Share

บทที่ 699

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
แต่เขากำลังจะเดินไป กลับได้ยินเสียงเสิ่นจือเจิ้งดังขึ้นในรถม้า

“อย่าได้ไปยุ่งมากความ!”

“แต่ว่าพี่ใหญ่ นั่นเป็นอดีตอาซ้อของข้าและคังเอ๋อร์นะ”

เสิ่นจืออวี้ไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดพี่ชายจึงมาห้ามเขาไว้เช่นนี้

ภาษิตว่าผัวเมียวันเดียวมีบุญคุณทั้งชาติ หนำซ้ำนั่นยังเป็นเลือดเนื้อของพวกเขา

ต่อให้พี่ใหญ่เกลียดชังเจียงหว่านเอ๋อร์ ก็ไม่สมควรจะพาลไปถึงเสิ่นคังด้วย

อีกอย่างสตรีเสื้อม่วงผู้นั้นก็ทำเกินไปจริงๆ เจียงหว่านเอ๋อร์ได้ขอขมานางแล้ว ไฉนจึงยังไม่ยอมรามืออีก?

ไม่เพียงตบหน้าเสิ่นคัง ยังตบไปถึงเจียงหว่านเอ๋อร์ด้วย

หากเขายังนิ่งดูดายเช่นนี้ คงจะละอายต่อเจียงหว่านเอ๋อร์ที่เคยดูแลเขามาในอดีต

เซียงเสวี่ยก็ดูออกเช่นกัน ว่าสองคนนั้นคือเจียงหว่านเอ๋อร์และเสิ่นคัง

เดิมนางก็ไม่ชอบเจียงหว่านเอ๋อร์อยู่แล้ว และสองวันนี้เจียงหว่านเอ๋อร์ก็ไประรานที่บ้านเสิ่นจือเจิ้งอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อมาเห็นนางถูกผู้อื่นตบตี เซียงเสวี่ยก็รู้สึกสะใจยิ่ง

ในที่สุดก็มีคนมาสั่งสอนเจียงหว่านเอ๋อร์เสียบ้าง

ขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดเดินไปช่วยเหลือ กลับเห็นชายอีกคนเดินไปทางนั้นเช่นกัน

“เจ้าทำกระไรอยู่?” กู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนหลิงเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 700

    เจียงหว่านเอ๋อร์หน้าขรึมลง ไม่มีท่าทีอ่อนน้อมดังเช่นเมื่อครู่นี้อีก“แล้วจะเอาอย่างไร ข้าก็ได้ขอขมาไปแล้ว ยังจะไม่จบไม่สิ้นอีกรึ?เช่นนั้นข้าบอกได้เพียงว่า เอาเงินน่ะไม่มี มีเพียงชีวิตเท่านั้น”เจี่ยนหลิงเยว่ไม่คาดคิดว่า เจียงหว่านเอ๋อร์จะกล้าพูดจาไร้ยางอายเช่นนี้ออกมานางโกรธจนคิดเอ่ยปากโต้ตอบ พลางถูกสายตาเย็นชาของกู้มั่วหลีจ้องมองจนต้องเดินกลับไปเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้มั่วหลี จะใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไปก็ไม่กล้า“ยังคิดจะอาละวาดไปถึงเมื่อใด?” กู้มั่วหลีกล่าวเสียงเย็นชา จนแม้แต่เจียงหว่านเอ๋อร์ยังก้มหน้างุดเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนกระทืบเท้า จึงยอมหลีกทางให้เจียงหว่านเอ๋อร์จูงมือน้อยของเสิ่นคังแล้วเดินจากไปกู้มั่วหลีมองดูสีหน้าไม่พอใจของเจี่ยนหลิงเยว่ พลางกล่าวเย็นชา “กลับไปกับข้า ครั้งหน้าจะไม่พาเจ้าออกมาอีกแล้ว”“คุณชายกู้ เรื่องนี้มิใช่ความผิดข้าเสียหน่อย เหตุใดท่านจึงชอบมาดุข้าเช่นนี้เจ้าคะ”เจี่ยนหลิงเยว่น้อยใจจนรู้สึกแสบในจมูก น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมากู้มั่วหลีไม่คิดสนใจนางอีก พลางเดินไปข้างหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ถลึงตาใส่แผ่นหลังของเจียงหว่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 701

    เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นสภาพเปื้อนมอมแมมไปทั้งตัวของเสิ่นคังแล้วก็ยิ่งรู้สึกปวดใจทบเท่าทวีคูณ“ท่านแม่ พวกเราต้องไปอยู่ที่นั่นบ้างที่นี่บ้างแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร?”“ข้าคิดถึงท่านพ่อ ท่านแม่พาข้ากลับไปหาท่านพ่อได้ไหมขอรับ?”เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นเสิ่นคังพูดถึงเสิ่นจือเจิ้งอีกแล้ว นางแค่นหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “พ่อเจ้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว ยังจะไปหาเขาทำไม?”“ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่กับแม่ เจ้าก็กลับไปหาเขาเองก็แล้วกัน!”ท่าทางไม่พอใจของเจียงหว่านเอ๋อร์ทำให้เสิ่นคังตกใจกลัว เขาเม้มริมฝีปากน้อยๆ ไม่กล้าปริปากอีกเขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดท่านพ่อกับท่านแม่ต้องแยกทางกันด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากมาตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดจู่ๆ ท่านพ่อก็ไล่เขากับท่านแม่ออกมา?เวลานั้นเอง เงาร่างของเจี่ยนอันอันพลันปรากฏขึ้นในหัวเสิ่นคังหลายวันมานี้เจียงหว่านเอ๋อร์มักเอ่ยถึงเจี่ยนอันอันด้วยความโกรธขึ้งอยู่บ่อยๆ บอกว่านางเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่คำพูดเช่นนี้เสิ่นคังได้ยินมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้งแล้วถึงเขาจะอายุยังน้อย แต่ก็รู้ว่าเขากับท่านแม่ถูกไล่ออกมา ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 702

    แต่ทหารยังคงไม่เชื่อว่าผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าคืออิ่นเจียงองครักษ์ของฝ่าบาทเขาเห็นว่ารถม้าคันนี้ค่อนข้างเก่า หากใต้เท้าอิ่นกลับมาจริง จะนั่งรถม้าโทรมๆ เช่นนี้ได้อย่างไรนอกจากนี้ ลักษณะการแต่งกายของคนพวกนี้ยังดูธรรมดามากคิดว่าผู้ที่นั่งอยู่ในรถม้าจะต้องเป็นนักโทษหลบหนีที่พวกเขาต้องการจับกุมตัวอย่างแน่นอนทหารตวาดทันทีว่า “ข้าไม่สนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างในเป็นใต้เท้าอิ่นหรือใต้เท้าอันใด ฝ่าบาทมีบัญชา ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องตรวจสอบทั้งสิ้น”สิ้นเสียงนายทหาร ผ้าม่านก็ถูกคนเลิกขึ้นจากข้างใน เผยให้เห็นใบหน้าของอิ่นเจียงฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าขวางรถม้าข้า!”ทหารผู้นั้นเคยเห็นอิ่นเจียง เขาเห็นว่าในรถม้าคืออิ่นเจียงจริงๆ ก็ต้องตกใจจนหนังศีรษะชาวาบ รีบค้อมกายแสดงคารวะ“ขออภัยใต้เท้าอิ่น เมื่อครู่ข้าพูดจาจาบจ้วงล่วงเกินแล้ว”เขาพูดจบก็หันไปพูดกับทหารคนอื่นๆ ด้านหลังว่า “ถอยออกไป อย่าขวางทางรถม้าใต้เท้าอิ่น”ทหารคนอื่นๆ ถอยออกไปทั้งหมด เปิดทางให้สายหนึ่งหลังจากพวกหลิ่วหยวนขึ้นมาบนรถม้าแล้ว หลิ่วหยวนก็บังคับรถม้าวิ่งเข้าไปในเมืองความจริงในใจพวกเขาตื่นเต้นอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 703

    ขอเพียงสามารถกำจัดครอบครัวฉู่จวินสิง เขาก็ไม่สนใจว่าจะมีผู้ใต้บังคับบัญชาตายไปกี่คนจึงไม่เก็บหน่วยกล้าตายเหล่านั้นมาใส่ใจ“องครักษ์อิ่นทำได้ดีมาก ใครก็ได้ ตกรางวัลให้องครักษ์อิ่นเป็นเงินหนึ่งพันตำลึง!”ขันทีใหญ่เจียงหวยถ่ายทอดคำพูดของฉู่ชางเหยียนด้วยน้ำเสียงแหลมสูงขันทีที่เฝ้าอยู่ข้างนอกรับคำสั่งไปนำเงินมาจากในคลังหลวงทันทีแต่เมื่อเขามาถึงคลังหลวงและเห็นว่าในนั้นมีเพียงความว่างเปล่าก็ต้องตกตะลึงที่นี่อย่าว่าแต่เงินหนึ่งพันตำลึงเลย แม้แต่เศษเงินสักนิดก็ยังไม่มีเขาตกใจจนหนังศีรษะชาวาบ แทบจะทรุดฮวบลงบนพื้นคลังหลวงมีทหารจำนวนมากคอยอารักขาอยู่ตลอด ช่วงเวลาที่ผ่านมาฝ่าบาทยังไม่ได้ตกรางวัลให้ขุนนางคนใดเรื่องที่เงินในคลังหลวงถูกคนปล้นไปจึงยังไม่มีใครรู้“เป็นฝีมือผู้ใดกันแน่ พวกท่านเฝ้าอารักขาที่นี่ก็ไม่เห็นว่ามีคนเข้าไปในคลังหลวงเลยรึ?”“คลังหลวงว่างเปล่าเช่นนี้ พวกท่านสมควรรับโทษสถานใด!”ขันทีน้อยถามทหารรักษาพระองค์ที่อารักขาคลังหลวงเสียงแหลมทำอย่างไรดีเล่า คลังหลวงถูกคนปล้นไปหมดแล้ว เขาจะกลับไปรายงานฝ่าบาทอย่างไรดี?ขันทีน้อยตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดหวั่น รีบถอยออกไปจากคล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 704

    “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ไปตรวจสอบมาให้ข้า จับตัวเจ้าโจรมาลงทัณฑ์ห้าม้าแยกร่างเดี๋ยวนี้!”“จับทหารรักษาพระองค์ที่เฝ้าอารักขาคลังหลวงพวกนั้นไปขังไว้ในคุก”“ถ้าจับคนที่ปล้นคลังหลวงมาไม่ได้ก็ตัดหัวทหารรักษาพระองค์พวกนั้นเสีย ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่นๆ!”ฉู่ชางเหยียนพิโรธจนทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ผู้ใดกันขวัญกล้าเทียมฟ้าปานนี้ บังอาจมาปล้นสมบัติในคลังหลวง!เจี่ยนอันอันเห็นฮ่องเต้สุนัขโกรธกริ้วปานนี้ นางก็หัวเราะเสียงดังในใจหากสีหน้ายังคงแสร้งแสดงเป็นตกอกตกใจฉู่ชางเหยียนมองคนที่ยังคุกเข่าอยู่กลางตำหนักทั้งสองคน เดิมเขาอยากประทานเงินหนึ่งพันตำลึงเป็นรางวัลให้อิ่นเจียงยามนี้กลับไม่มีเงินแม้แต่อีแปะเดียวเกิดเรื่องใหญ่อย่างคลังหลวงถูกปล้น เขาไม่มีอารมณ์จะประทานรางวัลให้อิ่นเจียงอีกแล้ว“พวกเจ้าสองคนกลับไปเถอะ!”ฉู่ชางเหยียนโบกมือเบาๆ บอกให้ฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันออกไปคนทั้งสองถวายบังคมแล้วก็ลุกขึ้นจะจากไปฉู่ชางเหยียนจึงเพิ่งสังเกตว่าตรงหว่างเอวฉู่จวินสิงมีกระบี่ล้ำค่าชั้นดีเล่มหนึ่ง“ช้าก่อน!” ฉู่ชางเหยียนส่งเสียงรั้งคนทั้งสองฉู่จวินสิงจิตใจหนักอึ้ง หรือฉู่ชางเหยียนจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 705

    ผังมั่วเห็นว่าอิ่นเจียงที่อยู่ตรงหน้ามีท่าทางเย็นชาห่างเหินถึงเพียงนี้ เขาก็อึ้งไปอย่างอดไม่ได้ที่ผ่านมาอิ่นเจียงกับเขาสนิทสนมกันที่สุดแล้ว เรื่องไปลอบสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงคราวนี้ ฮ่องเต้เพียงให้อิ่นเจียงนำหน่วยกล้าตายหลายคนไปด้วยแต่ไม่ได้ให้เขาติดตามไปด้วยช่วงที่ผ่านมาผังมั่วเป็นห่วงอิ่นเจียงมาตลอด แต่ไม่รู้ว่าเขาจะทำภารกิจลุล่วงกลับมาได้ตอนไหนวันนี้ได้ข่าวจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าอิ่นเจียงกลับมาแล้วเขาจึงตรงมายังที่พักของอิ่นเจียงทันที อยากร่ำสุราด้วยกันเพื่อฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่ของอีกฝ่ายเสียหน่อยแต่ไม่คิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะห่างเหินเย็นชาเช่นนี้แต่เขาก็ได้สติคืนมาอย่างรวดเร็ว ยื่นมือมาหมายตบไหล่ฉู่จวินสิง“พี่อิ่นไปเมืองอิ่นเป่ยครั้งเดียวคงไม่ได้ลืมข้าไปแล้วหรอกนะ”ขณะที่มือของผังมั่วกำลังจะแตะลงบนไหล่ฉู่จวินสิงก็เห็นฝ่ายตรงข้ามหลบไปข้างๆ ด้วยสีหน้าหงุดหงิดรำคาญใจมือข้างนั้นคว้าได้เพียงความว่างเปล่า ผังมั่วยิ่งงุนงงกว่าเดิม“พี่อิ่น ท่านเป็นอะไรไป ข้าคือผังมั่วพี่น้องของท่านนะ ท่านจำข้าไม่ได้แล้วจริงหรือ?”ผังมั่วรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่กลับยังบอกไม่ไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 706

    “กู้มั่วหลียังคงมีการศึกษาเรื่องยาพิษอยู่ตลอด ข้าคิดว่าเขากำลังหาวิธีถอนยาพิษร้ายแรงที่ฮ่องเต้ชั่ววางอยู่ในตัวเขา”“เพียงแต่พิษที่ฮ่องเต้ใช้ ต้องแก้ด้วยวิธีพิษต้านพิษเท่านั้น กู้มั่วหลีจึงมุ่งมั่นคิดจะปรุงยามาโดยตลอด”ด้วยความเข้าใจที่นางมีต่อกู้มั่วหลี คนผู้นี้มีน้ำมือเหี้ยมโหดมาแต่ไหนแต่ไรกล้าที่จะทำเรื่องเลวร้ายได้ทุกอย่างเขามาปรากฏตัวที่เมืองอินเป่ย และสมัยก่อนยังช่วยฉู่ชางเหยียนกู้เมืองกลับคืนคงเพราะฉู่ชางเหยียนใช้พิษร้ายแรงบังคับเขา จึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ออกมามิเช่นนั้นด้วยชั้นเชิงวรยุทธ์และอุปนิสัยของคนผู้นี้ จะยอมอยู่ใต้โอวาทฉู่ชางเหยียนได้อย่างไรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผลหากว่าคนผู้นั้นคือกู้มั่วหลีจริงๆ เรื่องราวก็คงจะง่ายขึ้นมากเห็นทีเขาคงต้องไปถามผังมั่วให้รู้ เพื่อดูว่าอีกฝ่ายใช่กู้มั่วหลีจริงหรือไม่เพียงแต่วันนี้เขาต้องรอให้ตกดึกก่อนเพื่อไปขโมยกระบี่เฝินเทียนกลับมา จึงไม่อยากไปจากที่นี่แม้เพียงครึ่งก้าวเห็นทีว่าเรื่องนี้ คงต้องวางแผนให้รอบคอบใหม่แล้วเวลาเคลื่อนผ่านไปช้าๆ ในที่สุดทั้งคู่ก็รอคอยมาถึงยามรัตติกาลปลอดคนและเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 707

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางจะได้ตามดูความเคลื่อนไหวของฉู่ชางเหยียนได้ทุกซอกทุกมุม ไม่ให้คลาดสายตาเจี่ยนอันอันนำเรื่องกล้องรูเข็มบอกกล่าวให้เขาฟังอีกทั้งยังมอบเลนส์สัมผัสให้แก่ฉู่จวินสิงหนึ่งกล่อง“อีกประเดี๋ยวข้าจะบอกให้รู้ ว่าจะใส่เลนส์ชนิดนี้ได้อย่างไร”ฉู่จวินสิงมองดูกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ พร้อมคิดในใจ ไฉนเจี่ยนอันอันจึงมีของเล่นมากเสียจริงหรือในตัวนางจะมีกล่องสารพัดนึก ที่สามารถเนรมิตสิ่งของประหลาดได้อย่างมากมายไม่ซ้ำเขาไม่ได้พูดมากความ เพียงเก็บเอากล่องเลนส์สัมผัสใส่ไว้ในอกเสื้อไม่นานทั้งคู่จึงมาถึงตำหนักเสวียนหยาง ดีที่ภายในจุดตะเกียงอยู่ จึงมองเห็นทุกมุมได้อย่างสว่างเจี่ยนอันอันมอบกล้องรูเข็มให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้เขาใช้วิชาตัวเบา นำกล้องรูเข็มไปติดตามเสาหลายต้นจากนั้นนางจึงใส่เลนส์สัมผัส ทำให้เห็นภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องรูเข็มนั้น“ท่านพี่ กล้องทางซ้ายมือมองต่ำไปเล็กน้อย ท่านวางขึ้นสูงหน่อย”“กล้องด้านขวามือให้หันมาทางข้าอีก”เจี่ยนอันอันคอยชี้นำให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้นำกล้องที่เหลือติดตั้งให้เรียบร้อยสุดท้ายจึงปรบมือด้วยความพึงพอใจ “เสร็จแล้ว ทีนี้เราก็

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status