แชร์

บทที่ 255

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เมื่อท่านโหวหลินรู้ก็เดือดดาลอย่างที่คาดการณ์ไว้

ไม่รอให้เฉียวเนี่ยนกลับไปถึงเรือนฟางเหอ ทหารองครักษ์ในจวนก็ล้อมเรือนฟางเหอไว้แล้ว

หัวหน้าทหารองครักษ์คำนับให้กับเฉียวเนี่ยนที่เพิ่งกลับมาถึง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "ท่านโหวมีรับสั่ง ให้กักบริเวณคุณหนูใหญ่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามออกไปข้างนอกเรือนฟางเหอเด็ดขาด"

เฉียวเนี่ยนคาดการณ์ไว้อยู่แล้วจึงไม่ตกใจแต่อย่างใด ขานรับเสียงเรียบแล้วเดินเข้าไปเพียงเท่านั้น

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าทหารองครักษ์จะขวางเฉียวเนี่ยนเอาไว้แล้วพูดต่อ "ท่านโหวยังรับสั่งอีกว่า ในเมื่อคุณหนูใหญชอบวิธีการอดอาหาร เช่นนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป ห้ามดื่ม ห้ามกินอาหาร จนกว่าคุณหนูใหญ่จะสำนึกผิดขอรับ"

เฉียวเนี่ยนทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้

ทว่าสีหน้ายังคงนิ่งเรียบดังเดิม "ข้ารู้แล้ว ที่นี้เข้าไปได้หรือยัง?"

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนสงบนิ่ง หัวหน้าทหารองครักษ์ก็อดสงสัยไม่ได้ คิดว่าเฉียวเนี่ยนต้องแอบเล่นตุกติกกับการถูกกักบริเวณครั้งนี้ จึงเอ่ยกระซิบเตือน "ท่านโหวส่งข้ามาเฝ้าเวรยามเรือนฟางเหอโดยเฉพาะ ระหว่างนี้ห้ามผู้ใดเข้าออกเรือนฟางเหอทั้งสิ้น หากผู้ใดฝ่าฝืนให้ฆ่าได้เลย"

นั่นหมายคว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
จิตราพัชญ์ ศิวัฒน์ชนานิน
มาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 256

    เฉียวเนี่ยนยืนอยู่หลังประตูเรือน ทอดสายตามองสระบัวยามค่ำคืนตรงหน้าสระน้ำสะท้อนแสงโคมไฟริมฝั่ง แสงไรรำไร ราวกับจะดับลงได้ทุกเมื่อ แม้แต่สะพานหินเหนือสระบัวยังสะท้อนภาพพร่ามัวเฉียวเนี่ยนสูดหายใจลึก ก่อนจะเดินไปทางสะพานหิน เสียงลมอ่อนโยนพัดผ่านใบหู สะบัดปอยผมข้างกกหูปลิวสไว แต่ผิวน้ำในสระกลับไม่แม้แต่จะกระเพื่อมไหวทันใดนั้นเองเฉียวเนี่ยนก็พลันรู้สึกว่า อาจเป็นเพราะแสงจากโคมไฟ หรือสายลมยามราตรี ไม่ว่านางจะถูกทรมานเพียงใด ก็ไม่อาจเป็นที่รักของครอบครัวอยากที่เคยเป็นได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ก้มหน้ายิ้ม ทว่าขมขื่นเหลือเกินวินาทีนั้นนางกลับรู้สึกว่าโชคดีที่มีหลินยวนหากหลินยวนอดอาหารจริงๆ ท่านโหวหลินต้องทำใจไม่ได้แน่นอน!นางเดิมพันได้เลย!ไม่ถึงสองวัน ท่านโหวหลินมาถึงเรือนฟางเหอด้วยความเดือดดาลในตอนนั้นเฉียวเนี่ยนกำลังถอนหญ้าอยู่ในเรือนต้นฤดูใบไม่ผลิ ต้นหญ้าในกระถางดอกไม้โตไวนัก หากไม่ถอน ปล่อยทิ้งไว้ไม่กี่วันเกรงว่าจะสูงกว่าดอกไม่แล้วเมื่อเห็นท่านโหวหลินพรวดพราวเข้ามาใน เฉียวเนี่ยนจึงลุกขึ้น ยื่นสองฝ่ามือเปื้อนดินให้ท่านโหวหลินก่อนจะเอ่ย "ไม่รู้ว่าวันนี้ท่านโหวจะมา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 257

    คนที่เคยคว้าเดือนคว้าดาวเพื่อลูกสาวได้ ยามนี้กลับคิดจะเอาชีวิตนางหึ!เฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะ หันหลังกลับไปถอนหญ้าตา แววตาที่หลุบลงนั้น เก็บซ่อนความโศกเศร้าที่อาจให้ใครรับรู้ได้"หากท่านโหวหลินสงสารคุณหนูหิน เช่นนั้นก็ควรปล่อยตัวคนบริสุทธิ์เสีย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกิดคุณหนูหลินอดตายขึ้นมา ข้าคงโล่งใจไปอีกหนึ่งเปราะ!" พูดถึงเพียงเท่านั้น เฉียวเนี่ยนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้บสงอย่าง เงยหน้าขึ่นมองท่านโหวหลินความรู้สึกในแววตาถูกเก็บซ่อนจนมิด ยามนี้เหลือเพียงความสะใจ "คุณหนูหลินเป็นถึงลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านโหวหลินจะเจ้าคะ ท่านโหวหลินคงทำใจยอมให้นางตายไปไม่ได้หรอกใชไหมเจ้าคะ?"ท่านโหวหลินโมโหจนหัวแทบจะกระตุกลอยขึ้นฟ้า มองท่าทางลำพองใจของเฉียวเนี่ยน ไฟโกรธในใจเขาโหมกระพือ "ดี! ดียิ่งนัก! เจ้าคิดว่าจะใช้สิ่งนี้บีบบังคับข้าได้จริงหรือ? เจ้าดูถูกพ่อเจ้าเกินไป! ครั้งพ่อเจ้าลงสนามรบสู้ศัครู เจ้ายังไม่เป็นตัวเป็นตนด้วยซ้ำ!"ท่านโหวหลินอยากจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า เขานั้นอารมณ์ร้ายปานใด ทั้งยังไม่ใช่คนที่จะยอมอ่อนข้าด้วยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนกลับเอ่ยเสียงเรียบเพียงว่า "พ่อข้าแซ่เฉียว ได้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 258

    ขอบตาดำคล้าของเฉียวเนี่ยนในยามนี้ ทำเอานางแทบใจสลายจากนั้นก็ได้ยินเฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงไร้เรี่ยวแรง "ส่งคนไป ไปดูที่ศาลาว่าการ"หนิงซวงพยักหน้ารัว "เจ้าค่ะ ข้าจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้!"ว่าจบหนิงซวงก็รีบส่งคนไปศาลาว่าการท่านโหวหลินเห็นแล้วก็ร้อนรน "เจ้าส่งคนไปดูถึงที่ ข้าคงไม่หลอกเจ้าหรอก เจ้ารีบบอกให้น้องสาวเจ้ากินอะไรเสียที!"ขณะพูดนั้นฮูหยินหลินก็เดินเข้ามา สาวใช้สองนางที่ตามติดยกโจ๊กรังนกมาคนละถ้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนและหลินยวน ฮูหยินหลินก็อดปวดใจไม่ได้ รีบเรียกสาวใช้เข้ามา "เร็วเข้า รีบป้อนโจ๊กให้คุณหนูทั้งสอง"ทันใดนั้นสาวใช้สองนางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเฉียวเนี่ยนและหลินยวน ตักโจ๊กรังนกขึ้นมาช้อนหนึ่งแล้วป้อนถึงปากทั้งสองคนทว่าริมฝีปากของเฉียวเนี่ยนกลับปิดแน่น ไม่ยอมอ้าเปิดสองตามองไปทางหลินยวน แววตานั้นกำลังข่มขู่เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเฉียวเนี่ยนที่มองมา หลินยวนพลันกระตุก ปากที่กำลังอ้าออกก็หุบลงในทันที ร่างทั้งกลับลงไปนอนแน่นิ่งอีกลงบนเก้าอี้อีกครั้งนางหลับตาลง สองไหล่สั่นไหว ดูเหมือนกำลังร้องสะอื้นแต่เพราะไม่กินข้าวกินน้ำมาห้าวัน นางไม่มีน้ำตาเหลือให้ร้องไห้แล้วภา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 259

    หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนอย่างเกรี้ยวกราด เหมือนจะกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่ยอมกิน จึงเอ่ยต่อ "หากเจ้ากินน้ำถังนี้ให้หมด เขารับรองได้เลยวาจวนโหวจะไม่เล่นงานจิ่งเหยียนอีก!"เมื่อได้ยินหลินเย่ว์พูดดังนั้น ฮูหยินหลินหัวใจกระตุกไหว "เย่ว์เอ๋อร์ เหตุใดเจ้าทำเช่นนี้กับน้องสาว! นางไม่กินข้าวกินปลามาหลายวันแล้ว เหตุใดเจ้าถึงบังคับนางกินน้ำซักผ้าอีก?!"หลินเย่ว์เหลียวไปมองฮูหยินหลิน "ท่านแม่! ไม่ใช่เพราะข้าโหดเหี้นม แต่นางเจ้าเล่ห์นัก! คราวนี้นางบังคับยวนเอ๋อร์ให้อดข้าว ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำอะไรอีก? พวกท่านยังจะเชื่อนางอีกหรือ..."เมื่อสิ่นเสียง ทุกคนต่างผงะไปหลินเย่ว์ประหลาดใจก่อนจะพบว่าแม้แต่หลินยวนยังหยุดกิน ทุกคนต่างมองไปข้างหลังเขาอย่างหวาดกลัวเหมือนรู้สึกตัก หลินเย่ว์ก็แข็งทื่อไปทั้งร่าง ก่อนจะค่อยๆ หันหลังกลับไปมองภาพที่เห็นคือเฉียวเนี่ยนที่ไม่รู้ว่านั่งลงริมถังน้ำซักผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ สองมือของนางกวักน้ำซักผ้าจากถัง ตวงของที่อยู่ในถังน้ำเข้าปากนางกินไม่เร็วนัก ไม่เหมือนหลินยวนที่กลืนโดยไม่เคี้ยวนางกินอย่างสงบนิ่งสงบนิ่งเสียจนเหมือนกินอาหารปกติเพียงแต่นั่นคือน้ำล้างจานค้าง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 260

    ท่านโหวหลินเหลียวไปตวาดสาวใช้ "มัวบื้ออยู่อีก? ยังไม่รีบไปตามหมอมาดูคุณหนูใหญ่ของเจ้า! รีบไปเอาโจ๊กรังนกมา!"เมื่อสิ้นเสียงก็ยังไม่กล้าหันไปมองเฉียวเนี่ยนหนิงซวงเองก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเฉียวเนี่ยน ล้วงผ้าออกมาเช็ดมือข้างหนึ่งให้เฉียวเนี่ยน น้ำตาก็ไหลไม่หยุด "คุณหนูเจ้าขา ฮึกๆ ข้าพาคุณหนูกลับเข้าไปในเรือนนะเจ้าคะ..."ทว่าเฉียวเนี่ยนกลับมองหลินเย่ว์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ค่อยๆ เอ่ยปาก น้ำเสียงแหบพร่านั้นเอ่ยว่า "ขอท่านโหวน้อยทำให้ได้อย่างที่พูด"นับแต่วันนี้เป็นต้นจวนโหวห้ามวุ่นวายกับจิ่งเหยียนอีก!และคำพูดนั้นก็กลับมาทิ่มแทงหลินเย่ว์เขามองนางอย่างไม่เข้าใจ "เหตุใดเจ้า...ถึงได้ชอบจิ่งเหยียนปานนั้น"ชอบถึงขั้นกินน้ำล้างจานทั้งถังเพื่อจิ่งเหยียนได้เชียวหรือ?เจ้าจิ่งเหยียนนั้นมีอะไรดี นางยอมทำถึงขนาดนี้!เฉียวเนี่ยนไม่สนใจเขา ปล่อยให้หนิงซวงพยุงตัวเองเดินเข้าไปในเรือนเหตุใดนางถึงได้ชอบจิ่งเหยียนปานนั้นหรือ?นางเองก็ไม่รู้นางรู้เพียงแค่ว่า ยามนางอยู่ในจวนโหวนั้นเหมือนอยู่กลางมหาสมุทร ยามคลื่นซัดถาโถมเข้ามา นางไร้ทางเลือกอื่นนอกเสียจากตะเกียกตะกายพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อไม่ให

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 261

    จิ่งเหยียนชะงักไปอดอาหารเหรอ?กินน้ำล้างจานเหรอ?หลายวันมานี้ เขายุ่งอยู่กับเรื่องของพ่อมาโดยตลอด บางครั้งพอมีเวลาว่าง เขาเป็นต้องคิดถึงนางเขารู้ว่านางต้องเป็นกังวลมากแน่ๆ คิดว่านางอาจจะกินไม่ลง นอนไม่หลับเพราะเรื่องพ่อของเขาดังนั้นเขาจึงมาโดยไม่หยุดพักเลยทหารองครักษ์ของจวนโหวไม่ให้เขาเข้าไป เขาก็ไม่กล้าปีนกําแพง กลัวว่าการกระทําที่บุ่มบ่ามของตนจะทําให้สถานการณ์ของนางยิ่งลําบากขึ้นแต่เขาไม่เคยคิดว่านางจะเสียสละมากถึงขนาดนี้ตอนแรกเขาคิดว่าที่พ่อได้รับการปล่อยตัวเพราะหลักฐานที่เขาพบนั้นเพียงพอแต่ตอนนี้เขากลับตกใจที่พบว่า การที่พ่อของตนสามารถออกจากศาลาว่าการได้ เป็นเพราะนางอดอาหารต่อต้าน กินน้ำล้างจาน!หัวใจของเขาเหมือนถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรงโดยบางสิ่งบางอย่างจิ่งเหยียนไม่เคยเกลียดตัวเองขนาดนี้มาก่อนเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ เขาสัญญาแล้วว่าจะปกป้องนาง แต่สุดท้ายกลับปล่อยให้นางถูกทรมานถึงขนาดนี้เพื่อตัวเอง!ในเวลานี้ หลินเย่ว์พบโอกาสและหลุดพ้นจากการคุมขังของจิ่งเหยียนทันที เขาต่อยไปที่ใบหน้าของจิ่งเหยียนสองหมัด"ก็เพราะเจ้านั่นแหละ! ไอ้สารเลว! เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแต

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 262

    จิ่งเหยียนเข้าไปในจวนแล้วก็มุ่งหน้าไปยังเรือนฟางเหอทันทีแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พบเฉียวเนี่ยนหนิงซวงยืนอยู่นอกห้อง ทําความเคารพต่อจิ่งเหยียน มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ "บิดาของรองแม่ทัพจิ่งไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่วันนี้คุณหนูของข้าพักผ่อนแล้ว เกรงว่าคงจะไม่ได้พบรองแม่ทัพ ขอให้รองแม่ทัพวันหลังค่อยมาใหม่เถอะ!"จิ่งเหยียนขมวดคิ้วแน่น อดไม่ได้ที่จะถามว่า "นางไม่อยากพบข้าใช่หรือไม่?"สีหน้าของหนิงซวงแข็งทื่อเล็กน้อย รีบพูดอีกว่า "รองแม่ทัพจิ่งอย่าคิดมาก หลายวันมานี้คุณหนูพักผ่อนไม่เต็มที่ เมื่อครู่ได้ยินว่าบิดาของท่านถูกปล่อยตัวออกมาจึงวางใจนอนหลับไป บ่าวทนไปรบกวนไม่ได้จริงๆ"หัวใจของจิ่งเหยียนกระตุกทันที เขารีบพยักหน้า "ใช่ อย่ารบกวนนาง ให้นางนอนหลับดีๆสักหน่อย" "ถ้างั้นพรุ่งนี้ข้าค่อยมาใหม่..."เขาพูดพลางถอยหลังไปแต่คิดไม่ถึงว่าหนิงซวงจะรีบเรียกเขาไว้ "รองแม่ทัพจิ่ง!"จิ่งเหยียนหยุดเดินและเงยหน้าขึ้นมองนางก็เห็นว่าแม้ว่ามุมปากของหนิงซวงจะยังคงมีรอยยิ้ม แต่ระหว่างคิ้วนั้นเห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก "ความหมายของคุณหนูก็คือ หลายวันมานี้บิดาของรองแม่ทัพจิ่งต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 263

    ห้าวันต่อมาเฉียวเนี่ยนแต่งหน้าบางๆ เพื่อปกปิดใบหน้าที่ยังมีความอิดโรยเล็กน้อย เตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกนางไม่ได้ไปคารวะท่านย่ามาสิบกว่าวันแล้ว แม้มีซูมามาคอยช่วยดูแลอยู่ แต่ท่านย่าต้องยังคงเป็นห่วงนางมาก นางต้องไปรายงานความปลอดภัยให้ท่านย่าหลังจากพบท่านย่าแล้ว นางก็จะไปหาจิ่งเหยียนนางคิดว่า เขาก็ต้องเป็นห่วงนางมากแน่ๆ เหมือนกันแต่ใครจะรู้ว่า เพิ่งออกจากบ้าน ก็เห็นฮูหยินหลินยืนอยู่ในลานบ้านเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน ฮูหยินหลินก็ยิ้มแข็งๆ ออกมาทันที นางอ้าปากแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี อยากจะก้าวไปข้างหน้า แต่ก็กลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะผลักนางออกไป ดังนั้นนางจึงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้จะทํายังไงเฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินเข้าไปหาฮูหยินหลินนางค้อมกายทําความเคารพ "ไม่ทราบว่าฮูหยินมาหาข้า มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ?"เมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มนวลของเฉียวเนี่ยน รอยยิ้มบนใบหน้าของฮูหยินหลินก็ไม่แข็งกระด้างอีกต่อไป แต่ดวงตากลับมีไอน้ำซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว นางมองเฉียวเนี่ยนพลางพูดว่า "แม่เห็นว่าวันนี้ยวนเอ๋อร์สามารถลุกจากเตียงได้แล้ว เลยอยากมาเยี่ยมเจ้า ตอนนี้เห็นเจ้าฟื้นตัวได้ดี

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 500

    เขาไม่อยากหลีกให้ แต่ก็เข้าใจว่า วันนี้ตนไม่สามารถล้วงความลับจากปากของเซียวเหิงได้แน่คิดแล้วคิดอีก ก็ได้แต่ค่อยๆ หลีกทางให้เซียวเหิงจึงพลิกกายขึ้นม้าอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของวังแต่เมื่อเดินผ่านหลินเย่ว์ ก็ได้ยินเขาถามด้วยเสียงต่ำว่า"เจ้าไม่เคยคิดว่าเจ้าทําแบบนี้ จะทําให้เนี่ยนเนี่ยนเกลียดเจ้ามากขึ้นเหรอ?"ร่างกายของเซียวเหิงพลันแข็งทื่อ แต่กลับไม่หยุดฝีเท้าย่อมเคยคิดมาก่อนแต่เขาไม่มีทางเลือกเขาทําไม่ได้ที่จะมองดูนางไปรักคนอื่นแขนซ้ายพันแผลอย่างง่ายๆ แล้วเซียวเหิงก็เข้าราชสํานักไปฮ่องเต้มองปราดเดียวก็มองออกทันที สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก ในประชุมเช้าไม่ได้เอ่ยคําใด เพียงแค่รั้งเขาเอาไว้หลังจากออกจากประชุมเช้าแล้วภายในท้องพระโรง เซียวเหิงคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่หน้าตําหนักฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกร หลุบตามองเขา น้ำเสียงทุ้มต่ำ เปี่ยมไปด้วยความโกรธ "เจ้ากําลังก่อเรื่องอะไรอยู่กันแน่? เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ยังคิดจะก่อเรื่องวุ่นวายอีกเหรอ?"เซียวเหิงหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ตอบฮ่องเต้ถลึงตาใส่เขา "ทําไม? ต้องเป็นนางเท่านั้นเหรอ?"ครั้งนี้เซียวเหิงกลับเอ่ยปาก"ใช่ กระ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 499

    ตกดึกเฉียวเนี่ยนนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมา อย่างไรก็นอนไม่หลับนางรู้ว่าหนิงซวงอาจไม่สามารถเห็นคําใบ้ของ'นอกเมืองหลวง'ได้ แต่นางสามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอนว่าคำว่าต้องรดน้ำมีปัญหานางรู้ว่าถ้าหนิงซวงไม่เข้าใจ นางจะต้องไปหาเซียวเหอแน่นอน และคําใบ้เกี่ยวกับนอกเมืองหลวง เซียวเหอจะต้องดูออกแน่นอนแต่นางก็ไม่รู้ว่านางอยู่นอกเมืองหลวงหรือไม่อย่างไรก็ตามนางถูกขังอยู่ในจวนตลอดเวลาและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกคนรับใช้ในจวนก็ไม่พูดถึงแน่ ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของนางเท่านั้นเป็นเพราะนางเดินผ่านกําแพงสูงของจวนหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากด้านนอกเลย จึงคิดว่าตําแหน่งของจวนหลังนี้จะต้องอยู่ห่างไกลจากเมืองแน่นอนบวกกับวันนั้นนางไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ตอนเช้าตรู่กลับได้กลิ่นไอน้ำที่ชัดเจนและเข้มข้นจึงคิดว่าแถวนี้ต้องมีน้ำแน่นอนแม่น้ำก็ดี น้ำพุก็ดี ต้องมีแน่นอนแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าคําเตือนของนางถูกต้องหรือไม่ แต่ก็มีความหวังอยู่หวังว่า... นางสามารถออกจากที่นี่ได้โดยเร็วที่สุดวันรุ่งขึ้นเซียวเหิงออกจากบ้านแต่เช้าแม้ว่าเขาจะย้ายงานทหารมาที่นี่แล้ว แต่เขาก็ยังต้องไปประช

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 498

    มันเป็นจดหมายที่สั้นมากและไม่มีสํานวนที่งดงามอะไร ในมุมมองของเฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ มันเป็นจดหมายธรรมดาเท่านั้นแต่ทั้งสองยังคงส่งจดหมายให้เซียวเหิงเซียวเหิงรับมาดูแวบหนึ่ง ดวงตาลึกล้ำไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เพียงเอ่ยเรียบๆ ว่า "ส่งไปเถอะ!""เจ้าค่ะ"เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ร์รับคําแล้วจากไปแต่แววตาคู่นั้นของเซียวเหิงกลับหม่นหมองลงเขารู้ว่าเฉียวเนี่ยนไม่ยินยอมอยู่ที่นี่แต่อาศัยแค่จดหมายฉบับเดียว ก็อยากหาคนมาช่วยนางเหรอ?ทําไมนางยังไม่เข้าใจว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถพรากนางไปจากเขาได้อีกแล้วเมื่อหนิงซวงได้รับจดหมายฉบับนี้ ก็งงไปหมด"นี่เป็นลายมือของคุณหนูจริงๆ!" หนิงซวงตื่นเต้นจนขอบตาแดงก่ำ หลายวันมานี้ น้ำตาของนางเกือบจะแห้งไปหมดแล้วหวังเอ้ออ่านเนื้อหาในจดหมายแล้วพยักหน้า "ข้าจําลายมือคุณหนูไม่ได้ แต่ในเมื่อคุณหนูบอกว่านางไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"หนิงซวงเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น "นางเขียนแบบนี้เพื่อให้ข้าสบายใจ นางถูกแม่ทัพเซียวพาตัวไป แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ในใจต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ!"หวังเอ้อพยักหน้าตาม แต่เมื่อเขาอ่านเนื้อหาในจดหมาย เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 497

    ท้ายที่สุดเซียวเหิงก็จากไป เขาเดินโซซัดโซเซจากไปราวกับพ่ายแพ้สงครามส่วนเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว มองดูแสงเทียนที่ลุกโชติช่วง จนกระทั่งฟ้าสางก็ยังไม่รู้สึกง่วงเดิมทีคิดว่า หลังจากผ่านการทะเลาะกันเมื่อคืนมาแล้ว อย่างน้อยเซียวเหิงก็พอจะเข้าใจได้ว่านางไม่อยากมีอะไรกับเขาอีกจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์มาปรนนิบัตินาง ก็ยังเรียก ‘ฮูหยิน’ อยู่ดีกระทั่งถึงวันที่ห้า เซียวเหิงก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้โดยตรงเมื่อเห็นเหล่าเด็กรับใช้ขนหนังสือกองแล้วกองเล่าเข้าไปในเรือน คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดแน่นนางเดินตามเด็กรับใช้เข้าไปในห้องหนังสือ ก็เห็นเด็กรับใช้หลายคนกําลังรวบรวมหนังสืออยู่หน้าชั้นวางหนังสือ ส่วนเด็กรับใช้อีกคนหนึ่งกําลังวางหนังสือจํานวนหนึ่งไว้บนโต๊ะเฉียวเนี่ยนมองปราดหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าล้วนเป็นกิจการทหารหัวใจของนางจมดิ่งลง แม้แต่ในกองทัพเขาก็ไม่อยากไปแล้วเหรอ?เมื่อเด็กรับใช้เห็นนางก็ทําความเคารพพร้อมกัน "คารวะฮูหยิน"คําเรียกแบบนี้ทําให้เฉียวเนี่ยนฟังแล้วรู้สึกทรมานมาก แต่นางก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธพวกเขา จึงขมวดคิ้วถามว่า "เซียวเหิงล่ะ?""

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status