Share

บทที่ 120

Author: โม่เสียวชี่
หนิงซวงถูกลงโทษแล้ว ยามนี้จะช่วยพูดแทนเสี่ยวชุ่ยได้อย่างไร?

แต่คาดไม่ถึงว่าเฉียวเนี่ยนจะเป็นฝ่ายเอ่ยปาก "น้อยนักที่นายบ่าวจะผูกพันเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต"

เพราะตบจนปากฉีกแล้วไล่ออกจากจวนนั้นยังไม่สาสมแก่เสี่ยวชุ่ย

ขณะพูดนั้นนางก็เอื้อมมือออกไปพยุงหลินยวนขึ้นมา

ภาพนั้นทำเอาฮูหยินหลินที่อยู่อีกฟากดวงตาเป็นประกาย

นางคิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะประคองหลินยวนลุกขึ้นเอง

วินาทีนั้นนางรู้สึกว่าจากนี้ไปเฉียวเนี่ยนและหลินยวนจะต้องเป็นพี่น้องที่รักกันมากแน่นอน!

หลินยวนสะอึกสะอื้น เดิมตั้งใจจะเอ่ยขอบคุณเฉียวเนี่ยน แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอีกฝ่าย นางก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างประหลาด

ดังนั้นนางจึงไม่พูดอะไรต่อ

แต่เป็นเฉียวเนี่ยนที่เอ่ยถาม "สาวใช้ข้ากัดเจ้าทีเดียวแต่โดนโบยตั้งสามสิบที เจ้าคิดว่าจากแผลของข้า เสี่ยวชุ่ยควรถูกลงโทษเช่นไร?"

เลือกสีสดบนผ้าพันแผลนั้นสุดแสนสะดุดตา

ในตอนนั้นหัวสมองของหลินยวนว่างเปล่า

นางไม่รู้ว่าควรจะลงโทษเสี่ยวชุ่ยถึงจะเหมาะสม คิดเพียงว่าแค่ขออย่าได้ไล่เสี่ยวชุ่ยออกจากจวน อยู่ข้างกายนางตลอดไปก็พอ!

ด้วยเหตุนั้นนางจึงร้องไห้สะอึกสะอื่น เอ่ยต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 121

    เฉียวเนี่ยนประหลาดใจไม่น้อย หลินยวนเดินนำไปก่อนแล้ว เขายังไม่ตามหลินยวนไปอีก แต่กลับยืนอยู่หน้าโถงบรรพบุรุษตระกูลหลินรอนางงั้นหรือ?มีอะไรจะคุยกับนางงั้นรึ?แต่จะทำอย่างไรได้เล่า?นางไม่อยากพูดกับเขาแม้สักคำด้วยเหตุนั้นนางจึงไม่แม้แต่จะคำนับ เฉียวเนี่ยนเดินจากไปราวกับมองไม่เห็นเซียวเหิงทว่าวินาทีที่เดินผ่านเซียวเหิง เสียงเย็นชาของเขายังคงลอยเข้าหูเฉียวเนี่ยน"แม่นางเฉียวอยากเป็นชายาอ๋องเพียงนั้นเชียวหรือ"ในน้ำเสียงหนักแน่นนั้นมีแต่คำเสียดสีฝีเท้าของเฉียวเนี่ยนชะงักลง แต่ไม่เหลียวกลับไปมองเขา เอ่ยถามเสียงเรียบเพียงประโยคหนึ่ง "แม่ทัพเซียวคิดว่า หากข้าได้เป็นชายาอ๋องแล้ว จะมีชีวิตลำบากยากเข็ญเช่นทุกวันนี้หรือไม่?"แค่ต่อกรกับสาวใช้ตัวเล็กเพียงเดียวนางยังต้องใช้กำลังมากมายปานนี้เซียวเหิงพูดไม่ออก เฉียวเนี่ยนเองก็ไม่รอคำตอบของเขาแล้วเดินจากไปเพราะคำตอบนั้นเขานั้นรู้ดีอยู่แก่ใจหากนางเป็นพระชายาหมิงอ๋องแล้ว อย่าว่าแต่ลงโทษเสี่ยวชุ่ยเลย ต่อให้คิดจะลงแส้ทั้งบ่าวทั้งนายในจวนโหว พวกเขาก็อาจไม่ขัดขืนแม้สักคำ!เฉียวเนี่ยนกลับมาถึงเรือนฟางเหอโดยมีเหล่าบ่าวคอยพยุง ยามนี้ใบหน้าข

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 122

    ทว่าหมิงอ๋องกลับโบกมือปัด "ข้าไม่สน ข้าจะยอมให้นางไปเมืองกูเฉิงกับหมิงอ๋องไม่ได้!"หากไปถึงเมืองกูเฉิง หมิงอ๋องก็จะยิ่งวางอำนาจยิ่งกว่าเดิมมิใช่หรือ?เมื่อถึงยามนั้นหากหมิงอ๋องโบยนางจนตายแล้ว กว่าเขาจะรู้ข่าวคงสามเดือนห้าเดือนให้หลังนู่น!ยามคิดถึงภาพเฉียวเนี่ยนกลับมาพร้อมบาดแผลเต็มกาย หลินเย่ว์ก็ปวดใจเหลือทนแต่เมื่อนึกถึงเฉียวเนี่ยนที่เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็จะแต่งงานกับหมิงอ๋องให้ได้ เขาก็เดือดดาลขึ้นมาอีกครั้งยามนี้ถึงได้กรอกเหล้าใส่ปากตัวเองเพื่อระงับความเกรี้ยวโกรธในใจเมื่อครู่แต่เซียวเหิงฟังแล้วกลับถามว่า "หากนางไม่แต่งกับหมิงอ๋อง แล้วจะให้แต่งกับใคร?"หลินเย่ว์ถลึงตามองเขา "เจ้าจะสนไปใยว่านางจะแต่งกับใคร? แต่งกับใครก็ดีกว่าแต่งกับหมิงอ๋องทั้งนั้น! ต่อให้ต้องเป็นอนุคนอื่น ก็ดีกว่าถูกโบยจนตาย!"มือของเซียวเหิงที่รินเหล้าชะงักไปเป็นอนุงั้นหรือ?"เจ้านิ่งไปใย?" หลินเย่ว์ไม่สบอารมณ์ แย่งเหยือกเหล้าจากมือเซียวเหิง "ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าฉลาดกว่าข้า รีบคิดหาวิธีเร็วเข้า!"ในตอนนั้นเซียวเหิงสูดหายใจลึก ยกยิ้มบางให้หลินเย่ว์ "ในเมื่อทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องเกล

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 123

    แววตาของเซียวเหิงอ่อนลง มือที่ยกจอกเหล้าดื่มไม่ได้ชะงักไป แต่เสียงนั้นกลับชวนให้รู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก "ลอบสังหารนั้นโทษมหันต์ ท่านพี่หลินล้อข้าเล่นแล้ว"เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเย่ว์ก็มองเซียวเหิงด้วยความสงสัยเมื่อครู่เขาคาดเดาสุดโต่งเกินไป หากเซียวเหิงคิดจะฆ่าหมิงอ๋องจริง นั่นคือการเดิมพันชีวิตของคนทั้งตระกูลเชียวก็ว่าได้แต่จะคุ้มค่าหรือหากทำเช่นนั้นเพื่อเฉียวเนี่ยน?แน่นอนว่าหลินเย่ว์คิดว่าไม่คุ้มค่า เขาเองก็ไม่เชื่อว่าเซียวเหิงจะกล้าเสี่ยงปานนั้นเพียงแต่ท่าทียามเซียวเหิงบอกว่าเขาคาดเดาสุดโต่งเกินไปนั้น ชวนให้เขาคิดมากอย่างอดไม่ได้ทว่าเขาเองก็รู้ดี ต่อให้เซียวเหิงจะมีเจตนาใดแอบแฝง หากเซียวเหิงไม่บอกเขาตามตรง เขาย่อมไม่มีวันเดาออกในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจึงไม่ซักไซ้เรื่องนี้อีกต่อไป ทำได้เพียงขมวดคิ้วเอ่ย "ล่อเสือออกจากถ้ำฟังดูไม่เลว แต่เจ้าอย่าลืมละ ระหว่างหมิงอ๋องกับเนี่ยนเนี่ยนนั้น ยังมีราชโองการอีกหนึ่งฉบับ"หากราชโองการฉบับนั้นยังอยู่ ต่อให้หมิงอ๋องไปจากเมืองหลวง จะมีใครกล้ารับโทษขัดราชโองการเพื่อมาสู่ขอเฉียวเนี่ยน?แต่เซียวเหิงมีตัวเลือกในใจแล้ว เขายกเหยือก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 124

    เซียวเหิงแววตาหม่นลง มองหลินเย่ว์อย่างเย็นชาบางอย่างแวบเข้ามาในหัวหลินเย่ว์ ทันในนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องจริงได้หากคนอื่นคิดว่าเป็นเรื่องจริงเท่านั้นก็พอแล้ว!เขาแอบตกใจไม่น้อย เหลือบเซียวเหิง เรียวคิ้วขมวดมุ่น "ซ้อมรบออกศึกมานานหลายปี แต่กลับเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าเดิม"เซียวเหิงถือเสียว่าประโยคนั้นเป็นคำชม มุมปากยกยิ้มร้ายทว่าหลินเย่ว์กลับทอดถอนใจ "หากเป็นเช่นนั้นจริง ชาตินี้เนี่ยนเนี่ยนคงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ!"แม้แต่ตอนนี้นางยังไม่ยอมเรียกเขาว่าท่านพี่ด้วยซ้ำ หากถึงคราวต้องแต่งงานกับเซียวเหอเข้าจริง เกรงว่าเขาคงกลายเป็นศัตรูไปตลอดชาติเซียวเหิงหลุบตายิ้ม "นางรู้อยู่แล้วว่าเจ้าหวังดีกับนาง"เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเย่ว์กลับฮึดฮีด "แม่นั่นน่ะใจไม้ไส้ระกำ จะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไร!"แต่ถึงจะไม่รู้แล้วอย่างไรเล่า?เขาเป็นพี่ชายของนาง ทั้งๆ ที่รู้ว่านางจะต้องถูกหมิงอ๋องทำร้ายปางตาย จะให้เขามองนางกระโดดเข้ากองไฟตาปริบๆ หรือ!ต่อให้นางโกรธเกลียดเขาไปตลอดชีวิต ก็คุ้มกับการที่นางมีชีวิตอยู่ต่อไป!เมื่อวางแผนแล้ว หลินเย่ว์ก็กระดกเหล้า แววตา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 125

    แต่เกรงว่าจะพาตัวมาไม่ได้น่ะสิหลินยวนปกป้องเสี่ยวชุ่ยขนาดนั้น ทั้งยังรู้ว่าการที่เสี่ยวชุ่ยถูกเรียกมายังเรือนฟางเหอนั้นหมายความอย่างไร แล้วนางจะยอมให้มาได้ง่ายๆ หรือ?แล้วก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเฉียวเนี่ยนเดินออกมาจากเรือนของฮูหยินเฒ่า ก็เห็นหนิงซวงยืนหน้าบึ้งตึง ใจในก็พอเดาออกแล้ว"คุณหนูเจ้าคะ..." หนิงซวงกำลังจะอ้าปากฟ้อง แต่ก็ถูกเฉียวเนี่ยนแทรกขึ้น "ไปกัน ไปเรือนลั่วเหมย"นางเอ่ยพลางเดินมุ่งหน้าไปยังเรือนลั่วเหมยหนิงซวงรีบตามไปในทันที "คุณหนูจะไปที่เรือนลั่วเหมยจริงหรือเจ้าคะ? หากถูกนายท่านรู้เข้า...""ก็ให้พวกเขารู้ไปสิ" เฉียวเนี่ยนเชิดคางขึ้นเล็กน้อน มุมปากยกยิ้มบาง "ทางที่ดีให้หลินเย่ว์รู้ด้วย"เมื่อได้ยินดังนั้นหนิงซวงก็เกิดสงสัย ไม่รู้ว่าคุณหนูหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ส่งสัญญาณบอกสาวใช้ที่เหลือ ให้พวกนางส่งข่าวเรื่องนี่คุณหนูกำลังจะไปที่เรือนลั่วเหมยยามนี้เป็นต้นวสันต์ ดอกเหมยในเรือนลั่วเหมยนั้นร่วงโรยหมดแล้ว เหลือเพียงไม่กี่ดอกที่ชูช่ออยู่บนกิ่งไม้บรรยากาศนั้นดูเงียบเหงากว่าเรือนฟางเหอนักเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนมาเยือน ท่าที่ของทั้งนายและบ่าวเรือนลั่วเหมยนั้นเหมือนดั่งพ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 126

    "ฮูหยินเจ้าคะ จู่ๆ คุณหนูก็จับไข้ เกรงว่าจะท่านจะติดไข้เอา ท่านอย่าเข้าใกล้นักเลยเจ้าค่ะ"ขืนอยู่ใกล้ก็ความแตกกันพอดีเมื่อได้ยินดังนั้นฮูหยินหลินจึงหยุดฝีเท้าลง มองอยู่ห่างๆ "ยังดีๆ อยู่เลยเหตุใดถึงป่วยได้?"เสี่ยวชุ่ยไม่ตอบ หลินยวนที่แสร้งหลับอยู่บนเตียงก็ไม่พูดมีเพียงเสียงอ่อนโยนของเฉียวเนี่ยนปลอบประโลม "ฮูหยินวางใจเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวหมอประจำจวนก็มาแล้ว"เมื่อได้ยินว่าหมอประจำจวนจะมา เสี่ยวชุ่ยก็พลันร้อนรนแต่ก็ยังก้มหน้าไม่พูดไม่จาส่วนหลินเย่ว์กลับจดจ่ออยู่ที่เฉียวเนี่ยน "ยวนเอ๋อร์ป่วย เหตุใดเจ้าถึงเป็นห่วงปานนี้?"ผิดปกตินักทว่าเฉียวเนี่ยนกลับหัวเราะ "ข้าไม่ได้มาเพราะเป็นห่วงคุณหนูหลินหรอกเจ้าค่ะ แต่วันนั้นคุณหนูหลินพูดเองต่อหน้าโถงบรรพบุรุษว่า วันหน้าหากข้าอยากลงโทษเสี่ยวชุ่ยเมื่อใดก็ให้พาตัวเสี่ยวชุ่ยไปได้ทุกเมื่อ ข้ามาเพราะเหตุนี้"เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็ยิ่งขมวดคิ้ว "ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่ได้หวังดี!"คำด่าทอของหลินเย่ว์ เฉียวเนี่ยนชินชาเสียแล้วนางยกยิ้มมุมปาก "แต่ตอนนั้นตกลงกันต่อหน้าโถงบรรพบุรุษตระกูลหลินแล้วนี่เจ้าคะ ทำไมกัน คนตระกูลหลินจะคืนคำหรือ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 127

    ประโยคนั้นทำเอาหลินยวนชะงักไปนางมองเฉียวเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ ในแววตาแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก สลับสน ทั้งยัง...หวาดกลัว?เฉียวเนี่ยนไม่เข้าใจ นางแค่ถามสาวใช้ข้างกาย เหตุใดหลินยวนถึงได้ตื่นกลัวปานนั้นถึงขนาดลืมร้องไห้ นิ่งอึ้งไปเสียอย่างนั้น ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียวทว่าหลินเย่ว์กลับทนเห็นต่อไปไม่ไหวเขาเดินเข้ามา เบียดเฉียวเนี่ยนไปอีกทาง ก้มตัวลงพยุงหลินยวนให้ลุกขึ้น "เสี่ยวชุ่ยกับยวนเอ๋อร์โตมาด้วยกัร พวกนางเข้าใจกันประหนึ่งพี่สาวน้องสาว เจ้าคิดว่าคนอื่นจะเลือดเย็นไร้หัวใจเหมือนเจ้าทั้งนั้นหรือ"แม้แต่ฮูหยินหลินยังต้องเอ่ยปากพูด "เนี่ยนเนี่ยน แม่รู้ว่าเจ้าคงกังวลว่าจะมีคนคิดร้ายแฝงกายอยู่ใกล้ตัวน้องสาวเจ้า แต่เจ้าวางใจเถิด เดิมทีตอนยวนเอ๋อร์กลับมาอยู่ที่จวน พวกเราส่งคนไปสืบมาแล้ว เสี่ยวชุ่ยเป็น...เป็นลูกสาวของเพื่อนบ้านของพ่อแม่แท้ๆ ของเจ้า ดังนั้นจึงสนิทกับยวนเอ๋อร์นัก"ฮูหยินหลินจงใจเอ่ยถึงพ่อแม่ที่แท้จริงของเฉียวเนี่ยนในวินาทีนั้น ไม่รู้เพราะฟอกขาวตัวตนของเสี่ยวชุ่ย หรือว่าเพราะข่มเหงเฉียวเนี่ยนทว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนไปเฉียวเนี่ยนนั้นไม่สนใจลมปากของคนในจวนโหวมาตั้งนานแล้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 128

    เพิ่งจะข้ามสะพานหิน หนิงซวงก็พลันเตะข้อพับหัวเข่าของเสี่ยวชุ่ย ตวาดลั่น "คุกเข่า!"สาวใช้นางหนึ่งช่างหัวไวนัก เห็นดังนั้นก็รีบยกเก้าอี้มาให้เฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ หนิงซวงยื่นแก้วชาร้อนให้ เฉียวเนี่ยนรับไปแล้วเผยอเปิดฝาถ้วยเพื่อกรองใบชาที่ลอยอยู่ด้านบนออกทำอยู่อย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าเสียงฝาถ้วยกระทบกับถ้วยชาดังกังวาน แต่กลับแหลมคมปานใบมีด ปาดลึกถึงหัวใจของเสี่ยวชุ่ยทั้งแล้วทั้งเล่าเสี่ยวชุ่ยคุกเข่าลง ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไร้ซึ่งท่าทีกำเริบเสิบสาน พูดจาชัดถ้อยชัดคำเหมือนยามที่ป้ายสีนางเมื่อสามปีก่อนเฉียวเนี่ยนเพิ่งยกชาขึ้นจิบ ก่อนจะยิ้มบาง "คิดหรือไม่ว่าวันหนึ่งจะตกอยู่ใต้เงื้อมือข้า?"คำพูดนั้นเหมือนจี้จุดบางอย่างบนตัวของเสี่ยวชุ่ย นางคลานเข่าเข้ามาหา จับข้อเท้าของเฉียวเนี่ยนแล้วร้องขออ้อนวอน "คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าผิดไปแล้ว! ยามนั้นข้าหน้ามืดตามัว ข้าไม่นึกเลยว่าคุณหนูใหญ่จะถูกจับส่งไปเป็นบ่าวที่กรมซักล้างถึงสามปี! สามปีมานี้ ข้ารู้สึกมาตลอด ข้าผิดเอง ข้าขอกราบเท้าท่าน!"ว่าจบก็ก้มหัวโขกพื้นกราบเฉียวเนี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงดังก้อ

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status