Share

บทที่ 538

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
เสิ่นจืออวี้ไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเข้ามายุ่งเกี่ยว เขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรเสียมีเขากับฉู่จวินสิงอยู่ ก็เพียงพอแล้ว

แต่เจี่ยนอันอันกลับคิดต่าง นางต้องการเลื่อนขั้นคลังอาวุธของตนเอง และนางต้องแก้แค้นแทนเหยียนซวง

การต่อสู้ครั้งนี้นางต้องเข้าร่วม!

ในมือของเจี่ยนอันอันปรากฏกริชเล่มหนึ่ง นางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “ท่านพี่ ท่านอยู่ขายผักต่อ ข้าไปจัดการคนพวกนี้เอง”

ขณะที่เจี่ยนอันอันพูดอยู่ มีคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหมายจะชกหน้านาง

แต่เจี่ยนอันอันไม่แม้แต่จะหันไปมอง นางยกมือขึ้นและใช้กริชกรีดที่ข้อมือของคนผู้นั้น

คนผู้นั้นเจ็บปวดจนต้องกลั้นหายใจ รีบยกมือกุมแผลพลางถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างรวดเร็ว

ฉู่จวินสิงกังวลว่าเจี่ยนอันอันอาจได้รับอันตราย จึงไม่อยากให้นางเข้าร่วมการต่อสู้

แต่คำพูดต่อมาของเจี่ยนอันอันทำให้เขาจำต้องยอม

“ท่านพี่ วันนี้ข้ารู้สึกคันไม้คันมือ ถ้าไม่ได้อัดพวกมัน ข้าคงรู้สึกไม่สบายใจ”

หลังจากเตะคนหนึ่งกระเด็นออกไป ฉู่จวินสิงจึงกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ระวังตัวด้วย!”

เจี่ยนอันอันยิ้มเผยฟันเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก

หลังจากที่นางฟันข้อมือชายคนหนึ่ง นางก็เห็นข้อความภาร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 539

    เมื่อคนกลุ่มนั้นคิดจะเข้าไปช่วยจูกังเลี่ย พวกเขาก็ถูกเจี่ยนอันอันขวางไว้“ใครกล้าข้ามา ข้าจะทำให้เจ้าไม่ได้เห็นดวงตะวันในวันพรุ่งนี้”เจี่ยนอันอันพูดพลางแทงมีดสั้นในมือเข้าไปที่ท้องของหนึ่งในพวกนั้นทันใดนั้น ภารกิจของห้วงมิติก็แสดงข้อความขึ้นอีกครั้ง[ระดับคลังอาวุธ +0.5]เจี่ยนอันอันเข้าใจทันทีว่า หากเพียงแค่ทำร้ายพวกลูกสมุน ระดับของคลังอาวุธจะเพิ่มขึ้นช้าเหมือนเต่าคลานดูเหมือนนางจะต้องจัดการกับหัวหน้ากลุ่มนี้ในขณะนั้นเอง คนที่ยังไม่ถูกแทงก็พุ่งเข้ามารุมโจมตีเจี่ยนอันอันพร้อมกันพวกเขาเหวี่ยงดาบใหญ่ในมือ ฟันตรงมาที่เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันกลับไม่มีทีท่าหวาดกลัวแม้แต่น้อย ใบหน้าของนางยังคงประดับด้วยรอยยิ้มเหี้ยมโหดนางหยิบผงสลายศพออกมาจากมิติ แล้วโปรยใส่ดาบใหญ่ในมือของคนพวกนั้นทันทีที่ผงสลายศพสัมผัสดาบ ดาบสิบกว่าด้ามก็ละลายกลายเป็นน้ำในพริบตาพวกนั้นต่างยืนอึ้งอยู่กับที่ มองมือของตัวเองสลับกับแอ่งน้ำบนพื้นเกิดอะไรขึ้น ดาบของพวกเขาหายไปไหน?ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง เจี่ยนอันอันก็หยิบเข็มเงินชุบยาพิษออกมาจากมิติแล้วปาเข็มเงินพุ่งไปบนร่างของคนเหล่านั้นเมื่อคนพวกนั้นโด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 540

    เมื่อเห็นปลายกริชพุ่งเข้ามาใกล้ดวงตาของเขา จูกังเลี่ยรู้สึกถึงความร้อนชื้นที่ขาทั้งสองข้างกลิ่นเหม็นฉุนของปัสสาวะลอยคลุ้งในอากาศ เขาถึงกับถูกเจี่ยนอันอันขู่จนปัสสาวะรดกางเกง“แม่ประคุณทูลหัว ได้โปรดไว้ชีวิต ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว อย่าแทงตาข้าเลย”ในตอนนี้จูกังเลี่ยตัวสั่น น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่สนใจแล้วว่าตัวเองจะปัสสาวะรดกางเกงหรือไม่ สิ่งเดียวที่เขาคิดคือการขอให้เจี่ยนอันอันปล่อยเขาไปเจี่ยนอันอันทำเสียงจิ๊ปากสองครั้ง พลางยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ข้าน่ะ ไม่ชอบฟังคำร้องขอชีวิตจากใครเลยจริง ๆ ยิ่งเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ยิ่งอยากจะทำมากขึ้น”พูดจบ นางก็แทงกริชในมือไปที่ดวงตาข้างหนึ่งของจูกังเลี่ยทันทีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงถาโถมเข้าใส่ จูกังเลี่ยเจ็บถึงกับตัวสั่นระริกด้วยความกลัวเสียงร้องโหยหวนที่แหบพร่าของจูกังเลี่ยดังลั่น มันช่างน่าสลดใจราวกับเสียงสุกรถูกเชือดพี่น้องในกลุ่มของเขาที่ตามมา ต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้าหญิงสาวคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงสามารถทำเรื่องโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้?แม้แต่เสิ่นจืออวี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังถูกท่าทางอันดุดันของเจี่ยนอันอันทำให้ตกใจนี่เป็นครั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 541

    หลังจากที่จูกังเลี่ยถูกมัดเอาไว้แล้ว กายของเขายังคงสั่นเทาไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์จากเจ้าของแผงพูดคุยกัน จูกังเลี่ยก็ยิ่งเหมือนกับไก่ที่พ่ายแพ้ ปิดตาแล้วก้มหน้าลงไม่นานนักเบื้องหน้าของเจี่ยนอันอัน ก็ปรากฏสัญญาณภารกิจของห้วงมิติขึ้นมา[ทำให้ตาของจูกังเลี่ยบอด คลังอาวุธระดับ +10]ในใจของเจี่ยนอันอันยินดียิ่งนัก ครั้งนี้ระดับคลังแสงอาวุธถือว่าเพิ่มสูงขึ้นเร็วสักเล็กน้อยนางหยิบเชือกมาลากคนกลุ่มนี้ เดินไปทางด้านรถม้าในตอนที่นางพบว่าเสิ่นจืออวี้ไม่ได้ตามมาด้วยนั้น ก็หันไปร้องตะโกนออกมา “เสิ่นจืออวี้ เจ้ายังจะไปด้วยหรือไม่?”เสิ่นจืออวี้ถึงได้มีสติขึ้นมา แล้วรีบเดินเข้ามาทันทีเจี่ยนอันอันนำคนกลุ่มนั้นมัดเอาไว้ด้านหลังรถม้าฉู่จวินสิงขึ้นรถม้า แล้วนำถุงเงินมอบให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันเปิดออกดู ด้านในนั้นใส่เหรียญทองแดงเอาไว้เต็มถุงดูเหมือนว่าวันนี้คงจะได้กำไรมากไม่น้อย!รอจนเมื่อเสิ่นจืออวี้ตามมาถึงรถม้านั้น ฉู่จวินสิงขับรถม้า มุ่งหน้าเดินทางไปยังทิศทางของที่ว่าการอำเภอเขาจงใจขับรถม้าให้เร็วขึ้น ทำให้คนกลุ่มนั้นจำต้องวิ่งตามมาอยู่ด้านหลังจูกังเลี่ยที่เดิมทีนั้นเจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 542

    คนกลุ่มนั้นคุกเข่าอยู่ในห้องพิจารณาคดี ส่วนเจี่ยนอันอันทั้งสามคนนั้นกลับยืนตัวตรงอยู่แน่นอนว่าเซิ่งฟางย่อมไม่ให้ทั้งสามคนคุกเข่าลง เพราะอย่างไรแล้วพวกเขาล้วนแต่เป็น “ผู้เคราะห์ร้าย”จูกังเลี่ยยังคงเจ็บปวดจนทั่วทั้งกายสั่นเทา เขาส่งเสียงร้องออกมา ตอนนี้น้ำเสียงที่พูดออกมาล้วนแต่แหบแห้งเป็นอย่างยิ่งเขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดแหบแห้ง “ใต้เท้า พวกเราเพียงแค่อยากหาเลี้ยงชีพเท่านั้น ใต้เท้าโปรดให้อภัยพวกข้าด้วย”คนอื่นๆ ล้วนแต่พยักหน้าอย่างแรง ผู้ใดก็ไม่กล้าพูดจาไร้สาระออกมาแม้แต่ประโยคเดียวเซิ่งฟางตะคอกออกมา “หาเลี้ยงชีพแล้วจะต้องแสร้งแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ทำร้ายคนอย่างนั้นหรือ?”“ข้าว่าพวกเจ้าคงใจกล้ากินดีหมีมาอย่างนั้นหรือ ใครก็ได้เข้ามาจับพวกเขาเข้าไปขังคุกเสีย แล้วโบยให้หนักหนึ่งร้อยไม้”คนกลุ่มนี้เมื่อได้ยินว่าจะถูกโบยหนึ่งร้อยไม้ ก็ตกใจเสียจนทั่วทั้งกายสั่นอย่างแรงพวกเขาจะไปทนรับหนึ่งร้อยไม้นั้นได้อย่างไรกัน นี่ไม่ใช่ว่าจะต้องการชีวิตพวกเขาอย่างนั้นหรอกหรือ!“ใต้เท้า พวกเรารู้ความผิดแล้ว ขอใต้เท้าได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”“ใช่แล้วใต้เท้า พวกเราด้านบนมีแม่อายุแปดสิบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 543

    รอจนเมื่อคนกลุ่มนั้นถูกคุมตัวออกไปแล้ว เซิ่งฟางถึงได้หัวเราะแล้วออกจากห้องพิจารณาคดีไปเขาเดินก้าวใหญ่เข้ามา แล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “อันอัน จวินสิง พวกเจ้ากินอาหารเช้ากันแล้วหรือยัง?”เจี่ยนอันอันยังไม่ทันได้พูดออกมา ท้องก็ส่งเสียงร้องคำรามดังขึ้น ตอบกลับเซิ่งฟางเจี่ยนอันอันลูบท้อง ยิ้มแล้วพูดออกมา “พี่เซิ่ง พวกเราไปขายผักที่ตลาดตั้งแต่เช้า ไม่ได้กินข้าวเช้ามาจริงๆ”“เช่นนั้นก็ดี เมื่อครู่นี้ห้องครัวเพิ่งจะทำอาหารเสร็จ พวกท่านก็มากินข้าวด้วยกันกับข้า”เซิ่งฟางนำทั้งสามคนมายังห้องทานอาหารอย่างกระตือรือร้นเหล่าสาวใช้ในตอนนี้วางอาหารลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทั้งสี่คนรีบนั่งลงเจี่ยนอันอันหยิบชามและตะเกียบขึ้นอย่างไม่เกรงใจ แล้วเริ่มกินฉู่จวินสิงตักเนื้อให้เจี่ยนอันอัน แล้วใส่ลงไปในชามของนางเซิ่งฟางมองไปยังท่าทีรักใคร่ของทั้งสองคน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาเห็นเสิ่นจืออวี้ที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เป็นตัวของตัวเองนัก ก็รีบส่งเสียงร้องตะโกนขึ้น “เจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ มาแล้วก็ทำตัวเหมือนกับอยู่ที่เรือนของเจ้าเถอะ”เสิ่นจืออวี้เป็นครั้งแรกที่มากินข้าวที่ที่ว่าการอำเภอเขาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 544

    เขาพบว่านักโทษเหล่านั้น มีส่วนใหญ่ที่ถูกนายอำเภอคนก่อนกล่าวโทษผิดๆ ไปนายอำเภอคนก่อนสนใจเพียงแต่รับเงิน ไม่ได้สนใจความเป็นความตายของชาวบ้านแม้แต่น้อยส่วนนักโทษที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้น เป็นเพราะที่บ้านยากจน มอบเงินให้ไม่ได้ จึงถูกนายอำเภอตัดสินโทษ แล้วนำตัวเข้าไปขังคุกพวกเขาถูกคุมขังอยู่หลายปีมีนักโทษที่เคยถูกกล่าวโทษหลายคน ที่ถูกนายอำเภอคนก่อนตัดสินให้ตัดหัวเซิ่งฟางรีบตรวจสอบ แล้วนำตัวผู้ที่กระทำผิดตัวจริงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเพราะเซิ่งฟางตัดสินคดีความได้ดี นักโทษที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้น ล้วนแต่ได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาพวกเขาเองก็เป็นเพราะเหตุนี้ ถึงได้เปลี่ยนความคิดที่มีต่อเซิ่งฟางไปเซิ่งฟางบอกกับพวกเขา เขาไม่เคยขายเมืองอินเป่ย ประกาศเหล่านั้นก็เป็นของปลอมทั้งหมดเป็นเพราะมีคนจงใจใส่ร้ายเขาเมื่อผ่านการกระทำหลายวันมานี้ของเซิ่งฟาง ก็ทำให้ชาวบ้านในอำเภอไถหยางรู้ว่า พวกเขาทั้งหมดเข้าใจเขาผิดไป ทำให้ช่วงเวลาถัดมาของเซิ่งฟางดีขึ้นมากเจี่ยนอันอันได้ยินเซิ่งฟางอธิบายออกมา ในใจรู้สึกชื่นชมเขาเมื่อนางเห็นว่าที่นี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วบอกลาเซิ่งฟางส่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 545

    นางหยิบเงินก้อนเล็กสองอันออกมาจากด้านใน มอบให้เจ้าของแผงเจ้าของแผงรับเงินมือหนึ่งด้วยความยินดี อีกมือหนึ่งก็ส่งมอบกระต่ายเจี่ยนอันอันรับกรงเหล็กมา หมุนกายขึ้นรถม้าไปในตอนที่พวกเขากำลังออกไปจากที่นั่น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนออกมา “แม่นางเจี่ยน เป็นท่านจริงๆ!”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่ามีคนเรียกนาง ก็หันไปมอง สวีจงฉือลงมาจากรถม้า เดินก้าวใหญ่มาทางด้านนางใบหน้าของสวีจงฉือแต้มไปด้วยรอยยิ้มหลายวันมานี้ร่างกายของเขาฟื้นฟูไปได้มาก เมื่อวานนี้จึงได้ออกมาจากที่ว่าการอำเภอเพียงแต่ในใจเขา กลับคอยคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะได้พบกับเจี่ยนอันอันอีกเมื่อไหร่กันวันนี้เขาว่าจ้างรถม้า คิดจะไปหาเจี่ยนอันอันที่หมู่บ้านชิงสุ่ยเมื่อครู่นี้ในตอนที่รถม้าผ่านมานั้น เขาก็เปิดม่านขึ้นโดยบังเอิญ แล้วมองเห็นร่างเงาที่คุ้นเคยเข้า กำลังนั่งยองซื้อกระต่ายน้อยที่นั่นนี่เป็นร่างเงาที่เขาไม่เคยลืมเลือน ในใจก็ยินดีขึ้นมา เขารีบให้คนขับรถหยุดลงทันทีเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังจะจากไป สวีจงฉือก็รีบลงจากรถม้าแล้วร้องเรียกนางเอาไว้เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าสีหน้าของสวีจงฉือฟื้นตัวได้ดีขึ้น ดูเหมือนว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 546

    เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมา จึงทำได้เพียงแค่ถอยไปด้านข้างเจี่ยนอันอันพูดกับฉู่จวินสิงขึ้น “ท่านพี่ พวกเรากลับไปกันเถอะ”ฉู่จวินสิงส่งเสียงตอบรับ แล้วขับรถม้าจากไปสวีจงฉือมองไปยังแผ่นหลังของเจี่ยนอันอัน ในใจรู้สึกว่างเปล่าขึ้นมาไม่นานนักรถม้าก็กลับมาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยเจี่ยนอันอันไม่ได้กลับเรือน แต่ไปยังที่พักของเสิ่นจือเจิ้งแทนวันนี้ไม่เพียงแต่นางทำกำไรได้ แล้วยังได้รับทรัพย์พิเศษมาอีกด้วยแน่นอนว่าย่อมต้องนำเงินที่ได้มาเพิ่มนั้น ให้พี่ใหญ่ถึงจะถูกในตอนที่เจี่ยนอันอันเคาะประตูเรือนนั้น เซียงเสวี่ยยังคิดว่าเป็นเจียงหว่านเอ๋อร์มาก่อเรื่องอีกเมื่อนางทำหน้าเย็นชาไปเปิดประตูนั้น ถึงได้เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูกลับเป็นพวกของเจี่ยนอันอันทั้งสามคนใบหน้าของเซียงเสวี่ย ปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมาทันที“นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง พวกท่านกลับมาแล้ว”เซียงเสวี่ยพูดขึ้น พร้อมให้ทั้งสามคนเข้ามาด้านในนางนำเรื่องที่เจียงหว่านเอ๋อร์มาก่อเรื่องเมื่อเช้านี้ พูดให้ทั้งสามคนฟังเจี่ยนอันอันพอใจกับผลงานของเซียงเสวี่ยเป็นอย่างมาก นางหยิบเหรียญทองแดงสองสามเหรียญออกมาจากถุงผ้า มอบให้เซียงเสวี่ย

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 732

    เจี่ยนอันอันยิ้มกล่าว “พรุ่งนี้ข้าก็สามารถไปจากที่นี่ได้แล้ว”ฉู่จวินสิงจึงตัดสินใจค้างคืนกับเจี่ยนอันอันที่นี่เขาไม่อยากกลับไปที่โรงเตี๊ยม ที่นั่นเสียงดังเกินไป บวกกับเขาคิดถึงเจี่ยนอันอันหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มเลยฉู่จวินสิงอยู่ค้างคืนด้วยได้ เจี่ยนอันอันย่อมดีใจอยู่แล้วอย่างไรเสียก็คงไม่มีใครบุกเข้ามาในห้องนี้อย่างปุบปับอยู่แล้วพอถึงพรุ่งนี้เช้า ฉู่จวินสิงค่อยทำเหมือนกับว่าเพิ่งมารับเจี่ยนอันอัน คนทั้งสองก็สามารถจากไปพร้อมกันได้แล้วทั้งคู่นอนอยู่บนเตียง เนื่องจากไม่ได้เจอกันหลายวันพวกเขาจึงเริ่มอิงแอบแนบชิดกัน ฉู่จวินสิงออกแรงอย่างนุ่มนวลด้วยกลัวว่าจะกระทบกระเทือนทารกในครรภ์เจี่ยนอันอันหลังเสร็จกิจแล้ว ทั้งคู่ก็สวมกอดกันนอนหลับไปจนถึงเช้าตรู่วันถัดมา ฉู่จวินสิงก็ทำให้ตัวเองล่องหนระหว่างที่เจี่ยนอันอันกำลังทำอาหารอยู่ ฉู่จวินสิงก็มาเคาะประตูเรือนโดยทำเหมือนกับว่าแวะมาเยี่ยมกะทันหันฮวาหลานเอ๋อร์ไปเปิดประตู เห็นว่าฉู่จวินสิงมาแล้ว คราวนี้นางไม่ได้เย็นชาเหมือนครั้งก่อน แต่ยิ้มแฉ่งให้ฉู่จวินสิง“เยียนอ๋องมาหาพี่หญิงเจี่ยนสินะ พี่หญิงเจี่ยนของข้าทำ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 731

    “หลังกินข้าวมื้อนี้เสร็จ เจ้าก็ไปจากที่นี่เสียเถอะ สิ่งที่ข้าควรสอนก็สอนไปหมดแล้ว เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องพักอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”ซางหมิงกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วลุกขึ้นก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องกินข้าวเจี่ยนอันอันรู้ว่าซางหมิงยังโกรธเรื่องเมื่อเย็นวาน นางเป็นฝ่ายผิดก่อนจึงไม่ได้โกรธเพราะคำพูดของซางหมิงเพื่อชดเชยให้กับเรื่องเมื่อเย็นวาน เจี่ยนอันอันจึงรีบกินข้าวให้เสร็จแล้วไปหาซางหมิงนางมาถึงสถานที่ที่ซางหมิงทำหน้ากากก็เห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งทำหน้ากากอยู่ที่โต๊ะเจี่ยนอันอันหยิบยาถอนพิษที่ต้มไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานออกมาจากในมิติแล้ววางลงตรงหน้าซางหมิง“ผู้วิเศษซาง นี่คือยาถอนพิษที่ข้าต้มเอง ท่านดื่มยานี้ก่อนแล้วข้าค่อยไปก็ยังไม่สาย”ซางหมิงเหลือบมองยาถอนพิษสองถ้วยนั้นแล้วมองไปทางเจี่ยนอันอัน“เจ้าแน่ใจนะว่ายาสองถ้วยนี้สามารถกำจัดพิษในร่างข้าได้?”เห็นเจี่ยนอันอันพยักหน้ายิ้มๆ เขาก็ไม่พูดมาก หยิบถ้วยยาขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ทันทีหลังดื่มยาสองถ้วยนั้นจนหมด ซางหมิงก็รู้สึกว่าพิษในร่างกำลังสลายไปอย่างรวดเร็วบริเวณที่เดิมทียังเจ็บปวดอยู่บ้างก็รู้สึกโล่งสบายหาใดเปรียบ เพราะได้ดื่มยาสอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 730

    เรือนผมที่เคยยาวดกดำ ภายในคืนเดียวมลายหายไปสิ้นเห็นเพียงศีรษะที่โกร๋นโล่งเตียนไม่เหลือแม้แต่ผมเส้นเดียว!เจียงหวยตกใจจนหน้าซีดเผือด พลางทรุดร่างลง ‘โครม’ ที่หน้าพระแท่นมังกรฉู่ชางเหยีนมองดูสีหน้าตกตะลึงของเจียงหวย พลันยิ่งบันดาลโทสะมากขึ้น“เจ้าถูกผีหลอกเข้าหรือไร?”เจียงหวยกลัวจนตัวสั่นงันงก พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฝ่า...ฝ่าบาท เส้นพระเกศา...”ทันใดนั้นเอง ฉู่ชางเหยียนเพิ่งตระหนักว่าศีรษะเย็นผิดปกติจึงรีบเอามือลูบศีรษะตนเองโดยพลันไม่ลูบยังพอว่า ลูบไปเจอแต่ศีรษะโล้นเลี่ยนนี่สิ!“เกิดเรื่องอันใดขึ้น ผมของข้าเล่า? บังอาจนัก ผู้ใดมาโกนผมของข้าไปหมด?”“ทหาร รีบไปจับคนที่เมื่อคืนแอบเข้ามาในตำหนักข้า ข้าจะจับมากุดหัวเสีย แล้วถลกหนังมันด้วย”เจียงหวยหัวใจหล่นไปถึงตาตุ่ม เคราะห์ดีเมื่อคืนเขาไม่ได้ถวายงานอยู่ในตำหนักหลงเหอแต่ไปเลี้ยงอาหารนกแร้งสองตัวนั้น กว่าจะป้อนจนอิ่มหนำก็ค่ำมืดเต็มทีเขาเห็นว่าดึกมากแล้ว จึงมิได้กลับเข้าตำหนักหลงเหออีก ด้วยเกรงว่าจะรบกวนการบรรทมของฮ่องเต้ปรากฏว่าเพียงคืนเดียวที่เขาไม่ได้อยู่ถวายงาน กลับเกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นเขากลัวว่าถ้าฮ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 729

    เมื่อเจี่ยนอันอันดูถึงตรงนี้ มุมปากได้เหยียดขึ้นนานแล้วนางเห็นเจี่ยนกั๋วกงหน้าไม่อายผู้นั้น เมื่อถูกฮ่องเต้ตวาดเข้า ก็ทำตัวหงอ หดคอราวกับลูกเต่าตัวหนึ่งเป็นสิ่งที่นางรู้สึกสะใจยิ่ง!เจี่ยนกั๋วกงยังคิดเอาหน้าต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ คิดจะให้ส่งคนไปสืบสวนครอบครัวฉู่จวินสิงที่อยู่ในเมืองอินเป่ยอีกสุดท้ายลูกคิดรางแก้วของเขาก็พังทลาย ซ้ำยังถูกฮ่องเต้ชั่วด่าใส่หน้าอีก!เจี่ยนอันอันยังคิดว่าเจี่ยนกั๋วกงถูกด่าเบาไปด้วยซ้ำ ฮ่องเต้ชั่วน่าจะลงโทษฐานสร้างความวุ่นวายใจแก่เบื้องบนอีกกระทงหนึ่งเพราะอย่างไรก็ล้วนมิใช่คนดีทั้งคู่ ตายคนหนึ่งแผ่นดินจะได้สูงขึ้นบ้างแต่เสียดายฮ่องเต้ชั่วกลับมิได้ทำเช่นนั้น ข้อนี้ทำให้เจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและถอนหายใจ“หากตอนนี้ข้าเป็นฮ่องเต้ชั่วนั่น คงไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปแน่”หลังจากเจี่ยนอันอันแอบแช่งชักหักกระดูกในใจ พลันนึกไปถึงนกแร้งสองตัวนั้นตอนที่นางกับฉู่จวินสิงสังหารอิ่นเจียงนั้น ก็เคยเห็นนกแร้งสองตัวนี้แต่ไม่คิดว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของฉู่ชางเหยียนที่อยู่ในวังหลวงคราวก่อนที่ๆ พวกมันปรากฏตัว คงถูกฉู่ชางเหยียนส่งให้ไปสังเกตความเค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 728

    ฉู่ชางเหยียนหันมาทางเจี่ยนกั๋วกงต่อ น้ำเสียงเย็นชา “ท่านบอกว่าฉู่จวินสิงยังไม่ตาย แล้วนี่จะอธิบายอย่างไร?”เจี่ยนกั๋วกงรู้ดีว่า ฉู่ชางเหยียนได้เลี้ยงนกแร้งไว้สองตัวเมื่อครู่ขณะเห็นนก เขายังนึกว่าพวกมันคงหิวในเวลาค่ำคืน จึงออกมาหากินที่ไหนได้ แท้จริงแล้วพวกมันถูกฉู่ชางเหยียนส่งไปเมืองอินเป่ยต่างหากแม้แต่นกแร้งสองตัวนี้ยังยืนยันว่าครอบครัวฉู่จวินสิงได้เสียชีวิต แล้วเขาก็ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตนเองจึงหวาดกลัวจนรู้สึกขนหัวลุกชัน พร้อมรีบคุกเข่าลง“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมเพียงสงสัยว่าฉู่จวินสิงและครอบครัวยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ขอฝ่าบาททรงอภัยด้วย”ฉู่ชางเหยียนทำเสียงฮึในลำคอ พลางตะโกนไปยังด้านนอก “ใครก็ได้!”ไม่นานจึงมีองครักษ์ผู้หนึ่งเข้ามา“ไปตามอิ่นเจียงมาพบข้า ข้าจะถามเขาให้รู้”องครักษ์รับบัญชา พร้อมรีบถอยออกไปเจี่ยนกั๋วกงยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม ในใจไม่สู้สบายนักถ้าอิ่นเจียงมาถึง พร้อมกล่าวยืนยันอีกครั้งว่าตนได้สังหารฉู่จวินสิงและครอบครัวไปแล้วจริงๆแล้วเขาจะทำอย่างไรให้ฮ่องเต้ทรงเชื่อในคำสันนิษฐานของเขาได้?ซ้ำยังมีความรู้สึกว่า เรื่องนี้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 727

    เขารู้ว่าขุนนางกลุ่มนี้มิได้เห็นตนถูกปลดเป็นสามัญชน ซ้ำยังถูกเนรเทศไปอยู่เมืองอินเป่ย จนเลือกที่จะสวามิภักดิ์ต่อฉู่ชางเหยียนแต่กลับวางแผนเงียบๆ ว่าจะล้างมลทินให้ตนได้อย่างไร เพื่อให้กลับมาเมืองจิงโจวอีกครั้ง ครองตำแหน่งเยียนอ๋องตามเดิมฉู่จวินสิงรู้สึกปลื้มใจยิ่ง เขาคิดว่าตนดูคนไม่ผิด ขุนนางเหล่านี้มีความภักดีที่จะอยู่กับเขาอย่างจริงใจเพียงแต่ฐานะเขาตอนนี้ยังไม่เหมาะจะเผยตัว จึงมิได้ปรากฏตัวให้เหล่าขุนนางได้เห็นฉู่จวินสิงด้านหนึ่งเป็นห่วงเจี่ยนอันอัน อีกด้านก็นึกถึงอนาคตว่าจะบุกเข้าเมืองจิงโจวได้อย่างไรและขุนนางเหล่านั้นต่างก็มีกำลังทหารอยู่ในมือรอจนเขากลับไปจิงโจวเมื่อใด จะเป็นเวลาที่จะได้ชิงอำนาจกลับคืนมาอีกครั้ง......เจี่ยนอันอันมองดูยาในหม้อที่ต้มเสร็จแล้ว จึงรินเอาน้ำออกมา ส่วนกากยาถูกเททิ้งไปยาสองชามนี้เพียงพอที่จะขจัดพิษในตัวซางหมิงได้หมดนางนำยาไปเก็บไว้ในห้วงมิติ รอเพียงพรุ่งนี้เช้าซางหมิงตื่นมา ก็จะให้เขาดื่มเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องนอน พร้อมนำแว่นตาล่องหนออกมาใส่ไม่นานจึงมองเห็นฉู่ชางเหยียนนั่งอยู่ในห้องทรงอักษรและในห้องนั้นไม่เพียงมีฉู่ชางเหยียนกับมหา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 726

    เป็นครั้งแรกที่ฮวาหลานเอ๋อร์ได้เห็นโจ๊กแปดสมบัติ นางมองดูกระป๋องนั้นด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่าควรจะเปิดอย่างไรดีเจี่ยนอันอันตบหน้าผากตนเอง พลันฝากระป๋องจึงเปิดออกง่ายดาย นำช้อนที่อยู่ข้างในกางออกเรียบร้อย พร้อมส่งให้ฮวาหลานเอ๋อร์“นี่ก็คือโจ๊กแปดสมบัติ รสชาติหอมหวาน แม้จะเย็นชืดไปบ้าง แต่กินไม่ยาก”เจี่ยนอันอันกล่าวพลาง ยื่นโจ๊กให้แก่ฮวาหลานเอ๋อร์ฮวาหลานเอ๋อร์ได้กลิ่นหอมของโจ๊กมาเตะจมูก จึงรีบตักเข้าปากเร็วพลันรสชาติหอมหวานและเนียนนุ่ม อบอวลอยู่ในปากนางทันที“พี่เจี่ยน โจ๊กแปดสมบัตินี้ช่างอร่อยจริง”ฮวาหลานเอ๋อร์กล่าวพลาง รีบอ้าปากกินแล้วกินอีกไม่นานโจ๊กแปดสมบัติทั้งกระป๋องก็ถูกนางกินหมดเกลี้ยงนางมิได้ถามเจี่ยนอันอันเอาโจ๊กชนิดนี้มาจากที่ใด คิดแต่ว่าเจี่ยนอันอันคงจะทำเอง“อิ่มแล้วก็กลับไปพักผ่อนเสีย ข้าอยู่ทางนี้ยังต้องต้มยาอีกสักพัก”เจี่ยนอันอันไม่ต้องการให้ฮวาหวานเอ๋อร์มาอยู่ข้างกาย เพราะเป็นเด็กอายุยังน้อย ต้องการการพักผ่อนอย่างเต็มที่ฮวาหลานเอ๋อร์ยิ้มให้เจี่ยนอันอันอย่างมีความสุข พลางยืนขึ้นแล้วกระโดดโลดเต้นเดินจากไปเจี่ยนอันอันอยู่ในครัวต้มยาต่อไปอีก จากนั้นจึงร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 725

    แน่นอนว่าซางหมิงไม่เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอันเพราะสมัยก่อนกู้มั่วหลีได้วางยาพิษในร่างของเขาไม่น้อย แต่กลับไม่ต้องการให้เขาถูกพิษจนเสียชีวิตทุกครั้งที่เห็นเขาทุกข์ทรมานด้วยยาพิษ มักบอกว่าพิษนั้นยังไม่เพียงพอกู้มั่วหลีคล้ายคนเสียสติ แทนที่จะใช้ร่างกายเขาหาวิธีถอนพิษ กลับใช้เป็นที่ลองยามากขึ้นอีกซึ่งทำให้ซางหมิงถูกทรมานไม่หยุดหย่อนบัดนี้เจี่ยนอันอันกลับบอกว่าพิษในตัวเขาสามารถถอนได้ เพียงแค่ลมปากลอยๆ เขาย่อมไม่เชื่อแน่นอนแม้ว่านางจะมีความกล้าเหนือผู้อื่น ถึงขั้นติดตามฉู่จวินสิงกลับมาเมืองจิงโจวอีกครั้งแต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า นางจะสามารถขจัดพิษในร่างกายของเขาได้อีกทั้งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าพระชายาเยียนอ๋องรู้วิชาแพทย์ด้วย“ข้าว่าพระชายาเชิญกลับไปเสียดีกว่า ข้าต้องการพักผ่อน” ซางหมิงกล่าวพร้อมกับเอนกายลง “ก่อนออกไปอย่าลืมเป่าเทียนให้ดับด้วย”เจี่ยนอันอันเบะปากเล็กน้อย ถ้าตอนนี้เป็นผู้อื่น นางไม่สนใจนานแล้วแต่หลายวันนี้ซางหมิงสอนให้นางได้เรียนรู้หลายอย่าง จึงไม่อยากจากไปง่ายๆ เช่นนี้เจี่ยนอันอันกล่าวตอบเสียงเบา “ถ้าเช่นนั้นท่านพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ข้าจะถอนพิษในตัวให้”เจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 724

    ซางหมิงได้ยินดังนี้กลับทำเสียงฮึในลำคอ สองมือกำเป็นหมัดแน่น“หากข้าเป็นพี่น้องกับกู้มั่วหลีจริง คนแรกที่จะเอาชีวิตก็คือมัน!”เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น เห็นทีซางหมิงก็น่าจะรู้จักกู้มั่วหลีเช่นกันและระหว่างเขากับกู้มั่วหลี ก็น่าจะมีเรื่องบาดหมางด้วยแต่ถ้าเขาไม่ใช่กู้มั่วหลี ก็อาจพูดง่ายขึ้นสักหน่อยซางหมิงเห็นเจี่ยนอันอันยังคงยืนเฉยอยู่ที่เดิม จึงกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ยังไม่รีบไปอีก จะให้ข้าเฉดหัวเจ้าหรืออย่างไร?”เจี่ยนอันอันแม้จะรู้สึกขัดแย้งในใจ แต่นางยังไม่ต้องการไปจากที่นี่เร็วนักจึงรีบร้อนกล่าวอธิบาย “ท่านผู้วิเศษซาง ที่ข้าพบว่าท่านผ่านการแปลงโฉมมา ก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้องการดูใบหน้าที่แท้จริงของท่าน”“แต่มิคาดฝันว่าท่านจะมีใบหน้าคล้ายคลึงกับศัตรูของข้ากู้มั่วหลี่ถึงเพียงนี้”“เมื่อครู่ที่ล่วงเกินไป ต้องขออภัยด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางโค้งคำนับให้แก่ซางหมิงซางหมิงจึงเพิ่งเข้าใจว่าที่แท้เจี่ยนอันอันก็เหมือนเขา มีความแค้นกับกู้มั่วหลีเขากล่าวพร้อมกัดฟันกรอด “เจ้ากู้มั่วหลียังมีชีวิตอยู่ สวรรค์ช่างลำเอียงโดยแท้!”เมื่อเจี่ยงอันอันเห็นซางหมิงโกรธแค้นต่อกู้มั่ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status