Share

บทที่ 103

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ซ่างชิวอึดอัดจนหน้าซีดขาวไปหมด เขากุมอกแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเจี่ยนอันอันเสียงดัง ‘ตึง!’

“ครู่ก่อนข้าผิดเอง ข้าไม่ควรหลงเชื่อเสียงลือ แม่นางโปรดให้อภัยด้วย ละเว้นข้าสักครั้งเถอะ”

หลังซ่างชิวพูดจบก็เริ่มหอบหายใจอย่างรุนแรง

เซิ่งฟางเห็นซ่างชิวหายใจไม่สะดวกจนเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้

เขารีบกล่าวกับเจี่ยนอันอันว่า “ให้ยาแก้พิษเขาไปก่อนเถอะ ข้ายังมีเรื่องอยากถามเขา”

เจี่ยนอันอันนึกขึ้นได้ว่าซ่างชิวเอาแต่พูดว่าเซิ่งฟางเป็นโจรร้ายที่ขายเมืองอินเป่ย

นางก็อยากรู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่

เจี่ยนอันอันหยิบยาแก้พิษออกมาจากห้วงมิติ โยนไปให้ซ่างชิว

ซ่างชิวรีบกินยาแก้พิษลงไปทันทีโดยไม่หยุดคิดด้วยซ้ำ

ผ่านไปไม่นาน ลมหายใจของเขาก็ราบรื่นขึ้นมาก

เซิ่งฟางเห็นซ่างชิวอาการดีขึ้นมากแล้ว เขายกกระบี่ในมือขึ้นไปพาดเหนือลำคอของซ่างชิว

เซิ่งฟางถามเสียงเข้ม “เจ้าเอาแต่พูดว่าข้าเป็นโจรร้ายที่ขายเมืองอินเป่ย เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”

ซ่างชิวเงยหน้ามองเซิ่งฟาง ดวงตาเผยความดุร้ายชิงชัง

“หึ เรื่องนี้แพร่สะพัดทั่วเมืองอินเป่ยตั้งนานแล้ว”

“พวกเชื้อพระวงศ์ที่ฆ่าล้างเมืองยังติดประกาศไว้ด้วย”

“บนนั้นเ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 104

    หลังได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง ซ่างชิวก็เริ่มนึกสงสัยขึ้นมาในใจเขายังคงไม่กล้าเชื่อคำพูดของฉู่จวินสิงอยู่ดีต่อให้บนประกาศแผ่นนั้นไม่มีรอยประทับตราลัญจกรหยกก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเซิ่งฟางไม่ได้ขายเมืองอินเป่ยอยู่ดีเดิมนั้นเมืองอินเป่ยของพวกเขาเป็นเมืองอิสระแห่งหนึ่ง ไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของฮ่องเต้แคว้นไหนผู้คนในเมืองสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระตอนนี้ประเสริฐนัก ที่นี่กลับกลายเป็นเขตปกครองของฮ่องเต้แคว้นไท่ยวนไปเสียแล้วขณะที่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไม่เพียงแต่ไม่ปกครองเมืองอินเป่ยให้ดี แต่ยังส่งกองทัพมาประจำการที่นี่อีกต่างหากประตูเมืองปิดไว้ตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้ชาวเมืองอินเป่ยคนไหนออกไปจากที่นี่คิดถึงตรงนี้ ซ่างชิวก็แค้นใจจนแทบจะขบฟันแตกเขามองไปทางเซิ่งฟาง เอ่ยเสียงโกรธเกรี้ยว “ต่อให้ประกาศแผ่นนี้เป็นของปลอมแล้วอย่างไร เมืองอินเป่ยย่อยยับไปแล้ว”“แต่เจ้าที่เป็นเจ้าเมือง ไยจึงยังมีชีวิตอยู่”“เจ้ากลับมาทำไม ทำไมถึงไม่ตายไปเสียข้างนอกนั่น!”เซิ่งฟางก้มหน้าเงียบงันไม่เอ่ยวาจา เขาคิดไม่ถึงว่าชื่อเสียงของตนเองในเมืองอินเป่ยจะเปลี่ยนเป็นเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้เมื่อครู่นี้ซ่างชิวบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 105

    ผู้ชายเหล่านั้นหยิบอีเต้อ[1]ขึ้นมาจากบนพื้น แล้วเดินออกไปจากในเรือนซ่างชิวยืนอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันให้เขาอยู่ต่อทำไมเมื่อครู่นี้เขาเห็นแล้วว่าแค่เจี่ยนอันอันแกว่งสร้องทองเส้นนั้นไม่กี่ครั้ง แววตาของชาวบ้านเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอยหัวใจเขาพลันเขม็งเกลียว ยิ่งไม่กล้าทำตัวโอหังต่อหน้าเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันชี้ไปทางประตูเรือนที่ถูกถีบจนพัง “ท่านถีบประตูบานนั้นพัง ท่านต้องรับผิดชอบซ่อมมัน”ซ่างชิวนึกว่าที่เจี่ยนอันอันให้เขาอยู่ต่อเพราะคิดจะทำร้ายตนเองคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันแค่ต้องการให้เขาซ่อมประตูเรือนเขาลอบโล่งอก รีบไปซ่อมประตูเรือนทันทีประตูบานนั้นไม่ได้รับการซ่อมบำรุงมานานปี อยู่ในสภาพทรุดโทรมมาแต่แรกแล้วถึงจะติดตั้งเข้าไปใหม่ แต่ก็คงจะหลุดลงมาสักวันหนึ่งในอนาคตอยู่ดีซ่างชิวคิดว่าเขาจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ต่อเจี่ยนอันอันเขาบอกความคิดของตนเองออกมาเจี่ยนอันอันมองประตูเล็กน้อย แล้วหันไปมองประตูห้องของทั้งห้าห้องนางเอ่ยกับซ่างชิว “ท่านตามข้าออกไปข้างนอกสักครู่”ซ่างชิวไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันต้องการจะทำอะไร เขาไม่กล้าปฏิเสธเช่นกัน จึงได้แต่เดินตามเจี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 106

    เมื่อเจี่ยนอันอันพูดถึงตรงนี้ ฉู่อันเจ๋อก็ตกใจมากเขาอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกอยู่เนิ่นนานเจี่ยนอันอันพูดต่อ “หากวันหน้าเจ้าเห็นข้าเสกอะไรออกมาได้ก็ไม่ต้องแปลกใจ”“เพราะข้าเก็บของไว้ในห้วงมิติเยอะมาก”เจี่ยนอันอันพูดถึงตรงนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนางต้องรอให้ฉู่อันเจ๋อค่อยๆ ทำความเข้าใจครู่หนึ่ง ซ่างชิวก็กลับมาเขาแบกประตูไม้สามบานที่เหลือแล้วเดินกลับไปตอนนี้เอง ฉู่อันเจ๋อถึงค่อยคืนสติในที่สุดเขาสูดหายใจดังเฮือกและถามออกมาว่า “พี่สะใภ้รอง ท่านมีห้วงมิติที่ทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างไร?”“แล้วก็อีกเรื่อง เหตุใดทรัยพ์ของจวนเยียนอ๋องจึงมาอยู่ในห้วงมิติของท่านได้?”ฉู่อันเจ๋อนึกถึงเหตุการณ์ที่บรรดาทหารรักษาพระองค์บุกมายึดทรัพย์ ตอนนั้นบรรดาทหารรักษาพระองค์ต่างก็พูดว่าไม่พบของมีค่าในจวนเยียนอ๋องเวลานั้นฉู่อันเจ๋อกลัดกลุ้มมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันจนพวกเขาไม่ทันได้ขนย้ายทรัพย์สินในจวนทว่าทรัพย์สินพวกนั้นกลับหายไปในอากาศเขาเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้ ที่แท้แล้ว ทรัพย์สินพวกนั้นก็ถูกเจี่ยนอันอันขนย้ายไปแต่นางกวาดเอาทรัพย์สมบัติในจวนเยียนอ๋องออกไปได้โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยได้อย่างไร?

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 107

    เมื่อทั้งสามคนกลับเข้ามายังลานบ้านก็เห็นว่าซ่างชิวกำลังจดจ่อกับการซ่อมประตูตอนนี้ประตูลานบ้านได้รับการติดตั้งใหม่เรียบร้อยแล้ว ดูแล้วแข็งแรงกว่าของเดิมมากฮูหยินใหญ่เห็นทั้งสามคนกลับมาก็รีบเดินออกมารับนางชี้ประตูไม้พวกนั้นแล้วถามอย่างสงสัย “ประตูพวกนี้มาจากที่ใด?”เจี่ยนอันอันไม่ได้พูด เป็นฉู่อันเจ๋อที่ชิงพูดขึ้นก่อนว่า“เมื่อครู่นี้พวกข้าไปที่บ้านของซ่างชิว ประตูพวกนี้ถูกถอดมาจากประตูบ้านของเขา”เจี่ยนอันอันฟังแล้วอดหัวเราะ “พรืด” ออกมาไม่ได้เจ้าเด็กคนนี้แต่งเรื่องเก่งไม่เบาดูแล้วการบอกเรื่องห้วงมิติกับเขาจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายฉู่อันเจ๋อยิ้มยิงฟันให้เจี่ยนอันอันแล้วกระซิบเสียงเบาว่า “พี่สะใภ้รอง เหตุผลของข้าไม่เลวเลยใช่หรือไม่”เจี่ยนอันอันยกนิ้วหัวแม่มือให้เจี่ยนอันอัน “ไม่เลว ไม่เลวเลย”ฮูหยินใหญ่ได้ยินว่าเป็นประตูจากบ้านซ่างชิวนางก็เริ่มเป็นกังวล “เช่นนี้ไม่ค่อยดีกระมัง พวกเจ้าถอดประตูมาแบบนี้ เช่นนั้นเขาจะอยู่บ้านอย่างไร”เจี่ยนอันอันยิ้มตาหยีให้ฉู่อันเจ๋อแล้วยักคิ้วฉู่อันเจ๋อปัดมือว่า “ท่านแม่ใหญ่ เรื่องนี้ท่านไม่ต้องสนใจ”“บ้านเขามีประตูเยอะมาก น้อยลงสักสองส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 108

    ฮูหยินรองซึ่งนิ่งเงียบมาโดยตลอดพูดข้อสงสัยของตัวเองออกมาในที่สุด“เจ้าบอกว่าตัวเองสั่งให้เจี่ยนอันอันซ่อนของพวกนี้หรือ?”“แต่ตลอดทางมานี้ พวกข้าไม่เคยจะเห็นเลยว่านางซ่อนของพวกนี้ไว้ที่ใด”“จวินสิง เจ้าอย่ามาหลอกพวกข้า บอกความจริงมาเถอะว่าผ้าห่มกับหมอนพวกนี้มาจากที่ใดกันแน่?”ฉู่สิงจวินมองเจี่ยนอันอัน หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “พวกท่านก็รู้ว่าอันอันมีความสามารถในการหยั่งรู้อนาคต”“นางนำเรื่องที่จวนเยียนอ๋องของพวกเราจะถูกยึดทรัพย์มาบอกกับข้า”“ข้าห่วงว่าต่อไปทุกคนจะไร้อาภรณ์ให้สวมและไร้ผ้าห่มอุ่นกาย ด้วยเหตุนี้จึงไปขอถุงเฉียนคุน[1]มาจากผู้วิเศษ”“ข้านำผ้าห่มและอาภรณ์ทั้งหมดในจวนไปเก็บในถุงเฉียนคุนใบนั้น”“ก่อนที่จะถูกฮ่องเต้จับตัว ข้ากับอันอันได้พบกันและมอบถุงเฉียนคุนให้กับนาง”ฉู่จวินสิงพูดถึงตรงนี้แล้วก็มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาลุ่มลึกเจี่ยนอันอันรีบพยักหน้าและช่วยกลบเกลื่อนทันที “ฉู่จวินสิงพูดความจริง”เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนสงสัย เจี่ยนอันอันทำการซื้อถุงผ้าไหมใบเล็กมาจากร้านค้าหนึ่งใบนางถือถุงผ้าไหมไว้ในมือแล้วแสดงให้ทุกคนเห็น “เชิญทุกท่านดู นี่ก็คือถุงเฉียนคุ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 109

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันก้มหน้ายืนแน่นิ่งอยู่ที่ประตู ราวกับกำลังต่อสู้กันในใจเขากระแอมไอเบาๆ ทำลายความเงียบภายในห้อง“ช่วงนี้คงต้องลำบากให้เจ้านอนห้องเดียวกับข้าไปก่อน”“เพื่อรักษาชื่อเสียงของเจ้า ข้าจะรีบแต่งเจ้าเข้าเรือนโดยเร็วที่สุด”เจี่ยนอันอันฟังแล้วอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้นางเงยหน้าขึ้นมองฉู่จวินสิงที่นอนอยู่บนเตียงอุ่นนางอยากปฏิเสธการแต่งงานกับฉู่จวินสิง กระนั้นกลับไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดีแม้พวกนางจะรู้จักกันมาได้สักพัก แต่นางไม่ได้มีความรู้สึกเชิงนั้นกับฉู่จวินสิงแต่อย่างใดนางไม่อยากแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักเร็วขนาดนั้นครั้นนึกถึงว่าสภาพร่างกายของฉู่จวินสิงยังไม่หายเป็นปกติดี เจี่ยนอันอันก็รู้สึกว่าควรรักษาเขาให้หายดีก่อนค่อยว่ากัน“ข้า ข้าจะฉีดยาให้ท่านก่อน” เจี่ยนอันอันพูดแล้วนำขวดน้ำเกลือกับยางรัดออกมานางเดินมาที่ข้างเตียง คว้ามือของฉู่จวินสิงเพื่อฉีดยาให้เขาชั่วพริบตาที่มือของทั้งสองคนแตะเข้าด้วยกัน ทั้งคู่ราวกับถูกไฟดูดก็ไม่ปาน ต้องหดมือพร้อมกันกลับโดยมิได้นัดหมายฉู่จวินสิงรู้สึกว่ามือของเจี่ยนอันอันอ่อนนุ่มและเย็นยะเยียบวินาทีที่ถูกนางส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 110

    จริงอยู่ที่นางนอนดิ้น แต่นั่นเป็นสิ่งที่นางกระทำออกไปโดยไม่รู้ตัวนางถลึงตามองฉู่จวินสิงด้วยความโมโห จากนั้นหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากเสวนากับเขา ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันโมโหขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ได้หยอกล้อนางอีกผ่านไปเนิ่นนาน น้ำเกลือในขวดก็ใกล้จะหมดลงเจี่ยนอันอันจ้องขวดน้ำเกลือ เริ่มคิดถึงครอบครัวในยุคปัจจุบัน เมื่อนางลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในแคว้นที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนไม่รู้ว่าตอนนี้ครอบครัวของนางเป็นอย่างไรกันบ้างหากพวกเขารู้ว่านางหายไป พวกเขาจะตามหานางอย่างบ้าคลั่งหรือไม่?ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เสียงของฉู่จวินสิงก็ลอยเข้าสู่หูของนาง“น้ำในขวดหมดแล้ว”เจี่ยนอันอันเพิ่งเห็นว่ายาในขวดน้ำเกลือหมดลงแล้วไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ในสายให้น้ำเกลือก็ไม่มีน้ำเช่นกันนางรีบลุกไปดึงเข็มออกจากฉู่จวินสิง“ให้ยาเสร็จแล้ว ท่านพักผ่อนได้แล้วล่ะ”เจี่ยนอันอันเก็บขวดน้ำเกลือเข้าสู่ห้วงมิติแล้วกลับไปนั่งที่เดิมฉู่จวินสิงเอ่ยปากถาม “เหตุใดเจ้าไม่นอนลง?”เจี่ยนอันอันกลอกตามองบนใส่ฉู่จวินสิงก่อนจะตอบอย่างหงุดหงิด “ข้ายังไม่ง่วง ท่านนอนก่อนเลย ไม่ต้องสนใจข้า”ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 111

    ฉู่จวินสิงมองแสงอาทิตย์นอกหน้าต่างปราดหนึ่ง พบว่าล่วงเลยยามเฉิน[1]มาแล้ว บ่าวรับใช้กำลังทำงานกันอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อพวกเขาเห็นเจี่ยนอันอันเดินออกมาก็ทักทายนางด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคืนนี้พระชายาเยียนอ๋องหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ?”เจี่ยนอันอันปัดมือ “ตอนนี้ข้าไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง พวกเจ้าอย่าเรียกข้าแบบนี้”“หากถูกผู้ไม่หวังดีได้ยินเข้าจะไม่ดี”บรรดาบ่าวรับใช้ต่างตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองใช้คำผิดพวกเขารีบเปลี่ยนสรรพนาม “ฮูหยินน้อยรอง พวกข้าผิดไปแล้ว”เจี่ยนอันอันเห็นพวกเขาเอาแต่ตอบรับด้วยความเชื่อฟังก็รีบพูดว่า“ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันแล้วก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเจ้าไม่ต้องมาพิธีกับข้าขนาดนั้น”บรรดาบ่าวรับใช้เห็นเจี่ยนอันอันไม่มีมาดของการเจ้านายแม้แต่น้อยก็พยักหน้ายิ้มเจี่ยนอันอันเร่งร้อนไปห้องปลดทุกข์ ไม่ได้สนใจพวกเขาอีกห้องปลดทุกข์มีขนาดไม่ใหญ่นัก สร้างอยู่ด้านหลังเรือนหลักหลังจากที่เข้าปลดทุกข์เสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าด้านหลังเรือนหลักมีสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ที่นี่มีวัชพืชปกคลุมเต็มพื้นที่ หนูตัวผอมแห้งดุจไม้ฟืนสองสามตัวค่อยๆ คลานผ่านหน้านา

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status