Share

บทที่ 577

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ฉู่จวินหลุนยิ้มเศร้าออกมา หัวลูกธนูนี้อยู่ในร่างกายของเขามานาน ในที่สุดก็ถูกนำออกมาแล้ว

ดูเหมือนว่าในที่สุด ก็จะมีวันที่เขาจะสามารถลุกขึ้นยืนได้ ไม่ต้องนั่งเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนเก้าอี้รถเข็นแล้ว

เวินอี๋และเหยียนเซ่ากำลังสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับพวกจ้าวอู่ทั้งสามคนอยู่ในลานบ้าน

พวกเขาเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เสียงเตะต่อยของพวกเขาลอยดังเข้ามาในหูของฉู่จวินหลุน

เขาอยากจะลุกขึ้นให้ได้ในเร็ววัน แล้วไปฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้เช่นเดียวกับพวกเขา

เพียงแต่สองขาเป็นอัมพาตมานานหลายปี และก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเป็นเหมือนกับก่อนหน้านั้นได้หรือไม่ ที่แต่ละกระบวนท่าล้วนแต่เตะเข้าเป้า

ฉู่จวินสิงมองความคิดของพี่ใหญ่ออก เขาตบลงไปบนไหล่ของฉู่จวินหลุน

“พี่ใหญ่พักผ่อนให้สบายใจเถิด วันหน้าท่านจะต้องเป็นเหมือนกับก่อนหน้านั้นที่แข็งแกร่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังได้แน่”

ฉู่จวินหลุนยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ตอนนี้เขากำลังอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย และไม่คิดที่จะพูดอะไรมากความ

ฉู่จวินสิงมองไปยังหน้าผากของพี่ใหญ่ที่เต็มไปด้วยเหงื่อ

เขารู้ว่าพี่ใหญ่กำลังอดทนต่อความเจ็บปวด เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินออกมา

เขาเรียกเจี่ยนอันอัน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 578

    นอกจากนี้แล้ว ขนมไหว้พระจันทร์มากขนาดนี้ จะอบอย่างไรกัน?นางคิดอยากจะซื้อเตาอบมาจากร้านค้าทว่าเตาอบยังต้องการเสียบปลั๊กถึงจะใช้ได้ยุคโบราณเช่นนี้ไม่มีไฟฟ้า ของสิ่งนั้นซื้อมาก็ไม่อาจใช้ได้นางมองไปยังขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำออกมาเสร็จแล้วบนโต๊ะ ก็ถามออกมาอย่างประหลาดใจ “ขนมไหว้พระจันทร์ที่จวนเยียนอ๋องของพวกเจ้ากิน คงไม่ใช่ว่าไม่มีลวดลายหรอกกระมัง”สี่เอ๋อร์หัวเราะ “คิกๆ” ออกมา แล้วนำแม่พิมพ์ไม้ออกมาจากด้านล่างโต๊ะบนนั้นสลักลวดลายงดงามเอาไว้มากมายเจี่ยนอันอันเองก็ยินดี แล้วลอบตำหนิตนเองที่เมื่อครู่ถามคำถามโง่ๆ ออกไป“สี่เอ๋อร์ แม่พิมพ์พวกนี้เจ้าเอามาจากที่ใดกัน?”คงจะไม่ใช่สี่เอ๋อร์ที่สลักออกมาเองหรอกกระมังสี่เอ๋อร์มองไปยังซ่างชิวที่อยู่ด้านนอก แล้วพูด “ข้าขอให้พี่ซ่างชิวช่วยแกะสลักให้เจ้าค่ะ”เจี่ยนอันอันรู้ว่าฝีมืองานของซ่างชิวนั้นดีมาก ประตูเรือนที่เคยอยู่อาศัยก่อนหน้านั้นก็ล้วนเป็นเขาที่ช่วยติดตั้งให้ซ่างชิวเป็นช่างฝีมือที่มีทักษะจริงๆ ไม่แน่ว่างานฝีมือของเขา ในภายหน้ายังคงจะมีประโยชน์ให้ได้ใช้สี่เอ๋อร์นำขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำเสร็จแล้ว วางใส่ในแม่พิมพ์แล้วกดลงไปไม่น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 579

    ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันจะออกไป ก็รีบเดินเข้ามาเขารู้ว่าเจี่ยนอันอันจะนำขนมไหว้พระจันทร์ไปส่งให้เสิ่นจือเจิ้งในตอนที่ทั้งสองคนมาถึงยังด้านนอกเรือนของเสิ่นจือเจิ้ง ก็ได้ยินเสียงของเซียงเสวี่ยพูดดังลอยมาจากด้านใน“ทำไมเจ้าถึงยังไม่ไปอีก หรือต้องให้ข้าใช้ไม้กวาดไล่พวกเจ้าออกไป?”เสิ่นจืออวี้เองก็พูดขึ้น “พี่สะใภ้ ท่านไปเสียเถอะ อย่ามาที่นี่อีกเลย”ตามมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาของเสิ่นจือเจิ้ง “ตอนนี้นางไม่ใช่พี่สะใภ้ของเจ้าแล้ว หากว่าเจ้ายังคงคิดถึงนาง เจ้าก็ออกไปพร้อมกับนางเสียเถอะ”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินมาถึงตรงนี้ ก็รู้ว่าด้านในเกิดอะไรขึ้นนางยกมือขึ้นไปเคาะประตูเรือน ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าลอยดังออกมาเซียงเสวี่ยเปิดประตู ก็เห็นว่าเจี่ยนอันอันมาพร้อมกับฉู่จวินสิง ในที่สุดใบหน้าของนางก็เผยรอยยิ้มออกมา“นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง ในที่สุดพวกท่านก็มาแล้ว”เจี่ยนอันอันเดินเข้ามา ก็มองเห็นเจียงหว่านเอ๋อร์จับมือเสิ่นคัง ยืนอยู่ในลานเรือนใบหน้าของเจียงหว่านเอ๋อร์ยังเปื้อนไปด้วยน้ำตาในตอนที่เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นเจี่ยนอันอัน นางก็กัดริมฝีปากอย่างแรงคนที่นางเกลียดมากที่สุดมาไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 580

    เขาเม้มริมฝีปากน้อยๆ ท่าทีดูโกรธเคืองท่านพ่อเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปแม้แต่เขาก็จะตีในที่สุดเสิ่นคังก็ทนต่อไปไม่ไหว ขาเตะเข้าใส่เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หลบเท้าน้อยๆ ของเสิ่นคังไปเสิ่นคังเตะไม่โดนคน ยิ่งทำให้เขาโกรธจัดและเกลียดเจี่ยนอันอันสุดใจเขายกขาน้อยๆ ขึ้น แล้วเตะไปยังเจี่ยนอันอันติดต่อกันทว่าเขายังไม่ทันเตะโดนเจี่ยนอันอัน คนก็ถูกเสิ่นจือเจิ้งหิ้วปีกขึ้น“ข้าว่าหากข้าไม่ลงโทษเจ้าสักที สักวันหนึ่งเจ้าก็คงจะลุกขึ้นมาพังบ้านเป็นแน่!”เสิ่นจือเจิ้งพูด มือข้างหนึ่งหิ้วคอเสื้อของเสิ่นคัง มืออีกข้างหนึ่งก็ตีก้นเขาอย่างแรงเสิ่นคังเจ็บเสียจนร้องออกมาเสียงดัง จนเจียงหว่านเอ๋อร์ที่มองอยู่ด้านข้างรู้สึกปวดใจ ทั้งยังรู้สึกโกรธเกลียดฉู่จวินสิงที่เดิมคิดจะสั่งสอนเด็กคนนี้ กลับไม่คิดเลยว่าจะถูกเสิ่นจือเจิ้งแย่งไปเสียก่อนเขาเหลือบมองเสิ่นจือเจิ้ง ก็เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าเย็นชา ในตอนที่ตีลูกนั้นไม่ได้เบามือเลยแม้แต่น้อยฉู่จวินสิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “กล้าตีเจี่ยนอันอันของข้า เด็กนี่จะต้องสั่งสอนให้ดีๆ มิฉะนั้นแล้วต่อไปจะต้องกลายเป็นคนไม่ดีแน่!”หลังจากที่เสิ่นจือ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 581

    ท่านปู่เฉินพูด “ทั้งสองท่านรีบไปจากหมู่บ้านชิงสุ่ยเสียเถอะ อย่าได้มาปรากฏตัวในหมู่บ้านชิงสุ่ยอีก”เจียงหว่านเอ๋อร์คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังไล่พวกนางแม่ลูกจากไปนางจูงมือน้อยของเสิ่นคังแล้วถลึงตามองทุกคนบริเวณนั้น“คังเอ๋อร์ พวกเราไปกันเถอะ” เจียงหว่านเอ๋อร์ว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ จากไป จนกระทั่งถึงหน้าประตูเรือน นางค่อยหันกลับมามองเจี่ยนอันอัน “ระหว่างเจ้ากับข้าไม่จบแค่นี้แน่ เจ้ารอดูไปเถอะ!”เจียงหว่านเอ๋อร์พูดจบก็จูงมือเสิ่นคังก้าวยาวๆ จากไปเสียงเสิ่นคังดังมาจากนอกเรือน “ท่านแม่ ต่อไปพวกเราจะไปไหนขอรับ?”“พวกเราไปที่ไหนก็เอาตัวรอดได้ทั้งนั้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าไปจากที่นี่แล้วพวกเราจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้”“แต่ว่านะท่านแม่ พวกเราไปแล้ว ท่านพ่อก็จะอยู่กับนางปีศาจจิ้งจอกนั่นน่ะสิ ข้าไม่อยากให้นางปีศาจจิ้งจอกนั่นอยู่กับท่านพ่อ”เสิ่นคังคำก็นางปีศาจจิ้งจอกสองคำก็นางปีศาจจิ้งจอก ทำเอาเจี่ยนอันอันโมโหจนอยากเดินออกไปอัดเสิ่นคังสักยกเลยทีเดียวแต่นางไม่ได้ทำเช่นนั้น นางก้าวยาวๆ ออกจากเรือนมาจนถึงตรงหน้าเสิ่นคังรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้านาง ในมือมีขวดยาขนาดเล็กหนึ่งขวดเพิ่มมา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 582

    ยามนี้ขับไล่เจียงหว่านเอ๋อร์และเสิ่นคังไปแล้ว ก็ทำให้เซียงเสวี่ยสามารถสงบใจปรนนิบัติเสิ่นจือเจิ้งได้เสียทีเจี่ยนอันอันเรียกเสิ่นจือเจิ้งมากินขนมไหว้พระจันทร์“พี่ใหญ่ วันนี้ถึงวันที่สิบห้าเดือนแปดตามปฏิทินการเกษตรแล้ว ข้ากับสาวใช้ในบ้านทำขนมไหว้พระจันทร์จำนวนหนึ่ง พวกท่านรีบมากินเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางให้เซียงเสวี่ยยกขนมไหว้พระจันทร์ขึ้นโต๊ะเสิ่นจือเจิ้งเพิ่งทะลุมิติมาได้ไม่นานจึงไม่รู้ว่าเป็นวันใดเวลาใดแล้วได้ยินเจี่ยนอันอันกล่าวเช่นนี้ถึงรู้ว่าวันนี้เป็นวันที่สิบห้าเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติเขาเห็นว่าขนมไหว้พระจันทร์จานนั้นเจี่ยนอันอันเป็นคนทำ จึงตรงเข้าไปหยิบหนึ่งชิ้นขึ้นมาเข้าปากเคี้ยวทันทีขนมไหว้พระจันทร์เพิ่งเข้าปากก็ส่งกลิ่นหอมหวานนุ่มละมุน ไส้ที่อยู่ในนั้นคืองาและถั่วลิสงเขาชูนิ้วโป้งให้เจี่ยนอันอัน “ฝีมือพัฒนาขึ้นนี่”ได้ยินพี่ใหญ่ชมตัวเองแล้ว เจี่ยนอันอันรู้สึกสุขใจมากจริงๆเสิ่นจืออวี้ก็เดินเข้ามาหยิบขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นหนึ่งไปกินและชมเชยไม่ขาดปากเช่นกันเซียงเสวี่ยมองดูจนน้ำลายไหล นางอยากกินสักชิ้นเหมือนกัน แต่ก็กลัวว่าจะถูกเจี่ยนอันอันตำหนิเจี่ยนอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 583

    นำหม้อต้มยาออกมา ใส่ฟืนไว้ใต้หม้อแล้วจุดไฟเริ่มต้มยาขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังตั้งใจปรุงยาพิษอยู่ กลิ่นหอมประหลาดระลอกหนึ่งก็โชยมาเข้าจมูกเมื่อเจี่ยนอันอันได้กลิ่นหอมนี้ก็ลอบอุทานในใจว่า “แย่แล้ว!”นางรู้สึกเพียงว่าทั่วร่างชาวาบไร้กำลังจึงรีบปิดจมูกเอาไว้ มือสั่นเทิ้มหยิบยาถอนพิษจากในมิติออกมากินหนึ่งเม็ดความรู้สึกชาวาบไร้กำลังพลันสลายไปเจี่ยนอันอันมองไปรอบๆ ด้วยแววตาขุ่นขึ้งก็เห็นฉู่จวินสิงก้าวยาวๆ เข้ามาหานางนางรีบร้องว่า “รีบกลั้นหายใจ!”ฉู่จวินสิงหัวใจหนักอึ้ง ทราบว่าเจี่ยนอันอันคงค้นพบอะไรบางอย่างเป็นแน่เขารีบกลั้นหายใจแล้วเดินมาถึงข้างกายเจี่ยนอันอันหลังจากเจี่ยนอันอันให้ฉู่จวินสิงกินยาถอนพิษไปหนึ่งเม็ด ฉู่จวินสิงค่อยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”เจี่ยนอันอันมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าตื่นตัว แต่ก็ยังคงไม่เห็นเงาร่างของกู้มั่วหลีนางจำได้ว่าเคยได้กลิ่นหอมประหลาดนี้ในห้องลับแห่งนั้นครั้นกลิ่นหอมนี้เข้าไปในร่างกายก็จะทำให้เป็นอัมพาตทั้งตัว สมองยังไม่ฟังคำสั่งโชคดีที่ตอนนั้นนางสังเกตพบจึงแอบกินยาถอนพิษ ทำให้ตนเองไม่ตกอยู่ในเงื้อมมืออีกฝ่ายในไม่ช้ากลิ่นหอมนั้นก็ถูกลมพัดกระจายห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 584

    ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอันอย่างรักใคร่เอ็นดูเจี่ยนอันอันทำยาพิษอยู่หนึ่งชั่วยามกว่า ในที่สุดก็ทำยาพิษที่จำเป็นทั้งหมดเสร็จสิ้นนางเก็บหม้อต้มยาแล้วจัดการกับกองไฟนางหยัดร่างขึ้นปัดไม้ปัดมือ“ยาพิษทำเสร็จแล้ว ต่อไปถ้าคนบ้าผู้นั้นปรากฏตัวอีก ข้าจะต้องลองใช้กับเขาให้ได้เลย”เมื่อคนทั้งสองไปจากท้ายเรือนก็เห็นพวกจ้าวอู่สามคนมาเรียนวรยุทธ์อวี๋ว่านก็มากับพวกเขาด้วยเช่นกันอวี๋ว่านเห็นซ่างชิวมาที่เรือนตระกูลฉู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าเขามาทำอะไรอยู่ได้ทุกวันวันนี้เมื่อเขาเห็นซ่างชิวมาที่เรือนตระกูลฉู่อีกครั้งก็รีบร้องบอกให้อีกฝ่ายหยุดเมื่อได้รู้จากปากซ่างชิวว่าอีกฝ่ายมาเรียนวรยุทธ์ อวี๋ว่านก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมากหนนี้เขาจึงตามคนทั้งสามมาด้วยเพราะอยากเรียนวรยุทธ์ด้วยเหมือนกันเมื่ออวี๋ว่านเห็นซ่างชิวกับจ้าวอู่ซ้อมเตะอยู่ในลานเรือนขาของคนทั้งสองเตะได้สูงยิ่งนัก ลูกเตะแต่ละครั้งล้วนมีเสียงลมขวับเขวียวส่วนจ้าวลิ่วก็ยิ่งเรียนรู้ได้เร็วยิ่งกว่า เขากำลังซ้อมวรยุทธ์ระดับพื้นฐานอยู่อวี๋ว่านยิ่งอยากเรียนรู้ใจแทบขาดเขาเดินมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิง ประสานมือกล่าวกับทั้งสองว่า “ข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 585

    ท่านปู่เฉินไม่รู้จริงๆ ว่าโรคนี้สามารถติดต่อกันได้แต่ครั้นคิดว่าสองวันนี้ตนเองมักไอบ่อยๆ ประกอบกับเมื่อครู่เจี่ยนอันอันยังมอบยาหนึ่งเม็ดให้เขากินหรือเขาจะติดวัณโรคมาเสียแล้ว?คิดถึงตรงนี้ สีหน้าท่านปู่เฉินก็พลันเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาลูกชายหญิงของเขาตายไปด้วยน้ำมือทหารตั้งแต่ตอนที่มีการฆ่าล้างเมืองในปีนั้นยามนี้ในบ้านเหลือเพียงเขากับภรรยาสองคนสองวันมานี้ไม่ได้มีแค่เขาที่ไอบ่อยๆ แม้แต่ภรรยาที่บ้านก็มักไอบ่อยๆ เช่นกันหรือเขานำวัณโรคกลับมาที่บ้านแล้วทำให้ภรรยาติดต่อไปด้วยเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันถาม “ท่านปู่เฉิน สองวันนี้ท่านได้ไปมาหาสู่กับคนอื่นบ้างหรือไม่?”ท่านปู่เฉินส่ายหน้า “นอกจากบ้านคุณชายเสิ่น ข้าก็ไม่ได้ไปบ้านใครอีก”เจี่ยนอันอันระบายลมหายใจออกมาเบาๆ เคราะห์ดีที่ท่านปู่เฉินเพิ่งติดวัณโรค ยังไม่หนักหนามากนักแค่ต้องกินยาต้มไม่กี่ชุดก็สามารถหายดีได้แล้วส่วนทางด้านเสิ่นจือเจิ้ง นางย่อมมียาเฉพาะทางไปรักษาท่านปู่เฉินไอติดต่อกันหลายทีอีกรอบก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ “แม่นางเจี่ยน ที่บ้านข้ายังมีภรรยาคนหนึ่ง สองวันนี้นางก็ไอบ่อยๆ เหมือนข้า นางคงไม่ได้ติดโรคเข้าแล้วห

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 606

    ขณะที่ถังหมิงเซวียนได้ยินเจี่ยนอันอันเอ่ยชื่อสมุนไพรหลายชนิดนั้น เขาก็ขมวดคิ้วเบาๆเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสมุนไพรเหล่านี้จะนำมาปรุงเป็นยาเม็ดได้หรืออาจกล่าวได้ว่าสรรพคุณของสมุนไพรเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะปรุงเป็นยาชนิดใดได้ต่อให้นำมาผสมรวมกัน ก็ไม่เกิดสรรพคุณในการรักษาโรคใดๆแต่เมื่อเห็นท่าทีมั่นอกมั่นใจของเจี่ยนอันอัน ถังหมิงเซวียนก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะอย่างน้อยเขาก็เห็นกับตา ยาที่เมื่อครู่เจี่ยนอันอันมอบให้ชาวบ้านกินนั้น ล้วนเห็นผลอย่างชัดเจนทุกคนหลังจากกินยาแล้ว ต่างก็ไม่มีอาการไออีกเขาจึงถือโอกาสที่สวีจงฉือกลับไปเอาสมุนไพร ตรวจชีพจรให้ชาวบ้านไปพลางนั่นยิ่งทำให้เขาประหลาดใจ ที่อาการของวัณโรคเริ่มดีขึ้นตามลำดับทั้งคู่จึงนั่งยองๆ ที่ข้างทาง คอยคุมไฟเอาไว้ เพื่อปรุงยาให้ชาวบ้านผู้คนที่ยืนรออยู่ด้านข้าง ต่างก็จ้องมองหม้อต้มยาสองใบตาไม่กะพริบเช่นกันมีคนแอบพูดเสียงเบา “ทีนี้ยิ่งดีใหญ่ มีหมอเทวดาสองคนมาช่วยเรา โรคของพวกเรามีหวังหายแล้ว”เจี่ยนอันอันต้มยาไปพลาง เงยหน้าขึ้นมองสวีจงฉือ“รบกวนคุณชายสวีไปเรียกคนมาเพิ่มอีก”เจี่ยนอันอันกล่าวพร้อมยื่นลำโพงขยายเสียงให้แก่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 605

    บางคนปิดจมูกเดินออกมา พลางคิดในใจ ผู้หญิงที่ไหนหนอช่างมีเสียงดังถึงเพียงนี้ขนาดพวกเขาอยู่ในบ้านแท้ๆ ยังได้ยินชัดเจนและแม่นางผู้นั้นยังกล่าวอะไรอีก บอกว่าหากไม่รีบรักษา อีกสามวันจะต้องเสียชีวิตแน่นอนทำเอาผู้คนอกสั่นขวัญแขวนจนต้องรีบวิ่งออกจากบ้านมา จึงได้เห็นในมือเจี่ยนอันอันถือสิ่งของที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตและเสียงก้องกังวานก็มาจากสิ่งนี้นี่เองทุกคนที่ออกมานั้นต่างมีอาการไอเกิดขึ้นบางคนไอจนหน้าดำหน้าแดง คล้ายเจียนสำลักตายอยู่รอมร่อ“ท่านแม่ เราจะตายจริงหรือ?” มีเด็กชายผู้หนึ่งเดินออกมา แต่เพิ่งกล่าวจบก็ไอหนักเช่นกันใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผู้เป็นมารดารีบก้มตัวลง พร้อมตบหลังของเด็กชายแต่อาการนางก็ใช่ว่าจะดีกว่า ตบได้ไม่กี่ที ตนเองก็ไอตามลูกบ้างเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้ใช้ได้ผล เริ่มมีคนทยอยออกจากบ้านมาเรื่อยๆและต่างก็รุมล้อมเข้ามา เพื่อจะดูว่าเจี่ยนอันอันจะพูดอะไรต่อเจี่ยนอันอันปิดเสียงลำโพงก่อน จึงได้ตะโกนต่อหน้าทุกคน “ข้ากับคุณชายท่านนี้ล้วนเป็นหมอ มาเพื่อช่วยรักษาโรคของพวกท่าน”หลายคนต่างไม่เชื่อ เพราะพวกเขาไอมาหลายวันแล้ว อีกทั้งเข้าเมือง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 604

    และเมื่อพวกเขาไปถึงห้องลับที่เจี่ยนอันอันบอก กลับพบร่างผู้ตายสิบกว่าศพที่เริ่มเน่าเหม็นแล้วอีกทั้งในส่วนหน้าอกตรงหัวใจของทุกศพ ก็กลายเป็นรูโบ๋เต็มไปด้วยเลือดคั่งด้านบนยังมีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยดูจากการแต่งกายของศพสิบกว่าศพนั้น ฉู่จวินสิงค่อนข้างมั่นใจว่าพวกนางคงเป็นคนในครอบครัวผู้ว่าการแห่งจงโจวเป็นแน่โชคดีที่พวกเขากลับมาอำเภอไถหยางก็เห็นเจี่ยนอันอันกลับมาก่อนแล้วเพียงแต่ไม่นึกว่า สุดท้ายยังเกิดเรื่องที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นนั่นคือเจี่ยนอันอันหลงกลกู้มั่วหลีเข้า จนเกือบถูกเขาวางยาพิษจนเสียชีวิตเจี่ยนอันอันตั้งใจฟังคำบอกเล่าของฉู่จวินสิงแม้ว่าเขาจะพูดด้วยท่าทีสบายๆ แต่นางก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมีร่างกายที่สั่นระริก นั่นเพราะเขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ไม่อยากให้นางประสบเคราะห์ร้ายฉู่จวินสิงกุบมือเจี่ยนอันอันไว้แน่น ด้วยเกรงว่าหากปล่อยมือ นางจะอันตรธานหายไปจากเขาอีกเจี่ยนอันอันเอาศีรษะซบที่ไหล่ฉู่จวินสิง มืออีกข้างหนึ่งยังโอบตัวเขาไว้ด้วยภาพที่ทั้งคู่อิงแอบแนบชิด ทำเอาถังหมิงเซวียนนึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาว่าแล้วก็หันหน้าไปทางอื่น ไม่กล้ามองพวกเขาตรงๆ อีกรถม้าวิ่งไปในระยะท

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 603

    เกิดทำให้พวกเขาติดเชื้อด้วย คงจะยิ่งไม่ดีหนำซ้ำยาป้องกันของนางก็มีไม่มากนัก ควรต้องใช้อย่างประหยัดหน่อยนางจึงหันไปมองฉู่จวินสิง พร้อมหารือกับเขา “ให้เหยียนเซ่ากลับไปหมู่บ้านชิงสุ่ยก่อน พวกเราเข้าเมืองกันเองก็พอ”ฉู่จวินสิงไม่คัดค้าน เพราะถ้าไปกันหลายคนก็วุ่นวายเช่นกันโดยเฉพาะยังมีพวกจ้าวอู่ ยิ่งไม่ควรติดตามไปด้วยเพราะหากพบเจอกู้มั่วหลีเข้า ไม่แน่พวกเขาอาจจะถูกปองร้ายอีกฉู่จวินสิงจึงกล่าวต่อเหยียนเซ่า “เจ้าขับรถม้าพาคนเหล่านี้กลับไปก่อน พวกข้าจะเข้าเมืองไปสักครั้ง”เหยียนเซ่าไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะไปทำอะไรในเมือง จึงคิดติดตามไปด้วย แต่กลับถูกฉู่จวินสิงยกมือขึ้นห้ามไว้“ทำตามคำสั่งข้า!” ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงเย็นชา เหยียนเซ่าจึงไม่กล้าพูดต่ออีกทุกคนพากันขึ้นรถม้า โดยมีเหยียนเซ่าเป็นคนขับ แล้วเดินทางจากไปเจี่ยนอันอันให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมไปนำรถม้ามาอีกคัน และนางก็ให้เงินเถ้าแก่ไปก้อนหนึ่งเถ้าแก่โรงเตี๊ยมรับเงินไปด้วยความดีใจ เพียงไม่นานก็นำรถม้ามาคันหนึ่ง“ท่านต้องการสิ่งใดอีก เชิญสั่งข้ามาได้เลยขอรับ” เถ้าแก่โรงเตี๊ยมมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มถ้าเจี่ยนอันอันมีงานใช้ใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 602

    สวีจงฉือเห็นสภาพอ่อนแอของเจี่ยนอันอัน พร้อมใบหน้าซีดเซียวของนาง พลันรู้สึกปวดใจยิ่งหากว่าผู้ที่อยู่เคียงข้างคอยดูแลนางตลอดก็คือเขา คงจะดีไม่น้อยยามนี้เขารู้สึกริษยาฉู่จวินสิงเป็นอย่างมาก แต่ภายนอกไม่กล้าแสดงสีหน้าผิดปกติออกมาให้ใครเห็นเจี่ยนอันอันเหลียวมองสวีจงฉือ ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงตามมาด้วยแต่ตอนนี้นางไม่อยากคิดอะไรทั้งสิ้น เพียงต้องการพักผ่อนสักครู่รอให้ร่างกายฟื้นฟูเป็นปกติดีแล้ว ค่อยไปคิดบัญชีกับกู้มั่วหลีใหม่เพราะตอนนี้นางรู้แล้วว่า ตราบใดที่กู้มั่วหลียังอยู่ บัญชีนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสะสางกับเขาให้ดีแน่เจี่ยนอันอันค่อยๆ ปิดตาลง นางบอกให้พวกฉู่จวินสิงสามคนอย่าได้รบกวนนางชายหนุ่มทั้งสามจึงได้แต่ยืนอยู่ในห้องเงียบๆผ่านไปครู่ใหญ่ เจี่ยนอันอันจึงค่อยลืมตาขึ้นมานางรู้สึกฟื้นฟูกำลังแล้ว จึงรีบลุกขึ้นนั่ง“ข้าจะเข้าเมืองไปคิดบัญชีกับกู้มั่วหลี!”บังอาจใช้ยาพิษร้ายแรงกับนาง นางจะไม่ยอมปล่อยเขาเด็ดขาดเจี่ยนอันอันพูดพลางกัดฟันกรอด พร้อมลงจากเตียงถังหมิงเซวียนเพิ่งสบโอกาสได้เอ่ยปากพูดบ้าง “แม่นางเจี่ยน ก่อนหน้านี้ข้าไปซื้อสมุนไพรในตัวเมือง เห็นผู้คนที่นั่นล้ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 601

    เจี่ยนหลิงเยว่ตกใจจนหน้าซีดเผือด ใบหน้าซึ่งเดิมก็ถูกเกาจนผิวแตกเป็นริ้วๆ บัดนี้ยิ่งดูน่าเกลียดเข้าไปใหญ่เจี่ยนอันอันมิได้รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย เพราะคนบ้าคลั่งเช่นกู้มั่วหลี เป็นไปไม่ได้ที่จะดีต่อเจี่ยนหลิงเยว่อยู่แล้วและตอนนี้นางก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดกู้มั่วหลีจึงพาเจี่ยนหลิงเยว่มาที่นี่สาเหตุเพราะเจี่ยนหลิงเยว่มีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับนาง จึงถูกกู้มั่วหลีหมายปองเข้าเมื่อเจี่ยนอันอันมองไปยังกู้มั่วหลี ก็สังเกตเห็นว่าดูเหมือนเขาจะถอนพิษในตัวได้แล้วซึ่งข้อนี้ทำให้นางไม่สบายใจเป็นอย่างมากนั่นแสดงว่ายาพิษที่นางปรุงออกมา สำหรับกู้มั่วหลีแล้ว ฤทธิ์ยายังเบาเกินไปและทันใดนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็ได้เสียงฉู่จวินสิงเรียกนางอยู่“อันอัน รีบตื่นขึ้นมาเถิด อย่านอนอีกเลย”เจี่ยนอันอันได้ยินเสียงเรียกของฉู่จวินสิง พลันร่างกายคล้ายถูกผลักดันด้วยพลังบางอย่างนางยังคิดจะอยู่ดูเรื่องสนุกต่ออีก แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังคำสั่งเสียแล้วนางจึงรีบออกจากห้องนั้นมา ฉับพลันเบื้องหน้าก็เห็นแสงสว่างจ้าเจี่ยนอันอันต้องรีบหลับตาลง จนกระทั่งลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จึงพบว่าได้กลับมาสู่ร่างกายของตนอีกครั้ง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 600

    เจี่ยนอันอันไม่ได้กรีดร้อง นางหยิบตะบันไฟออกมาเพื่อส่องแสงสว่างอย่างสงบนิ่งนางเห็นว่าตนเองกำลังยืนอยู่บนสะพานแห่งหนึ่ง ใต้สะพานมีสายน้ำไหลเอื่อย พร้อมเสียงน้ำที่กระทบดังซ่า ๆในหัวของเจี่ยนอันอันปรากฏคำว่า ‘สะพานไน่เหอ[1]’ ขึ้นมาในทันทีแต่นางก็รีบปัดความคิดนั้นออกไปเจี่ยนอันอันเดินลงจากสะพาน มุ่งหน้าไปยังเบื้องหน้าอย่างรวดเร็วไม่นาน นางก็เห็นแสงสว่างส่องอยู่ไกล ๆนางรีบเดินไปยังทิศทางของแสงนั้น เมื่อไปถึงจุดสว่าง ก็เห็นประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทอยู่แสงสว่างทั้งหมดส่องลอดออกมาจากด้านในของประตูเจี่ยนอันอันดีใจ นางคิดว่าหากเปิดประตูบานนี้ได้ อาจจะสามารถออกจากที่แห่งนี้ได้เจี่ยนอันอันรวบรวมแรงทั้งหมดผลักประตู เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นก่อนที่ประตูบานใหญ่จะเปิดออกภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือลานเรือนกว้างใหญ่เจี่ยนอันอันรู้สึกว่าลานเรือนแห่งนี้ดูคุ้นตา ราวกับว่านางเคยมาเยือนที่นี่ไม่นานนางก็ได้ยินเสียงของเจี่ยนหลิงเยว่ดังขึ้น“คุณชายกู้ ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว ท่านได้โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด”เจี่ยนอันอันเดินตามเสียงนั้นไป นางพบว่าตัวเองสามารถเดินทะลุกำแพงได้ไม่นานนางก็เข้าไปในห้องแห่งหนึ่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 599

    ถังหมิงเซวียนมาถึงเรือนหลัง เขานำหม้อต้มยาออกมาวางลงบนพื้นจากนั้นหยิบห่อสมุนไพรหลายห่อออกมา ใส่ลงในหม้อต้มยา แล้วจุดไฟใต้เตาเพื่อเริ่มการต้มยาเจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นถังหมิงเซวียนต้มยาที่เรือนหลัง จึงเอ่ยว่า “เจ้าต้มยาก็ระวัง ๆ หน่อยนะ อย่าให้โรงเตี๊ยมของข้าติดไฟ”ถังหมิงเซวียนเหลือบตามองเจ้าของโรงเตี๊ยมโดยไม่พูดอะไรกระบวนการต้มยานั้นยุ่งยากและซับซ้อน เขาต้องแบ่งสมุนไพรใส่ทีละส่วนความร้อนก็ต้องควบคุมให้พอเหมาะ หากไม่ระวังเพียงนิดเดียว ยาจะไหม้ได้อากาศที่ร้อนอบอ้าว เมื่อรวมกับไอร้อนจากกองไฟ ผ่านไปไม่นานหน้าผากของถังหมิงเซวียนมีเหงื่อไหลซึมออกมาเขาใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อไม่ละสายตาจากหม้อต้มยาแม้แต่น้อยหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดยาถอนพิษก็ปรุงสำเร็จถังหมิงเซวียนขอถ้วยใบหนึ่งจากเจ้าของโรงเตี๊ยม แล้วเทยาถอนพิษลงในถ้วยเขาจัดเก็บหม้อต้มยา ใช้น้ำดับไฟให้สนิท แล้วเตะกองไฟที่ดับแล้วไปที่มุมหนึ่งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็ถือถ้วยยาขึ้นไปยังชั้นสองสวีจงฉือเห็นถังหมิงเซวียนกลับมาแล้ว ในมือของเขาถือถ้วยยาสีดำสนิทสวีจงฉือช่วยเคาะประตูเรียกเมื่อฉู่จวินสิงเปิดประตูออก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 598

    สวีจงฉือเห็นถังหมิงเซวียนไม่พูดอะไร เพียงแต่มองไปที่สมุนไพรเขาจึงคิดไปเองว่าถังหมิงเซวียนอาจกังวลว่าสมุนไพรแพงเกินไป ไม่มีเงินพอที่จะซื้อสมุนไพรมากขนาดนั้นเขารีบพูดขึ้นว่า “คุณชายไม่ต้องกังวลเรื่องค่ายา ร้านยาจี้เฉ่าถังแห่งนี้เป็นของเจี่ยนอันอัน ท่านเพียงบอกชื่อสมุนไพรมาข้าจะจัดให้”ถังหมิงเซวียนไม่คาดคิดเลยว่าร้านขายยาจี้เฉ่าถังที่ใหญ่ขนาดนี้จะเป็นของเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าสวีจงฉือกำลังจะหยิบสมุนไพรเพิ่ม เขาจึงรีบกล่าวว่า “เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มากไปจะเป็นการสิ้นเปลือง”ถังหมิงเซวียนร้อนใจอยากจะนำสมุนไพรกลับไป จึงไม่ได้พูดคุยอะไรกับสวีจงฉือเพิ่มเติมเขาหยิบห่อสมุนไพรหลายห่อแล้วหันหลังเตรียมจะออกไป“คุณชายโปรดรอก่อน” สวีจงฉือรีบรุดออกมาจากด้านหลังโต๊ะคิดเงินเขาเรียกถังหมิงเซวียนไว้ กล่าวอย่างไม่แน่ใจนักว่า “คุณชายช่วยพาข้าไปยังอำเภอไถหยางด้วยได้หรือไม่ ข้าอยากไปดูว่าเถ้าแก่ของข้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”ถังหมิงเซวียนคิดในใจว่าร้านจี้เฉ่าถังเป็นของเจี่ยนอันอัน แถมสมุนไพรทั้งหมดนี้เขายังไม่ต้องเสียเงินสักอีแปะเดียวเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำขอของอีกฝ่าย“ได้สิ ถ้าเช่นนั้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status