Share

บทที่ 108

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ฮูหยินรองซึ่งนิ่งเงียบมาโดยตลอดพูดข้อสงสัยของตัวเองออกมาในที่สุด

“เจ้าบอกว่าตัวเองสั่งให้เจี่ยนอันอันซ่อนของพวกนี้หรือ?”

“แต่ตลอดทางมานี้ พวกข้าไม่เคยจะเห็นเลยว่านางซ่อนของพวกนี้ไว้ที่ใด”

“จวินสิง เจ้าอย่ามาหลอกพวกข้า บอกความจริงมาเถอะว่าผ้าห่มกับหมอนพวกนี้มาจากที่ใดกันแน่?”

ฉู่สิงจวินมองเจี่ยนอันอัน หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “พวกท่านก็รู้ว่าอันอันมีความสามารถในการหยั่งรู้อนาคต”

“นางนำเรื่องที่จวนเยียนอ๋องของพวกเราจะถูกยึดทรัพย์มาบอกกับข้า”

“ข้าห่วงว่าต่อไปทุกคนจะไร้อาภรณ์ให้สวมและไร้ผ้าห่มอุ่นกาย ด้วยเหตุนี้จึงไปขอถุงเฉียนคุน[1]มาจากผู้วิเศษ”

“ข้านำผ้าห่มและอาภรณ์ทั้งหมดในจวนไปเก็บในถุงเฉียนคุนใบนั้น”

“ก่อนที่จะถูกฮ่องเต้จับตัว ข้ากับอันอันได้พบกันและมอบถุงเฉียนคุนให้กับนาง”

ฉู่จวินสิงพูดถึงตรงนี้แล้วก็มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาลุ่มลึก

เจี่ยนอันอันรีบพยักหน้าและช่วยกลบเกลื่อนทันที “ฉู่จวินสิงพูดความจริง”

เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนสงสัย เจี่ยนอันอันทำการซื้อถุงผ้าไหมใบเล็กมาจากร้านค้าหนึ่งใบ

นางถือถุงผ้าไหมไว้ในมือแล้วแสดงให้ทุกคนเห็น “เชิญทุกท่านดู นี่ก็คือถุงเฉียนคุ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
เทพประจักษ์ นาสมฝั
กำลังม่วนเลย
goodnovel comment avatar
เทพประจักษ์ นาสมฝั
อยากอ่านต่อแล้วจ้า มาอัพเยอะๆหน่อย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 109

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันก้มหน้ายืนแน่นิ่งอยู่ที่ประตู ราวกับกำลังต่อสู้กันในใจเขากระแอมไอเบาๆ ทำลายความเงียบภายในห้อง“ช่วงนี้คงต้องลำบากให้เจ้านอนห้องเดียวกับข้าไปก่อน”“เพื่อรักษาชื่อเสียงของเจ้า ข้าจะรีบแต่งเจ้าเข้าเรือนโดยเร็วที่สุด”เจี่ยนอันอันฟังแล้วอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้นางเงยหน้าขึ้นมองฉู่จวินสิงที่นอนอยู่บนเตียงอุ่นนางอยากปฏิเสธการแต่งงานกับฉู่จวินสิง กระนั้นกลับไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดีแม้พวกนางจะรู้จักกันมาได้สักพัก แต่นางไม่ได้มีความรู้สึกเชิงนั้นกับฉู่จวินสิงแต่อย่างใดนางไม่อยากแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักเร็วขนาดนั้นครั้นนึกถึงว่าสภาพร่างกายของฉู่จวินสิงยังไม่หายเป็นปกติดี เจี่ยนอันอันก็รู้สึกว่าควรรักษาเขาให้หายดีก่อนค่อยว่ากัน“ข้า ข้าจะฉีดยาให้ท่านก่อน” เจี่ยนอันอันพูดแล้วนำขวดน้ำเกลือกับยางรัดออกมานางเดินมาที่ข้างเตียง คว้ามือของฉู่จวินสิงเพื่อฉีดยาให้เขาชั่วพริบตาที่มือของทั้งสองคนแตะเข้าด้วยกัน ทั้งคู่ราวกับถูกไฟดูดก็ไม่ปาน ต้องหดมือพร้อมกันกลับโดยมิได้นัดหมายฉู่จวินสิงรู้สึกว่ามือของเจี่ยนอันอันอ่อนนุ่มและเย็นยะเยียบวินาทีที่ถูกนางส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 110

    จริงอยู่ที่นางนอนดิ้น แต่นั่นเป็นสิ่งที่นางกระทำออกไปโดยไม่รู้ตัวนางถลึงตามองฉู่จวินสิงด้วยความโมโห จากนั้นหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากเสวนากับเขา ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันโมโหขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ได้หยอกล้อนางอีกผ่านไปเนิ่นนาน น้ำเกลือในขวดก็ใกล้จะหมดลงเจี่ยนอันอันจ้องขวดน้ำเกลือ เริ่มคิดถึงครอบครัวในยุคปัจจุบัน เมื่อนางลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในแคว้นที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนไม่รู้ว่าตอนนี้ครอบครัวของนางเป็นอย่างไรกันบ้างหากพวกเขารู้ว่านางหายไป พวกเขาจะตามหานางอย่างบ้าคลั่งหรือไม่?ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังคิดเรื่อยเปื่อย เสียงของฉู่จวินสิงก็ลอยเข้าสู่หูของนาง“น้ำในขวดหมดแล้ว”เจี่ยนอันอันเพิ่งเห็นว่ายาในขวดน้ำเกลือหมดลงแล้วไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ในสายให้น้ำเกลือก็ไม่มีน้ำเช่นกันนางรีบลุกไปดึงเข็มออกจากฉู่จวินสิง“ให้ยาเสร็จแล้ว ท่านพักผ่อนได้แล้วล่ะ”เจี่ยนอันอันเก็บขวดน้ำเกลือเข้าสู่ห้วงมิติแล้วกลับไปนั่งที่เดิมฉู่จวินสิงเอ่ยปากถาม “เหตุใดเจ้าไม่นอนลง?”เจี่ยนอันอันกลอกตามองบนใส่ฉู่จวินสิงก่อนจะตอบอย่างหงุดหงิด “ข้ายังไม่ง่วง ท่านนอนก่อนเลย ไม่ต้องสนใจข้า”ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 111

    ฉู่จวินสิงมองแสงอาทิตย์นอกหน้าต่างปราดหนึ่ง พบว่าล่วงเลยยามเฉิน[1]มาแล้ว บ่าวรับใช้กำลังทำงานกันอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อพวกเขาเห็นเจี่ยนอันอันเดินออกมาก็ทักทายนางด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคืนนี้พระชายาเยียนอ๋องหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ?”เจี่ยนอันอันปัดมือ “ตอนนี้ข้าไม่ใช่พระชายาเยียนอ๋อง พวกเจ้าอย่าเรียกข้าแบบนี้”“หากถูกผู้ไม่หวังดีได้ยินเข้าจะไม่ดี”บรรดาบ่าวรับใช้ต่างตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองใช้คำผิดพวกเขารีบเปลี่ยนสรรพนาม “ฮูหยินน้อยรอง พวกข้าผิดไปแล้ว”เจี่ยนอันอันเห็นพวกเขาเอาแต่ตอบรับด้วยความเชื่อฟังก็รีบพูดว่า“ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันแล้วก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเจ้าไม่ต้องมาพิธีกับข้าขนาดนั้น”บรรดาบ่าวรับใช้เห็นเจี่ยนอันอันไม่มีมาดของการเจ้านายแม้แต่น้อยก็พยักหน้ายิ้มเจี่ยนอันอันเร่งร้อนไปห้องปลดทุกข์ ไม่ได้สนใจพวกเขาอีกห้องปลดทุกข์มีขนาดไม่ใหญ่นัก สร้างอยู่ด้านหลังเรือนหลักหลังจากที่เข้าปลดทุกข์เสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าด้านหลังเรือนหลักมีสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ที่นี่มีวัชพืชปกคลุมเต็มพื้นที่ หนูตัวผอมแห้งดุจไม้ฟืนสองสามตัวค่อยๆ คลานผ่านหน้านา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 112

    เจี่ยนอันอันชี้ไปที่เสบียงอาหารกับผักในลานบ้าน“ท่านก็เห็นแล้ว บ้านพวกข้าไม่มีที่สำหรับเก็บเสบียงอาหารและผักเหล่านี้”“ข้าหวังว่าท่านจะช่วยสร้างห้องเก็บของ”“รอสร้างเสร็จแล้ว ข้าค่อยช่วยถอนพิษในตัวท่าน”ซ่างชิวคิดว่าเงื่อนไขของเจี่ยนอันอันจะโหดร้ายทารุณ ที่แท้ก็แค่ให้สร้างห้องเก็บของเท่านั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ง่ายจนไม่รู้จะง่ายอย่างไรสำหรับเขา แม้ว่าหมู่บ้านชิงสุ่ยจะยากจนมาก แต่ที่นี่มีดินเหนียวก็ทั่วทุกที่บ้านที่นี่ล้วนแต่สร้างจากดินเหนียวสมัยที่พ่อของเขาช่วยสร้างบ้านให้ชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยเขาเองก็เคยช่วยลงแรงไม่น้อยขอเพียงเขาเป็นคนออกหน้า ทุกคนก็จะช่วยไว้หน้าและมาช่วยสร้างห้องเก็บของแน่นอนครั้นคิดถึงตรงนี้ ซ่างชิวก็รีบพูดว่า “แม่นางโปรดวางใจ เรื่องนี้ยกให้ข้าจัดการเอง”“แต่ไม่ทราบว่าแม่นางอยากได้ห้องเก็บของขนาดเท่าไร อยากให้สร้างเมื่อใด?”เจี่ยนอันอันต้องมองว่าสร้างได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีอยู่แล้วแต่เพื่อป้องกันไม่ให้พิษในร่างซ่างชิวออกฤทธิ์ระหว่างการสร้างจนการก่อสร้างล่าช้าเจี่ยนอันอันนำโอสถถอนพิษเม็ดหนึ่งออกมาห้วงมิติและโยนให้ซ่างชิว“โอสถถอนพิษเม็ดนี้จ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 113

    เจี่ยนอันอันมองบุรุษสี่คนหน้า พวกเขาก้มหน้ากันหมด ใบหน้าดำคล้ำมีสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินักนางคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมีความรับผิดชอบกันขนาดนี้ในเมื่อเป็นแบบนั้น เช่นนั้นให้พวกเขาซ่อมกำแพงบ้านใหม่ก็ดีเหมือนกัน“ได้ พวกท่านไปทำงานเถอะ”“วางใจได้ ข้าเป็นคนรู้ผิดชอบชั่วดี จะไม่ให้พวกท่านทำงานเปล่า”“ขอเพียงพวกท่านตั้งใจทำงาน ข้าก็จะจ่ายค่าแรงให้”“แต่หากทำงานได้ไม่ดี เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าต้องลงโทษ”บุรุษสี่คนนั้นได้ยินดังนี้ก็เงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอันอันกันหมดพวกเขาไม่คาดคิดว่าเจี่ยนอันอันจะให้ค่าแรงพวกเขาคิดว่าเจี่ยนอันอันจะให้ทำงานเปล่าเสียอีก เพราะอย่างไรเมื่อวานนี้พวกเขาก็พังกำแพงบ้านของนางเดิมทีก็เป็นความผิดของพวกเขาอยู่แล้วที่ไม่ตั้งใจซ่อมกำแพงบ้านให้ดีบุรุษทั้งสี่ดีใจกันมากและตอบเจี่ยนอันอันว่า “ขอบคุณแม่นางที่ไม่ถือโทษพวกข้า”“แม่นางโปรดวางใจ พวกข้าจะตั้งใจทำงานแน่นอน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานอีก”เจี่ยนอันอันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจแล้วให้พวกเขาไปทำงาน ซ่างชิวเรียกทั้งสี่คนไปซ่อมกำแพงตอนที่ซ่อมกำแพงเมื่อวานนี้ พวกเขาแอบตัดลดวัสดุในการซ่อมวันนี้จะทำแ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 114

    ยามที่เจี่ยนอันอันกลับมาถึงลานบ้านด้านหน้า มีเงาร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งวิ่งออกมาจากบ้านเจี่ยนอันอันพบว่าเป็นฉู่จื่อซีตัวเขาในตอนนี้ร่าเริงขึ้นกว่าช่วงก่อนมากเขาวิ่งออกมาที่ลานบ้าน มองกำแพงที่ซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วเริ่มเล่นในลานบ้านเพียงลำพังครั้นเจี่ยนอันอันเดินไปดูก็เห็นว่าฉู่จื่อซีกำลังหยิบโคลนบนพื้นมาเล่นใบหน้าดวงน้อยเป็นจริงเป็นจังมากเจี่ยนอันอันย่อตัวลงถามฉู่จื่อซีอย่างอ่อนโยน “เจ้าคิดจะสร้างเมืองหรือ?”ฉู่จื่อซีไม่เข้าใจถ้อยคำของเจี่ยนอันอัน จดจ่อกับการเล่นโคลนในมือเวลานี้ พี่สะใภ้ใหญ่ฟางอิ๋งเดินออกมาจากในบ้านนางเดินมาหาเจี่ยนอันอันและยิ้มว่า “ลูกคนนี้ชอบเล่นโคลน”“เมื่อวานเห็นว่าที่นี่มีโคลนเยอะก็มีความสุข”เจี่ยนอันอันลุกขึ้นยิ้มตอบให้ฟางอิ๋ง “เมื่อคืนพี่สะใภ้หลับสบายหรือไม่?”ฟางอิ๋งเห็นเจี่ยนอันอันเป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ก็รีบส่ายมือว่า “เมื่อคืนพวกข้าหลับสบายกันมาก สบายกว่าตอนเดินทางเยอะ”ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน สาวใช้นางหนึ่งก็เดินออกมา“ฮูหยินน้อยทั้งสอง อาหารเสร็จแล้วเจ้าค่ะ สามารถกินกันได้แล้ว”สาวใช้พูดจบก็เดินไปยังห้องทั้งสี่เพื่อตามคนด้านในออกมา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 115

    เจี่ยนอันอันพูดกับพวกซ่างชิว “พวกท่านนั่งกินข้าวเถอะ”พวกซ่างชิวยืนอยู่หน้าโต๊ะไม่กล้านั่งลง พวกเขาก้มหน้ากันหมด ไม่กล้ามองคนอื่นบรรดาสมาชิกในครอบครัวเห็นเจี่ยนอันอันพาพวกซ่างชิวเข้ามาและชวนให้พวกเขานั่งกินข้าวทุกคนต่างมีสีหน้าประหลาดใจฉู่จวินสิงเข้าใจถึงเจตนาของเจี่ยนอันอัน เขาพูดกับพวกซ่างชิวว่า “ในเมื่อบอกให้พวกเจ้านั่งลง เช่นนั้นก็นั่งลงเถอะ”พวกซ่างชิวเห็นว่าไม่มีผู้ใดคัดค้านก็ยอมนั่งลงด้วยความสบายใจเจี่ยนอันอันใช้ตะเกียบคีบเนื้อกระต่ายใส่ชามของฮูหยินใหญ่“เชิญฮูหยินใหญ่กินก่อนเจ้าค่ะ หากท่านไม่กิน คนอื่นๆ ก็ไม่กล้ากินเช่นกัน”ฮูหยินใหญ่ยิ้มบางๆ พลางพยักหน้า ชื่นชมในความกตัญญูและรู้ความของเจี่ยนอันอันในใจนางใช้ตะเกียบคีบเนื้อกระต่ายกินหนึ่งคำ คนอื่นๆ เห็นดังนี้จึงค่อยจับตะเกียบแล้วเริ่มกินคำโตพวกซ่างชิวไม่กล้าขยับตะเกียบ พวกเขาเอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ตามองไปที่อาหารบนโต๊ะกลิ่นหอมของข้าวและกับข้าวกระตุ้นความอยากอาหารของพวกเขามานานแล้ว เป็นความจริงที่เช้านี้พวกเขายังไม่ได้กินข้าวอาหารที่บ้านไม่พอให้กิน พวกเขาจึงเคยชินกับการไม่กินมื้อเช้าเก็บเสบียงพวกนั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 116

    ฉู่จวินสิงนั่งตัวตรง พูดออกมาอย่างน่าเกรงขาม “ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ก็อย่าพูดถึงมันอีกเลย ทุกคนนั่งลงกินข้าวกันเถอะ”ฮูหยินใหญ่เองก็เรียกให้พวกเขานั่งลงซ่างชิวและคนอื่นๆ เมื่อเห็นฉากนี้เข้า ในใจก็เกิดรู้สึกความอบอุ่นขึ้นมาหลายปีมาแล้วที่ไม่มีคนปฏิบัติกับพวกเขาเช่นนี้ซ่างชิวและคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกว่า คนในครอบครัวนี้ล้วนแต่ไม่ใช่คนเลวพวกเขาคู่ควรแล้วที่จะให้พวกเขาทำงานหนักให้หลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว ซ่างชิวหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาก่อนอีกทั้งสี่คนเมื่อเห็นเข้า ก็หยิบชามและตะเกียบขึ้นมาเริ่มกินในตอนที่พวกเขาเนื้อกระต่ายและเนื้อไก่ฟ้า ดวงตาก็ค่อยๆ แดงรื้นขึ้นมาหลายปีมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้กินเนื้ออร่อยๆ เช่นนี้และยังมีข้าวชามนี้ อร่อยเสียยิ่งกว่าธัญพืชที่พวกเขากินเสียอีกไม่นานอาหารในจานก็หมดไปหลังจากที่ซ่างชิวและทุกคนกินอาหารกันเสร็จแล้วก็รีบไปทำงานรอจนเมื่อทุกคนออกไปแล้ว ฮูหยินใหญ่ถึงได้พูดออกมาข้างหูของเจี่ยนอันอัน“อันอัน ข้ามองเห็นความตั้งใจของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นหญิงสาวที่ดี ลูกชายของข้าสามารถแต่งกับเจ้าได้ ช่างเป็นความโชคดีของเขา”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยิน

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status