Share

บทที่ 717

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ภายในห้องรกไปหมด กระทั่งพื้นที่จะวางเท้าสักที่ก็ยังไม่มี

ภาชนะแก้ววางอยู่บนโต๊ะ ในนั้นบรรจุของเหลวสีเขียวและสีม่วงเอาไว้

ของเหลวนั้นพ่นควันปุดๆ ควันขาวลอยฉุยออกมาจากภาชนะ

ซางหมิงเห็นว่าคนทั้งสองยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เขาจึงคว่ำปากเอ็ดว่า “ตรงนั้นก็นั่งได้ไม่ใช่เรอะ ยังไม่รีบนั่งลงอีก”

ฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธเคืองเพราะความเฉยชาของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

เขาจูงมือเจี่ยนอันอันก้าวข้ามกระดาษที่กระจายอยู่บนพื้นไปถึงบริเวณที่ซางหมิงพูดถึง

แล้วจึงเห็นเบาะนั่งสองเบาะใต้กองกระดาษ

ถ้าไม่ได้รับการชี้แนะจากซางหมิง พวกเขาก็คงดูไม่ออกจริงๆ ว่าตรงนี้มีบริเวณที่สามารถนั่งได้อยู่

หลังจากทั้งสองคนนั่งลงแล้วก็ไม่มีใครส่งเสียง รอให้ซางหมิงจัดการงานในมือเสร็จค่อยบอกกล่าวจุดประสงค์การมา

“เรื่องของเจ้าข้ารู้แล้ว เจ้ากลับมาคราวนี้คิดจะโค่นราชสำนักของฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ?”

ซางหมิงกล่าวโดยไม่ได้เงยหน้า มือยังคงทำหน้ากากต่อไป

ฉู่จวินสิงก็ไม่คิดจะปิดบัง บอกเล่าแผนการที่กลับมาคราวนี้ออกมารอบหนึ่ง

ซางหมิงแช่หน้ากากที่บางเบาดุจปีกจักจั่นในน้ำยาแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งสอง

“ท่านนี้คือผู้ใต้บังคับบัญชาที่เจ้าพามาด้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 718

    ซางหมิงโบกมือไปมา “เจ้ากับข้าเคยเป็นศิษย์อาจารย์กันมาก่อน ไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้”“แต่ข้าเห็นว่าหน้ากากที่แม่นางผู้นี้สวมอยู่ประณีตมากทีเดียว สามารถถอดลงมาให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”ซางหมิงดูออกแต่แรกแล้วว่าหน้ากากที่คนทั้งสองสวมอยู่ทำมาจากหนังมนุษย์แต่ไม่รู้ว่าหน้ากากหนังมนุษย์นั้นใช้น้ำยาอะไรแช่จึงดูเกลี้ยงเกลาอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นนั้นเจี่ยนอันอันคิดในใจว่าในเมื่อนางกับฉู่จวินสิงมีเรื่องมาขอร้องผู้วิเศษซาง นางจึงตอบรับคำขอของฝ่ายตรงข้ามเจี่ยนอันอันถอดหน้ากากหนังมนุษย์ลงมา เผยให้เห็นโฉมหน้าดั้งเดิมของนางเมื่อซางหมิงเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของเจี่ยนอันอันแล้วก็พลันประทับใจในความงามของนางฉู่จวินสิงไม่ได้แต่งแม่หนูผู้นี้เสียเปล่าจริงๆ นางไม่เพียงขวัญกล้าเกินคน แต่ยังมีรูปโฉมงดงามปานนี้เหมาะสมกับฉู่จวินสิงมากทีเดียวเมื่อซางหมิงรับหน้ากากหนังมนุษย์ไปก็อดถามไม่ได้ว่า “แม่หนู เจ้าชื่อว่าอะไรรึ ยินดีเรียนรู้วิชาแปลงโฉมกับข้าหรือไม่?”เจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าผู้วิเศษซางผู้นี้ยังคิดจะสอนวิชาแปลงโฉมให้นางอีกด้วยนางย่อมยินดีอยู่แล้ว“ศิษย์เจี่ยนอันอันคารวะอาจารย์เจ้าค่ะ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 719

    ผังมั่วยิ้มกล่าวว่า “พี่อิ่น ข้าเอาสุราอาหารมาด้วย วันนี้พวกเราต้องกินดื่มกันให้หนำใจเลยนะ”ฉู่จวินสิงเปลี่ยนจากท่าทีเย็นชาในคราวก่อนมาเป็นท่าทีอบอุ่นกว่าเดิม“รีบเข้ามาสิ ข้ากำลังจะไปหาเจ้าอยู่พอดี”ผังมั่วได้ยินอย่างนั้นก็ตอบรับอย่างดีใจ ก้าวยาวๆ เข้ามาข้างในผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นประสานมือคารวะฉู่จวินสิงแล้วก็ตามเข้ามาในเรือนเช่นกันคราวก่อนตอนผังมั่วมาหา ‘อิ่นเจียง’ แล้วถูกปฏิเสธไม่ให้เข้ามาเขาคิดว่าจะต้องเป็นเพราะ ‘อิ่นเจียง’ เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางจึงเย็นชาใส่เขาแบบนั้นเป็นแน่จากมิตรภาพระหว่างพวกเขาสองคนในหลายปีที่ผ่านมา เป็นไปไม่ได้ที่อิ่นเจียงจะเย็นชาใส่เขาเช่นนั้นตอนนี้ดูแล้วคงจะเป็นแบบที่เขาคิดไว้จริงๆฉู่จวินสิงจงใจแสดงความสนิทสนมกับผังมั่วเป็นพิเศษเพื่อทำลายความระแวงของผังมั่วมีแต่ต้องทำเช่นนี้ เขาจึงจะสามารถดำเนินแผนการขั้นต่อไปได้อย่างราบรื่นคนทั้งสามมาถึงหน้าโต๊ะ ผังมั่วจัดเรียงสุราอาหารลงบนโต๊ะหลังเขาเปิดห่อกระดาษน้ำมันออกมาก็เผยให้เห็นเนื้อตุ๋นกับถั่วลิสงนี่เป็นอาหารที่อิ่นเจียงชอบกินแกล้มสุรามาตลอด หลายปีมานี้ผังมั่วรู้ดีกว่าใครวันนี้เขาตั้งใจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 720

    พอเห็นเช่นนั้น ผังมั่วก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง!พี่อิ่นมาตายอยู่ข้างๆ เขาได้อย่างไร?ถึงตอนนี้ผังมั่วค่อยสังเกตว่าในมือตัวเองมีมีดสั้นเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งมีดเล่มนี้เป็นมีดของผู้ใต้บังคับบัญชาเขา เหตุใดจึงมาอยู่ในมือเขาได้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เขาพามาด้วยเล่า หนีไปที่ใดเสียแล้ว?ผังมั่วตกใจจนสร่างเมาเสียสนิท เขาโยนมีดสั้นทิ้งไปอย่างร้อนรน“พี่อิ่น ท่านอย่าหลอกข้านะ เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท่านรีบฟื้นขึ้นมาสิ!”แต่ไม่ว่าผังมั่วจะร้องเรียกอย่างไร ‘อิ่นเจียง’ ที่ฟุบจมกองเลือดอยู่ล้วนไม่ขยับเขยื้อนผังมั่วยื่นมือสั่นสะท้านไปอังตรงปลายจมูกของ ‘อิ่นเจียง’เมื่อพบว่า ‘อิ่นเจียง’ หมดลมหายใจไปแล้ว เขาก็ยิ่งตกใจจนหนังหัวชาวาบ ผุดลุกขึ้นยืนทันทีเขากวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ยังไม่เห็นเงาร่างผู้ใต้บังคับบัญชาในที่สุดผังมั่วก็เข้าใจแล้ว เรื่องนี้จะต้องเป็นฝีมือผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาผู้นั้นเป็นแน่ตอนนี้เขาเสียใจยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ไม่น่าพาผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นมาด้วยเลยตอนนี้มีคนตายแบบนี้ เขาจะไปอธิบายต่อฮ่องเต้อย่างไรเล่าผังมั่วหรี่ตาอย่างโกรธแค้น เขารู้สึกมาตลอดว่าผู้ใต้บังคับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 721

    เมื่อซางหมิงได้ยินฮวาหลานเอ๋อร์ร้องว่าหิวข้าว จึงรีบทิ้งงานในมือลง รีบไปทำอาหารอย่างมีความสุขสีหน้ายินดีปรีดาของเขาเช่นนี้ ดูไม่ต่างกับทำอาหารให้ลูกตัวเองได้กินโดยแท้เมื่อเจี่ยนอันอันเห็นซางหมิงเดินออกไป จึงรีบติดตามไปด้วยเมื่อทั้งคู่มาถึงหน้าห้องครัว พลันเห็นด้านในมีควันโขมงลอยขึ้นซางหมิงร้องอุทานเสียงหลง พลางรีบวิ่งเข้าไปดูผ่านไปเนิ่นนาน ควันในห้องจึงค่อยจางหายไปหมดรอจนซางหมิงเดินออกมา ใบหน้ากลับเลอะไปด้วยเขม่าดำเสียสิ้นหลังจากออกมาในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง ซางหมิงจ้องมองฮวาหลานเอ๋อร์ ทำเอาอีกฝ่ายหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงก“อาจารย์ เมื่อครู่เพราะข้ามิได้คุมไฟให้ดี ขอท่านโปรดลงโทษด้วย”ฮวาหลานเอ๋อร์กล่าวพลางก้มหน้าลง แสดงท่าทีพร้อมยอมรับโทษซางหมิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เอาเถิด เจ้าไปรอกินข้าวที่ห้องก่อน”ฮวาหลานเอ๋อร์เห็นซางหมิงไม่คิดตำหนินาง จึงรีบเงยหน้าขึ้น พร้อมฉีกยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณอาจารย์ที่ไม่ตำหนิ ข้าจะไปจัดสำรับเดี๋ยวนี้”ฮวาหลานเอ๋อร์พูดพลาง มองดูเจี่ยนอันอันเล็กน้อย“เหตุใดจึงยังไม่ไปอีก?”ฮวาหลานเอ๋อร์รู้สึกแปลกใจยิ่ง ปกติคนที่มาพบอาจารย์ของนาง เพียงไม่นานมักจะถ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 722

    ซางหมิงกำลังผลิตหน้ากากอีกอันอยู่ เมื่อได้ยินว่าอาหารทำเสร็จแล้ว จึงรีบทิ้งหน้ากากแล้วเดินออกจากห้องมาพร้อมแผดเสียงดังลั่น “หลานเอ๋อร์ ไปยกอาหารมาเร็ว”เพียงไม่นาน ฮวาหลานเอ๋อร์จึงรีบวิ่งไปห้องครัว ยกอาหารไปห้องกินข้าวซางหมิงหาสนใจเจี่ยนอันอันไม่ มีแต่รีบก้าวเท้าไปทางห้องกินข้าวเจี่ยนอันอันรีบตามไปเช่นกัน เมื่อทั้งคู่มาถึงห้องกินข้าว จึงเห็นฮวาหลานเอ๋อร์ได้จัดวางอาหารบนโต๊ะแล้วนางยังถือตะเกียบคีบเนื้อชิ้นหนึ่งส่งเข้าปากเรียบร้อย“อาจารย์ อาหารเหล่านี้ท่านเป็นคนทำหรือ? เหตุใดจึงต่างจากของจืดชืดที่ข้าเคยกินมาตลอด?”ซางหมิงแอบเคาะกะโหลกฮวาหลานเอ๋อร์เบาๆ ไปหนึ่งที“เหอะ นังเด็กจอมแสบ เจ้ากินอาหารที่ข้าทำมาปีกว่า ไม่เคยได้ยินว่าเจ้าจะติเช่นนี้”“วันนี้พอข้าไม่ได้แสดงฝีมือเอง เจ้ากลับมาติโน่นตินี่กระนั้นรึ?”ฮวาหลานเอ๋อร์เอามือลูบศีรษะ พลางเบ้ปากทำเสียงฮึดฮัด “อาจารย์ มือท่านหนักมากเลย”“เกิดทุบตีข้าจนปัญญาอ่อนแล้วจะทำอย่างไร ต่อไปใครจะเรียกท่านว่าอาจารย์อีก”ซางหมิงนั่งข้างฮวาหลานเอ๋อร์ พลางกล่าวยิ้มๆ “อาจารย์นวดให้เจ้าจะได้หายเจ็บนะ”ซางหมิงกล่าวพลาง ยื่นมือจะไปนวดศีรษะให้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 723

    เจี่ยนอันอันจึงเพิ่งเข้าใจ มิน่าฮวาหลานเอ๋อร์ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเช่นนี้ ซางหมิงก็หาได้โกรธเคืองสักนิดไม่ที่แท้ก็เพราะเป็นบุตรของสหายรักนี่เองทั้งคู่หลังจากกินข้าวเสร็จ ฮวาหลานเอ๋อร์จึงนำจานชามและตะเกียบไปล้างในห้องครัวแม้ปกตินางจะชอบตีฝีปากกับซางหมิง แต่เวลาทำงานกลับไม่เคยเกียจคร้านแม้แต่น้อยวันนี้หากไม่เพราะนางไปห้องปลดทุกข์กะทันหัน ก็คงไม่ทำให้ห้องครัวเกิดไฟลุกรุนแรงเช่นนั้นสองวันนี้เจี่ยนอันอันพักอยู่บ้านซางหมิง กลางวันนางอยู่กับเขาคอยเรียนรู้วิธีทำหน้ากากและวิชาการแปลงโฉมส่วนกลางคืนถูกจัดให้พักผ่อนอยู่ในห้องเดี่ยวห้องหนึ่งอาหารวันละสามมื้อ นางเป็นคนรับผิดชอบทั้งสิ้นฮวาหลานเอ๋อร์รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นสตรี จึงเรียกนางว่าพี่สาวนางมักชมเชยเจี่ยนอันอันว่าทำอาหารได้รสชาติดี ผลงานที่ออกมาอร่อยกว่าอาจารย์อุปโลกน์ของนางมากนักเพียงไม่นานเจี่ยนอันอันก็พอเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน แต่นางรู้สึกว่าความรู้นางยังตื้นเขินนักเพื่อให้รู้ถึงแก่นแท้ของวิชาแปลงโฉมโดยเร็ว นางจึงไม่รีบร้อนไปตามหาฉู่จวินสิงและจากการอยู่ร่วมมาหลายวัน ทำให้เจี่ยนอันอันจับสังเกตได้ว่า ซางหมิงก็น่าจะผ่านการแปลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 724

    ซางหมิงได้ยินดังนี้กลับทำเสียงฮึในลำคอ สองมือกำเป็นหมัดแน่น“หากข้าเป็นพี่น้องกับกู้มั่วหลีจริง คนแรกที่จะเอาชีวิตก็คือมัน!”เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น เห็นทีซางหมิงก็น่าจะรู้จักกู้มั่วหลีเช่นกันและระหว่างเขากับกู้มั่วหลี ก็น่าจะมีเรื่องบาดหมางด้วยแต่ถ้าเขาไม่ใช่กู้มั่วหลี ก็อาจพูดง่ายขึ้นสักหน่อยซางหมิงเห็นเจี่ยนอันอันยังคงยืนเฉยอยู่ที่เดิม จึงกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ยังไม่รีบไปอีก จะให้ข้าเฉดหัวเจ้าหรืออย่างไร?”เจี่ยนอันอันแม้จะรู้สึกขัดแย้งในใจ แต่นางยังไม่ต้องการไปจากที่นี่เร็วนักจึงรีบร้อนกล่าวอธิบาย “ท่านผู้วิเศษซาง ที่ข้าพบว่าท่านผ่านการแปลงโฉมมา ก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้องการดูใบหน้าที่แท้จริงของท่าน”“แต่มิคาดฝันว่าท่านจะมีใบหน้าคล้ายคลึงกับศัตรูของข้ากู้มั่วหลี่ถึงเพียงนี้”“เมื่อครู่ที่ล่วงเกินไป ต้องขออภัยด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางโค้งคำนับให้แก่ซางหมิงซางหมิงจึงเพิ่งเข้าใจว่าที่แท้เจี่ยนอันอันก็เหมือนเขา มีความแค้นกับกู้มั่วหลีเขากล่าวพร้อมกัดฟันกรอด “เจ้ากู้มั่วหลียังมีชีวิตอยู่ สวรรค์ช่างลำเอียงโดยแท้!”เมื่อเจี่ยงอันอันเห็นซางหมิงโกรธแค้นต่อกู้มั่ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 725

    แน่นอนว่าซางหมิงไม่เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอันเพราะสมัยก่อนกู้มั่วหลีได้วางยาพิษในร่างของเขาไม่น้อย แต่กลับไม่ต้องการให้เขาถูกพิษจนเสียชีวิตทุกครั้งที่เห็นเขาทุกข์ทรมานด้วยยาพิษ มักบอกว่าพิษนั้นยังไม่เพียงพอกู้มั่วหลีคล้ายคนเสียสติ แทนที่จะใช้ร่างกายเขาหาวิธีถอนพิษ กลับใช้เป็นที่ลองยามากขึ้นอีกซึ่งทำให้ซางหมิงถูกทรมานไม่หยุดหย่อนบัดนี้เจี่ยนอันอันกลับบอกว่าพิษในตัวเขาสามารถถอนได้ เพียงแค่ลมปากลอยๆ เขาย่อมไม่เชื่อแน่นอนแม้ว่านางจะมีความกล้าเหนือผู้อื่น ถึงขั้นติดตามฉู่จวินสิงกลับมาเมืองจิงโจวอีกครั้งแต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า นางจะสามารถขจัดพิษในร่างกายของเขาได้อีกทั้งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าพระชายาเยียนอ๋องรู้วิชาแพทย์ด้วย“ข้าว่าพระชายาเชิญกลับไปเสียดีกว่า ข้าต้องการพักผ่อน” ซางหมิงกล่าวพร้อมกับเอนกายลง “ก่อนออกไปอย่าลืมเป่าเทียนให้ดับด้วย”เจี่ยนอันอันเบะปากเล็กน้อย ถ้าตอนนี้เป็นผู้อื่น นางไม่สนใจนานแล้วแต่หลายวันนี้ซางหมิงสอนให้นางได้เรียนรู้หลายอย่าง จึงไม่อยากจากไปง่ายๆ เช่นนี้เจี่ยนอันอันกล่าวตอบเสียงเบา “ถ้าเช่นนั้นท่านพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ข้าจะถอนพิษในตัวให้”เจ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 818

    “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ที่ข้าเพิ่งเขียนขึ้นมา ทั้งเฝิงซานกวงและเฉียวซื่อต่างได้ลงชื่อเรียบร้อย”“จึงอยากให้ท่านเจ้าเมืองได้ลงชื่ออีกคน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วันหน้าเฝิงซานกวงจะได้ไม่กล้าบิดพลิ้วไปล่วงเกินเฉียวซื่ออีก”เจ้าเมืองตานมองดูข้อความในสัญญาฉบับใหม่ เห็นเนื้อหาล้วนสมเหตุสมผลดีอีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นความผิดของเฝิงซานกวงก่อน จึงยอมรับพู่กันมา พร้อมทั้งเขียนชื่อตนเองลงไปเจี่ยนอันอันยิ้มๆ พร้อมนำแป้นประทับตรา มอบให้เจ้าเมืองตานได้ประทับลายนิ้วอีกซ้ำอีกสัญญาชุดเดียวกันแต่มีสองแผ่น เจี่ยนอันอันจึงแบ่งให้เจ้าเมืองตานและเฝิงซานกวงต่างถือไว้คนละแผ่น“มีเจ้าเมืองตานเป็นพยานอีกคน หากวันหน้าเฝิงซานกวงกล้าไปล่วงเกินเฉียวซื่อสองแม่ลูกอีก ให้ข้ารู้เข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้”เฝิงซานกวงแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกอยากหักคอเจี่ยนอันอันให้ตายคามือไปเสียเยียนอ๋องพระชายาบ้าบออันใดกัน ยามนี้ล้วนถูกฮ่องเต้ปลดเป็นสามัญชนทั้งสิ้น ซ้ำยังถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ยต่างหากบัดนี้ฐานะของพวกเขา จะต่างจากเขาที่ตรงไหน?แต่พอมาอยู่นี่แล้ว ยังกล้ามาทำเหิมเกริมอีกรอให้เรื่องนี้จบสิ้นเมื่อใด ต้องหาวิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status