ดวงตาของเอ้าเฟิงมีแววตาเฉียบคมหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงฉลองเมื่อคืนนี้ เขาก็ได้เห็นกับตาว่าหลินหว่านชิงจงใจสนับสนุนฉินหมิงยิ่งไปกว่านั้นฉินหมิงยังได้รับความชอบจากหลินหว่านชิงในงานเลี้ยงอีกด้วย โอกาสการพัฒนาในอนาคตนั้นย่อมไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!และหากฉินหมิงมีอำนาจในมือมากขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะคุกคามสถานะของเขาหรือแม้กระทั่งเข้ามาแทนที่เขาก็เป็นได้!เขาจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!เขาต้องตัดไฟฉินหมิงเสียตั้งแต่ต้นลม!ขจัดอันตรายทั้งหมดที่พร้อมจะมากล้ำกลาย!“รองประธานเอ้า ผมอยากไล่หมอนี่ออกจากบริษัทมานานแล้ว แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากหานซี จึงไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้น”“ผมก็เลยอยากรู้ว่าคุณพอมีความคิดดี ๆ อะไรบ้างไหม??”เพราะการเดิมพันครั้งก่อน ตู้เซียวเกือบตกที่นั่งลำบาก เขาจึงกลัวฉินหมิงมากและได้แต่ฝากความหวังไว้กับเอ้าเฟิงเท่านั้น"ความคิดดีๆ มันก็พอมีอยู่บ้าง!"“ครั้งนี้ฉินหมิงได้ช่วยให้บริษัทสามารถร่วมกันลงทุนกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปได้สำเร็จ ประธานหลินจึงยกย่องเขาเป็นอย่างมาก และตั้งใจที่จะส่งต่อความรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องนี้ให้เขา ในอนาคตผลิต
เวลาผ่านไประยะหนึ่งฉินหมิงอ่านข้อมูลเสร็จก็วางเอกสารในมือลง“หานซี ผมอ่านข้อมูลทั้งหมดแล้ว เราสองคนไปดูที่โรงงานกันเถอะครับ”"ตกลง"หานซีพยักหน้า แล้วทั้งสองก็ออกจากออฟฟิศไปด้วยกันเมื่อเดินออกจากอาคารสำนักงานทั้งสองมาถึงจุดจอดรถหานซีเปิดประตูรถบีเอ็มดับเบิลยูและกำลังจะเข้าไป แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ก็เห็นฉินหมิงนิ่งงันราวกับท่อนไม้ คล้ายกับเขาไม่มีเจตนาจะขึ้นรถ“ฉินหมิง คุณมัวยืนทำอะไรอยู่ รีบขึ้นรถเร็วเข้า?”หานซีเร่งเร้าในทันที“ช่างรถนี่เถอะ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปกับผมดีกว่า!”ฉินหมิงชี้ไปที่มอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ข้าง ๆ“ตอนนี้ยังไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนสำหรับการเดินทาง ใช้รถยนต์ก็นับว่าสะดวกมาก แล้วจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำไม”หานซีสับสน"นี่คุณคิดอะไรอยู่?"“ผมแค่ไม่อยากถูกคุณโยนทิ้งไว้กลางทางอีกก็เท่านั้น!”ฉินหมิงจ้องหานซีด้วยความโกรธ"คุณ......"พวงแก้มบนใบหน้าสวยของหานซีปรากฏสีแดงระเรื่อ พาลนึกถึงตอนที่เธอเตะฉินหมิงลงจากรถกลางทางเมื่อครั้งก่อน“สิ่งที่เกิดขึ้นคราวที่แล้วเป็นเพียงอุบัติเหตุ...”“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันสัญญาว่าครั้งนี้จะไม่เตะคุณลงจากรถอีก”หานซีพูดด้วยใบห
ในสำนักงานของโรงงาน ฉินหมิงและหานซีได้พบกับผู้อำนวยการโรงงานอย่างหวงหย่งหลิน เขาเป็นชายวัยกลางคนซึ่งสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง รูปร่างอวบเล็กน้อยหวงหย่งหลินเป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงงาน มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการผลิต การขนส่ง และการตรวจสอบคุณภาพสินค้า ฯลฯ โดยเป็นของฝ่ายผู้บริหารของบริษัท ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโส อย่างไรก็ตาม ฉินหมิงและหานซีต่างก็เป็นหัวหน้าจากสำนักงานใหญ่ที่ลงมาตรวจสอบคุณภาพการผลิตและยังเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการร่วมลงทุนครั้งนี้โดยเฉพาะหานซี นับว่าเธอเป็นบุคคลสำคัญระดับสูงในสำนักงานใหญ่อีกด้วยต่อหน้าเธอและฉินหมิง หวงหย่งหลินไม่กล้าเอะอะ“ผู้ช่วยหาน เลขาฉิน ให้ผมพาคุณสองคนไปดูในโรงงานก็แล้วกัน”หวงหย่งหลินกล่าวด้วยความเคารพ"ไม่เป็นไรหรอก""ผู้อำนวยการหวง เลขาฉินและฉันตั้งใจจะมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สักหน่อย"“งานของคุณคงยุ่งน่าดู เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องพาเราไปที่โรงงานด้วยตนเองหรอกค่ะ คุณแค่ขอให้ใครสักคนพาเราไปที่นั่นก็ได้”หานซียิ้มเล็กน้อย"อืม...ก็ดีนะครับ"หวงหย่งหลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเรียกผู้อำนวยการที่รับผิดชอบในฝ่ายการผลิตเ
เงินเดือนส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจอานิสทรีจะมีโบนัสตามผลงานด้วย แต่เนื่องจากกำลังการผลิตไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ได้ โบนัสที่อิงตามผลงานก็ลดลงตามลงไปครึ่งหนึ่งค่าจ้างรายเดือนของพนักงานระดับล่างก็ถูกลดไปมากกว่าห้าพันบาทโดยไม่มีเหตุ นั่นทำให้พนักงานบ่นกันระงมกัวลี่รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้หานซีฟัง ประการแรกเพราะเขารู้สึกว่าวัตถุดิบไม่ได้คุณภาพเหมือนแต่ก่อน ส่วนอีกด้านก็เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของพนักงาน“วัตถุดิบมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ?”“ฝ่ายจัดซื้อและฝ่ายผลิตของบริษัทอยู่ในความรับผิดชอบของรองประธานเอ้าเฟิง คุณสามารถรายงานเรื่องนี้ต่อผู้อำนวยการหวง หรือจะย้ายงานไปยังรองประธานเอ้าโดยตรงก็ยังได้”“ผมเกรงว่าน่าจะไม่มีประโยชน์อะไร”หานซีขมวดคิ้วกัวลี่ยิ้มอย่างขมขื่น “ผู้ช่วยหาน บอกตามตรงผมเคยรายงานเรื่องนี้กับผู้อำนวยการหวงมาแล้ว แต่ผู้อำนวยการหวงไม่เคยให้คำตอบกับผมตรง ๆ เลย”“ในส่วนของรองประธานเอ้านั้น เขาเป็นผู้บริหารระดับอาวุโสของบริษัทและไม่ค่อยได้มาที่นี่ ผู้อำนวยการโรงงานเล็ก ๆ อย่างผมจะเข้าหาเขาได้ง่าย ๆ หรือ”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กัวลี่ก็ชะงักไปและพูดด้วย
หานซีกล่าวอย่างใจเย็น แม้ว่าเธอไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของเอ้าเฟิง แต่ฉินหมิงในฐานะผู้รับผิดชอบในโครงการร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปก็มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการผลิตสินค้าทั้งหมดที่จัดหาให้กับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปได้ ไม่ถือว่าข้ามหน้าข้ามตาใคร"ว่าไงนะ?""นี่......"กัวลี่ตะลึงเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเลขาตัวเล็ก ๆ อย่างฉินหมิงจะมีอำนาจมหาศาลขนาดนี้ ขนาดเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างหานซีซึ่งเป็นผู้ช่วยท่านประธานยังต้องทำงานให้กับฉินหมิง!นี่มันไม่น่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยเหรอ?นี่เป็นครั้งแรกที่เขาที่ได้ยินว่ามีเลขาที่เก่งขนาดนี้!“ผู้อำนวยการกัว ไม่ต้องกังวล ผมจะรายงานเรื่องนี้ให้ประธานหลินทราบตามความเป็นจริงในภายหลัง”“จากนั้นเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ที่พวกเขาสมควรได้รับครับ”ฉินหมิงรับปากอย่างมั่นใจ“เลขาฉิน ขอบคุณ ขอบคุณ…”กัวลี่ดีใจมากและคว้ามือฉินหมิงไว้อย่างตื่นเต้น เขาโค้งคำนับและจับมืออีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง“ผู้อำนวยการกัว คุณเกรงใจเกินไป นี่เป็นเรื่องที่สมควรต้องทำอยู่แล้ว…”ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มทุกสิ
"ไม่ต้องกังวล ผมมั่นใจในเรื่องนี้มาก!"“ก่อนหน้านี้คุณก็บอกผมเองไม่ใช่หรือว่าประธานหลินให้อำนาจผมมามากมาย ตราบใดที่มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องส่งให้กับโจวชื่อกรุ๊ป ผมมีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจ!”"ในเมื่อประธานหลินเชื่อใจผมมากขนาดนั้น แน่นอนว่าผมไม่มีทางจะทำให้เธอต้องผิดหวังในตัวผมแน่!"ฉินหมิงยิ้มอย่างตื่นเต้นแม้ว่าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทจะเป็นมืออาชีพ แต่พวกเขานั่งอยู่ในสำนักงานทุกวันและไม่รู้สึกเป็นเดือนเป็นร้อน และเดาว่าพวกเขาคงไม่รู้ว่าพวกเขาทำให้บริษัทเสียเวลาไปมากน้อยแค่ไหน!เพราะฉะนั้นเขาควรหวังพึ่งในประสบการณ์ของผู้อำนวยการกัวจะดีกว่า!ที่สำคัญฉินหมิงมั่นใจในทักษะทางการแพทย์มาก สิ่งเดียวที่ขาดอยู่คือความเข้าใจในองค์รวมของผลิตภัณฑ์ ความสามารถของผู้อำนวยการกัวสามารถชดเชยข้อบกพร่องของเขาได้!"คุณ…"“มีอำนาจเข้าหน่อยแล้วทำเหิมเกริม”"ฉันล่ะประทับใจในตัวคุณจริง ๆ!"หานซีกัดฟันด้วยความโกรธเธอไม่มีทางเชื่อว่าคนธรรมดาอย่างฉินหมิงที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับบริษัทจะสามารถช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการสกัดผลผลิตให้กับบริษัทหรือจะสามารถผลิตเวชสำอางได้ด้วย!นี่ไม่มีทางเป็นเรื่องจริง!
หากประสิทธิภาพการสกัดวัตถุดิบจากแหล่งใหม่ได้รับการปรับปรุงให้มีคุณภาพเทียบเท่ากับวัตถุดิบในแหล่งก่อนหน้าได้ เงินเดือนของทุกคนก็จะกลับมาเท่าเดิมนอกจากนี้ หากพัฒนาเวชสำอางที่ให้ประสิทธิภาพดีกว่าได้สำเร็จ กลุ่มธุรกิจอานิสทรีกรุ๊ปก็จะก้าวพ้นจากธุรกิจขนาดกลางไปเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ จนกลายเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ชั้นหนึ่ง!เมื่อรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น เงินเดือนพนักงานก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!"นั่นก็จริง แต่การเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดวัตถุดิบและพัฒนาเวชสำอางไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ!""ไม่หรอก จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้ยากเลย อย่างไรก็ต้องสำเร็จแน่!"“เว้นแต่จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น!”หานซีพูดอย่างไม่พอใจรู้สึกเหมือนกำลังสีซอให้ควายฟังอย่างไรอย่างนั้น“ก็ถ้าคุณไม่ลองดูสักตั้ง จะรู้ได้ยังไงว่าจะไม่มีปฏิหาริย์เกิดขึ้น!”“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า เรื่องนี้ผมมั่นใจมาก และรับประกันเลยว่าจะไม่มีปัญหาอะไร!”ฉินหมิงตบหน้าอกแล้วพูดอย่างมั่นใจเนื่องจากแบรนด์อื่น ๆ ยังสามารถพัฒนาเวชสำอางได้ แล้วด้วยทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของเขา จะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาไม่อาจพัฒนาเวชสำอางของ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลินหว่านชิงก็หยุดชั่วคราวแล้วกล่าวเสริมว่า "ฉันรู้ที่คุณทำแบบนี้ก็เพราะต้องการจะช่วยเหลือพนักงานระดับล่างพวกนั้น"“เอาแบบนี้ดีไหม? เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับรองประธานเอ้าให้และจะขอให้เขาลดมาตรฐานกำลังการผลิตของโรงงานลง เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายได้ของพนักงานระดับล่าง!”"ไม่จำเป็น!"“หว่านชิง ผมรู้ว่าปัญหาเรื่องวัตถุดิบคอยกวนใจคุณอยู่เสมอ ต่อให้เราจะลดปริมาณการผลิตลง มันก็เป็นเพียงแค่การแก้ที่ปลายเหตุชั่วคราว แต่ไม่ใช่ที่ต้นตอ!”“ผม...ผมแค่อยากช่วยคุณแก้ปัญหาก็เท่านั้น”ฉินหมิงรวบรวมความกล้า"คุณ......"หลินหว่านชิงตกตะลึง ความอบอุ่นที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดแล่นเข้าสู่หัวใจของเธอฉินหมิงเข้าใจถูกแล้ว ปัญหาเรื่องวัตถุดิบเป็นเรื่องที่เธอกังวลมาตลอดจริง ๆ!เนื่องจากบริษัทมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมา วัตถุดิบที่เคยหาได้กลับไม่เพียงพอ บริษัทจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมให้เอ้าเฟิงตามหาคู่ค้าวัตถุดิบรายใหม่และเธอรู้ว่าวัตถุดิบจากคู่ค้ารายใหม่คุณภาพไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มหน้ารับชะตากรรม!แน่นอนว่าหากฉินหมิงสามารถเพิ่มปร