แชร์

พรสามประการของเทพจิ้งจอก
พรสามประการของเทพจิ้งจอก
ผู้แต่ง: ฝากรักไว้ที่ปลายฟ้า

1.เทพจิ้งจอก

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-16 12:04:05

เราพบเจอกันโดยบังเอิญ เขายื่นมือที่ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนมาอุ้มจิ้งจอกหิมะที่ถูกนายพรานยิงจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์อยู่ที่ขาหลัง

ในครานั้นหนิงหลงคิดเพียงแค่ว่าในใจของเขารู้สึกสงสารและต้องการช่วยจิ้งจอกน้อย

ไฉนเลยจะคิดว่าจิ้งจอกในอ้อมแขนจะกลายร่างเป็นสาวงามขึ้นมาได้

"ร้องขอสิ่งที่ท่านต้องการมาสิ ไม่ว่าจะเป็นแก้วแหวนหรือว่าเงินทองข้าล้วนแล้วแต่มอบให้ท่านได้ทุกอย่าง"

คนเช่นหนิงหลง เขามิได้สนใจเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว เขามีเจตนาช่วยเหลือมิคิดอยากจะได้สิ่งของใดๆเป็นการตอบแทนการลงแรงในครั้งนี้ อีกทั้งนางกล่าวว่าตัวเองนั้นเป็นเทพเซียน...

เป็นเทพหรือว่าปีศาจเขาก็มิอาจรู้ได้ ทางที่ดีที่สุดเขาควรจะหนีห่างจากนางให้ไกลที่สุดเพื่อความปลอดภัยของชีวิตเขา

นี่เป็นครั้งแรก...ครั้งแรกที่มีคนกล้าเมินเฉยต่อใบหน้าที่แสนงดงามของเยว่เล่อ ดวงหน้าที่งดงามจับสายตานี้ไม่ว่ามองผู้ใด บุรุษเหล่านั้นคร้านจะทำตามที่นางต้องการทุกสิ่งอย่าง

แล้วเจ้ามนุษย์ซื่อบื้อนี่คืออันใดกัน กล้าเมินเฉยต่อนางอย่างนั้นหรือ?

เพราะความเคยชินกับการได้ดั่งใจ ในใจของเยว่เล่อมีความไม่พอใจต่อท่าทางเมินเฉยของหนิงหลงอยู่หลายส่วน

"หากว่าไม่สนใจสิ่งของนอกกายพวกนั้น..เช่นนั้นตัวข้าเล่า ข้าจะยินยอมนอนกับท่านสักครั้งเพื่อแทนคุณการช่วยเหลือในครั้งนี้..."

เมื่อเอ่ยข้อเสนอเช่นนี้ออกไปแล้ว แน่นอนว่าเหล่าบุรุษย่อมไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธ ริมฝีปากบางหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

หนิงหลงมองใบหน้าของเทพจิ้งจอกด้วยหางตา ก่อนที่เขาจะเดินจากไปโดยมิได้กล่าวคำใด และการเดินจากไปโดยมิกล่าวคำใดออกมาของเขานั้นมันทำให้เยว่เล่อเสียหน้ามากทีเดียว!!

เพราะมันคือการปฏิเสธที่ชัดเจนมากที่สุด!

อย่าให้มีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งนะ เพราะว่าเธอจะจับเขากินไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูกเลย!!

.

.

.

.

.

เป็นกำลังใจให้หนิงหลงผู้น่าสงสารด้วยน้าาา

อกหักจากการหลงรักฟางหรงไปแล้ว ครั้งนี้พ่อหนุ่มผู้แสนดีจะสมหวังกับจิ้งจอกสาวแสนเจ้าเล่ห์รึเปล่ามาเอาใจช่วยกันนะคะ

ฝากกดหัวใจ กดเข้าชั้น กดติดตามเพื่อเป็นกำลังให้ด้วยน้าาา

ฝากเรื่องน้องฟางหรงด้วยนะคะ

.................................

ทิวทัศน์ป่าเขา นั่นเป็นสิ่งที่เห็นมาจนชินชาในสายตา การอาศัยอยู่ในป่าเขาเช่นนี้มิใช่วิสัยของจิ้งจอกหิมะอย่างเย่วเล่อแม้แต่น้อย

ดวงหน้างดงามฉายแววเศร้าสร้อย นางยกจอกสุราขึ้นมาดื่มอึกแล้วอึกเล่า ก่อนจะปรายตามองไปยังเมืองติดชายแดนที่แสนวุ่นวาย

"...อย่าได้คิดจะหนีเย่วเล่อ เจ้าคงไม่อยากถูกท่านเทพบรรพกาลล่ามโซ่ที่ขาเอาไว้หรอกใช่หรือไม่?"

รอยยิ้มหยักขึ้นมาราวกับนางกำลังสมเพชตนเอง เย่วเล่อลอบมองหน้าสหายรักด้วยใบหน้าที่มิได้สนใจคำขู่นั้นแม้แต่น้อย

"ลี่ถิง เจ้ารู้ดีว่าข้านั้นหมายมั่นจะหนีออกไปจากที่นี่มากแค่ไหน แล้วเหตุใดใจของเจ้าจึงได้ไร้เมตตาต่อสหายอย่างข้าเช่นนี้"

ความรักนั้นเป็นดาบสองคมที่พร้อมจะเชือดเฉือนจิตใจและให้ความสุขแสนงดงามหวานล้ำไปพร้อมๆกัน ที่สหายรักมีสภาพเช่นนี้ลี่ถิงรู้ดีว่ามันเป็นเพราะเหตุใด

เย่วเล่อคือจิ้งจอกหิมะที่มีขนเงางามราวเส้นไหม นางบำเพ็ญเพียรมาหลายร้อยปีกว่าจะได้ร่างเซียนที่แสนสะกดสายตานี้มา

ความงามล้ำเลิศที่ยากต่อการละสายตาของเทพจิ้งจอกเย่วเล่อ

จิ้งจอกหิมะตัวน้อยบำเพ็ญเพียรภายใต้ความเมตตาของท่านเทพบรรพกาลที่ปลีกวิเวกมาอาศัยที่ป่าแห่งนี้เป็นการชั่วคราว ความรักที่เกินเลยระหว่างจิ้งจอกน้อยที่ไร้เดียงสากับท่านเทพบรรพกาลผู้สูงศักดิ์

ลี่ถิงพยายามตักเตือนเย่วเล่อหลายรอบกับความรักที่เกินเอื้อมมือนี้ แต่ทว่านางก็ยังคงปักใจกับความรักครั้งแรกไม่มีท่าทีว่าจะเสื่อมคลาย

แน่นอนว่าความรักนี้มันอัดแน่นจนล้นใจของเย่วเล่อ แต่ทว่านางก็มิได้กล่าวหรือว่าแสดงท่าทีที่อยู่ในใจออกไปให้ท่านเทพบรรพกาลได้รับรู้ เย่วเล่อยังคงเป็นจิ้งจอกหิมะตัวน้อยที่แสนน่ารักของท่านเทพบรรพกาลอยู่เสมอ

แต่ทว่าความรักนั้นเดินมาจนถึงทางตัน เมื่อท่านเทพบรรพกาลต้องแต่งงานกับเทพีจันทรางานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่สะเทือนไปถึงสี่ทะเลแปดดินแดนเช่นนี้มีแต่ผู้คนมากมายมาร่วมยินดี

ยกเว้นเย่วเล่อที่ปลีกวิเวกมาอยู่ผู้เดียว...

สุราเหล่านี้คือคำปลอบใจ เสียงนกร้องคือเสียงเพลงปลอบประโลมหัวใจที่แตกสลาย เสียงสายลมที่พัดผ่านคือเสียงพิณขับกล่อมความเศร้าโศกที่อยู่ในใจ

ยังมิทันได้เอื้อนเอ่ยความในใจออกไป ก็ต้องรับความผิดหวังและพ่ายแพ้ไปเสียแล้ว มิมีผู้ใดจะเก็บงำความปวดร้าวนี้เอาไว้ได้

มีเพียงต้องดื่มให้หลับไปเท่านั้น ตื่นมาจึงจะรู้สึกดีขึ้น

"ข้าจะร่ำสุราเป็นเพื่อนเจ้าเอง"

เย่วเล่อซบใบหน้าของนางลงบนหัวเข่า วันนี้คงจะดีขึ้นกว่าเดิมหน่อยเพราะไม่มีน้ำตาไหลลงมาอีกแล้ว แต่ทว่าความเจ็บปวดยังไม่จางหายไปเสียที

"ข้า..ไม่อาจทำใจอยู่ที่นี่ได้ลี่ถิง ข้ามิรู้ว่าจะต้องทำหน้าเช่นไรเมื่อท่านอาจารย์กลับมาพร้อมกับเทพีจันทรา มีแต่ต้องหนีไปจากที่นี่เท่านั้น..."

"...."

ลี่ถิงก้มหน้าลง ก่อนที่นางจะยกจอกสุราขึ้นมากรอกใส่ปาก

"ข้าได้รับมอบหมายจากท่านเทพให้มาเฝ้าเพื่อไม่ให้เจ้าหนีไป ท่านเทพย่อมรู้ว่าใจเจ้าคิดการเช่นไรแต่เย่วเล่อ ป่าด้านนอกมันมิได้มีความปลอดภัย ถึงแม้อายุของเจ้าจะอยู่มาหลายร้อยปีแต่ทว่าเจ้ายังไม่เคยพบเจอมนุษย์มาก่อนเลย..."

"ในยามนี้ ไม่ว่าที่ไหน ก็ล้วนแล้วแต่ดีกว่าที่นี่ทั้งนั้น"

ต้องมองท่านอาจารย์รักกับเทพีจันทราผู้เหมาะสมและคู่ควร ให้เธอควักลูกตาทั้งสองออกมาเสียยังจะเป็นการดีกว่า ไม่ว่าอย่างไรต้องอาศัยช่วยเวลานี้

หนีออกไปจากที่นี่ให้ได้

ในเมื่อไร้วาสนา เช่นนั้นข้าก็มิขอเกี่ยวพันด้วยอีกแล้ว

สายใยรักจะขาดสะบั้นลง หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่สายใยลูกศิษย์และอาจารย์เท่านั้นพอ...

"ตุบ!"

ลี่ถิงฟุบลงกับโต๊ะ นั่นทำให้ใบหน้าที่เศร้ามาหลายวันของเย่วเล่อแย้มยิ้มขึ้นมา

ขอโทษนะลี่ถิง สักวันหนึ่งเมื่อหัวใจของข้าเข้มแข็งดีแล้ว ข้าจะกลับมาเพื่อไถ่โทษเรื่องที่ข้ากระทำในวันนี้นะ

จิ้งจอกหิมะกระโดดลงไปยังภูเขาเบื้องล่างที่มิใช่หุบเขาเทพเซียน การเป็นจิ้งจอกน่าจะเหมาะสมกับการวิ่งอยู่ในป่ามากกว่าการใช้ร่างเซียน

เย่วเล่อพึ่งได้สัมผัสกับความอิสระเป็นครั้งแรก สายลมที่ปะทะใบหน้าทำให้ลืมเลือนความเจ็บปวดไปจนหมดสิ้น หยาดน้ำตาปลิวหายไปตามสายลม ผสมปนเปกับหยาดน้ำฝนที่โปรยปรายลงมา

ข้ามิได้หนีปัญหา เพียงแต่หนีออกมาเพื่อขอเวลาในการทำใจ

คงจะมีสักวันที่หัวใจของข้า สามารถยินดีกับความรักของอาจารย์ได้อย่างจริงใจ คงจะมีสักวันที่ข้าสามารถตัดใจจากท่านอาจารย์ได้อย่างแท้จริง

......

"...เป็นความผิดของข้าเองเจ้าค่ะ ข้าไม่อาจรั้งนางเอาไว้ได้"

มู่หยางยังอยู่ในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ เขานั่งอยู่ที่ตำหนักสวรรค์ ใบหน้าปานรูปสลักนั้นมิได้แสดงท่าทีใดๆเมื่อลี่ถิงกล่าวจบ แต่ทว่าดวงตาที่เย็นชานั่นฉายแววเจ็บปวดขึ้นมา

ไม่อาจเหนี่ยวรั้งนางเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดมีเพียงต้องทำใจ ปล่อยนางไปเท่านั้นเอง

"ได้เวลาแล้วขอรับท่านเทพมู่หยาง..."

"มิรู้ว่าที่เป็นเช่นนี้ เพราะเจ้าเขียนโชคชะตาของข้าเอาไว้อย่างนั้นหรือซือมิ่ง"

เทพซือมิ่งถึงกับรีบคุกเข่าลงกับพื้น

"หามิได้ ข้ามีหน้าที่เพียงแค่ลิขิตโชคชะตาของมนุษย์ ไม่อาจหาญไปยุ่งเกี่ยวกับชะตาลิขิตของท่านเทพบรรพกาลหรอกขอรับ ซื่อมิ่งผู้นี้มิกล้า"

"เช่นนั้นโชคชะตาของข้า ข้าก็สามารถลิขิตเองได้อย่างนั้นสินะ"

......

"ได้โปรดเถอะขอรับ ท่านแม่สื่อก็ล่วงรู้ว่าหัวใจของข้ามีเพียงแม่นางอ้ายฉิงเท่านั้น ของหมั้นและสินสอดพวกนี้ข้านำมันมามอบให้เพื่อแสดงความรักที่จริงใจ..."

แม่สื่อถึงกับยกมือขึ้นมาเพื่อกุมขมับ ของหมั้นมากมายที่เหล่าชายหนุ่มในเมืองส่งมาเพื่อให้เธอนำมันไปมอบให้กับอ้ายฉิง

เถ้าแก่เนี้ยโรงเตี๊ยมซูฮวาที่กำลังเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทุกคนในเมืองนี้ สตรีผู้นั้นมีใบหน้างดงามราวกับรูปปั้นที่บรรจงปั้นแต่งขึ้นมาด้วยฝีมือของเทพเซียน เพราะมนุษย์ไม่มีทางที่จะสามารถสร้างผลงานที่วิจิตรเช่นนั้นขึ้นมาได้

นางงดงามและชื่นชอบการสวมชุดสีสันฉูดฉาดเพื่อให้ตัดกับผิวสีขาวผ่อง...

"อาเหยา เถ้าแก่เนี้ยอยู่รึเปล่า?"

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่แม่สื่อต้องมาที่นี่ แต่โชคดีหน่อยที่นางได้รับการต้อนรับที่ดีจากเถ้าแก่เนี้ยทุกครั้งที่มาเยือน

"อยู่ขอรับแม่สื่อ ข้าน้อยจะไปรายงานเถ้าแก่เนี้ยให้นะ เชิญนั่งรอสักครู่"

หวีไม้ถูกยกขึ้นมาหวีลงไปผมเส้นผมที่นุ่มลื่นราวกับเส้นไหม ในกระจกสะท้อนดวงหน้าที่ยังคงความงดงามถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปยาวนาน

นานมากจนเย่วเล่อจำไม่ได้ว่านางมาอยู่ที่นี่นานเท่าใด รู้เพียงแต่ว่านางแต่งงานนับครั้งไม่ถ้วนพร้อมกับเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ

ใบหน้านี้ไม่มีทางแก่ชรานั่นทำให้มันเป็นปัญหามากทีเดียวกับการใช้ชีวิต

ความเจ็บปวดในใจเริ่มทุเลาลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ช่วยเยียวยานั่นคงจะเป็นบรรดาเหล่าบุรุษรูปงามพวกนั้น

"เถ้าแก่เนี้ย แม่สื่อมาขอพบขอรับ"

ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มขึ้นมาพร้อมกับนิ้วมือเรียวยาวที่คว้าชุดสีแดงสดขึ้นมาสวม มาดูกันเถอะว่า..สามีของเธอในครั้งนี้จะเป็นชายหนุ่มประเภทใดกัน?

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   2.ความรู้สึกที่เกินเลย

    อาเหยาวางถ้วยน้ำชาเอาไปเบื้องหน้าของหญิงวัยกลางคน แม่สื่อผู้นี้มาที่โรงเตี๊ยมหลายรอบมากทีเดียว เรื่องนั้นเขาพอที่จะทำความเข้าใจได้ เพราะเถ้าแก่เนี้ยนั้น..งดงามมากจริงๆคราแรกที่พบกัน กว่าเขาจะควานหาสติของตัวเองพบเจอก็ปาเข้าไปพักใหญ่ ความงดงามที่มิได้มีอยู่บนใบหน้าของมนุษย์..ความงดงามของเทพจิ้งจอก"คราวนี้เป็นคุณชายตระกูลหยวนเจ้าค่ะ เป็นบัณฑิตที่พึ่งจบการศึกษามาอนาคตดีเพราะกำลังจะเข้าสอบเป็นขุนนางในราชสำนัก ใบหน้านั้นดูหล่อเหลาเข้าที แถมบิดามารดายังไม่มีกฎระเบียบมากมาย ทั้งสองท่านยินดีรับเถ้าแก่เนี้ยไปเป็นลูกสะใภ้เจ้าค่ะ"ผมยาวสลวยราวกับเส้นไหมนั่นสลายลงมาพร้อมกับใบหน้างดงามที่กำลังเปิดกระดาษวาดภาพบุรุษพวกนั้นดู เรื่องครอบครัวหรือว่าเรื่องการเงินเรื่องนั้นเธอมิได้สนใจทั้งสิ้น แค่ดูว่าบุรุษผู้นั้นงดงามหรือว่า..หล่อเหลารึเปล่าก็เท่านั้นคนที่จะนอนด้วย...ก็ต้องเลือกมากเสียหน่อย"ตัวข้านั้นเป็นเพียงหญิงหม้าย น่าละอายเกินกว่าจะแต่งงานเข้าจวนของผู้ใด เรื่องนี้ข้าเคยบอกกล่าวกับแม่สื่อไปแล้ว ว่าข้ามิแต่งงานเข้าจวนชายใด แต่เหล่าบุรุษพวกนั้นจะต้องแต่งงานแล้วมาอยู่ที่นี่แทน"ในครั้งแรกที่เย่วเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   3.แทนคุณ

    วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกโปรยปรายลงมา ในมือของเย่วเล่อถือร่มกระดาษอยู่พร้อมกับใบหน้าที่ว่างเปล่า เป็นอีกครั้งที่เธอพาตัวเองมายังป่าชายแดนโดยไม่รู้ตัว ขาพลันหยุดก้าวเดินเมื่อเธอเดินมาถึงเขตรอยต่อของป่าเทพเซียน...ใบหน้าของชูชาง เขากลับมีรอยยิ้มทั้งที่เธอกล่าวปฏิเสธออกไป เรื่องนั้นเย่วเลอไม่อาจทำใจให้ยอมรับได้ เธอทั้งสงสัยและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกันหรือการกล่าวความรู้สึกที่แท้จริงออกไป มันจะทำให้เธอรู้สึกดีกว่านี้กันนะ ดีกว่าที่จะต้องทนเก็บงำความรู้สึกแบบนี้เอาไว้อย่างนั้นหรือ?ไวกว่าความคิดร่มกระดาษก็ร่วงลงสู้พื้นดินที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ใบหน้าของสาวงามแปรเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกสีขาว ที่กำลังจะก้าวเดินไปยังป่าเทพเซียนครั้งนี้เธอจะไม่หนีอีกแล้ว จะไปหาท่านอาจารย์เพื่อบอกกล่าวความรู้สึกที่ค้างคาใจมานาน ไปฟังคำปฏิเสธที่หนักแน่นของเขา บางทีความเจ็บปวดในใจดวงนี้อาจจะรู้สึกดีขึ้นมาก็เป็นได้"ฟิ้ว!!""ดูซิว่าวันนี้เราเจอตัวอะไร? จิ้งจอกหิมะล่ะ พวกเรารีบออกล่ากันเถอะ!!"ไม่บ่อยนักที่เย่วเล่อจะได้พบเจอนายพราน เพราะไม่อาจกลายร่างเป็นหญิงสาวต่อหน้านายพรานพวกนั้นได้ เธอจึงทำได้เพียงแค่ใช้ร่างจิ้งจอกในก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   4.เข้าใจผิด

    สิ่งที่หนิงหลงลืมคิดไปคือ...สตรีตรงหน้านางมิใช่มนุษย์ เขาไม่แน่ใจว่าคือปีศาจหรือว่าเทพ แต่ทว่าการนำพานางกลับมาที่ค่ายทหารนั้นคือความคิดที่เรียกได้ว่ามันคือความผิดพลาดสุดๆไปเลย"ข้าต้องการ...อ้อมกอดอุ่นๆเพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บพวกนี้"อย่างแรกคือ...นางเป็นเช่นนี้ตลอดเวลา นางพยายามเข้าหาเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อจะกระทำเรื่องอย่างว่าเย่วเล่อยกยิ้ม เธอนอนอยู่บนเตียงที่มีแต่กลิ่นของเขาเต็มไปหมด ส่วนชายซื่อบื้อผู้นั้นกำลังนั่งอ่านม้วนตำราอยู่ในห้อง ที่ด้านนอกฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ทำให้อากาศเริ่มหนาวเย็นมากขึ้นน่าแปลก.. ความสบายใจที่อยู่ใกล้ชิดเขานี้มันคืออะไรกัน ราวกับว่าตัวเธอนั้นจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา สายตาที่เขามองมายังคงเย็นชาเช่นเดิม แต่ทว่าความใจดีของเขามันมาจากการกระทำที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ของเขาเธอสวมชุดของเขาอยู่ แน่นอนว่ามันหลวมมากแต่ทว่าเย่วเล่อรู้สึกชอบมันมากทีเดียว "มี..บ้านรึเปล่า? หรือว่าอาศัยอยู่ในป่า"อ่า...นี่เขาคิดว่าเธอเป็นจิ้งจอกจริงๆหรืออย่างไร ถึงจะได้กินนอนอยู่ในป่านั่น"มีบ้าน แต่ข้าไม่อยากกลับ อยากอยู่ที่นี่มากกว่า"หนิงหลงมองไปยังสตรีที่กำลังนอนอยู่บนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   5.มิไยดี

    "อาเหยาเอาสุรามาให้ข้าสักไหสิ"ฝนตกลงมาอย่างยาวนานหลายวัน แต่ทว่าที่โรงเตี๊ยมซูฮวานั้นยังเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แน่นอนว่าเรื่องการจัดการทุกอย่างภายในร้าน มันคือหน้าที่ของอาเหยาเขาคือปีศาจงูที่เธอบังเอิญช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน อาเหยาก็เลยนับว่านั่นคือบุญคุณเขาจึงอุทิศตัวทำงานและดูแลเธอไปในเวลาเดียวกัน"อย่าดื่มมากนักนะขอรับ เถ้าแก่เนี้ยช่วงนี้ดื่มมากเกินไปแล้วนี่จะเป็นไหสุดท้ายของวันนี้ที่ข้าน้อยจะยินยอมให้ท่านดื่มสุราพวกนี้เข้าไป"เจ้าปีศาจงูนี่ขี้บ่นมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะยกไหสุราขึ้นมาดื่ม นานเท่าไหร่แล้วที่สุราพวกนี้มันไม่สามารถทำให้เธอเมาได้ จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เมาคือเธอดื่มมันมาก..จนเผลอหลับไปคากองไหสุราดื่มให้ลืมเลือนความเศร้า ดื่มเพื่อให้ความเจ็บปวดในใจคลายลงเย่วเล่อทิ้งตัวลงบนพื้น ที่นี่คือห้องพักของเธอ เป็นห้องที่ติดกับแม่น้ำที่ยาวไกลจนสุดลูกหูลูกตา เธอชื่นชอบที่นี่มากจึงทำงานตั้งหลายปีกว่าที่จะสามารถซื้อที่ดินตรงนี้ได้จุดประสงค์ของการเปิดโรงเตี๊ยมนั่นคือเธออยากพบเจอผู้คนมากมาย แต่ทว่าก็มิได้อยากรู้จักจนถึงขนาดที่ว่าจะผูกพันอะไร เพราะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   6.เลือกแล้ว

    แน่นอนว่าเมื่อเธอกล่าวจบ ทั้งโต๊ะก็พลันเงียบลงในทันทีไม่ใช่เรื่องง่ายที่เถ้าแก่เนี้ยคนงามจะออกปากกล่าวเชิญชวนบุรุษก่อน ใครๆก็รู้ว่าแม่สื่อมาที่นี่แทบทุกวันเพื่อมาสู่ขอเถ้าแก่เนี้ยให้กับบรรดาคุณชายในตระกูลต่างๆ และแน่นอนแม่สื่อทุกนางต่างถูกปฏิเสธเถ้าแก่เนี้ยผู้งดงาม เอ่ยปากชวนท่านแม่ทัพหนิงไปร่ำสุรา..เป็นการส่วนตัวเนี่ยนะ!!ราวกับว่าหนิงหลงพอจะเดาได้ ว่าผู้คนในร้านกำลังคิดเช่นไร เขาก้มหน้าลงไปเพื่อกระซิบที่ข้างหูของเย่วเล่ออย่างแผ่วเบา"...ไม่มีทาง"ความใจแข็งของเจ้าทึ่มคนนี้ ไม่มีสิ่งใดเกินเลยจริงๆ แต่ทว่าเธอกลืนกินวิญญาณของเขามาบางส่วนแล้ว คงจะมีแต่ต้องใช้ไม้แข็งกับเขาเสียแล้ว"เช่นนั้นก็ได้แต่รอวันที่ท่านแม่ทัพ จะให้โอกาสข้านะเจ้าคะ"เธอกล่าวขึ้นมาก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อกล่าวอำลา เย่วเล่อลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปทักทายแขกโต๊ะต่างๆด้วยใบหน้าที่ระบายไปด้วยรอยยิ้ม"อ่า..ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะเชิญท่านแม่ทัพไปร่ำสุรานะขอรับ เช่นนั้นข้าจะไปจัดหาวันว่าง...""ใครบอกเจ้าว่าข้าจะไป อาหารที่นี่เลิศรสยิ่ง เอาไว้เจ้ามาซื้อไปให้ข้าทานที่ค่ายทหารบ่อยๆก็แล้วกัน หากไม่มีธุระจำเป็นจริงๆข้าจะไม่มีทางมาท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   7.จิตวิญญานเซียน

    ฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ท้องฟ้าในยามค่ำคืนนั้นมืดสนิท อากาศก็เริ่มหนาวเย็นจนเย่วเล่อคิดว่าเธออาจจะป่วยไข้ได้ถ้าหากไปรีบถอดชุดที่เปียกชื้นนี้ออกไปโดยเร็วแต่ทว่าหนิงหลง กับกำลังอยู่ระหว่างทางแยกในการตัดสินใจ เพราะเขาไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับสตรีตรงหน้าไปมากกว่านี้ แต่ทว่าหัวใจกับเต้นแรงจนห้ามไม่อยู่ มันคือความตื่นเต้นและเร้าใจอย่างบอกไม่ถูกเลย สายตาของเขามันไม่สามารถมองสิ่งอื่นใดได้เลย นอกจากใบหน้าของเธอ"เจ้าดูหวาดกลัว...""มีเรื่องมากมายให้ข้าต้องหวาดหวั่นเพราะว่าท่านมิใช่มนุษย์.."และเพราะความสวยงามที่ทำเอาเขาอดประหม่ามิได้เย่วเล่อหัวเราะก่อนที่เธอจะดึงสายคาดเอวของตัวเองออก ท่ามกลางค่ำคืนที่ได้ยินเพียงเสียงฝนตกและ..เสียงของลมหายใจเธอกำลังพยายามอย่างยิ่งในการใช้เสน่ห์ที่มีล่อลวงชายเบื้องหน้า..เย่วเล่อยกมือขึ้นมากุมใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเอาไว้ ในขณะที่ร่างกายของเธอมีเพียงตู้โตวสีแดงเท่านั้น..."ข้ามิได้คิดจะทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อย...ไม่เคยคิดทำร้ายเลยหนิงหลง มิมีสิ่งใดต้องเป็นกังวลในเมื่อนี่คือความปรารถนาของเจ้าเช่นกัน"เธอยกมือขึ้นมาดึงสายคาดเอวของเขาออกช้าๆ ผิวกายของเขาเย็นเฉี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   8.หวั่นไหว

    หนิงหลงลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเย่วเล่อที่ยังคงนอนหลับอยู่... แม้แต่ยามที่นางหลับเช่นนี้ก็ยังคงน่าหลงใหล เมื่อคืนกว่าเราจะได้นอนกันก็เกือบรุ่งสาง แน่นอนว่ามันคือการนอนเฉยๆไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการจุมพิตนับร้อยครั้งเห็นจะได้ความหวั่นไหวก่อตัวขึ้นมาในใจ ท่ามกลางเสียงที่เด่นชัดของสายลมและเสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินมา...ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับอาเหยาที่นำเสื้อผ้าของแม่ทัพหนิงมาให้"จะรับอาหารเช้าเลยไหมขอรับท่านแม่ทัพหนิง"หนิงหลงมองที่อาเหยาด้วยแววตาที่แปลกไปเล็กน้อย เพราะว่าเขามองเห็น..ดวงตาที่ราวกับไม่ใช่มนุษย์ของอาเหยา หมายความว่าชายผู้นี้เป็นปีศาจอย่างนั้นหรือ?อาเหยาชะงักเล็กน้อยเพราะรอบๆตัวของแม่ทัพกลับมีพลังปราณเซียนล้อมรอบเอาไว้ และมันคือพลังปราณที่คุ้นเคยอย่างพลังของเถ้าแก่เนี้ย"อืม ข้าจะทานที่นี่เลย""เช่นนั้นท่านแม่ทัพโปรดรอสักครู่"เย่วเล่อลืมตาขึ้นมาเพราะเธอได้ยินเสียงพูดคุยในห้อง อาเหยาคงเข้ามาแล้วเป็นแน่ เจ้างูขี้บ่นตัวนั้นคงจะล่วงรู้แล้วว่าเธอสูญเสียพลังปราณในตัวให้หนิงหลงแล้ว"ตื่นแล้วหรือ?"เธอยกมือขึ้นมาบีบแก้มของเขาแรงๆก่อนจะลุกขึ้น เย่วเล่อโน้มใบหน้าของเขาลงมาก่อนที่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   9.แต่งงาน

    น่าแปลกที่วันนี้ฝนไม่ตก ทั้งที่เมื่อวานตกหนักมากมายขนาดนั้น เย่วเล่อถือพัดลายดอกมู่ตานสีชมพูเอาไว้ในมือ ริมฝีปากบางหยักยิ้มขึ้นมาส่งให้จุนเฟิงที่นั่งอยู่บนรถม้าร่วมกันกับเธอเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับทำท่าทีเขินอายมาสักพักแล้ว ราวกับว่าเขาคิดว่าเธอและหนิงหลงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน"อันที่จริง วันนี้ข้ามีธุระกับท่านแม่ทัพนิดหน่อยเท่านั้นเอง...การมาพบกันครั้งนี้มิได้..มีเรื่องที่เกินเลย..""สายตาของข้ามิได้มองเถ้าแก่เนี้ยเช่นนั้นเลยขอรับ ข้าน้อยเพียงยินดีที่ท่านแม่ทัพหนิงยอมเปิดใจรับสตรีสักนางเข้ามาในหัวใจอันบอบช้ำของท่าน..."หมายความว่ายังไงกันนะ หนิงหลงพึ่งถูกทิ้งมาอย่างนั้นหรือ?"อ่า..เรื่องนั้น..""ท่านแม่ทัพหนิงพึ่งถูกทิ้งมาขอรับ น่าเห็นใจมากนะ ทั้งที่ตระกูลหนิงส่งของหมั้นไปแล้วแท้ๆแต่กลับยกเลิกงานมงคลในระหว่างที่ท่านแม่ทัพมาออกรบ เพราะฉะนั้นข้าน้อยยินดีมากขอรับ ที่สตรีคนใหม่ของท่านแม่ทัพจะเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนงาม"เย่วเล่อมิได้กล่าวคำใด เธอมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า พร้อมกับหัวใจที่มีอาการหน่วงเล็กน้อย.. นี่คงจะเป็นเหตุผลที่เสน่ห์อันล้ำเลิศของเธอไม่สามารถทลายกำแพงที่สูงชันในใจข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   ตอนพิเศษ เรียบง่าย

    นี่คืองานแต่งที่ทวยเทพทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนมาร่วมยินดี งานแต่งของมหาเทพบรรพกาล กับเทพจิ้งจอกผู้งดงามราวกับภาพวาดแน่นอนว่ามู่หยางจัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยครั้งนี้เขามิได้คำนึงถึงฤกษ์มงคลใดๆ เขาจัดงานในทันทีที่อาการของเยว่เล่อดีขึ้น ยามนี้นางคือภรรยาของเขาอย่างแท้จริงและพวกเรากำลังอยู่ที่หุบเขาแห่งเซียน เขารู้ดีว่าภรรยาชื่นชอบที่นี่ จึงมิคิดพานางไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นฟ้า "ภรรยาเจ้าติดค้างคืนเข้าหออยู่นะ..."เยว่เล่อหัวเราะเบาๆท่านเทพบรรพกาลผู้นี้จับเธอกินจนแทบมิเหลือเรี่ยวแรงในทุกค่ำคืน ยามนี้เธอเหนื่อยล้ากับการต้อนรับเทพที่มาร่วมยินดีเขาจะมิวายจะรังแกเธออีกอย่างนั้นหรือ"ท่านพี่ควรจะให้ข้าได้พักบ้าง"มู่หยางหัวเราะเบาๆ เขาอุ้มเยว่เล่อขึ้นมาวางเอาไว้บนเตียง"วันพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเยี่ยมอาเหยา ที่โรงเตี๊ยมนั่นของทุกอย่างที่เจ้าเคยใช้ อาเหยายังคงเก็บเอาไว้ให้เป็นอย่างดี..."เยว่เล่อส่งยิ้มจางๆให้สามี อาจจะเพราะเรานั้นอยู่ที่โลกมนุษย์มานาน คำเรียกขานเช่นนี้จึงสบายใจยิ่งกว่าการเรียกขานที่ห่างเหินอย่างที่พวกเซียนชอบกล่าวเธอคือภรรยาและเขาคือสามี เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มิต้องการสิ่งใดที่ยุ่งย

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   25.ไม่แยกจาก

    หิมะโปรยปรายลงมาพร้อมกับเยว่เล่อที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เธอยกมือขึ้นมาเพื่อรอรับหิมะที่ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าร่างกายของหนิงหลงนั้นสลายหายไปในอากาศเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าพลังเซียนของเธอนั้นอ่อนแอลงจนไม่สามารถคงสภาพของเขาเอาไว้ได้ เธอยังคงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเขาทุกคืนก่อนนอน ถึงแม้ผิวกายของเขาจะเย็นเฉียบก็ไม่เป็นไร เธอยังคงพูดคุยกับเขาราวกับว่าเขายังอยู่ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะสูญสลายไปแล้ว...การมีชีวิตอยู่โดยไร้ท่านมันทรมานเหลือเกินหนิงหลง ข้าร่ำร้องขอความตายจากสวรรค์ในทุกค่ำคืนเผื่ออย่างน้อยที่ปลายทางมันจะมีท่านยืนรออยู่และแล้ววันที่เธอรอคอยก็เดินทางมาถึงในวันที่พลังเซียนของเธอกำลังจะหมดลง อายุขัยที่ยาวนานกำลังจะสิ้นสุด เยว่เล่อสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา เธอแต่งหน้าและแต่งตัวให้งดงามกว่าทุกวันเพื่อในยามที่ได้พบเจอหนิงหลง เธอจะได้งดงามที่สุดในสายตาของเขาเธอกำลังนั่งรอความตายที่คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆให้หิมะพวกนี้ฝังกลบร่างของเธอเอาไว้ ร่างของสาวงามพลันหายไปเหลือเพียงแต่ร่างจิ้งจอกที่มีขนสีขาวกลมกลืนไปกับหิมะที่นอนหายใจรวยรินอยู่มารับข้าไปได้แล้ว.

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   24.รอคอย

    ไร้สิ้นลมหายใจ หัวใจที่เคยเต้นแรงในยามที่โอบกอดเธอเอาไว้ ยามนี้มันไม่เต้นอีกแล้วปราณเซียนของเธอที่แบ่งให้เขาเอาไว้ถึงครึ่งบัดนั้นมันแตกสลายไปหมดแล้ว เธอมาช้าเกินไป เพราะมัวแต่ร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนั้นจึงไม่ได้มาทันล่ำลากับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ใบหน้างามอาบไปด้วยน้ำตาเพราะกับร่างกายที่สั่นเทา เยว่เล่อยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนที่นางจะลุกขึ้น "ใคร...ใครเป็นคนฆ่าเขา?" เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเมื่อถามถึงว่าใครกันที่สามารถล้มแม่ทัพหนิงผู้เกรียงไกรได้ ตามแขนและคอของหนิงหลงมีรอยเชือกแสดงว่าคนพวกนี้คงจะมัดมือมัดแขนของเขาเอาไว้หรืออาจจะมีการใช้ใครสักคนต่อรองเพื่อให้เขาวางอาวุธลง... แล้วยอมจำนน ไม่ว่าใครก็ไม่สำคัญทั้งนั้นเพราะว่าเธอจะฆ่าให้หมด...จะนำเลือดของคนพวกนี้มาล้างเท้าให้หนิงหลงเสียให้หมดทุกคน มีมือมาแตะที่ไหล่ของเยว่เล่อ พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นอาเหยา "ในใจเกิดความร้อนรุ่มขึ้นมา ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าเถ้าแก่เนี้ยจะต้องมีเรื่อง...ถ้าท่านจะจัดการคนพวกนี้ ให้ข้าน้อยเป็นผู้กระทำเถิดนะขอรับ" เพราะเยว่เล่อเป็นเซียน อีกทั้งนางสูญเสียพลังเซียนไปกว่าครึ่ง ทุกๆการใช้พลังของเทพจิ้งจอกอ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   23.พ่ายแพ้

    หนิงหลงหรี่ตามองนักดนตรีผู้หนึ่งที่กำลังตีกลองอยู่ เขารู้สึกว่าแววตาที่นางมองมาที่เขานั้นมันแตกต่างจากคนอื่นเพราะนางมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เจือปนไปด้วยความโกรธ ส่วนนางรำนางอื่นๆต่างมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เย้ายวนอ่า..เขาคิดว่าเขาพบเจอภรรยาตัวเองแล้วล่ะนะ"หลิงหยุนวันนี้ข้าพบเจอสตรีที่ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้วล่ะสิ...""...มีสตรีใดที่งดงามมากกว่าภรรยาของเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ? บ้าไปแล้วหนิงหลง"หนิงหลงยกมือขึ้นเพื่อให้การแสดงหยุด เขาเดินเข้ามาหานักดนตรีสาวที่กำลังนั่งตีกลองอยู่ พร้อมกับยื่นมือไปหานาง"เจ้าบรรเลงเพลงได้ถูกใจข้ายิ่งนัก แน่นอนว่าข้าอยากจะฟังฝีมือในการบรรเลงเพลงของเจ้าให้ชัดเจนกว่านี้..ลุกขึ้นมาเถิด"เยว่เล่อถึงกับหน้าชา นางมิรู้ว่าสามีล่วงรู้ถึงตัวตนของนางหรือว่าเขาเพียงแค่แสดงท่าทางเจ้าชู้ไปเรื่อยแล้วมันบังเอิญที่เขาเลือกนักดนตรีนางนี้...ที่นางปลอมตัวมาเขาเดินจับจูงมือของนางเพื่อจะพาไปด้านนอกกระโจมจัดเลี้ยงเพราะเวลานี้เป็นเวลาดึกมาแล้ว ใจจริงของหนิงหลง เขานั้นอยากจะหาเหตุผลออกไปจากที่นี่อยู่พอดี"ซุกซนเกินไปแล้วภรรยา เจ้าคิดว่าสามีจะจดจำเจ้ามิได้อย่างนั้นหรือ?"เยว่เล่อเม้มปา

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   22.แผนการ

    หนิงหลงกระโดดขึ้นม้า เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฟางเซียนในขบวน เราจะไปตั้งค่ายกันที่ใกล้สนามรบมากกว่านี้อีกหน่อย ไม่ไกลจากที่นี่มากนักแต่ทว่าเขาไม่เห็นความจำเป็นที่นางจะต้องตามไป"คือว่าข้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ ให้ข้าได้ทำประโยชน์เพื่อทหารกล้าทุกนายที่ช่วยเหลือข้าเถอะนะ"ฟางเซียนรีบกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้หนิงหลง เพราะเขามองมาที่นางด้วยแววตาที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่นางรู้ฟางเซียนรู้ดีว่าหนิงหลงนั้นเป็นห่วงนาง เขาไม่อยากให้นางไปที่สนามรบเพราะเขาหวาดกลัวว่านางจะเป็นอันตราย ที่เขามองมานั่นก็เพราะว่าเป็นห่วงนางรับรู้ได้จากแววตาที่โมโหของเขา"อย่าทำพลาดเพราะโอกาสมีเพียงครั้งเดียว จำให้มั่นว่าเจ้าจะต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้""รู้แล้วน่า ข้ามิใช่คนโง่ไม่ต้องมาสั่ง!"ฟางเซียนกล่าวกับชูชางเสียงต่ำที่พยายามขยับริมฝีปากให้น้อยที่สุดเพราะนางไม่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ว่านางและแม่ทัพชูรู้จักหรือว่าสนิทกันทุกคนควรจะรับรู้ว่านางและแม่ทัพหนิงต่างหากที่รู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีฟางเซียนยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินตามขบวนทหาร..."นายหญิงก็เห็นใช่หรือไม่ สตรีผู้นั้นไม่น่าวางใจสักนิด เราควรจะตามไ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   21.ตัดไฟแต่ต้นลม

    ฟางเซียนอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะเป็นชุดที่สะอาดเรียบร้อย นางเดินออกมาด้านนอกเพื่อรอทานอาหารพร้อมกันกับพวกทหารมากมายแน่นอนว่านางได้รับความนิยมมากทีเดียวเพราะมีใบหน้าที่งดงาม แถมหนิงหลงยังประกาศว่านางคือลูกสาวของตระกูลฝูอีกด้วย แน่นอนว่าความนิยมยิ่งเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเพราะท่านพ่อนั้นเป็นถึงเสนาบดี "ข้าคิดว่าเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน"ชูชางนั่งลงตรงข้ามฟางเซียน พร้อมกับมองหน้าเธอด้วยแววตาที่มิได้สนอกสนใจใบหน้านี้เลย...เช่นนั้นบุรุษผู้นี้สนใจสิ่งใดกันล่ะ ถ้ามิใช่สนใจในตัวนาง ถ้าจำไม่ผิดฟางเซียนคิดว่าเธอเห็นเขาเดินตามสตรีชุดแดงมาเมื่อตอนบ่าย เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกัน เธอเริ่มมองเห็นเค้าลางความเป็นไปได้มากขึ้นแล้วชายผู้นี้จะต้องหลงรักว่าที่ภรรยาของหนิงหลงเป็นแน่ฟางเซียนยกยิ้มพร้อมกับเลื่อนจอกสุราไปให้เขา"ความรักนั้นน่าตลก...""สำหรับข้ามันมิได้น่าขำสักนิดเพราะว่าข้านั้นพร้อมจะแลกทุกอย่าง..แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่าง"ความงามขนาดนี้ไม่แปลกใจจริงๆที่ชายผู้นั้นจะแสดงออกชัดเจนเช่นนี้ เพียงแต่มันน่าสนใจเพราะว่าเธอเองก็อยากได้หนิงหลง.. เพราะว่าเขาเป็นแม่ทัพ แน่นอนว่าเขาจะ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   20.รักเดียวที่มั่นคง

    เยว่เล่อเดินกลับมาที่ค่ายทหารพร้อมกับฮุ่ยน่าและชูชางที่เดินตามหลังมา เท้าที่ก้าวเดินพลันหยุดลงเมื่อเห็นสตรีนางหนึ่งวิ่งตามว่าที่สามีของเธอ ใบหน้านั้นงดงามแม้ว่านางจะอยู่ในชุดที่ดูซอมซ่อ ดวงตากลมโตรื้นไปด้วยน้ำตาราวกับว่าหนิงหลงคือความหวังเดียวของนางในยามนี้ แขนทั้งสองข้างพลันไขว่คว้าแขนของหนิงหลงเอาไว้เพื่อให้หยุดรอนาง...ใบหน้าของเยว่เล่อมิได้แสดงอาการใดๆซึ่งนั่นมันทำให้ชูชางประหลาดใจมากทีเดียว เพราะหากเป็นสตรีอื่นภาพเบื้องหน้ามันชวนให้เข้าใจผิดมากขนาดนี้...จะต้องวิ่งหนีหรือว่าเดินเข้าไปสอบถามเรื่องราวให้แน่ชัดไปแล้ว แต่ทว่านอกจากสตรีเบื้องหน้าจะไม่แสดงอาการตื่นตระหนกหรือว่าตกใจแล้ว นางยังแสดงท่าทีนิ่งเฉยราวกับว่าเรื่องราวเบื้องหน้ามันปกติ...ริมฝีปากบางของเยว่เล่อหยักยิ้มขึ้นนาง นางเดินเยื้องย่างกรีดกรายเข้าไปหาว่าที่สามีด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ชีวิตพันกว่าปีนี้เห็นผู้คนมามากมาย นางบอกไปแล้วว่ารู้จักบุรุษดีเป็นที่สุดและสิ่งที่เยว่เล่อรู้จักดีกว่านิสัยของบุรุษนั่นคือนิสัยของสตรี...ฟางเซียนนั้นเพียงต้องการคุยกับหนิงหลงเท่านั้นเอง การออกท่องเที่ยวไปทั่วหล้าในคราแรกมันสนุกแล

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   19.เย็นชา

    เยว่เล่อสวมใส่ชุดสีแดงสด เรื่องนี้ถึงในคราแรกหนิงหลงไม่เข้าใจมากๆว่าทำไมภรรยาของเขาถึงชื่นชอบเสื้อผ้าที่สีสันฉูดฉาดถึงเพียงนี้ แต่ทว่าพออยู่ไปเรื่อยๆเขาเริ่มชินตาและเลิกสงสัยไปเองเยว่เล่อชอบเสื้อผ้าที่มีสีสันนั่นก็เพราะว่าครั้งหนึ่งเมื่อครั้งอยู่ที่หุบเขาแห่งเซียน เธอในยามนั้นสวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนที่ดูไร้เดียงสา เป็นจิ้งจอกน้อยที่วันๆคอยเดินตามท่านอาจารย์ต้อยๆ ถึงแม้จะมีเทพมากมายมาให้ความสนใจแต่ทว่าเยว่เล่อนั้นไม่คิดชายตามองชายใด เธอมั่นรักในตัวของอาจารย์เพียงผู้เดียว ท่านเทพซือมิ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่าบุรุษส่วนใหญ่มักจะชื่นชอบสตรีที่อ่อนหวานมากกว่าสตรีที่ดูแข็งกร้าว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบนสรวงสวรรค์ ทั้งนางฟ้าและเทพต่างๆถึงได้สวมชุดสีอ่อนกัน เพราะทุกนางอยากจะดูอ่อนหวานต่อหน้าเทพหนุ่มและต่อหน้าชายที่ตนปักใจจิ้งจอกน้อยสวมชุดสีอ่อนเดินตามท่านอาจารย์มาหลายร้อยปีแต่ทว่าความรักของเธอก็ยังไร้หนทางสมหวัง เพราะฉะนั้นเยว่เล่อจึงมิคิดจะสวมใส่ชุดสีอ่อนพวกนั้นอีกแล้วหากว่านางจะมีความรัก เช่นนั้นก็ขอให้คนที่รักนางรักที่นางคือสตรีที่ดูเจ้าเล่ห์และเอาแต่ใจเถิดนางไม่ขอพยายามอ่อนหวานเพื่อทำให้ใครชายตาม

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   18.หึงหวง

    หนิงหลงจะต้องอยู่ที่นี่พักใหญ่ๆเพราะทางชนเผ่าอี้เหนิงเคลื่อนไหวแปลกๆ เขาจึงต้องอยู่ดูสถานการณ์ที่นี่ไปก่อนถึงแม้ว่าเราจะเดินทางกลับไปแต่งงาน แต่ทว่ากำหนดงานแต่งนั้นคืออีกแปดเดือนข้างหน้า นั่นทำให้ระหว่างทางเราก็สามารถแวะเที่ยวเล่นและเดินทางไปช้าๆอย่างไม่เร่งรีบอะไร หนิงหลงบอกว่าให้คิดเสียว่านี่คือการเดินทางท่องยุทธภพก่อนที่เราจะต้องอยู่ที่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก ความจริงแล้วเธอไม่สามารถตั้งครรภ์ขึ้นมาได้เพราะว่าร่างกายของเซียนกับมนุษย์นั้นต่างกัน แต่ทว่าเธอก็ไม่อยากจะบอกหนิงหลงไปแบบนั้น ไม่อยากจะตัดกำลังใจหรือความคาดหวังของเขาบางทีสิ่งที่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นก็ได้เพราะเขาครอบครองพลังเซียนของเธอตั้งนาน ร่างกายของเขาอาจจะมีพลังปราณเซียนของเธอหลงเหลืออยู่"ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้เห็นเจ้าที่เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของใครสักคน แม่ทัพหนิงช่างน่าอิจฉา"เยว่เล่อโบกมือไปมา พร้อมกับหัวเราะเบาๆ"ชาง ทุกคนจะมีโชคชะตานำทาง ความรักจะเดินทางมาถึงอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่าความรักของข้าเดินทางมาถึงช้าไปหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็เดินทางมาถึงแหละน่า"เยว่เล่อรับกาสุรามาจากชูชาง เธอกรอกใส่ปากอย่างรวดเร็วก่อนจะเช็ดครา

DMCA.com Protection Status