เธอวางแผนไว้ในใจแล้ว เสี่ยวถังต้องได้รับการช่วยเหลือ เธอจะใช้ตัวตนอื่นของตัวเองเพื่อช่วยหลังจากช่วยเหลือกลับมาก็ให้เธอกลับไปซ่อนในป่า สำหรับบัญชีขององค์รัชทายาทนั้น ต่อไปค่อย ๆ คิดกับเขา!หลิ่วเซิงเซิงก็แอบย่องออกจากจวนอ๋องชาง กระโดดข้ามกำแพงจวนและมาที่ถนนทันทีกำลังจะวิ่งไปเปลี่ยนชุด แต่ภายในไม่กี่ก้าว ก็เห็นหนานลั่วเฉินอยู่ข้างหน้าเธอสะดุ้ง ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ทำไมหนานลั่วเฉินยังไม่กลับไป?แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?"รู้ว่าเจ้าจะต้องแอบข้ามกำแพงมา เมื่อก่อนวิ่งออกมาจากที่นี่ทุกครั้งใช่ไหม?"มันเป็นถนนที่ห่างไกลมากในวันธรรมดาคนเดินถนนไม่มากนัก หนานลั่วเฉินยืนอยู่ไม่ไกลและมองดูเธออย่างสงบเธอกลืนน้ำลาย "เจ้ารู้ได้อย่างไร?""จวนอ๋องชางได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา มีทหารลับเฝ้าอยู่หลายแห่ง นอกจากทหารลับแล้ว สถานที่อื่น ๆ ก็ลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลา แต่ที่เจ้าอาศัยอยู่ไม่มีใคร เสด็จอาไม่เคยส่งใครมาปกป้องเจ้า ดังนั้นที่นั่นของเจ้าก็ไม่มีทหารลับ เจ้าอยากออกมาก็ง่ายมาก แต่ทางเดียวที่จะออกมาคือข้ามกำแพงนี้"หนานลั่วเฉินมองเธอด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นพูดต่อ "ข้าเดาไว้แล้วว่าเจ้า
เพื่อไม่ให้ถูกค้นพบ หนานลั่วเฉินจึงรีบออกจากรถม้า "เสด็จพี่มีสายตาที่เฉียบคม ข้าเพิ่งมาถึงก็สังเกตุเห็นแล้ว"องครักษ์เพียงนำเขาอย่างเชื่อฟัง ในขณะที่หนานลั่วเฉินติดตามเขาไปหาหนานเทียนด้วยใบหน้าที่สงบ"เสด็จพี่ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ทำไมท่านยังอยู่ที่นี่?"ตอนนี้หนานเทียนนั่งพิงเก้าอี้ตัวหนึ่งด้วยสีหน้าซีดเซียว สีหน้าน่าเกลียดมาก "วันนี้เกิดอะไรขึ้นในพระราชวัง เจ้าน่าจะได้ยินบ้างแล้วไม่ใช่เหรอ?"หนานลั่วเฉินถอนหายใจ "ข้าได้ยินมานิดหน่อย ตอนนี้ทุกคนกำลังพูดถึงท่านและเสด็จแม่ใส่ร้ายเสด็จอาหญิงว่าขโมยของ แน่นอนว่าข้าไม่เชื่อ คนเหล่านั้นกล้าพูดเรื่องไร้สาระโดยไม่มีหลักฐาน ฉีกปากของพวกเขาไม่ช้าก็เร็ว"หนานเทียนหรี่ตาลง "ข้ากำลังพูดถึงที่เสด็จอาลงมือกับข้า"หนานลั่วเฉินแสร้งทำเป็นประหลาดใจ "อะไรนะ เสด็จอาลงมือกับท่านเหรอ?""โอ้ ไม่อย่างนั้นเจ้าคิดว่าทำไมข้าถึงยังนั่งอยู่ล่ะ?"หนานเทียนพูดอย่างเศร้าโศก "ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของหมอหลวง เกรงว่าขาของข้าจะเสียไปแล้ว แล้วจะสามารถยืนขึ้นได้หลังจากพักผ่อนเหรอ สิบเข็มเต็ม เสด็จอาเกือบจะเอาชีวิตข้าไปแล้ว!"หนานลั่วเฉินรีบนั่ง
มือของหนานลั่วเฉินบีบเข้าไปในเนื้อ เขามองไปที่หนานเทียนด้วยสีหน้าเศร้าหมอง "แล้วยังไง?""แล้วยังไงอะไร? ตอนนี้เจ้าไม่ควรอธิบายว่าเจ้าไม่ได้สงสัยข้าเหรอ?"ในพระราชวังอันกว้างขวางมีเส้นทางที่ไม่มีคนสัญจรมากมาย ในขณะนี้พวกเขาบังเอิญผ่านถนนมืด บริเวณโดยรอบเงียบสงบ และไม่มีเสียงใด ๆ ยกเว้นพวกเขาองครักษ์ที่อยู่เบื้องหลังหนานเทียนล้อมหนานลั่วเฉินอย่างรวดเร็ว และน้ำเสียงของหนานเทียนก็ค่อย ๆ มืดมน"ข้าอยากรู้จริง ๆ เห็นได้ชัดว่าเจ้าถือว่าข้าเป็นพี่น้องที่ดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้าเริ่มสงสัยในตัวข้า?"เมื่อเห็นว่าตัวเองถูกล้อมรอบ หนานลั่วเฉินจึงเข้าใจว่าหนานเทียนไม่เชื่อตัวเองมานานแล้วเขาเยาะเย้ย "ดังนั้นตอนนี้เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร? จะลงมือกับข้าในวังเหรอ?""จะเป็นไปได้ยังไง เราไม่ได้คุยกันอยู่เหรอ?""หยุดพูดคำเสแสร้งพวกนี้ได้แล้ว ในเมื่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว สู้เจ้าบอกข้ามาตรง ๆ ดีกว่า เจ้าวางยาพิษข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?""ตามที่คาดไว้ เจ้ารู้มานานแล้ว"หนานเทียนเม้มริมฝีปาก "ใครบอกเจ้า?""ข้าถามว่าเจ้าวางยาพิษข้าตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้?""จะพูดว่าข้าวางยาพิ
แต่หลิ่วเซิงเซิงไม่ฟังเธอเลย หลังจากวางเธอไว้ข้าง ๆ แล้ว ก็รีบรุดไปข้างหน้าและต่อสู้กับองครักษ์อย่างรวดเร็วเข็มเงินในมือของเธอถูกโยนออกไปอย่างรวดเร็ว และพิษทุกชนิดก็ออกมาหมด และเธอก็ล้มองครักษ์โดยรอบทีละคนอย่างรวดเร็วใช่แล้ว ทุกคนจะรู้สึกว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงมาช่วยสาวใช้คนหนึ่ง!แต่หลิ่วเซิงเซิงไม่ใช่ทุกคน และเธอก็ไม่ใช่คนในยุคนี้เธอไม่เคยคิดเลยว่าเสี่ยวถังเป็นคนรับใช้ที่ต่ำต้อย ในโลกของเธอ ไม่มีใครสมควรตายเพื่อตัวเอง!เธอคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนดีแต่ใครทำคนนั้นต้องรับผิดชอบ เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือตัวเอง คนที่ตายก็ควรเป็นตัวเอง!เธอไม่อยากให้เสี่ยวถังตายแทนตัวเอง!ในไม่ช้าเธอก็กำจัดองครักษ์ส่วนใหญ่ออกไป พวกเขาทั้งหมดเป็นองครักษ์ธรรมดา หลิ่วเซิงเซิงสามารถกระโดดออกจากฝูงชนได้ด้วยวิชาตัวเบาและวิ่งหนีออกไปเลยก็ได้แต่เธอทำไม่ได้!ในเมื่อมาแล้ว เธอต้องพาเสี่ยวถังกลับบ้าน!แต่ไม่สามารถล้าช้าได้อีกต่อไป การเคลื่อนไหวนี้จะดึงดูดองครักษ์เพิ่มขึ้นในไม่ช้า เมื่อถึงเวลานั้นก็จะไม่สามารถวิ่งออกไปได้จริง ๆ ...แต่ถึงแม้ว่าองครักษ์เหล่านี้จะไม่มีทักษะการต่อสู้ แต่จำนวนคนได้บดขยี้หลิ่
หลิ่วเซิงเซิงพยักหน้า "ข้าเอง เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่พระสนมยังจำข้าได้ ตอนนี้ข้ากำลังประสบปัญหาบางอย่างและข้าอยากจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ข้าหวังว่าท่านจะเห็นแก่สิ่งที่ข้าเคยช่วยท่านไว้ก่อนหน้านี้...""นี่ปล้นคุกใช่ไหม?"จู่ ๆ สนมโหรวก็พูดขึ้น เมื่อมองดูเสี่ยวถังที่ปกคลุมไปด้วยเลือดที่อยู่ไม่ไกล เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความกลัวหลิ่วเซิงเซิงพูดอย่างประหม่า "พระสนมอย่าทรงกลัวเลย พวกเราไม่ทำร้ายท่านหรอก บางทีท่านอาจเดาได้ว่าเธอคือสาวใช้ส่วนตัวของพระชายาอ๋องชาง เธอถูกฮองเฮา ใส่ร้ายว่าขโมยตราประทับฟีนิกซ์ จะถูกตัดหัวพรุ่งนี้ ถ้าเธอตายไปแบบนี้ เรื่องที่ฮองเฮาใส่ร้ายเธอก็จะตายโดยไม่มีหลักฐาน..."ดวงตาของสนมโหรวกลอกไปมา ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างทันใดนั้นก็มีเสียงสาวใช้ออกมาจากนอกประตู "พระสนม ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าเพคะ?"จู่ ๆ หัวใจของหลิ่วเซิงเซิงก็พุ่งขึ้นถึงลำคอ และเธอก็มองไปที่สนมโหรวอย่างประหม่าเป็นเวลานาน สนมโหรวก็พูดว่า "ไม่มีอะไร ออกไปเถอะ""เจ้าค่า..."ขณะที่ข้างนอกประตูเริ่มเงียบลง หลิ่วเซิงเซิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดว่า "ขอบพระทัยพระสนมที่ช่วยชีวิตข้าไว้"สนมโหรว
หลิ่วเซิงเซิงเพียงยิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า "แค่ช่วยพันแผล ไม่ถือว่ามีทักษะทางการแพทย์"สนมโหรวเลิกคิ้ว "ข้าดูผิดไปเหรอ? ผู้หญิงคนนี้เกือบจะตายไปแล้ว ในเวลาเพียงครู่เดียว เธอสามารถพูดและหัวเราะได้ และอาจจะวิ่งกระโดดโลดเต้นได้เพียงครู่เดียว""เป็นแผลภายนอกทั้งนั้น แค่กินยาแก้อักเสบอาการก็จะดีขึ้น ตราบใดที่ความเจ็บปวดหยุดลงก็เป็นเรื่องปกติที่เธอจะวิ่งกระโดดได้ แต่เมื่อฤทธิ์ของยาแก้ปวดหมดลง เธอจะยังคงรู้สึกหดหู่อยู่"ด้วยเหตุนี้หลิ่วเซิงเซิงจึงพยุงเสี่ยวถัง "วันนี้ต้องขอบคุณพระสนมที่รับพวกข้าไว้ แต่ข้าอยู่ที่นี่นานไม่ได้ บุญคุณของพระสนม ได้แต่ตอบแทนครั้งหน้าแล้ว"สนมโหรวหรี่ตาลง "ข้างนอกเสียงดังมาก เดาว่าน่าจะเป็นคนที่มาตามจับพวกเจ้า ออกไปตอนนี้ เจ้าหนีออกจากวังไม่ได้หรอก""ข้ารู้""แล้วเจ้ายังจะไป?""แน่นอนว่าข้ารู้ว่าการอยู่ที่นี่ปลอดภัยที่สุด แต่นี่จำกัดอยู่แค่ว่าองค์รัชทายาทและฮองเฮาไม่ได้มา ถ้าพวกเขามา ถ้าพวกเขาพบ พระสนมก็จะโดนหางเร่ไปด้วย ข้าไม่ชอบรบกวนคนอื่นมากที่สุดในชีวิต ถ้าทำให้พระสนมเดือดร้อน ข้าจะเสียใจมาก"สนมโหรวมองเธอด้วยความชื่นชม "ในที่สุดข้าก็เข้าใจว่าทำไมอ๋องชางถ
หลังจากหยุดชั่วคราว สาวใช้กล่าวต่อว่า "ห้องเรื่องมีนางในอยู่แค่นั้น ถ้าพาออกไปคนหนึ่ง ตอนหลังไม่พาคนกลับมา มักจะทำให้คนสงสัย เรื่องนี้เสี่ยงเกินไป..."สนมโหรวถอดผ้าคลุมออกเบา ๆ "ถึงตอนนั้นเธอกลับมาคนเดียว ก็บอกไปว่านางในคนนั้นถูกรอบทำร้ายก็พอแล้ว""แต่ถ้าอย่างนั้น วังหลวงมีนางในเพิ่มมาคนหนึ่ง ก็จะอธิบายไม่ได้...""อธิบายเกี่ยวกับนางในมันยังไมง่ายอีกเหรอ?""ข้าน้อยเข้าใจแล้ว...""..."หนานเทียนกำลังจะบ้าเพราะเขาไม่สามารถจับฆาตกรได้"แต่ล่ะคนร้ายพอพอกัน! ไร้ยางอายพอพอกัน! ข้าคิดว่าวางแผนมาดีมาก แต่ตอนนี้ข้ากำลังถูกผู้หญิงป่าเถื่อนหลอก น่าโมโหจริง ๆ!"องครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ ก้มศีรษะลงและไม่กล้าพูดอะไรสักคำหนานเทียนกำหมัดแน่น "ผิดพลาดตรงไหนกันแน่? ทำไมไอ้โง่นั่นถึงรู้ว่าข้าวางยาพิษเขา? ทำไมพวกเขาถึงหนีจากแผนการของข้าได้? มีคนมากมายในวังหลวง ทำไมแม้แต่หญิงตัวเล็ก ๆ ก็จับไม่ได้? พวกเจ้าทำอะไรกินกัน""มีเรื่องอะไรถึงโมโหขนาดนี้?"ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาในหู หนานเทียนสะดุ้งและทำความเคารพไปในทิศทางนั้นทันที "เสด็จแม่"เห็นแต่หลิวฟางเดินเข้ามาหาเขาทีละก้าว "ก็แค่สาวใช้ที่ถูกล
ผู้หญิงที่ถูกจับดิ้นรนเป็นครั้งคราวและไม่มีใครสงสัยดูเหมือนว่าหนานลั่วเฉินจะคิดจริง ๆ ว่าคนที่ถูกจับได้คือหลิ่วเซิงเซิง และเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะนี้ "เจ้าอย่ามาใส่ร้ายคนอื่นที่นี่! ข้าแค่ให้เจ้าเปิดเผยหน้าของนักฆ่า ก็ถือว่าเป็นพวกเดียวกันกับนักฆ่าเหรอ? งั้นพวกเดียวกับนักฆ่าก็เยอะมาก!"เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา หนานเทียนก็จ่อมีดไปที่คอของผู้หญิงคนนั้นโดยตรง"ถ้าเจ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน ทำไมตอนนี้เจ้าถึงตื่นเต้นขนาดนี้?"เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะลงมือ หนานลั่วเฉินก็รีบวิ่งเข้าไป แต่ถูกองครักษ์ด้านข้างจับไว้อย่างแน่นหนา!เขาผลักองครักษ์ทั้งสองออกไปด้วยความโกรธ และพูดอย่างโกรธ ๆ "หยุด!"หนานเทียนหัวเราะเยาะ "ทำไม? เจ้าอยากจะขอร้องให้นักฆ่าเหรอ?""ข้าไม่อยากให้เจ้าฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ! เจ้าบอกว่าเธอเป็นนักฆ่า ก่อนอื่นเจ้าต้องแสดงหลักฐานใช่ไหม? อย่างที่สอง แม้ว่าเธอจะเป็นนักฆ่าจริง ๆ ก็ต้องมอบให้เสด็จพ่อเป็นคนจัดการ จะสามาถ...""เสด็จพ่อยังอยู่ในศาล เขาจะมีเวลาจัดการกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างไร? ข้าว่าน้องสองเจ้าแสดงให้เห็นชัดเจนเกินไปแล้ว ทำไมไม่ยอมรับโดยตรงล่ะ ด้วยวิธ