แชร์

บทที่ 97

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
สำหรับฉู่ชางเหยียนแล้ว การหนีไปของเซิ่งฟางไม่ได้มีภัยคุกคามต่อเขามากนัก

เป้าหมายของเขาคือสร้างผลงานครั้งยิ่งใหญ่ กลับไปแล้วจะได้โค่นล้มราชวงศ์ของฮ่องเต้องค์ก่อน แล้วขึ้นเป็นฮ่องเต้แทน

ใบหน้าของเหยียนเซ่ามีแผลเป็นรอยยาวนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

หลังจากฟังเรื่องราวของเหยียนเซ่าจบ ทุกคนต่างรู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของเขา

ในเมื่อเหยียนเซ่าเป็นพวกเดียวกัน เช่นนั้นก็ต้องจัดหาที่พักให้เขาเช่นกัน

ไม่ต้องรอให้ฮูหยินใหญ่พูดอะไร บ่าวรับใช้หลายคนก็เสนอว่าจะให้เหยียนเซ่ามานอนด้วยกัน

เหยียนเซ่าหันไปมองฉู่จวินสิง ครั้นเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาต เขาจึงค่อยตอบตกลงด้วยความสบายใจ

ตอนนี้ที่พักเป็นอันจัดสรรเรียบร้อย ทุกคนเพียงแค่ต้องรอให้กลิ่นอับภายในห้องจางลงก็เข้าไปพักผ่อนได้แล้ว

ระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ลานบ้าน จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

ไม่นานก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวที่หน้าลานบ้าน

พวกเขาถีบประตูบ้านโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

ประตูบ้านหลุดร่วงลงพื้น

ทุกคนในครอบครัวของฉู่จวินสิงต่างก็หันไปมอง

มองเห็นเพียงว่าบุรุษที่จำเซิ่งฟางได้ก่อนหน้านี้เดินสืบเท้ายาวๆ เข้ามา

ด้านหลังมีบุรุษอีกเจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 98

    เซิ่งฟางถือดาบเดินสาวเท้ายาวๆ เข้าไปหาคนพวกนั้นด้วยความโมโหท่าทีของเขาทำให้กลุ่มคนที่กำลังทุบกำแพงต้องหวาดกลัวพวกเขากำเสียมในมือไว้แน่น ทำท่าจะเข้าปะทะกับเซิ่งฟางเดิมทีเซิ่งฟางคิดว่าตัวเองเคยมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าเมือง ไม่สมควรเป็นศัตรูกับชาวบ้านเหล่านี้แต่นี่พวกเขาคิดจะทุบทำลายก็ทุบเลย นี่มันรังแกกันเกินไปแล้วไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังปรักปรำตนอีกว่าเป็นโจรขายเมืองเซิ่งเฟิงโมโหเกินกว่าที่จะทนไหวจริงๆ เตรียมจะแทงดาบเล่มคมในมือออกไปจังหวะนี้เอง เจี่ยนอันอันเร่งฝีเท้าเดินเข้ามาห้ามนางดึงตัวเซิ่งฟางเอาไว้ ไม่ให้เขาทำเรื่องที่ต้องเสียใจภายหลังเซิ่งฟางหยุดการกระทำของตัวเองและหันไปมองเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันส่ายหน้าให้เขาพร้อมกับกระซิบว่า “ข้าจัดการเอง ท่านอย่าได้ทำอะไรที่จะทำให้พวกเขานำไปต่อว่าได้”เซิ่งฟางนึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะรอบคอบขนาดนี้เขาลดกระบี่ในมือลงแล้วถอยออกไปยืนด้านข้างเจี่ยนอันอันพูดกับหญิงผิวซีดตัวผอมนางนั้น “ท่านป้าท่านนี้ พวกข้าจ่ายเงินซื้อบ้านหลังนี้มา แต่แล้วตอนนี้กลับถูกพวกท่านทุบทำลายกำแพง ต้องชดใช้เงินนะเจ้าคะ”ทั้งที่อายุเพียงยี่สิบแต่กลับถู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 99

    “พวกเจ้ามาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยก็ฆ่าคน พวกข้าจะแจ้งทางการ”“ใช่ ต้องแจ้งทางการ ให้ทางการมาจับพวกเขาไปตัดหัวให้หมด”“ท่านปู่เฉินปล่อยให้คนพวกนี้เข้ามาที่หมู่บ้านของเราได้อย่างไร ครานี้มีคนตายแล้ว อย่าคิดว่าเขาจะรอดตัว”เจี่ยนอันอันแคะหูด้วยความรำคาญใจก่อนจะตวาดลั่น“หุบปากกันให้หมด หากยังกล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะให้พวกเจ้ามีจุดจบแบบเดียวกับเขา!”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้ชาวบ้านพวกนั้นเงียบปากกันทันทีพวกเขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยสายตาเคียดแค้นแต่ไม่กล้าเข้ามาใกล้เจี่ยนอันอันเดินไปที่หญิงสาวนางนั้นแล้วใช้เท้าเตะนางพูดกับหญิงสาว “หลีกไป อย่ามานั่งเกะกะขวางทาง หากถอนพิษไม่ทัน เจ้านั่นแหละที่ต้องชดใช้ชีวิตให้เขา”หญิงสาวโกรธจนตัวสั่น นางกัดฟันกรอดแต่กลับไม่กล้าส่งเสียงใดๆนางรู้ทั้งรู้ว่าเข็มเงินนี้เป็นฝีมือของเจี่ยนอันอัน กระนั้นกลับทำได้เพียงถอยไปด้านข้างโดยไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้นหลังจากที่ดึงเข็มเงินออก เจี่ยนอันอันก็นำโอสถถอนพิษเม็ดหนึ่งจากช่องมิติออกมายัดใส่ปากซ่างชิวโอสถเม็ดละลายในปากอย่างรวดเร็วไม่นาน ซ่างชิวก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเขาร้องโอยแล้วกุมศีรษะพลางลุกขึ้นนั่ง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 100

    เขาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน “เจ้าทำอะไรกับนาง?”เจี่ยนอันอันยักไหล่ตอบอย่างไร้เดียงสา “ข้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ก็แค่หักข้อมือนาง”ชาวบ้านต่างตื่นตกใจเมื่อได้ยินดังนี้เด็กสาวผู้นี้ดูแล้วอายุไม่มาก เหตุใดจึงใจคออำมหิตปานนี้นับว่าวันนี้พวกเขาเจอของยากเข้าแล้วเวลานี้มีคนไปแจ้งท่านปู่เฉินเรียบร้อยแล้วไม่นาน ท่านปู่เฉินก็เดินเข้ามาด้วยความเร่งร้อนเขามองกำแพงบ้านที่พังเสียหายไปด้านหนึ่ง มองคนสองคนที่กำลังนั่งบนพื้นท่านปู่เฉินเข้าใจทันทีและร้องตะโกนว่า “พวกเจ้ากำลังทำอะไร เหตุใดต้องสร้างปัญหาให้บ้านคนอื่นด้วย?”ซ่างชิวเห็นว่าท่านปู่เฉินมาถึงแล้วก็รีบลุกขึ้นยืนเขาอดกลั้นต่ออาการปวดแปลบในทรวงอกพร้อมกับพูดกับท่านปู่เฉิน “ท่านปู่ พวกเขาไม่เพียงคิดจะอยู่หมู่บ้านชิงสุ่ยของเราเปล่าๆ แต่ยังใช้ยาพิษกับข้า เกือบทำให้ข้าตายไปแล้ว นอกจากนี้ นังเด็กคนนี้ยังหักข้อมือของอวี้เฟิ่งด้วย”อวี้เฟิ่งวิ่งร้องไห้คร่ำครวญมาหาท่านปู่เฉิน“ท่านปู่ ท่านต้องทวงความยุติธรรมให้ข้านะเจ้าคะ!”ท่านปู่เฉินมองอวี้เฟิ่งที่เอาแต่กุมข้อมือ พบว่าข้อมือของนางบวมแดงเขาไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่เมื่อค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 101

    ซ่างชิวก้าวออกมาพูดเป็นคนแรก “อวี้เฟิ่ง เจ้าพูดอะไรของเจ้า”“ก่อนหน้านี้เจ้าพูดเองว่าคนเหล่านี้มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน”“เจ้ายังบอกว่าพวกเขาขโมยแม่ไก่แก่ที่บ้านเจ้าเลี้ยงไว้มาหลายปีไปอีกต่างหาก พวกข้าถึงได้มาทวงคำอธิบายจากพวกเขา”“แต่พอมาถึงที่นี่ เจ้ากลับให้พวกข้าทุบบ้านคนอื่นเสียอย่างนั้น”ชายอีกคนก็ก้าวออกมาเหมือนกัน เขาชี้หน้าด่าทออวี้เฟิ่ง“หน็อยแน่ อวี้เฟิ่ง เจ้าช่างกลับดำเป็นขาวเก่งจริงๆ”“บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นบ้านท่านย่าหลี่ เจ้ายังพูดว่าเจ้าสนิทกับท่านย่าหลี่ที่สุดแล้ว”“ตอนนี้พวกเขาไม่อยู่แล้ว เจ้าพูดว่าถึงทุบบ้านหลังนี้ทิ้งก็ไม่มีทางเป็นเรื่อง”“อะไรกัน ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว เจ้าก็ปัดความรับผิดชอบเสียหมด แล้วโยนมาให้พวกข้ารับผิดแทนอย่างนั้นรึ?”ผู้ชายคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าทออวี้เฟิ่งเช่นกัน“ใช่แล้ว ต่อให้แจ้งความ ถ้าจะจับก็ต้องจับอวี้เฟิ่ง จะมาจับพวกเราไม่ได้”“ข้าเสียใจจริงๆ ทำไมถึงหลงเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้มาทุบผนังบ้านคนอื่นได้นะ”“ข้าบอกตั้งนานแล้วว่าอย่าไปเชื่อคำนาง นางทำร้ายพวกเราจริงๆ แล้วเนี่ย”อวี้เฟิ่งมองดูพวกเขาแต่ละคนผลัดกันด่าทอนางอย่างดุเดือดจนถึ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 102

    ท่านปู่เฉินกล่าวพลางเหลือบมองเงินแท่งในมือตัวเองเขาส่งเงินไปตรงหน้าเจี่ยนอันอันแล้วกล่าวอีกครั้ง “เงินนี้ข้าคืนให้เจ้า ถือเสียว่าชดใช้เงินให้เจ้าแทนอวี้เฟิ่งก็แล้วกัน”เจี่ยนอันอันไม่คิดจะปล่อยอวี้เฟิ่งไปเช่นนี้นางกล่าวอย่างเย็นชา “ท่านปู่เฉิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน ท่านอย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า”“เงินของท่าน ข้าก็จะไม่รับไว้ บอกแล้วว่านี่เป็นเงินที่ซื้อบ้านของท่าน”“ท่านเก็บไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้ท่านป้าผู้นี้ขโมยไปได้เชียวนะเจ้าคะ”ท่านปู่เฉินเห็นเจี่ยนอันอันไม่ยอมรับเงิน เขาจึงกวาดสายตามองไปทางฉู่จวินสิงและคนในครอบครัวฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาดึงตัวเจี่ยนอันอันมากระซิบว่า “ข้าว่าเลิกแล้วกันเท่านี้ดีกว่า”“อย่างไรเสียวันหน้าพวกเราก็ยังต้องอาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าพวกเราผูกความแค้นกับคนที่นี่ก็คงไม่ดี”เจี่ยนอันอันมองฮูหยินใหญ่ แล้วหันไปมองท่านปู่เฉินสุดท้าย สายตานางก็ไปตกที่ร่างอวี้เฟิ่ง“ในเมื่อฮูหยินใหญ่ของพวกข้าช่วยพูดแทนท่าน วันนี้ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”“ถ้าต่อไปเจ้ามาทำเรื่องที่เป็นผลร้ายต่อคนในครอบครัวข้าอีก ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!”อวี้เฟิ่งจ้องเจี่ยนอันอันอย่างอึ้งๆ เนิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 103

    ซ่างชิวอึดอัดจนหน้าซีดขาวไปหมด เขากุมอกแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเจี่ยนอันอันเสียงดัง ‘ตึง!’“ครู่ก่อนข้าผิดเอง ข้าไม่ควรหลงเชื่อเสียงลือ แม่นางโปรดให้อภัยด้วย ละเว้นข้าสักครั้งเถอะ”หลังซ่างชิวพูดจบก็เริ่มหอบหายใจอย่างรุนแรงเซิ่งฟางเห็นซ่างชิวหายใจไม่สะดวกจนเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้เขารีบกล่าวกับเจี่ยนอันอันว่า “ให้ยาแก้พิษเขาไปก่อนเถอะ ข้ายังมีเรื่องอยากถามเขา”เจี่ยนอันอันนึกขึ้นได้ว่าซ่างชิวเอาแต่พูดว่าเซิ่งฟางเป็นโจรร้ายที่ขายเมืองอินเป่ยนางก็อยากรู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่เจี่ยนอันอันหยิบยาแก้พิษออกมาจากห้วงมิติ โยนไปให้ซ่างชิวซ่างชิวรีบกินยาแก้พิษลงไปทันทีโดยไม่หยุดคิดด้วยซ้ำผ่านไปไม่นาน ลมหายใจของเขาก็ราบรื่นขึ้นมากเซิ่งฟางเห็นซ่างชิวอาการดีขึ้นมากแล้ว เขายกกระบี่ในมือขึ้นไปพาดเหนือลำคอของซ่างชิวเซิ่งฟางถามเสียงเข้ม “เจ้าเอาแต่พูดว่าข้าเป็นโจรร้ายที่ขายเมืองอินเป่ย เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”ซ่างชิวเงยหน้ามองเซิ่งฟาง ดวงตาเผยความดุร้ายชิงชัง“หึ เรื่องนี้แพร่สะพัดทั่วเมืองอินเป่ยตั้งนานแล้ว”“พวกเชื้อพระวงศ์ที่ฆ่าล้างเมืองยังติดประกาศไว้ด้วย”“บนนั้นเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 104

    หลังได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง ซ่างชิวก็เริ่มนึกสงสัยขึ้นมาในใจเขายังคงไม่กล้าเชื่อคำพูดของฉู่จวินสิงอยู่ดีต่อให้บนประกาศแผ่นนั้นไม่มีรอยประทับตราลัญจกรหยกก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเซิ่งฟางไม่ได้ขายเมืองอินเป่ยอยู่ดีเดิมนั้นเมืองอินเป่ยของพวกเขาเป็นเมืองอิสระแห่งหนึ่ง ไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของฮ่องเต้แคว้นไหนผู้คนในเมืองสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระตอนนี้ประเสริฐนัก ที่นี่กลับกลายเป็นเขตปกครองของฮ่องเต้แคว้นไท่ยวนไปเสียแล้วขณะที่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไม่เพียงแต่ไม่ปกครองเมืองอินเป่ยให้ดี แต่ยังส่งกองทัพมาประจำการที่นี่อีกต่างหากประตูเมืองปิดไว้ตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้ชาวเมืองอินเป่ยคนไหนออกไปจากที่นี่คิดถึงตรงนี้ ซ่างชิวก็แค้นใจจนแทบจะขบฟันแตกเขามองไปทางเซิ่งฟาง เอ่ยเสียงโกรธเกรี้ยว “ต่อให้ประกาศแผ่นนี้เป็นของปลอมแล้วอย่างไร เมืองอินเป่ยย่อยยับไปแล้ว”“แต่เจ้าที่เป็นเจ้าเมือง ไยจึงยังมีชีวิตอยู่”“เจ้ากลับมาทำไม ทำไมถึงไม่ตายไปเสียข้างนอกนั่น!”เซิ่งฟางก้มหน้าเงียบงันไม่เอ่ยวาจา เขาคิดไม่ถึงว่าชื่อเสียงของตนเองในเมืองอินเป่ยจะเปลี่ยนเป็นเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้เมื่อครู่นี้ซ่างชิวบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 105

    ผู้ชายเหล่านั้นหยิบอีเต้อ[1]ขึ้นมาจากบนพื้น แล้วเดินออกไปจากในเรือนซ่างชิวยืนอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันให้เขาอยู่ต่อทำไมเมื่อครู่นี้เขาเห็นแล้วว่าแค่เจี่ยนอันอันแกว่งสร้องทองเส้นนั้นไม่กี่ครั้ง แววตาของชาวบ้านเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอยหัวใจเขาพลันเขม็งเกลียว ยิ่งไม่กล้าทำตัวโอหังต่อหน้าเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันชี้ไปทางประตูเรือนที่ถูกถีบจนพัง “ท่านถีบประตูบานนั้นพัง ท่านต้องรับผิดชอบซ่อมมัน”ซ่างชิวนึกว่าที่เจี่ยนอันอันให้เขาอยู่ต่อเพราะคิดจะทำร้ายตนเองคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันแค่ต้องการให้เขาซ่อมประตูเรือนเขาลอบโล่งอก รีบไปซ่อมประตูเรือนทันทีประตูบานนั้นไม่ได้รับการซ่อมบำรุงมานานปี อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาแต่แรกแล้วถึงจะติดตั้งเข้าไปใหม่ แต่ก็คงจะหลุดลงมาสักวันหนึ่งในอนาคตอยู่ดีซ่างชิวคิดว่าเขาจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ต่อเจี่ยนอันอันเขาบอกความคิดของตนเองออกมาเจี่ยนอันอันมองประตูเล็กน้อย แล้วหันไปมองประตูห้องของทั้งห้าห้องนางเอ่ยกับซ่างชิว “ท่านตามข้าออกไปข้างนอกสักครู่”ซ่างชิวไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันต้องการจะทำอะไร เขาไม่กล้าปฏิเสธเช่นกัน จึงได้แต่เดินตามเจี

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status