ผู้หญิงเราก็ควรดูแลตัวเองสักหน่อย!ฉินหมิงกำลังจะมาหาเธอในไม่ช้า และเธอต้องการเผยให้อีกฝ่ายเห็นด้านที่ดีที่สุดและเผยให้เห็นใบหน้ามุมที่สวยงามที่สุดออกไปด้วยแต่เหตุใดเธอถึงคิดแบบนั้น เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นเพราะผู้หญิงทุกคนต่างรักสวยรักงามด้วยกันทั้งนั้น!ในขณะนี้คุณนายหลี่เดินเข้ามาในห้องนอนและมองลูกสาวของเธอด้วยสายตาแปลก ๆ “เจียฮุ่ย ลูกไม่ชอบแต่งหน้าบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว ทำไมจู่ ๆ ถึงแต่งหน้าได้ล่ะ?”“หรือว่าลูกมีแผนจะออกไปทำอะไรสักอย่างข้างนอกหรือเปล่า?”คุณนายหลี่ถามด้วยความสับสน“เปล่าค่ะ แต่เดี๋ยวเพื่อนจะมาหา”หลี่เจียฮุ่ยยิ้มเบา ๆ และกล่าว"เพื่อน?"“ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จิตใจของคุณนายหลี่กระตุกวูบ"ผู้ชายค่ะ"หลี่เจียฮุ่ยไม่คิดมากและไม่คิดจะตอบอะไรให้มากความ“เขาเป็นแฟนลูกหรือเปล่า?”“มีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่วงหน้าบ้างล่ะ?”ดวงตาของคุณนายหลี่เป็นประกายทันที ในตาแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างไม่ปิดบังใบหน้าสวยของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง “แม่คะ แม่คิดเยอะเกินไปแล้ว หนูยังไม่มีแฟน ฉินหมิงเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั
ที่ชั้นล่างหลีเจียฮุ่ยที่รอไม่นานนักก็เห็นฉินหมิงขี่รถมอเตอร์ไซค์ช้า ๆ มาจากระยะไกล“ฉินหมิง ฉันอยู่ตรงนี้”หลี่เจียฮุ่ยแสดงรอยยิ้มอันเงียบสงบบนใบหน้าที่สวยงามของเธอและโบกมือให้ฉินหมิงฉินหมิงยิ้มตอบรับและจอดรถไปที่ด้านหน้าของหลีเจียฮุ่ย“เจียฮุ่ย นี่คือแบรนด์เวชสำอางของอาร์ทิสทรีกรุ๊ป ฉันมอบให้เธอ”ฉินหมิงหยิบเครื่องสำอางพิเศษออกมาสองชุดแล้วมอบให้กับหลี่เจียฮุ่ย“ขอบใจนะ”หลี่เจียฮุ่ยรับเวชสำอางนั้นไว้ ในหัวสมองก็หยุดคิดถึงครั้งที่แล้วเรื่องที่ตัวเองกับเขาไปกินข้าวเดินเล่นห้างด้วยกันไม่ได้ มันมีความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาในใจเธออยู่เสมอเมื่อก่อนเธอคิดเสมอว่าฉินหมิงเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอเสมอมา แต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดเกินเลยฉันท์ชู้สาวแต่ว่าครั้งนี้หลักจากที่จากกันไปนาน ตอนนี้ฉินหมิงเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว อีกทั้งด้านวิชากังฟูยังเปลี่ยนเป็นเก่งมากขึ้นอีกด้วย เขาคอยปกป้องเธอเสมอในห้างสรรพสินค้า ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องการอย่างหนึ่ง ซึ่งตัวเธอเองก็เหมือนกันโดยเฉพาะคำพูดของแม่เมื่อกี้ เหมือนว่าช่วยเค
หลี่เหวินไห่ทักทายฉินหมิงอย่างอบอุ่นและนั่งลงบนโซฟาหลังจากคำพูดสุภาพง่าย ๆ ไม่กี่คำจากทั้งสองฝ่าย“ฉินหมิงป้ามีสองสามคำถามอยากจะถามหน่อยน่ะจ้ะ”“ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนที่ไหน พ่อแม่ทำงานอะไรเหรอจ๊ะ”เจียงหลานถามเข้าตรงประเด็นทันที“ผมเป็นเด็กกำพร้าน่ะครับ เติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเจียงเฉิง…”ฉินหมิงพูดตอบ อารมณ์ค่อนข้างหดหู่“เด็กกำพร้าอย่างนั้นเหรอ?”หลี่เหวินไห่กับเจียงหลานสองสามีภรรยาถึงกับชะงัก รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาแข็งทื่อทันที“อย่างนั้นเธอทำงานอะไรล่ะ?”เจียงหลานยังไม่ลดละในการถามแม้ว่าฉินหมิงจะเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีครอบครัวอะไรทั้งนั้นแต่ถ้าฉินหมิงมีการงานที่ดี เงินเดือนและตำแหน่งค่อนข้างสูง และมีโอกาสที่ดีสำหรับการพัฒนาในอนาคต ซึ่งเธอก็กัดฟันยอมรับได้“ปัจจุบันผมทำงานเป็นเลขานุการประธานบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่งน่ะครับ”ฉินหมิงตอบตามความจริงเจียงหลานรู้ว่าเลขานุการเป็นเพียงตำแหน่งเล็ก ๆ และไม่สามารถมีเงินเดือนที่สูงได้ ไม่ต้องพูดถึงโอกาสในการพัฒนาที่ดี ตอนนี้ในใจเธอเย็นวาบไปทั้งซีกแล้ว “อย่างนั้นเธอมีบ้านมีรถหรือเปล่า?”“ไม่มีครับ ผมยังไม่ได้ซื้อครับ”ฉิ
เจียงหลานที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ในใจของเธอ เธอจำแนกฉินหมิงทันทีว่าเป็นคนเลวที่รู้วิธีแสดงความรุนแรงเท่านั้นหลี่เจียฮุ่ยก็รู้ได้ว่าแม่ตัวนั้นได้เข้าใจผิด จึงรีบพูดแก้ต่างทันที “แม่คะ เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิดแบบนั้นหรอกนะคะ…”“จริง ๆ แล้ว ฉินหมิงเองก็ไม่ได้ไม่มีเงินเลยนะคะ เขาก็คงพอมีเงินเก็บสะสมอยู่บ้าง”“ครั้งที่แล้วเสื้อผ้าที่ดูแพง ๆ ในห้างก็เป็นเขาที่ซื้อให้หนูนะคะ ครั้งนั้นเขาจ่ายไปตั้งหลายแสน…”หลี่เจียฮุ่ยได้พูดเรื่องที่ฉินหมิงซื้อเสื้อผ้าให้ออกมา ต้องการจะพูดโน้มน้าว“โอ้ อย่างนั้นเหรอ?”“แล้วเขาเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะกันล่ะ”เจียงหลานถึงกับตกใจ สีหน้าดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย คนฐานะอย่างฉินหมิงยอมซื้อของแพง ๆ ให้ลูกสาวตน อย่างน้อยก็ถือว่าจริงใจกับลูกสาวตนเองหน่อย“เป็นเงินที่เขาได้จากการพนันหยกดิบมาน่ะค่ะ…”หลี่เจียฮุ่ยตอบอย่างใจจริง เมื่อกี้ที่เธอพูดไปเธอสัมผัสได้ว่ามันไม่ถูกต้อง เธอจึงรีบหุบปากลง แต่น่าเสียดายที่มันสายไปเสียแล้ว“อะไรนะ?”“ที่แท้ก็เป็นนักพนันอย่างนั้นเหรอ!”เจียงหลานถึงกับโกรธขึ้นหน้าแม้แต่หลี่เจียฮุ่ยเองที่เป็นเด็กยุคใหม่ก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคื
ฉินหมิงที่เห็นที่บรรยากาศชักจะไม่ดี เลยรีบขอตัวลา“วันนี้วันหยุดไม่ต้องทำงาน นายยังจะมีธุระอะไรสำคัญอีก”“ไม่รู้ล่ะ นายต้องทานข้าวเที่ยงก่อน แล้วค่อยไป”หลี่เจียฮุ่ยกึ่งพูดกึ่งสั่ง“งั้น…ก็ได้”ฉินหมิงจำต้องยอมลูกตื้อของหลี่เจียฮุ่ยอย่างเลี่ยงไม่ได้“รอเดี๋ยว ฉันกับพ่อแกจะไปด้วย!”พอเห็นหลี่เจียฮุ่ยจับมือฉินหมิงเตรียมจะออกจากบ้านแล้ว เจียงหลานก็ขยิบตาให้หลี่เหวินไห่ และทั้งคู่ก็เดินตามออกไปหลังจากการสนทนาในห้องนอนเมื่อกี้นี้ เจียงหลานก็ได้เข้าใจผิดว่าฉินหมิงเป็นคนไม่ดี ตอนนี้ใจเธอเต็มไปด้วยความระแวดระวังฉินหมิง และแน่นอนว่าเธอกังวลเกี่ยวกับลูกสาวของเธอที่จะออกไปข้างนอกตามลำพังกับฉินหมิงจากพวกเขาก็ได้มาที่ชั้นล่างหลี่เจียฮุ่ยขับรถพาฉินหมิงและเจียงหลานไปยังย่านการค้าใกล้เคียงและมาถึงโรงแรมที่หรูหราที่สุด“นี่เจียฮุ่ย แกหาร้านข้างทางกินก็พอแล้ว แกจะมาที่ร้านหรู ๆ แบบนี้ทำไมกัน?”สีหน้าของเจียงหลานดูไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก“ฉินหมิงอุตส่าห์มาเป็นแขกบ้านเราครั้งแรก ก็ต้องเลือกมาทานร้านหรู ๆ ให้สมกับเขาหน่อยสิคะ”หลี่เจียฮุ่ยพูดอย่างมั่นใจฉินหมิงไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนที่ดีที
“เสี่ยวเยี่ยน ไม่ทราบว่าแฟนของหนูทำงานอะไรเหรอจ๊ะ?”เจียงหลานอดไม่ได้ที่จะถาม“ที่บ้านเขาเปิดบริษัทนะคะ ทรัพย์สินมีมูลค่าประมาณห้าร้อยถึงหกร้อยล้านเท่านั้นเองน่ะค่ะ”หลี่เยี่ยนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ“ห้าร้อยถึงหกร้อยล้านอย่างนั้นเหรอ?”หลี่เหวินไห่และเจียงหลานถึงกับตะลึง สำหรับพวกเขาแล้วคนที่มีทรัพย์สินไม่กี่ร้อยล้านถึงจะนับว่าเป็นคนมีเงินจริง ๆ “เจียฮุ่ย แกดูพี่เขาสิ อายุพี่เขาก็แก่กว่าแกไม่มาก เขายังหาแฟนที่ดีมากขนาดนี้ได้เลย”“แต่ดูแกสิ จนถึงตอนนี้แม้แต่แฟนสักคนก็ยังไม่มี!”“ต่อไปแกต้องเอาตามอย่างพี่เขาซะบ้าง!”เจียงหลานมองหลี่เจียฮุ่ยอย่างอารมณ์เสีย ในใจไม่พอใจลูกสาวขึ้นไปอีกลูกสาวตนเก่งไปหมดซะทุกด้าน สวยก็สวยกว่าหลี่เยี่ยนเธอเองก็ไม่ได้หวังว่าลูกสาวจะต้องหาแฟนผู้ชายรวย ๆ อย่างที่หลี่เยี่ยนมี แต่อย่างน้อยก็ควรที่จะหาชายหนุ่มที่รากฐานที่ดีบ้างแต่ลูกสาวกับทำงามหน้า มีผู้ชายดี ๆ มาจีบกลับไม่เอา ดันเอาคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าซะอย่างนั้นในใจเธอไม่พอใจอย่างมาก!“แม่ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องพรหมลิขิตนะคะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่หา แต่แค่ตอนนี้มันยังไม่เจอที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง”หลี่เจี
“คืออย่างนี้นะคะ ลูกค้าของเฉิงซิ่งเป็นชายหนุ่มและมีแนวโน้มมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยด้วยโชคลาภอย่างน้อยหนึ่งหมื่นล้าน เฉิงซิ่งกับหนูอยากจะแนะนำเจียฮุ่ยให้เขารู้จักสักหน่อยน่ะค่ะ... "“ไม่ทราบว่าคุณอาทั้งสองมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ?”หลี่เยี่ยนอธิบายสถานการณ์โดยย่อ“จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย!”หลี่เหวินไห่กับเจียงหลานสองสามีภรรยาถึงกับดีใจใหญ่ความมั่งคั่งของอีกฝ่ายมีมากกว่าหนึ่งหมื่นล้าน ซึ่งในสายตาของพวกเขาคือมหาเศรษฐีแม้ว่าสองสามีภรรยาไม่เคยคิดอยากจะส่งลูกให้กับเศรษฐี แต่ในเมื่อโอกาสมาถึงตรงหน้าแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาเองก็อยากจะลองมันสักตั้งถ้าลูกสาวตนโชคดีจริงจนถูกฝ่ายตรงข้ามเลือก ต่อไปเธอก็จะสุขสบายราวกับหงส์ก็ไม่ปาน!“คุณอารองคะ คุณอาสะใภ้รองคะ เห็นคุณอาพูดกันอย่างนี้แล้ว คุณอาเห็นด้วยใช่ไหมคะ?“ใบหน้าหลี่เยี่ยนดีใจจนแก้มจะปริ“อื้ม พวกอาเห็นด้วย”หลี่เหวินไห่กับเจียงหลานพยักหน้า“ไม่ได้นะคะ!”“พี่เยี่ยน น้ำใจของพี่ฉันรับมันไว้ แต่เรื่องนัดบอดฉันรับมันไว้ไม่ได้!”หลี่เจียฮุ่ยตกตะลึงแล้วรีบปฏิเสธทันทีแม่ว่าเรื่องนัดบอดจะเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความรู้สึกพื้
เพื่อที่จะรั้งหลี่เจียฮุ่ยไว้ เจียงหลานจึงต้องยอมเห็นด้วยกับคำขอของหลี่เจียฮุ่ยในเวลานี้ เสียงรถยนต์ก็ได้ดังขึ้น รถสปอร์ตระดับไฮเอนด์อันล้ำค่าขับจอดไปที่ประตูโรงแรมประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีได้ลงมาจากรถข้างหลังเขามีบอดี้การ์ดสองคนในชุดสูทและเนคไท เต็มไปด้วยรัศมียิ่งใหญ่และเอิกเกริก“นายน้อยโหว คุณมาแล้ว”“ผมได้ทำการจองห้องไว้แล้ว เชิญคุณตามผมมาได้เลยครับ”ใบหน้าของเฉิงซิ่งสว่างขึ้น และเขาก็ทักทายเขาด้วยสีหน้าดีใจ“อืม ไปสิ”ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเย่อหยิ่ง ไม่นานเขาก็เดินตามเฉิงซิ่งเข้าไปในโรงแรมและพบกับหลี่เหวินไห่ ฉินหมิง และคนอื่น ๆ “เฉิงซิ่ง คนพวกนี้คือ?”นายน้อยโหวขมวดคิ้ว”เอ่อ ผมแนะนำให้รู้จักสักเล็กน้อยนะครับ นี่คือแฟนสาวของผม หลี่เยี่ยน ส่วนอีกสองสามท่านนี้คือญาติของเธอ…”เฉิงซิ่งเตรียมตัวที่จะแนะนำ แต่ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกนายน้อยโหวขัดจังหวะซะก่อน“ญาติของแฟนคุณ?”“ที่คุณเชิญผมมาจะมาเจรจาร่วมมือหรือมางานเลี้ยงญาติกันแน่!”นายน้อยโหวตะคอกอย่างเย็นชาและแสดงความไม่พอใจ“นายน้อยโหวครับ คุณอย่าเพิ่งโกรธเลยนะครับ นี่คือลูกพี่ลูกน้องของแฟน