พวกเขาทั้งสองคนรู้พื้นเพของฉินหมิงดี และก็รู้ว่าฉินหมิงเป็นเด็กกำพร้าไร้พ่อแม่ มิหนำซ้ำยังถูกภรรยาเก่าเฉดหัวอย่างกับคนไร้ค่าอีก!ต่อตีพวกเขาให้ตายก็ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนอย่างฉินหมิงจะมีปัญญาซื้อสร้อยคอหยกเขียวจักรพรรดิอันล้ำค่านี้ได้!“ฉันดูไม่ผิดหรอกค่ะ!”“สร้อยหยกเขียวจักรพรรดิเส้นนี้ เป็นนายท่านซูที่ไหว้วานให้คุณปู่ฉันแกะสลัก ทั้งหมดแกะสลักออกมาได้กำไลหนึ่งคู่และสร้อยคอสองเส้น! ”“สร้อยคอสองเส้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ แต่มีเส้นหนึ่งสีแดง ส่วนอีกเส้นหนึ่งสีฟ้า! ”“สองเส้นนี้ฉันตั้งชื่อไว้ “ดาวคู่แห่งท้องทะเล” เส้นสีแดงเส้นนั้นฉันตั้งชื่อไว้ว่าดาวเพลิงสมุทร แต่เส้นที่อยู่ตรงหน้านั้นฉันตั้งชื่อว่า “ดาวเหมันต์สมุทร”!”หานซีกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น สร้อยคอสองเส้นนี้เธอเป็นคนตั้งชื่อเองกับมือ เธอจะดูผิดไปได้อย่างไร!“นายท่านซูไหว้วานให้อาจารย์หานแกะสลักเหรอ?””มัน…มันเป็นไปได้อย่างไร! ”เอ้าเฟิงและตู้เซียวตกตะลึงงัน!เดิมทีเจ้าของสร้อยสองเส้นนี้เป็นนายท่านซู แต่ว่าตอนนี้เส้นหนึ่งอยู่ในมือของฉินหมิง นี่ไม่ได้หมายความว่าฉินหมิงและนายท่านซูมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกันใช่ไหม?
ทุกคนหายใจเข้าลึกและหันไปมองที่ฉินหมิง ทุกคนตกใจมากจนแทบจะชาไปทั้งตัว!เมื่อกี้เอ้าเฟิงเพิ่งจะหยิบสร้อยคอเพชรมูลค่าหกสิบล้านออกมา ราคาก็เปิดโลกมากอยู่แล้ว!แต่ตอนนี้ถ้าเทียบสร้อยดาวเหมันต์สมุทรของฉินหมิง ทำเอาสร้อยเพชรของเขาดูจืดไปเลย!ในเวลานี้ ฉินหมิงได้แย่งซีนเขาไปเต็ม ๆ !สร้อยคอเพชรของเขากลายเป็นเพียงกระดาษฟอยล์ไปซะอย่างนั้น!“น่าเกลียด!”เอ้าเฟิงกำหมัดแน่น ใบหน้าของเขามืดมนอย่างน่ากลัวตอนแรกเขาก็มองฉินหมิงว่าเป็นแค่มดน้อยตัวหนึ่ง ถึงขนาดร่วมมือกับตู้เซียวทำให้ฉินหมิงขายขี้หน้า!แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ผู้ชายไร้ค่าที่พวกเขาดูถูกคนนั้น ไม่เพียงแต่ทำแผนเซอร์ไพรส์ของเขาพังไม่เป็นท่า อีกทั้งยังทำให้เขาขายขี้หน้าอีกด้วยเขาโกรธมากจนใคร ๆ ก็ดูออก“ฉินหมิง ของขวัญชิ้นนี้มันมีค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก…”หลินหว่านชิงมองสร้อยดาวเหมันต์สมุทร ในใจก็กังวลอย่างมากอีกทั้งความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็ยังคลุมเครือ ถ้าฉินหมิงให้ในฐานะเพื่อน แค่ส่งของขวัญเล็กไม่กี่พัน เธอก็จะรับมันไว้ด้วยความดีใจอย่างแน่นอนแต่สิ่งที่เขาให้เธอมานั้น มันช่างมีค่าและแพงซะเหลือเกิน ดูเหมือนกำลังจีบ
รอยยิ้มอันภาคภูมิใจบนใบหน้าของเอ้าเฟิงจู่ ๆ ก็เหมือนโดนสาปแช่แข็งไว้ เดิมทีใจที่มีความหวังขึ้นมา ชั่วพริบตาก็เหมือนไฟที่ถูกราดด้วยน้ำจนมอดลงไม่กี่วินาทีซะอย่างนั้น“เอาล่ะ ทุกคนเริ่มสนุกกับงานเลี้ยงกันดีกว่าค่ะ ”ตามคำแนะนำของหลินหว่านชิง ทุกคนก็กลับมานั่งที่ บรรยากาศก็เริ่มครึกครื้นใหม่ขึ้นอีกครั้งวันนี้เป็นวันเกิดหลินหว่านชิง บรรยากาศแสนจะครึกครื้น ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทจำนวนมากมาดื่มเหล้าอวยพรและพูดอวยพรให้แก่หลินหว่านชิง พยายามสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเธอเริ่มแรกเธออยากจะเปลี่ยนจากเหล้าเป็นชา แต่ก็ทนคำชักชวนของทุกคนไม่ได้ แล้วอีกอย่างเธอเองก็อารมณ์ดีซะด้วย เลยดื่มไวน์แดงพอเป็นพิธีแต่ว่าคนที่ชวนเธอดื่มเหล้าก็จำนวนไม่น้อย หลายรอบผ่านไป แม้ว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในไวน์แดงจะต่ำมาก แต่ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ค่อย ๆ แดงก่ำ ทำให้เธอมีอาการมึนเมานอกจากหลินหว่านชิง ฉินหมิงเองก็ไม่วายโดนชนแก้วเช่นเดียวกันที่เมื่อกี้เขาเพิ่งแย่งซีนเด่นไปจากเอ้าเฟิงไป ทำเอาทุกคนตกตะลึง สิ่งนี้ได้สร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาในจิตใจของทุกคนเดิมทีเขาเป็นตัวเอกของงานนี้ คนที่ฉลาดหลายคนก็มองออกว่าหล
ฉินหมิงพยุงหลินหว่านชิงกลับมาที่ห้องนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามายังห้องของเธอ สไตล์การตกแต่งภายในนั้นดูผ่อนคลายและสะดวกสบายและมีตุ๊กตาผ้าน่ารักมากมายวางอยู่บนเตียงและตู้ในห้องปัดกวาดเช็ดถูได้สะอาด แม้แต่อากาศก็ยังส่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์สดชื่นฉินหมิงค่อย ๆ วางหลินหว่านชิงลงอย่างระมัดระวังฤทธิ์ของไวน์แดงค่อนข้างแรง เมื่อลมพัดระหว่างทางกลับ หลินหว่านชิงรู้สึกเวียนหัวและมีอาการมึนเมาเล็กน้อยในเวลานี้ แก้มของเธอได้เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ ดวงตารูปอัลมอนด์ของเธอพร่ามัว เธอแตกต่างจากรูปลักษณ์ที่เย็นชาและสูงส่งไปอย่างสิ้นเชิง เธอดูมีเสน่ห์อย่างไม่อาจพรรณนาได้สวยงามจริง ๆ !ความเมามายทำให้หลินหว่านชิงดูสวยเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว!ใจฉินหมิงเต้นตึกตัก เมื่อจ้องมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามที่สวยจนน่าทึ่งของหลินหว่านชิง ทำเอาเขาหมกมุ่นอยู่ครู่หนึ่ง“หิวน้ำจัง ฉันอยากดื่มน้ำ…”หลินหว่านชิงพึมพำออกมา“เดี๋ยวผมไปรินให้นะครับ”ฉินหมิงที่เหมือนตื่นขึ้นมาจากฝันก็กุลีกุจอรินน้ำใส่แก้วมาให้หลังจากนั้นเขาก็กึ่งประคองกึ่งกอดเธอ เขายื่นน้ำไปที่ริมฝีปากของเธอและป้อนอย่างระมัดระวังหลังจากดื่
ฉินหมิงตบตัวเองแรง ๆแม้ว่าเขาต้องการที่จะกล้าหาญและปฏิเสธที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตาง่าย ๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ควรตามจีบหลินหว่านชิงอย่างเปิดเผยและมุ่งมั่นที่จะได้รับความโปรดปรานจากหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ขณะที่หลินหว่านชิงกำลังเมา ถ้าเขาทำอะไรเกินเลยลงไป มันจะเป็นการไม่ให้เกียรติหลินหว่านชิง และเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามหลินหว่านชิงด้วย!เมื่อหลินหว่านชิงตื่นขึ้นมาหลังจากนั้น เขาอาจจะสูญเสียหลินหว่านชิงไปตลอดกาล!นี่เป็นสิ่งที่เขาทนไม่ได้อย่างแน่นอน!“หว่านชิง ผมขอโทษ...”ฉินหมิงรู้สึกละอายใจจึงอยากจะชักแขนกลับแต่หลินหว่านชิงกลับคว้าแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย“ฉินหมิง อย่าไปนะ...”“วันนี้ฉันมีความสุขมาก อยู่กับฉันต่ออีกหน่อยได้ไหม…?”หลินหว่านชิงมองฉินหมิงด้วยดวงตางดงามที่พร่ามัวอาจเป็นเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเธอเหงาเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอมีความสุขเป็นพิเศษเธอยังคงเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศงานเลี้ยงฉลองและไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกลับมาถึงบ้านแล้ว "ก็ได้"ฉินหมิงยิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่อาจปฏิเสธหลินหว่านชิงได้ จึงต้องดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงหลินหว่านชิงยิ้มหวา
หลินหว่านชิงส่ายหน้าแล้วกล่าว“ก็ได้ ผมต้องขอตัวก่อนแล้ว”ฉินหมิงดูยังสบาย ๆ หลังจากพูดออกไปเช่นนั้นก็หันหลังเดินจากไป หลังจากออกจากวิลล่าแล้วฉินหมิงไปจนถึงยอดเขาด้านหลังนับตั้งแต่เริ่มเปิดใช้ค่ายกลรวมวิญญาณ ส่งผลให้เขาต้องบ่มเพาะตนให้ได้อย่างน้อยสองหรือสามชั่วโมงต่อวันในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ ปกติแล้วเขาจะนอนในตอนกลางคืนและไปที่ภูเขาด้านหลังเพื่อบ่มเพาะตนตอนประมาณสิบหรือสิบเอ็ดโมงเช้า เขาสามารถนอนและบ่มเพาะตนไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย!เมื่อมาถึงศูนย์กลางของค่ายกล ฉินหมิงนั่งขัดสมาธิแล้วหยิบแผ่นหยกออกมาและเปิดใช้งานค่ายกลเขาใช้เวลาบ่มเพาะตนไปประมาณชั่วโมงกว่า ๆพลังวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ เริ่มค่อย ๆ ขยับขึ้นทันที มันไหลรวมกันเป็นวังวนแห่งสายลม พุ่งเข้าใส่ฉินหมิงอย่างบ้าคลั่งเวลาผ่านไปสักพักหนึ่งฉินหมิงร่างกายสั่นเทาและดวงตาพยัคฆ์ก็ลืมขึ้นและประกายแสงในแววตามอดดับลง"ในที่สุดก็ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว!"ฉินหมิงดูตื่นเต้นและหัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากการบ่มเพาะตนอย่างหนักในช่วงนี้ ในที่สุดระดับการบ่มเพาะของเขาก็ทะลุผ่านช่วงคอขวดของระดับการบ่มเพาะพลังลมปราณขั้นกลางไปได้ และมา
“เรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่!”เอ้าเฟิงพูดอย่างใจเย็น“ความจริงก็ปรากฏให้เห็นกับตาแล้วนี่ ทุกคนรู้หมดแล้วว่างานเลี้ยงเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น จะยังมีอะไรผิดพลาดอีก”ตู้เซียวก็สับสน“สิ่งที่ตาเห็นอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป!”“ผมได้แต่สงสัยว่านี้เป็นแผนลวงของหานซีหรือเปล่า!”เอ้าเฟิงหรี่ตาแล้วพูด“เกี่ยวอะไรกับหานซีด้วย?”ตู้เซียวมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ“แน่นอนว่าต้องเกี่ยวแน่!”“ลองคิดดูดี ๆ สิ หานซีคือคนรักของฉินหมิง การที่เธอจะปกป้องฉินหมิงก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ!”“คำพูดของเธอมันเชื่อถือไม่ได้!”เอ้าเฟิงพูดเสียงดัง“คุณกำลังหมายความว่าสร้อยหยกจักรพรรดินั่นเป็นของปลอมเหรอ?”“นั่นเป็นเรื่องที่หานซีกุขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ตู้เซียวคิดแล้วก็เข้าใจความหมายอันคลุมเครือของเอ้าเฟิง“สร้อยคอเส้นนั้นอาจจะไม่ใช่ของปลอมก็ได้!”"ด้วยชื่อเสียงของอาจารย์หาน หานซีไม่น่าจะเอาชื่อเสียงของปู่ตัวเองมาล้อเล่น ผมว่าสร้อยคอเส้นนั้นน่าจะเป็นฝีมือเจียระไนของอาจารย์หานจริง ๆ!""แต่ก็ยากที่จะตรวจสอบได้ว่านั่นเป็นหยกจักรพรรดิอันล้ำค่าและหายากหรือไม่ มันอาจจะเป็นเพียงเม็ดหยกราคาถูก ไม่ใช่
ดวงตาของเอ้าเฟิงมีแววตาเฉียบคมหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงฉลองเมื่อคืนนี้ เขาก็ได้เห็นกับตาว่าหลินหว่านชิงจงใจสนับสนุนฉินหมิงยิ่งไปกว่านั้นฉินหมิงยังได้รับความชอบจากหลินหว่านชิงในงานเลี้ยงอีกด้วย โอกาสการพัฒนาในอนาคตนั้นย่อมไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!และหากฉินหมิงมีอำนาจในมือมากขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะคุกคามสถานะของเขาหรือแม้กระทั่งเข้ามาแทนที่เขาก็เป็นได้!เขาจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!เขาต้องตัดไฟฉินหมิงเสียตั้งแต่ต้นลม!ขจัดอันตรายทั้งหมดที่พร้อมจะมากล้ำกลาย!“รองประธานเอ้า ผมอยากไล่หมอนี่ออกจากบริษัทมานานแล้ว แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากหานซี จึงไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น”“ผมก็เลยอยากรู้ว่าคุณพอมีความคิดดี ๆ อะไรบ้างไหม??”เพราะการเดิมพันครั้งก่อน ตู้เซียวเกือบตกที่นั่งลำบาก เขาจึงกลัวฉินหมิงมากและได้แต่ฝากความหวังไว้กับเอ้าเฟิงเท่านั้น"ความคิดดีๆ มันก็พอมีอยู่บ้าง!"“ครั้งนี้ฉินหมิงได้ช่วยให้บริษัทสามารถร่วมกันลงทุนกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปได้สำเร็จ ประธานหลินจึงยกย่องเขาเป็นอย่างมาก และตั้งใจที่จะส่งต่อความรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องนี้ให้เขา ในอนาคตผลิต