แชร์

บทที่ 713

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
เขาถูกจองจำในคุกหลวงมาหลายวัน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะใช้วิธีทรมานอย่างหนักหน่วงเพียงใด เขาก็ไม่เคยคิดอ่อนข้อแม้แต่สักครั้งเดียว

เฝ้ารอแล้วรอเล่ามาหลายวัน จนกระทั่งได้พบฉู่จวินสิงจริงๆ กลับแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง

ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าดูไม่ผิดหรอก ข้าคือฉู่จวินสิง”

หลี่ว์ซางจำเสียงของฉู่จวินสิงได้ เขาตื้นตันจนไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร

ได้แต่มือหนึ่งจับซี่กรงไม้ของห้องขังไว้ นิ้วมือกำแน่น

“ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร ทหารข้างนอกมิได้พบเห็นท่านหรอกหรือ?”

หลี่ว์ซางกล่าวพลาง สายตาคอยเหลียวมองออกไปด้านนอก

ดีที่พวกเขาพูดคุยเสียงเบามาก จึงไม่ถูกผู้คุมได้ยินเข้า

ข้างในอีกสี่คนนั้น ต่างก็ตื้นตันใจเช่นกัน

ผู้ที่อายุน้อยหน่อย ถึงขั้นยกแขนเสื้อขึ้นมาซับน้ำตา

ในที่สุดก็รอจนเยียนอ๋องมาถึง พวกเขามีหวังได้รอดชีวิตแล้ว

ฉู่จวินสิงต้องปลอบให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ พลางถามหลี่ว์ซาง “มีแต่พวกเจ้าที่ถูกจับมากระนั้นหรือ?”

หลี่ว์ซางรีบกล่าวตอบ “ยังมีอีกแปดคนของรับ แต่ถูกแยกขังไว้อีกห้องหนึ่ง”

หลี่ว์ซางกล่าวพลาง ชี้นิ้วไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุด

หลังจากกล่าวจบ จึงได้ถอนหายใจหนักหน่วง

“หากท่านอ๋องมาช่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 714

    หลังจากกำชับอีกหลายคำ ฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันจึงหายตัวไปทั้งคู่เดินไปยังด้านในสุดของเรือนจำการที่พวกเขาจู่ๆ อันตรธานหายไปเช่นนี้ ย่อมทำให้หลี่ว์ซางกับพวกต่างตกใจไม่น้อยทุกคนต่างพากันนั่งลง พร้อมวิจารณ์ไปต่างๆทหารอายุน้อยเอ่ยปากขึ้นก่อน “ท่านอ๋องของเราคงมิใช่ไปฝึกเวทมนตร์คาถาชนิดใดมาหรอกนะแล้วไฉนจึงปุบปับก็โผล่มา พริบตาก็หายวับไปเช่นนั้นได้?”หลี่ว์ซางตบท้ายทอยทหารรุ่นน้องอีกครั้ง “อย่าพูดเหลวไหล โลกนี้จะมีคาถากระไรได้?”ทหารอีกคนอดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้น “แต่ข้าว่าน้องชายผู้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่า ยาที่เขาให้พวกเรากิน ทำให้ข้ารู้สึกร่างกายดีขึ้นมาก”ทหารผู้น้อยทนเงียบไม่ไหว จึงได้กล่าวขึ้นอีก “ข้าว่าคงเพราะน้องชายผู้นั้นเก่งกล้าสามารถ เป็นคนถ่ายทอดอิทธิฤทธิ์ให้ท่านอ๋องของเรา”หลี่ว์ซางเกรงว่าเสียงพูดคุยของพวกเขา จะดังไปถึงหูผู้คุมเข้าจึงรีบเอ่ยปากห้ามปราม “เอาเถิด ทุกคนอย่าพูดอีกเลย ระวังผู้คุมจะมาได้ยินเข้า”“ยามนี้สำคัญคือพักฟื้นร่างกาย แล้วรอให้เยียนอ๋องมาช่วยพวกเราออกไป”ในที่สุดทุกคนจึงได้ยอมหุบปาก นั่งลงที่พื้นเพื่อปรับสภาพร่างกายฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 1

    เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 2

    บ่าวรับใช้รับคำสั่ง รีบหยิบเชือกออกมาเพื่อจะมัดตัวเจี่ยนอันอันแต่เจี่ยนอันอันกลับคว้าเชือกไว้ได้ ก่อนจะก้าวอาด ๆ มาตรงหน้าเจี่ยนกั๋วกงนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเจี่ยนกั๋วกงไม่ทันตั้งตัว และเชือกก็ถูกคล้องเข้าที่ลำคอของเขาแล้วเจี่ยนอันอันดึงเชือกจนแน่น ทำให้เจี่ยนกั๋วกงหายใจไม่ออกทันทีนางตวาดเสียงเย็นชา “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ! หนังสือตัดขาดนั่นเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหายเสียเล่า”“จำคำพูดของเจ้าวันนี้ไว้ให้ดี วันหน้าเมื่อข้าโบยบินขึ้นสูง เจ้าก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายขอคืนดีกับข้าแล้วกัน!”สิ้นประโยค เจี่ยนอันอันก็เตะเจี่ยนกั๋วกงจนล้มลงกับพื้นฮูหยินรองรีบวิ่งมาพยุงเจี่ยนกั๋วกง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน“เจี่ยนอันอัน นังลูกทรพี! เจ้ากล้าตบตีบิดาแท้ ๆ ของเจ้าได้อย่างไร”“พวกข้าดูแลเจ้าให้เติบโตมาแท้ ๆ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักบุญคุณ แถมยังคิดฆ่าบิดาของเจ้าอีก!”“จวนกั๋วกงของเรา ไยจึงเลี้ยงดูเด็กเนรคุณเช่นเจ้าออกมาได้”ในขณะเดียวกัน เจี่ยนหลิงเยว่บุตรสาวของฮูหยินรองก็เดินเข้ามานางด่าเจี่ยนอันอันอย่างโกรธจัด “เจี่ยนอันอัน ทางที่ดีเจ้าไปตายอยู่ข้างนอกเสีย แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 3

    ในตอนนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางบนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า [ต้องผูกชะตากับเยียนอ๋องเท่านั้นจึงจะเปิดมิติได้ มิเช่นนั้นมิติจะระเบิดภายในสิบวินาที][ไม่ทราบว่าจะทำการผูกชะตาหรือไม่?]เจี่ยนอันอันที่เพิ่งยิ้มแย้มอย่างสดใส ยามนี้หน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นว่าการนับถอยหลังของมิติเริ่มขึ้น เจี่ยนอันอันไม่มีเวลาคิดมาก รีบตะโกนในใจว่า “ผูกสิ ข้าจะผูกชะตา!”การนับถอยหลังของมิติหยุดลง และมีข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้งว่า [ผูกชะตาสำเร็จ มิติถูกเปิดแล้ว]เจี่ยนอันอันรีบดึงยาชนิดใหม่ออกมาจากมิติและโยนเข้าปากทันทีโดยไม่คิดลังเลในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ นางก็ต้องเริ่มวางแผนสำหรับวันข้างหน้าก่อนอื่นนางต้องสะสมเสบียงจำนวนมาก เพื่อให้ในวันที่ถูกเนรเทศ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับคนในครอบครัวของจวนเยียนอ๋องในเมื่อบิดาของร่างเดิมตั้งใจจะตัดขาดกับนาง เช่นนั้นนางก็จะขนทรัพย์สินของจวนกั๋วกงไปให้หมดก่อนเจี่ยนอันอันหลับตาแล้วกล่าวในใจว่า “ล่องหน ไปยังคลังสมบัติของจวนกั๋วกง”ทันใดนั้นร่างกายของนางก็หายไป วินาทีถัดมานางก็มาปรากฏตัวในคลังสมบัติของจวนกั๋วกงผ้าไหมแพรพรร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 4

    เพื่อที่จะไล่พ่อครัวหลวงเหล่านี้ออกไป เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงยาถ่ายออกจากมิติแล้วโปรยใส่หน้าพวกเขาหลังจากพ่อครัวหลวงหลายคนสูดผงยาระบายเข้าไปได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มบ่นปวดท้อง แล้วรีบกุมท้องวิ่งออกจากห้องเครื่องกันไปหมดเจี่ยนอันอันฮัมเพลงไปพลาง กินขนมไปพลาง พร้อมกับโยนขนมและอาหารจากห้องครัวหลวงทั้งหมดเข้าไปในมิติของนางนางเหลือบมองผักและธัญพืชที่วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงเนื้อที่ถูกหั่นไว้แล้วเจี่ยนอันอันคิดว่าต้องนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปด้วยถึงจะดีเมื่อถูกเนรเทศ นางจะได้ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ทำอาหารอร่อย ๆ ได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เจี่ยนอันอันก็รีบขนวัตถุดิบทั้งหมดลงในมิติทันทีหลังจากเจี่ยนอันอันออกจากห้องเครื่องหลวง นางก็คิดว่าควรจะลองไปดูเยียนอ๋องผู้นั้นสักหน่อยวินาทีต่อมา นางก็ปรากฏตัวในคุกโดยพลันในขณะนั้น ฉู่จวินสิงซึ่งก็คือเยียนอ๋องกำลังถูกทรมานอย่างหนักร่างกายของเขาถูกทุบตีจนหนังเปิดเนื้อแตก เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกย้อมไปด้วยโลหิตจนแดงฉานแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉู่จวินสิงก็ไม่ส่งเสียงครวญครางแม้แต่น้อยเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เขานางรู้สึกชื่นชมเขาจากใจจริงว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 5

    ผู้คุมหลายคนได้กลิ่นเหม็นรุนแรงจากการผายลม แต่พวกเขาไม่กล้าอุดจมูกหรือหลบเลี่ยงทำได้เพียงกลั้นใจและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขันทีใหญ่ก็วิ่งตามออกมาด้วย ขณะเดินตามหลังฮ่องเต้ก็มีสีหน้ากังวลเขากลัวจริง ๆ ว่าฮ่องเต้อาจพลาดปล่อยลมออกมา แล้วเผลอทำเลอะในกางเกงเจี่ยนอันอันที่ล่องหนอยู่ มองเห็นท่าทางน่าสมเพชของฮ่องเต้สุนัขที่ดูเหมือนจะถ่ายไม่หยุด นางก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ยาระบายที่นางใช้ไม่มีทางแก้ได้ พอจะทำให้ฮ่องเต้สุนัขนี้ถ่ายไม่หยุดถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเมื่อเห็นว่าเวลาได้ที่แล้ว เจี่ยนอันอันก็ออกจากวังหลวงแล้วกลับมาที่เกี้ยวแต่งงานในทันทีในเวลานี้ เกี้ยวแต่งงานได้หยุดอยู่หน้าจวนเยียนอ๋องแล้วไร้เงาของชายฉกรรจ์สี่คนที่หามเกี้ยวมาเจี่ยนอันอันดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงออก ก่อนจะเปิดม่านเกี้ยวแล้วก้าวออกมาอย่างมั่นใจนางเห็นว่าหน้าจวนเยียนอ๋องได้ถูกล้อมโดยทหารรักษาพระองค์แล้วเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอดังมาจากภายในจวนเยียนอ๋องเจี่ยนอันอันไม่สนใจทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น นางก้าวเดินเข้าไปในจวนเยียนอ๋องอย่างไม่ลังเลทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในจวนเยียนอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 6

    หลังจากที่คนในตระกูลคนอื่นได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ก็รู้สึกประหลาดใจในตัวตนคุณหนูใหญ่ของเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากนางไม่ใช่คุณหนูรองที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้หรอกหรือนี่แต่หลังจากได้ยินเจี่ยนอันอันยืนกรานว่าจะไม่แต่งด้วยหากไม่ใช่เยียนอ๋อง พวกเขาก็รู้สึกประทับใจในความจริงใจของเจี่ยนอันอันช่างเป็นแม่นางที่จิตใจดีงามเหลือเกิน ยอมออกเรือนแทนน้องสาวของตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เลือกแต่งเข้ามาในจวนเยียนอ๋องของพวกเขายอมรับโทษเนรเทศไปตกระกำลำบากกับพวกตนอาศัยเพียงความจริงใจนี้ของนาง พวกเขาก็จะปฏิบัติต่อนางเสมือนสมาชิกในครอบครัวของตัวเองแล้วขณะนั้นเอง เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งให้ไปตรวจค้นก็กลับมากันแล้วพวกเขายืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ รายงานต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ว่า “รายงานท่านหัวหน้า คลังสมบัติในจวนเยียนอ๋องว่างเปล่าขอรับ”“ในห้องของเยียนอ๋องก็ว่างเปล่าเช่นกัน”“ในห้องของคนอื่นๆ ในตระกูลก็ว่างเปล่าเช่นกันขอรับ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์นิ่งอึ้งไป คนในจวนเยียนอ๋องต่างก็อึ้งเช่นกันนี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเก็บทรัพย์สินไว้ที่เดิมโดยไม่ได้ไปแตะต้องเลยนี่ แต่กลับไม่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 7

    ฮูหยินใหญ่เห็นดังนั้นก็คิดจะปราดเข้าไปขวางตรงหน้าฉู่จวินสิงนั่นคือลูกชายคนเล็กของนาง ยามนี้ถูกฮ่องเต้ทำร้ายจนถึงขนาดนี้แล้วตอนนี้แม้แต่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาช่างเหมือนดังคำกล่าวที่ว่าเสือตกที่นั่งลำบากยังถูกสุนัขรังแกโดยแท้ตอนนี้ถึงต้องแลกด้วยชีวิต นางก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายลูกชายนางเด็ดขาดเจี่ยนอันอันเห็นฮูหยินใหญ่จะพุ่งเข้าไปก็รีบดึงตัวอีกฝ่ายไว้“ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเจ้าค่ะ” เจี่ยนอันอันกระซิบข้างหูฮูหยินใหญ่ฮูหยินใหญ่หันกลับมามองเจี่ยนอันอัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงขัดขวางตนเองขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังพูดอยู่นั้นก็ตั้งท่าเตรียมจะซัดเข็มเงินอีกเล่มใส่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เข็มเงินในมือนางเล่มนี้เคลือบยาพิษเอาไว้ พอทิ่มแทงลงไปก็จะทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้เป็นอัมพาตทั่วร่างทันทีถึงตอนนั้นนางก็สามารถใช้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาบีบบังคับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้ได้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ในยามนั้นเห็นว่ายังคงไม่มีใครก้าวออกมาเขาเงื้อดาบในมือขึ้นแล้วฟันลงบนร่างฉู่จวินสิงทันทีเห็นกับตาว่าคมดาบกำลังจะฟันล

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 714

    หลังจากกำชับอีกหลายคำ ฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันจึงหายตัวไปทั้งคู่เดินไปยังด้านในสุดของเรือนจำการที่พวกเขาจู่ๆ อันตรธานหายไปเช่นนี้ ย่อมทำให้หลี่ว์ซางกับพวกต่างตกใจไม่น้อยทุกคนต่างพากันนั่งลง พร้อมวิจารณ์ไปต่างๆทหารอายุน้อยเอ่ยปากขึ้นก่อน “ท่านอ๋องของเราคงมิใช่ไปฝึกเวทมนตร์คาถาชนิดใดมาหรอกนะแล้วไฉนจึงปุบปับก็โผล่มา พริบตาก็หายวับไปเช่นนั้นได้?”หลี่ว์ซางตบท้ายทอยทหารรุ่นน้องอีกครั้ง “อย่าพูดเหลวไหล โลกนี้จะมีคาถากระไรได้?”ทหารอีกคนอดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้น “แต่ข้าว่าน้องชายผู้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่า ยาที่เขาให้พวกเรากิน ทำให้ข้ารู้สึกร่างกายดีขึ้นมาก”ทหารผู้น้อยทนเงียบไม่ไหว จึงได้กล่าวขึ้นอีก “ข้าว่าคงเพราะน้องชายผู้นั้นเก่งกล้าสามารถ เป็นคนถ่ายทอดอิทธิฤทธิ์ให้ท่านอ๋องของเรา”หลี่ว์ซางเกรงว่าเสียงพูดคุยของพวกเขา จะดังไปถึงหูผู้คุมเข้าจึงรีบเอ่ยปากห้ามปราม “เอาเถิด ทุกคนอย่าพูดอีกเลย ระวังผู้คุมจะมาได้ยินเข้า”“ยามนี้สำคัญคือพักฟื้นร่างกาย แล้วรอให้เยียนอ๋องมาช่วยพวกเราออกไป”ในที่สุดทุกคนจึงได้ยอมหุบปาก นั่งลงที่พื้นเพื่อปรับสภาพร่างกายฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 713

    เขาถูกจองจำในคุกหลวงมาหลายวัน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะใช้วิธีทรมานอย่างหนักหน่วงเพียงใด เขาก็ไม่เคยคิดอ่อนข้อแม้แต่สักครั้งเดียวเฝ้ารอแล้วรอเล่ามาหลายวัน จนกระทั่งได้พบฉู่จวินสิงจริงๆ กลับแทบไม่เชื่อสายตาตนเองฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าดูไม่ผิดหรอก ข้าคือฉู่จวินสิง”หลี่ว์ซางจำเสียงของฉู่จวินสิงได้ เขาตื้นตันจนไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรได้แต่มือหนึ่งจับซี่กรงไม้ของห้องขังไว้ นิ้วมือกำแน่น“ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร ทหารข้างนอกมิได้พบเห็นท่านหรอกหรือ?”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง สายตาคอยเหลียวมองออกไปด้านนอกดีที่พวกเขาพูดคุยเสียงเบามาก จึงไม่ถูกผู้คุมได้ยินเข้าข้างในอีกสี่คนนั้น ต่างก็ตื้นตันใจเช่นกันผู้ที่อายุน้อยหน่อย ถึงขั้นยกแขนเสื้อขึ้นมาซับน้ำตาในที่สุดก็รอจนเยียนอ๋องมาถึง พวกเขามีหวังได้รอดชีวิตแล้วฉู่จวินสิงต้องปลอบให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ พลางถามหลี่ว์ซาง “มีแต่พวกเจ้าที่ถูกจับมากระนั้นหรือ?”หลี่ว์ซางรีบกล่าวตอบ “ยังมีอีกแปดคนของรับ แต่ถูกแยกขังไว้อีกห้องหนึ่ง”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง ชี้นิ้วไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุดหลังจากกล่าวจบ จึงได้ถอนหายใจหนักหน่วง“หากท่านอ๋องมาช่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 712

    แต่เขาถูกเนรเทศยกครัวไปอยู่เมืองอินเป่ยแล้ว เหตุใดจึงมีเสียงมาปรากฏที่คุกหลวงได้อีกหรือว่า หลายวันนี้ที่เขาแสร้งทำเป็นสติวิปลาส เพื่อหลีกหนีการลงทัณฑ์ที่แสนสาหัสกลับกลายเป็นภาพหลอนเกิดขึ้นกับตนแล้วหรือไร?เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองหน้าฉู่เทียนหัวซึ่งยืนตาค้าง แต่ไม่ไปสนใจเขา กลับเดินเข้าไปด้านในคุกหลวงอีกพร้อมสำรวจแต่ละห้องอย่างละเอียด ผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในนั้น บ้างก็นั่งบ้างก็นอน พักผ่อนไปตามเรื่องแต่ตามร่างกายของแต่ละคน ล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือดมากมายและขณะที่ทั้งคู่เดินลึกไปยังด้านใน พลันมีเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบ แว่วเข้ามาในโสตประสาท“ป่านนี้พวกแม่ทัพเฉินคงหนีไปถึงเมืองอินเป่ยแล้วกระมัง?”“ขอเพียงพวกเขาได้พบเจอกับเยียนอ๋อง เราก็จะมีหวังรอดชีวิต”“ยามนี้ทุกอย่างล้วนขึ้นกับชะตาของพวกแม่ทัพเฉิน หวังว่าจะสามารถหลบหนีการตามล่าของเหล่าทหาร จนได้พบเยียนอ๋องโดยเร็ว”“เฮ้ พวกเราอยู่ในนี้แทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้ว”“ช่างเถิด รีบนอนเสีย พรุ่งนี้อาจถูกทรมานหนักหน่วงอีกหนึ่งวัน”“แต่ขอให้ทุกคนอดทนไว้ ตราบใดที่เยียนอ๋องไม่มาช่วยพวกเรา เราจะไม่ย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 711

    “คนที่บ้านกลับไปหมดแล้วรึ?”“อึม ไปหมดแล้ว”“พวกเขาไปที่ใด?”“ไปเล่นดินเล่นทรายอยู่ข้างนอก”ฉู่เทียนหัวบ่นพึมพำด้วยประโยคเหล่านี้ซ้ำซาก เขาพูดเองเออเอง ทั้งยังเอาศีรษะโขกกำแพงอีกหลายทีจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังฮ่าๆ ออกมาเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองดูฉู่เทียนหัวแทบไม่กะพริบตา เพื่อจะดูว่าเขาเสียสติจริงหรือเสแสร้งกันแน่ฉู่เทียนหัวโขกศีรษะไปครู่หนึ่ง จึงได้หันกลับมาอีกเขาเดินไปยังหน้าประตูห้องขัง พร้อมเอามือจับซี่กรงแล้วโยกแรงๆ อยู่หลายทีเจี่ยนอันอันพอดียืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นมือที่ยื่นออกมาเบื้องหน้า จึงรีบถอยหลังเร็วพลันเสียงฝีเท้านางแม้ว่าจะแผ่วเบา แต่ยังคงเข้าหูฉู่เทียนหัวอยู่ดีสายตาของฉู่เทียนหัวผุดแววฉงนที่ผ่านไปเพียงวูบหนึ่งไม่นานก็คืนสู่ภาวะปกติ โดยเอามือไขว่คว้ากลางอากาศ พร้อมใส่เข้าปากเคี้ยวกินหนุบหนับร่างกายยังคงสั่นเทาเป็นระยะ เคี้ยวอากาศไปพลาง ปากก็บ่นพึมพำไปเรื่อย“ข้าคือโอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์จะไม่ปล่อยให้ข้าอดอยาก สวรรค์ประทานของดีแก่ข้ามากมาย ฮี่ๆๆ...”แต่แววฉงนที่ปรากฏในดวงตาฉู่เทียนหัวเมื่อครู่ กลับตกอยู่ในสายตาของคนทั้งสองฉู่จวินสิงดูออกในฉับพลัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 710

    หากผู้ที่กลับมาเมื่อวานไม่ใช่อิ่นเจียงตัวจริง ฮ่องเต้ย่อมต้องกำจัดคนผู้นั้นเป็นแม่นมั่นถึงตอนนั้นเมื่อใด ฮ่องเต้ก็จะส่งคนไปเมืองอินเป่ยเพื่อตรวจสอบอีกครั้งและถ้าครอบครัวฉู่จวินสิงยังไม่ตายจริง ก็จะสามารถกวาดล้างทีเดียวให้สิ้นซากแต่สิ่งที่เจี่ยนกั๋วกงไม่คาดคิดก็คือ ผลลัพธ์ออกมากลับกลายเป็นตรงข้ามฮ่องเต้ไม่เพียงไม่เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ ยังจ้องมองด้วยพระเนตรดุดันอีก“ในเมื่อเกิดเหตุมาหลายวันแล้ว มาบอกข้าตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ช่างไม่เอาไหนนัก”ฉู่ชางเหยียนตำหนิเจี่ยนกั๋วกงอย่างรุนแรงไม่ไว้หน้า พร้อมทั้งโบกมือด้วยความหงุดหงิด เป็นเชิงบอกให้เขาถอยไปทำให้ถึงที่สุดแล้ว เจี่ยนกั๋วกงก็ไม่อาจกล่าวถึงจุดประสงค์แท้จริงของตนได้หลังจากรับคำว่า “พ่ะย่ะค่ะ” แล้ว จึงถอยกลับไปอยู่ที่เดิมเจี่ยนอันอันมองผ่านกล้องรูเข็ม เห็นสีหน้าเจี่ยนกั๋วกงบ่งบอกถึงความไม่พอใจยิ่งแสดงว่าเจี่ยนกั๋วกงไม่เชื่อนางกับฉู่จวินสิง เขาคงอยากให้ฉู่ชางเหยียนส่งคนไปสืบที่เมืองอินเป่ยซ้ำอีกตาแก่รกโลกสมควรตายผู้นี้ คิดอาฆาตหมายสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงให้หมดสิ้นจริงๆ!เจี่ยนอันอันกลับไปมองภาพเหตุการณ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 709

    เฉินเช่อก็เห็นว่ามีเหตุผล “นั่นสิขอรับนายท่าน ไม่แน่วันหน้าทหารอาจจับกุมคนปล้นคลังหลวงได้”“ถึงตอนนั้นเมื่อใด เราค่อยไปช่วยคนก็ได้”ฉู่จวินสิงรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงเรื่องอันใด เพราะการช่วยคนมาจากคุกหลวงนั้น อย่างไรก็มิใช่เรื่องง่ายอยู่แล้วอีกทั้งยามนี้ในวังคุ้มกันเข้มงวด หากเขาไปช่วยคนแล้วถูกจับอีกไม่เพียงช่วยคนออกมาไม่ได้ ตนยังจะถูกจับกุมเข้าให้อีกในที่สุดฉู่จวินสิงจึงเลิกล้มความคิดที่จะไปช่วยคนในบัดดลเพียงแต่ถึงยามค่ำคืน เขาอาจลักลอบเข้าไปในคุกหลวง เพื่อเยี่ยมเยียนทหารที่ถูกจับก็เป็นได้“เช่นนั้นก็ได้ เรื่องนี้รออีกสักหลายวันค่อยว่ากันใหม่”ฉู่จวินสิงจะอยู่ที่นี่นานก็ไม่สะดวก เพราะอย่างไรก็เป็นเขตเมืองจิงโจวอีกทั้งยามนี้เขาอยู่ในฐานะของอิ่นเจียง หากมีผู้ใดรู้ว่าแอบมาโรงเตี๊ยมเพื่อพบปะกับคนบางคน ก็อาจสงสัยถึงจุดประสงค์ของเขาได้หลังจากกำชับอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงตามเจี่ยนอันอันออกจากโรงเตี๊ยม กลับไปยังบ้านพักของอิ่นเจียงเจี่ยนอันอันนึกอยากรู้ครามครัน ว่าคนในตำหนักเสวียนหยาง ยามนี้กำลังทำสิ่งใดอยู่หลังจากใส่เลนส์สัมผัสเรียบร้อย จึงตั้งจิตนึกถึงตำหนักเสวียนหยางโดยพลันเพี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 708

    ฉู่ชางเหยียนรู้สึกโมโหยิ่ง พลางมองดูเจียงหวยซึ่งเฝ้าอยู่ด้านข้างด้วยแววตาดุดัน“เจียงหวย กระบี่ของข้าเล่า?”เจียงหวยจึงเพิ่งสังเกตเห็น กระบี่ซึ่งแขวนอยู่ด้านข้างพระแท่นนั้น จู่ๆ ไม่ทราบอันตรธานหายไปได้อย่างไรพลางร้อนใจจนรีบคุกเข่าลง “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อคืนเขาเฝ้าอยู่ด้านข้างพระแท่นมังกรอยู่ตลอด มิได้ลุกขึ้นไปไหนเลยแต่ไฉนพอตื่นเช้ามา กระบี่ล้ำค่ากลับหายไปเสียได้หรือว่า ในวังมีคนเข้ามาทำการโจรกรรมอีกแล้ว?ไม่เพียงกวาดเอาเงินทองในคลังหลวงไปเสียสิ้น จนแม้แต่กระบี่ยังไม่ละเว้น!โจรผู้นี้มันเป็นใครกันแน่ จึงได้มาโจรกรรมของดีในวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้!ฉู่ชางเหยียนยกเท้าถีบใส่เจียงหวยจนหงายหลังไป“เจ้าสุนัขรับใช้ไม่เอาไหน ยังมาคุกเข่าหาวิมานอันใดอีก ไม่รีบไปจับคนร้ายมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เจียงหวยรีบลนลานคลานลุกขึ้น รับคำพร้อมถอยออกไปเร็วพลันฉู่ชางเหยียนเอามือทุบเตียงด้วยความโกรธแค้น จนเกือบทำให้กล้องรูเข็มที่ติดอยู่ด้านบนร่วงหล่นลงมาดีที่เมื่อคืนเจี่ยนอันอันติดกล้องไว้ค่อนข้างแน่น มิเช่นนั้นหากตกลงมาจริง คงถูกฉู่ชางเหยียนรู้เข้าเป็นแน่แท้......เจี่ยนอันอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 707

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางจะได้ตามดูความเคลื่อนไหวของฉู่ชางเหยียนได้ทุกซอกทุกมุม ไม่ให้คลาดสายตาเจี่ยนอันอันนำเรื่องกล้องรูเข็มบอกกล่าวให้เขาฟังอีกทั้งยังมอบเลนส์สัมผัสให้แก่ฉู่จวินสิงหนึ่งกล่อง“อีกประเดี๋ยวข้าจะบอกให้รู้ ว่าจะใส่เลนส์ชนิดนี้ได้อย่างไร”ฉู่จวินสิงมองดูกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ พร้อมคิดในใจ ไฉนเจี่ยนอันอันจึงมีของเล่นมากเสียจริงหรือในตัวนางจะมีกล่องสารพัดนึก ที่สามารถเนรมิตสิ่งของประหลาดได้อย่างมากมายไม่ซ้ำเขาไม่ได้พูดมากความ เพียงเก็บเอากล่องเลนส์สัมผัสใส่ไว้ในอกเสื้อไม่นานทั้งคู่จึงมาถึงตำหนักเสวียนหยาง ดีที่ภายในจุดตะเกียงอยู่ จึงมองเห็นทุกมุมได้อย่างสว่างเจี่ยนอันอันมอบกล้องรูเข็มให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้เขาใช้วิชาตัวเบา นำกล้องรูเข็มไปติดตามเสาหลายต้นจากนั้นนางจึงใส่เลนส์สัมผัส ทำให้เห็นภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องรูเข็มนั้น“ท่านพี่ กล้องทางซ้ายมือมองต่ำไปเล็กน้อย ท่านวางขึ้นสูงหน่อย”“กล้องด้านขวามือให้หันมาทางข้าอีก”เจี่ยนอันอันคอยชี้นำให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้นำกล้องที่เหลือติดตั้งให้เรียบร้อยสุดท้ายจึงปรบมือด้วยความพึงพอใจ “เสร็จแล้ว ทีนี้เราก็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 706

    “กู้มั่วหลียังคงมีการศึกษาเรื่องยาพิษอยู่ตลอด ข้าคิดว่าเขากำลังหาวิธีถอนยาพิษร้ายแรงที่ฮ่องเต้ชั่ววางอยู่ในตัวเขา”“เพียงแต่พิษที่ฮ่องเต้ใช้ ต้องแก้ด้วยวิธีพิษต้านพิษเท่านั้น กู้มั่วหลีจึงมุ่งมั่นคิดจะปรุงยามาโดยตลอด”ด้วยความเข้าใจที่นางมีต่อกู้มั่วหลี คนผู้นี้มีน้ำมือเหี้ยมโหดมาแต่ไหนแต่ไรกล้าที่จะทำเรื่องเลวร้ายได้ทุกอย่างเขามาปรากฏตัวที่เมืองอินเป่ย และสมัยก่อนยังช่วยฉู่ชางเหยียนกู้เมืองกลับคืนคงเพราะฉู่ชางเหยียนใช้พิษร้ายแรงบังคับเขา จึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ออกมามิเช่นนั้นด้วยชั้นเชิงวรยุทธ์และอุปนิสัยของคนผู้นี้ จะยอมอยู่ใต้โอวาทฉู่ชางเหยียนได้อย่างไรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผลหากว่าคนผู้นั้นคือกู้มั่วหลีจริงๆ เรื่องราวก็คงจะง่ายขึ้นมากเห็นทีเขาคงต้องไปถามผังมั่วให้รู้ เพื่อดูว่าอีกฝ่ายใช่กู้มั่วหลีจริงหรือไม่เพียงแต่วันนี้เขาต้องรอให้ตกดึกก่อนเพื่อไปขโมยกระบี่เฝินเทียนกลับมา จึงไม่อยากไปจากที่นี่แม้เพียงครึ่งก้าวเห็นทีว่าเรื่องนี้ คงต้องวางแผนให้รอบคอบใหม่แล้วเวลาเคลื่อนผ่านไปช้าๆ ในที่สุดทั้งคู่ก็รอคอยมาถึงยามรัตติกาลปลอดคนและเช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status