เมื่อทั้ง 3 คนมาถึงหน้าอภิมหาอาคารหรู มันไม่ใช่คฤหาสน์แต่มันเป็นอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีที่จอดรถด้านหน้า พร้อมทั้งวงเวียนน้ำพุรูปม้ากำลัง กระโจนโผเผ่นทะยาน ชัชเทวบุตรก็มากับเขาด้วย อารมณ์เหมือน นั่งมาบนหลังคารถ ตอนที่เขายังมีชีวิต เป็นมนุษย์อยู่ เขาก็ไม่ได้ท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ นี่คือการเปิดหูเปิดตาแท้ๆ
ทั้ง 3 คนลงจากแท็กซี่ พี่แป๊ดกรีดนิ้วโชว์เล็บปลอมขนาดยาว ราวกับว่าจะไปฟ้อนเล็บหลังเลิกงาน ส่งสัญญาณ บอกให้รปภ.เปิดประตูให้ เหมือนแกมาหลายครั้งแล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยยิ้มมุมปากแล้วกดเปิดประตู อัตโนมัติ สีดำติดฟิล์มหนา ให้ทันที ทั้งสามคนเดินผ่านซุ้มประตูโค้งส่งโรมัน ที่ ข้างเสาคู่ด้านหน้ามีคิวปิดคู่นึงสีขาวประดับอยู่
เป็นคิวปิดที่ไม่ใช่ เด็กผู้ชาย มีปีก ผมลอน ถือลูกศรแล้วแก้ผ้า แต่เป็น รูปปั้น คิวปิด ปูนปลาสเตอร์ ชายหนุ่ม กล้ามโต มีปีกผมลอน ขนาดเท่าคนจริงใช้มือปิดอวัยวะส่วนลับ ที่ใหญ่ราวกับ ห่อข้าวมันไก่ ท่าทางเหนียมอาย เหมือนว่าศิลปินผู้ปั้นจะประสบความสำเร็จเพราะไม่มีใครเลย เดินผ่าน โดยไม่มอง แถมยังอยากจะมองให้ทะลุมือผ่านไปอีกด้วยซ้ำ
ผ่านประตูเข้าไปแล้ว ที่นี่ก็คือฮอลล์ขนาดใหญ่ ได้ยินเสียงเพลง ภาษาต่างประเทศเปิดคลอเบาๆออกมาจากลำโพงที่ซ่อนไว้ตามเสาต่างๆ และ เอก็พบกับความอลังการอย่างที่คาดไม่ถึง ปกติแล้วทั่วไปอย่างมากก็ปูลาดด้วย พื้น หินอ่อน หรือ หิน แกรนิต แต่ ที่ นี่ เป็น ทอง ผสมกับเม็ดอัญมณี จะเป็นทองแท้หรือทองปลอมก็ไม่รู้แต่เท่าที่เห็นมันคือเหรียญทองที่ปูลาดอยู่บนพื้นและมีเรซิ่นเททับอยู่ด้านบนเหมือนจะให้เราก้มลงไปหยิบเหรียญแต่ก็หยิบไม่ได้ซะอย่างนั้น
แสงไฟดาวน์ไลท์จากด้านบนส่องลงมาเห็นอัญมณี สะท้อนขึ้นจากพื้น ยิบยับ วิบวับ เสาแต่ละต้น ประดับไปด้วยกระจก คริสตัลสีสันต่างๆ แม้กระทั่งบนเพดาน สูงมีโคมไฟห้อยระย้า และดาวน์ไลท์ซึ่ง มีการจัดแสงอย่าง มืออาชีพ ภายใต้แสงนี้ เดาว่า ทุกคนจะต้องดูดีอย่างแน่นอน
มีเคาน์เตอร์ของพนักงานต้อนรับ เหมือนต่างโรงแรมต่างๆแต่ว่าใหญ่มากเป็นหินอ่อนสีขาว และมีพนักงานสาวสวย ผมหน้าม้าดำยาว แต่งตัวเหมือนกันแค่ยูนิฟอร์มมี 2 สี คือ สีเงินและชุดสีทอง ริมฝีปากแดง ขนตายาวเหมือนพัด เห็นมาแต่ไกล ประมาณ 4 คนประจำการอยู่ตรงนั้น ทุกคนก้มหน้าก้มตาดู เอกสารในมือ เป็นเวลาเย็นแล้วซึ่งสถานบริการกำลังจะ ต้องเริ่มต้นรับทัวร์ โปรแกรมแรกของวันนี้ ไม่มีใครสนใจคนที่ เดินเข้ามาเลย อาจมีบางคนเงยหน้ามามองแต่พอเห็นเป็นคนรู้จัก ก็ก้มหน้าก้มตาเช็คเอกสารต่อไป
ชัชเทวบุตรที่ลอยเลื่อนผ่านเข้ามา แบบไม่มีใครเห็น ก็ยังตะลึงตะลานไป ด้วยทิพยวิมาน ของเขาเองยังไม่ หรูหราอลังการ หน้าตาแบบนี้ วิมานของเขาเป็นวิมานที่เลือกได้ตามใจเนรมิต เขาจึงเลือกแค่บ้านสไตล์นอร์ดิก เรียบง่ายแบบสุดๆ ชีวิตเทวดามันง่ายจะตาย อยากได้เก้าอี้ โซฟา ก็เสกขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องมีเฟอร์นิเจอร์ให้รกบ้าน ครัวก็ไม่ต้องมีอยากกินอะไรก็นิมิตเอา เดี๋ยวกลับไปจะไปเนรมิตบ้างนี่เช็คตัวอย่างไว้ก่อน เขาคิดในใจ
ส่วน เอกวาดสายตามองไปทั่ว แทบจะ หมุนคอเป็นวงกลมได้ สายตาสะท้อนยิบยับวับวาบไม่ต่างกับอัญมณี สายตาสอดรู้ค่อยๆเก็บรายละเอียด ที่เดินผ่านไป
ส่วนพี่แป๊ดกับพี่เรียมเดินนำหน้าทำท่าเฉยชา เหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ โบกมือทัก PR ที่เหมือนรู้จักกันตรงเคาน์เตอร์นิดนึง แล้วสับเท้า มุ่งตรง อ้อมผ่านฉากกั้น ไปยัง โซนพนักงาน ทางเดินแคบลง ผนังเป็นสีดำและเหลือแค่ไฟธรรมดา เสียงเพลงหายไป เหลือแต่เสียงรองเท้าส้นสูง 2 คู่ ดังสลับกัน ส่วนตัวเอ สวมรองเท้าผ้าใบจึงเดินเงียบเหมือนแมว สังเกตว่าห้องทางนี้ เหลือแต่ความเรียบง่าย สิ้นความหรูหราเมื่อเทียบกับด้านหน้า เหมือนฟ้ากับเหว ห้องที่ติดป้ายไว้ว่าผู้จัดการ เป็นห้องที่อยู่สุดทางเดิน
ทั้งสามคนยืนอยู่หน้าห้อง หลังจาก เคาะเสียงดัง 3 ครั้งแล้วพี่แป๊ดก็ถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเลย
ประตูไม่ได้ล็อค มีเสียงผู้ชายร้องว๊ายแทรกออกมา
เมื่อเปิดประตูเข้าไปมีเสียงผู้ชายกรีดร้อง แบบสาวแตกในขณะที่พี่แป๊ดก็ร้องเหมือนกันโอ๊ย...อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกใน แกโวยเสร็จก็หุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันใดนั้นเอง ยังไม่ทันที่อีก 2 คนจะโผล่หน้าตามเข้าไปในห้อง รวมทั้งชัดเทวบุตรที่ต่อคิวเป็นคนที่ 4 ด้วย ทั้ง 3 ก็ต้องผงะออกมา เพราะประตูถูกเปิดสวนทาง สาวผมบลอนด์ยาว จะใส่ชุดแซกสั้นที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ เอามือขวาปิดปาก มือซ้ายดึงชายกระโปรง แล้ววิ่งพรวดพราดสวนไปทันที. เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องไปทั่วบริเวณเมื่อพี่เรียมแทรกตัวเข้าไปได้ เอก็ตามไปติดๆ สิ่งที่เห็นคือ ผู้จัดการ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ด้านหลังโต๊ะทำงาน เป็นกระจกสูง มองเห็นวิวของเมืองพัทยาทั้งเมืองรวมทั้งโค้งชายหาดแสนสวย ผู้จัดการ เป็นชายไหล่กว้างตัวสูงเกือบ 2 เมตร ในชุดสูทหันหลัง และ มองเห็นภาพสะท้อนออกมาจากกระจกใส ทำท่าเหมือนกำลังใส่เข็มขัด ทั้ง 3 คนพี่แป๊ดเรียมและเอ ยืนเรียงกันหน้าโต๊ะเหมือนนักเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกมาทำโทษ พี่แป๊ดแก้มแดงไปจนถึงหู ส่วนพี่เรียมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอก็เก้ๆกังๆ ชัชเทวบุตรลอยเลื่อนขึ้นไปนั่งบนโซฟา รอดูการแสดงอย่างใจจดใจจ่อ"เอาเงินมาส่
คืนนั้นพระจันทร์สว่างมาก น่าจะเป็นวันเพ็ญ แสง แสงจันทร์ส่องทาง สว่างกว่าแสงไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือ ชายหญิงคู่นึงประคองกันวิ่งกึ่งเดินอย่างรีบร้อนผ่านตรอก ผู้หญิงหิ้วกระเป๋าผ้าท่าทางมีน้ำหนัก ฝ่ายชายมือข้างนึงจับแขนหญิงสาวอีกมือกุมด้ามปืนไว้แนบขา"พี่ชัชฉันไม่ไหวแล้ว พักหน่อยได้ไหม""ไม่ได้ทนหน่อย อีกนิดเดียวก็จะเจอรถแล้ว เดี๋ยวพี่อุ้มณาไปชายหนุ่มเสียบปืนเข้าที่เข็มขัด สองมือช้อนเอาหญิงสาวอุ้มแนบอก อุณากอดกระเป๋าแน่นที่หวงนักหนาไม่ใช่เสื้อผ้าแต่คือเงินอัดแน่น พร้อมจะเอาไปสร้างอนาคตด้วยกัน ศีรษะซบลงบนอกชายหนุ่มคนรัก หัวใจของเขาเต้นดังมันดังมากเปรี้ยง.....ดังเหมือนฟ้าผ่าเสียงสุดท้าย ก่อนทุกอย่างมืดดำสนิทชัช เจ็บมาก. ก้มลงมองเห็น เลือดและเศษสมองกระจาย เต็มอก เค้ารู้สึกว่าโดนยิงจากทางด้านหลังแล้วก็ควบคุมร่างกายไม่ได้อีก อุณาเมียรัก ร่วงลงจากอ้อมกอดแล้วทุกอย่างก็มืดลงเสียงหวอดังสนั่น เสียงในวิทยุเจ้าหน้าที่ดังเป็นระยะ"เกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตสองศพ ชายหนึ่งหญิงหนึ่งคนร้ายหนีไปได้ครับท่าน" เสียงดังฟังชัดร้อยเวรรายงานผู้บังคับบัญชา"แล้วเหตุการณ์มันเป็นยังงัยหมวด"ชายวัยกลางคนใ
ชัช ไชนานนท์ ลืมตาอีกครั้งเขาอยู่บนบัลลังก์สีทอง บนตักของชายคนนึง ทั้งร่างคนผู้นั้นเปล่งประกายสีทอง ผิวกายดำแดง กำยำ สวมมงกุฎ ถอดเสื้อพาดเพียงสายสังวาลสีทองประดับอัญมณีสุดอลังการ นุ่งผ้าแดงทอสอดดิ้นละเอียดนุ่มเขาตื่นขึ้นสำรวจตัวเองมองเห็นเป็นในร่างผู้ชายโตเต็มวัย ผมยาว ผิวพรรณ ละเอียด เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เพียงก้มมองร่างก็พบว่าตนเองก็อยู่ในชุดละม้ายคล้ายชายผู้นั้น เพียงแต่แสงรอบกายไม่ได้มีประกายสว่างไสว ด้วยความตกใจจึงกระโดดลงจากตักชายผู้นั้นเทวบุตรอุบัติแล้ว เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณเขากวาดตามองไปโดยรอบก็พบว่า คล้ายอยู่ในท้องพระโรง รอบตัว นอกจากตักชายบนบัลลังก์ที่เขาเพิ่งกระโดดลงมาแล้ว ทุกสิ่งก็ยังปูลาดไปด้วยพรมสีทองสลับแดง สัมผัสอ่อนนุ่มอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ลวดลายบนต้นเสาและผนัง วิจิตรบรรจงยิ่งนักที่แปลกกว่าคือคนรอบตัวล้วนจ้องมองมาที่เขาทั้งสิ้น ด้านซ้ายและด้านขวา มีตั่งที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีสมุดปกหนังเล่มใหญ่หนาหนักกางออก คนที่นั่งอยู่บนฝั่งนั้น ก็มีรูปร่างใหญ่โต ถอดเสื้อ ประดับกายด้วย เครื่องประดับอัญมณี งดงาม มองผิวเผินนึกว่าเป็นฝาแฝดกันทั้งซ้ายและขวา คน
ลูกเอ๋ย เมื่อเจ้ากำเนิดบนตักพ่อเจ้าจึงมียศเป็นเทวบุตร และเมื่อเจ้ากำเนิดก็แปลว่าพ่อจะพ้นจากกรรมและไปบังเกิด ในภพภูมิที่สูงยิ่งขึ้นกว่านี้อย่ามึนงงไปเลย จงดมดอกไม้นี้แล้วจะเข้าใจความเองดอกปาริชาติดอกนึง ปรากฏขึ้นบนมือของชัชทันที ดอกปาริชาติหอมยิ่งสักเพียงไหน ดลจิตดลใจให้ระลึกถึงอดีตชาติปางก่อนความทรงจำหลั่งไหล หลายร้อยหลายพันชาติประเดประดัง จนนิ่งอึ้งกว่าจะประมวลผลได้เขาก็นิ่งอยู่นาน ทีเดียวในท้องพระโรงแห่งนี้ นอกจากเทวบิดาไกรสรเทพบุตรซึ่งดำรงตำแหน่ง พระยายมราชที่กำลังจะหมดวาระจากไป ส่วน ที่เห็นใกล้ตัว สุวรรณและสุวานด้านซ้ายขวาก็เป็นมือซ้ายและมือขวา ก็เป็นเทวดา ที่ช่วยเขาทำงาน นายทหารชายหญิงทั้งหลายที่มองเห็นก็ล้วนแต่เป็นดวงวิญญาณที่มา ชดใช้กรรม มีตำแหน่งและหน้าที่เป็นนายนิรยบาล ควบคุมลงทัณฑ์สัตว์นรก ทุกดวงวิญญาณต้องมาชดใช้ สิ่งที่ตนทำไป ทั้งนั้น และที่มองเห็น สีดำ พรีดไปจนสุดสายตานั่นก็คือเหล่าดวงวิญญาณที่มารอผลการตัดสิน พญายมราชเป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้นสามารถเปลี่ยนมือและส่งผ่านไปยังผู้มีบุญ ได้ และการที่เขาเกิดกำเนิดขึ้นนี้ ทำให้พระยายมราชองค์เดิมส่งผ่านอำนาจ และเปลี่ยนภพภูมิ
พาดหัวข่าววันนี้ สาวคาบาเรต์ โดนบุกบ้านทำร้ายสาหัส ตำรวจแจ้งเรื่องนี้อาจมีชู้สาวเกี่ยวข้อง เพื่อนบ้านเผยอาจเป็นฆาตกรรมมากว่าชิงทรัพย์ วันที่14 กุมภา ร.ต.อ. ชัยวุธ รัตนชัย รองสารวัตรสอบสวน สน.ห้วยขวาง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้บาดเจ็บสาหัส หน้าอาคารพาณิชย์หลังหนึ่ง ที่เกิดเหตุ พบสาวประเภทสอง ชื่อนายเอ(นามสมมุติ)อายุ30ปี ถูกตีด้วยเหล็กเกี่ยวประตูม้วน อาการสาหัส ข้าวของในบ้านกระจุยกระจาย และในบ้านพบนางเกรซและนายแป้ง(นามสมมุติ)มารดาและพี่ชาย โดนมัดและปิดตาอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และ แก้ไขมารดาและพี่ชาย ซึ่งอยู่ในอาการตกใจ พอให้การเบื้องต้นได้ส่วนนายเอ (นามสมมุติ)หลังจากนำส่งโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตห้วยขวางกรุงเทพฯ ประเทศไทยไร้เสียง เหมือนโลกโดนดูด เสียง ออกไปทั้งหมด การเต้นของหัวใจช้าและเงียบงัน ปากและคอแน่นเต็มไปด้วยท่อ หัวปวดจนแทบระเบิด ตาลืมได้แค่ครึ่งข้าง แขนและขาไม่ต้องพูดถึง กระดิกกระดิกปลายนิ้วได้ก็บุญแล้ว มองเห็นชายผ้าม่าน ขยับไหว อยากจะส่งเสี
"อีเอ!!มึงโอนมาหรือยัง อ่านข้อความ กูมั่งไม้"เสียงแม่แว๊ดแหวจากปลายสาย ดูเร่งร้อนหงุดหงิด" เดี๋ยวก่อนแม่ เต้นอยู่ นี่เพิ่งเห็นโทรศัพท์ โทรมาเป็น 10 สายเลยนะเนี่ย รอก่อนนะแม่ เดี๋ยวออกไปโอนให้" พูดจบก็ อีเอก็รวบวิกถอดโยนโครมลงหน้ากระจก หรี่ตามองรูปลักษณ์ของตัวเอง นายทวีที่เติบโตมาจากเด็กชายทวีตอนนี้กลายเป็นน้องเอ กระเทยหน้าสวยศัลยกรรมกว่า 10 ครั้ง นมปลอมไซส์ 400 cc และใบหน้า ที่พอก ด้วย เครื่องสำอาง หนาประมาณกระดาษ A4 100 แผ่น" มึงรีบไปโอนเลย เดี๋ยวแม่กับพี่ โดนเขายำเอานะ อีลูกเนรคุณ มึงอยากได้แบบนี้เหรอ มึงอยากเห็นกูโดนเขาซ้อมหรือไง" เสียงแหลมปรี๊ดของแม่ ปวดประสาทยิ่งนัก นี่ก็คงเหมือนเดิม พากันกับพี่ชาย 2 คน แอบไปคาสิโนที่เขมร แล้วก็คงเสียกันยับเยิน จนไม่เหลือตังจ่าย"กี่บาทแม่" ปากพูดมือคว้า ครีมเช็ดเครื่องสำอาง ใช้สำลีควักลวกๆ ถูปาดๆไปตามหน้า"ลูกเวรไม่ได้อ่านที่กู ไลน์ ไปเลย แสนนึง รีบด้วยนะ ตอนนี้ไอ้ปีเตอร์มันให้กูไปรอบนห้องอยู่ ถ้ามึงช้ากูลำบากแน่ ""ค่ะแม่" ตอบเสร็จรีบกดวางทันที ถอนใจเฮือกใหญ่ แม่จะโทรหาก็ตอนเวลาแบบนี้เท่านั้น เวลาที่ต้องการเงิน ถอดคอร์เซ็ทรัดเอว แกะกระดุมชุ
ทวี หรือ เอ อายุสิบสอง เข้าเรียนม.1ที่โรงเรียนกินนอนชายล้วนแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี เป็นโรงเรียนคริสเตียนเชิงเขา ในโรงเรียนมีโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ ซึ่งภายในประดับไปด้วยกระจกสีจากฝรั่งเศสและอิตาลี และนอกจากนี้ภายในยังมีประติมากรรมปูนปั้นที่ทำมาจากหินอ่อนและเพดานโค้งที่ตกแต่งอย่างวิจิตร ในห้องนอนได้สี่คน สนับสนุนโดยเงินประกันชีวิตก้อนใหญ่ของบิดาถือเป็นลูกคุณหนูทีเดียว สำหรับหอนอนนี้มีสี่ชั้นแต่ละชั้นมีหกห้องใหญ่ ห้องน้ำแยก ในห้องแต่ละห้องแบ่งสี่มุมด้านซ้ายของเตียงมีตู้เก็บเสื้อผ้าแบบบานเลื่อน ด้านขวาข้างเตียงเป็นโต๊ะอ่านหนังสือพร้อมโคมไฟ ด้วยความเรียบร้อยน่ารักผิวขาวหน้าหวานผิดผู้ชาย ก็เลยมีรุ่นพี่ชวนเข้าแกงค์เจ็ดนางฟ้าตั้งแต่ปีแรก เป็นเรื่องปกติของกลุ่มกระเทยที่จะต้องรวมตัวกันเพื่อไม่ให้โดน เด็กหนุ่มทะโมนรังแก แกงค์เจ็ดนางฟ้า พวกเรามี7คน เวลาเดินต้องมาแบบหน้ากระดาน กอดกระเป๋าใบแบนแนบอก เอในฐานะน้องเล็กของกลุ่มก็เลยได้ติดกิ๊บชมพูน่ารัก มีคาแรคเตอร์ทั้งกลุ่มเดินไปไหนก็ไม่พ้นเสียงเป่าปากวี๊ดวิ้วจะหนุ่มในโรงเรียน (นึกภาพการเดินแบบหน้ากระดานขอ
"พี่เลิศ" เลิศศักดิ์ชัย ปลื้มชายหนุ่มชื่อยาวนามสกุลพยางค์เดียว ผอมสูง ผิวสีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสีสนิมเหล็ก ผมสั้นเกรียน ไถแบบให้เป็นลานเครื่องบินลงจอด เหมือนว่าจะไปเป็นนักเรียนทหารอย่างไงอย่างนั้น อายุ16 รุ่นพี่ม. 5 ลูกชายคนเดียวของภรรยาน้อยคนโปรด ผู้มีอิทธิพลเหตุผลที่อยู่ที่นี่ ถูกส่งมาไว้ในโรงเรียนประจำบนแห่งนี้ เพราะโดนเขม่นจากเหล่าพี่ชายลูกภรรยาหลวง โทษฐาน หล่อกว่า หุ่นดีกว่า ผลการเรียนดีมาก ดูเหมือนจะเป็นผู้ช่วยพ่อได้ดีเมื่อโตขึ้น พ่อรักมากกว่านั่นแหละ"เรียนในประเทศก็ได้ค่ะท่าน ที่นั่นก็มีครูฝรั่ง ไม่ต่างอะไรจากคุณโตคุณเล็กที่ไปเรียนในต่างประเทศ" เสียงแม่พูดแกมน้อยใจ เมื่อสามี สั่งว่า ภรรยาใหญ่ แนะนำ ให้ส่งลูกชายไปเรียนโรงเรียนประจำ ซึ่งคงไม่พ้นต้องทำตาม ถึงสามีจะเป็นผู้มีอิทธิพล และภรรยาใหญ่ปล่อยให้มีภรรยาเล็กๆได้ แต่เมื่อภรรยาใหญ่หรือแม่ใหญ่สั่งอะไร สามีก็ทำตามอยู่เสมอ เพราะที่อยู่ได้ทุกวันนี้ เนื่องจากเงินสินเดิมของแม่ใหญ่ทั้งนั้นแม่วาดโชคดี ถึงแม้จะเป็นภรรยาน้อยแต่สามีก็เปิดกิจการให้ทำ เป็นเจ้าของห้องอาบน้ำ ในเขตชายหาดในจังหวัดชลบุรี มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ส่วนแม