แชร์

บทที่ 715

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันถือโอกาสที่ทหารอีกสามคนหลับสนิทอยู่ จัดการป้อนยาสมานแผลใส่ปากให้เช่นกัน

เผื่อว่าเมื่อตื่นขึ้นมา ร่างกายจะได้บรรเทาความเจ็บปวดลงบ้าง

ฉู่จวินสิงกำชับอีกหลายประโยค จึงติดตามเจี่ยนอันอันออกจากห้องขังไป

การที่พวกเขาจู่ๆ หายตัวไปเช่นนั้น ย่อมทำให้ทหารสามคนที่บาดเจ็บสาหัส เกิดความตกใจจนอ้าปากค้าง

เดิมทีการปรากฏตัวกะทันหันของฉู่จวินสิง ก็ทำให้พวกเขาตกใจมากพอแล้ว

มิคาดว่าเขายังสามารถหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีก

แล้วสิ่งที่พวกเขามองเห็น คือมนุษย์หรือภูตผีกันแน่?

แต่เมื่อรู้สึกว่าร่างกายค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งสามก็เชื่อว่าที่เห็นนั้น คือเยียนอ๋องตัวจริงแน่นอน

เพราะหากว่าเป็นภูตผี แล้วจะมาป้อนยาให้พวกเขาได้อย่างไร?

ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันกลับมายังบ้านพักของอิ่นเจียง ร่วมหารือว่าลำดับต่อไปควรจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร

เจี่ยนอันอันกล่าว “เมื่อครู่ข้าเห็นสภาพของเหล่าทหาร นอกจากสามคนที่บาดเจ็บสาหัสนั่นแล้ว ที่เหลือหลังจากกินยาไป ไม่เกินสองวันน่าจะหายเป็นปกติ”

“เพียงแต่สามคนนั้นอาการหนักมาก ต่อให้กินยาสมานแผลไปจริง ก็อาจจะเดินเหินลำบาก”

“ถ้าเราจะช่วยพวกเขาออกมา ก็อาจต้องเผชิญกับทหารร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 716

    ฉู่จวินสิงพาเจี่ยนอันอันมาถึงตำหนักที่เขาเคยอยู่เจี่ยนอันอันไม่เข้าใจเลย ฉู่จวินสิงพานางมาที่นี่ทำไม?ที่นี่ว่างเปล่าโหวงเหวง อย่าว่าแต่โต๊ะเก้าอี้ แม้แต่เตียงนอนก็ยังถูกทหารที่มาริบทรัพย์ขนไปหมดแล้วฉู่จวินสิงคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อหวนรำลึกถึงสิ่งที่เขาเคยมีหรอกนะขณะที่เจี่ยนอันอันลอบครุ่นคิดก็เห็นว่าฉู่จวินสิงไปหยุดยืนอยู่หน้าผนังด้านหนึ่งเขาออกแรงกดลงบนมุมหนึ่งของผนัง ผนังด้านนั้นไม่มีร่องใดอยู่เลยแม้แต่น้อยแต่กลับมีเสียง ‘ครืด’ ดังขึ้น ต่อจากนั้นผนังก็เริ่มขยับอุโมงค์ลับที่มืดสนิทปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคนทั้งสองในที่สุดเจี่ยนอันอันก็เข้าใจแล้ว คิดไม่ถึงว่าในจวนเยียนอ๋องจะซุกซ่อนสถานที่ลึกลับเช่นนี้เอาไว้ฉู่จวินสิงจูงมือเจี่ยนอันอันเดินเข้าไปในอุโมงค์ลับแห่งนั้นผนังด้านหลังปิดลงเสียงดัง ‘ครืด’ อย่างรวดเร็วเจี่ยนอันอันหยิบตะบันไฟออกมาจุด มองดูเปลวไฟที่ถูกลมจุดขึ้นบนตะบันไฟ นางก็รู้ว่าที่นี่จะต้องมีทางลับอื่นๆ อยู่ด้วยแน่นอนคนทั้งสองเดินลงบันได มาได้ไกลพอสมควรก็ถูกผนังที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลขวางทางไปเอาไว้ฉู่จวินสิงใช้ตะบันไฟส่องไปที่ผนังด้านนั้นแล้วหาปุ่มกดเจอได้ในทั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 717

    ภายในห้องรกไปหมด กระทั่งพื้นที่จะวางเท้าสักที่ก็ยังไม่มีภาชนะแก้ววางอยู่บนโต๊ะ ในนั้นบรรจุของเหลวสีเขียวและสีม่วงเอาไว้ของเหลวนั้นพ่นควันปุดๆ ควันขาวลอยฉุยออกมาจากภาชนะซางหมิงเห็นว่าคนทั้งสองยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เขาจึงคว่ำปากเอ็ดว่า “ตรงนั้นก็นั่งได้ไม่ใช่เรอะ ยังไม่รีบนั่งลงอีก”ฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธเคืองเพราะความเฉยชาของอีกฝ่ายแม้แต่น้อยเขาจูงมือเจี่ยนอันอันก้าวข้ามกระดาษที่กระจายอยู่บนพื้นไปถึงบริเวณที่ซางหมิงพูดถึงแล้วจึงเห็นเบาะนั่งสองเบาะใต้กองกระดาษถ้าไม่ได้รับการชี้แนะจากซางหมิง พวกเขาก็คงดูไม่ออกจริงๆ ว่าตรงนี้มีบริเวณที่สามารถนั่งได้อยู่หลังจากทั้งสองคนนั่งลงแล้วก็ไม่มีใครส่งเสียง รอให้ซางหมิงจัดการงานในมือเสร็จค่อยบอกกล่าวจุดประสงค์การมา“เรื่องของเจ้าข้ารู้แล้ว เจ้ากลับมาคราวนี้คิดจะโค่นราชสำนักของฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ?”ซางหมิงกล่าวโดยไม่ได้เงยหน้า มือยังคงทำหน้ากากต่อไปฉู่จวินสิงก็ไม่คิดจะปิดบัง บอกเล่าแผนการที่กลับมาคราวนี้ออกมารอบหนึ่งซางหมิงแช่หน้ากากที่บางเบาดุจปีกจักจั่นในน้ำยาแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งสอง“ท่านนี้คือผู้ใต้บังคับบัญชาที่เจ้าพามาด้ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 718

    ซางหมิงโบกมือไปมา “เจ้ากับข้าเคยเป็นศิษย์อาจารย์กันมาก่อน ไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้”“แต่ข้าเห็นว่าหน้ากากที่แม่นางผู้นี้สวมอยู่ประณีตมากทีเดียว สามารถถอดลงมาให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”ซางหมิงดูออกแต่แรกแล้วว่าหน้ากากที่คนทั้งสองสวมอยู่ทำมาจากหนังมนุษย์แต่ไม่รู้ว่าหน้ากากหนังมนุษย์นั้นใช้น้ำยาอะไรแช่จึงดูเกลี้ยงเกลาอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นนั้นเจี่ยนอันอันคิดในใจว่าในเมื่อนางกับฉู่จวินสิงมีเรื่องมาขอร้องผู้วิเศษซาง นางจึงตอบรับคำขอของฝ่ายตรงข้ามเจี่ยนอันอันถอดหน้ากากหนังมนุษย์ลงมา เผยให้เห็นโฉมหน้าดั้งเดิมของนางเมื่อซางหมิงเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของเจี่ยนอันอันแล้วก็พลันประทับใจในความงามของนางฉู่จวินสิงไม่ได้แต่งแม่หนูผู้นี้เสียเปล่าจริงๆ นางไม่เพียงขวัญกล้าเกินคน แต่ยังมีรูปโฉมงดงามปานนี้เหมาะสมกับฉู่จวินสิงมากทีเดียวเมื่อซางหมิงรับหน้ากากหนังมนุษย์ไปก็อดถามไม่ได้ว่า “แม่หนู เจ้าชื่อว่าอะไรรึ ยินดีเรียนรู้วิชาแปลงโฉมกับข้าหรือไม่?”เจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าผู้วิเศษซางผู้นี้ยังคิดจะสอนวิชาแปลงโฉมให้นางอีกด้วยนางย่อมยินดีอยู่แล้ว“ศิษย์เจี่ยนอันอันคารวะอาจารย์เจ้าค่ะ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 1

    เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 2

    บ่าวรับใช้รับคำสั่ง รีบหยิบเชือกออกมาเพื่อจะมัดตัวเจี่ยนอันอันแต่เจี่ยนอันอันกลับคว้าเชือกไว้ได้ ก่อนจะก้าวอาด ๆ มาตรงหน้าเจี่ยนกั๋วกงนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเจี่ยนกั๋วกงไม่ทันตั้งตัว และเชือกก็ถูกคล้องเข้าที่ลำคอของเขาแล้วเจี่ยนอันอันดึงเชือกจนแน่น ทำให้เจี่ยนกั๋วกงหายใจไม่ออกทันทีนางตวาดเสียงเย็นชา “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ! หนังสือตัดขาดนั่นเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหายเสียเล่า”“จำคำพูดของเจ้าวันนี้ไว้ให้ดี วันหน้าเมื่อข้าโบยบินขึ้นสูง เจ้าก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายขอคืนดีกับข้าแล้วกัน!”สิ้นประโยค เจี่ยนอันอันก็เตะเจี่ยนกั๋วกงจนล้มลงกับพื้นฮูหยินรองรีบวิ่งมาพยุงเจี่ยนกั๋วกง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน“เจี่ยนอันอัน นังลูกทรพี! เจ้ากล้าตบตีบิดาแท้ ๆ ของเจ้าได้อย่างไร”“พวกข้าดูแลเจ้าให้เติบโตมาแท้ ๆ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักบุญคุณ แถมยังคิดฆ่าบิดาของเจ้าอีก!”“จวนกั๋วกงของเรา ไยจึงเลี้ยงดูเด็กเนรคุณเช่นเจ้าออกมาได้”ในขณะเดียวกัน เจี่ยนหลิงเยว่บุตรสาวของฮูหยินรองก็เดินเข้ามานางด่าเจี่ยนอันอันอย่างโกรธจัด “เจี่ยนอันอัน ทางที่ดีเจ้าไปตายอยู่ข้างนอกเสีย แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 3

    ในตอนนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางบนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า [ต้องผูกชะตากับเยียนอ๋องเท่านั้นจึงจะเปิดมิติได้ มิเช่นนั้นมิติจะระเบิดภายในสิบวินาที][ไม่ทราบว่าจะทำการผูกชะตาหรือไม่?]เจี่ยนอันอันที่เพิ่งยิ้มแย้มอย่างสดใส ยามนี้หน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นว่าการนับถอยหลังของมิติเริ่มขึ้น เจี่ยนอันอันไม่มีเวลาคิดมาก รีบตะโกนในใจว่า “ผูกสิ ข้าจะผูกชะตา!”การนับถอยหลังของมิติหยุดลง และมีข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้งว่า [ผูกชะตาสำเร็จ มิติถูกเปิดแล้ว]เจี่ยนอันอันรีบดึงยาชนิดใหม่ออกมาจากมิติและโยนเข้าปากทันทีโดยไม่คิดลังเลในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ นางก็ต้องเริ่มวางแผนสำหรับวันข้างหน้าก่อนอื่นนางต้องสะสมเสบียงจำนวนมาก เพื่อให้ในวันที่ถูกเนรเทศ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับคนในครอบครัวของจวนเยียนอ๋องในเมื่อบิดาของร่างเดิมตั้งใจจะตัดขาดกับนาง เช่นนั้นนางก็จะขนทรัพย์สินของจวนกั๋วกงไปให้หมดก่อนเจี่ยนอันอันหลับตาแล้วกล่าวในใจว่า “ล่องหน ไปยังคลังสมบัติของจวนกั๋วกง”ทันใดนั้นร่างกายของนางก็หายไป วินาทีถัดมานางก็มาปรากฏตัวในคลังสมบัติของจวนกั๋วกงผ้าไหมแพรพรร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 4

    เพื่อที่จะไล่พ่อครัวหลวงเหล่านี้ออกไป เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงยาถ่ายออกจากมิติแล้วโปรยใส่หน้าพวกเขาหลังจากพ่อครัวหลวงหลายคนสูดผงยาระบายเข้าไปได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มบ่นปวดท้อง แล้วรีบกุมท้องวิ่งออกจากห้องเครื่องกันไปหมดเจี่ยนอันอันฮัมเพลงไปพลาง กินขนมไปพลาง พร้อมกับโยนขนมและอาหารจากห้องครัวหลวงทั้งหมดเข้าไปในมิติของนางนางเหลือบมองผักและธัญพืชที่วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงเนื้อที่ถูกหั่นไว้แล้วเจี่ยนอันอันคิดว่าต้องนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปด้วยถึงจะดีเมื่อถูกเนรเทศ นางจะได้ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ทำอาหารอร่อย ๆ ได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เจี่ยนอันอันก็รีบขนวัตถุดิบทั้งหมดลงในมิติทันทีหลังจากเจี่ยนอันอันออกจากห้องเครื่องหลวง นางก็คิดว่าควรจะลองไปดูเยียนอ๋องผู้นั้นสักหน่อยวินาทีต่อมา นางก็ปรากฏตัวในคุกโดยพลันในขณะนั้น ฉู่จวินสิงซึ่งก็คือเยียนอ๋องกำลังถูกทรมานอย่างหนักร่างกายของเขาถูกทุบตีจนหนังเปิดเนื้อแตก เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกย้อมไปด้วยโลหิตจนแดงฉานแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉู่จวินสิงก็ไม่ส่งเสียงครวญครางแม้แต่น้อยเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เขานางรู้สึกชื่นชมเขาจากใจจริงว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 5

    ผู้คุมหลายคนได้กลิ่นเหม็นรุนแรงจากการผายลม แต่พวกเขาไม่กล้าอุดจมูกหรือหลบเลี่ยงทำได้เพียงกลั้นใจและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขันทีใหญ่ก็วิ่งตามออกมาด้วย ขณะเดินตามหลังฮ่องเต้ก็มีสีหน้ากังวลเขากลัวจริง ๆ ว่าฮ่องเต้อาจพลาดปล่อยลมออกมา แล้วเผลอทำเลอะในกางเกงเจี่ยนอันอันที่ล่องหนอยู่ มองเห็นท่าทางน่าสมเพชของฮ่องเต้สุนัขที่ดูเหมือนจะถ่ายไม่หยุด นางก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ยาระบายที่นางใช้ไม่มีทางแก้ได้ พอจะทำให้ฮ่องเต้สุนัขนี้ถ่ายไม่หยุดถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเมื่อเห็นว่าเวลาได้ที่แล้ว เจี่ยนอันอันก็ออกจากวังหลวงแล้วกลับมาที่เกี้ยวแต่งงานในทันทีในเวลานี้ เกี้ยวแต่งงานได้หยุดอยู่หน้าจวนเยียนอ๋องแล้วไร้เงาของชายฉกรรจ์สี่คนที่หามเกี้ยวมาเจี่ยนอันอันดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงออก ก่อนจะเปิดม่านเกี้ยวแล้วก้าวออกมาอย่างมั่นใจนางเห็นว่าหน้าจวนเยียนอ๋องได้ถูกล้อมโดยทหารรักษาพระองค์แล้วเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอดังมาจากภายในจวนเยียนอ๋องเจี่ยนอันอันไม่สนใจทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น นางก้าวเดินเข้าไปในจวนเยียนอ๋องอย่างไม่ลังเลทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในจวนเยียนอ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 718

    ซางหมิงโบกมือไปมา “เจ้ากับข้าเคยเป็นศิษย์อาจารย์กันมาก่อน ไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้”“แต่ข้าเห็นว่าหน้ากากที่แม่นางผู้นี้สวมอยู่ประณีตมากทีเดียว สามารถถอดลงมาให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”ซางหมิงดูออกแต่แรกแล้วว่าหน้ากากที่คนทั้งสองสวมอยู่ทำมาจากหนังมนุษย์แต่ไม่รู้ว่าหน้ากากหนังมนุษย์นั้นใช้น้ำยาอะไรแช่จึงดูเกลี้ยงเกลาอย่างหาที่เปรียบมิได้เช่นนั้นเจี่ยนอันอันคิดในใจว่าในเมื่อนางกับฉู่จวินสิงมีเรื่องมาขอร้องผู้วิเศษซาง นางจึงตอบรับคำขอของฝ่ายตรงข้ามเจี่ยนอันอันถอดหน้ากากหนังมนุษย์ลงมา เผยให้เห็นโฉมหน้าดั้งเดิมของนางเมื่อซางหมิงเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของเจี่ยนอันอันแล้วก็พลันประทับใจในความงามของนางฉู่จวินสิงไม่ได้แต่งแม่หนูผู้นี้เสียเปล่าจริงๆ นางไม่เพียงขวัญกล้าเกินคน แต่ยังมีรูปโฉมงดงามปานนี้เหมาะสมกับฉู่จวินสิงมากทีเดียวเมื่อซางหมิงรับหน้ากากหนังมนุษย์ไปก็อดถามไม่ได้ว่า “แม่หนู เจ้าชื่อว่าอะไรรึ ยินดีเรียนรู้วิชาแปลงโฉมกับข้าหรือไม่?”เจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าผู้วิเศษซางผู้นี้ยังคิดจะสอนวิชาแปลงโฉมให้นางอีกด้วยนางย่อมยินดีอยู่แล้ว“ศิษย์เจี่ยนอันอันคารวะอาจารย์เจ้าค่ะ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 717

    ภายในห้องรกไปหมด กระทั่งพื้นที่จะวางเท้าสักที่ก็ยังไม่มีภาชนะแก้ววางอยู่บนโต๊ะ ในนั้นบรรจุของเหลวสีเขียวและสีม่วงเอาไว้ของเหลวนั้นพ่นควันปุดๆ ควันขาวลอยฉุยออกมาจากภาชนะซางหมิงเห็นว่าคนทั้งสองยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เขาจึงคว่ำปากเอ็ดว่า “ตรงนั้นก็นั่งได้ไม่ใช่เรอะ ยังไม่รีบนั่งลงอีก”ฉู่จวินสิงไม่ได้โกรธเคืองเพราะความเฉยชาของอีกฝ่ายแม้แต่น้อยเขาจูงมือเจี่ยนอันอันก้าวข้ามกระดาษที่กระจายอยู่บนพื้นไปถึงบริเวณที่ซางหมิงพูดถึงแล้วจึงเห็นเบาะนั่งสองเบาะใต้กองกระดาษถ้าไม่ได้รับการชี้แนะจากซางหมิง พวกเขาก็คงดูไม่ออกจริงๆ ว่าตรงนี้มีบริเวณที่สามารถนั่งได้อยู่หลังจากทั้งสองคนนั่งลงแล้วก็ไม่มีใครส่งเสียง รอให้ซางหมิงจัดการงานในมือเสร็จค่อยบอกกล่าวจุดประสงค์การมา“เรื่องของเจ้าข้ารู้แล้ว เจ้ากลับมาคราวนี้คิดจะโค่นราชสำนักของฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ?”ซางหมิงกล่าวโดยไม่ได้เงยหน้า มือยังคงทำหน้ากากต่อไปฉู่จวินสิงก็ไม่คิดจะปิดบัง บอกเล่าแผนการที่กลับมาคราวนี้ออกมารอบหนึ่งซางหมิงแช่หน้ากากที่บางเบาดุจปีกจักจั่นในน้ำยาแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งสอง“ท่านนี้คือผู้ใต้บังคับบัญชาที่เจ้าพามาด้ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 716

    ฉู่จวินสิงพาเจี่ยนอันอันมาถึงตำหนักที่เขาเคยอยู่เจี่ยนอันอันไม่เข้าใจเลย ฉู่จวินสิงพานางมาที่นี่ทำไม?ที่นี่ว่างเปล่าโหวงเหวง อย่าว่าแต่โต๊ะเก้าอี้ แม้แต่เตียงนอนก็ยังถูกทหารที่มาริบทรัพย์ขนไปหมดแล้วฉู่จวินสิงคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อหวนรำลึกถึงสิ่งที่เขาเคยมีหรอกนะขณะที่เจี่ยนอันอันลอบครุ่นคิดก็เห็นว่าฉู่จวินสิงไปหยุดยืนอยู่หน้าผนังด้านหนึ่งเขาออกแรงกดลงบนมุมหนึ่งของผนัง ผนังด้านนั้นไม่มีร่องใดอยู่เลยแม้แต่น้อยแต่กลับมีเสียง ‘ครืด’ ดังขึ้น ต่อจากนั้นผนังก็เริ่มขยับอุโมงค์ลับที่มืดสนิทปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคนทั้งสองในที่สุดเจี่ยนอันอันก็เข้าใจแล้ว คิดไม่ถึงว่าในจวนเยียนอ๋องจะซุกซ่อนสถานที่ลึกลับเช่นนี้เอาไว้ฉู่จวินสิงจูงมือเจี่ยนอันอันเดินเข้าไปในอุโมงค์ลับแห่งนั้นผนังด้านหลังปิดลงเสียงดัง ‘ครืด’ อย่างรวดเร็วเจี่ยนอันอันหยิบตะบันไฟออกมาจุด มองดูเปลวไฟที่ถูกลมจุดขึ้นบนตะบันไฟ นางก็รู้ว่าที่นี่จะต้องมีทางลับอื่นๆ อยู่ด้วยแน่นอนคนทั้งสองเดินลงบันได มาได้ไกลพอสมควรก็ถูกผนังที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลขวางทางไปเอาไว้ฉู่จวินสิงใช้ตะบันไฟส่องไปที่ผนังด้านนั้นแล้วหาปุ่มกดเจอได้ในทั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 715

    เจี่ยนอันอันถือโอกาสที่ทหารอีกสามคนหลับสนิทอยู่ จัดการป้อนยาสมานแผลใส่ปากให้เช่นกันเผื่อว่าเมื่อตื่นขึ้นมา ร่างกายจะได้บรรเทาความเจ็บปวดลงบ้างฉู่จวินสิงกำชับอีกหลายประโยค จึงติดตามเจี่ยนอันอันออกจากห้องขังไปการที่พวกเขาจู่ๆ หายตัวไปเช่นนั้น ย่อมทำให้ทหารสามคนที่บาดเจ็บสาหัส เกิดความตกใจจนอ้าปากค้างเดิมทีการปรากฏตัวกะทันหันของฉู่จวินสิง ก็ทำให้พวกเขาตกใจมากพอแล้วมิคาดว่าเขายังสามารถหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีกแล้วสิ่งที่พวกเขามองเห็น คือมนุษย์หรือภูตผีกันแน่?แต่เมื่อรู้สึกว่าร่างกายค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งสามก็เชื่อว่าที่เห็นนั้น คือเยียนอ๋องตัวจริงแน่นอนเพราะหากว่าเป็นภูตผี แล้วจะมาป้อนยาให้พวกเขาได้อย่างไร?ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันกลับมายังบ้านพักของอิ่นเจียง ร่วมหารือว่าลำดับต่อไปควรจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรเจี่ยนอันอันกล่าว “เมื่อครู่ข้าเห็นสภาพของเหล่าทหาร นอกจากสามคนที่บาดเจ็บสาหัสนั่นแล้ว ที่เหลือหลังจากกินยาไป ไม่เกินสองวันน่าจะหายเป็นปกติ”“เพียงแต่สามคนนั้นอาการหนักมาก ต่อให้กินยาสมานแผลไปจริง ก็อาจจะเดินเหินลำบาก”“ถ้าเราจะช่วยพวกเขาออกมา ก็อาจต้องเผชิญกับทหารร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 714

    หลังจากกำชับอีกหลายคำ ฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันจึงหายตัวไปทั้งคู่เดินไปยังด้านในสุดของเรือนจำการที่พวกเขาจู่ๆ อันตรธานหายไปเช่นนี้ ย่อมทำให้หลี่ว์ซางกับพวกต่างตกใจไม่น้อยทุกคนต่างพากันนั่งลง พร้อมวิจารณ์ไปต่างๆทหารอายุน้อยเอ่ยปากขึ้นก่อน “ท่านอ๋องของเราคงมิใช่ไปฝึกเวทมนตร์คาถาชนิดใดมาหรอกนะแล้วไฉนจึงปุบปับก็โผล่มา พริบตาก็หายวับไปเช่นนั้นได้?”หลี่ว์ซางตบท้ายทอยทหารรุ่นน้องอีกครั้ง “อย่าพูดเหลวไหล โลกนี้จะมีคาถากระไรได้?”ทหารอีกคนอดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้น “แต่ข้าว่าน้องชายผู้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่า ยาที่เขาให้พวกเรากิน ทำให้ข้ารู้สึกร่างกายดีขึ้นมาก”ทหารผู้น้อยทนเงียบไม่ไหว จึงได้กล่าวขึ้นอีก “ข้าว่าคงเพราะน้องชายผู้นั้นเก่งกล้าสามารถ เป็นคนถ่ายทอดอิทธิฤทธิ์ให้ท่านอ๋องของเรา”หลี่ว์ซางเกรงว่าเสียงพูดคุยของพวกเขา จะดังไปถึงหูผู้คุมเข้าจึงรีบเอ่ยปากห้ามปราม “เอาเถิด ทุกคนอย่าพูดอีกเลย ระวังผู้คุมจะมาได้ยินเข้า”“ยามนี้สำคัญคือพักฟื้นร่างกาย แล้วรอให้เยียนอ๋องมาช่วยพวกเราออกไป”ในที่สุดทุกคนจึงได้ยอมหุบปาก นั่งลงที่พื้นเพื่อปรับสภาพร่างกายฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 713

    เขาถูกจองจำในคุกหลวงมาหลายวัน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะใช้วิธีทรมานอย่างหนักหน่วงเพียงใด เขาก็ไม่เคยคิดอ่อนข้อแม้แต่สักครั้งเดียวเฝ้ารอแล้วรอเล่ามาหลายวัน จนกระทั่งได้พบฉู่จวินสิงจริงๆ กลับแทบไม่เชื่อสายตาตนเองฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าดูไม่ผิดหรอก ข้าคือฉู่จวินสิง”หลี่ว์ซางจำเสียงของฉู่จวินสิงได้ เขาตื้นตันจนไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรได้แต่มือหนึ่งจับซี่กรงไม้ของห้องขังไว้ นิ้วมือกำแน่น“ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร ทหารข้างนอกมิได้พบเห็นท่านหรอกหรือ?”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง สายตาคอยเหลียวมองออกไปด้านนอกดีที่พวกเขาพูดคุยเสียงเบามาก จึงไม่ถูกผู้คุมได้ยินเข้าข้างในอีกสี่คนนั้น ต่างก็ตื้นตันใจเช่นกันผู้ที่อายุน้อยหน่อย ถึงขั้นยกแขนเสื้อขึ้นมาซับน้ำตาในที่สุดก็รอจนเยียนอ๋องมาถึง พวกเขามีหวังได้รอดชีวิตแล้วฉู่จวินสิงต้องปลอบให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ พลางถามหลี่ว์ซาง “มีแต่พวกเจ้าที่ถูกจับมากระนั้นหรือ?”หลี่ว์ซางรีบกล่าวตอบ “ยังมีอีกแปดคนของรับ แต่ถูกแยกขังไว้อีกห้องหนึ่ง”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง ชี้นิ้วไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุดหลังจากกล่าวจบ จึงได้ถอนหายใจหนักหน่วง“หากท่านอ๋องมาช่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 712

    แต่เขาถูกเนรเทศยกครัวไปอยู่เมืองอินเป่ยแล้ว เหตุใดจึงมีเสียงมาปรากฏที่คุกหลวงได้อีกหรือว่า หลายวันนี้ที่เขาแสร้งทำเป็นสติวิปลาส เพื่อหลีกหนีการลงทัณฑ์ที่แสนสาหัสกลับกลายเป็นภาพหลอนเกิดขึ้นกับตนแล้วหรือไร?เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองหน้าฉู่เทียนหัวซึ่งยืนตาค้าง แต่ไม่ไปสนใจเขา กลับเดินเข้าไปด้านในคุกหลวงอีกพร้อมสำรวจแต่ละห้องอย่างละเอียด ผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในนั้น บ้างก็นั่งบ้างก็นอน พักผ่อนไปตามเรื่องแต่ตามร่างกายของแต่ละคน ล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือดมากมายและขณะที่ทั้งคู่เดินลึกไปยังด้านใน พลันมีเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบ แว่วเข้ามาในโสตประสาท“ป่านนี้พวกแม่ทัพเฉินคงหนีไปถึงเมืองอินเป่ยแล้วกระมัง?”“ขอเพียงพวกเขาได้พบเจอกับเยียนอ๋อง เราก็จะมีหวังรอดชีวิต”“ยามนี้ทุกอย่างล้วนขึ้นกับชะตาของพวกแม่ทัพเฉิน หวังว่าจะสามารถหลบหนีการตามล่าของเหล่าทหาร จนได้พบเยียนอ๋องโดยเร็ว”“เฮ้ พวกเราอยู่ในนี้แทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้ว”“ช่างเถิด รีบนอนเสีย พรุ่งนี้อาจถูกทรมานหนักหน่วงอีกหนึ่งวัน”“แต่ขอให้ทุกคนอดทนไว้ ตราบใดที่เยียนอ๋องไม่มาช่วยพวกเรา เราจะไม่ย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 711

    “คนที่บ้านกลับไปหมดแล้วรึ?”“อึม ไปหมดแล้ว”“พวกเขาไปที่ใด?”“ไปเล่นดินเล่นทรายอยู่ข้างนอก”ฉู่เทียนหัวบ่นพึมพำด้วยประโยคเหล่านี้ซ้ำซาก เขาพูดเองเออเอง ทั้งยังเอาศีรษะโขกกำแพงอีกหลายทีจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังฮ่าๆ ออกมาเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองดูฉู่เทียนหัวแทบไม่กะพริบตา เพื่อจะดูว่าเขาเสียสติจริงหรือเสแสร้งกันแน่ฉู่เทียนหัวโขกศีรษะไปครู่หนึ่ง จึงได้หันกลับมาอีกเขาเดินไปยังหน้าประตูห้องขัง พร้อมเอามือจับซี่กรงแล้วโยกแรงๆ อยู่หลายทีเจี่ยนอันอันพอดียืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นมือที่ยื่นออกมาเบื้องหน้า จึงรีบถอยหลังเร็วพลันเสียงฝีเท้านางแม้ว่าจะแผ่วเบา แต่ยังคงเข้าหูฉู่เทียนหัวอยู่ดีสายตาของฉู่เทียนหัวผุดแววฉงนที่ผ่านไปเพียงวูบหนึ่งไม่นานก็คืนสู่ภาวะปกติ โดยเอามือไขว่คว้ากลางอากาศ พร้อมใส่เข้าปากเคี้ยวกินหนุบหนับร่างกายยังคงสั่นเทาเป็นระยะ เคี้ยวอากาศไปพลาง ปากก็บ่นพึมพำไปเรื่อย“ข้าคือโอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์จะไม่ปล่อยให้ข้าอดอยาก สวรรค์ประทานของดีแก่ข้ามากมาย ฮี่ๆๆ...”แต่แววฉงนที่ปรากฏในดวงตาฉู่เทียนหัวเมื่อครู่ กลับตกอยู่ในสายตาของคนทั้งสองฉู่จวินสิงดูออกในฉับพลัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 710

    หากผู้ที่กลับมาเมื่อวานไม่ใช่อิ่นเจียงตัวจริง ฮ่องเต้ย่อมต้องกำจัดคนผู้นั้นเป็นแม่นมั่นถึงตอนนั้นเมื่อใด ฮ่องเต้ก็จะส่งคนไปเมืองอินเป่ยเพื่อตรวจสอบอีกครั้งและถ้าครอบครัวฉู่จวินสิงยังไม่ตายจริง ก็จะสามารถกวาดล้างทีเดียวให้สิ้นซากแต่สิ่งที่เจี่ยนกั๋วกงไม่คาดคิดก็คือ ผลลัพธ์ออกมากลับกลายเป็นตรงข้ามฮ่องเต้ไม่เพียงไม่เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ ยังจ้องมองด้วยพระเนตรดุดันอีก“ในเมื่อเกิดเหตุมาหลายวันแล้ว มาบอกข้าตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ช่างไม่เอาไหนนัก”ฉู่ชางเหยียนตำหนิเจี่ยนกั๋วกงอย่างรุนแรงไม่ไว้หน้า พร้อมทั้งโบกมือด้วยความหงุดหงิด เป็นเชิงบอกให้เขาถอยไปทำให้ถึงที่สุดแล้ว เจี่ยนกั๋วกงก็ไม่อาจกล่าวถึงจุดประสงค์แท้จริงของตนได้หลังจากรับคำว่า “พ่ะย่ะค่ะ” แล้ว จึงถอยกลับไปอยู่ที่เดิมเจี่ยนอันอันมองผ่านกล้องรูเข็ม เห็นสีหน้าเจี่ยนกั๋วกงบ่งบอกถึงความไม่พอใจยิ่งแสดงว่าเจี่ยนกั๋วกงไม่เชื่อนางกับฉู่จวินสิง เขาคงอยากให้ฉู่ชางเหยียนส่งคนไปสืบที่เมืองอินเป่ยซ้ำอีกตาแก่รกโลกสมควรตายผู้นี้ คิดอาฆาตหมายสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงให้หมดสิ้นจริงๆ!เจี่ยนอันอันกลับไปมองภาพเหตุการณ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status