“ต้องจ่ายมาหกสิบล้านสิ!”“ถ้าไม่ได้ ตระกูลซุนก็ไปจ้างคนอื่นเถอะ”ทัศนคติของหลัวซื่อฉงมั่นคง"ตกลง"ซุนลี่จ้งลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าเงินจำนวนหกสิบล้านจะไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย แต่สำหรับซุนเอนเตอร์ไพรส์แล้ว แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกตราบใดที่การกำจัดฉินหมิงทำให้อารมณ์ของสองพ่อลูกดีขึ้นมาได้ ยอมจ่ายแพงหน่อยก็ถือว่าคุ้มค่า!“คุณหลัว มีบางอย่างที่จะต้องเตือนคุณว่าศิลปยุทธของฉินหมิงนั้นน่าประทับใจมากและเขาก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ ด้วย”“แต่เขาเพิ่งมีคนรักใหม่ หากเราจะจัดการเขาให้ได้ง่าย ๆ เราควรเริ่มจากการจัดการคนรักของเขาก่อน...”ซุนกวนชงลังเลอยู่ครู่หนึ่งและบอกหลัวซื่อฉงเกี่ยวกับสถานการณ์ของหลี่เจียฮุ่ย"เอาล่ะ เยี่ยมมาก นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก!"“ซุนกวงชง ขอบคุณที่ให้คำแนะนำอันมีค่าเช่นนี้ ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดการเด็กคนนั้นให้ดี และสัญญาว่าจะไม่ทำให้นายผิดหวัง!”หลัวซื่อฉงหัวเราะโลภมากลาภหาย!ผู้คนโลกในใต้ดินให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เสมอ และไม่แปลกที่พวกเขาจะยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์ และข้อเสนอของซุนกวนชงก็เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องก
"ถ้าอยากจะขอบคุณฉันจริง ๆ แล้วก็อนาคตถ้าได้หัวใจเธอไว้ในครอบครอง ก็ช่วยดูแลเธอให้ดีและอย่าทำให้เธอผิดหวังเสียใจก็แล้วกัน!”ดวงตาที่สวยงามของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลายเป็นรอยยิ้มรูปพระจันทร์เสี้ยวเหตุผลที่เธอช่วยฉินหมิงหลายต่อหลายครั้งก็เพราะเธอได้เห็นแล้วว่าหลินหว่านชิงมีความรู้สึกดี ๆ ต่อฉินหมิง และโดยส่วนตัวแล้วเธอก็รู้สึกว่าฉินหมิงค่อนข้างเป็นคนดีและลูกพี่ลูกน้องของเธอก็แทบจะเรียกได้ว่าอยู่สูงเกินเอื้อมสำหรับเขาไม่อย่างนั้นต่อให้เธอจะโง่เขลาแค่ไหน เธอก็ไม่มีทางขายลูกพี่ลูกน้องของเธอไปง่าย ๆ!“ไม่ต้องห่วง การดูแลเธอเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แล้วผมจะทำให้ผิดหวังได้ยังไง !”ใบหน้าของฉินหมิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ“จำสิ่งที่พูดวันนี้เอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน!”“ถ้าในอนาคตนายกล้ารังแกลูกพี่ลูกน้องของฉันขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนมาฆ่านายคนแรก!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโบกหมัดของตัวเองไปมา พยายามแสดงท่าทางข่มขู่รุนแรงกับชายหนุ่มในขณะนี้หลินหว่านชิงซึ่งกำลังเดินไกลออกไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอหันกลับมาและมองที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและฉินหมิงอย่างแปลกประหลาด “เสี่ยวเตี
ผู้หญิงเราก็ควรดูแลตัวเองสักหน่อย!ฉินหมิงกำลังจะมาหาเธอในไม่ช้า และเธอต้องการเผยให้อีกฝ่ายเห็นด้านที่ดีที่สุดและเผยให้เห็นใบหน้ามุมที่สวยงามที่สุดออกไปด้วยแต่เหตุใดเธอถึงคิดแบบนั้น เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นเพราะผู้หญิงทุกคนต่างรักสวยรักงามด้วยกันทั้งนั้น!ในขณะนี้คุณนายหลี่เดินเข้ามาในห้องนอนและมองลูกสาวของเธอด้วยสายตาแปลก ๆ “เจียฮุ่ย ลูกไม่ชอบแต่งหน้าบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว ทำไมจู่ ๆ ถึงแต่งหน้าได้ล่ะ?”“หรือว่าลูกมีแผนจะออกไปทำอะไรสักอย่างข้างนอกหรือเปล่า?”คุณนายหลี่ถามด้วยความสับสน“เปล่าค่ะ แต่เดี๋ยวเพื่อนจะมาหา”หลี่เจียฮุ่ยยิ้มเบา ๆ และกล่าว"เพื่อน?"“ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จิตใจของคุณนายหลี่กระตุกวูบ"ผู้ชายค่ะ"หลี่เจียฮุ่ยไม่คิดมากและไม่คิดจะตอบอะไรให้มากความ“เขาเป็นแฟนลูกหรือเปล่า?”“มีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่วงหน้าบ้างล่ะ?”ดวงตาของคุณนายหลี่เป็นประกายทันที ในตาแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างไม่ปิดบังใบหน้าสวยของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง “แม่คะ แม่คิดเยอะเกินไปแล้ว หนูยังไม่มีแฟน ฉินหมิงเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั
ที่ชั้นล่างหลีเจียฮุ่ยที่รอไม่นานนักก็เห็นฉินหมิงขี่รถมอเตอร์ไซค์ช้า ๆ มาจากระยะไกล“ฉินหมิง ฉันอยู่ตรงนี้”หลี่เจียฮุ่ยแสดงรอยยิ้มอันเงียบสงบบนใบหน้าที่สวยงามของเธอและโบกมือให้ฉินหมิงฉินหมิงยิ้มตอบรับและจอดรถไปที่ด้านหน้าของหลีเจียฮุ่ย“เจียฮุ่ย นี่คือแบรนด์เวชสำอางของอาร์ทิสทรีกรุ๊ป ฉันมอบให้เธอ”ฉินหมิงหยิบเครื่องสำอางพิเศษออกมาสองชุดแล้วมอบให้กับหลี่เจียฮุ่ย“ขอบใจนะ”หลี่เจียฮุ่ยรับเวชสำอางนั้นไว้ ในหัวสมองก็หยุดคิดถึงครั้งที่แล้วเรื่องที่ตัวเองกับเขาไปกินข้าวเดินเล่นห้างด้วยกันไม่ได้ มันมีความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาในใจเธออยู่เสมอเมื่อก่อนเธอคิดเสมอว่าฉินหมิงเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอเสมอมา แต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดเกินเลยฉันท์ชู้สาวแต่ว่าครั้งนี้หลักจากที่จากกันไปนาน ตอนนี้ฉินหมิงเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว อีกทั้งด้านวิชากังฟูยังเปลี่ยนเป็นเก่งมากขึ้นอีกด้วย เขาคอยปกป้องเธอเสมอในห้างสรรพสินค้า ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องการอย่างหนึ่ง ซึ่งตัวเธอเองก็เหมือนกันโดยเฉพาะคำพูดของแม่เมื่อกี้ เหมือนว่าช่วยเค
หลี่เหวินไห่ทักทายฉินหมิงอย่างอบอุ่นและนั่งลงบนโซฟาหลังจากคำพูดสุภาพง่าย ๆ ไม่กี่คำจากทั้งสองฝ่าย“ฉินหมิงป้ามีสองสามคำถามอยากจะถามหน่อยน่ะจ้ะ”“ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนที่ไหน พ่อแม่ทำงานอะไรเหรอจ๊ะ”เจียงหลานถามเข้าตรงประเด็นทันที“ผมเป็นเด็กกำพร้าน่ะครับ เติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเจียงเฉิง…”ฉินหมิงพูดตอบ อารมณ์ค่อนข้างหดหู่“เด็กกำพร้าอย่างนั้นเหรอ?”หลี่เหวินไห่กับเจียงหลานสองสามีภรรยาถึงกับชะงัก รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาแข็งทื่อทันที“อย่างนั้นเธอทำงานอะไรล่ะ?”เจียงหลานยังไม่ลดละในการถามแม้ว่าฉินหมิงจะเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีครอบครัวอะไรทั้งนั้นแต่ถ้าฉินหมิงมีการงานที่ดี เงินเดือนและตำแหน่งค่อนข้างสูง และมีโอกาสที่ดีสำหรับการพัฒนาในอนาคต ซึ่งเธอก็กัดฟันยอมรับได้“ปัจจุบันผมทำงานเป็นเลขานุการประธานบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่งน่ะครับ”ฉินหมิงตอบตามความจริงเจียงหลานรู้ว่าเลขานุการเป็นเพียงตำแหน่งเล็ก ๆ และไม่สามารถมีเงินเดือนที่สูงได้ ไม่ต้องพูดถึงโอกาสในการพัฒนาที่ดี ตอนนี้ในใจเธอเย็นวาบไปทั้งซีกแล้ว “อย่างนั้นเธอมีบ้านมีรถหรือเปล่า?”“ไม่มีครับ ผมยังไม่ได้ซื้อครับ”ฉิ
เจียงหลานที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ในใจของเธอ เธอจำแนกฉินหมิงทันทีว่าเป็นคนเลวที่รู้วิธีแสดงความรุนแรงเท่านั้นหลี่เจียฮุ่ยก็รู้ได้ว่าแม่ตัวนั้นได้เข้าใจผิด จึงรีบพูดแก้ต่างทันที “แม่คะ เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิดแบบนั้นหรอกนะคะ…”“จริง ๆ แล้ว ฉินหมิงเองก็ไม่ได้ไม่มีเงินเลยนะคะ เขาก็คงพอมีเงินเก็บสะสมอยู่บ้าง”“ครั้งที่แล้วเสื้อผ้าที่ดูแพง ๆ ในห้างก็เป็นเขาที่ซื้อให้หนูนะคะ ครั้งนั้นเขาจ่ายไปตั้งหลายแสน…”หลี่เจียฮุ่ยได้พูดเรื่องที่ฉินหมิงซื้อเสื้อผ้าให้ออกมา ต้องการจะพูดโน้มน้าว“โอ้ อย่างนั้นเหรอ?”“แล้วเขาเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะกันล่ะ”เจียงหลานถึงกับตกใจ สีหน้าดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย คนฐานะอย่างฉินหมิงยอมซื้อของแพง ๆ ให้ลูกสาวตน อย่างน้อยก็ถือว่าจริงใจกับลูกสาวตนเองหน่อย“เป็นเงินที่เขาได้จากการพนันหยกดิบมาน่ะค่ะ…”หลี่เจียฮุ่ยตอบอย่างใจจริง เมื่อกี้ที่เธอพูดไปเธอสัมผัสได้ว่ามันไม่ถูกต้อง เธอจึงรีบหุบปากลง แต่น่าเสียดายที่มันสายไปเสียแล้ว“อะไรนะ?”“ที่แท้ก็เป็นนักพนันอย่างนั้นเหรอ!”เจียงหลานถึงกับโกรธขึ้นหน้าแม้แต่หลี่เจียฮุ่ยเองที่เป็นเด็กยุคใหม่ก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคื
ฉินหมิงที่เห็นที่บรรยากาศชักจะไม่ดี เลยรีบขอตัวลา“วันนี้วันหยุดไม่ต้องทำงาน นายยังจะมีธุระอะไรสำคัญอีก”“ไม่รู้ล่ะ นายต้องทานข้าวเที่ยงก่อน แล้วค่อยไป”หลี่เจียฮุ่ยกึ่งพูดกึ่งสั่ง“งั้น…ก็ได้”ฉินหมิงจำต้องยอมลูกตื้อของหลี่เจียฮุ่ยอย่างเลี่ยงไม่ได้“รอเดี๋ยว ฉันกับพ่อแกจะไปด้วย!”พอเห็นหลี่เจียฮุ่ยจับมือฉินหมิงเตรียมจะออกจากบ้านแล้ว เจียงหลานก็ขยิบตาให้หลี่เหวินไห่ และทั้งคู่ก็เดินตามออกไปหลังจากการสนทนาในห้องนอนเมื่อกี้นี้ เจียงหลานก็ได้เข้าใจผิดว่าฉินหมิงเป็นคนไม่ดี ตอนนี้ใจเธอเต็มไปด้วยความระแวดระวังฉินหมิง และแน่นอนว่าเธอกังวลเกี่ยวกับลูกสาวของเธอที่จะออกไปข้างนอกตามลำพังกับฉินหมิงจากพวกเขาก็ได้มาที่ชั้นล่างหลี่เจียฮุ่ยขับรถพาฉินหมิงและเจียงหลานไปยังย่านการค้าใกล้เคียงและมาถึงโรงแรมที่หรูหราที่สุด“นี่เจียฮุ่ย แกหาร้านข้างทางกินก็พอแล้ว แกจะมาที่ร้านหรู ๆ แบบนี้ทำไมกัน?”สีหน้าของเจียงหลานดูไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก“ฉินหมิงอุตส่าห์มาเป็นแขกบ้านเราครั้งแรก ก็ต้องเลือกมาทานร้านหรู ๆ ให้สมกับเขาหน่อยสิคะ”หลี่เจียฮุ่ยพูดอย่างมั่นใจฉินหมิงไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนที่ดีที
“เสี่ยวเยี่ยน ไม่ทราบว่าแฟนของหนูทำงานอะไรเหรอจ๊ะ?”เจียงหลานอดไม่ได้ที่จะถาม“ที่บ้านเขาเปิดบริษัทนะคะ ทรัพย์สินมีมูลค่าประมาณห้าร้อยถึงหกร้อยล้านเท่านั้นเองน่ะค่ะ”หลี่เยี่ยนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ“ห้าร้อยถึงหกร้อยล้านอย่างนั้นเหรอ?”หลี่เหวินไห่และเจียงหลานถึงกับตะลึง สำหรับพวกเขาแล้วคนที่มีทรัพย์สินไม่กี่ร้อยล้านถึงจะนับว่าเป็นคนมีเงินจริง ๆ “เจียฮุ่ย แกดูพี่เขาสิ อายุพี่เขาก็แก่กว่าแกไม่มาก เขายังหาแฟนที่ดีมากขนาดนี้ได้เลย”“แต่ดูแกสิ จนถึงตอนนี้แม้แต่แฟนสักคนก็ยังไม่มี!”“ต่อไปแกต้องเอาตามอย่างพี่เขาซะบ้าง!”เจียงหลานมองหลี่เจียฮุ่ยอย่างอารมณ์เสีย ในใจไม่พอใจลูกสาวขึ้นไปอีกลูกสาวตนเก่งไปหมดซะทุกด้าน สวยก็สวยกว่าหลี่เยี่ยนเธอเองก็ไม่ได้หวังว่าลูกสาวจะต้องหาแฟนผู้ชายรวย ๆ อย่างที่หลี่เยี่ยนมี แต่อย่างน้อยก็ควรที่จะหาชายหนุ่มที่รากฐานที่ดีบ้างแต่ลูกสาวกับทำงามหน้า มีผู้ชายดี ๆ มาจีบกลับไม่เอา ดันเอาคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าซะอย่างนั้นในใจเธอไม่พอใจอย่างมาก!“แม่ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องพรหมลิขิตนะคะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่หา แต่แค่ตอนนี้มันยังไม่เจอที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง”หลี่เจี