แชร์

บทที่ 707

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางจะได้ตามดูความเคลื่อนไหวของฉู่ชางเหยียนได้ทุกซอกทุกมุม ไม่ให้คลาดสายตา

เจี่ยนอันอันนำเรื่องกล้องรูเข็มบอกกล่าวให้เขาฟัง

อีกทั้งยังมอบเลนส์สัมผัสให้แก่ฉู่จวินสิงหนึ่งกล่อง

“อีกประเดี๋ยวข้าจะบอกให้รู้ ว่าจะใส่เลนส์ชนิดนี้ได้อย่างไร”

ฉู่จวินสิงมองดูกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ พร้อมคิดในใจ ไฉนเจี่ยนอันอันจึงมีของเล่นมากเสียจริง

หรือในตัวนางจะมีกล่องสารพัดนึก ที่สามารถเนรมิตสิ่งของประหลาดได้อย่างมากมายไม่ซ้ำ

เขาไม่ได้พูดมากความ เพียงเก็บเอากล่องเลนส์สัมผัสใส่ไว้ในอกเสื้อ

ไม่นานทั้งคู่จึงมาถึงตำหนักเสวียนหยาง ดีที่ภายในจุดตะเกียงอยู่ จึงมองเห็นทุกมุมได้อย่างสว่าง

เจี่ยนอันอันมอบกล้องรูเข็มให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้เขาใช้วิชาตัวเบา นำกล้องรูเข็มไปติดตามเสาหลายต้น

จากนั้นนางจึงใส่เลนส์สัมผัส ทำให้เห็นภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องรูเข็มนั้น

“ท่านพี่ กล้องทางซ้ายมือมองต่ำไปเล็กน้อย ท่านวางขึ้นสูงหน่อย”

“กล้องด้านขวามือให้หันมาทางข้าอีก”

เจี่ยนอันอันคอยชี้นำให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้นำกล้องที่เหลือติดตั้งให้เรียบร้อย

สุดท้ายจึงปรบมือด้วยความพึงพอใจ “เสร็จแล้ว ทีนี้เราก็
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 708

    ฉู่ชางเหยียนรู้สึกโมโหยิ่ง พลางมองดูเจียงหวยซึ่งเฝ้าอยู่ด้านข้างด้วยแววตาดุดัน“เจียงหวย กระบี่ของข้าเล่า?”เจียงหวยจึงเพิ่งสังเกตเห็น กระบี่ซึ่งแขวนอยู่ด้านข้างพระแท่นนั้น จู่ๆ ไม่ทราบอันตรธานหายไปได้อย่างไรพลางร้อนใจจนรีบคุกเข่าลง “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อคืนเขาเฝ้าอยู่ด้านข้างพระแท่นมังกรอยู่ตลอด มิได้ลุกขึ้นไปไหนเลยแต่ไฉนพอตื่นเช้ามา กระบี่ล้ำค่ากลับหายไปเสียได้หรือว่า ในวังมีคนเข้ามาทำการโจรกรรมอีกแล้ว?ไม่เพียงกวาดเอาเงินทองในคลังหลวงไปเสียสิ้น จนแม้แต่กระบี่ยังไม่ละเว้น!โจรผู้นี้มันเป็นใครกันแน่ จึงได้มาโจรกรรมของดีในวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้!ฉู่ชางเหยียนยกเท้าถีบใส่เจียงหวยจนหงายหลังไป“เจ้าสุนัขรับใช้ไม่เอาไหน ยังมาคุกเข่าหาวิมานอันใดอีก ไม่รีบไปจับคนร้ายมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เจียงหวยรีบลนลานคลานลุกขึ้น รับคำพร้อมถอยออกไปเร็วพลันฉู่ชางเหยียนเอามือทุบเตียงด้วยความโกรธแค้น จนเกือบทำให้กล้องรูเข็มที่ติดอยู่ด้านบนร่วงหล่นลงมาดีที่เมื่อคืนเจี่ยนอันอันติดกล้องไว้ค่อนข้างแน่น มิเช่นนั้นหากตกลงมาจริง คงถูกฉู่ชางเหยียนรู้เข้าเป็นแน่แท้......เจี่ยนอันอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 709

    เฉินเช่อก็เห็นว่ามีเหตุผล “นั่นสิขอรับนายท่าน ไม่แน่วันหน้าทหารอาจจับกุมคนปล้นคลังหลวงได้”“ถึงตอนนั้นเมื่อใด เราค่อยไปช่วยคนก็ได้”ฉู่จวินสิงรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงเรื่องอันใด เพราะการช่วยคนมาจากคุกหลวงนั้น อย่างไรก็มิใช่เรื่องง่ายอยู่แล้วอีกทั้งยามนี้ในวังคุ้มกันเข้มงวด หากเขาไปช่วยคนแล้วถูกจับอีกไม่เพียงช่วยคนออกมาไม่ได้ ตนยังจะถูกจับกุมเข้าให้อีกในที่สุดฉู่จวินสิงจึงเลิกล้มความคิดที่จะไปช่วยคนในบัดดลเพียงแต่ถึงยามค่ำคืน เขาอาจลักลอบเข้าไปในคุกหลวง เพื่อเยี่ยมเยียนทหารที่ถูกจับก็เป็นได้“เช่นนั้นก็ได้ เรื่องนี้รออีกสักหลายวันค่อยว่ากันใหม่”ฉู่จวินสิงจะอยู่ที่นี่นานก็ไม่สะดวก เพราะอย่างไรก็เป็นเขตเมืองจิงโจวอีกทั้งยามนี้เขาอยู่ในฐานะของอิ่นเจียง หากมีผู้ใดรู้ว่าแอบมาโรงเตี๊ยมเพื่อพบปะกับคนบางคน ก็อาจสงสัยถึงจุดประสงค์ของเขาได้หลังจากกำชับอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงตามเจี่ยนอันอันออกจากโรงเตี๊ยม กลับไปยังบ้านพักของอิ่นเจียงเจี่ยนอันอันนึกอยากรู้ครามครัน ว่าคนในตำหนักเสวียนหยาง ยามนี้กำลังทำสิ่งใดอยู่หลังจากใส่เลนส์สัมผัสเรียบร้อย จึงตั้งจิตนึกถึงตำหนักเสวียนหยางโดยพลันเพี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 710

    หากผู้ที่กลับมาเมื่อวานไม่ใช่อิ่นเจียงตัวจริง ฮ่องเต้ย่อมต้องกำจัดคนผู้นั้นเป็นแม่นมั่นถึงตอนนั้นเมื่อใด ฮ่องเต้ก็จะส่งคนไปเมืองอินเป่ยเพื่อตรวจสอบอีกครั้งและถ้าครอบครัวฉู่จวินสิงยังไม่ตายจริง ก็จะสามารถกวาดล้างทีเดียวให้สิ้นซากแต่สิ่งที่เจี่ยนกั๋วกงไม่คาดคิดก็คือ ผลลัพธ์ออกมากลับกลายเป็นตรงข้ามฮ่องเต้ไม่เพียงไม่เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ ยังจ้องมองด้วยพระเนตรดุดันอีก“ในเมื่อเกิดเหตุมาหลายวันแล้ว มาบอกข้าตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ช่างไม่เอาไหนนัก”ฉู่ชางเหยียนตำหนิเจี่ยนกั๋วกงอย่างรุนแรงไม่ไว้หน้า พร้อมทั้งโบกมือด้วยความหงุดหงิด เป็นเชิงบอกให้เขาถอยไปทำให้ถึงที่สุดแล้ว เจี่ยนกั๋วกงก็ไม่อาจกล่าวถึงจุดประสงค์แท้จริงของตนได้หลังจากรับคำว่า “พ่ะย่ะค่ะ” แล้ว จึงถอยกลับไปอยู่ที่เดิมเจี่ยนอันอันมองผ่านกล้องรูเข็ม เห็นสีหน้าเจี่ยนกั๋วกงบ่งบอกถึงความไม่พอใจยิ่งแสดงว่าเจี่ยนกั๋วกงไม่เชื่อนางกับฉู่จวินสิง เขาคงอยากให้ฉู่ชางเหยียนส่งคนไปสืบที่เมืองอินเป่ยซ้ำอีกตาแก่รกโลกสมควรตายผู้นี้ คิดอาฆาตหมายสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงให้หมดสิ้นจริงๆ!เจี่ยนอันอันกลับไปมองภาพเหตุการณ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 711

    “คนที่บ้านกลับไปหมดแล้วรึ?”“อึม ไปหมดแล้ว”“พวกเขาไปที่ใด?”“ไปเล่นดินเล่นทรายอยู่ข้างนอก”ฉู่เทียนหัวบ่นพึมพำด้วยประโยคเหล่านี้ซ้ำซาก เขาพูดเองเออเอง ทั้งยังเอาศีรษะโขกกำแพงอีกหลายทีจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังฮ่าๆ ออกมาเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองดูฉู่เทียนหัวแทบไม่กะพริบตา เพื่อจะดูว่าเขาเสียสติจริงหรือเสแสร้งกันแน่ฉู่เทียนหัวโขกศีรษะไปครู่หนึ่ง จึงได้หันกลับมาอีกเขาเดินไปยังหน้าประตูห้องขัง พร้อมเอามือจับซี่กรงแล้วโยกแรงๆ อยู่หลายทีเจี่ยนอันอันพอดียืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นมือที่ยื่นออกมาเบื้องหน้า จึงรีบถอยหลังเร็วพลันเสียงฝีเท้านางแม้ว่าจะแผ่วเบา แต่ยังคงเข้าหูฉู่เทียนหัวอยู่ดีสายตาของฉู่เทียนหัวผุดแววฉงนที่ผ่านไปเพียงวูบหนึ่งไม่นานก็คืนสู่ภาวะปกติ โดยเอามือไขว่คว้ากลางอากาศ พร้อมใส่เข้าปากเคี้ยวกินหนุบหนับร่างกายยังคงสั่นเทาเป็นระยะ เคี้ยวอากาศไปพลาง ปากก็บ่นพึมพำไปเรื่อย“ข้าคือโอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์จะไม่ปล่อยให้ข้าอดอยาก สวรรค์ประทานของดีแก่ข้ามากมาย ฮี่ๆๆ...”แต่แววฉงนที่ปรากฏในดวงตาฉู่เทียนหัวเมื่อครู่ กลับตกอยู่ในสายตาของคนทั้งสองฉู่จวินสิงดูออกในฉับพลัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 712

    แต่เขาถูกเนรเทศยกครัวไปอยู่เมืองอินเป่ยแล้ว เหตุใดจึงมีเสียงมาปรากฏที่คุกหลวงได้อีกหรือว่า หลายวันนี้ที่เขาแสร้งทำเป็นสติวิปลาส เพื่อหลีกหนีการลงทัณฑ์ที่แสนสาหัสกลับกลายเป็นภาพหลอนเกิดขึ้นกับตนแล้วหรือไร?เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองหน้าฉู่เทียนหัวซึ่งยืนตาค้าง แต่ไม่ไปสนใจเขา กลับเดินเข้าไปด้านในคุกหลวงอีกพร้อมสำรวจแต่ละห้องอย่างละเอียด ผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในนั้น บ้างก็นั่งบ้างก็นอน พักผ่อนไปตามเรื่องแต่ตามร่างกายของแต่ละคน ล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือดมากมายและขณะที่ทั้งคู่เดินลึกไปยังด้านใน พลันมีเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบ แว่วเข้ามาในโสตประสาท“ป่านนี้พวกแม่ทัพเฉินคงหนีไปถึงเมืองอินเป่ยแล้วกระมัง?”“ขอเพียงพวกเขาได้พบเจอกับเยียนอ๋อง เราก็จะมีหวังรอดชีวิต”“ยามนี้ทุกอย่างล้วนขึ้นกับชะตาของพวกแม่ทัพเฉิน หวังว่าจะสามารถหลบหนีการตามล่าของเหล่าทหาร จนได้พบเยียนอ๋องโดยเร็ว”“เฮ้ พวกเราอยู่ในนี้แทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้ว”“ช่างเถิด รีบนอนเสีย พรุ่งนี้อาจถูกทรมานหนักหน่วงอีกหนึ่งวัน”“แต่ขอให้ทุกคนอดทนไว้ ตราบใดที่เยียนอ๋องไม่มาช่วยพวกเรา เราจะไม่ย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 713

    เขาถูกจองจำในคุกหลวงมาหลายวัน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะใช้วิธีทรมานอย่างหนักหน่วงเพียงใด เขาก็ไม่เคยคิดอ่อนข้อแม้แต่สักครั้งเดียวเฝ้ารอแล้วรอเล่ามาหลายวัน จนกระทั่งได้พบฉู่จวินสิงจริงๆ กลับแทบไม่เชื่อสายตาตนเองฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าดูไม่ผิดหรอก ข้าคือฉู่จวินสิง”หลี่ว์ซางจำเสียงของฉู่จวินสิงได้ เขาตื้นตันจนไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรได้แต่มือหนึ่งจับซี่กรงไม้ของห้องขังไว้ นิ้วมือกำแน่น“ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร ทหารข้างนอกมิได้พบเห็นท่านหรอกหรือ?”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง สายตาคอยเหลียวมองออกไปด้านนอกดีที่พวกเขาพูดคุยเสียงเบามาก จึงไม่ถูกผู้คุมได้ยินเข้าข้างในอีกสี่คนนั้น ต่างก็ตื้นตันใจเช่นกันผู้ที่อายุน้อยหน่อย ถึงขั้นยกแขนเสื้อขึ้นมาซับน้ำตาในที่สุดก็รอจนเยียนอ๋องมาถึง พวกเขามีหวังได้รอดชีวิตแล้วฉู่จวินสิงต้องปลอบให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ พลางถามหลี่ว์ซาง “มีแต่พวกเจ้าที่ถูกจับมากระนั้นหรือ?”หลี่ว์ซางรีบกล่าวตอบ “ยังมีอีกแปดคนของรับ แต่ถูกแยกขังไว้อีกห้องหนึ่ง”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง ชี้นิ้วไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุดหลังจากกล่าวจบ จึงได้ถอนหายใจหนักหน่วง“หากท่านอ๋องมาช่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 714

    หลังจากกำชับอีกหลายคำ ฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันจึงหายตัวไปทั้งคู่เดินไปยังด้านในสุดของเรือนจำการที่พวกเขาจู่ๆ อันตรธานหายไปเช่นนี้ ย่อมทำให้หลี่ว์ซางกับพวกต่างตกใจไม่น้อยทุกคนต่างพากันนั่งลง พร้อมวิจารณ์ไปต่างๆทหารอายุน้อยเอ่ยปากขึ้นก่อน “ท่านอ๋องของเราคงมิใช่ไปฝึกเวทมนตร์คาถาชนิดใดมาหรอกนะแล้วไฉนจึงปุบปับก็โผล่มา พริบตาก็หายวับไปเช่นนั้นได้?”หลี่ว์ซางตบท้ายทอยทหารรุ่นน้องอีกครั้ง “อย่าพูดเหลวไหล โลกนี้จะมีคาถากระไรได้?”ทหารอีกคนอดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้น “แต่ข้าว่าน้องชายผู้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่า ยาที่เขาให้พวกเรากิน ทำให้ข้ารู้สึกร่างกายดีขึ้นมาก”ทหารผู้น้อยทนเงียบไม่ไหว จึงได้กล่าวขึ้นอีก “ข้าว่าคงเพราะน้องชายผู้นั้นเก่งกล้าสามารถ เป็นคนถ่ายทอดอิทธิฤทธิ์ให้ท่านอ๋องของเรา”หลี่ว์ซางเกรงว่าเสียงพูดคุยของพวกเขา จะดังไปถึงหูผู้คุมเข้าจึงรีบเอ่ยปากห้ามปราม “เอาเถิด ทุกคนอย่าพูดอีกเลย ระวังผู้คุมจะมาได้ยินเข้า”“ยามนี้สำคัญคือพักฟื้นร่างกาย แล้วรอให้เยียนอ๋องมาช่วยพวกเราออกไป”ในที่สุดทุกคนจึงได้ยอมหุบปาก นั่งลงที่พื้นเพื่อปรับสภาพร่างกายฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 715

    เจี่ยนอันอันถือโอกาสที่ทหารอีกสามคนหลับสนิทอยู่ จัดการป้อนยาสมานแผลใส่ปากให้เช่นกันเผื่อว่าเมื่อตื่นขึ้นมา ร่างกายจะได้บรรเทาความเจ็บปวดลงบ้างฉู่จวินสิงกำชับอีกหลายประโยค จึงติดตามเจี่ยนอันอันออกจากห้องขังไปการที่พวกเขาจู่ๆ หายตัวไปเช่นนั้น ย่อมทำให้ทหารสามคนที่บาดเจ็บสาหัส เกิดความตกใจจนอ้าปากค้างเดิมทีการปรากฏตัวกะทันหันของฉู่จวินสิง ก็ทำให้พวกเขาตกใจมากพอแล้วมิคาดว่าเขายังสามารถหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีกแล้วสิ่งที่พวกเขามองเห็น คือมนุษย์หรือภูตผีกันแน่?แต่เมื่อรู้สึกว่าร่างกายค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งสามก็เชื่อว่าที่เห็นนั้น คือเยียนอ๋องตัวจริงแน่นอนเพราะหากว่าเป็นภูตผี แล้วจะมาป้อนยาให้พวกเขาได้อย่างไร?ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันกลับมายังบ้านพักของอิ่นเจียง ร่วมหารือว่าลำดับต่อไปควรจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรเจี่ยนอันอันกล่าว “เมื่อครู่ข้าเห็นสภาพของเหล่าทหาร นอกจากสามคนที่บาดเจ็บสาหัสนั่นแล้ว ที่เหลือหลังจากกินยาไป ไม่เกินสองวันน่าจะหายเป็นปกติ”“เพียงแต่สามคนนั้นอาการหนักมาก ต่อให้กินยาสมานแผลไปจริง ก็อาจจะเดินเหินลำบาก”“ถ้าเราจะช่วยพวกเขาออกมา ก็อาจต้องเผชิญกับทหารร

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status