณของเนี่ยอู๋ก่อนหน้านี้อยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างเท่านั้น แต่ครั้งก่อนที่เขาขัดแย้งกับเสือมีปีกหลัวซื่อฉง ระดับลมปราณของเขากลับพุ่งพรวดขึ้นมา เลื่อนขึ้นไปอยู่ในขั้นกลางระดับสวรรค์ประทานแล้วในเวลาเพียงไม่กี่วัน ระดับการบ่มเพาะของเนี่ยอู๋ก็ทะลวงขึ้นมาถึงสองขั้นติด นี่เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากสำหรับผู้ฝึกยุทธ!หลังจากที่เฝิงหลุนรับรู้เรื่องนี้ เขาก็เริ่มสนใจทันทีเขาโทรหาเนี่ยอู๋อย่างไม่รอช้าเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากคำบอกเล่าของเนี่ยอู๋ เขารู