“และอีกอย่างเด็กที่ชื่อฉินหมิงเป็นใครมาจากไหนกัน? ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องลึกซึ้งกับซูห่าว เขาเป็นคนตระกูลซูด้วยหรือเปล่า”ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตากับความงามของซูซินเหยา พวกเขาก็ยิ่งสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของฉินหมิงและแอบคาดเดาว่าแม้ว่าฉินหมิงจะไม่ได้มาจากตระกูลซู แต่เขาก็คงต้องเป็นคนที่มีอำนาจมาก!เนี่ยอู๋ก็คิดแบบนี้เช่นกันเดิมทีเขาเต็มใจที่จะรับใช้ฉินหมิงในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น เพราะเขารู้สึกขอบคุณสำหรับคำแนะนำของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เขาไม่เคยฝันถึงก็คือฉินหมิงไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์เท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลหลักอีกด้วย!นี่ไม่ต่างอะไรกับการพบสมบัติล้ำค่าเลย!ในอนาคต ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของฉินหมิง อนาคตก็อาจจะยึดดินแดนจากมือของหลัวซื่อฉงคืนได้อย่างไม่ยากเย็น!เขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แทบไม่หายไป!ตรงกันข้ามกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของเนี่ยอู๋ ใบหน้าของเผิงปิงดูบิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีเขาวางแผนที่จะหาโอกาสเข้าใกล้เซี่ยเสี่ยวเตี
ฉินหมิงติดตามซูห่าวและพรรคพวกของเขาไปที่ห้องนั่งเล่นและพบกับนายท่านซูหลังจากที่ฉินหมิงกลั่นยาอายุวัฒนะในครั้งที่แล้ว นายท่านซูได้เสนอแนวคิดในการร่วมมือกับฉินหมิงเพื่อขายยาอายุวัฒนะดังกล่าวทุกวันนี้เขาได้เตรียมการเกือบทุกอย่างไว้แล้ว และการเชิญฉินหมิงมาก็เพียงเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่างเท่านั้นทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนคำทักทายเล็ก ๆ น้อย ๆ และนั่งลงในฐานะผู้ทรงเกียรติ“ฉินหมิง เรื่องความร่วมมือผลิตยาอายุวัฒนะ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ฉันได้ซื้อบริษัทยาแล้ว และกำลังเตรียมที่จะลงทุนเงินก้อนแรกหนึ่งพันล้าน ซินเหยาจะเป็นตัวแทนตระกูลซูของเราเพื่อร่วมมือกับคุณ”"เมื่อถึงเวลานั้น บริษัทจะดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมยาต่าง ๆ เป็นหลัก และคุณจะต้องรับผิดชอบในการกลั่นยาคุณภาพสูง..."นายท่านซูแสดงความคิดของเขาตระกูลซูเป็นผู้ผลิตสมุนไพรรายใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิงและเมืองรอบ ๆ หลายแห่ง แต่ไม่เคยมีความสำเร็จใด ๆ ในด้านเภสัชกรรมทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมาก เมื่อมีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ยาต่าง ๆ เป็นอย่างดี นั่นจะสามารถช่วยให้ตระกูลซูเข้าสู่วงการเภสัชกรรมและขยายอิทธิ
"ดังนั้นผมจึงยังไม่อาจทุ่มเทแรงกายแรงใจมากเกินไปให้กับในบริษัทยาได้ในตอนนี้..."ฉินหมิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวเขาไม่ต้องการออกจากอาร์ทิสทรีกรุ๊ปเพราะเห็นแก่หลินหว่านชิงแม้ว่าเขาอยากจะมีอาชีพการงานที่ดี แต่ก็พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าตำแหน่งของหลินหว่านชิงในใจของเขานั้น สำคัญมากกว่าอาชีพของเขา!"นั่นมัน..."นายท่านซูและซูห่าวตกตะลึงกับคำขอของฉินหมิงขณะที่พวกเขามองหน้ากันปัจจุบัน ฉินหมิงถือหุ้นในบริษัทยาจำนวนหกสิบเปอร์เซ็นต์และได้เป็นถึงประธานบริษัทในฐานะประธาน เขาไม่คิดจะมาทำงานในบริษัทของตัวเองและยืนกรานที่จะทำงานเป็นเลขาให้คนอื่นคำขอนี้ไม่แปลกประหลาดเกินไปหน่อยหรือ!ฉินหมิงเองก็รู้ดีว่าคำขอของเขานั้นไม่สมเหตุสมผล เขาหน้าแดงและพูดต่ออย่างรวดเร็วว่า "แต่อย่ากังวลไป ผมจะเขียนใบสั่งยาวิเศษบางชนิดที่ใช้ได้ผลดีขึ้นมา แล้วผมจะมอบให้กับบริษัทเพื่อทำการผลิต""อีกอย่าง ในแง่ของการกลั่นยา ตราบใดที่บริษัทมีความต้องการ ผมก็สามารถทุ่มเทเวลาในการจัดการให้เรียบร้อยและจะไม่ทำให้งานล่าช้าได้ด้วย..."“อืม... ถ้ามีใบสั่งยาวิเศษได้ ก็นับว่าดีมาก!”ใบหน้าของนายท่านซูเปล่งประกายด้วยความดี
การใช้ยาบำรุงผิวพรรณในระยะยาวสามารถชะลอความชราได้ยาเพิ่มอายุขัยและยาบำรุงสุขภาพมีประสิทธิภาพช่วยในการยืดอายุและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาห้ามเลือดมีผลน่าอัศจรรย์ต่อการบาดเจ็บภายนอก ในขณะที่ยากระตุ้นการไหลเวียนเลือดสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้“พวกนี้พอได้ไหมครับ?”ฉินหมิงถามคัมภีร์ทางการแพทย์ที่อยุ่ในหัวของเขาบันทึกตำรับยาไว้มากมาย แต่เนื่องจากยังขาดการฝึกฝนที่มากพอ เขาจึงสามารถกลั่นยาธรรมดาได้เพียงบางส่วนเท่านั้นในปัจจุบันนี้ เขายังไม่สามารถกลั่นยาอายุวัฒนะขั้นสูงได้มากมายอะไร“ยาเหล่านี้ให้ประสิทธิภาพดีก็จริง แต่ก็ยังไม่สะดุดตาพอ…”นายท่านซูขมวดคิ้วและกล่าวเขารู้ดีว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงก้าวหน้าแค่ไหน ยาเหล่านี้สกัดโดยฉินหมิงมีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและยาบางชนิดมากกว่าร้อยเท่าอย่างแน่นอน ในอนาคตจะมีความต้องการสูงแน่นอน!อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ช้าเกินไป และไม่มีทางจะสร้างชื่อเสียงของบริษัทได้ตั้งแต่เปิดตัว!ฉินหมิงรำพึงรำพันกับตัวเอง "เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมได้พบกับยอดฝีมือด้านศิลปยุทธมาหลายคน ผมสามารถกลั่นยาหลอมลมปราณได้ ซึ่งให้ประสิทธิภาพแสน
ฉินหมิงกล่าว“ทลายจุดคอขวดของการบ่มเพาะตน?”"คุณฉิน ที่คุณกำลังหมายความว่าผมจะสามารถทะลวงผ่านขั้นขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานที่ตัวเองมีไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้งั้นเหรอ”เสียงของซูห่าวสั่นไหวและดวงตาของเขาสว่างขึ้นในแต่ละระดับการบ่มเพาะตนของผู้ฝึกยุทธมีเส้นแบ่งขนาดใหญ่อยู่ ไม่เพียงแต่ต้องฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปีเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยพรสวรรค์และประสบการณ์ทางด้านศิลปยุทธที่สูงมากอีกด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมานานกว่าสองปีแล้ว เขาได้แต่ใฝ่ฝันที่จะทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์อยู่ทุกวันคืน!มีเพียงคนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!"ยอดฝีมือย่อมสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ไม่ว่าอุปสรรคจะใหญ่เพียงใด!"ฉินหมิงพยักหน้าและกล่าวว่า"เอาล่ะ เยี่ยมมาก!"ซูห่าวรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แต่เมื่อเขาตระหนักได้ถึงโสมป่าหรือเหอโส่วอูที่ต้องมีอายุมากกว่าห้าร้อยปี เขาก็ดูมีท่าทีผิดหวังราวกับโลกทั้งใบพังทลายลงท้ายที่สุดแล้ว สมุนไพรจีนที่ดีที่สุดที่ตระกูลซูมีในครอบครองเป็นเพียงโสมป่าที่มีอายุสามร้
นั่นไม่ใช่ประเด็นเสียหน่อย!ฉินหมิงตกตะลึงและเอ่ยปากอย่างกล้าหาญว่า "จริง ๆ แล้วคุณก็ดูสวยพอ ๆ กันเลยนะ สวยไม่แพ้กันเลยล่ะ"“ชิ คุณมันปากไม่ตรงกับใจสักนิด ไม่จริงใจเอาเสียเลย!”ซูซินเหยาเหลือบมองฉินหมิงพลางรู้สึกพอใจกับคำตอบที่ได้รับในขณะนี้ ทั้งสองได้เดินไปถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์แล้ว ซูซินเหยาส่งสัญญาณมือเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูที่อยู่ใกล้ ๆ ให้เข้ามาหา "กัปตันหลี่ วันนี้ฉินหมิงไม่ได้ขับรถมา คุณส่งเขากลับที!"กัปตันหลี่รับคำแล้วพาฉินหมิงออกไป…… วิลล่าอ่าวหลงหูเมื่อฉินหมิงกลับถึงบ้าน เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็กลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอและหลินหว่านชิงเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ“ฉินหมิง วันนี้ฉันขอให้คุณพาเสี่ยวเตี๋ยไปมหาวิทยาลัยแทนฉัน ทำไมคุณถึงหายไปกลางคันล่ะ?”หลินหว่านชิงจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยความโกรธ“เอ่อ... ผมมีเรื่องสำคัญกะทันหัน ผมก็เลยต้องขอตัวก่อน”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆ รู้สึกไม่สบายใจและกล้า ๆ กลัว ๆ เล็กน้อยเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของหลินหว่านชิง ดูเหมือนว่าเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยจะไม่ได้บอกหลินหว่านชิงว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ ซึ่งนับว่าค่อนข้างแปลกแต่ทว่าเมื
“ชิ นายไม่ใช่แฟนของลูกพี่ลูกน้องฉันเสียหน่อย กลัวเธอจะเข้าใจผิดเรื่องอะไร”“ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูก นายคิดไม่ดีกับลูกพี่ลูกน้องของฉันจริง ๆ!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยจ้องไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาถมึงทึง“คุณกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อหว่านชิงเสียหน่อย”ฉินหมิงรู้สึกผิดและไม่กล้ามองสบตาของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยตรง ๆ“ปากแข็งอย่างกับหิน!”“นายมีความสามารถและมีทักษะมาก แต่นายกับยอมทำงานเป็นเลขาตัวเล็ก ๆ ในบริษัทของลูกพี่ลูกน้องแถมยังมาอาศัยอยู่บ้านของเธออีก!”“ถ้าไม่ได้คิดอะไรกับเธอแล้วจะเป็นอะไรได้อีก”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา"เรื่องนั้น..."ฉินหมิงพูดไม่ออก ในแง่ทักษะยั่วโมโหคน เขาไม่สามารถเทียบได้กับแม่มดน้อยเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้ เขาพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง"ฉินจอมฉาวพูดความจริงมาเดี๋ยวนี้ นายชอบลูกพี่ลูกน้องของฉันใช่ไหม”มุมปากของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโค้งอย่างเหนือกว่า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยท่าทีหยอกล้อ"ผม..."ฉินหมิงมีอาการปวดหัว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วซูซินเหยาเพิ่งถามคำถามนี้กับเขา ตอนนั้นเขาเอาตัวเองให้หลุดพ้นจากคำถามนั้นมาได้ ตอน
แน่นอนว่าเธอรู้จักนิสัยใจคอของลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นอย่างดี เนื่องจากลูกพี่ลูกน้องของเธอเต็มใจยอมให้ฉินหมิงคนนี้อาศัยอยู่ในบ้านและไม่ได้ไล่ให้เขาไปหาที่อยู่เองมาตั้งนานสองนานแล้วด้วย อาจจะเป็นเพราะเธอคงมีความรู้สึกที่ดีต่อฉินหมิงเช่นกันทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็มีใจ และเธอก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือพวกเขา บางทีพวกเขาอาจจะสามารถคบหากันจนถึงขั้นแต่งงานและเธอก็ได้เรียนรู้กังฟูไปด้วย นี่ก็ถือว่าได้ประโยชน์สมประสงค์กันทั้งสองฝ่าย!“แต่ผมไม่ได้...”ฉินหมิงกำลังคิดจะชี้แจงว่าเขาไม่ใช่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์ แต่ในทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่ายังไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องนั้นในตอนนี้ หากเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรู้ความจริงนั่นไม่ได้เท่ากับคำสัญญาที่เธอรับปากว่าจะช่วยเขาตามจีบหลินหว่านชิงจะต้องสิ้นสุดลงหรอกหรือ?"ใช่แล้ว ผมเป็นนักศิลปะยุทธในระดับปรมาจารย์!"ฉินหมิงพูดอย่างไร้ยางอาย มือทั้งสองข้างไพล่หลังราวกับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ หัวใจของเขาเต้นรัวไม่ต่างอะไรกับเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย!หากเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรับปากจะช่วย เขาก็จะประหยัดแรงในการไล่ตามจีบหลินหว่านชิงขึ้นเป็นเท่าตัวและคงจะได้เธอมาไว้ในครอบครอง
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ