น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังคงเป็นฤดูร้อน ทว่าหลีหนิงหนิงพลันรู้สึกไอเย็นที่แพร่กระจายรอบตัว
หลีหนิงหนิงจูงมือซ่งเสวี่ยนมาจนกระทั่งหยุดอยู่ท้ายตลาดก่อนจะเริ่มรู้สึกได้ว่ามือที่จับกุมอยู่เริ่มบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับกระดูกกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ นางสบัดมือทันที หัวคิ้วของหลีหนิงหนิงขมวดมุ่นมองไม่พอใจ “ข้าเจ็บ” “สมควร” ทั้งน้ำเสียงเย็นชาและสีหน้าเคร่งขรึมของ ซ่งเสวี่ยนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวทั้งสิ้น “ข้ากำลังช่วยท่านอยู่นะซ่งเสวี่ยน” นี่เป็นเรื่องบุญคุณแต่เขากับกระทำรุนแรงกับนางเช่นนี้ หลีหนิงหนิงเห็นว่านางควรปล่อยเขาให้ถูกพระเอกแทงจนกระอักเลือดจุกอกไปซะดีกว่า อารมณ์ของซ่งเสวี่ยนไม่สมควรให้นางต่อว่าเลยสักนิด ซ่งเสวี่ยนตอบ “หากเจ้ายังสอดมือยุ่งเรื่องของข้าเช่นนั่นข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ” แล้วมีเหตุอันใดสตรีตรงหน้าถึงกล้าสอดมือเข้ามาช่วยเหลือ “รักษาชีวิตของเจ้าไว้ให้ดีเถอะหลีหนิงหนิง” หลีหนิงหนิงกำมือแน่น เม้มปากเป็นเช่นตรง พระรองผู้นี้หากเขาคิดจะทำเรื่องอันใดแล้วล้วนทำให้สำเร็จทั้งเรื่องสังหารนางก็เช่นกัน หากเมื่อใดนางทำตัววุ่นวายเมื่อนั้นคือความตายมาเยือน ทว่าคิดว่าคนอย่างหลีหนิงหนิงจะหวาดกลัวหรือ นางเพียงแค่โมโหเท่านั้น “เหอะ!” นางแค่นเสียงทีหนึ่งก่อนจะเอ่ย “ละครฉากนั้นท่านเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น ต่อให้ทำดีหรือเหนือกว่าจือรุ่ยหยางอย่างไรคิดว่าหลีหลินว่านจะสนใจท่านหรือ” บัดซบเถอะ! เหตุใดนางจะต้องมีเรื่องกับบุรุษผู้นี้ทุกครั้ง “เหลวไหลสิ้นดี” ซ่งเสวี่ยตวาดกลับ นัยน์ตาดูลึกล้ำเกินกว่าจะคาดเดาได้ “ตาบอดหรือไรกัน! หลีหลินว่านนางหวังดีจะช่วยเหลือแต่เจ้ากลับใจแคบ” น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความโกรธที่อัดอั้นเต็มส่วน หลีหนิงหนิงแย้ง “เป็นท่านและนางที่มีบุพเพแต่ไร้วาสนา” หากวันนั้นซ่งเสวี่ยนไม่ตกหลุมพรางสตรีเบื้องหน้าปานนี้เขาและหลีหลินว่านคงได้หมั้นหมายกันแล้ว “ข้าสมควรจะฆ่าเจ้าทิ้งตั้งแต่วันนั้น” จังหวะเดียวกันหลีหนิงหนิงพลันหลับตาลง “หาข้าสมควรตายนักก็ลงมือ” เรื่องผิดพลาดเช่นนี้หลีหนิงหนิงมีส่วนผิด นางยอมรับความตายที่ซ่งเสวี่ยนมอบให้ ว่ากันตามตรงเดิมที่เป็นวันที่แม่สื่อและซ่งเสวี่ยนมาจวนเพื่อทาบทามหลีหลินว่านพี่น้องร่วมจวนของหลีหนินหนิง แต่เพราะนางเป็นตัวประกอบอย่างไรจึงขั้นทำให้ตนเองได้ตบแต่งเอง แน่นอนพระรองตัวร้ายย่อมคู่กับตัวประกอบ ส่วนพระเอกและแม่ดอกบัวขาวย่อมคู่กัน ซ่งเสวี่ยนมองอย่างเย็นช้า “เป็นสตรีที่ใจกล้าอวดดี” ในเมื่อนางกล่าวเช่นนี้เขาจึงยกมือขึ้นก่อนจะคว้ามือเข้าที่ลำคอระหงจากนั้นจึงออกแรงเพิ่มมากขึ้น มุมปากพลันยกยิ้มเหี้ยมโหด ดูสิว่าความใจกล้าของนางสุดท้ายแล้วจะอ้อนวอนร้องขอชีวิตหรือไม่ ความคับแค้นใจทั้งหมดที่มีมาตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ซ่งเสวี่ยนกำลังระบายมันกับภรรยาตนเอง เขากำลังจะอยู่ในใจหลินว่านแต่กลับเป็นนางที่ทำพัง! “อึก!” หลีหนิงหนิงตัวชาทั่วร่าง เมื่อรู้สึกแรงบีบรัดที่ลำคอมากเพิ่มเรื่อย ๆ พร้อมกับลมหายใจที่เริ่มติดขัด บัดซบเถอะ! ข้าจะอายุสั้นด่วนจากไปอีกแล้ว สตรีเบื้องหน้าใบหน้าหน้าเริ่มซีดเซียว ทว่ากับไม่ส่งเสียงวินวอนหรือไม่ดิ้นทุรนทุรายอย่างที่ควรจะเป็น ซ่งเสวี่ยนพลันหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะคลายมือเย็นเฉือบออกจากลำของนาง และอีกครั้งที่หลีหหนิงหนิงรอดพ้นจากความตาย “ช่างน่าเวทนา” ซ่งเสวี่ยนกล่าว แววตาดุดัน เมื่อเป็นอิสระหลีหนิงหนิงทั้งหอบหายใจหนักหน่วง นัยน์ตาแดงก่ำมองบุรุษตรงหน้าด้วยความเครียดแค้น อีกนิด…อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นนางก็สิ้นใจแล้วแต่เขากับปล่อยให้นางเป็นอิสระลิ้มรสความทรมานแทนความตาย ซ่งเสวี่ยนเฝ้ามองนางด้วยสายตาว่างเปล่า “ทรมานอย่างงั้นหรือ…หึ! ความตายสำหรับสตรีใจกล้านั้นง่ายเกินไป” หลีหนิงหนิงสั่นสะท้านและก้าวถอยหลังออกห่าง “ซ่งเสวี่ยนท่านมันโหดเหี้ยมเกินกว่าที่ข้าคาดไว้” โหดเหี้ยม! คำนี้สำหรับซ่งเสวี่ยนนั้นเขากับคุ้นชินแล้ว ผู้คนต่างตราหน้าว่าและไม่เข้าใกล้ทว่าจะมีผู้ใดรับรู้ว่าเขาพบเจออันใดมาบ้าง “เช่นนั้นก็อย่ามาทำตังวุ่นวายกับข้า” ซ่งเสวี่ยนคาดไว้แล้วอีกไม่นานนางคงอย่าขาดกับเขา ยามพลบค่ำไร้ผู้คนพลุ่งพล่าน เป็นหลีหนิงหนิงที่คิดมากไปเอง ในเมื่อสถานการณ์ล้วนแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลีหนิงหนิงเดินเข้าประตูหลังจวนที่มีไว้สำหรับพวกเหล่ารับใช้ก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูลงอย่างเบามือมากที่สุด แต่ถึงแบบนั้นนางก็ยังคงหวาดกลัวอยู่บ้าง ผู้ใดจะหยั่งรู้ว่าวันหนึ่งนางจะเฉียดใกล้ความตายหลายครั้ง พรึ่บ! เพียงพริบตาเดียวไฟก็พลันสว่างวาบทั่วทางเดิน เซินฮูหยินใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างปิดไม่ปิด “คิดว่าจะหนีพ้นหรือ” ก่อนจะปรายสายตามองไปยังด้านหลังของสะใภ้หมาด ๆ ปรากฏว่าข้างกายนั้นไร้ร่างลูกเลี้ยงผู้น่าขยะแขยง “คิดว่าจะมีผู้ใดช่วยเจ้าได้ตลอดไปหรือ” หลีหนิงหนิงชะงักตัวแข็งจังหวะที่นางหันหลังเตรียมจะวิ่งหนีนั้น…กับไม่ทันเสียแล้ว เซินฮูหยินสั่ง “จับตัวนางไป!” ข้าผิดอันใด! หรือเพราะข้าเป็นตัวประกอบกัน หลีหนิงหนิงถูกหิ้วไปโดยบ่าวใช้ในจวน นางทั้งดีดดิ้นสุดแรงจะสู้แรงของบุรุษชายฉกรรจ์ได้อย่างไรหรือหวีดร้องจนสุดเสียงก็ไม่มีผู้ใดสอดมือเข้ามายุ่งทั้งสิ้น “ปล่อยข้า!” “จับนางไว้ให้แน่น” เซินฮูหยินนำหน้าไปมุมปากยกยิ้มร้าย นางสมควรจะสั่งสอนให้หลาบจำเสียบ้างวันข้างหน้าจะได้หวาดกลัว พอรู้ตัวอีกทีหลีหนิงหนิงก็ถูกพาตัวมาลานหน้าห้องบรรชนแล้วก่อนที่จะถูกกดตัวนอนคว่ำตัวราบไปกับไม้กระดาษแข็ง ๆ แขนทั้งสองข้างถูกมัดด้วยพันธะ “ปล่อยข้า!” คิ้วของเซินฮูหยินเริ่มขมวดด้วยความโมโห “เหอะ จะมีผู้ใดริอาจมาช่วยเจ้าได้หรือ..หุบปากซะ!” ก่อนที่นางจะพยักหน้าให้พ่อบ้านเตรียมโบยได้ทันที “เหอะ! ท่านไม่มีสิทธิลงโทษข้าโดยไร้เหตุผลเซินฮูหยิน” มันไม่ยุติธรรมวำหรับหลีหนิงหนิงเลย คิดว่าตนเองเป็นนายหญิงแล้วจะใช้อำนาจลงโทษผู้ใดได้ตามใจหรือ หมดสิ้นแล้วชีวิตอันนางสงสารของตัวประกอบ หลีหนิงหนิงใบหน้าเจื่อนลง ไร้การขัดขืนและรู้ว่าถึงอย่างก็ไม่มีผู้ใดช่วนเหลือได้ “ลงมือเถอะพ่อบ้าน ข้าเหนื่อยเต็มทีแล้ว” พ่อบ้านลงมือทันทีโดยไม่รีรอ เพี๊ยะ! ไม้หนาขนาดใหญ่ฟาดลงการหลังของสตรีรูปร่างอรชรทันที พ่อบ้านเกรงว่าหากครบยี่สิบไม้นางจะไม่สิ้นลมก่อนหรือ แต่เขาเซินฮูหยินได้อย่างไร เซินฮูหยินเกรี้ยวกราดทันที “มารดาจัดการเอง” พ่อบ้านที่เอาแต่ชักช้าเช่นนี้มันจะไปได้เรื่องอันใด นางรีบก้าวเดินก่อนจะคว้ามาถือไว้ในมือ “ไม่เคารพมารดาสมควรถูกสั่งสอน” เพี๊ยะ! ทว่าหลีหนิงไม่ได้ปริปากร้องโอดโอยออกมานั้นยิ่งเป็นกมรแสดงว่ายังคงเหิมเกริมและขัดขืนอยู่ เซินฮูหยินเห็นดังนั้นจึงยกไม้ขึ้นสูงกว่าเดิมเตรียมฟาดลงอย่างแรง “บังอาจแตะต้องคนของข้า” น้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับไอสังหารที่แผ่ซ่านออกมา แม้แต่บ่าวรับใช้ที่ขัดขวางไว้ก็ไม่อาจเสี่ยงชีวิตทำเช่นนั้นได้ บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นเฉือบประดุจเหมันต์ฤดู ซ่งเสวี่ยนเดิมเข้ามาด้วยท่าทางนิ่งเฉย หากแต่นัยน์ตาปรายไปมองสตรีบนกระดาษไม้กับแปรเปลี่ยนเป็นความเหี้ยมโหด เซินฮูหยินมีท่าทีกระอักกระอ่วน “มารดากำลังสั่งสอนนางอยู่ซ่งเสวี่ยน” ผู้ใดจะรู้เล่าว่าเด็กชายตัวเล็กผอมแห้งเมื่อหลายปีก่อนจะโตมาได้เหี้ยมโหดปานนี้ มุมปากหน้ายกยิ้ม “มารดาของข้าตายไปแล้ว” “ซ่งเสวี่ยน” หลีหนิงหนิงยังคงมีสติแต่ทว่าร่างกายนางกับอ่อนแรงไร้เรี่ยวแรงราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง “เจ้าจะอยู่หรือตายล้วนเป็นข้าที่ตัดสินใจ” “เจ้าไม่มีสิทธิพานางไป” เซินฮูหยินตะโกนลั่น ฟังดูแล้วช่างเป็นคำปลอบใจที่ทำให้หลีหนิงหนิงคลายความกลัวในตอนนี้ได้มากที่สุด จากนั้นต่อมานางพลันถูกโอบอุ้มก่อนที่สติจะดับวูบไป เกรงว่าข้าคงจะตายแล้ว เซินฮูหยินไม่พอใจอย่างถึงที่สุด เรื่องเช่นนี้เป็นการหักหน้าของนาง “เจ้าสมควรถูกบิดาลงโทษซ่งเสวี่ยน!” “คนผู้นั้นมีหรือจะกล้าทำอันใดได้” ซ่งเสวี่ยนหาได้หวาดกลัวผู้ใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะนรกหรือพิภพปีศาจเขาล้วนการเผชิญ ในขณะนั้นซ่งเสวี่ยนไม่สนใจผู้ใดที่กีดขวางอยู่ทั้งนั้น สตรีผู้นี้เป็นคนของเขาผู้อื่นล้วนไม่สามารถทำอันใดได้ตามอำเภอใจ เขาโอบอุ้มอย่างมั่นคง จุดหมายคือเรือนนอนขณะนี้เป็นเวลาส่งตัวเข้าหอของคู่บ่าวสาวยามนี้เป็นเวลาที่แสงจันทร์ทราสาดส่องลงมา บ่งบอกได้ว่าวันนี้ช่างเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยและยาวนานเหลือเกินหลีหนิงหนิงมองผ่านผ้าสีแดงพื้นบางทะลุออกไปข้างนอก ทว่ากับเลือนรางจนมองไม่ออกว่าใครคือผู้ใด ผู้คนมากมายที่ครึกครื้นมาห้อมล้อมด้านหน้าประตูเตรียมดูความสนุกของคู่บ่าวสาวที่ร้องคล้องแขกแลกสุราในคืนแรกเรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องส่วนตัวยิ่งนักผ่านมาแล้วราวสองวันแต่สำหรับหลีหนิงหนิงเวลาช่างเชื่องช้าราวกับผ่านพ้นไปแล้วสองปีสวรรค์สติฟั่นเฟือนไปแล้วหรือ!หลีหนิงหนิงคร่ำครวญในใจอดีตบรรณาธิการสาวที่กำลังแปลนิยายจีนทำงานอยู่ดี ๆ แต่กับต้องตายเพียงเพราะหัวใจวาย ทว่ากับคาดไม่ถึงเธอนึกว่าจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกแล้วไปเกิดใหม่ซะอีกแต่ความซวยดันเกิดขึ้น เมื่อเธอตายแล้วได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายเรื่องดังที่กำลังแปลอยู่ซ้ำยังมาตายก่อนที่จะได้รู้เนื้อเรื่องทั้งหมดและก่อนที่เธอจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นได้รับบทตัวประกอบที่ต้องคู่กับพระรองตัวร้าย!บัดซบเถอะ! เรื่องราวแปลกประหลาดแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับหลีหนิงหนิงเลนด้วยซ้ำอะไรคือจุดเริ่มต้นของเรื่องแปลกประหลาดนี้แล
พอวันรุ่งขึ้นพิสูจน์แล้วว่าหลีหนิงหนิงยังไม่ตายถึงแม้ ตามบทแล้วตัวละครจะดำเนินไปเช่นนั้น แต่ความร้ายกาจของพระรองผู้ร้ายกายก็ทำให้นางอดหวั่นใจหวาดกลัวไม่ได้ทว่าที่ย้ำแย่ไม่กว่านั้นคือการที่ต้องตื่นเช้าตรู่เพื่อยกจอกน้ำชาให้แม่สามีหากว่ากันตามตรงแล้ว สตรีผู้นั้นคือแม่เลี้ยงใจร้ายผู้หนึ่งก็ว่าได้หลีหนิงหนิงยังคงจดจำบทหนึ่งในนิยายได้อย่างดีซ่งเสวี่ยนในวัยสามขวบ ตอนนี้เขายังเป็เด็กน้อยที่น่ารัก น่าชังผู้หนึ่งแต่กับทอดถูกทิ้งไว้นอกเรือนท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายไม่หยุดนางถอนหายใจเฮือกใหญ่จนซ่งเสวี่ยนที่นั่งอยู่ข้างกายปรายตามองครู่หนึ่ง เหตุใดถึงน่าเห็นใจนัก“อย่าทำตัวให้วุ่นวาย” ซ่งเสวี่ยนเอ่ยขึ้นอย่างน่ารำคาญจังหวะเดียวกันนั้นเองภายในห้องโถงพลันเกิดความเงียบ“ไปพบเจ้าค่ะฮูหยินใหญ่”ก่อนที่ชั่วพริบตาจะพลันเกิดเสียงซุบซิบนินทาว่าร้ายพร้อมกับสายตาดูเคลนมองมาที่นางหลีหนิงหนิงพลันเบิกตาด้วยความตกใจแย่แล้ว!ในนิยายไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงบทตัวประกอบเช่น นางมากนัก ทว่าวันนี้พอตกค่ำนางก็พลันนอนอิดโรยเจ็บปวดอยู่บนเตียงเป็นเพราะถูกทำโทษจากแม่เลี้ยงใจร้ายทว่าเรื่องอันใดหลีหนิงหนิงไม่อาจคาดเดาได้
โรงเตี๊ยมแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนเส้นหลักใหญ่โตโอ่อ่าหลีหนิงหนิงเงยหน้าไล่ขึ้นมามองชั้นที่สอง…ชั้นที่สามขึ้นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่ชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ห้ารังรักของซ่งเสวี่ยนและแม่ดอกบัวขาวทุกอย่างจะมิใช่เรื่องแปลกหากซ่งเสวี่ยนนั้นไม่มีภรรยา“ดูท่าคงไปพลอดรักกัน ท่านคงชืมไปแล้วกระมังว่ายามนี้ตนมีภรรยาแล้ว” หลิหนิงหนิงพูดไล่หลังซ่งเสวี่ยที่เดินจากไปไม่เหลียวมองไม่รู้เพราะเหตุใดซ่งเสวี่ยนถึงไม่ตัดใจจากแม่ดอกบัวขาวเสียที ว่ากันตามตรงนั้นในบทที่ฉากที่พระรองตัวร้ายนัดหมายกับนางเอกออกมาเพื่อขอร้องอ้อนวอนให้นางอยู่ข้างกายเช่นเดิมแต่แม่ดอกบัวขาวนั้นทำทีเป็นบัวที่ตัดเยื่อยังเหลือใยเพราะแท้จริงแล้วอยากเก็บไว้ทั้งพระเอกและพระรองของนาง“ช่างเแสแสร้งเสียจริง” นางคร้านจะใส่ใจจึงปล่อยไปหลังจากซ่งเสวี่ยนปล่อยนางทิ้งไว้หน้าโรงเตี๊ยมแล้วเดินเข้าไปผู้เดียวนั้น เหอะ! เห็นนางเป็นตัวอะไรกันและคิดว่าหลีหนิงหนิงมีหรือจะวิ่งตามบุรุษอยากได้ก็เอาไปเถอะ!หลีหนิงหนิงพูดขึ้นกับตนเอง “เช่นนั้นข้าจะไปตามทาง ของข้า” ก่อนจะทอดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายหากอยู่เดียวที่จวนนางก็โดนโบยเจียนตายทว่าหากอยู่กับซ่งเสวี่ยนก็
น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังคงเป็นฤดูร้อน ทว่าหลีหนิงหนิงพลันรู้สึกไอเย็นที่แพร่กระจายรอบตัวหลีหนิงหนิงจูงมือซ่งเสวี่ยนมาจนกระทั่งหยุดอยู่ท้ายตลาดก่อนจะเริ่มรู้สึกได้ว่ามือที่จับกุมอยู่เริ่มบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับกระดูกกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆนางสบัดมือทันทีหัวคิ้วของหลีหนิงหนิงขมวดมุ่นมองไม่พอใจ “ข้าเจ็บ”“สมควร” ทั้งน้ำเสียงเย็นชาและสีหน้าเคร่งขรึมของ ซ่งเสวี่ยนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวทั้งสิ้น“ข้ากำลังช่วยท่านอยู่นะซ่งเสวี่ยน”นี่เป็นเรื่องบุญคุณแต่เขากับกระทำรุนแรงกับนางเช่นนี้ หลีหนิงหนิงเห็นว่านางควรปล่อยเขาให้ถูกพระเอกแทงจนกระอักเลือดจุกอกไปซะดีกว่าอารมณ์ของซ่งเสวี่ยนไม่สมควรให้นางต่อว่าเลยสักนิดซ่งเสวี่ยนตอบ “หากเจ้ายังสอดมือยุ่งเรื่องของข้าเช่นนั่นข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ” แล้วมีเหตุอันใดสตรีตรงหน้าถึงกล้าสอดมือเข้ามาช่วยเหลือ “รักษาชีวิตของเจ้าไว้ให้ดีเถอะหลีหนิงหนิง”หลีหนิงหนิงกำมือแน่น เม้มปากเป็นเช่นตรง พระรองผู้นี้หากเขาคิดจะทำเรื่องอันใดแล้วล้วนทำให้สำเร็จทั้งเรื่องสังหารนางก็เช่นกันหากเมื่อใดนางทำตัววุ่นวายเมื่อนั้นคือความตายมาเยือนทว่าคิดว่าคนอย่างหลีหนิงหนิงจะหวาดกล
โรงเตี๊ยมแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนเส้นหลักใหญ่โตโอ่อ่าหลีหนิงหนิงเงยหน้าไล่ขึ้นมามองชั้นที่สอง…ชั้นที่สามขึ้นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่ชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ห้ารังรักของซ่งเสวี่ยนและแม่ดอกบัวขาวทุกอย่างจะมิใช่เรื่องแปลกหากซ่งเสวี่ยนนั้นไม่มีภรรยา“ดูท่าคงไปพลอดรักกัน ท่านคงชืมไปแล้วกระมังว่ายามนี้ตนมีภรรยาแล้ว” หลิหนิงหนิงพูดไล่หลังซ่งเสวี่ยที่เดินจากไปไม่เหลียวมองไม่รู้เพราะเหตุใดซ่งเสวี่ยนถึงไม่ตัดใจจากแม่ดอกบัวขาวเสียที ว่ากันตามตรงนั้นในบทที่ฉากที่พระรองตัวร้ายนัดหมายกับนางเอกออกมาเพื่อขอร้องอ้อนวอนให้นางอยู่ข้างกายเช่นเดิมแต่แม่ดอกบัวขาวนั้นทำทีเป็นบัวที่ตัดเยื่อยังเหลือใยเพราะแท้จริงแล้วอยากเก็บไว้ทั้งพระเอกและพระรองของนาง“ช่างเแสแสร้งเสียจริง” นางคร้านจะใส่ใจจึงปล่อยไปหลังจากซ่งเสวี่ยนปล่อยนางทิ้งไว้หน้าโรงเตี๊ยมแล้วเดินเข้าไปผู้เดียวนั้น เหอะ! เห็นนางเป็นตัวอะไรกันและคิดว่าหลีหนิงหนิงมีหรือจะวิ่งตามบุรุษอยากได้ก็เอาไปเถอะ!หลีหนิงหนิงพูดขึ้นกับตนเอง “เช่นนั้นข้าจะไปตามทาง ของข้า” ก่อนจะทอดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายหากอยู่เดียวที่จวนนางก็โดนโบยเจียนตายทว่าหากอยู่กับซ่งเสวี่ยนก็
พอวันรุ่งขึ้นพิสูจน์แล้วว่าหลีหนิงหนิงยังไม่ตายถึงแม้ ตามบทแล้วตัวละครจะดำเนินไปเช่นนั้น แต่ความร้ายกาจของพระรองผู้ร้ายกายก็ทำให้นางอดหวั่นใจหวาดกลัวไม่ได้ทว่าที่ย้ำแย่ไม่กว่านั้นคือการที่ต้องตื่นเช้าตรู่เพื่อยกจอกน้ำชาให้แม่สามีหากว่ากันตามตรงแล้ว สตรีผู้นั้นคือแม่เลี้ยงใจร้ายผู้หนึ่งก็ว่าได้หลีหนิงหนิงยังคงจดจำบทหนึ่งในนิยายได้อย่างดีซ่งเสวี่ยนในวัยสามขวบ ตอนนี้เขายังเป็เด็กน้อยที่น่ารัก น่าชังผู้หนึ่งแต่กับทอดถูกทิ้งไว้นอกเรือนท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายไม่หยุดนางถอนหายใจเฮือกใหญ่จนซ่งเสวี่ยนที่นั่งอยู่ข้างกายปรายตามองครู่หนึ่ง เหตุใดถึงน่าเห็นใจนัก“อย่าทำตัวให้วุ่นวาย” ซ่งเสวี่ยนเอ่ยขึ้นอย่างน่ารำคาญจังหวะเดียวกันนั้นเองภายในห้องโถงพลันเกิดความเงียบ“ไปพบเจ้าค่ะฮูหยินใหญ่”ก่อนที่ชั่วพริบตาจะพลันเกิดเสียงซุบซิบนินทาว่าร้ายพร้อมกับสายตาดูเคลนมองมาที่นางหลีหนิงหนิงพลันเบิกตาด้วยความตกใจแย่แล้ว!ในนิยายไม่ได้กล่าวรายละเอียดถึงบทตัวประกอบเช่น นางมากนัก ทว่าวันนี้พอตกค่ำนางก็พลันนอนอิดโรยเจ็บปวดอยู่บนเตียงเป็นเพราะถูกทำโทษจากแม่เลี้ยงใจร้ายทว่าเรื่องอันใดหลีหนิงหนิงไม่อาจคาดเดาได้
ขณะนี้เป็นเวลาส่งตัวเข้าหอของคู่บ่าวสาวยามนี้เป็นเวลาที่แสงจันทร์ทราสาดส่องลงมา บ่งบอกได้ว่าวันนี้ช่างเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยและยาวนานเหลือเกินหลีหนิงหนิงมองผ่านผ้าสีแดงพื้นบางทะลุออกไปข้างนอก ทว่ากับเลือนรางจนมองไม่ออกว่าใครคือผู้ใด ผู้คนมากมายที่ครึกครื้นมาห้อมล้อมด้านหน้าประตูเตรียมดูความสนุกของคู่บ่าวสาวที่ร้องคล้องแขกแลกสุราในคืนแรกเรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องส่วนตัวยิ่งนักผ่านมาแล้วราวสองวันแต่สำหรับหลีหนิงหนิงเวลาช่างเชื่องช้าราวกับผ่านพ้นไปแล้วสองปีสวรรค์สติฟั่นเฟือนไปแล้วหรือ!หลีหนิงหนิงคร่ำครวญในใจอดีตบรรณาธิการสาวที่กำลังแปลนิยายจีนทำงานอยู่ดี ๆ แต่กับต้องตายเพียงเพราะหัวใจวาย ทว่ากับคาดไม่ถึงเธอนึกว่าจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกแล้วไปเกิดใหม่ซะอีกแต่ความซวยดันเกิดขึ้น เมื่อเธอตายแล้วได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายเรื่องดังที่กำลังแปลอยู่ซ้ำยังมาตายก่อนที่จะได้รู้เนื้อเรื่องทั้งหมดและก่อนที่เธอจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นได้รับบทตัวประกอบที่ต้องคู่กับพระรองตัวร้าย!บัดซบเถอะ! เรื่องราวแปลกประหลาดแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับหลีหนิงหนิงเลนด้วยซ้ำอะไรคือจุดเริ่มต้นของเรื่องแปลกประหลาดนี้แล