เมื่อหลินยวนกลับมา เฉียวเนี่ยน เซียวเหอและแม่เซียวสามคนกําลังรวมตัวกันที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับการรักษาขาของเซียวเหอเมื่อเห็นนางกลับมา เฉียวเนี่ยนและเซียวเหอก็อดไม่ได้ที่จะมองตากัน และเข้าใจกันทันทีเสื้อผ้าผู้ชายถูกเปลี่ยนไปนานแล้ว สีหน้าของหลินยวนยังคงเป็นปกติ ราวกับออกไปเดินเล่นข้างนอกเพียงครู่เดียวแต่เสี่ยวหวนสาวใช้ของนางกลับรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้ามองเฉียวเนี่ยนแม้แต่แวบเดียวด้วยเหตุนี้ เฉียวเนี่ยนและเซียวเหอจึงมั่นใจมากขึ้นว่าหลินยวนต้องเข้าไปในโรงเตี๊ยมเพื่อพบกับชิวอวี่อย่างแน่นอนแม่เซียวเห็นนางก็ดีใจมาก รีบกวักมือเรียก "ยวนเอ๋อร์ เจ้ามาพอดีเลย!"หลินยวนจึงค่อยเดินไปข้างหน้า เดินไปข้างๆ แม่เซียวแล้วก้มตัวลงทําความเคารพ แล้วพูดว่า "ไม่ทราบว่าท่านแม่มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ?"แม่เซียวจับมือหลินยวนแล้วชี้ไปที่เฉียวเนี่ยน "พี่สะใภ้เจ้าบอกว่า ได้รับคําชี้แนะจากหมอชื่อดัง จะรักษาโรคขาให้พี่ชายเจ้า เจ้าว่าเรื่องนี้จะเชื่อถือได้หรือไม่!"แม่เซียวอยากให้หลินยวนเกลี้ยกล่อมด้วยก็เห็นหลินยวนทําหน้าประหลาดใจ "หมอชื่อดังเหรอเจ้าคะ?"นางคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหมอประจ
นางจึงบอกตอบแม่เซียวไปอย่างอ่อนโยน "ไม่กล้าปิดบังท่านท่านแม่เจ้าค่ะ ข้ารักษาท่านพี่มาระยะหนึ่งแล้ว เป็นเพราะท่านพี่กลัวท่านแม่เป็นห่วง จึงบอกให้ข้ามาแจ้งท่านแม่สักหน่อยเจ้าค่ะ"พูดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็ชําเลืองมองหลินยวนอย่างเชื่องช้า "คําพูดของน้องสะใภ้เมื่อกี้นี้ต่างหากที่ทําให้คนเสียใจ"ดวงตาของหลินยวนมืดลง กลัวว่าแม่เซียวจะคิดว่านางกําลังยุแหย่ จึงรีบพูดอย่างขี้ขลาดว่า"ข้า ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะเจ้าคะ"แต่แม่เซียวไม่สนใจนางอีกต่อไป แต่มองเซียวเหอและถามด้วยความประหลาดใจว่า "จริงเหรอ?"ดวงตาที่เย็นชาของเซียวเหอมีความอ่อนโยนอยู่บ้าง "ลูกพูดไม่ค่อยเก่ง หากพูดอะไรที่ทําให้ท่านแม่เสียใจ ขอให้ท่านแม่อย่าตําหนิเลยขอรับ"ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เซียวเหอได้ปิดกั้นตัวเองมาโดยตลอด ไม่ต้องพูดถึงคําพูดแบบนี้ แม้แต่คําว่า ‘ท่านพ่อท่านแม่’ สองคํานี้ พ่อแม่ตระกูลเซียวก็ยังไม่ค่อยได้ยินเลยด้วยซ้ำเมื่อได้ยินคําพูดที่อ่อนโยนของเซียวเหอ แม่เซียวก็รู้สึกเพียงว่าหัวใจของนางเกือบจะละลายแล้วนางปล่อยมือหลินยวนแล้วรีบเดินไปตรงหน้าเซียวเหอ ดึงมือของเซียวเหอขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำ "เด็กโง่ เจ้าออกมาจาก
หลินยวนกลับไปที่ห้องนอนพอเสี่ยวหวนปิดประตูเท่านั้น นางก็รีบระบายความโกรธในใจออกมาอย่างอดใจรอไม่ไหว "เมื่อครู่เจ้าเห็นใบหน้าของนางหรือไม่! นางตั้งใจทําแบบนี้!"เสี่ยวหวนก็รู้สึกว่าที่หลินยวนพูดนั้นมีเหตุผล น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม "คุณหนูใหญ่ฝึกวิทยายุทธ์มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ฝึกมาได้เพียงแค่แมวสามขาเท่านั้น ตอนนี้อยู่ดีๆ มาบอกว่าจะรักษาคุณชายใหญ่เซียว ด้วยความสามารถของนาง จะรักษาได้เหรอเจ้าคะ!""นางจงใจทําตัวว่านอนสอนง่ายต่อหน้าท่านแม่ แสร้งทําเป็นรู้ความ" หลินยวนพูด ในใจก็เกิดความไม่สบายใจขึ้นมา "นางอยากจะแย่งตําแหน่งนายหญิงกับข้า!"ผ่านไปนานขนาดนี้ ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็ได้เปิดเผยธาตุแท้ของนางเสียที!ตอนที่อยู่จวนโหว พูดจาซะน่าฟัง บอกไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นแต่พอมาถึงตระกูลเซียว ตอนแรกก็แย่งเซียวเหิงไป ตอนนี้ยังจะมาแย่งตําแหน่งนายหญิงของตระกูลเซียวกับนางอีก!นังสารเลวนั่น!ในใจของหลินยวนเต็มไปด้วยความโกรธ ขอบตาพลันแดงก่ำเสี่ยวหวนเห็นนางเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกเพียงว่าคุณหนูของตนถูกรังแกแล้ว คิ้วขมวดแน่นอย่างอดไม่ได้ แต่กลับกดเสียงต่ำถามว่า "เช่นนั้น คุณหนูจะรับปากคุณชายรองช
นางฝึกอย่างจริงจังขนาดนั้น จะล้มเหลวได้อย่างไรกัน?ดวงตาทั้งคู่ของเฉียวเนี่ยนในตอนนี้จับจ้องอยู่ที่เข็มเงินสิบกว่าเล่ม ความรู้สึกของความสําเร็จอันแรงกล้าทําให้หัวใจของนางไม่อาจสงบลงได้ ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก นางพูดอย่างยินดีว่า "ข้าจะไปหาหมอหลิว!" พูดจบก็รีบออกจากห้องไปเป็นธรรมดาที่จะไม่เห็นดวงตาที่สุกสกาวของเซียวเหอล้วนเต็มไปด้วยเงาร่างของนางที่สว่างไสวผลการเรียนของเฉียวเนี่ยนย่อมได้รับการยืนยันจากหมอหลิวและแล้ว การเรียนรู้การฝังเข็มนี้ย่อมเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป: หาคนมาลองเข็มแม่เซียวออกหน้า จ้างเด็กรับใช้มาทดสอบเข็มด้วยราคาสูงสิบตําลึงต่อครั้งสิบตําลึง เทียบเท่ากับค่าแรงหนึ่งปีของพวกเด็กรับใช้แล้ว ชั่วขณะหนึ่ง มีผู้สมัครมาอย่างไม่ขาดสายลานบ้านของเซียวเหอก็คึกคักขึ้นมาอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานเซียวเหอไม่ชอบความคึกคักแบบนี้ เขาจึงอยู่ในห้องและเล่นหมากรุกกับจี้เยว่แต่ไม่คิดเลยว่า ไม่นานนัก เสียงร้องโหยหวนก็ดังก้องไปทั่วจวนตระกูลเซียวเซียวเหอยังคงคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นและรีบออกไป แต่เห็นเพียงเด็กรับใช้คนหนึ่งวิ่งขาเป๋และวิ่งออกไปข้างนอก ราวกับกลัวว่าถ้าวิ่งช้าเกินไปเขาจ
แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่สามารถทนได้เข็มที่ห้ายังไม่ตก จี้เยว่ก็เจ็บปวดจนเป็นลมไปแล้วคราวนี้แม้แต่หนิงซวงก็ยังสงสัย "คุณหนู วิธีการฝังเข็มของท่านถูกต้องแน่เหรอเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนเริ่มไม่มั่นใจแล้ว รีบเก็บเข็มเงินที่ขาของจี้เยว่กลับมา แล้วมองเซียวเหออย่างอายๆ "ขอโทษนะท่านพี่เซียว ข้า พรุ่งนี้ข้าจะไปขอคําชี้แนะจากหมอชื่อดังคนนั้นดีกว่า!"พูดแล้วก็รีบเข้าไปในบ้านเมื่อประตูถูกปิดลง ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ก็ถาโถมเข้ามาอย่างท่วมท้นเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ มองดูเข็มเงินหลายเล่มที่อยู่ข้างหน้าตนเองแล้วอารมณ์ของนางหดหู่มากเดิมทีนางคิดว่าเรียนรู้วิธีการฝังเข็มได้เร็วขนาดนี้ เรื่องจะต้องราบรื่นมากแต่ไม่คิดว่าการทดสอบเข็มในวันแรกก็ล้มเหลวเช่นนี้แค่เข็มเงินก็หักไปสี่ห้าเล่มแล้ว ไม่ต้องพูดถึง เด็กรับใช้สิบกว่าคนที่ไม่มีใครสามารถยืนหยัดต่อไปได้แม้ว่าจี้เยว่จะอดทนเพื่อเซียวเหอมาตลอด แต่ก็ทนได้ไม่ถึงห้าเข็มก็เป็นลมจากความเจ็บปวดถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป นางจะฝึกสําเร็จได้อย่างไร?จะให้ไปลองกับขาของเซียวเหอโดยตรงเลยก็คงไม่ได้หรอกมั้ง?ขาของเซียวเหอไม่มีความรู้สึกเมื่ออาการ
กลับพบว่า ก้อนหินก้อนนั้นหลังจากลอยออกไปก็ตกลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่ลําต้นของต้นอู๋ถงก็ไม่โดน อย่าว่าแต่ฝังเข้าไปในลําต้นเลยเฉียวเนี่ยนเบ้ปาก แอบคิดในใจว่า:ไม่ได้จริงๆ ด้วยแต่ไม่คิดว่าเสียงทุ้มต่ำของเซียวเหอจะดังเข้าหู "นั่งยองๆ หน่อย"เฉียวเนี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังนั่งยองๆ ลงมา และครั้งนี้ เซียวเหอก็วางก้อนหินในมือของเฉียวเนี่ยนด้วยมือของเขาเองปลายนิ้วของเขาแฝงไปด้วยความเย็นเล็กน้อย พลางปรับท่าทางของนางพลางพูดเสียงเบาว่า "ไม่ว่าจะเป็นอาวุธลับอะไร ก็เน้นหนักไปที่พลังก่อน เจ้าเพิ่งเริ่มเรียน ต้องมุ่งความสนใจไปที่สองนิ้วนี้ อย่าคิดเรื่องเล็งเป้า ยิงไกลก่อน แล้วค่อยสนใจเรื่องอื่น"เซียวเหอพูดพลางขยับนิ้วจากหลังมือของนางขึ้นทีละนิด จากข้อมือ ถึงข้อศอก สุดท้ายถึงไหล่ จนกระทั่งปรับท่าทางของแขนทั้งแขนเรียบร้อยแล้ว เขาจึงพูดช้าๆ ว่า "ตอนนี้ลองอีกครั้ง"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ฟังคําพูดของเซียวเหอแล้วมุ่งความสนใจไปที่สองนิ้ว จากนั้นดีดก้อนหินออกไปอย่างแรง"ตุ๊บ!"เสียงเบาๆ ก้อนหินกระแทกเข้ากับลําต้นของต้นไม้แล้วตกลงมาเฉียวเนี่ยนมองหินก้อนเล็กที่กลิ้งตกลงพื้นด้วยความปร
วันรุ่งขึ้นพ่อเซียวแม่เซียวส่งคนไปถ่ายทอดคําสั่งให้เฉียวเนี่ยนไปพบพวกเขาที่ห้องโถงด้านหน้าเฉียวเนี่ยนคิดว่า คงเพราะเรื่องเมื่อวานที่ทดลองเข็มล้มเหลวเพียงแต่ นางคิดไม่ถึงว่า คนในวันนี้จะมากันครบขนาดนี้นอกจากพ่อเซียวแม่เซียวแล้ว เซียวเหิงและหลินยวนก็อยู่ด้วยแม้แต่เด็กรับใช้หลายคนที่ทดสอบเข็มเมื่อวานนี้ก็อยู่ด้วยยังไม่ทันก้าวเข้าไปในห้องโถงด้านหน้า เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกเหมือนกําลังจะถูไต่สวนยังไงชอลกลหัวใจของนางจมลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เซียวเหอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อที่อยู่ข้างหน้านาง ดูเหมือนจะรู้สึกถึงอารมณ์ของนาง เขาหันหน้ามาเล็กน้อยและปลอบโยนว่า "ข้าจัดการเอง"มีเขาขวางอยู่ข้างหน้า พ่อเซียวแม่เซียวย่อมไม่ทําอะไรเกินไปเฉียวเนี่ยนส่งเสียง "อืม" เบาๆ แล้วผลักเซียวเหอเข้าไปในห้องโถงด้านหน้าสายตาของเซียวเหิงตกอยู่ที่เฉียวเนี่ยนตั้งนานแล้วแม้ว่าเขาจะบังคับตัวเองให้ไม่ตั้งใจดู แต่ทันทีที่เฉียวเนี่ยนและเซียวเหอปรากฏตัว พวกเขาก็ปรากฏเข้าสู่สายตาของเขาทันทีท่าทางที่พวกเขาคุยกันนอกประตูเมื่อครู่ยิ่งทําให้เขาแสบตาเซียวเหิงไม่เข้าใจ ทําไมคําพูดเพียงประโยคเดียวของเซียวเหอถึ
ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยตัวตนของหมอประจำจวน นางย่อมไม่สามารถเปิดเผยได้อยู่แล้วกําลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธอย่างไร ก็ได้ยินเซียวเหอพูดขึ้นมาทันทีว่า "ท่านหมอมีชื่อเสียงผู้นั้นเป็นผู้รักสันโดด มีวาสนากับเนี่ยนเนี่ยนถึงเรียกนางมารักษาลูก หมอหลิวไปแล้ว เกรงว่าแม้แต่หน้าหมอมีชื่อเสียงผู้นั้นก็คงไม่ได้เจอ"เมื่อพ่อเซียวได้ยินเช่นนี้ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้แบละพูดว่า "แล้วตอนนี้สอนนางแล้วจะทําอย่างไรได้? ไม่มีใครลองเข็ม นางก็เรียนวิธีรักษาเจ้าไม่เป็น ยุ่งไปเปล่าๆ ไม่ใช่เหรอ?""งั้นก็ไม่รักษา" เซียวเหอสีหน้าไม่แยแส ดวงตาทั้งคู่จ้องมองไปข้างหน้า แต่กลับไม่เคยมองใคร "ลูกถูกตัดสิน‘โทษ’ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว เป็นเพราะเนี่ยนเนี่ยนนําความหวังเล็กๆ น้อยๆ มา แต่ตอนนี้ด้วยความหวังเล็กๆ น้อยๆ นี้เกิดความยากลําบาก แล้วก็ต้องโทษนาง..."เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซียวเหอค่อยมองไปที่พ่อเซียวและแม่เซียว ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นมีประกายแสงริบหรี่ "ข้าเป็นห่วงนาง"คําสี่คําสุดท้ายนั้นทําให้ทุกคนในห้องโถงตกใจเฉียวเนี่ยนมองเซียวเหออย่างงุนงง ไม่นึกเลยว่าเขาจะพูดคํานี้ออกมาแต่พอลองคิดดูอีกที บางทีเซ
กลิ่นอายที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยนั้นจู่โจมเข้ามา ทําให้คิ้วของเฉียวเนี่ยนขมวดแน่นเฉียวเนี่ยนกลัวระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้เกินไป จึงไม่ได้หันกลับมา เพียงจ้องมองชั้นวางหนังสือตรงหน้า ถามเสียงเย็นชาว่า "มาแก้แค้นให้เมียเจ้างั้นหรือ?"เซียวเหิงยืนอยู่ข้างหลังนาง จ้องมองข้ามวยของนาง ขมวดคิ้วแน่นกําหมัดแน่น แต่เสียงกลับแหบแห้งหลังจากจงใจระงับ "เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่สนใจนาง""ข้าไม่รู้" เฉียวเนี่ยนตอบอย่างเย็นชาว่า"ทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ทัพเซียว ข้าไม่อยากรู้เลย""เนี่ยนเนี่ยน..." เสียงด้านหลังสั่นเทิ้มเล็กน้อย แต่กลับสูดหายใจเข้าลึกๆ เหมือนคิดอะไรออกแล้ว แม้แต่น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความโล่งใจ "ไม่เป็นไร ต่อไปข้าจะค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟัง ไม่ว่าเจ้าอยากรู้หรือไม่อยากรู้ ข้าก็ค่อยๆ เล่าได้"แต่คําพูดนี้กลับทําให้เฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะอย่างเย็นชาต่อไป?"ข้ากับแม่ทัพเซียว ไม่มีอนาคตหรอก"นางบอกว่านางไม่ต้องการเขามานานแล้วความโกรธที่อดกลั้นของเซียวเหิง ราวกับถูกจุดขึ้นอย่างเงียบๆ ในขณะนี้ "แล้วเจ้าอยากมีอนาคตกับใคร?"คําถามนี้เต็มไปด้วยความหึงหวงอย่างเห็นได้ชัด เฉียวเนี่ยนรู้สึกว่าไม่จําเป็น
เมื่อหลินยวนพูดจบ กลับเห็นผู้ชายสองคนในห้องไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางจึงตระหนักว่าไม้นี้ของนางไม่ได้ผลแล้วเมื่อก่อน ไม่ว่ายังไง ขอเพียงตนหลั่งน้ำตา คนของจวนโหวก็จะมาล้อมตนไว้ ปลอบโยนนาง ดูแลนางแม้แต่เซียวเหิงก็ไม่เว้นแต่ตอนนี้ เซียวเหิงกลับทําเป็นไม่ได้ยินนางรู้ว่าเซียวเหิงเกลียดนางแล้วแต่ว่า...แม้แต่ความเห็นอกเห็นใจเล็กๆ น้อยๆ นั้นก็ไม่มีแล้วหรือ?เฉียวเนี่ยนมองตามสายตาของหลินยวน และอดไม่ได้ที่จะมองเข้าไปในห้องเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างที่ละเอียดอ่อนของเซียวเหิงยังคงมีความเย็นชาเหมือนเคย หัวใจของนางก็อดไม่ได้ที่จะหนักอึ้งแต่เซียวเหิงก็เป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่หรือ?ยามที่ปกป้องนาง ก็จะแก้แค้นไล่ตามคนไปทั่วเมืองหลวงแทนนางต่อมาเมื่อไม่ได้ปกป้องนางอีกต่อไป แม้แต่คนแปลกหน้าก็สู้ไม่ได้เฉียวเนี่ยนหันหน้ากลับมา มองหลินยวนด้วยสายตาเย็นชา "จําไว้นะ เจ้าเป็นคนที่ไม่มีคุณสมบัติจะมาโอ้อวดต่อหน้าข้ามากที่สุดในโลกนี้ ข้าไม่เถียงกับเจ้า เพราะข้าไม่อยาก ไม่ใช่ข้ากลัวเจ้า สงบเสงี่ยมหน่อย เป็นนายหญิงน้อยรองของเจ้าให้ดี อย่ามาหาเรื่องข้า ไม่งั้น เจ้าจะไม่มีชีวิตที่ดีแน่"พูดจบ เฉียวเนี่ยนก็
เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบนาง แต่พึมพําต่อไปว่า "ตอนนั้นเจ้าเห็นข้า น้ำตาก็ไหลลงมา แม้ยังน่ารําคาญเหมือนตอนนี้ แต่ข้ารู้ว่าน้ำตาของเจ้าในตอนนั้น อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมาจากใจจริง""ข้าเคยถามเจ้าว่าผิดตรงไหน คําตอบของเจ้าในตอนนั้นข้าไม่พอใจ เพราะสิ่งที่เจ้าผิดไม่ใช่แค่การทําชามแก้วแตกเท่านั้น แต่ยังเป็นการนิ่งเงียบด้วย เห็นข้าถูกใส่ร้ายแต่ก็เงียบมาตลอด จุดนี้ แม้แต่ตอนที่หลินเย่ว์ใส่ร้ายข้าว่าผลักเจ้าลงน้ํา เจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนเลย""แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ตอนนั้นข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าโหดร้าย แต่ตอนนี้ล่ะ? หลินยวน ตอนนี้ในมือของเจ้ามีกี่ชีวิตกัน เจ้าเคยนับบ้างไหม? เมื่อถึงตอนเที่ยงคืน พวกเขาไม่เคยมาหาเจ้าเลยหรือ?"ฮูหยินเฒ่า ขอทานเหล่านั้น เสี่ยวชุ่ย...หลินยวนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาซ่อนความหวาดกลัวไว้อย่างชัดเจน แต่น้ำตาในดวงตาคู่นั้นกลับไม่ยอมไหลออกมานางไม่ใช่หลินยวนคนเดิมอีกต่อไปแล้วหลินยวนในอดีตไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เฉียวเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินช้าๆ ไปตรงหน้าหลินยวน "เสี่ยวชุ่ยตายเพราะถูกมีดสั้นแทงทะลุหน้าอก ก็คือตําแหน่งนี้"เฉียวเนี่ยนพูดพลางยื่นนิ้วหนึ่งไปกดที่หน้าอก
เซียวเหิงถึงค่อยมีปฏิกิริยาขึ้นมา หลุบตามองเซียวเหอ "ขาทั้งสองข้างของพี่ใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง?"สิ่งที่เขาสนใจเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องนี้เซียวเหอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในใจ จึงเอ่ยเพียงว่า "ยังดีอยู่"พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าเซียวเหิงกับหลินยวนรู้กาลเทศะ ก็ควรจะไปได้แล้วแต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงไม่รู้จักกาลเทศะ"ข้าไม่ได้เดินหมากล้อมกับพี่ใหญ่มานานแล้ว วันนี้ว่างพอดี มาแข่งสักรอบดีไหม?"ความคิดในใจของเขา ใครๆ ต่างก็รู้ดีเซียวเหอกําลังจะปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่คิดว่าหลินยวนจะพูดว่า "ก็ดี ข้าก็อยากคุยกับพี่สะใภ้ดีๆ เหมือนกัน"คําว่า 'ดีๆ' นั้นเน้นเสียงเป็นพิเศษเฉียวเนี่ยนถึงเงยหน้ามองหลินยวนก็เห็นหลินยวนยังคงรักษาความอ่อนโยนตามแบบฉบับของนางไว้ แต่ดวงตาคู่นั้นกําลังบอกเฉียวเนี่ยนอย่างชัดเจนว่านางมีเรื่องจะคุยด้วยท่าทีนี้ค่อนข้างแข็งไปหน่อยแล้วเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าท่าทางและกลิ่นอายของหลินยวนในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทําผิดควรมีเลยงั้นนางจะสอนนางสักหน่อยว่า คนที่ทําผิดควรมีท่าทางอย่างไร!จึงได้ยิ้มเล็กน้อยพลันเอ่ยตอบ "ได้สิ!"ในเมื่อหลินยวนอยู่ต่อเพื่อคุยธุระกั
เซียวเหิงมองสํารวจหลินยวนด้วยสายตาเย็นชา เขารู้ว่าหลินยวนไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นภายนอกตอนนี้ก็คงมีความคิดอย่างอื่นอยู่แน่นอนแต่ ไม่สําคัญหรอกจุดประสงค์ที่เขากลับมาก็เพื่อขัดขวางการพัฒนาต่อไปของเฉียวเนี่ยนและเซียวเหอดังนั้น แม้ว่าจะใช้ข้ออ้างนี้ไปสักครั้ง แล้วยังไงล่ะ?จึงตอบตกลงด้วยสีหน้าเย็นชาและในขณะนี้ เซียวเหอกําลังสอนเฉียวเนี่ยนยิงหินอยู่เมื่อเทียบกับหนึ่งเดือนก่อน เฉียวเนี่ยนมีความก้าวหน้าไปไม่น้อย ตอนนี้ห่างจากต้นอู๋ถงประมาณสิบก้าว ก็สามารถตีถึงลําต้นได้ทุกอันแล้วแค่ความแม่นยํายังแย่ไปหน่อยดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงนั่งลงบนบันได เซียวเหอจับมือของเฉียวเนี่ยนและปรับท่าทางของนางแต่เมื่อจะเล็งไปที่กลางเป้า เซียวเหอต้องเอนตัวพิงแก้มของเฉียวเนี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะได้รู้ว่านางฟังเขาหรือไม่ เล็งไปที่เป้าหมายแล้วหรือเปล่าตอนที่เซียวเหิงเข้ามา สิ่งที่เห็นก็คือภาพแบบนี้ตาซ้ายของเฉียวเนี่ยนปิดสนิท ตาขวาจ้องหินในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนแก้มของเซียวเหอ อีกนิดเดียวก็จะแนบกับใบหน้าของนางแล้วชั่วพริบตาเดียว ก็มีคําคำหนึ่งแทรกเข้ามาในสมองของเซียวเหิง ติดหนึบเหมือน
แม่เซียวพาหลินยวนกลับมาที่จวนสำเร็จอย่างสมใจ แต่กลับไม่คาดคิดว่า เซียวเหิงจะกลับมาด้วยนางคิดว่าเซียวเหิงรู้ว่าหลินยวนกลับมาถึงได้กลับมาตาม จึงดีใจเล็กน้อย "สองสามีภรรยามีอะไรก็พูดคุยกันให้เข้าใจก็ดีแล้ว มีหรือจะทะเลาะกันนานเช่นนี้"ขณะแม่เซียวกล่าว ก็ผลักหลินยวนไปอยู่ข้างหน้าเซียวเหิง "เอาล่ะ คนนี้แม่พากลับมาให้เจ้าแล้ว ห้ามทะเลาะกันอีก พวกเจ้าไม่ได้เจอกันมานาน คุยกันดีๆ ล่ะ แม่ออกไปก่อน"ว่าจบ แม่เซียวก็หมุนตัวเดินจากไป คิดแค่ว่าให้พวกเขาได้มีเวลาคุยกันตามลำพังหลินยวนถูกแม่เซียวผลัก จนเแทบจะโถมเข้าไปในอ้อมกอดของเซียวเหิงแต่นางรู้สึกถึงการต่อต้านของเซียวเหิง จึงหยุดชะงักฝีเท้าไว้ และยืนอยู่ข้างเซียวเหิงอย่างเชื่อฟังระยะห่างใกล้กันมาก ใกล้กันจนมือของนางเหมือนจะสัมผัสโดนหลังมือของเขา ใจอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ได้แค่ก้มหน้าลง เรียงด้วยเสียงอ้อนแอ้น "ท่านพี่เหิง...""อย่ามาเสแสร้งกับข้า"น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นดวงตาคู่นั้นของเซียวเหิงมองหลินยวนด้วยสายตาเยือกเย็นและเย้ยหยันดวงตาลุ่มลึกของเขา มองท่าทางภายนอกที่ดูอ่อนแอของนางออก ทำให้ตอนนี้ เขาพูดอย่างไม่เกรงใจออกมาได้“ช่วงนี้
แม่เซียวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย "ให้ข้าไปรับกลับมาแล้วอย่างไร? เหิงเอ๋อร์ก็ไม่กลับมาอยู่อยู่ดี!"“เช่นนั้นก็คิดหาวิธีให้เขากลับมาอยู่สิ!” พ่อเซียวโกรธเกรี้ยวจัด ถลึงตาจ้องแม่เซียว “สองสามีภรรยา ทะเลาะกันไม่นานก็ดีกัน หากไม่ใช่เพราะเป็นอย่างทุกวันนี้ เอาแต่แยกกันอยู่ จะดีกันได้เมื่อใด?”ขณะว่า ก็มองไปที่แผ่นหลังของเซียวเหอกับเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง “เจ้าดูเหอเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนสิ ตอนนี้รักกันขนาดไหน”แม่เซียวมองตามแผ่นหลังของเซียวเหอกับเฉียวเนี่ยนด้วยเช่นกันพบว่า แม้เฉียวเนี่ยนจะเข็นเก้าอี้ล้อ แต่บางครั้งก็โน้มตัวไปข้างหน้า พูดคุยกับเซียวเหอเซียวเหอเองก็หันหน้ามา พูดอะไรบางอย่างกับเฉียวเนี่ยนการแสดงออกบนใบหน้า ไม่ถือว่าชอบมากนัก ทว่ามันดูผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวันโดยไม่พบใคร ไม่รู้ว่าดีขึ้นกว่าเดิมตั้งเท่าไหร่แล้ว!ในหนึ่งเดือนมานี้ แม้จะบอกว่าเซียวเหอยังคงกักตัวไม่ออกมาเหมือนเดิม ทว่าอย่างน้อยก็ได้อยู่กับเฉียวเนี่ยนอยู่ที่เรือนความรู้สึกของทั้งสอง เกรงว่าคงเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่งแล้วเมื่อคิดเช่นนี้ แม่เซียวก็รู้สึกว่าที่พ่อ
เซียวเหิงจากไปแบบนี้ ทำให้พ่อเซียวโมโหไม่น้อยเขาทรุดตัวนั่งลงที่เดิมอย่างแรง ชี้เซียวเหิงที่หายลับไปแล้ว พลางกล่าวด้วยความโกรธจัด“ไอ้เด็กเวร! ไปแล้วก็ดี!แน่จริงไปแล้วก็อย่ากลับมาอีก!”แม่เซียวรีบเข้าไปหา ลูบแผ่นหลังพ่อเซียว ทว่าน้ำเสียงกลับตำหนิ "ดูท่านสิ เอาแต่พูดจาด้วยอารมณ์! ท่านรอเขาตั้งเดือนกว่ากว่าเขาจะกลับมา ตอนนี้เขาไปแล้ว ท่านไม่ต้องมารออีกหรอกหรือ!"พ่อเซียวโดนพูดแทงใจ โมโหจนกลอกตาไปมาเซียวเหิงไม่เคยกลับจวนมาหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อส่งคนไปถาม เขาก็บอกว่ามีงานในกองทัพ แต่ตอนนี้ไม่มีสงครามเสียหน่อย ในกองทัพที่ไหนจะมีงานมากมายที่ทำให้เขาต้องเอาแต่อยู่ข้างนอกกัน?ไม่ง่ายนักที่ใช้งานวันเกิดพ่อเซียวหนนี้ เรียกเขากลับมาแต่ไม่คิดเลยว่า จะแยกจากไปอย่างไม่สบอารมณ์แบบนี้อีกเมื่อเห็นภาพนี้ เซียวชิงหน่วนอดพูดปลอบขึ้นมาไม่ได้ "แต่อย่างน้อย ทางด้านพี่ใหญ่ก็เป็นข่าวดีนะ! ส่วนพี่รอง...บางที เราควรให้เวลาเขามากกว่านี้อีกสักหน่อย!"ได้ยินคำพูดนี้ แม่เซียวพยักหน้ารัว พ่อเซียวมีสีหน้าขรึมลง ไม่พูดอะไรออกมาอีกสักประโยคบรรยากาศของสามคนนี้ก็ยังคงหม่นหมองลงเพราะการจากไปของเซียวเหิงส่วนเซี
เซียวชิงหน่วนรีบลุกขึ้นยืน ไปขวางหน้าพ่อเซียวเอาไว้ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี "ท่านพ่อดีใจจนเลอะเลือนแล้ว! ขาของพี่ใหญ่ดีขึ้นได้ก็เพราะพี่สะใภ้เป็นคนฝังเข็มรักษา จะไปเรียกหมอคนอื่นมาทำไมกัน?"เมื่อถูกนางเตือนสติ พ่อเซียวก็พยักหน้ารัวๆ “ใช่ๆ เป็นเนี่ยนเนี่ยนที่รักษา ต้องขอบคุณเนี่ยนเนี่ยนจริงๆ !”แม้แต่เซียวเหิงที่เดิมมีสีหน้าเคร่งขรึมก็ยังอ่อนลงไปไม่น้อยเขาไม่เคยคิดเลยว่า ขาของพี่ใหญ่จะกลับมามีความรู้สึกได้อีกครั้งสำหรับตระกูลเซียวแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องมงคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!ในเวลานี้ ทุกคนในตระกูลเซียวต่างพากันหันมามองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ ราวกับว่าที่มองเฉียวเนี่ยนด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อครู่ ไม่ใช่พวกเขาอย่างไรอย่างนั้นโชคดีที่เฉียวเนี่ยนไม่ได้ใส่ใจช้าเร็วนางก็ต้องไปจากตระกูลเซียว ดังนั้นตระกูลเซียวจะมีท่าทีอย่างไรกับนาง นางก็ไม่สนใจขอเพียงแค่ขาของเซียวเหอหายเหมือนปกติได้ นางก็พอใจแล้วนางแอบคิดในใจ ต้องไปปรึกษาหมอประจำจวนเพื่อหาวิธีรักษาขั้นต่อไปแต่ไม่ทันไร แม่เซียวกลับคว้ามือนางไว้ฉับพลัน น้ำตาหลั่งไหลนองหน้า "เนี่ยนเนี่ยน แม่ แม่ไม่รู้จะพูดอะไรถ