ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีในผับชื่อดังใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งหนึ่ง มีกลุ่มผู้ชายหน้าตาดี หล่อ รวย เป็นทายาทมหาเศรษฐีกันทุกคน นั่งดื่มเหล้ากันอย่างเพลิดเพลิน แก๊งของพวกเขาได้รับฉายาว่า แก๊งหนุ่มหล่อพ่อรวย ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง สมาชิกภายในกลุ่ม มีทั้งหมดสี่คนด้วยกัน
คิน อนาคิน เจ้าของฉายา คลาสโนว่าตัวพ่อ ทายาทบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังทุกชนิด หล่อ เจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คี คีตะ เจ้าของฉายา เพลย์บอยตัวพ่อ ทายาทธุรกิจจิวเวลรี่ชื่อดัง หล่อเท่ เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น วินทร์ ธาวินทร์ เจ้าของฉายา คลั่งรักตัวพ่อ ทายาทบริษัทผลิตหลอดไฟแบรนด์ดัง หล่อตี๋ มีแฟนแล้ว ซัน อาทิตย์วรา เจ้าของฉายา แบดบอยตัวพ่อทายาทธุรกิจนำเข้ารถหรู หล่อสมาร์ต เปลี่ยนคู่ควงทุกสามเดือน “เฮ้ย! ไอ้คี กูได้ข่าวว่ามึงจีบหญิงไม่ติดเหรอวะ?” อาทิตย์วราเอ่ยถามคีตะ “เอ่อ..แม่ง สวยแต่โคตรหยิ่งเลยว่ะ ไม่พูดกับกูสักคำ เดินหนีกูอย่างกับกูเป็นตัวน่ารังเกียจอย่างนั้นแหละ.. เสียเซลฟ์ฉิบหาย” คีตะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ใครวะ? ทำกับพี่คีตะได้ขนาดนั้น” เสียงของ ธาวินทร์เอ่ยถามออกมา ปกติเพื่อนของเขามีแต่สาวๆ มารุมล้อม แค่คีตะแลตามอง พวกเธอเหล่านั้นแทบจะมาสยบแทบเท้าเพื่อนของเขาทันที “จะใครล่ะ..ก็น้องครีม เด็กปีหนึ่งดาวคณะอักษรไง แม่ง! โคตรหยิ่งอ่ะ กูนี่อยากจะฉุดขึ้นเตียงจนต้องร้องขอชีวิต พี่คีคะ..พี่คีขา..” คีตะหัวเสียเมื่อพูดถึงหญิงสาว “มึงก็ฉุดเลยดิ?” อาทิตย์วราบอกออกไป “ฉุดเหี้ยไร! คนอย่างคีตะไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แค่กูกระดิกนิ้ว ผู้หญิงพวกนั้นก็แทบจะคลานขึ้นเตียงกูละ..แต่นี่แค่หน้ากูน้องเค้ายังไม่อยากจะมอง เออ..กูคิดออกละ กูขอท้าพนันพวกมึง ถ้าใครจีบยัยนี่ได้และพาขึ้นเตียงภายในสามเดือนกูโอนให้เลยหนึ่งล้านบาท” คีตะบ่นออกมาก่อนจะเอ่ยคำท้าด้วยน้ำเสียงจริงจัง “โอ้โห! ไอ้คีมึงแม่งโคตรสปอร์ต แต่กูขอบายว่ะ กูไม่ชอบผู้หญิงหยิ่งๆ ถึงจะสวยก็เถอะ” อาทิตย์วราปฏิเสธคำท้าของเพื่อน “กูก็ขอบายว่ะ..กูมีเมียแล้ว” ธาวินทร์เอ่ยออกมา “งั้นก็เหลือแค่มึงแล้ว..ไอ้คิน” คีตะหันไปหาอนาคินที่นั่งฟังเพื่อนๆ พูดถึงเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง “เฮ้ย! ทำไมมาลงที่กูวะ?” “มึงเหมาะสมที่สุดแล้ว..หรือมึงไม่กล้าวะ?” คีตะถามออกไป “ตกลง” อนาคินตอบตกลงไปในที่สุด ท้าใครไม่ท้ามาท้าคนอย่างอนาคิน “ พวกมึงคอยดูละกัน กูจะส่งรูปกูอยู่บนเตียงกับยัยนั่นให้พวกมึงดู” “เอ้า..เชียร์” สิ้นเสียงของอาทิตย์วรา หนุ่มหล่อทั้งสี่ก็ดื่มเหล้าสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นก็มีสาวสวยโต๊ะข้างๆ สามคนที่ส่งยิ้มแพรวพราวมาให้ชายหนุ่มทั้งสี่ และท้ายที่สุดก็ไปจบลงที่เตียงนอนคอนโดมิเนียมของใครของมัน ยกเว้น ธาวินทร์ที่มีแฟนแล้วและไม่เคยนอกใจแฟน อีกด้านหนึ่ง ครีม คริมา เด็กสาวที่กำลังก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง หญิงสาวกำลังนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดรูปของมารดาอยู่บนเตียงขนาดสามฟุตภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เดิมทีคือห้องเก็บของ ของบ้านหลังเดี่ยวหลังกะทัดรัดบริเวณแถบชานเมือง ภายในบ้านมีห้องนอนสองห้อง ห้องหนึ่งคือห้องของบิดาและแม่เลี้ยง ส่วนอีกห้องเมื่อก่อนเป็นห้องของเธอแต่ตอนนี้กลายเป็นห้องของลูกติดแม่เลี้ยงทั้งสองคน ส่วนลูกแท้ๆ เช่นเธอต้องเนรเทศตัวเองมาอยู่ในห้องเก็บของ หลังจากที่มารดาของคริมาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว วิวัฒน์ บิดาของเธอที่เป็นข้าราชการครูก็แต่งงานใหม่กับสุชาดา หม้ายสาวที่มีลูกสาวสองคน นั่นก็คือ สุวิภา กับ สุชาวดี ที่นิสัยเหมือนมารดาไม่มีผิด ต่อหน้าบิดาของเธอ ทุกคนจะสร้างภาพว่ารักและเอ็นดูเธอ พูดดีกับเธอ แต่พอลับหลังบิดาของเธอ ทั้งแม่เลี้ยงกับพี่สาวต่างแม่ทั้งสองคนทุกคนจะใช้ให้เธอทำงานบ้านทุกอย่าง ดุด่าต่อว่าเธอสารพัด ทำราวกับว่าเธอเป็นคนรับใช้ บางครั้งคริมาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นซินเดอเรลล่า เธอเองไม่อยากให้บิดาไม่สบายใจ จึงได้แต่เก็บงำความน้อยใจ ความเสียใจเอาไว้ แล้วแสดงออกมาทางสีหน้าที่เรียบเฉยจนหลายๆ คนคิดว่าเธอเป็นคนหยิ่งยโส คริมาจึงไม่ค่อยมีเพื่อนในมหาวิทยาลัยแต่เธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจนัก คริมามีความตั้งใจที่จะเรียนให้จบและหางานทำ เธออยากออกไปจากบ้านหลังนั้น บ้านที่ไม่ใช่เซฟโซนที่ดีสำหรับเธอ “แม่จ๋า..ครีมคิดถึงแม่จังเลย ทำไมแม่ต้องทิ้งครีมไปด้วย..ครีมอยากไปอยู่กับแม่นะคะ” หญิงสาวรำพึงรำพันออกมาก่อนจะหลับไปทั้งน้ำตานองหน้า ทางด้านอนาคิน หลังจากที่เมื่อคืนเขาหิ้วสาวสวยมานอนที่คอนโดหรูใจกลางกรุงแห่งหนึ่ง “ไม่ต่อเหรอคะ..พี่คิน” สาวสวยเอ่ยถามหลังจากที่เมื่อคืนชายหนุ่มมอบบทรักให้เธออย่างถึงพริกถึงขิงจนสาวเจ้าติดอกติดใจ “ไม่ล่ะ..เอาไว้โอกาสหน้านะ” ชายหนุ่มยิ้มแสยะก่อนจะตอบออกไป คนอย่างอนาคินแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ เขาไม่กลับไปกินผู้หญิงซ้ำอย่างแน่นอน “จริงนะคะ..พี่คินโทรหาฝ้ายได้ตลอดเวลาเลยนะ ฝ้ายพร้อมมาหาพี่คินตลอด” สาวสวยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนสุดฤทธิ์แต่ชายหนุ่มหาได้สนใจไม่ “อืม” ชายหนุ่มตอบออกไปส่งๆ ด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง “น้องฝ้ายกลับไปก่อนนะ พอดีพี่มีเรียนเช้าน่ะ..พี่ไม่ไปส่งนะ ” “ค่ะ” สาวเจ้าพยักหน้าอย่างเสียดายแต่ไม่ลืมส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มก่อนจะลงจากเตียงหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นเข้าไปในห้องน้ำด้วย ติ้ง! ติ้ง! ติ้ง! ทันใดนั้นเสียงเตือนข้อความทางไลน์ดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมาเปิดดู ใครกัน? ส่งอะไรมาแต่เช้า.. คี : กูส่งรูปน้องครีมให้มึงแล้วเปิดดูด้วย คิน : โอเค คี : ถ้ามึงทำได้กูโอนให้มึงทันทีหนึ่งล้านแต่ถ้ามึงทำไม่ได้มึงต้องเป็นเบ๊กูหนึ่งเดือน คิน : ตกลง มึงคอยดูรูปกูกับน้องเค้าได้เลย คี : กูจะรอ..หวังว่าคงจะไม่นาน หลังจากนั้น อนาคินเปิดดูรูปของหญิงสาวคนหนึ่ง ในอิริยาบถต่างๆ เขายอมรับว่าแค่เห็นรูปก็รู้สึกว่าหญิงสาวเป็นคนสวยจนตกตะลึง แต่ผู้หญิงสมัยนี้สวยด้วยศัลยกรรมกันทั้งนั้น ไม่รู้ว่าตัวจริงของหญิงสาวจะสวยเหมือนในรูปไหม เพราะเขาเองก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเพื่อนของเขามันไปเจอตอนไหน มันถึงอยากได้นัก แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย เขาชักอยากจะเจอซะแล้วสิ! ผู้หญิงที่เล่นตัวแบบนี้ เขาเองเป็นคนชอบความท้าทาย อะไรที่ได้มายากๆ ก็ยิ่งอยากได้ อยากเอาชนะ ส่วนพวกผู้หญิงที่แค่ส่งสายตาก็พร้อมกระโจนเข้ามาหา เขาชักจะเริ่มเบื่อผู้หญิงแบบนี้แล้วเหมือนกัน ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น นอกจากลีลาท่าทางเวลาที่อยู่บนเตียง แรกๆ ทำเป็นเหนียมอาย พอถูกเขาเล้าโลมเข้าหน่อยพวกหล่อนก็ร้อนแรงกันทุกคนราวกับว่าเจนจัดบนสังเวียนรัก อนาคินจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจในความบริสุทธิ์ผุดผ่องของผู้หญิงที่เขาหิ้วมานอนด้วยเพราะส่วนมากก็ผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วทั้งนั้นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งปริ้น! ปริ้น! ปริ้น!เสียงบีบแตรดังลั่น ส่งผลให้หญิงสาวที่กำลังเดินข้ามถนนตกใจกับเสียงที่ได้ยินจนเธอสะดุดขาตัวเองล้มลงเมื่อเห็นว่ารถหรูคันหนึ่งกำลังจะพุ่งเข้ามาหาเธอ“ว้าย!” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรีบลงมาจากรถทันที เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนพื้นถนน มือเล็กข้างหนึ่งจับที่ข้อเท้าของตัวเองไว้“น้องเป็นอะไรมากมั้ยครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไปก่อนจะก้มลงไปใกล้ๆ หญิงสาว“เจ็บข้อเท้านิดหน่อยค่ะ..คุณขับรถยังไงเนี่ย? ไม่เห็นคนเดินข้ามถนนหรือยังไง” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้น หัวใจของเธอก็เต้นแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“เอ่อ..พี่ขอโทษนะครับ พอดีพี่รีบไปสอบน่ะ..น้องลุกไหวมั้ย?” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเธอพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นมา“ไหวๆ โอ๊ย!” หญิงสาวตอบออกไปก่อนจะร้องเสียงดังขึ้นมาอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดที่ข้อเท้า“พี่ว่าข้อเท้าน้องต้องแพลงแน่เลย เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอ”“ไม่เป็นไร..นั่งพักเดี๋ยวก็คงหาย” พูดจบหญิงสาวพยายามลุกขึ้นอีกครั้งอย่างช้าๆ“พี่ว่าไปหาหมอดีกว่านะ..”“ไปไม่ได้..วันนี้ม
หนึ่งเดือนผ่านไปตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา อนาคินยังคงไปรับไปส่งคริมาที่บ้าน เขาพาหญิงสาวไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง พาไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า หรือไม่ก็สวนสาธารณะ อีกสองสัปดาห์จะถึงวันเกิดเขา ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะปิดจบทุกอย่างในวันเกิดของเขาติ้ง! เสียงข้อความดังขึ้น คริมารีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านทันทีพี่คิน : ทานข้าวยังครับครีม : ทานแล้วค่า พี่คินล่ะคะพี่คิน : พี่เรียบร้อยแล้วครับครีม : พี่คินทำอะไรอยู่คะพี่คิน : กำลังคิดถึงครีมอยู่ครับครีม : ไม่เชื่อหรอกค่ะพี่คิน : ถ้าครีมไม่เชื่องั้นพี่ไปหาครีมที่บ้านตอนนี้เลยดีมั้ยครับครีม : สติ๊กเกอร์ตกใจครีม : เชื่อแล้วค่าพี่คิน : เดี๋ยวพี่ไปเที่ยวผับกับเพื่อนก่อนนะครับ ไอ้คี ไอ้ซัน มันไลน์มาตามพี่แล้วครีม : ค่า ขับรถดีๆ นะคะ อย่าดื่มจนเมามากนะคะพี่คิน : เป็นห่วงพี่เหรอครีม : สติ๊กเกอร์ยิ้มผับชื่อดังแห่งหนึ่ง“ไงวะ..ไอ้คิน เมื่อไหร่มึงจะจัดการน้องครีมสักที” เสียงของคีตะเอ่ยถามเมื่ออนาคินเดินมานั่งที่โต๊ะประจำในผับที่พวกเขามากันทุกค่ำคืน“วันเกิดกูนี่แหละ..พวกมึงคอยดูรูปได้เลย”“อ้าว! แล้ววันเกิดมึงพวกกูก็ไม่ได้ฉลองด้วยสิ..หรือว่ามึง
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป / วันเสาร์ในที่สุด วันที่อนาคินรอคอยก็มาถึง ชายหนุ่มไปรับหญิงสาวที่บ้านก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังหัวหิน ระหว่างทาง อนาคินจับมือของหญิงสาวไว้ตลอดเวลา ส่วนภายในใจนั้น คืนนี้แหละเขาจะเผด็จศึกหญิงสาว เขาเฝ้ารอเวลานี้มาเกือบสามเดือน เขาไม่มีทางปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปอย่างแน่นอนอนาคินใช้เวลาห้าชั่วโมงกว่าในการขับรถมาถึงหัวหิน เพราะชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดทาง ชายหนุ่มพาหญิงสาวไปที่ห้องพักสุดหรูริมทะเล เป็นห้องพักส่วนตัวมีกำแพงต้นไม้ล้อมรอบ บรรยากาศดี สดชื่น สถานที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ต่างๆ อย่างสวยงาม“พี่คินจองห้องเดียวเหรอคะ?” หญิงสาวถามออกไปด้วยความสงสัย“พอดีพี่จองช้าเพราะไม่รู้ว่าครีมจะมาได้มั้ย ห้องพักก็เลยเต็มครับ เดี๋ยวครีมนอนบนเตียง ส่วนพี่จะไปนอนที่โซฟาเอง ครีมไม่ต้องกลัวนะครับ” ชายหนุ่มอธิบายให้หญิงสาวฟัง“อ่อ..ครีมไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แค่ถามเฉยๆ”“พี่ว่าเราไปเดินเล่นกันดีกว่านะ”“ค่ะ”ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็น เกลียวคลื่นพัดเข้าสู่ชายฝั่ง สายลมพัดโชยเอากลิ่นน้ำเค็มจากท้องทะเลขึ้นมา สองหนุ่มสาวเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาด ในขณะที่ดวงอาทิตย
อ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่มช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด เขาพาเธอไปยังห้องนอนก่อนจะค่อยๆ วางร่างบางบนที่นอนนุ่ม ทันทีที่หลังของเธอสัมผัสกับที่นอน ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ก่อนจะขยับหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอได้ทำเช่นนั้น เขาโน้มตัวลงมาทาบทับร่างบางเอาไว้จนเธอรู้สึกหายใจไม่ออกดวงตาสวยคู่นั้นมองมาที่ริมฝีปากเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ ลิ้นอุ่นเซาะซอนไปตามแนวฟัน แรงกระตุ้นดังกล่าวทำให้ร่างกายเกร็งเขม็งขึ้นมาทันตา จูบที่เริ่มต้นช้าๆ ปลุกเร้าความต้องการด้วยลิ้นที่แทรกเข้ามา ยิ่งเขาเพิ่มน้ำหนักในรสจูบ เธอก็ยิ่งกำแขนเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นมือข้างหนึ่งของเขาล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้ตามผิวเนียนอย่างช้าๆ เขาถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย ก่อนจะค่อยๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างบาง ลมหายใจของเขาติดขัดเมื่อเห็นร่างงามตรงหน้า ภายนอกเธอดูรูปร่างบาง แต่ภายในนั้น อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผายกลมกลึง หุ่นของเธอเรียกได้ว่าซ่อนรูปจริงๆ เขากลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก“ครีม..สวยมากเลยรู้ตัวมั้ย?”มือของเขาลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ผม ไหล่ แขน ท้อง ต้น
คำกล่าวที่ว่า..ผู้ชายรักผู้หญิงจากร้อยไปศูนย์ และ ผู้หญิงรักผู้ชายจากศูนย์ไปร้อย คงจะจริงสินะ..คริมารู้สึกได้ว่าตั้งแต่ที่กลับมาจากไปเที่ยวทะเล อนาคินดูเปลี่ยนไป เขาไม่ค่อยโทรหา หรือส่งข้อความมา และไม่มารับส่งเธอเหมือนแต่ก่อน มีแต่เธอที่เป็นฝ่ายโทรหาเขา ส่งข้อความไปบางทีเขาก็ไม่อ่าน หรืออ่านแล้วก็ตอบแบบขอไปที ร้ายกว่านั้นคืออ่านแล้วไม่ตอบ ความกังวลและความหวาดกลัวทั้งหมดพลันถาโถมเข้ามาในพริบตาครีม : พี่คินคะ ทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยังคะครีม : ทำไมเดี๋ยวนี้พี่คินไม่โทรมาหาครีมเลยล่ะคะครีม : ครีมทำอะไรให้พี่คินโกรธหรือเปล่าคะครีม : พี่คินตอบครีมหน่อยสิคะ อย่าเงียบไปแบบนี้พี่คิน : พี่ไม่ค่อยว่าง พอดีช่วงนี้พี่ต้องทำทีสิส อีกไม่กี่เดือนพี่ก็จะเรียนจบแล้ว ครีมอย่าโกรธพี่นะที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้ครีมครีม : ไม่เป็นไรค่ะ ครีมเข้าใจ ขอแค่พี่คินอย่าหายไปก็พอค่ะครีม : ครีมรักพี่คินนะคะพี่คิน : สติ๊กเกอร์ยิ้มคริมาถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้คิดไปเอง เขาแค่ไม่ว่างเพราะช่วงนี้ต้องทำทีสิสสำหรับคนที่กำลังเรียนอยู่ปีสี่ ปีสุดท้ายของช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย“นี่แก ฉันได้ข่าวว่ายัย
อุ๊บ! โอ๊กกกก! แหวะเสียงอาเจียนของคริมาดังอยู่ในห้องน้ำชั้นล่างของตัวบ้าน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการสอบแล้วหลังจากนั้นก็ปิดเทอม จู่ๆ เธอก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาหลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้า จากนั้นเริ่มรู้สึกเวียนหัวและอยากจะอาเจียน จนสุดท้ายทนไม่ไหวต้องลุกไปอาเจียนในห้องน้ำสงสัยจะเครียดเรื่องสอบมากไปหน่อย ช่วงนี้เธอเองก็ทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา บวกกับมีเรื่องของอนาคินให้คิดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มห่างหาย ขาดการติดต่อไปโดยปริยาย หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เธอหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับอาการที่เธอเป็น ยิ่งอ่านหัวใจของเธอยิ่งสั่นไหว เพราะอาการที่เธอเป็นนั้นบ่งบอกว่าเธออาจจะกำลังตั้งครรภ์ มันก็อาจจะเป็นไปได้ วันนั้นที่ทะเล เธอจำได้ว่าอนาคินไม่ได้สวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน และเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท ไม่รอช้า คริมารีบอาบน้ำแต่งตัวไปสอบที่มหาวิทยาลัย วันนี้เธอมีสอบแค่วิชาเดียวในช่วงเช้า หลังจากสอบเสร็จ หญิงสาวตรงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเธอป่วยเป็นอะไรกันแน่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ..คนไข้กำลังตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้วค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?” สิ้นเสียงของ
คริมาไม่รู้ว่าเธอพาร่างกายอันบอบช้ำของเธอมาถึงบ้านได้อย่างไร เมื่อมาถึงห้องนอนหญิงสาวก็ปิดประตู ล้มตัวนอนลงบนเตียงแคบ ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวสั่นเทาไปทั้งตัว เธอผล็อยหลับไปทั้งที่น้ำตายังไหลอาบหน้า“วดี” สุชาดาเรียกบุตรสาวคนที่สองที่กำลังนอนกระดิกเท้าบนโซฟาในห้องรับแขกพร้อมกับมือที่ถือโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา“เรียกทำไมแม่” สุชาวดีทำน้ำเสียงหงุดหงิดที่โดนก่อกวนเวลาที่เธอกำลังเล่นเกมอยู่“ไปดูยัยครีมให้แม่ทีสิ..ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรหรือเปล่า มันกลับมาก็หมกตัวอยู่แต่ในห้อง งานบ้านมันยังไม่ได้ทำเลย เดี๋ยวพ่อแกก็จะกลับมาแล้วเนี่ย” สุชาดาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เพราะงานบ้านทุกอย่างคริมาต้องเป็นคนทำให้เสร็จก่อนที่สามีของเธอจะกลับมา และยกความดีความชอบให้กับลูกสาวทั้งสองคนของเธอที่ตัวจริงขี้เกียจตัวเป็นขน“แม่ก็ไปดูมันเองสิ หนูเล่นเกมอยู่ ไม่ว่าง”“แกนั่นแหละไปดู แม่ทำกับข้าวอยู่แกไม่เห็นหรือยังไง”“เออๆ ไปดูให้ก็ได้” จากนั้นสุชาวดีก็เดินไปที่ห้องเก็บของ เธอเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของห้อง สุชาวดีเห็นคริมานอนหลับอยู่บนเตียง กำลังจะปลุกแต่สายตาของเธอเหลือบไปเห็นถุงบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ ด้ว
หลังจากที่คริมาออกมาจากบ้าน เธอเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง น้ำตาที่ไหลรินตอนนี้เหือดแห้งไปเหลือแต่คราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนอยู่เต็มหน้า ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วเธอนั่งอยู่ป้ายรถเมล์มาร่วมสองชั่วโมง ด้วยไม่รู้ว่าจะขึ้นรถไปลงที่ไหน และตอนนี้รถเมล์ก็หยุดวิ่งไปแล้ว ค่ำคืนนี้เธอคงตอนนอนที่ป้ายรถเมล์ไปก่อนเพราะน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้วคฤหาสน์สุดหรูแห่งหนึ่ง“กลับบ้านได้ด้วยเหรอ..คิน” เสียงของคุณหญิงพิมพิกาดังขึ้นเมื่อเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกลับมาบ้าน ปกติลูกชายจะพักที่คอนโดมิเนียมใกล้กับมหาวิทยาลัย ถ้าไม่บอกให้มาหาลูกชายของเธอก็ไม่ค่อยจะกลับบ้าน“ก็คุณตามานี่ครับแม่ ผมก็ต้องมาหาคุณตาสิครับ” อนาคินตอบมารดาก่อนจะหันไปยกมือไหว้พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนา คุณตาของเขาที่มีไร่ผลไม้อยู่ทางภาคเหนือหลายพันไร่ บริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังของคุณเทวินทร์บิดาของเขาก็ได้วัตถุดิบหลักจากไร่ของพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานี่แหละที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มที่เป็นผลไม้“สวัสดีครับคุณตา คินคิดถึงคุณตาที่สุดเลยครับ คุณตาสบายดีนะครับ”“สบายดีลูก..แล้วนี่คินว่างเหรอถึงมาหาตาได้ ไม่ไปเที่ยวกับสาวๆ หรือยังไง?”“โถ่! คุณตาสำคัญกว่าสา
สองปีต่อมาคริมาท้องอีกครั้ง เธอตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกคนนี้แล้วเธอจะทำหมัน เพราะมีลูกสามคนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่อนาคินอยากมีลูกสี่คน ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างชายหนุ่มใช่! เธอท้องลูกแฝดและเป็นฝาแฝดชายหญิงเสียด้วยอนาคินดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคริมานั้นก็ดีใจ แต่ลึกๆ เธอก็กังวลเล็กน้อย เพราะแค่เลี้ยงลูกน้อยคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เธอต้องเหนื่อยคูณสอง แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีอนาคินคอยช่วยเลี้ยง ในเมื่อเขาอยากได้ลูกมากนักเธอก็จะให้เขาเลี้ยงซะให้เข็ด จะได้รู้ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้สบายอย่างที่ผู้ชายหลายๆ คนคิดหลังจากที่คริมาคลอดลูกแฝดแล้ว อนาคินก็พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่ไร่พรรณิภา เพราะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานั้นตอนนี้ก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถดูแลไร่ได้เหมือนเดิม เขาจึงตกเป็นผู้สืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงไปโดยปริยาย ส่วนอนามิกา พี่สาวของเขานั้นก็ดูแลในส่วนของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และแน่นอนว่าไวน์ที่อนาคินคิดค้นผลิตขึ้นมานั้นกลายเป็นไวน์แบรนด์ดังที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะรสชาติของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับไวน์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้อ
หนึ่งปีต่อมาวันนี้อนาคินพาคริมาและลูกน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่พรรณิภา คนงานในไร่ต่างพากันดีอกดีใจที่ได้เจอคริมากับลูกของเธออีกครั้ง และโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณปู่ทวดไปแล้ว ชายชราดีใจที่ลูกหลานมาเยี่ยมเยือน พ่อเลี้ยงจึงสั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงพิเศษขึ้นในค่ำคืนนี้ และให้คนงานทุกคนมาร่วมดื่มกินสังสรรค์กันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด“พ่อเลี้ยงไม่บอกก่อน ครีมไม่มีชุดสวยๆ ติดมาเลยค่ะ” คริมายังคงเรียกคุณตาของอนาคินว่าพ่อเลี้ยง เพราะความเคยชิน“ไม่ต้องห่วง..พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งของครีมกับของลูกๆ”“จริงเหรอคะ..พี่คินไปเตรียมตอนไหน ครีมไม่เห็นรู้เลย”“ไม่บอก..แต่พี่รับรองว่าครีมต้องชอบแน่ๆ”“พี่คินคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกครีมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” คริมาหันไปทำเสียงดุใส่สามี“เปล่า..ไม่ได้จะทำอะไร ก็พอดีพี่บอกกับคุณตาว่าพวกเราจะมา คุณตาก็เลยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา เพียงแต่พี่ไม่ได้บอกครีมเท่านั้นเอง”“จริงนะคะ”“จริงที่สุดครับ” อนาคินยิ้มอย่างมีเลศนัยและในค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง อนาคินส่งตัวลูกสาวกับลูกชายให้ป้าสายช่วยจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ และเขาก็บอก
สามวันผ่านไปอนาคินออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่อาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน“ครีมมีนัดตรวจครรภ์อีกเมื่อไหร่” อนาคินเอ่ยถามคนรักในขณะที่เขากำลังนั่งเอามือลูบท้องของเธออยู่“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ..อุ้ย!” คริมาคลี่ยิ้มก่อนจะอุทานออกมาเพราะลูกน้อยในท้องดิ้นแรงเหลือเกิน“ลูกดิ้นเหรอ?” อนาคินถามเพราะเขาก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยกำลังดิ้น“ค่ะ”“เราจะได้รู้แล้วใช่มั้ยว่าจะได้ลูกสาวหรือลูกชาย”“จริงๆ รู้ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วค่ะ แต่ลูกคงจะอายหนีบไว้ไม่ยอมให้เห็น”“พี่ตื่นเต้นจัง..อยากรู้ว่าได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“วันอาทิตย์นี้น่าจะรู้นะคะ..ถ้าลูกไม่แอบอีก”“เรานอนกันเถอะครับ..ดึกแล้ว”“ค่ะ..ฝันดีนะคะ”“ฝันดีเหมือนกันครับ” จากนั้นทั้งสองก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันอาทิตย์วันที่คริมากับอนาคินรอคอยก็มาถึง เมื่อเขาพาเธอมาหาหมอเพื่อตรวจครรภ์ตามนัด อนาคินตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อยบนหน้าจอเป็นครั้งแรก ภาพของลูกน้อยที่ดิ้นอยู่ในครรภ์ทำให้เขาน้ำตาซึมออกมา มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพลาดโอ
อนาคินที่แกล้งนอนหลับ อมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อได้ยินคริมาพูดความในใจกับเขา คริมานั่งบนเก้าอี้เธอจับมือข้างหนึ่งของเขามาแนบกับแก้มของเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลดมือเขา อนาคินอดใจไม่ไหวอยากจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบเสียเดี๋ยวนี้เขาพึ่งรู้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันช่างดีเหลือเกิน เพราะมันทำให้คริมาหายโกรธเขาและให้โอกาสเขาอีกครั้ง เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเด็ดขาด อนาคินสัญญากับตัวเอง เขาจะดูแลคริมากับลูกให้ดีที่สุด เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในที่สุดอนาคินก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา“ครีมพูดจริงใช่ไหม?” เขาถามออกไปพร้อมยิ้มอย่างดีใจ“จริงค่ะ ครีมพูดจริงๆ” คริมาตอบก่อนจะตกใจที่ได้ยินเสียงของเขา เธอเงยหน้ามองเขา อนาคินฟื้นเเล้ว แถมยังยิ้มหน้าแป้นใส่เธออีกนี่เธอโดนเขาหลอกอีกแล้วเหรอ..“นี่พี่คินฟื้นแล้วเหรอคะ? แล้วไม่เห็นมีใครบอกครีมเลย” คริมาหันมาถามเพื่อนๆ ของเขาเธอดีใจที่เขาฟื้น..แต่ก็เสียใจที่โดนหลอก“ก็น้องครีมไม่ได้ถามนี่นา..” เป็นเสียงของธาวินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ“ต้องโทษไอ้คีเลย มันเป็นคนวางแผนทั้งหมด” อาทิ
หลังจากที่อนาคินขับรถออกมาจากบ้านของคีตะได้สักพัก เขามุ่งหน้าไปยังผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาต้องการตัวช่วยให้ตัวเองหายเครียดอนาคินนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองเข้ามา โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างก็อยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่หลังจากที่สาวๆ เหล่านั้นเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเขา พวกหล่อนต่างก็พากันล่าถอยไม่ย่างกรายมาใกล้เขาอีกเลยในขณะที่เขานั่งดื่มอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ น่ารักเหมือนตุ๊กตาก็ลอยเข้ามาในหัว ใช่! ลูกสาวของเขาเอง ป่านนี้ลูกคงจะรอเขาไปอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นแน่..ตอนนี้ลูกสาวติดเขามากจนเขาไม่สามารถจะไปไหนได้เลย อนาคินคิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ออกจากผับไปทันทีสติสัมปชัญญะของเขาตอนนี้อาจจะไม่เต็มร้อยนัก แต่เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เมาถึงขนาดขับรถไม่ได้ เขาแค่รู้สึกมึนๆ นิดหน่อย ในระหว่างทางกลับบ้านซึ่งเป็นถนนสี่เลน เขาเห็นรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งข้ามฝั่งมาทางที่เขากำลังขับรถ อนาคินเห็นท่าไม่ดีรีบหักหลบรถสิบล้อคันนั้น ก่อนที่รถของเขาจะเสียหลักไปพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางโครม!จากแรงกระแทกอย่างแรงของการขับไปชนเสาไฟฟ้าทำให้สติของเขาดับไปใ
คริมาลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันนั้น เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“เป็นยังไงบ้างครีม” คีตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคริมาฟื้นแล้ว“ลูก..พี่คี ลูกของครีมล่ะคะ?” คริมาถามออกไปด้วยความกลัว“ลูกของครีมปลอดภัย แต่ครีมต้องนอนอยู่บนเตียงห้ามขยับจนกว่าหมอจะอนุญาต”“ลูกครีมไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”“จริงสิ..ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่เรียกหมอก่อนนะ”จากนั้นหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการของหญิงสาว เบื้องต้นไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอบอกให้เธอพักผ่อนให้มากๆ“พี่คีคะ..แล้ว เอ่อ”“ไอ้คินมันไม่อยู่หรอก พอดีน้องเค้กไม่สบาย มันก็เลยต้องรีบกลับไปดูลูก”“ตายจริง! แล้วน้องเค้กเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” คริมาอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เห็นบอกว่าตัวร้อน แต่ครีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้คินมันพาน้องเค้กไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ครีมต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียด เดี๋ยวจะส่งผลถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง”“ค่ะ”ค่ำคืนนั้นกว่าคริมาจะหลับลงก็กินเวลาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงลูกสาวเช้าวันต่อมา / โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้อนาคินยังไม่ได้นอน เมื่อวานเขาพาเด็กหญิงเค้กมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติ
“มีความสุขกันจริงๆ เลยนะ..ไอ้คี” สิ้นเสียงของ อนาคิน ทั้งคีตะและคริมาที่กำลังนั่งคุยกันใต้ร่มไม้ต่างก็ตกใจหันไปมองอนาคินที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขา“ไอ้คิน..มึงมาได้ยังไง” คีตะมีสติก่อนจึงถามออกไป“กูก็ตามมึงมาไง..ถ้ากูไม่ตามมึงมากูก็คงไม่รู้สินะว่ากูมันเป็นแค่ไอ้งั่งตัวหนึ่งเท่านั้น”“มึงฟังกูอธิบายก่อนนะ..ไอ้คิน”“ฟังเหรอ? มึงจะให้กูฟังอะไร เพื่อนรักกับเมียกูแอบคบชู้กันอย่างนั้นเหรอ” อนาคินตะโกนเสียงดัง“นี่คุณ..มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงของคริมาปรี้ดขึ้นมา“มากเหรอ สำหรับผู้หญิงชั่วๆ อย่างเธอมันไม่มากไปหรอก ทิ้งลูกทิ้งเต้าเพื่อมาอยู่กับชู้ แถมยังมีลูกกับมันอีก เธอทำได้ยังไงครีม เธอทำแบบนี้ได้ยังไง ลูกร้องไห้หาเธอทุกวัน เธอไม่รู้บ้างเลยเหรอ เธอไม่รักลูกเลยใช่มั้ยถึงทำตัวทุเรสแบบนี้ ทำไมฮะ? ที่ฉันเอาเธออยู่ทุกวันมันไม่พอหรือยังไง ถึงต้องมาให้ไอ้คินมันเอาต่อจากฉัน?” เขาระเบิดอารมณ์ใส่เธอไม่ยั้งทันใดนั้นกำปั้นของคีตะก็พุ่งเข้ามาใส่มุมปาก ของอนาคินทันทีผลัวะ! ผลัวะ!เสียงต่อยตีกันเป็นพัลวันระหว่างคีตะกับอนาคิน ไม่รู้ใครเป็นใคร คริมาตกใจกับภาพตรงหน้า เธอพยายามเข้าไปดึงแขนของอนาคินให้หย
ทางด้านคริมา หลังจากที่เธอได้มาอยู่ที่บ้านของ คีตะได้หนึ่งเดือนแล้ว หญิงสาวเริ่มจะปรับตัวได้แล้ว คีตะจ้างแม่บ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ เขาพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ นี้ ตอนนี้อายุครรภ์ของเธอยังอยู่ในไตรมาสแรก หมอจึงนัดเดือนละหนึ่งครั้งและแน่นอนว่าคีตะจะเป็นคนพาเธอไปหาหมอเอง และทุกสัปดาห์เขาจะมาเยี่ยมเธอพร้อมกับซื้อของบำรุงครรภ์มาให้เธอ จนเธอรู้สึกเกรงใจแต่ก็มิอาจห้ามปรามได้ เพราะถึงเธอจะห้ามแต่เขาก็ไม่ฟังอยู่ดี“ครีมอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง? โอเคหรือเปล่า?”“โอเคค่ะ..พี่คี ครีมอยู่ได้สบายมากค่ะ”“ขอบคุณพี่คีมากๆ นะคะ สำหรับทุกๆ อย่าง”“ไม่เป็นไร..พี่เต็มใจ”“พี่คินทานข้าวมาหรือยังคะ..วันนี้ครีมทำกับข้าวหลายอย่างเลยค่ะ”“ยังเลย กำลังหิวพอดีเลย แหะ แหะ” คีตะยกมือเกาหัวเมื่อเสียงท้องร้องดังขึ้นมาอับอายขายหน้าชะมัดเลย..มาร้องอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ คีตะคิดในใจก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆ ให้เธอ“งั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ”จากนั้นทั้งสองคนก็รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย คีตะเติมข้าวถึงสองครั้งด้วยกัน เขาอิ่มจนพุงกาง“ครีมทำอาหารอร่อยนะ..ดูสิ พี่กินซะเยอะเชียว” คีตะเอ่ยชม ฝีมือการทำอาหารขอ
อนาคินหัวเสียเป็นอย่างมาก เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าคริมาไปจากที่นี่แล้ว หลังจากที่เขาร่วมรักกับเธอและเธอเองก็ตอบสนองเขาอย่างถึงพริกถึงขิงจนเขาคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจยอมเป็นนางบำเรอให้เขาต่อ แต่เธอกลับหนีหายไป..ทิ้งลูกให้ร้องไห้หาแม่คริมาเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายมาก.. ไม่สงสารลูกเลยหรือยังไงกัน..ตั้งแต่ที่คริมาจากไป บ้านนี้ก็แทบไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กหญิงเค้กเลย มีแต่เสียงร้องไห้หาแม่ จนผู้เป็นบิดาทนไม่ไหว เขาตัดสินใจตามหาคริมาอนาคินขับรถตระเวนหาหญิงสาวไปทั่วกรุงเทพฯ หวังว่าจะเจอเธอที่ใดที่หนึ่ง เขาใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาเขาไม่คิดว่าเธอจะกลับไปที่ไร่พรรณิภาอีก แต่เขาก็ไม่มั่นใจ เขาไม่อยากโทรไปถามคุณตา เพราะกลัวว่าคุณตาจะช่วยคริมาปิดบังเขา อนาคินจึงเดินทางไปที่ไร่พรรณิภาด้วยตัวเอง“อ้าวคืน..มาคนเดียวเหรอลูก แล้วหนูครีมกับน้องเค้กไม่ได้มาด้วยเหรอ?” พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาถามออกไปเมื่อเห็นหน้าหลานชายแต่ไม่เห็นคริมากับเด็กหญิงเค้ก“ครีมไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับคุณตา?” อนาคินไม่ตอบหากแต่เป็นฝ่ายถามกลับ“หนูครีมจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..คินก็ถามแปลกๆ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น บอกตา