แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดก็คือระดับการบ่มเพาะของเนี่ยอู๋จะทะลวงไปถึงขั้นกลางของระดับสวรรค์ประทานบ้างแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่ทันได้ล่วงรู้เลย!“เนี่ยอู๋ ไม่นึกเลยว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้นายจะซุ่มเก็บตัวบ่มเพาะตนเองแบบนี้ แปลว่าถ้าฉันไม่ได้จัดการนายให้สิ้นซากเสียตั้งแต่วันนี้ วันหน้าคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว!”ใบหน้าของหลัวซื่อฉงมืดครึ้มลง และเจตนาสังหารของเขาก็รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเนี่ยอู๋ตามเขาทันแล้ว เขาจะต้องทำลายเนี่ยอู๋ให้ได้ในคราวนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม มิฉะนั้นสถานการณ์จะกลับตาลปัตร และหากไม่กำจัดให้สิ้นซากเนี่ยอู๋ก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นหนามยอกอกของเขาอีกรอบ!“อาจารย์ฉิน ผมคงต้องปล่อยให้หลัวซื่อฉงไว้ในมือคุณ!”เนี่ยอู๋บังคับให้ชายสองคนในชุดสีดำถอยกลับด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เข้าหันมาพูดอะไรบางอย่างกับฉินหมิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาที่อยู่ในขั้นกลางของระดับสวรรค์ประทาน ก็ดีเกินพอที่จะใช้จัดการกับชายสองคนตรงหน้าเขา ซึ่งอยู่ในขั้นต้นของระดับสวรรค์ประทานแล้ว!ตราบใดที่ฉินหมิงสามารถช่วยเขาจัดการกับหลัวซื่อฉงได้ เขาก็จะสามารถ
“แต่นี่มันเป็นเรื่องของโลกใต้ดิน ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลซูของคุณ ดูจะไม่เหมาะสมที่คุณจะเข้ามายุ่งกับปัญหาของพวกเราสุ่มสี่สุ่มห้า!”ใบหน้าของหลัวซื่อฉงดูน่าเกลียดมากสี่ตระกูลหลักทั้งหมดอยู่ในแวดวงธุรกิจสีขาว และกองกำลังใต้ดินก็เชื่อมโยงกันอย่างดีมาโดยตลอดยิ่งไปกว่านั้นไม่มีสี่พยัคฆ์แห่งโลกใต้ดินที่เป็นคนโหดเหี้ยมและกบฏ หลัวซื่อฉงอยู่ในฐานะบุคคลระดับสูงในโลกใต้ดิน อีกทั้งยังได้รับการคุ้มครองจากราชาแดนเหนืออยู่เบื้องหลัง แม้ว่าเขาจะกลัวอำนาจของตระกูลซูมาก แต่เขาก็ไม่กลัวเด็กเมื่อวานซืนอย่างซูห่าว!“แล้วถ้าผมต้องเข้าไปยุ่งล่ะ?”"คุณจะทำอะไรผมได้?"ซูห่าวพูดอย่างเย็นชาและหยิ่งผยอง"คุณ...""ก็ได้ เยี่ยมมาก!"“เนี่ยอู๋ ฉินหมิง พวกนายสองคนโชคดี วันนี้เห็นแก่หน้าของนายน้อยซูฉันจะปล่อยนายสองคนไปก่อน!”"ไปกันเถอะ!"หลัวซื่อฉงรู้ว่าเขาไม่สามารถแข่งขันกับตระกูลซูได้ ดังนั้นเขาจึงกัดฟันและอดทนต่อความโกรธ จากนั้นเขาก็โบกมือส่งสัญญาณให้ชายชุดดำทั้งสองล่าถอยและเตรียมพร้อมที่จะจากไป"พวกคุณอยากจะไปงั้นเหรอ?"“ผมอนุญาตแล้วหรือไง?”ซูห่าวกล่าวอย่างเย็นชา“นายน้อยซู คุณยังต้องการอะไรอีก?”
“และอีกอย่างเด็กที่ชื่อฉินหมิงเป็นใครมาจากไหนกัน? ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องลึกซึ้งกับซูห่าว เขาเป็นคนตระกูลซูด้วยหรือเปล่า”ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตากับความงามของซูซินเหยา พวกเขาก็ยิ่งสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของฉินหมิงและแอบคาดเดาว่าแม้ว่าฉินหมิงจะไม่ได้มาจากตระกูลซู แต่เขาก็คงต้องเป็นคนที่มีอำนาจมาก!เนี่ยอู๋ก็คิดแบบนี้เช่นกันเดิมทีเขาเต็มใจที่จะรับใช้ฉินหมิงในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น เพราะเขารู้สึกขอบคุณสำหรับคำแนะนำของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เขาไม่เคยฝันถึงก็คือฉินหมิงไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์เท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลหลักอีกด้วย!นี่ไม่ต่างอะไรกับการพบสมบัติล้ำค่าเลย!ในอนาคต ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งของฉินหมิง อนาคตก็อาจจะยึดดินแดนจากมือของหลัวซื่อฉงคืนได้อย่างไม่ยากเย็น!เขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แทบไม่หายไป!ตรงกันข้ามกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของเนี่ยอู๋ ใบหน้าของเผิงปิงดูบิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีเขาวางแผนที่จะหาโอกาสเข้าใกล้เซี่ยเสี่ยวเตี
ฉินหมิงติดตามซูห่าวและพรรคพวกของเขาไปที่ห้องนั่งเล่นและพบกับนายท่านซูหลังจากที่ฉินหมิงกลั่นยาอายุวัฒนะในครั้งที่แล้ว นายท่านซูได้เสนอแนวคิดในการร่วมมือกับฉินหมิงเพื่อขายยาอายุวัฒนะดังกล่าวทุกวันนี้เขาได้เตรียมการเกือบทุกอย่างไว้แล้ว และการเชิญฉินหมิงมาก็เพียงเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่างเท่านั้นทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนคำทักทายเล็ก ๆ น้อย ๆ และนั่งลงในฐานะผู้ทรงเกียรติ“ฉินหมิง เรื่องความร่วมมือผลิตยาอายุวัฒนะ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ฉันได้ซื้อบริษัทยาแล้ว และกำลังเตรียมที่จะลงทุนเงินก้อนแรกหนึ่งพันล้าน ซินเหยาจะเป็นตัวแทนตระกูลซูของเราเพื่อร่วมมือกับคุณ”"เมื่อถึงเวลานั้น บริษัทจะดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมยาต่าง ๆ เป็นหลัก และคุณจะต้องรับผิดชอบในการกลั่นยาคุณภาพสูง..."นายท่านซูแสดงความคิดของเขาตระกูลซูเป็นผู้ผลิตสมุนไพรรายใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิงและเมืองรอบ ๆ หลายแห่ง แต่ไม่เคยมีความสำเร็จใด ๆ ในด้านเภสัชกรรมทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมาก เมื่อมีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ยาต่าง ๆ เป็นอย่างดี นั่นจะสามารถช่วยให้ตระกูลซูเข้าสู่วงการเภสัชกรรมและขยายอิทธิ
"ดังนั้นผมจึงยังไม่อาจทุ่มเทแรงกายแรงใจมากเกินไปให้กับในบริษัทยาได้ในตอนนี้..."ฉินหมิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวเขาไม่ต้องการออกจากอาร์ทิสทรีกรุ๊ปเพราะเห็นแก่หลินหว่านชิงแม้ว่าเขาอยากจะมีอาชีพการงานที่ดี แต่ก็พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าตำแหน่งของหลินหว่านชิงในใจของเขานั้น สำคัญมากกว่าอาชีพของเขา!"นั่นมัน..."นายท่านซูและซูห่าวตกตะลึงกับคำขอของฉินหมิงขณะที่พวกเขามองหน้ากันปัจจุบัน ฉินหมิงถือหุ้นในบริษัทยาจำนวนหกสิบเปอร์เซ็นต์และได้เป็นถึงประธานบริษัทในฐานะประธาน เขาไม่คิดจะมาทำงานในบริษัทของตัวเองและยืนกรานที่จะทำงานเป็นเลขาให้คนอื่นคำขอนี้ไม่แปลกประหลาดเกินไปหน่อยหรือ!ฉินหมิงเองก็รู้ดีว่าคำขอของเขานั้นไม่สมเหตุสมผล เขาหน้าแดงและพูดต่ออย่างรวดเร็วว่า "แต่อย่ากังวลไป ผมจะเขียนใบสั่งยาวิเศษบางชนิดที่ใช้ได้ผลดีขึ้นมา แล้วผมจะมอบให้กับบริษัทเพื่อทำการผลิต""อีกอย่าง ในแง่ของการกลั่นยา ตราบใดที่บริษัทมีความต้องการ ผมก็สามารถทุ่มเทเวลาในการจัดการให้เรียบร้อยและจะไม่ทำให้งานล่าช้าได้ด้วย..."“อืม... ถ้ามีใบสั่งยาวิเศษได้ ก็นับว่าดีมาก!”ใบหน้าของนายท่านซูเปล่งประกายด้วยความดี
การใช้ยาบำรุงผิวพรรณในระยะยาวสามารถชะลอความชราได้ยาเพิ่มอายุขัยและยาบำรุงสุขภาพมีประสิทธิภาพช่วยในการยืดอายุและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาห้ามเลือดมีผลน่าอัศจรรย์ต่อการบาดเจ็บภายนอก ในขณะที่ยากระตุ้นการไหลเวียนเลือดสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้“พวกนี้พอได้ไหมครับ?”ฉินหมิงถามคัมภีร์ทางการแพทย์ที่อยุ่ในหัวของเขาบันทึกตำรับยาไว้มากมาย แต่เนื่องจากยังขาดการฝึกฝนที่มากพอ เขาจึงสามารถกลั่นยาธรรมดาได้เพียงบางส่วนเท่านั้นในปัจจุบันนี้ เขายังไม่สามารถกลั่นยาอายุวัฒนะขั้นสูงได้มากมายอะไร“ยาเหล่านี้ให้ประสิทธิภาพดีก็จริง แต่ก็ยังไม่สะดุดตาพอ…”นายท่านซูขมวดคิ้วและกล่าวเขารู้ดีว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินหมิงก้าวหน้าแค่ไหน ยาเหล่านี้สกัดโดยฉินหมิงมีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและยาบางชนิดมากกว่าร้อยเท่าอย่างแน่นอน ในอนาคตจะมีความต้องการสูงแน่นอน!อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ช้าเกินไป และไม่มีทางจะสร้างชื่อเสียงของบริษัทได้ตั้งแต่เปิดตัว!ฉินหมิงรำพึงรำพันกับตัวเอง "เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมได้พบกับยอดฝีมือด้านศิลปยุทธมาหลายคน ผมสามารถกลั่นยาหลอมลมปราณได้ ซึ่งให้ประสิทธิภาพแสน
ฉินหมิงกล่าว“ทลายจุดคอขวดของการบ่มเพาะตน?”"คุณฉิน ที่คุณกำลังหมายความว่าผมจะสามารถทะลวงผ่านขั้นขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานที่ตัวเองมีไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้งั้นเหรอ”เสียงของซูห่าวสั่นไหวและดวงตาของเขาสว่างขึ้นในแต่ละระดับการบ่มเพาะตนของผู้ฝึกยุทธมีเส้นแบ่งขนาดใหญ่อยู่ ไม่เพียงแต่ต้องฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปีเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยพรสวรรค์และประสบการณ์ทางด้านศิลปยุทธที่สูงมากอีกด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมานานกว่าสองปีแล้ว เขาได้แต่ใฝ่ฝันที่จะทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์อยู่ทุกวันคืน!มีเพียงคนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง!"ยอดฝีมือย่อมสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ไม่ว่าอุปสรรคจะใหญ่เพียงใด!"ฉินหมิงพยักหน้าและกล่าวว่า"เอาล่ะ เยี่ยมมาก!"ซูห่าวรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แต่เมื่อเขาตระหนักได้ถึงโสมป่าหรือเหอโส่วอูที่ต้องมีอายุมากกว่าห้าร้อยปี เขาก็ดูมีท่าทีผิดหวังราวกับโลกทั้งใบพังทลายลงท้ายที่สุดแล้ว สมุนไพรจีนที่ดีที่สุดที่ตระกูลซูมีในครอบครองเป็นเพียงโสมป่าที่มีอายุสามร้
นั่นไม่ใช่ประเด็นเสียหน่อย!ฉินหมิงตกตะลึงและเอ่ยปากอย่างกล้าหาญว่า "จริง ๆ แล้วคุณก็ดูสวยพอ ๆ กันเลยนะ สวยไม่แพ้กันเลยล่ะ"“ชิ คุณมันปากไม่ตรงกับใจสักนิด ไม่จริงใจเอาเสียเลย!”ซูซินเหยาเหลือบมองฉินหมิงพลางรู้สึกพอใจกับคำตอบที่ได้รับในขณะนี้ ทั้งสองได้เดินไปถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์แล้ว ซูซินเหยาส่งสัญญาณมือเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูที่อยู่ใกล้ ๆ ให้เข้ามาหา "กัปตันหลี่ วันนี้ฉินหมิงไม่ได้ขับรถมา คุณส่งเขากลับที!"กัปตันหลี่รับคำแล้วพาฉินหมิงออกไป…… วิลล่าอ่าวหลงหูเมื่อฉินหมิงกลับถึงบ้าน เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็กลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอและหลินหว่านชิงเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ“ฉินหมิง วันนี้ฉันขอให้คุณพาเสี่ยวเตี๋ยไปมหาวิทยาลัยแทนฉัน ทำไมคุณถึงหายไปกลางคันล่ะ?”หลินหว่านชิงจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยความโกรธ“เอ่อ... ผมมีเรื่องสำคัญกะทันหัน ผมก็เลยต้องขอตัวก่อน”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆ รู้สึกไม่สบายใจและกล้า ๆ กลัว ๆ เล็กน้อยเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของหลินหว่านชิง ดูเหมือนว่าเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยจะไม่ได้บอกหลินหว่านชิงว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ ซึ่งนับว่าค่อนข้างแปลกแต่ทว่าเมื