Share

บทที่ 694

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
แต่ฉู่จวินสิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เขากับเจี่ยนอันอันสามารถใช้พลังแห่งการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตากลับไปเมื่อใดก็ได้

แต่กว่าจะตามหาลูกน้องทั้งสามจนพบมิใช่เรื่องง่าย จึงไม่อยากให้พวกเขาจากไปอีก

และพวกเขายังไม่ได้ผ่านการแปลงโฉม หากถูกทหารพบเห็นเข้า คงไม่พ้นเกิดการเข่นฆ่าขึ้นมา

พวกหลิ่วหยวนนั่งอยู่ในรถม้า ต่างไม่กล้ามองหน้าเจี่ยนอันอันโดยตรง

เจี่ยนอันอันจึงถือโอกาสนี้หลับตานิ่ง ส่งภวังค์เข้าไปในห้วงมิติอีก

นางคิดมองหาร้านค้าในมิติ ว่าพอมีหน้ากากหนังมนุษย์วางขายอยู่หรือไม่

แต่นางสำรวจมารอบหนึ่งก็ยังหาไม่พบ จึงได้แต่คิดหาวิธีอื่น

หากพวกเขาจะกลับไปเมืองจิงโจวพร้อมกันจริง จะต้องแปลงโฉมเป็นผู้อื่นเสียก่อน

มิเช่นนั้นอาจถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับได้

ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังคิดว่าจะหาหน้ากากหนังมนุษย์ได้จากที่ใด พลันรถม้าก็หยุดลง

พวกหลิ่วหยวนไม่กล้าแหวกม่านออกไปดู เพราะได้ยินเสียงสนทนาที่อยู่ด้านนอกรถม้า

มีทหารผู้หนึ่งกล่าว “ใต้เท้าอิ่น ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?”

ฉู่จวินสิงแสร้งกดเสียงต่ำลง “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้มาจับนักโทษหลบหนี”

ทหารมองดูรถม้า คิดเปิดผ้าม่านไปดูว่าข้างในมีคนที่พวกเขาต้องการจับตัว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 695

    เพียงไม่นานหนังหน้าของทหารสิบกว่าคน ก็ได้ถูกฉู่จวินสิงกรีดออกมาจนสิ้นเขานำหนังหน้ามนุษย์ที่ชุ่มด้วยโลหิต ยื่นส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันยิ้มแย้มขณะรับมา พลางส่งเข้าไปในห้วงมิติ ใช้น้ำพุวิญญาณแช่เอาไว้หนังใบหน้าที่ผ่านการแช่มา ไม่เพียงมีความนุ่มลื่น ผิวนั้นยังใสกระจ่างเป็นอย่างมากหลังจากแช่หนังใบหน้าเรียบร้อย เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงสลายศพออกมา นำร่างทหารสิบกว่าคนนั้นสลายจนกลายเป็นของเหลวทำเอาหลิ่วหยวนกับพวกมองจนตาค้างพวกเขารู้ดีว่าท่านอ๋องไม่เคยปรานีต่อศัตรูก็จริงแต่ไม่คาดคิดว่าพระชายาจะโหดร้ายยิ่งกว่าเจี่ยนอันอันมองดูพวกหลิ่วหยวนที่ยืนตาค้าง พลางยิ้มเล็กน้อย “อย่ามัวยืนเฉยเลย รีบขึ้นรถเถิด”หลิ่วหยวนกับพวกจึงค่อยตั้งสติกลับมา พวกเขาต่างขึ้นรถม้า ปล่อยให้ฉู่จวินสิงควบเดินทางต่อไปรถม้าเดินทางราวหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านทุกคนต่างลงจากรถม้า พร้อมเคาะประตูลานบ้านทันใดนั้นเอง หวังโหย่วเหอเห็นฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันกลับมา จึงรีบก้าวเท้ามาหาพลางคารวะต่อคนทั้งคู่ “ขอถามท่านทั้งสอง เรื่องที่ลูกข้าสมัยก่อนเข้าสอบจอหงวน แล้วถูกแอบอ้างชื่อแทน ไม่ทราบพอมีเบาะแส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 696

    แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เมื่อตามหาคนจนพบแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำสิ่งใดก็สะดวกขึ้นเมื่อทุกคนเห็นว่าฉู่จวินสิงตัดสินใจแน่วแน่ จึงต่างเบนสายตาไปยังเจี่ยนอันอันแทนพวกเขาต้องการให้นางช่วยเกลี้ยกล่อมนายท่าน แต่กลับเห็นนางมีท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว“พวกท่านจงวางใจเถิด ป่านนี้แล้วยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของนายท่านอีกรึ?”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้พวกหม่าลู่ต่างเงียบเสียงลงท่านอ๋องของพวกเขาเก่งกล้าสามารถโดยแท้ หาไม่คงไม่นำพาพวกเขาไปออกศึกหลายครั้ง ล้วนได้ชัยชนะกลับมาทั้งสิ้นเพียงแต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมิได้มีความเมตตาดั่งเช่นอดีตฮ่องเต้ หากฐานะพวกเขาถูกฮ่องเต้พบเห็นเข้า จะมีโทษถึงขั้นหัวหลุดจากบ่าแน่นอนพวกเขาตายไม่เสียดายหรอก เพราะอย่างไรก็ล้วนเป็นชายโสดทั้งสิ้นแต่ท่านอ๋องไม่เหมือนกัน บัดนี้เขามีภรรยาแล้วหากเกิดเรื่องอันใดขึ้นจริง ฮูหยินคงยากจะทำใจได้เมื่อนึกถึงตรงนี้ สายตาทุกคนมีฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจี่ยนอันอันดูออกว่าพวกเขาเป็นห่วงตนเอง จึงให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเหล่าบริวารของฉู่จวินสิง นับว่ายังพอมีน้ำใจอยู่นางจึงยิ้มให้พวกเขา “ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแทนข้า”“หา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 697

    เสิ่นจืออวี้กลับรั้งแขนเสิ่นจือเจิ้งเอาไว้“พี่ใหญ่ ข้าอยากไปเดินเล่นในอำเภอ ท่านไปกับข้าได้หรือไม่?”เสิ่นจืออวี้มองหน้าเสิ่นจื้อเจิ้งด้วยความคาดหวัง อยากให้เขาไปกับตนด้วยเสิ่นจือเจิ้งกลับมองมือเสิ่นจืออวี้ที่จับอยู่ด้วยความเย็นชา “ปล่อยมือ!”เสิ่นจืออวี้ตกใจจนรีบปล่อยมือออก เขารู้นิสัยเสิ่นจือเจิ้งดี ไม่ชอบให้ผู้อื่นถูกเนื้อต้องตัวแต่เมื่อครู่เพราะเขาร้อนใจเกินไป จึงได้จับแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ ขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดว่า พี่ชายคงไม่พาเขาไปอำเภอไถหยางแน่นอนกลับได้ยินเสิ่นจือเจิ้งกล่าวเนิบๆ “เจ้าไปเอารถม้ามา”เสิ่นจืออวี้ได้ยินดังนี้ สีหน้ารีบปรากฏรอยยิ้มออกมาเขารีบร้อนวิ่งออกไป จูงรถม้ามาคันหนึ่งขณะเสิ่นจือเจิ้งเดินออกจากลานบ้าน เซียงเสวี่ยได้ติดตามมาด้วยเสิ่นจือเจิ้งหันไปกล่าวต่อนาง “เจ้าอยู่เฝ้าบ้านไว้”เซียงเสวี่ยตอบรับว่า “เจ้าค่ะ” พลางหยุดเดินนางเป็นเพียงสาวใช้ผู้หนึ่ง แม้ใจนึกอยากติดตามไปเที่ยวอำเภอไถหยางบ้าง แต่ก็ต้องฟังคำสั่งเสิ่นจือเจิ้งให้อยู่เฝ้าบ้านแทนจำได้ว่าตอนถูกเนรเทศมาใหม่ๆ นางก็เคยไปอำเภอไถหยางแล้วครั้งหนึ่งแต่เพียงเดินผ่านครู่เดียวเท่านั้น มิได้เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 698

    หากจะถามว่าร้านใดขายอาหารอร่อยบ้าง เขาคงตอบไม่ได้จริงๆและทันใดนั้นเอง ไม่ใกล้ไม่ไกลพลันมีเสียงแหลมกล่าวตวาดขึ้น“เป็นขอทานมาจากที่ใดกัน? ไม่มีตาดูหรือไร เดินมาสุ่มสี่สุ่มห้าเหยียบถูกรองเท้าข้าจนเลอะหมด ชดใช้มาเดี๋ยวนี้!”เสิ่นจืออวี้ถูกเสียงแหลมนั้นสะกดสายตาเข้า จนแม้แต่เซียงเสวี่ยก็พลอยมองตามพลันเห็นเบื้องหน้าของหญิงสาวในชุดสีม่วงอ่อนผู้หนึ่ง มีเด็กชายแต่งกายมอมแมมอีกคนมายืนอยู่เด็กชายถูกหญิงสาวตวาดจนใบหน้าซีดเผือด เขาเงยหน้าขึ้นมองมารดาของตน“ท่านแม่ เมื่อครู่ข้าไม่ตั้งใจเหยียบถูกนาง”เด็กชายกล่าวเสียงอ่อย มือน้อยจับมือมารดาที่อยู่ข้างกายไว้แน่นเสิ่นจืออวี้จำได้ในบัดดล เด็กชายผู้นั้นเป็นบุตรของพี่ใหญ่นามว่าเสิ่นคังและหญิงที่ยืนอยู่กับเขา ก็คือเจียงหว่านเอ๋อร์ในชุดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นยามนี้เจียงหว่านเอ๋อร์รีบกล่าวขอขมาหญิงสาวเป็นการใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับการให้อภัย“ว่าอย่างไร? เพียงแค่ขอโทษก็จะหมดเรื่องกระนั้นรึ ข้าบอกให้จ่ายเงินมา เจ้าไม่ได้ยินหรือไร?”เจี่ยนหลิงเยว่มีสีหน้าหงุดหงิดยิ่ง วันนี้นางช่างโชคร้ายนักติดตามกู้มั่วหลีมาถึงอำเภอซอมซ่อแห่งนี้ กั่วมู่หลีบอกว่าจะไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 699

    แต่เขากำลังจะเดินไป กลับได้ยินเสียงเสิ่นจือเจิ้งดังขึ้นในรถม้า“อย่าได้ไปยุ่งมากความ!”“แต่ว่าพี่ใหญ่ นั่นเป็นอดีตอาซ้อของข้าและคังเอ๋อร์นะ”เสิ่นจืออวี้ไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดพี่ชายจึงมาห้ามเขาไว้เช่นนี้ภาษิตว่าผัวเมียวันเดียวมีบุญคุณทั้งชาติ หนำซ้ำนั่นยังเป็นเลือดเนื้อของพวกเขาต่อให้พี่ใหญ่เกลียดชังเจียงหว่านเอ๋อร์ ก็ไม่สมควรจะพาลไปถึงเสิ่นคังด้วยอีกอย่างสตรีเสื้อม่วงผู้นั้นก็ทำเกินไปจริงๆ เจียงหว่านเอ๋อร์ได้ขอขมานางแล้ว ไฉนจึงยังไม่ยอมรามืออีก?ไม่เพียงตบหน้าเสิ่นคัง ยังตบไปถึงเจียงหว่านเอ๋อร์ด้วยหากเขายังนิ่งดูดายเช่นนี้ คงจะละอายต่อเจียงหว่านเอ๋อร์ที่เคยดูแลเขามาในอดีตเซียงเสวี่ยก็ดูออกเช่นกัน ว่าสองคนนั้นคือเจียงหว่านเอ๋อร์และเสิ่นคังเดิมนางก็ไม่ชอบเจียงหว่านเอ๋อร์อยู่แล้ว และสองวันนี้เจียงหว่านเอ๋อร์ก็ไประรานที่บ้านเสิ่นจือเจิ้งอยู่บ่อยครั้งเมื่อมาเห็นนางถูกผู้อื่นตบตี เซียงเสวี่ยก็รู้สึกสะใจยิ่งในที่สุดก็มีคนมาสั่งสอนเจียงหว่านเอ๋อร์เสียบ้างขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดเดินไปช่วยเหลือ กลับเห็นชายอีกคนเดินไปทางนั้นเช่นกัน“เจ้าทำกระไรอยู่?” กู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนหลิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 700

    เจียงหว่านเอ๋อร์หน้าขรึมลง ไม่มีท่าทีอ่อนน้อมดังเช่นเมื่อครู่นี้อีก“แล้วจะเอาอย่างไร ข้าก็ได้ขอขมาไปแล้ว ยังจะไม่จบไม่สิ้นอีกรึ?เช่นนั้นข้าบอกได้เพียงว่า เอาเงินน่ะไม่มี มีเพียงชีวิตเท่านั้น”เจี่ยนหลิงเยว่ไม่คาดคิดว่า เจียงหว่านเอ๋อร์จะกล้าพูดจาไร้ยางอายเช่นนี้ออกมานางโกรธจนคิดเอ่ยปากโต้ตอบ พลางถูกสายตาเย็นชาของกู้มั่วหลีจ้องมองจนต้องเดินกลับไปเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้มั่วหลี จะใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไปก็ไม่กล้า“ยังคิดจะอาละวาดไปถึงเมื่อใด?” กู้มั่วหลีกล่าวเสียงเย็นชา จนแม้แต่เจียงหว่านเอ๋อร์ยังก้มหน้างุดเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนกระทืบเท้า จึงยอมหลีกทางให้เจียงหว่านเอ๋อร์จูงมือน้อยของเสิ่นคังแล้วเดินจากไปกู้มั่วหลีมองดูสีหน้าไม่พอใจของเจี่ยนหลิงเยว่ พลางกล่าวเย็นชา “กลับไปกับข้า ครั้งหน้าจะไม่พาเจ้าออกมาอีกแล้ว”“คุณชายกู้ เรื่องนี้มิใช่ความผิดข้าเสียหน่อย เหตุใดท่านจึงชอบมาดุข้าเช่นนี้เจ้าคะ”เจี่ยนหลิงเยว่น้อยใจจนรู้สึกแสบในจมูก น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมากู้มั่วหลีไม่คิดสนใจนางอีก พลางเดินไปข้างหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ถลึงตาใส่แผ่นหลังของเจียงหว่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 701

    เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นสภาพเปื้อนมอมแมมไปทั้งตัวของเสิ่นคังแล้วก็ยิ่งรู้สึกปวดใจทบเท่าทวีคูณ“ท่านแม่ พวกเราต้องไปอยู่ที่นั่นบ้างที่นี่บ้างแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร?”“ข้าคิดถึงท่านพ่อ ท่านแม่พาข้ากลับไปหาท่านพ่อได้ไหมขอรับ?”เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นเสิ่นคังพูดถึงเสิ่นจือเจิ้งอีกแล้ว นางแค่นหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “พ่อเจ้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว ยังจะไปหาเขาทำไม?”“ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่กับแม่ เจ้าก็กลับไปหาเขาเองก็แล้วกัน!”ท่าทางไม่พอใจของเจียงหว่านเอ๋อร์ทำให้เสิ่นคังตกใจกลัว เขาเม้มริมฝีปากน้อยๆ ไม่กล้าปริปากอีกเขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดท่านพ่อกับท่านแม่ต้องแยกทางกันด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากมาตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดจู่ๆ ท่านพ่อก็ไล่เขากับท่านแม่ออกมา?เวลานั้นเอง เงาร่างของเจี่ยนอันอันพลันปรากฏขึ้นในหัวเสิ่นคังหลายวันมานี้เจียงหว่านเอ๋อร์มักเอ่ยถึงเจี่ยนอันอันด้วยความโกรธขึ้งอยู่บ่อยๆ บอกว่านางเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่คำพูดเช่นนี้เสิ่นคังได้ยินมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้งแล้วถึงเขาจะอายุยังน้อย แต่ก็รู้ว่าเขากับท่านแม่ถูกไล่ออกมา ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 702

    แต่ทหารยังคงไม่เชื่อว่าผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าคืออิ่นเจียงองครักษ์ของฝ่าบาทเขาเห็นว่ารถม้าคันนี้ค่อนข้างเก่า หากใต้เท้าอิ่นกลับมาจริง จะนั่งรถม้าโทรมๆ เช่นนี้ได้อย่างไรนอกจากนี้ ลักษณะการแต่งกายของคนพวกนี้ยังดูธรรมดามากคิดว่าผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าจะต้องเป็นนักโทษหลบหนีที่พวกเขาต้องการจับกุมตัวอย่างแน่นอนทหารตวาดทันทีว่า “ข้าไม่สนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างในเป็นใต้เท้าอิ่นหรือใต้เท้าอันใด ฝ่าบาทมีบัญชา ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องตรวจสอบทั้งสิ้น”สิ้นเสียงนายทหาร ผ้าม่านก็ถูกคนเลิกขึ้นจากข้างใน เผยให้เห็นใบหน้าของอิ่นเจียงฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าขวางรถม้าข้า!”ทหารผู้นั้นเคยเห็นอิ่นเจียง เขาเห็นว่าในรถม้าคืออิ่นเจียงจริงๆ ก็ต้องตกใจจนหนังศีรษะชาวาบ รีบค้อมกายแสดงคารวะ“ขออภัยใต้เท้าอิ่น เมื่อครู่ข้าพูดจาจาบจ้วงล่วงเกินแล้ว”เขาพูดจบก็หันไปพูดกับทหารคนอื่นๆ ด้านหลังว่า “ถอยออกไป อย่าขวางทางรถม้าใต้เท้าอิ่น”ทหารคนอื่นๆ ถอยออกไปทั้งหมด เปิดทางให้สายหนึ่งหลังจากพวกหลิ่วหยวนขึ้นมาบนรถม้าแล้ว หลิ่วหยวนก็บังคับรถม้าวิ่งเข้าไปในเมืองความจริงในใจพวกเขาตื่นเต้นอ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 788

    จวบจนเวลานี้ พวกเขาจึงได้รู้ว่า ที่แท้ในหมู่บ้านชิงสุ่ยมิได้มีตาน้ำเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่นี่ก็มีตาน้ำเช่นกันเพียงแต่ภัยแล้งที่มีมาหลายปี ทำให้ตาน้ำถูกฝังอยู่ในใต้ดินลึกน้ำจึงไม่อาจผุดขึ้นมาเหนือดินเท่านั้นหากไม่เพราะฉู่จวินสิงบอกให้พวกเขาขุดหลุม เกรงว่าชาตินี้คงไม่มีผู้ใดได้รู้ ว่าบริเวณนี้มีตาน้ำที่ผุดจากใต้ดินขึ้นมาทุกคนต้องจ้องมองไปที่หลุมแทบไม่กะพริบตา แต่เนื่องจากหลุมที่ชาวบ้านขุดมาค่อนข้างใหญ่ หลังจากน้ำผุดขึ้นมาแล้ว จึงถูกดินในหลุมนั้นกลบทับซ้ำอีกแต่พวกเขาก็ไม่เป็นกังวล เพราะขอเพียงขุดพบตาน้ำ น้ำในหลุมนี้ก็จะผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อนใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งเค่อเท่านั้น น้ำใต้ดินก็ได้ผุดขึ้นมาสะสมจนเกือบครึ่งหลุมแล้วชาวบ้านต่างพากันโห่ร้องดีใจ และสายตาที่มองฉู่จวินสิงก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งยิ่งอวี๋ว่านเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ เขารีบหันไปคารวะต่อฉู่จวินสิง“ขอบคุณคุณชายฉู่ที่ช่วยเหลือ ทำให้หมู่บ้านชิงสุ่ยมีแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง”“เช่นนี้นับว่าดีมาก ต่อไปไม่ว่าเราจะปลูกผักหรือทำอาหาร จะได้มาใช้น้ำที่นี่อย่างสะดวก”ชาวบ้านต่างพากันโค้งคำนับขอบคุณฉู่จวิน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 787

    “ถ้ายังลดลงไปอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ อีกไม่นานบ่อของพวกเราคงกลายเป็นบ่อแห้งหมด”ขณะที่ชาวบ้านกำลังวิจารณ์อยู่นั้น ฉู่จวินสิงได้ยกมือสื่อให้พวกเขาหยุดพูดก่อน“ทุกคนจงฟังข้า น้ำในบ่อของพวกท่านจะไม่ไหลมาทางนี้แน่นอน”ชาวบ้านได้ยินฉู่จวินสิงพูดดังนี้ จึงต้องการฟังความเห็นจากเขาฉู่จวินสิงเคยนำทัพออกศึกมาหลายปี และเคยสั่งให้ทหารหาแหล่งน้ำขุดตาน้ำขึ้นมา เพื่อบรรเทาความขาดน้ำของกองทัพจึงมีความรู้ด้านนี้มากกว่าเหล่าชาวบ้านเขากล่าวเสียงก้อง “ทุกท่านวางใจได้ ตาน้ำที่นี่แม้จะเชื่อมโยงไปถึงบ่อน้ำในบ้านพวกท่าน แต่จะไม่ทำให้น้ำในบ่อ ไหลย้อนกลับมาที่นี่แทน”ฉู่จวินสิงกล่าวพลาง สายตามองไปยังทุ่งนาแวบหนึ่งจึงได้ถามอวี๋ว่าน “พี่อวี๋ ก่อนหน้าที่หมู่บ้านชิงสุ่ยจะประสบภาวะภัยแล้ง บริเวณทุ่งนาเคยมีบ่อเลี้ยงปลามาก่อนหรือไม่?”อวี๋ว่านและหลิวซื่อต่างสบตากัน รีบร้อนกล่าวตอบ “เมื่อก่อนแถวนี้เคยมีบ่อเลี้ยงปลาจริง แต่น้ำไม่ลึกมาก ภายในเลี้ยงปลาตัวเล็ก จำนวนไม่มากนัก”ฉู่จวินสิงพยักหน้า และให้อวี๋ว่านพาไปดูที่ที่เคยเป็นบ่อเลี้ยงปลาผู้อื่นได้ติดตามไปด้วยเช่นกันอวี๋ว่านชี้ลงพื้นดินที่เหยียบอยู่ พลางกล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 786

    ขณะที่เจี่ยนอันอันนึกข้องใจอยู่นั้น ฉู่จวินสิงได้เดินมาใกล้เขากลับถึงบ้านได้สั่งให้พ่อบ้านหลิวและบ่าวไพร่หลายคน ช่วยกันลำเลียงผักจากรถม้าไปเก็บไว้ในห้องเก็บของแต่ด้วยความเป็นห่วงเจี่ยนอันอัน จึงเดินมายังบ้านอวี๋ว่านอีกฉู่จวินสิงเห็นน้ำในบ่อมีแววลดต่ำลงไปเรื่อยๆ จึงได้ถาม“ในละแวกหมู่บ้านชิงสุ่ยแห่งนี้ มีตาน้ำอยู่ที่ใด?”คำถามของฉู่จวินสิง ทำให้อวี๋ว่านและหลิวซื่อต่างชะงักงันอวี๋ว่านเป็นผู้ตั้งสติกลับมาก่อน จึงรีบกล่าวตอบ “เมื่อเจ็ดปีก่อนแถวหมู่บ้านมีตาน้ำแห่งหนึ่งจริงๆ แต่เนื่องจากเผชิญภัยแล้งต่อเนื่องมาหลายปี จึงทำให้ตาน้ำนั้นแห้งขอดไปด้วย”เจี่ยนอันอันยังมิวายหายข้องใจ “ท่านพี่ แล้วตาน้ำนั้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับบ่อในบ้านพี่อวี๋ด้วย?”อวี๋ว่านกับหลิวซื่อก็มองหน้าฉู่จวินสิงด้วยความสงสัยเช่นกัน“นั่นสิคุณชายฉู่ เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร วานท่านช่วยบอกได้หรือไม่?”ฉู่จวินสิงกล่าวตอบ “เท่าที่ข้าดู ด้านล่างของตาน้ำน่าจะเชื่อมโยงไปถึงบ่อของแต่ละบ้าน”“เพียงแต่เมื่อตาน้ำเริ่มแห้ง น้ำในบ่อทุกครัวเรือนก็ย่อมน้อยลงเช่นกัน”“และเนื่องจากอันอันทำให้น้ำในบ่อทุกบ้านกลายเป็นน้ำพุใส น้ำใต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 785

    เมื่อคิดได้ดังนี้ ถังหมิงเซวียนจึงนั่งกับพื้นด้วยอาการยิ้มปริ่ม พร้อมรอคอยให้ผักที่ปลูกไว้รีบขึ้นมาเร็วไวมีชาวบ้านเดินผ่านไปมา เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงเข้าต่างก็ทักทายทั้งคู่ด้วยความสนิทสนมซึ่งทั้งคู่ก็ตอบรับเช่นกันแต่พอชาวบ้านหันไปมองถังหมิงเซวียน จึงแอบคิดในใจว่าหนุ่มผู้นี้เป็นใครกัน ไฉนพวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนอวี๋ว่านก็เดินมาเช่นกัน เขาเคยพบถังหมิงเซวียนมาก่อน รู้ดีว่าเขาสนิทกับเจี่ยนอันอันมากหลังจากทักทายคนทั้งสามแล้ว จึงชักชวนชาวบ้านพากันไปดูแปลงผักสองวันนี้ชาวบ้านต้องหมั่นมาดูผักเป็นระยะ ด้วยเกรงว่าเมื่อปลูกขึ้นมาแล้ว จะถูกตัวหนอนกัดกินเสียหมดยิ่งยามนี้ผักที่ปลูกไว้ ต่างโผล่พ้นดินขึ้นมา พวกเขายิ่งไม่กล้าปล่อยให้คลาดสายตามีชาวบ้านผู้หนึ่งถามอวี๋ว่าน “คุณชายผู้นั้นเป็นใครกัน? ท่านรู้จักด้วยรึ?”อวี๋ว่านมองไปทางถังหมิงเซวียน พลางกล่าวตอบ “เป็นเพื่อนของแม่นางเจี่ยน รู้วิชาแพทย์ด้วยก่อนหน้านี้ผู้คนในตัวเมืองล้วนป่วยเป็นวัณโรค เพราะได้คุณชายถังผู้นี้ไปกับแม่นางเจี่ยน จึงช่วยรักษาพวกเขาได้”เมื่อฟังคำอธิบายจากอวี๋ว่าน สายตาที่ชาวบ้านมองดูถังหมิงเซวียน ต่าง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 784

    วันนี้เขาไม่ได้ควบม้าให้วิ่งเร็วจนเกินไป ด้วยเกรงว่าหากไม่ระวัง อาจพลาดพลั้งตกจากหลังม้าได้อีกทั้งยามนี้ยังรู้สึกปวดศีรษะยิ่ง จนแทบอยากฟุบหลับที่หลังม้าสักครู่หนึ่งเจี่ยนอันอันเห็นถังหมิงเซวียนควบม้ามา จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาถังหมิงเซวียนให้ม้าหยุดลง ก้มหน้ามองดูเจี่ยนอันอัน“แม่นางเจี่ยน เจ้าขำเรื่องอันใด เมื่อเช้านี้ข้าได้ล้างหน้าแล้ว”ถังหมิงเซวียนกล่าว พลางลูบใบหน้าตนเอง ทั้งยังเขี่ยขี้ตาเล็กน้อยดีที่เมื่อเช้าเขาล้างหน้าล้างตาออกมาเรียบร้อย หาไม่เจี่ยนอันอันคงได้ขำขันมากกว่านี้เป็นแน่เจี่ยนอันอันกล่าวพลางหัวเราะ “ถังหมิงเซวียน เมื่อคืนเจ้าดีใจจนนอนไม่หลับใช่หรือไม่? ดูขอบตาดำ ถุงใต้ตาห้อยจนเกือบถึงคางแล้ว”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ พร้อมหัวเราะชอบใจขึ้นมาอีกจนแม้แต่ฉู่จวินสิงซึ่งอยู่ด้านข้าง ก็พลอยเม้มปากอมยิ้มไปด้วยแต่เพราะในโรงเตี๊ยมไม่มีคันฉ่อง ถังหมิงเซวียนจึงไม่อาจเห็นสภาพหน้าตาของตนเองแต่หากเขาไปหาเหยียนซวงในสภาพนี้ คงจะถูกนางรังเกียจเป็นแน่เมื่อนึกถึงตรงนี้ ถังหมิงเซวียนก้มหน้าลงด้วยความอับอายเจี่ยนอันอันหยิบคันฉ่องบานเล็กออกมาหนึ่งบาน พร้อมยื่นให้ถังหม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 783

    เหวยป๋อจื่อเพียงหัวเราะเบาๆ มิได้กล่าวอันใดต่อทั้งคู่ต่างบรรลุข้อตกลง จึงมิได้สนใจเจี่ยนหลิงเยว่อีก พร้อมก้าวออกจากห้องไประหว่างทางกลับหมู่บ้านชิงสุ่ย ฉู่จวินสิงได้ถามขึ้น “เจ้าใช้ของสิ่งใด จึงทำให้บ้านนั้นระเบิดจนเหลือเพียงเศษซาก?”เจี่ยนอันอันไม่คิดว่าจะมาพูดเรื่องคลังอาวุธในเวลานี้ นางจึงกล่าวโกหก “นั่นเป็นดินระเบิดที่ข้าซื้อจากเมืองจิงโจวมา”“เดิมคิดว่าจะใช้สังหารกู้มั่วหลี แต่ไม่นึกว่าเขาจะใส่เสื้อเกราะทองไว้”“ครั้งนี้เราพลั้งมือ ซ้ำปล่อยให้มันมีคนมาช่วยอีก มันน่าเจ็บใจนัก!”เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธเคือง ฉู่จวินสิงจึงรีบกล่าวปลอบใจครั้งนี้ไม่อาจระเบิดมันให้ตายได้ คงต้องปล่อยให้รอดชีวิตก่อนวันหน้าหากได้พบเจออีกครั้ง จะไม่ยอมปล่อยให้หลบหนีไปง่าย ๆเจี่ยนอันอันก็คิดเช่นนี้ นางกล่าวเสียงเย็นชา “หึ ให้มันอยู่อีกหลายวันก็ได้”เมื่อกลับถึงหมู่บ้านชิงสุ่ย ทั้งคู่จึงเดินเข้าห้องไปพักผ่อนเจี่ยนอันอันถือโอกาสที่ฉู่จวินสิงเข้านอนแล้ว แอบเข้าไปในห้วงมิตินางจัดการให้ตนเองได้อาบน้ำอุ่นก่อน จากนั้นจึงค้นหาตำราสามชะตามรรคาลี้ลับออกมา แล้วเริ่มอ่านอยู่ในห้วงมิติจว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 782

    เพราะนางได้เห็นโฉมหน้าแท้จริงของฉู่จวินสิงแล้ว จึงเกิดความพอใจต่อเขาเป็นอย่างมากและหากไม่เพราะกู้มั่วหลีให้นางกินยาพิษ มีหรือนางต้องทนรับความทรมานถึงเพียงนี้เหวยป๋อจื่อหัวเราะเล็กน้อย ก่อนนั่งลงข้างกายเจี่ยนหลิงเยว่“ต่อไปมาใช้ชีวิตอยู่กับข้าดีหรือไม่?”เดิมเจี่ยนหลิวเยว่ก็รู้สึกตื่นเต้นที่เหวยป๋อจื่อมานั่งใกล้ชิดอยู่แล้วเมื่อได้ฟังคำพูดจากเขาอีก นางยิ่งตื่นเต้นเสียจนวางตัวไม่ถูก“คุณชายพูดเรื่องกระไรเจ้าคะ ข้าไม่รู้ชื่อของท่านด้วยซ้ำ และยิ่งไม่เคยรู้จักท่านเลย”“จะมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้อย่างไร?”เจี่ยนหลิงเยว่กล่าวพลาง ทำตัวเกร็งพร้อมกระเถิบไปยังด้านข้างเหวยป๋อจือหาได้ถือสาไม่ และมิได้เขยิบตัวตามนางไปด้วย“ข้าชื่อเหวยป๋อจื่อ เคยเป็นหมอดูอยู่ที่แคว้นไท่ยวน”เจี่ยนหลิงเยว่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นหมอดูของแคว้นไท่ยวน พลันรีบหันหน้าไปมองเขา“ท่านก็คือหมอดูเหวยผู้เลื่องชื่อแห่งแคว้นไท่ยวนหรอกหรือ?”เจี่ยนหลิงเยว่เคยได้ยินบิดาของนางเอ่ยถึงว่า สมัยที่อดีตฮ่องเต้ยังมีพระชนม์อยู่ ในราชสำนักมีโหราจารย์อยู่ผู้หนึ่งแต่เป็นโหราจารย์ที่ทำตัวลึกลับ ไม่เคยเผยโฉมหน้าแท้จริงให้ผู้ใดได้เห็น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 781

    ภายหลังรู้สึกว่าร่างกายไม่สู้เจ็บปวดดังเดิม เจี่ยนหลิงเยว่จึงค่อยเบาใจลง“คุณชายหัวเราะข้าด้วยเรื่องอันใด ข้าทำสิ่งใดผิดกระนั้นรึ?”เจี่ยนหลิงเยว่มองหน้าเหวยป๋อจื่อด้วยความฉงน รอจนอีกฝ่ายหัวเราะพอแล้ว จึงได้ยินเขากล่าวตอบ “เพียงรู้สึกว่าเจ้าเป็นหญิงที่น่าสนใจ”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายชมว่านางน่าสนใจ ใบหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ค่อยมีรอยยิ้มออกมาบ้างนางเห็นเหวยป๋อจื่อจ้องมองนางแทบไม่ละสายตา จู่ๆ ใบหน้าจึงได้แดงเรื่อขึ้นนางรีบก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย “เหตุใดคุณชายจึงจ้องมองข้าเช่นนี้ ข้าวางตัวไม่ถูกแล้ว”เจี่ยนหลิงเยว่แม้ไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่เดาจากน้ำเสียงการพูดจาของเขา คาดว่าคงเป็นชายหนุ่มรูปงามอย่างแน่นอนนางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน สองมือบิดชายเสื้อไปมา ท่าทีมีความขวยเขินเป็นอย่างมากเหวยป๋อจื่อมองหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ด้วยนัยน์ตาลึกซึ้ง พลางกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำชวนฟัง“เงยหน้าขึ้นมา”เจี่ยนหลิงเยว่ได้ยินดังนี้ จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความเขินอายสายตาที่มองเหวยป๋อจื่อนั้น แฝงความกระดากเล็กน้อยเหวยป๋อจื่อสบสายตานางนิ่ง คล้ายต้องการค้นหาความรู้สึกบางอย่างเจี่ยนหลิงเยว่ถูกเขาจ้องมองเสีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 780

    ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในร่างกายค่อยบรรเทาไปมากพอสมควรเจี่ยนหลิงเยว่นึกถึงยาที่กู้มั่วหลีให้นางกินไปก่อนหน้านี้มีแค่กู้มั่วหลีเท่านั้นที่มียาถอนพิษเจี่ยนหลิงเยว่คิดถึงตรงนี้ก็ยิ่งร้อนใจอยากหากู้มั่วหลีให้พบนางตามหาทางออกประตูหลังพลางร้องเรียกชื่อกู้มั่วหลีเสียงดังแต่ภายในเรือนที่ว่างเปล่า นอกจากนางแล้วก็ไม่มีใครอีกเลยลมเย็นยะเยือกพัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้เจี่ยนหลิงเยว่สั่นสะท้านอย่างอดไม่อยู่ฤดูร้อนที่เดิมทีร้อนจัด ลมหอบนี้กลับหนาวเย็นผิดปกติเจี่ยนหลิงเยว่เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ที่นี่เดิมทีก็มืดสนิทตอนนี้แม้แต่แสงจันทร์ก็ยังอ่อนแสงหาใดเปรียบหลายครั้งทีเดียวที่นางสะดุดก้อนหินใต้ฝ่าเท้าจนเกือบจะล้มหัวทิ่มเจี่ยนหลิงเยว่เดิมก็เป็นคุณหนูรองตระกูลใหญ่ ไหนเลยจะเคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้กู้มั่วหลีพูดเองว่าไม่ให้นางไปไหนทั้งนั้นไม่ใช่รึ เหตุใดเขาจึงเอานางมาทิ้งไว้ที่นี่แล้วหนีไปคนเดียวเล่า?ถ้าตอนนั้นกู้มั่วหลีไม่ได้ดึงนางไว้ นางคงหนีไปอยู่ข้างกายฉู่จวินสิงแล้วต่อให้เจี่ยนอันอันจะแค้นนางปานนี้ แต่ก็ไม่มีทางทำอย่างไรกับนางอย่างไรเสียพวกนางก็มีบิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status