แชร์

บทที่ 575

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
โชคดีที่ฝีมือของเขานั้นแม่นยำ เพียงแค่ไม่กี่ครั้งก็เย็บปิดบาดแผลของฉู่จวินหลุนเรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เขาเช็ดคราบเลือดออกจากบาดแผลแล้ว ถึงได้ขอให้ฉู่จวินสิงช่วยสวมกางเกงให้ฉู่จวินหลุน

หัวลูกธนูที่หักนั้นถูกถังหมิงเซวียนห่อเอาไว้ในผ้าพันแผล ก่อนจะส่งให้กับฉู่จวินสิง

“อีกเดี๋ยวคุณชายฉู่ฟื้นขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้นร่างกายจะต้องมีความรู้สึกเจ็บปวดเป็นแน่ ท่านต้องให้เขากินยาแก้ปวด ข้าคิดว่าที่แม่นางเจี่ยนจะต้องมีแน่นอน”

ฉู่จวินสิงรับผ้าพันแผลที่ห่อหัวลูกธนูอยู่มา รอให้ฉู่จวินหลุนฟื้นขึ้นมา เขายังต้องนำออกมาให้อีกฝ่ายดู

“หลังจากนำหัวลูกธนูออกมาแล้ว พี่ใหญ่ของข้าก็จะเดินได้แล้วใช่หรือไม่?” สายตาของฉู่จวินสิงจ้องเขม็งไปยังถังหมิงเซวียน

หากว่าเป็นเจี่ยนอันอันที่มารักษาให้ฉู่จวินหลุน เขาไม่มีทางถามคำถามเช่นนี้ออกมา

ถังหมิงเซวียนถอนหายใจยาว ถึงได้พูดออกมา “หัวลูกธนูถูกนำออกมาแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าต่อไปจะสามารถเดินได้หรือไม่นั้น ยังต้องดูความตั้งใจของเขาเองด้วย”

“เพราะอย่างไรแล้วเขาก็เป็นอัมพาตมานาน กล้ามเนื้อขาทั้งคู่ก็ฝ่อไปหมดแล้ว บวกกับการผ่าตัดครั้งนี้มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก หากไม่ร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 576

    ถังหมิงเซวียนบอกเจี่ยนอันอันว่าตอนนี้เขาพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในอำเภอไถหยางหากว่าเจี่ยนอันอันคิดดีแล้ว ก็ให้ไปหาเขาที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้น ถังหมิงเซวียนขึ้นขี่ม้า แล้วออกไปจากหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างรวดเร็วเขายังคงตามหาเบาะแสของเหยียนซวงต่อไป ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อเจี่ยนอันอันเก็บล่วมยาเข้าไปในห้วงมิติ ก็เห็นฉู่จื่อซีกำลังวิ่งไล่แม่ไก่ตัวหนึ่งอยู่ในสวนแม่ไก่ตัวนั้นวิ่งมาข้างเท้าของเจี่ยนอันอัน แล้วหลบอยู่ด้านหลังของนางฉู่จื่อซีชี้ไปยังแม่ไก่ที่ส่งเสียงขันออกมา“ท่านป้า เสี่ยวฮวาบอกว่ามันกำลังจะออกไข่ ข้าอยากดูมันออกไข่ แต่มันกลับไม่ยอมให้ข้าดู”เจี่ยนอันอันนึกถึงไก่พวกนั้นที่เลี้ยงไว้ที่บ้าน มีแม่ไก่หกตัว ไก่ตัวผู้ตัวใหญ่หนึ่งตัวพวกมันล้วนแต่ได้ดื่มน้ำพุวิญญาณ ทำให้อ้วนท้วนเป็นอย่างมากเมื่อแม่ไก่ได้ยินคำของฉู่จื่อซี ก็รีบวิ่งออกจากข้างเท้าของเจี่ยนอันอันกลับไปยังรังของมันตอนนี้มันรอไม่ไหวที่จะออกไข่แล้ว และจำเป็นต้องไปออกที่รังของมันเท่านั้นเมื่อแม่ไก่ส่งเสียงร้อง “กะต๊าก” ดังขึ้น ไข่ฟองหนึ่งก็ถูกเบ่งออกมาฉู่จื่อซีปิดปากเล็กๆ ส่งเสียงหัวเราะออกมา “ท่านป้า เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 577

    ฉู่จวินหลุนยิ้มเศร้าออกมา หัวลูกธนูนี้อยู่ในร่างกายของเขามานาน ในที่สุดก็ถูกนำออกมาแล้วดูเหมือนว่าในที่สุด ก็จะมีวันที่เขาจะสามารถลุกขึ้นยืนได้ ไม่ต้องนั่งเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนเก้าอี้รถเข็นแล้วเวินอี๋และเหยียนเซ่ากำลังสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับพวกจ้าวอู่ทั้งสามคนอยู่ในลานบ้านพวกเขาเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เสียงเตะต่อยของพวกเขาลอยดังเข้ามาในหูของฉู่จวินหลุนเขาอยากจะลุกขึ้นให้ได้ในเร็ววัน แล้วไปฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้เช่นเดียวกับพวกเขาเพียงแต่สองขาเป็นอัมพาตมานานหลายปี และก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเป็นเหมือนกับก่อนหน้านั้นได้หรือไม่ ที่แต่ละกระบวนท่าล้วนแต่เตะเข้าเป้าฉู่จวินสิงมองความคิดของพี่ใหญ่ออก เขาตบลงไปบนไหล่ของฉู่จวินหลุน“พี่ใหญ่พักผ่อนให้สบายใจเถิด วันหน้าท่านจะต้องเป็นเหมือนกับก่อนหน้านั้นที่แข็งแกร่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังได้แน่”ฉู่จวินหลุนยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาตอนนี้เขากำลังอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย และไม่คิดที่จะพูดอะไรมากความฉู่จวินสิงมองไปยังหน้าผากของพี่ใหญ่ที่เต็มไปด้วยเหงื่อเขารู้ว่าพี่ใหญ่กำลังอดทนต่อความเจ็บปวด เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินออกมาเขาเรียกเจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 578

    นอกจากนี้แล้ว ขนมไหว้พระจันทร์มากขนาดนี้ จะอบอย่างไรกัน?นางคิดอยากจะซื้อเตาอบมาจากร้านค้าทว่าเตาอบยังต้องการเสียบปลั๊กถึงจะใช้ได้ยุคโบราณเช่นนี้ไม่มีไฟฟ้า ของสิ่งนั้นซื้อมาก็ไม่อาจใช้ได้นางมองไปยังขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำออกมาเสร็จแล้วบนโต๊ะ ก็ถามออกมาอย่างประหลาดใจ “ขนมไหว้พระจันทร์ที่จวนเยียนอ๋องของพวกเจ้ากิน คงไม่ใช่ว่าไม่มีลวดลายหรอกกระมัง”สี่เอ๋อร์หัวเราะ “คิกๆ” ออกมา แล้วนำแม่พิมพ์ไม้ออกมาจากด้านล่างโต๊ะบนนั้นสลักลวดลายงดงามเอาไว้มากมายเจี่ยนอันอันเองก็ยินดี แล้วลอบตำหนิตนเองที่เมื่อครู่ถามคำถามโง่ๆ ออกไป“สี่เอ๋อร์ แม่พิมพ์พวกนี้เจ้าเอามาจากที่ใดกัน?”คงจะไม่ใช่สี่เอ๋อร์ที่สลักออกมาเองหรอกกระมังสี่เอ๋อร์มองไปยังซ่างชิวที่อยู่ด้านนอก แล้วพูด “ข้าขอให้พี่ซ่างชิวช่วยแกะสลักให้เจ้าค่ะ”เจี่ยนอันอันรู้ว่าฝีมืองานของซ่างชิวนั้นดีมาก ประตูเรือนที่เคยอยู่อาศัยก่อนหน้านั้นก็ล้วนเป็นเขาที่ช่วยติดตั้งให้ซ่างชิวเป็นช่างฝีมือที่มีทักษะจริงๆ ไม่แน่ว่างานฝีมือของเขา ในภายหน้ายังคงจะมีประโยชน์ให้ได้ใช้สี่เอ๋อร์นำขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำเสร็จแล้ว วางใส่ในแม่พิมพ์แล้วกดลงไปไม่น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 579

    ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันจะออกไป ก็รีบเดินเข้ามาเขารู้ว่าเจี่ยนอันอันจะนำขนมไหว้พระจันทร์ไปส่งให้เสิ่นจือเจิ้งในตอนที่ทั้งสองคนมาถึงยังด้านนอกเรือนของเสิ่นจือเจิ้ง ก็ได้ยินเสียงของเซียงเสวี่ยพูดดังลอยมาจากด้านใน“ทำไมเจ้าถึงยังไม่ไปอีก หรือต้องให้ข้าใช้ไม้กวาดไล่พวกเจ้าออกไป?”เสิ่นจืออวี้เองก็พูดขึ้น “พี่สะใภ้ ท่านไปเสียเถอะ อย่ามาที่นี่อีกเลย”ตามมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาของเสิ่นจือเจิ้ง “ตอนนี้นางไม่ใช่พี่สะใภ้ของเจ้าแล้ว หากว่าเจ้ายังคงคิดถึงนาง เจ้าก็ออกไปพร้อมกับนางเสียเถอะ”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินมาถึงตรงนี้ ก็รู้ว่าด้านในเกิดอะไรขึ้นนางยกมือขึ้นไปเคาะประตูเรือน ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าลอยดังออกมาเซียงเสวี่ยเปิดประตู ก็เห็นว่าเจี่ยนอันอันมาพร้อมกับฉู่จวินสิง ในที่สุดใบหน้าของนางก็เผยรอยยิ้มออกมา“นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง ในที่สุดพวกท่านก็มาแล้ว”เจี่ยนอันอันเดินเข้ามา ก็มองเห็นเจียงหว่านเอ๋อร์จับมือเสิ่นคัง ยืนอยู่ในลานเรือนใบหน้าของเจียงหว่านเอ๋อร์ยังเปื้อนไปด้วยน้ำตาในตอนที่เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นเจี่ยนอันอัน นางก็กัดริมฝีปากอย่างแรงคนที่นางเกลียดมากที่สุดมาไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 580

    เขาเม้มริมฝีปากน้อยๆ ท่าทีดูโกรธเคืองท่านพ่อเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปแม้แต่เขาก็จะตีในที่สุดเสิ่นคังก็ทนต่อไปไม่ไหว ขาเตะเข้าใส่เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หลบเท้าน้อยๆ ของเสิ่นคังไปเสิ่นคังเตะไม่โดนคน ยิ่งทำให้เขาโกรธจัดและเกลียดเจี่ยนอันอันสุดใจเขายกขาน้อยๆ ขึ้น แล้วเตะไปยังเจี่ยนอันอันติดต่อกันทว่าเขายังไม่ทันเตะโดนเจี่ยนอันอัน คนก็ถูกเสิ่นจือเจิ้งหิ้วปีกขึ้น“ข้าว่าหากข้าไม่ลงโทษเจ้าสักที สักวันหนึ่งเจ้าก็คงจะลุกขึ้นมาพังบ้านเป็นแน่!”เสิ่นจือเจิ้งพูด มือข้างหนึ่งหิ้วคอเสื้อของเสิ่นคัง มืออีกข้างหนึ่งก็ตีก้นเขาอย่างแรงเสิ่นคังเจ็บเสียจนร้องออกมาเสียงดัง จนเจียงหว่านเอ๋อร์ที่มองอยู่ด้านข้างรู้สึกปวดใจ ทั้งยังรู้สึกโกรธเกลียดฉู่จวินสิงที่เดิมคิดจะสั่งสอนเด็กคนนี้ กลับไม่คิดเลยว่าจะถูกเสิ่นจือเจิ้งแย่งไปเสียก่อนเขาเหลือบมองเสิ่นจือเจิ้ง ก็เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าเย็นชา ในตอนที่ตีลูกนั้นไม่ได้เบามือเลยแม้แต่น้อยฉู่จวินสิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “กล้าตีเจี่ยนอันอันของข้า เด็กนี่จะต้องสั่งสอนให้ดีๆ มิฉะนั้นแล้วต่อไปจะต้องกลายเป็นคนไม่ดีแน่!”หลังจากที่เสิ่นจือ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 581

    ท่านปู่เฉินพูด “ทั้งสองท่านรีบไปจากหมู่บ้านชิงสุ่ยเสียเถอะ อย่าได้มาปรากฏตัวในหมู่บ้านชิงสุ่ยอีก”เจียงหว่านเอ๋อร์คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังไล่พวกนางแม่ลูกจากไปนางจูงมือน้อยของเสิ่นคังแล้วถลึงตามองทุกคนบริเวณนั้น“คังเอ๋อร์ พวกเราไปกันเถอะ” เจียงหว่านเอ๋อร์ว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ จากไป จนกระทั่งถึงหน้าประตูเรือน นางค่อยหันกลับมามองเจี่ยนอันอัน “ระหว่างเจ้ากับข้าไม่จบแค่นี้แน่ เจ้ารอดูไปเถอะ!”เจียงหว่านเอ๋อร์พูดจบก็จูงมือเสิ่นคังก้าวยาวๆ จากไปเสียงเสิ่นคังดังมาจากนอกเรือน “ท่านแม่ ต่อไปพวกเราจะไปไหนขอรับ?”“พวกเราไปที่ไหนก็เอาตัวรอดได้ทั้งนั้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าไปจากที่นี่แล้วพวกเราจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้”“แต่ว่านะท่านแม่ พวกเราไปแล้ว ท่านพ่อก็จะอยู่กับนางปีศาจจิ้งจอกนั่นน่ะสิ ข้าไม่อยากให้นางปีศาจจิ้งจอกนั่นอยู่กับท่านพ่อ”เสิ่นคังคำก็นางปีศาจจิ้งจอกสองคำก็นางปีศาจจิ้งจอก ทำเอาเจี่ยนอันอันโมโหจนอยากเดินออกไปอัดเสิ่นคังสักยกเลยทีเดียวแต่นางไม่ได้ทำเช่นนั้น นางก้าวยาวๆ ออกจากเรือนมาจนถึงตรงหน้าเสิ่นคังรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้านาง ในมือมีขวดยาขนาดเล็กหนึ่งขวดเพิ่มมา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 582

    ยามนี้ขับไล่เจียงหว่านเอ๋อร์และเสิ่นคังไปแล้ว ก็ทำให้เซียงเสวี่ยสามารถสงบใจปรนนิบัติเสิ่นจือเจิ้งได้เสียทีเจี่ยนอันอันเรียกเสิ่นจือเจิ้งมากินขนมไหว้พระจันทร์“พี่ใหญ่ วันนี้ถึงวันที่สิบห้าเดือนแปดตามปฏิทินการเกษตรแล้ว ข้ากับสาวใช้ในบ้านทำขนมไหว้พระจันทร์จำนวนหนึ่ง พวกท่านรีบมากินเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางให้เซียงเสวี่ยยกขนมไหว้พระจันทร์ขึ้นโต๊ะเสิ่นจือเจิ้งเพิ่งทะลุมิติมาได้ไม่นานจึงไม่รู้ว่าเป็นวันใดเวลาใดแล้วได้ยินเจี่ยนอันอันกล่าวเช่นนี้ถึงรู้ว่าวันนี้เป็นวันที่สิบห้าเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติเขาเห็นว่าขนมไหว้พระจันทร์จานนั้นเจี่ยนอันอันเป็นคนทำ จึงตรงเข้าไปหยิบหนึ่งชิ้นขึ้นมาเข้าปากเคี้ยวทันทีขนมไหว้พระจันทร์เพิ่งเข้าปากก็ส่งกลิ่นหอมหวานนุ่มละมุน ไส้ที่อยู่ในนั้นคืองาและถั่วลิสงเขาชูนิ้วโป้งให้เจี่ยนอันอัน “ฝีมือพัฒนาขึ้นนี่”ได้ยินพี่ใหญ่ชมตัวเองแล้ว เจี่ยนอันอันรู้สึกสุขใจมากจริงๆเสิ่นจืออวี้ก็เดินเข้ามาหยิบขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นหนึ่งไปกินและชมเชยไม่ขาดปากเช่นกันเซียงเสวี่ยมองดูจนน้ำลายไหล นางอยากกินสักชิ้นเหมือนกัน แต่ก็กลัวว่าจะถูกเจี่ยนอันอันตำหนิเจี่ยนอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 583

    นำหม้อต้มยาออกมา ใส่ฟืนไว้ใต้หม้อแล้วจุดไฟเริ่มต้มยาขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังตั้งใจปรุงยาพิษอยู่ กลิ่นหอมประหลาดระลอกหนึ่งก็โชยมาเข้าจมูกเมื่อเจี่ยนอันอันได้กลิ่นหอมนี้ก็ลอบอุทานในใจว่า “แย่แล้ว!”นางรู้สึกเพียงว่าทั่วร่างชาวาบไร้กำลังจึงรีบปิดจมูกเอาไว้ มือสั่นเทิ้มหยิบยาถอนพิษจากในมิติออกมากินหนึ่งเม็ดความรู้สึกชาวาบไร้กำลังพลันสลายไปเจี่ยนอันอันมองไปรอบๆ ด้วยแววตาขุ่นขึ้งก็เห็นฉู่จวินสิงก้าวยาวๆ เข้ามาหานางนางรีบร้องว่า “รีบกลั้นหายใจ!”ฉู่จวินสิงหัวใจหนักอึ้ง ทราบว่าเจี่ยนอันอันคงค้นพบอะไรบางอย่างเป็นแน่เขารีบกลั้นหายใจแล้วเดินมาถึงข้างกายเจี่ยนอันอันหลังจากเจี่ยนอันอันให้ฉู่จวินสิงกินยาถอนพิษไปหนึ่งเม็ด ฉู่จวินสิงค่อยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”เจี่ยนอันอันมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าตื่นตัว แต่ก็ยังคงไม่เห็นเงาร่างของกู้มั่วหลีนางจำได้ว่าเคยได้กลิ่นหอมประหลาดนี้ในห้องลับแห่งนั้นครั้นกลิ่นหอมนี้เข้าไปในร่างกายก็จะทำให้เป็นอัมพาตทั้งตัว สมองยังไม่ฟังคำสั่งโชคดีที่ตอนนั้นนางสังเกตพบจึงแอบกินยาถอนพิษ ทำให้ตนเองไม่ตกอยู่ในเงื้อมมืออีกฝ่ายในไม่ช้ากลิ่นหอมนั้นก็ถูกลมพัดกระจายห

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 714

    หลังจากกำชับอีกหลายคำ ฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันจึงหายตัวไปทั้งคู่เดินไปยังด้านในสุดของเรือนจำการที่พวกเขาจู่ๆ อันตรธานหายไปเช่นนี้ ย่อมทำให้หลี่ว์ซางกับพวกต่างตกใจไม่น้อยทุกคนต่างพากันนั่งลง พร้อมวิจารณ์ไปต่างๆทหารอายุน้อยเอ่ยปากขึ้นก่อน “ท่านอ๋องของเราคงมิใช่ไปฝึกเวทมนตร์คาถาชนิดใดมาหรอกนะแล้วไฉนจึงปุบปับก็โผล่มา พริบตาก็หายวับไปเช่นนั้นได้?”หลี่ว์ซางตบท้ายทอยทหารรุ่นน้องอีกครั้ง “อย่าพูดเหลวไหล โลกนี้จะมีคาถากระไรได้?”ทหารอีกคนอดไม่ได้ที่จะแทรกขึ้น “แต่ข้าว่าน้องชายผู้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่า ยาที่เขาให้พวกเรากิน ทำให้ข้ารู้สึกร่างกายดีขึ้นมาก”ทหารผู้น้อยทนเงียบไม่ไหว จึงได้กล่าวขึ้นอีก “ข้าว่าคงเพราะน้องชายผู้นั้นเก่งกล้าสามารถ เป็นคนถ่ายทอดอิทธิฤทธิ์ให้ท่านอ๋องของเรา”หลี่ว์ซางเกรงว่าเสียงพูดคุยของพวกเขา จะดังไปถึงหูผู้คุมเข้าจึงรีบเอ่ยปากห้ามปราม “เอาเถิด ทุกคนอย่าพูดอีกเลย ระวังผู้คุมจะมาได้ยินเข้า”“ยามนี้สำคัญคือพักฟื้นร่างกาย แล้วรอให้เยียนอ๋องมาช่วยพวกเราออกไป”ในที่สุดทุกคนจึงได้ยอมหุบปาก นั่งลงที่พื้นเพื่อปรับสภาพร่างกายฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 713

    เขาถูกจองจำในคุกหลวงมาหลายวัน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะใช้วิธีทรมานอย่างหนักหน่วงเพียงใด เขาก็ไม่เคยคิดอ่อนข้อแม้แต่สักครั้งเดียวเฝ้ารอแล้วรอเล่ามาหลายวัน จนกระทั่งได้พบฉู่จวินสิงจริงๆ กลับแทบไม่เชื่อสายตาตนเองฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “เจ้าดูไม่ผิดหรอก ข้าคือฉู่จวินสิง”หลี่ว์ซางจำเสียงของฉู่จวินสิงได้ เขาตื้นตันจนไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไรได้แต่มือหนึ่งจับซี่กรงไม้ของห้องขังไว้ นิ้วมือกำแน่น“ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร ทหารข้างนอกมิได้พบเห็นท่านหรอกหรือ?”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง สายตาคอยเหลียวมองออกไปด้านนอกดีที่พวกเขาพูดคุยเสียงเบามาก จึงไม่ถูกผู้คุมได้ยินเข้าข้างในอีกสี่คนนั้น ต่างก็ตื้นตันใจเช่นกันผู้ที่อายุน้อยหน่อย ถึงขั้นยกแขนเสื้อขึ้นมาซับน้ำตาในที่สุดก็รอจนเยียนอ๋องมาถึง พวกเขามีหวังได้รอดชีวิตแล้วฉู่จวินสิงต้องปลอบให้พวกเขาสงบสติอารมณ์ พลางถามหลี่ว์ซาง “มีแต่พวกเจ้าที่ถูกจับมากระนั้นหรือ?”หลี่ว์ซางรีบกล่าวตอบ “ยังมีอีกแปดคนของรับ แต่ถูกแยกขังไว้อีกห้องหนึ่ง”หลี่ว์ซางกล่าวพลาง ชี้นิ้วไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุดหลังจากกล่าวจบ จึงได้ถอนหายใจหนักหน่วง“หากท่านอ๋องมาช่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 712

    แต่เขาถูกเนรเทศยกครัวไปอยู่เมืองอินเป่ยแล้ว เหตุใดจึงมีเสียงมาปรากฏที่คุกหลวงได้อีกหรือว่า หลายวันนี้ที่เขาแสร้งทำเป็นสติวิปลาส เพื่อหลีกหนีการลงทัณฑ์ที่แสนสาหัสกลับกลายเป็นภาพหลอนเกิดขึ้นกับตนแล้วหรือไร?เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองหน้าฉู่เทียนหัวซึ่งยืนตาค้าง แต่ไม่ไปสนใจเขา กลับเดินเข้าไปด้านในคุกหลวงอีกพร้อมสำรวจแต่ละห้องอย่างละเอียด ผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในนั้น บ้างก็นั่งบ้างก็นอน พักผ่อนไปตามเรื่องแต่ตามร่างกายของแต่ละคน ล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือดมากมายและขณะที่ทั้งคู่เดินลึกไปยังด้านใน พลันมีเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบ แว่วเข้ามาในโสตประสาท“ป่านนี้พวกแม่ทัพเฉินคงหนีไปถึงเมืองอินเป่ยแล้วกระมัง?”“ขอเพียงพวกเขาได้พบเจอกับเยียนอ๋อง เราก็จะมีหวังรอดชีวิต”“ยามนี้ทุกอย่างล้วนขึ้นกับชะตาของพวกแม่ทัพเฉิน หวังว่าจะสามารถหลบหนีการตามล่าของเหล่าทหาร จนได้พบเยียนอ๋องโดยเร็ว”“เฮ้ พวกเราอยู่ในนี้แทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้ว”“ช่างเถิด รีบนอนเสีย พรุ่งนี้อาจถูกทรมานหนักหน่วงอีกหนึ่งวัน”“แต่ขอให้ทุกคนอดทนไว้ ตราบใดที่เยียนอ๋องไม่มาช่วยพวกเรา เราจะไม่ย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 711

    “คนที่บ้านกลับไปหมดแล้วรึ?”“อึม ไปหมดแล้ว”“พวกเขาไปที่ใด?”“ไปเล่นดินเล่นทรายอยู่ข้างนอก”ฉู่เทียนหัวบ่นพึมพำด้วยประโยคเหล่านี้ซ้ำซาก เขาพูดเองเออเอง ทั้งยังเอาศีรษะโขกกำแพงอีกหลายทีจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังฮ่าๆ ออกมาเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมองดูฉู่เทียนหัวแทบไม่กะพริบตา เพื่อจะดูว่าเขาเสียสติจริงหรือเสแสร้งกันแน่ฉู่เทียนหัวโขกศีรษะไปครู่หนึ่ง จึงได้หันกลับมาอีกเขาเดินไปยังหน้าประตูห้องขัง พร้อมเอามือจับซี่กรงแล้วโยกแรงๆ อยู่หลายทีเจี่ยนอันอันพอดียืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นมือที่ยื่นออกมาเบื้องหน้า จึงรีบถอยหลังเร็วพลันเสียงฝีเท้านางแม้ว่าจะแผ่วเบา แต่ยังคงเข้าหูฉู่เทียนหัวอยู่ดีสายตาของฉู่เทียนหัวผุดแววฉงนที่ผ่านไปเพียงวูบหนึ่งไม่นานก็คืนสู่ภาวะปกติ โดยเอามือไขว่คว้ากลางอากาศ พร้อมใส่เข้าปากเคี้ยวกินหนุบหนับร่างกายยังคงสั่นเทาเป็นระยะ เคี้ยวอากาศไปพลาง ปากก็บ่นพึมพำไปเรื่อย“ข้าคือโอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์จะไม่ปล่อยให้ข้าอดอยาก สวรรค์ประทานของดีแก่ข้ามากมาย ฮี่ๆๆ...”แต่แววฉงนที่ปรากฏในดวงตาฉู่เทียนหัวเมื่อครู่ กลับตกอยู่ในสายตาของคนทั้งสองฉู่จวินสิงดูออกในฉับพลัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 710

    หากผู้ที่กลับมาเมื่อวานไม่ใช่อิ่นเจียงตัวจริง ฮ่องเต้ย่อมต้องกำจัดคนผู้นั้นเป็นแม่นมั่นถึงตอนนั้นเมื่อใด ฮ่องเต้ก็จะส่งคนไปเมืองอินเป่ยเพื่อตรวจสอบอีกครั้งและถ้าครอบครัวฉู่จวินสิงยังไม่ตายจริง ก็จะสามารถกวาดล้างทีเดียวให้สิ้นซากแต่สิ่งที่เจี่ยนกั๋วกงไม่คาดคิดก็คือ ผลลัพธ์ออกมากลับกลายเป็นตรงข้ามฮ่องเต้ไม่เพียงไม่เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ ยังจ้องมองด้วยพระเนตรดุดันอีก“ในเมื่อเกิดเหตุมาหลายวันแล้ว มาบอกข้าตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ช่างไม่เอาไหนนัก”ฉู่ชางเหยียนตำหนิเจี่ยนกั๋วกงอย่างรุนแรงไม่ไว้หน้า พร้อมทั้งโบกมือด้วยความหงุดหงิด เป็นเชิงบอกให้เขาถอยไปทำให้ถึงที่สุดแล้ว เจี่ยนกั๋วกงก็ไม่อาจกล่าวถึงจุดประสงค์แท้จริงของตนได้หลังจากรับคำว่า “พ่ะย่ะค่ะ” แล้ว จึงถอยกลับไปอยู่ที่เดิมเจี่ยนอันอันมองผ่านกล้องรูเข็ม เห็นสีหน้าเจี่ยนกั๋วกงบ่งบอกถึงความไม่พอใจยิ่งแสดงว่าเจี่ยนกั๋วกงไม่เชื่อนางกับฉู่จวินสิง เขาคงอยากให้ฉู่ชางเหยียนส่งคนไปสืบที่เมืองอินเป่ยซ้ำอีกตาแก่รกโลกสมควรตายผู้นี้ คิดอาฆาตหมายสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงให้หมดสิ้นจริงๆ!เจี่ยนอันอันกลับไปมองภาพเหตุการณ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 709

    เฉินเช่อก็เห็นว่ามีเหตุผล “นั่นสิขอรับนายท่าน ไม่แน่วันหน้าทหารอาจจับกุมคนปล้นคลังหลวงได้”“ถึงตอนนั้นเมื่อใด เราค่อยไปช่วยคนก็ได้”ฉู่จวินสิงรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วงเรื่องอันใด เพราะการช่วยคนมาจากคุกหลวงนั้น อย่างไรก็มิใช่เรื่องง่ายอยู่แล้วอีกทั้งยามนี้ในวังคุ้มกันเข้มงวด หากเขาไปช่วยคนแล้วถูกจับอีกไม่เพียงช่วยคนออกมาไม่ได้ ตนยังจะถูกจับกุมเข้าให้อีกในที่สุดฉู่จวินสิงจึงเลิกล้มความคิดที่จะไปช่วยคนในบัดดลเพียงแต่ถึงยามค่ำคืน เขาอาจลักลอบเข้าไปในคุกหลวง เพื่อเยี่ยมเยียนทหารที่ถูกจับก็เป็นได้“เช่นนั้นก็ได้ เรื่องนี้รออีกสักหลายวันค่อยว่ากันใหม่”ฉู่จวินสิงจะอยู่ที่นี่นานก็ไม่สะดวก เพราะอย่างไรก็เป็นเขตเมืองจิงโจวอีกทั้งยามนี้เขาอยู่ในฐานะของอิ่นเจียง หากมีผู้ใดรู้ว่าแอบมาโรงเตี๊ยมเพื่อพบปะกับคนบางคน ก็อาจสงสัยถึงจุดประสงค์ของเขาได้หลังจากกำชับอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงตามเจี่ยนอันอันออกจากโรงเตี๊ยม กลับไปยังบ้านพักของอิ่นเจียงเจี่ยนอันอันนึกอยากรู้ครามครัน ว่าคนในตำหนักเสวียนหยาง ยามนี้กำลังทำสิ่งใดอยู่หลังจากใส่เลนส์สัมผัสเรียบร้อย จึงตั้งจิตนึกถึงตำหนักเสวียนหยางโดยพลันเพี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 708

    ฉู่ชางเหยียนรู้สึกโมโหยิ่ง พลางมองดูเจียงหวยซึ่งเฝ้าอยู่ด้านข้างด้วยแววตาดุดัน“เจียงหวย กระบี่ของข้าเล่า?”เจียงหวยจึงเพิ่งสังเกตเห็น กระบี่ซึ่งแขวนอยู่ด้านข้างพระแท่นนั้น จู่ๆ ไม่ทราบอันตรธานหายไปได้อย่างไรพลางร้อนใจจนรีบคุกเข่าลง “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อคืนเขาเฝ้าอยู่ด้านข้างพระแท่นมังกรอยู่ตลอด มิได้ลุกขึ้นไปไหนเลยแต่ไฉนพอตื่นเช้ามา กระบี่ล้ำค่ากลับหายไปเสียได้หรือว่า ในวังมีคนเข้ามาทำการโจรกรรมอีกแล้ว?ไม่เพียงกวาดเอาเงินทองในคลังหลวงไปเสียสิ้น จนแม้แต่กระบี่ยังไม่ละเว้น!โจรผู้นี้มันเป็นใครกันแน่ จึงได้มาโจรกรรมของดีในวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้!ฉู่ชางเหยียนยกเท้าถีบใส่เจียงหวยจนหงายหลังไป“เจ้าสุนัขรับใช้ไม่เอาไหน ยังมาคุกเข่าหาวิมานอันใดอีก ไม่รีบไปจับคนร้ายมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เจียงหวยรีบลนลานคลานลุกขึ้น รับคำพร้อมถอยออกไปเร็วพลันฉู่ชางเหยียนเอามือทุบเตียงด้วยความโกรธแค้น จนเกือบทำให้กล้องรูเข็มที่ติดอยู่ด้านบนร่วงหล่นลงมาดีที่เมื่อคืนเจี่ยนอันอันติดกล้องไว้ค่อนข้างแน่น มิเช่นนั้นหากตกลงมาจริง คงถูกฉู่ชางเหยียนรู้เข้าเป็นแน่แท้......เจี่ยนอันอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 707

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางจะได้ตามดูความเคลื่อนไหวของฉู่ชางเหยียนได้ทุกซอกทุกมุม ไม่ให้คลาดสายตาเจี่ยนอันอันนำเรื่องกล้องรูเข็มบอกกล่าวให้เขาฟังอีกทั้งยังมอบเลนส์สัมผัสให้แก่ฉู่จวินสิงหนึ่งกล่อง“อีกประเดี๋ยวข้าจะบอกให้รู้ ว่าจะใส่เลนส์ชนิดนี้ได้อย่างไร”ฉู่จวินสิงมองดูกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ พร้อมคิดในใจ ไฉนเจี่ยนอันอันจึงมีของเล่นมากเสียจริงหรือในตัวนางจะมีกล่องสารพัดนึก ที่สามารถเนรมิตสิ่งของประหลาดได้อย่างมากมายไม่ซ้ำเขาไม่ได้พูดมากความ เพียงเก็บเอากล่องเลนส์สัมผัสใส่ไว้ในอกเสื้อไม่นานทั้งคู่จึงมาถึงตำหนักเสวียนหยาง ดีที่ภายในจุดตะเกียงอยู่ จึงมองเห็นทุกมุมได้อย่างสว่างเจี่ยนอันอันมอบกล้องรูเข็มให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้เขาใช้วิชาตัวเบา นำกล้องรูเข็มไปติดตามเสาหลายต้นจากนั้นนางจึงใส่เลนส์สัมผัส ทำให้เห็นภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องรูเข็มนั้น“ท่านพี่ กล้องทางซ้ายมือมองต่ำไปเล็กน้อย ท่านวางขึ้นสูงหน่อย”“กล้องด้านขวามือให้หันมาทางข้าอีก”เจี่ยนอันอันคอยชี้นำให้แก่ฉู่จวินสิง เพื่อให้นำกล้องที่เหลือติดตั้งให้เรียบร้อยสุดท้ายจึงปรบมือด้วยความพึงพอใจ “เสร็จแล้ว ทีนี้เราก็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 706

    “กู้มั่วหลียังคงมีการศึกษาเรื่องยาพิษอยู่ตลอด ข้าคิดว่าเขากำลังหาวิธีถอนยาพิษร้ายแรงที่ฮ่องเต้ชั่ววางอยู่ในตัวเขา”“เพียงแต่พิษที่ฮ่องเต้ใช้ ต้องแก้ด้วยวิธีพิษต้านพิษเท่านั้น กู้มั่วหลีจึงมุ่งมั่นคิดจะปรุงยามาโดยตลอด”ด้วยความเข้าใจที่นางมีต่อกู้มั่วหลี คนผู้นี้มีน้ำมือเหี้ยมโหดมาแต่ไหนแต่ไรกล้าที่จะทำเรื่องเลวร้ายได้ทุกอย่างเขามาปรากฏตัวที่เมืองอินเป่ย และสมัยก่อนยังช่วยฉู่ชางเหยียนกู้เมืองกลับคืนคงเพราะฉู่ชางเหยียนใช้พิษร้ายแรงบังคับเขา จึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ออกมามิเช่นนั้นด้วยชั้นเชิงวรยุทธ์และอุปนิสัยของคนผู้นี้ จะยอมอยู่ใต้โอวาทฉู่ชางเหยียนได้อย่างไรฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผลหากว่าคนผู้นั้นคือกู้มั่วหลีจริงๆ เรื่องราวก็คงจะง่ายขึ้นมากเห็นทีเขาคงต้องไปถามผังมั่วให้รู้ เพื่อดูว่าอีกฝ่ายใช่กู้มั่วหลีจริงหรือไม่เพียงแต่วันนี้เขาต้องรอให้ตกดึกก่อนเพื่อไปขโมยกระบี่เฝินเทียนกลับมา จึงไม่อยากไปจากที่นี่แม้เพียงครึ่งก้าวเห็นทีว่าเรื่องนี้ คงต้องวางแผนให้รอบคอบใหม่แล้วเวลาเคลื่อนผ่านไปช้าๆ ในที่สุดทั้งคู่ก็รอคอยมาถึงยามรัตติกาลปลอดคนและเช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status