แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่สามารถทนได้เข็มที่ห้ายังไม่ตก จี้เยว่ก็เจ็บปวดจนเป็นลมไปแล้วคราวนี้แม้แต่หนิงซวงก็ยังสงสัย "คุณหนู วิธีการฝังเข็มของท่านถูกต้องแน่เหรอเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนเริ่มไม่มั่นใจแล้ว รีบเก็บเข็มเงินที่ขาของจี้เยว่กลับมา แล้วมองเซียวเหออย่างอายๆ "ขอโทษนะท่านพี่เซียว ข้า พรุ่งนี้ข้าจะไปขอคําชี้แนะจากหมอชื่อดังคนนั้นดีกว่า!"พูดแล้วก็รีบเข้าไปในบ้านเมื่อประตูถูกปิดลง ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ก็ถาโถมเข้ามาอย่างท่วมท้นเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ มองดูเข็มเงินหลายเล่มที่อยู่ข้างหน้าตนเองแล้วอารมณ์ของนางหดหู่มากเดิมทีนางคิดว่าเรียนรู้วิธีการฝังเข็มได้เร็วขนาดนี้ เรื่องจะต้องราบรื่นมากแต่ไม่คิดว่าการทดสอบเข็มในวันแรกก็ล้มเหลวเช่นนี้แค่เข็มเงินก็หักไปสี่ห้าเล่มแล้ว ไม่ต้องพูดถึง เด็กรับใช้สิบกว่าคนที่ไม่มีใครสามารถยืนหยัดต่อไปได้แม้ว่าจี้เยว่จะอดทนเพื่อเซียวเหอมาตลอด แต่ก็ทนได้ไม่ถึงห้าเข็มก็เป็นลมจากความเจ็บปวดถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป นางจะฝึกสําเร็จได้อย่างไร?จะให้ไปลองกับขาของเซียวเหอโดยตรงเลยก็คงไม่ได้หรอกมั้ง?ขาของเซียวเหอไม่มีความรู้สึกเมื่ออาการ
กลับพบว่า ก้อนหินก้อนนั้นหลังจากลอยออกไปก็ตกลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว แม้แต่ลําต้นของต้นอู๋ถงก็ไม่โดน อย่าว่าแต่ฝังเข้าไปในลําต้นเลยเฉียวเนี่ยนเบ้ปาก แอบคิดในใจว่า:ไม่ได้จริงๆ ด้วยแต่ไม่คิดว่าเสียงทุ้มต่ำของเซียวเหอจะดังเข้าหู "นั่งยองๆ หน่อย"เฉียวเนี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังนั่งยองๆ ลงมา และครั้งนี้ เซียวเหอก็วางก้อนหินในมือของเฉียวเนี่ยนด้วยมือของเขาเองปลายนิ้วของเขาแฝงไปด้วยความเย็นเล็กน้อย พลางปรับท่าทางของนางพลางพูดเสียงเบาว่า "ไม่ว่าจะเป็นอาวุธลับอะไร ก็เน้นหนักไปที่พลังก่อน เจ้าเพิ่งเริ่มเรียน ต้องมุ่งความสนใจไปที่สองนิ้วนี้ อย่าคิดเรื่องเล็งเป้า ยิงไกลก่อน แล้วค่อยสนใจเรื่องอื่น"เซียวเหอพูดพลางขยับนิ้วจากหลังมือของนางขึ้นทีละนิด จากข้อมือ ถึงข้อศอก สุดท้ายถึงไหล่ จนกระทั่งปรับท่าทางของแขนทั้งแขนเรียบร้อยแล้ว เขาจึงพูดช้าๆ ว่า "ตอนนี้ลองอีกครั้ง"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ฟังคําพูดของเซียวเหอแล้วมุ่งความสนใจไปที่สองนิ้ว จากนั้นดีดก้อนหินออกไปอย่างแรง"ตุ๊บ!"เสียงเบาๆ ก้อนหินกระแทกเข้ากับลําต้นของต้นไม้แล้วตกลงมาเฉียวเนี่ยนมองหินก้อนเล็กที่กลิ้งตกลงพื้นด้วยความปร
วันรุ่งขึ้นพ่อเซียวแม่เซียวส่งคนไปถ่ายทอดคําสั่งให้เฉียวเนี่ยนไปพบพวกเขาที่ห้องโถงด้านหน้าเฉียวเนี่ยนคิดว่า คงเพราะเรื่องเมื่อวานที่ทดลองเข็มล้มเหลวเพียงแต่ นางคิดไม่ถึงว่า คนในวันนี้จะมากันครบขนาดนี้นอกจากพ่อเซียวแม่เซียวแล้ว เซียวเหิงและหลินยวนก็อยู่ด้วยแม้แต่เด็กรับใช้หลายคนที่ทดสอบเข็มเมื่อวานนี้ก็อยู่ด้วยยังไม่ทันก้าวเข้าไปในห้องโถงด้านหน้า เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกเหมือนกําลังจะถูไต่สวนยังไงชอลกลหัวใจของนางจมลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เซียวเหอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อที่อยู่ข้างหน้านาง ดูเหมือนจะรู้สึกถึงอารมณ์ของนาง เขาหันหน้ามาเล็กน้อยและปลอบโยนว่า "ข้าจัดการเอง"มีเขาขวางอยู่ข้างหน้า พ่อเซียวแม่เซียวย่อมไม่ทําอะไรเกินไปเฉียวเนี่ยนส่งเสียง "อืม" เบาๆ แล้วผลักเซียวเหอเข้าไปในห้องโถงด้านหน้าสายตาของเซียวเหิงตกอยู่ที่เฉียวเนี่ยนตั้งนานแล้วแม้ว่าเขาจะบังคับตัวเองให้ไม่ตั้งใจดู แต่ทันทีที่เฉียวเนี่ยนและเซียวเหอปรากฏตัว พวกเขาก็ปรากฏเข้าสู่สายตาของเขาทันทีท่าทางที่พวกเขาคุยกันนอกประตูเมื่อครู่ยิ่งทําให้เขาแสบตาเซียวเหิงไม่เข้าใจ ทําไมคําพูดเพียงประโยคเดียวของเซียวเหอถึ
ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยตัวตนของหมอประจำจวน นางย่อมไม่สามารถเปิดเผยได้อยู่แล้วกําลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธอย่างไร ก็ได้ยินเซียวเหอพูดขึ้นมาทันทีว่า "ท่านหมอมีชื่อเสียงผู้นั้นเป็นผู้รักสันโดด มีวาสนากับเนี่ยนเนี่ยนถึงเรียกนางมารักษาลูก หมอหลิวไปแล้ว เกรงว่าแม้แต่หน้าหมอมีชื่อเสียงผู้นั้นก็คงไม่ได้เจอ"เมื่อพ่อเซียวได้ยินเช่นนี้ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้แบละพูดว่า "แล้วตอนนี้สอนนางแล้วจะทําอย่างไรได้? ไม่มีใครลองเข็ม นางก็เรียนวิธีรักษาเจ้าไม่เป็น ยุ่งไปเปล่าๆ ไม่ใช่เหรอ?""งั้นก็ไม่รักษา" เซียวเหอสีหน้าไม่แยแส ดวงตาทั้งคู่จ้องมองไปข้างหน้า แต่กลับไม่เคยมองใคร "ลูกถูกตัดสิน‘โทษ’ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว เป็นเพราะเนี่ยนเนี่ยนนําความหวังเล็กๆ น้อยๆ มา แต่ตอนนี้ด้วยความหวังเล็กๆ น้อยๆ นี้เกิดความยากลําบาก แล้วก็ต้องโทษนาง..."เมื่อพูดถึงตรงนี้ เซียวเหอค่อยมองไปที่พ่อเซียวและแม่เซียว ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นมีประกายแสงริบหรี่ "ข้าเป็นห่วงนาง"คําสี่คําสุดท้ายนั้นทําให้ทุกคนในห้องโถงตกใจเฉียวเนี่ยนมองเซียวเหออย่างงุนงง ไม่นึกเลยว่าเขาจะพูดคํานี้ออกมาแต่พอลองคิดดูอีกที บางทีเซ
"ไม่ได้!""ไม่ได้!"เสียงทั้งสองดังขึ้นแทบจะพร้อมกันเซียวเหอหันไปมองเซียวเหิง กลับเห็นอีกฝ่ายกําลังมองเขาอยู่เช่นกันภายในห้องโถง สายตาของคนที่เหลือต่างจับจ้องไปที่ใบหน้าของทั้งสองคนอย่างควบคุมไม่ได้เด็กรับใช้เหล่านั้นเหมือนกําลังดูเรื่องสนุกอยู่ คิดแต่ว่า คุณชายใหญ่และคุณชายรองคงไม่ได้จะต่อสู้กันเพื่อนายหญิงน้อยใหญ่หรอกนะ?สีหน้าของพ่อเซียวแม่เซียวก็ย่ำแย่ถึงขีดสุด ขมวดคิ้วแน่น พ่อเซียวถึงกับแอบถลึงตาใส่เซียวเหิงเหลวไหลสิ้นดี!ส่วนหลินยวนก็ก้มหน้า ความเกลียดชังยิ่งรุนแรงขึ้นไม่ง่ายเลยกว่าจะขวางเซียวเหิงไว้ได้สักครั้ง นึกไม่ถึงว่าเขาจะยังไม่สนใจเช่นนี้อีก!นี่เอาภรรยาเอกอย่างนางไปไว้ที่ไหนกัน!แม้แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังขมวดคิ้วอย่างเก้อเขิน กรอกตาในใจหลายครั้ง แอบด่าเซียวเหิงอยู่หลายรอบ!นางลองเข็มเพื่อเซียวเหอ เกี่ยวอะไรกับเขา?และในที่สุดเซียวเหิงก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความไม่เหมาะสมของตัวเอง จึงพูดด้วยเสียงต่ำเหมือนอธิบาย "หมอย่อมไม่รักษาตัวเอง ถ้าเจ้าลองเข็ม เกิดเรื่องอะไรขึ้น พี่ใหญ่จะรู้สึกไม่สบายใจ"ข้ออ้างนี้เงอะงะจริงๆแต่เซียวเหอกลับเห็นด้วย"เหิงเอ๋อร์พูดมีเหตุผ
ในใจก็อดสงสัยไม่ได้นางรู้สึกว่าหลินยวนรู้กาลเทศะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องเกินเลย หลินยวนก็คงไม่ถึงกับไม่เห็นด้วยหรอกแม่เซียวกวักมือเรียกเซียวชิงหน่วน "เรื่องเพื่อรักษาพี่ใหญ่ของเจ้าน่ะ เมื่อวานเด็กรับใช้ในบ้านล้วนทนความเจ็บปวดจากการทดลองฝังเข็มไม่ได้ พี่รองของเจ้าบอกว่าเขายินดีที่จะลอง"ได้ยินดังนั้น ในที่สุดเซียวชิงหน่วนก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในเมื่อเป็นการทดสอบเข็ม งั้นก็ต้องถลกขากางเกงขึ้นแน่นอน เด็กรับใช้คนอื่นไม่เป็นไร แต่เซียวเหิงกับเฉียวเนี่ยนเคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน การใกล้ชิดสนิทสนมกันเช่นนี้ย่อมทําให้คนนอกคิดฟุ้งซ่านไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดที่เซียวเหิงมีต่อเฉียวเนี่ยน คนทั้งจวนมีใครไม่รู้บ้าง?หลินยวนเป็นภรรยาของเซียวเหิง จะอนุญาตให้ทั้งสองได้ติดต่อกันทุกวันได้อย่างไร?ไม่น่าแปลกใจที่หลินยวนไม่เห็นด้วยแต่... ในที่สุดขาของพี่ใหญ่นางก็สามารถเห็นความหวังและสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งเสียที!คิดแบบนี้แล้ว เซียวชิงหน่วนก็ขมวดคิ้ว ่ก่อนจะตัดสินใจทําอะไรสักอย่างเพื่อบ้านนี้ "เอาอย่างนี้ดีไหม พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่รองมาลองเข็มที่เรือนข้า ข้าเป็นผู้หญิง หาก
ที่ด้านข้าง ในที่สุดพ่อเซียวก็ตัดสินใจเรื่องนี้ได้แล้ว "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ลองดูก่อนเถอะ"เขาคิดว่า ไม่แน่ว่า เข็มนี้อาจจะลงแรงมาก แม้แต่เหิงเอ๋อร์ก็ทนไม่ได้ก็เป็นได้?ถ้าแม้แต่ครั้งแรกก็ทนไม่ไหว งั้นข้างหลังก็ไม่ต้องไปที่เรือนของหน่วนหน่วนแล้ว!ในเรื่องนี้ทุกคนไม่มีข้อคัดค้านถือโอกาสที่วันนี้คนมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนต่างก็อยากเห็นว่าเฉียวเนี่ยนจะทดลองเข็มอย่างไรกันแน่คนทั้งกลุ่มจึงพากันไปที่เรือนของเซียวชิงหน่วนอย่างเอิกเกริกในห้องที่ใหญ่ที่สุดทางทิศตะวันออก พ่อเซียวแม่เซียวนั่งอยู่ข้างๆ ดูประหม่าเล็กน้อยเซียวชิงหน่วนจึงอยู่เป็นเพื่อนแม่เซียว ปลอบโยนบ้างเป็นครั้งคราวเซียวเหอก็นั่งเก้าอี้ล้อไปด้านข้าง เหมือนกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะตื่นเต้น จึงส่งสายตาเป็นมั่นเป็นเหมาะเมื่อนางมองมาที่ตัวเองเขาเชื่อว่านางทําได้แต่เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตื่นเต้นเลยสักนิด คิดแต่ว่า ถ้าเซียวเหิงทนไม่ไหว นางก็จะลองเอง ไม่ว่าอย่างไร นางก็ต้องรักษาเซียวเหอให้หายให้ได้หลินยวนก็ตามมาด้วย นางยืนอยู่ข้างหลังแม่เซียว สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติถ้าเป็นไปได้ แน่นอนว่านางไม่อยากมาร่วมด้วยเลย เพียงแต่ทุกคน
หัวใจเจ็บแปลบเล็กน้อย เซียวเหิงเอนกายพิงพนักเก้าอี้ แล้วจึงเอ่ยปากเสียงเรียบ "เชิญ"เฉียวเนี่ยนพยักหน้า จากนั้นหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมา แทงเข้าไปในจุดฝังเข็มแรกนางสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กล้ามเนื้อที่ขาของเซียวเหิงพองขึ้นอย่างฉับพลันเพราะเข็มเงินที่ฝังเข้าไป นี่เป็นปฏิกิริยาปกติของมนุษย์เมื่อต้องรับมือกับความเจ็บปวดนางเงยหน้าขึ้นมองเขาโดยไม่รู้ตัว แต่กลับเห็นสีหน้าของเขาเป็นปกติ ราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อยดีกว่าพวกเด็กรับใช้พวกนั้นเยอะเลยเฉียวเนี่ยนพอใจกับสิ่งนี้มาก จึงตีเหล็กตอนที่ยังร้อนอยู่ และเริ่มฝังเข็มที่สองสีหน้าของเซียวเหิงยังคงเป็นปกตินั่นทําให้พ่อเซียวแม่เซียวรู้สึกว่าคําพูดของพวกเด็กรับใช้เกินจริงเกินไปจนกระทั่ง เข็มที่ห้ามันเป็นเข็มที่แม้แต่จี้เยว่ก็ยังทนไม่ไหวและเป็นลมจากความเจ็บปวดแต่เซียวเหิงก็ยังคงไม่พูดอะไรสักคํา มีเพียงเหงื่อเย็นบนหน้าผากเท่านั้นที่พิสูจน์ได้ว่าเขาเจ็บจริงๆเฉียวเนี่ยนย่อมเห็นอยู่แล้ว แต่นางไม่เข้าใจว่าทําไมเซียวเหิงไม่ตะโกน ทําไมไม่แสดงออกมา เพราะกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อนางเหรอ?ในใจจึงรู้สึกรําคาญเล็กน้อย น้ำ
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด
ในขณะเดียวกัน ที่แม่น้ำฉางหยาง เฉียวเนี่ยนก็ฟื้นขึ้นมาเมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นชายคนหนึ่งที่มีหนวดเคราเต็มใบหน้ากำลังจ้องมองนางอย่างไม่วางตานางตกใจมาก หันหลังถอยทันที แต่ไม่ทันระวัง พื้นด้านหลังของนางกลับว่างเปล่าไปเสียแล้ว เกือบจะทำให้เธอล้มลงไปในแม่น้ำ แต่ชายที่มีหนวดเคราคนนั้นรีบคว้าแขนของนางไว้พอดี ทำให้นางทรงตัวได้ทันเฉียวเนี่ยนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า ข้างหลังของนางคือแม่น้ำกว้างที่ไร้ขอบเขตที่นี่คือแม่น้ำฉางหยาง?ยังไม่ทันที่เฉียวเนี่ยนจะได้ตอบสนองอะไร เสียงจากอีกฝั่งก็ดังขึ้นมา "อย่าขยับ แม่น้ำฉางหยางลึกมาก ถ้าตกลงไปแล้วก็ขึ้นมาได้ยาก!"เฉียวเนี่ยนมองไปที่ชายที่พูด เขาดูไม่เกินสิบเจ็ดสิบแปดปี ยังเป็นเพียงแค่หนุ่มวัยรุ่นขณะนี้เขากำลังเช็ดดาบยาวในมืออย่างตั้งอกตั้งใจเฉียวเนี่ยนเริ่มนึกบางอย่างออกนางปลอมตัวเป็นบ่าวหญิง หลบหนีออกจากเรือนอย่างลับ ๆ ผ่านการหลอกลวงองครักษ์ทั้งในและนอกเรือนแต่กลับมาพบกับชายสองคนนี้ระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นชายที่มีหนวดเคราคนนี้ที่จำนางได้เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วและถามขึ้น "พวกเจ้าคือโจรภูเขาจากหยงเป่ยใช่ไหม?"พวกเขาคือคนที่ฆ่าจิ่งเหยียน!ช
เซียวชิงหน่วนตกใจจนแทบขาดสติ ดวงตาทั้งสองแดงบวม พอเห็นเซียวเหอ นางก็แทบจะร้องไห้ออกมาในทันที แต่พอเห็นเซียวเหิงกับหลินเย่ว์ น้ำตาที่จวนจะไหลกลับกลั้นเอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ในแววตากลับเผยให้เห็นความตระหนกยิ่งกว่าเดิม "พวกท่านมาทั้งหมดได้อย่างไร? แล้วเนี่ยนเนี่ยนเล่า? เป้าหมายของโจรภูเขาคือเนี่ยนเนี่ยนนะ!"อีกฝ่ายมีเพียงสองคน หลังจากมัดนางไว้ที่นี่ ก็รีบร้อนออกไปหาเฉียวเนี่ยนทันที!นางก็เป็นเพียงแค่เหยื่อล่อ ที่ถูกใช้ลวงเซียวเหิงให้ออกจากเรือนที่อยู่นอกเมืองหลวงเท่านั้น!ล่อเสือออกจากถ้ำ!เซียวเหิงหันหลังแล้วรีบจากไปทันที!ความหวาดกลัวในใจได้กลืนกินเขาไปหมดแล้วที่ผ่านมาก็มัวแต่วกวนอยู่กับรอยสักหัวเสือนั่นจนไม่ทันคิดกลัวว่าเมื่อหน่วนหน่วนตกอยู่ในมือโจรภูเขา นางจะต้องถูกทรมานอย่างโหดร้าย จึงรีบรุดมาด้วยความไม่ทันไตร่ตรอง!เซียวเหอก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน แต่ในใจก็ยังแอบมีความหวังอยู่บ้างคนที่ซุนเซี่ยนส่งมา ล้วนเป็นยอดฝีมือจากในกองทัพ ยังรวมกับคนของเขาช่วยกันเฝ้าอยู่หน้าจวนของเซียวเหิงหากโจรภูเขาบุกเข้าไปในจวนเซียวเหิงจริง อย่างน้อยคนของเขาก็คงพอถ่วงเวลาไว้ได้บ้างอย่างน้อย ก็
เมื่อเฉียวเอ๋อร์กลับมา ฮุ่ยเอ๋อร์ก็ยืนอยู่ด้านนอกห้องแล้วห้องของเฉียวเนี่ยนปิดสนิท ชวนให้ผู้คนสงสัย "ฮูหยินเล่า?"ฮุ่ยเอ๋อร์ตอบอย่างเยือกเย็น "ฮูหยินบอกเมื่อครู่ว่ารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงล้มตัวนอนพักแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะมองประตูห้องอย่างแปลกใจ "ฮูหยินไม่สบายหรือ? ให้ข้าไปตามหมอมาดูหรือไม่?"ฮุ่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ส่ายหน้า "น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนพักผ่อนไม่เพียงพอกระมัง เจ้าอย่าคิดมากเลย ปล่อยให้ฮูหยินพักผ่อนเถอะ"แต่เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของฮุ่ยเอ๋อร์ เฉียวเอ๋อร์กลับเริ่มระแวง นางดูออกว่าสีหน้าของฮุ่ยเอ๋อร์นั้นไม่เป็นธรรมชาติราวกับเพิ่งตระหนักอะไรขึ้นมา นางจึงกดเสียงให้เบาลง "หรือว่าเกิดเรื่องกับฮูหยินขึ้นแล้ว?"ฮุ่ยเอ๋อร์ไม่คิดว่าเฉียวเอ๋อร์จะจับพิรุธได้ทันที สายตาก็พลันหลบเลี่ยงโดยไม่รู้ตัว "ไม่ ไม่มีอะไร เจ้าอย่าคิดมากไปเลย"แต่เฉียวเอ๋อร์ไม่เชื่อ นางยื่นถ้วยน้ำเชื่อมที่ถืออยู่ให้ฮุ่ยเอ๋อร์ แล้วก็หันกลับไปเคาะประตู "ฮูหยิน บ่าวเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ?"ไม่มีแม้แต่คำตอบ เฉียวเอ๋อร์จึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไปภายในห้อง ไร้ซึ่งเงาของเฉียวเนี่ยน"เ
แต่รอยยิ้มในตอนนี้กลับดูเหมือนเป็นการฝืนยิ้มเมื่อเห็นว่าไม่สามารถปิดบังเฉียวเนี่ยนได้ เซียวเหิงจึงยอมปริปาก "หน่วนหน่วนหายตัวไป""อะไรนะ?!" เฉียวเนี่ยนตกตะลึง ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงเข้ามาครอบงำนาง"หน่วนหน่วนหายตัวไปหรือ? ตั้งแต่เมื่อใดกัน?""ครึ่งชั่วยามก่อน""เช่นนั้นท่านยังไม่ไปออกตามหาหน่วนหน่วนอีกรึ เหตุใดถึงยังอยู่ที่นี่!" เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะโวยวายออกมาด้วยความตื่นตระหนก "หากนางตกไปอยู่ในเงื้อมือของพวกโจรภูเขาจะทำอย่างไร!"ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเซียวเหิงก็เคร่งเครียดขึ้นเขามองไปยังนาง ดวงตาฉายแววเย็นชา "เจ้ารู้ได้อย่างไร ว่าเป็นพวกโจรภูเขา?""คราวก่อนท่านพูดเองนี่ ว่าพวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง" เฉียวเนี่ยนพูด จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก "อีกอย่าง ตอนนี้เรื่องที่ว่าข้ารู้ได้อย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ท่านต้องใส่ใจหรือ? หากว่าหน่วนหน่วนตกไปอยู่ในเงื้อมือของโจรภูเขาจริง ๆ ต้องจบไม่สวยแน่! ท่านรีบไปตามหานางเถอะ!"เซียวเหิงรู้สึกสั่นไหวในใจหน่วนหน่วนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขา เขาจะไม่เป็นห่วงนางได้อย่างไร?เพื่อปล้นสะดมทรัพย์สินแล้ว พวกโจรภูเขาเหล
ก็แค่ข่าวนั้น เซียวเหอก็ยังให้จี้เยว่หาคนไปปิดเอาไว้ก่อนไม่ว่าจะอย่างไร ในใจของเขา ความปลอดภัยของเนี่ยนเนี่ยนก็ยังคงมาเป็นอันดับแรกเสมอเขาไม่มีวันจะยอมเอาเนี่ยนเนี่ยนไปเสี่ยงอันตราย เพียงเพราะต้องการสร้างผลงานชื่อเสียงแต่พอจี้เยว่เพิ่งจะปิดข่าวลงได้ ซุนเซี่ยนก็กลับส่งคนออกไปแพร่ข่าวไปทั่วอีก จนในที่สุด ข่าวลือในเมืองหลวงก็ยิ่งลุกลามใหญ่โตจี้เยว่รู้สึกขุ่นเคือง "คุณชายใหญ่ ซุนเซี่ยนนี่มันไม่ได้เห็นค่าชีวิตของนายหญิงน้อยใหญ่ของพวกเราเลยสักนิด!"พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยนั้นล้วนแต่เป็นพวกโหดเหี้ยมอำมหิต หัวหน้าของพวกมันตายไปแล้วยังกล้าลงมาหาเรื่องตระกูลเซียวถึงเมืองหลวง ดูจากแค่นี้ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่พวกที่จะไปยุ่งด้วยง่าย ๆหากนายหญิงน้อยใหญ่ตกอยู่ในมือของพวกมัน ใครจะรู้ว่านางจะต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนเซียวเหอสีหน้าหม่นลงเล็กน้อยตั้งแต่ซุนเซี่ยนมาหาเขา เขาก็รู้แล้วว่าซุนเซี่ยนกำลังคิดแผนการอะไรอยู่ ในตอนนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นว่า "แล้วทางเหิงเอ๋อร์ล่ะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?""คุณชายรองไม่ได้ไปที่ค่ายทหารเลยตั้งแต่เมื่อวาน อยู่แต่ในเรือนฝั่งอื่นตลอดวัน คงจะเดาได้แล้วว่าพวกโจรภูเขาจะม
ข่าวลืองั้นหรือ?เซียวเหอคิดในใจว่าเป็นไปได้สูง ที่จะเป็นเรื่องที่เขาสั่งให้จี้เยว่ทำเมื่อคืนเขาขมวดคิ้วและถามกลับ "ใต้เท้าซุน นี่คือเหตุผลที่ท่านมาวันนี้หรือ?"แต่แล้วก็ได้ยินซุนเซี่ยนลดเสียงลงเอ่ยว่า "ท่านรู้หรือไม่ว่า พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ย ปรากฏตัวอยู่ในเมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้?"พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยหรือ?เซียวเหอตะลึง "นี่เป็นข้อมูลของเมื่อไหร่กัน?""ไม่กี่วันก่อนหน้านี้น่ะสิ! แม่ทัพเซียวก็รู้ ไม่เช่นนั้นบาทก็ไม่มีทางให้ข้าใช้ข้ออ้างนั้นหรอก!"เพียงแต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ราษฎรแตกตื่น เรื่องนี้จึงยังไม่ได้แพร่ออกไป อย่าว่าแต่เซียวเหอเลย ต่อให้เป็นเหล่าขุนนางในราชสำนัก ก็ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้คำพูดของซุนเซี่ยน เปรียบเสมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจของเซียวเหอในที่สุดเขาก็เข้าใจ ว่าเหตุใดเฉียวเนี่ยนถึงให้คนส่งข่าว แพร่เรื่องที่นางถูกเซียวเหิงกักขังออกไปนางไม่ได้ต้องการให้ฮ่องเต้ช่วยนางด้วยซ้ำ ข่าวคราวเหล่านั้น นางจงใจแพร่ไปให้พวกโจรภูเขาแห่งหยงเป่ยได้ยิน!ก่อนหน้านี้ เซียวเหิงเคยนำทัพปราบปรามพวกโจรภูเขาจนรังโจรภูเขาของพวกมันพินาศย่อยยับ บัดนี้พวกมันปรากฏตัวในเมืองหลวง ยากนักท
อีกด้านหนึ่ง เซียวเหอก็ได้รับข่าวคราวมาแล้วแต่จี้เยว่กลับไม่เข้าใจ "เหตุใดนายหญิงน้อยใหญ่ถึงต้องการให้พวกเราแพร่ข่าวคราวของนางออกไป? ต่อให้คนทั้งเมืองหลวงรู้เรื่องแล้วอย่างไร? มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณชายรองคงไม่สนใจคำพูดคนรอบข้างแล้วมิใช่หรือขอรับ?"เซียวเหอเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันหรือเนี่ยนเนี่ยนต้องการให้คำพูดของพวกชาวบ้านทำให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ฮ่องเต้ทรงบีบบังคับเซียวเหิง ให้ปล่อยตัวนางออกมา?อย่างไรเสีย การแย่งชิงสะใภ้ใหญ่ ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับของโลกภายนอกอยู่แล้วหากเหล่าขุนนางร่วมมือกันเล่นงานเซียวเหิง ย่อมถึงขั้นที่แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้แต่ว่า...ความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จนั้น เรียกได้ว่าเล็กน้อยจนแทบจะเป็นศูนย์ยังไม่ต้องพูดถึงว่า ตอนที่พวกเขาแพร่ข่าวจนทั่วทั้งเมืองนั้น เซียวเหิงก็ต้องใช้อำนาจของตนเองในการปิดเรื่องนี้ให้เงียบลงแม้จะเล็ดรอดไปถึงหูฮ่องเต้ แต่ด้วยนิสัยของเซียวเหิง เพียงคำว่า 'กระหม่อมไม่ทราบเรื่อง' ประโยคเดียว ต่อให้ฮ่องเต้สั่งลงโทษหนัก ใช้ไม้ตีทหารฟาดจนเลือดเนื้อเละเทะ เขาก็อาจไม่ยอมปริปากเลยก็ได้!เมื่อเห็นเซียวเหอไม่กล่าวอันใด จ
ห้องครัวไม่ได้กว้างนัก ตะกร้าใบใหญ่สองใบของพวกชาวสวนก็แทบจะกินพื้นที่ไปไม่น้อย บวกกับบรรดาพ่อครัวและเด็กรับใช้ที่กำลังยุ่งอยู่ภายในครัว ก็ยิ่งทำให้ดูแออัดยิ่งนักเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์จึงยืนรออยู่ด้านนอกของครัวเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้อย่างไรเสีย คนทั้งจวนล้วนเป็นคนที่เซียวเหิงคัดเลือกมาด้วยตนเอง ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะพูดคุยกับเฉียวเนี่ยนแม้แต่คำเดียวเฉียวเนี่ยนก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรมากนักในวันนี้ หากแต่ไม่คาดคิดว่า ชาวสวนคนใหม่กลับเดินเข้ามา "ฮูหยิน ท่านดูสิ ผักนี่สดมากเลยขอรับ!"นอกห้องครัว เฉียวเอ๋อร์เห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี ก็ขมวดคิ้วทันทีนางจ้องริมฝีปากของชาวสวนเขม็ง นางอ่านปากได้ แม้มิได้อยู่ข้างกายเฉียวเนี่ยน ก็ยังรู้ว่าชาวสวนพูดว่าอะไรเฉียวเนี่ยนก็ชะงักไปเล็กน้อย มองชาวสวนด้วยความแปลกใจ แต่ก็เห็นเพียงสีหน้าใสซื่อจริงใจของอีกฝ่าย หาได้มีพิรุธอันใดไม่แต่เมื่อนางก้มตามอง ก็เห็นบนใบของผักกาดขาวนั้น กลับถูกสลักไว้ด้วยเล็บเป็นตัวอักษรว่า 'เหอ'ชาวสวนคนนี้ เป็นคนของเซียวเหอ!เฉียวเนี่ยนเห็นดังนั้น จึงรับผักกาดขาวใบนั้นมา แล้วก็ปัดใบที่มีตัวอักษรสลักอยู่ออกอย่างแน