ถูกใจ

เมื่อเปิดประตูเข้าไปมีเสียงผู้ชายกรีดร้อง แบบสาวแตกในขณะที่พี่แป๊ดก็ร้องเหมือนกัน

โอ๊ย...อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกใน แกโวยเสร็จก็หุ่งพรวดเข้าไปข้างใน

ทันใดนั้นเอง ยังไม่ทันที่อีก 2 คนจะโผล่หน้าตามเข้าไปในห้อง รวมทั้งชัดเทวบุตรที่ต่อคิวเป็นคนที่ 4 ด้วย ทั้ง 3 ก็ต้องผงะออกมา เพราะประตูถูกเปิดสวนทาง สาวผมบลอนด์ยาว จะใส่ชุดแซกสั้นที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ เอามือขวาปิดปาก มือซ้ายดึงชายกระโปรง แล้ววิ่งพรวดพราดสวนไปทันที. เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องไปทั่วบริเวณ

เมื่อพี่เรียมแทรกตัวเข้าไปได้ เอก็ตามไปติดๆ สิ่งที่เห็นคือ ผู้จัดการ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ด้านหลังโต๊ะทำงาน เป็นกระจกสูง มองเห็นวิวของเมืองพัทยาทั้งเมืองรวมทั้งโค้งชายหาดแสนสวย ผู้จัดการ เป็นชายไหล่กว้างตัวสูงเกือบ 2 เมตร ในชุดสูทหันหลัง และ มองเห็นภาพสะท้อนออกมาจากกระจกใส ทำท่าเหมือนกำลังใส่เข็มขัด ทั้ง 3 คนพี่แป๊ดเรียมและเอ ยืนเรียงกันหน้าโต๊ะเหมือนนักเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกมาทำโทษ พี่แป๊ดแก้มแดงไปจนถึงหู ส่วนพี่เรียมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอก็เก้ๆกังๆ ชัชเทวบุตรลอยเลื่อนขึ้นไปนั่งบนโซฟา รอดูการแสดงอย่างใจจดใจจ่อ

"เอาเงินมาส่งค่ะ  เดี๋ยวนี้  แป๊ดมันไม่เป็นคนโปรดแล้วนี่นะ เวลาว่างก็เลยเรียกเด็ก มากิน. เอ๊ะ.......หรือให้มันกิน"

พี่แป๊ะ พูดจีบปากจีบคอเอามือล้วงเงินในกระเป๋า เป็นเงินที่ มี แบงค์ร้อยและแบงค์ 20 อยู่รวมกันเป็นก้อนใหญ่ มัดไว้อย่างดีเดินเอาไปวางที่โต๊ะ  ผู้จัดการหมุนตัว หันหน้ามาเขาตัดผมสั้นเกรียน ผิวขาวในตาสีน้ำตาลอ่อนกว่าคนทั่วไป เหมือนมีเชื้อสายต่างชาติ ใส่ต่างหูเพชรทั้งสองข้าง เอเพิ่งสังเกตว่าเขามีรอยสักรูปมังกร หัวมังกรอ้อมมาอยู่ตรงข้างหู ดูเหมือน มังกรล่อแก้ว อย่างไรอย่างนั้น เขาเดินอ้อมโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ มารวบเอวพี่แป๊ดไว้

โถคุณแป๊ดอย่าเพิ่งน้อยใจผมเลยครับ เวลาว่างมันก็เหงาบ้างอะไรบ้าง พี่แป๊ดเป็นสาวประเภทสองที่ตัวใหญ่มากแล้ว แต่ก็ยัง โดนผู้จัดการดึงตัวมาเชยคางแล้วหอมแก้มเบาๆ เหมือนสาวตัวเล็กตัวน้อยในนิยาย

เอ กลืนน้ำลายเอือก นี่มันอะไรกันนี่

พี่เรียมแกล้งมองไปทางอื่นเอามือลูบเผ้าลูบผมจัดชุดแต่งตัว ทำเหมือนกับ จินตนาการ ว่าด้านหน้าตัวเองมีกระจกเงาบานใหญ่

ก่อนหน้าจะมาถึงนี่ ก็ได้ บรีฟข้อมูลมาจากลุงชัชมาแล้วเหมือนกันว่า พี่แป๊ด อดีต นางโชว์ตัวเอก หลังจากมีอายุเพิ่มขึ้น ก็เปลี่ยนมุม ทำงานเป็น คนสนิทของผู้จัดการคาบาเร่ที่มีธุรกิจแฝงเป็นปล่อยหนี้เงินกู้รายวัน ที่สำคัญห้ามเรียกป้าเพราะพี่แป๊ดไม่อยากแก่

ส่วนพี่เรียม ก็เป็นหนุ่ม แดรกควีน ที่ชอบแต่งหญิง ยังไม่ผ่าอะไรทั้งนั้น แต่แต่งแล้วสวย จนร้านนี้ร้านนี้แย่งกันพาไปโชว์ตัว เพราะว่ามากความสามารถ ทั้งร้องทั้งเต้น และลิปซิ้ง อีกทั้งความสามารถด้านการแต่งกายเลียนแบบซึ่งทำได้เหมือนมากไม่ว่าจะเป็นบียอนเซ่ บริทนีย์ ลิซ่า Michael Jackson แจ็คสันหวัง แบมแบม เอลวิส นางทำ เลียนแบบ ได้หมด ก่อนหน้านี้พี่เรียมอยู่อีกร้านนึง แต่เพราะว่าชอบเด็กหนุ่ม เด็กเสิร์ฟในร้านคงจะเป็นคนที่วิ่งสวนไปในตอนที่เจอครั้งแรก ก็เลยโดนเด้ง ให้ไปหางานอื่นเพราะกฎของร้านห้ามเป็นแฟนกันในร้าน แล้ววันนี้ ก็กำลังจะมาขอสมัครงานไม่ต่างไปจากเอ

"แล้วนี่ใครกัน"ผู้จัดการหันมากวาดตามองเอ และพี่เรียม เหมือนเพิ่งเห็นพวกเขาปรากฏตัว

"แนะนำก่อนเลยแล้วกันนี่เรียม คนที่ผู้จัดการเคยอยากให้แป๊ดตามมาทำงานด้วย เขาจะไม่ได้จะสมัครเต้นนะคะ เขาจะมาเป็นนักออกแบบท่าเต้น แล้วก็ถ้ามีโอกาสเขาก็อยากทำโชว์ของตัวเองที่ร้านเราค่ะ ส่วนนี่น้องหน้าใหม่น้องเอ เห็นหน่วยก้านดีรูปร่างใช้ได้ เลยคิดว่า น่าจะพามาสมัครงานพร้อมกัน ผู้จัดการสนใจไหมคะ "พี่แป๊ดร่ายยาว

ผู้จัดการยังโอบเอวพี่แป๊ดอยู่เหมือนจะโชว์ เขาย่อตัวลงเอาก้นพิงบนโต๊ะทำงาน โดยให้พี่แป๊ดนั่งบนหน้าขาของเขา ด้วยรูปร่างที่ใหญ่ขนาดนั้น พี่แป๊ดก็ดูเป็นสาวน้อย

"ก็ดีนะ เรากำลังขาดหน้าใหม่ น้องก็รูปร่างดีนะ แต่งซะหน่อยคงใช้ได้ ถ้ายังไงพรุ่งนี้ลองมาซ้อมกับพี่ๆ"

"งั้นเดี๋ยวพวกเธอออกไปก่อน  รายงานตัวกับhrข้างหน้า ที่ เมื่อกี้เดินผ่าน เขาจะนัดคิว และ เวลาให้เอง ส่วน เรื่อง ค่า แรง ก็เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ให้เขาร่างสัญญามาให้ผู้จัดการอ่านก่อนแล้วค่อยเซ็น" อยู่ๆพี่แป๊ดก็รีบตัดบทไล่พวกเราออกมาซะอย่างนั้น ส่วนที่เรียมเหมือนจะรู้ทันหลิ่วตาให้พี่แป๊ด พร้อมปรายตาไปสู่มือของพี่แป๊ดที่วางอยู่ ส่วนเอไม่ทันได้มองอะไรสายตาจับจ้องอยู่กับตาสีน้ำตาลจางๆคู่นั้น เหมือนมีมนต์ขลัง

หลังจากถูกพี่เรียมรุนหลังและดันออกมาจากห้อง บรรยากาศมันเงียบมากได้ยินแค่เสียงกระซิบจากในห้องเบาๆ "ยังแข็งอยู่ ต่อไหม" หลังจากนั้นก็เป็นเสียงผ้าสวบสาบ

หูของเอมันอยากรู้อยากเห็นมาก แม้จะโดนดันออกมาก็ยังจะจับใจความได้ซะอีก เสียดายจังไม่ได้รับบรีฟเรื่องผู้จัดการมาจากลุงชัชเสียด้วย เอเลียริมฝีปากและกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว

วันนั้น HR ให้เอศึกษางานโดยให้ดูการแสดงฟรี ส่วนพี่เรียมขอตัวกลับไปก่อนพรุ่งนี้จะมาดูสัญญาอีกที เอนั่งตัวลีบอยู่ที่มุมนึงของ เก้าอี้ สำหรับชม โชว์ วันนี้ ผู้มาดูส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีน มีฝรั่งผมทองบ้างเล็กน้อย และไม่มีคนไทยเลย เอน่าจะเป็นคนไทยคนเดียว ที่ไม่ได้จ่ายตังค์ และมานั่งตรงเก้าอี้ VIP ซะด้วย ไม่ใช่เพราะอะไรเพราะว่าวันนี้ตรงจุดนี้ไม่มีใครซื้อตั๋วเข้ามา นี่เป็นการดูข่าวเบอเร่ครั้งแรก ของเอในชีวิต การแสดงประกอบไปด้วย 3 ท่อนคล้ายลิเก มีท่อนเปิดตัว เป็นตัวละครตลก เหมือนแม่เล้าญี่ปุ่น ตัวอ้วนแต่งตัวเป็นชายครึ่งหญิงครึ่งครึ่งนึงใส่ชุดกิโมโนอีกครึ่งนึงใส่ชุดสูท หน้าด้านนึงมีหนวดอีกด้านนึงทาปากสีแดง ออกมาร้องเล่นเต้นรำ และล้อเลียนการเมือง หรือแซวลูกค้าจีน ซึ่งลูกค้าชอบท่อนนี้มากต่างขำขัน มีเสียงเฮดังเป็นระยะๆ ตัดเข้าท่อน 2 เป็นช่วงที่อลังการ ดาวล้านดวงแสงสีเสียงตระการตา เป็นละครไทย เรื่องมัทนะพาธา ตำนานแห่งดอกกุหลาบ

ซึ่งคนจีนไม่รู้จักเรื่องนี้เลย ส่วน เอที่เคยอ่านหนังสือเรื่อง นี้มาก่อน จึงเดาทางได้โดยไม่ต้องดู

นางฟ้า ที่ถูกสาปเป็นดอกกุหลาบเพราะความรัก จะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แต่คืนวันเพ็ญ และต้องกลับไปเป็นดอกกุหลาบ วนไปเรื่อย ถ้าเกิดว่ามีความรักกับชายใดก็จะกลายเป็นมนุษย์ต่อไปไม่ต้องกลับมาเป็นกุหลาบอีก เรื่องนี้ยาวมากคล้าย Little Mermaid ของฝรั่งที่อยากได้ขา แทนหาง

นางฟ้ามัทนาล่วงเข้ามาในวิมานของสุเทษณ์เทพบุตรโดยไม่รู้ตัว สุเทษณ์เทพบุตรพยายามจะฝากรักมัทนา แต่มัทนามิรักตอบ จะอย่างไรๆก็ไม่ยอมรับรัก จนสุเทษณ์เทพบุตรกริ้วจัด สาปส่งให้นางลงไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ อยู่ในแดนมนุษย์ และจะกลับคืนเป็นคนได้ก็ต่อเมื่อวันเพ็ญ เพียง 1 วัน 1 คืนเท่านั้น แล้วจะกลับคืนเป็นกุหลาบดังเดิม แต่หากนางได้รักบุรุษใดแล้ว เมื่อนั้นจึงจะคงรูปมนุษย์อยู่ได้ และหากเมื่อใดที่นางมีทุกข์เพราะรัก ก็จงขอประทานโทษมายังพระองค์พระองค์จะยกโทษให้

สุดท้ายนางมีความรักจริงกับกษัตริย์ท้าวชัยเสนแต่กษัตริย์นั้นมีมเหสีอยู่แล้ว ชื่อนางจันทีพระมเหสีจัณฑีหึงหวงนางมัทนา ทั้งอิจฉาริษยาเป็นอันมาก ก็ทำอุบายใส่ร้ายนางมัทนาว่าเป็นชู้กับทหารเอกนางจึง โดนสั่งประหาร แต่นางหนีได้ นางจึงอธิษฐาน ให้สุเทษณ์เทพบุตรมาช่วยเหลือ แต่จนสุเทษณ์เทพบุตรเสด็จมา และเอ่ยปากจะช่วยให้คืนสวรรค์ สุเทษณ์เทพบุตรได้ขอความรักจากนางอีก แต่มัทนามิสามารถจะรักใครได้อีกแล้ว และปฏิเสธไป สุเทษณ์เทพบุตรกริ้วนัก จึงสาปนางให้เป็นกุหลาบไปตลอดชีวิต

เรื่องราวโดยย่อก็ประมาณนี้ การแสดงถูกทำให้สวยงามประดุจดั่งภาพฝัน โดยเฉพาะฉากที่ แปลงร่าง จากกุหลาบ เป็นนางมัทนา คนจีนหลายคนอ้าปากค้างไปเลย

และสุดท้ายในตอนจบนักแสดงทุกคนก็ออกมาเต้น ในเพลงสุดท้าย เพื่อขอบคุณ ผู้ชม และสุดท้ายก็เป็นบทถึงเนื้อถึงตัว นักแสดงจะไปถ่ายรูปคู่กับ ผู้มาเข้าชม ก็จะเป็นช่วงหารายได้พิเศษ ของทุกคนไม่ว่าจะเป็นการรับทิป การขายดอกกุหลาบและของขวัญต่างๆช่อดอกไม้ เพื่อมอบกับนักแสดง ไม่รู้ว่าผู้มาชมจะรู้หรือไม่ว่านักแสดงทุกคนไม่ว่า จะแสดงเป็น หญิงหรือชายเป็นผู้ชายทั้งหมด ในขณะที่เอกำลังนั่งมองตะลึงตะลานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

บนเวทีกำลังวุ่นวาย โซนทางเดินเปิดไฟแล้ว ในโซนของผู้ชม VIP ยังปิดไฟ

บนโซฟาข้างตัวก็รู้สึกถึงการยวบลง ชายร่างใหญ่ ในชุดสูทสีดำเข้ม ต่างหูเพชร เม็ดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางน่าจะราวๆครึ่งเซนติเมตร สะท้อนแสงวาบ ย่อตัวลงนั่งข้างเขา เอสะดุ้งเฮือก... เขายื่นมือยาวสอดไปด้านหลังตรงพนักโซฟาไม่ต่างอะไรจากกำลังโอบตัวเอไว้

น้องชื่อเอใช่ไหม อยากขึ้นไปยืนตรงนั้นไหมล่ะ เขาชี้มืออีกข้างหนึ่ง ไปที่สาวที่สวมชุดกุหลาบ

เอก็เพิ่งสังเกตว่า นั่นคือสาวผมทองที่เจอในตอนแรก เธอ แต่งตัวแล้วงดงาม โดดเด่นมาก ออร่าเปล่งประกาย ราวกับเป็นนางฟ้าบนสวรรค์

"พรุ่งนี้แต่งตัวสวยๆมานะ" เขาก้มลงมาพูดข้างหูเอ

ขนลุกชันขึ้นไปทั้งคอ.เอาไงดีเนี่ยยยยย.....