Share

บทที่ 537

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
ไม่นาน ผักบนแผงก็ถูกขายไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

เสิ่นจืออวี้รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาขายผัก และเป็นครั้งแรกที่มาตลาดด้วย เขาไม่คิดว่าจะสนุกถึงเพียงนี้

ขณะที่ทั้งสามคนกำลังยุ่งอยู่กับการขายผัก พลันมีเสียงตะโกนดังลั่นขึ้นมา

“พี่ใหญ่ พวกเขานี่แหละ เมื่อวานไม่เพียงแต่ไม่จ่ายค่าคุ้มครอง ยังอัดพวกเราอีกสามคนจนเละ!”

ชายที่นำกลุ่มคนมาหรี่ตามองพวกของเจี่ยนอันอันทั้งสามคน

“พวกเรา วันนี้ถ้าพวกเจ้าไม่ทำให้พวกมันพิการ พวกเจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้กลับไปกินข้าว!”

จูกังเลี่ยผู้ที่เป็นหัวหน้าตะโกนลั่นด้วยความโกรธ พร้อมกับเดินตรงมาที่แผงผักของเจี่ยนอันอัน

เขาเตะลูกค้าคนหนึ่งที่กำลังซื้อผักจนกระเด็น พร้อมกับตวาดเสียงเกรี้ยว “ไสหัวไปให้พ้นทางข้าเดี๋ยวนี้!”

“ตอนนี้เจ้าหน้าที่มาทำคดี หากใครยังกล้าซื้อผักจากแผงนี้ ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับทางการ!”

คำพูดของจูกังเลี่ยทำให้เหล่าลูกค้าที่กำลังซื้อผักต่างรีบถอยห่างออกไป

เจี่ยนอันอันเหลือบมองจูกังเลี่ย ก็เห็นว่าใบหน้าของเขาคล้ายกับพื้นรองเท้า เวลาพูดปากก็บิดเบี้ยวไปด้วย

“พวกเจ้าคือคนที่ไม่จ่ายค่าคุ้มครอง แล้วยังอัดพี่น้องข้าจนเจ็บใช่หรือไม
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 538

    เสิ่นจืออวี้ไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเข้ามายุ่งเกี่ยว เขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บอย่างไรเสียมีเขากับฉู่จวินสิงอยู่ ก็เพียงพอแล้วแต่เจี่ยนอันอันกลับคิดต่าง นางต้องการเลื่อนขั้นคลังอาวุธของตนเอง และนางต้องแก้แค้นแทนเหยียนซวงการต่อสู้ครั้งนี้นางต้องเข้าร่วม!ในมือของเจี่ยนอันอันปรากฏกริชเล่มหนึ่ง นางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “ท่านพี่ ท่านอยู่ขายผักต่อ ข้าไปจัดการคนพวกนี้เอง”ขณะที่เจี่ยนอันอันพูดอยู่ มีคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหมายจะชกหน้านางแต่เจี่ยนอันอันไม่แม้แต่จะหันไปมอง นางยกมือขึ้นและใช้กริชกรีดที่ข้อมือของคนผู้นั้นคนผู้นั้นเจ็บปวดจนต้องกลั้นหายใจ รีบยกมือกุมแผลพลางถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างรวดเร็วฉู่จวินสิงกังวลว่าเจี่ยนอันอันอาจได้รับอันตราย จึงไม่อยากให้นางเข้าร่วมการต่อสู้แต่คำพูดต่อมาของเจี่ยนอันอันทำให้เขาจำต้องยอม“ท่านพี่ วันนี้ข้ารู้สึกคันไม้คันมือ ถ้าไม่ได้อัดพวกมัน ข้าคงรู้สึกไม่สบายใจ”หลังจากเตะคนหนึ่งกระเด็นออกไป ฉู่จวินสิงจึงกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ระวังตัวด้วย!”เจี่ยนอันอันยิ้มเผยฟันเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีกหลังจากที่นางฟันข้อมือชายคนหนึ่ง นางก็เห็นข้อความภาร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 539

    เมื่อคนกลุ่มนั้นคิดจะเข้าไปช่วยจูกังเลี่ย พวกเขาก็ถูกเจี่ยนอันอันขวางไว้“ใครกล้าข้ามา ข้าจะทำให้เจ้าไม่ได้เห็นดวงตะวันในวันพรุ่งนี้”เจี่ยนอันอันพูดพลางแทงมีดสั้นในมือเข้าไปที่ท้องของหนึ่งในพวกนั้นทันใดนั้น ภารกิจของห้วงมิติก็แสดงข้อความขึ้นอีกครั้ง[ระดับคลังอาวุธ +0.5]เจี่ยนอันอันเข้าใจทันทีว่า หากเพียงแค่ทำร้ายพวกลูกสมุน ระดับของคลังอาวุธจะเพิ่มขึ้นช้าเหมือนเต่าคลานดูเหมือนนางจะต้องจัดการกับหัวหน้ากลุ่มนี้ในขณะนั้นเอง คนที่ยังไม่ถูกแทงก็พุ่งเข้ามารุมโจมตีเจี่ยนอันอันพร้อมกันพวกเขาเหวี่ยงดาบใหญ่ในมือ ฟันตรงมาที่เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันกลับไม่มีทีท่าหวาดกลัวแม้แต่น้อย ใบหน้าของนางยังคงประดับด้วยรอยยิ้มเหี้ยมโหดนางหยิบผงสลายศพออกมาจากมิติ แล้วโปรยใส่ดาบใหญ่ในมือของคนพวกนั้นทันทีที่ผงสลายศพสัมผัสดาบ ดาบสิบกว่าด้ามก็ละลายกลายเป็นน้ำในพริบตาพวกนั้นต่างยืนอึ้งอยู่กับที่ มองมือของตัวเองสลับกับแอ่งน้ำบนพื้นเกิดอะไรขึ้น ดาบของพวกเขาหายไปไหน?ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง เจี่ยนอันอันก็หยิบเข็มเงินชุบยาพิษออกมาจากมิติแล้วปาเข็มเงินพุ่งไปบนร่างของคนเหล่านั้นเมื่อคนพวกนั้นโด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 540

    เมื่อเห็นปลายกริชพุ่งเข้ามาใกล้ดวงตาของเขา จูกังเลี่ยรู้สึกถึงความร้อนชื้นที่ขาทั้งสองข้างกลิ่นเหม็นฉุนของปัสสาวะลอยคลุ้งในอากาศ เขาถึงกับถูกเจี่ยนอันอันขู่จนปัสสาวะรดกางเกง“แม่ประคุณทูลหัว ได้โปรดไว้ชีวิต ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว อย่าแทงตาข้าเลย”ในตอนนี้จูกังเลี่ยตัวสั่น น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่สนใจแล้วว่าตัวเองจะปัสสาวะรดกางเกงหรือไม่ สิ่งเดียวที่เขาคิดคือการขอให้เจี่ยนอันอันปล่อยเขาไปเจี่ยนอันอันทำเสียงจิ๊ปากสองครั้ง พลางยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ข้าน่ะ ไม่ชอบฟังคำร้องขอชีวิตจากใครเลยจริง ๆ ยิ่งเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ยิ่งอยากจะทำมากขึ้น”พูดจบ นางก็แทงกริชในมือไปที่ดวงตาข้างหนึ่งของจูกังเลี่ยทันทีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงถาโถมเข้าใส่ จูกังเลี่ยเจ็บถึงกับตัวสั่นระริกด้วยความกลัวเสียงร้องโหยหวนที่แหบพร่าของจูกังเลี่ยดังลั่น มันช่างน่าสลดใจราวกับเสียงสุกรถูกเชือดพี่น้องในกลุ่มของเขาที่ตามมา ต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้าหญิงสาวคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงสามารถทำเรื่องโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้?แม้แต่เสิ่นจืออวี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังถูกท่าทางอันดุดันของเจี่ยนอันอันทำให้ตกใจนี่เป็นครั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 541

    หลังจากที่จูกังเลี่ยถูกมัดเอาไว้แล้ว กายของเขายังคงสั่นเทาไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์จากเจ้าของแผงพูดคุยกัน จูกังเลี่ยก็ยิ่งเหมือนกับไก่ที่พ่ายแพ้ ปิดตาแล้วก้มหน้าลงไม่นานนักเบื้องหน้าของเจี่ยนอันอัน ก็ปรากฏสัญญาณภารกิจของห้วงมิติขึ้นมา[ทำให้ตาของจูกังเลี่ยบอด คลังอาวุธระดับ +10]ในใจของเจี่ยนอันอันยินดียิ่งนัก ครั้งนี้ระดับคลังแสงอาวุธถือว่าเพิ่มสูงขึ้นเร็วสักเล็กน้อยนางหยิบเชือกมาลากคนกลุ่มนี้ เดินไปทางด้านรถม้าในตอนที่นางพบว่าเสิ่นจืออวี้ไม่ได้ตามมาด้วยนั้น ก็หันไปร้องตะโกนออกมา “เสิ่นจืออวี้ เจ้ายังจะไปด้วยหรือไม่?”เสิ่นจืออวี้ถึงได้มีสติขึ้นมา แล้วรีบเดินเข้ามาทันทีเจี่ยนอันอันนำคนกลุ่มนั้นมัดเอาไว้ด้านหลังรถม้าฉู่จวินสิงขึ้นรถม้า แล้วนำถุงเงินมอบให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันเปิดออกดู ด้านในนั้นใส่เหรียญทองแดงเอาไว้เต็มถุงดูเหมือนว่าวันนี้คงจะได้กำไรมากไม่น้อย!รอจนเมื่อเสิ่นจืออวี้ตามมาถึงรถม้านั้น ฉู่จวินสิงขับรถม้า มุ่งหน้าเดินทางไปยังทิศทางของที่ว่าการอำเภอเขาจงใจขับรถม้าให้เร็วขึ้น ทำให้คนกลุ่มนั้นจำต้องวิ่งตามมาอยู่ด้านหลังจูกังเลี่ยที่เดิมทีนั้นเจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 542

    คนกลุ่มนั้นคุกเข่าอยู่ในห้องพิจารณาคดี ส่วนเจี่ยนอันอันทั้งสามคนนั้นกลับยืนตัวตรงอยู่แน่นอนว่าเซิ่งฟางย่อมไม่ให้ทั้งสามคนคุกเข่าลง เพราะอย่างไรแล้วพวกเขาล้วนแต่เป็น “ผู้เคราะห์ร้าย”จูกังเลี่ยยังคงเจ็บปวดจนทั่วทั้งกายสั่นเทา เขาส่งเสียงร้องออกมา ตอนนี้น้ำเสียงที่พูดออกมาล้วนแต่แหบแห้งเป็นอย่างยิ่งเขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดแหบแห้ง “ใต้เท้า พวกเราเพียงแค่อยากหาเลี้ยงชีพเท่านั้น ใต้เท้าโปรดให้อภัยพวกข้าด้วย”คนอื่นๆ ล้วนแต่พยักหน้าอย่างแรง ผู้ใดก็ไม่กล้าพูดจาไร้สาระออกมาแม้แต่ประโยคเดียวเซิ่งฟางตะคอกออกมา “หาเลี้ยงชีพแล้วจะต้องแสร้งแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ทำร้ายคนอย่างนั้นหรือ?”“ข้าว่าพวกเจ้าคงใจกล้ากินดีหมีมาอย่างนั้นหรือ ใครก็ได้เข้ามาจับพวกเขาเข้าไปขังคุกเสีย แล้วโบยให้หนักหนึ่งร้อยไม้”คนกลุ่มนี้เมื่อได้ยินว่าจะถูกโบยหนึ่งร้อยไม้ ก็ตกใจเสียจนทั่วทั้งกายสั่นอย่างแรงพวกเขาจะไปทนรับหนึ่งร้อยไม้นั้นได้อย่างไรกัน นี่ไม่ใช่ว่าจะต้องการชีวิตพวกเขาอย่างนั้นหรอกหรือ!“ใต้เท้า พวกเรารู้ความผิดแล้ว ขอใต้เท้าได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”“ใช่แล้วใต้เท้า พวกเราด้านบนมีแม่อายุแปดสิบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 543

    รอจนเมื่อคนกลุ่มนั้นถูกคุมตัวออกไปแล้ว เซิ่งฟางถึงได้หัวเราะแล้วออกจากห้องพิจารณาคดีไปเขาเดินก้าวใหญ่เข้ามา แล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “อันอัน จวินสิง พวกเจ้ากินอาหารเช้ากันแล้วหรือยัง?”เจี่ยนอันอันยังไม่ทันได้พูดออกมา ท้องก็ส่งเสียงร้องคำรามดังขึ้น ตอบกลับเซิ่งฟางเจี่ยนอันอันลูบท้อง ยิ้มแล้วพูดออกมา “พี่เซิ่ง พวกเราไปขายผักที่ตลาดตั้งแต่เช้า ไม่ได้กินข้าวเช้ามาจริงๆ”“เช่นนั้นก็ดี เมื่อครู่นี้ห้องครัวเพิ่งจะทำอาหารเสร็จ พวกท่านก็มากินข้าวด้วยกันกับข้า”เซิ่งฟางนำทั้งสามคนมายังห้องทานอาหารอย่างกระตือรือร้นเหล่าสาวใช้ในตอนนี้วางอาหารลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทั้งสี่คนรีบนั่งลงเจี่ยนอันอันหยิบชามและตะเกียบขึ้นอย่างไม่เกรงใจ แล้วเริ่มกินฉู่จวินสิงตักเนื้อให้เจี่ยนอันอัน แล้วใส่ลงไปในชามของนางเซิ่งฟางมองไปยังท่าทีรักใคร่ของทั้งสองคน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาเห็นเสิ่นจืออวี้ที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เป็นตัวของตัวเองนัก ก็รีบส่งเสียงร้องตะโกนขึ้น “เจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ มาแล้วก็ทำตัวเหมือนกับอยู่ที่เรือนของเจ้าเถอะ”เสิ่นจืออวี้เป็นครั้งแรกที่มากินข้าวที่ที่ว่าการอำเภอเขาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 544

    เขาพบว่านักโทษเหล่านั้น มีส่วนใหญ่ที่ถูกนายอำเภอคนก่อนกล่าวโทษผิดๆ ไปนายอำเภอคนก่อนสนใจเพียงแต่รับเงิน ไม่ได้สนใจความเป็นความตายของชาวบ้านแม้แต่น้อยส่วนนักโทษที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้น เป็นเพราะที่บ้านยากจน มอบเงินให้ไม่ได้ จึงถูกนายอำเภอตัดสินโทษ แล้วนำตัวเข้าไปขังคุกพวกเขาถูกคุมขังอยู่หลายปีมีนักโทษที่เคยถูกกล่าวโทษหลายคน ที่ถูกนายอำเภอคนก่อนตัดสินให้ตัดหัวเซิ่งฟางรีบตรวจสอบ แล้วนำตัวผู้ที่กระทำผิดตัวจริงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเพราะเซิ่งฟางตัดสินคดีความได้ดี นักโทษที่ถูกกล่าวโทษเหล่านั้น ล้วนแต่ได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาพวกเขาเองก็เป็นเพราะเหตุนี้ ถึงได้เปลี่ยนความคิดที่มีต่อเซิ่งฟางไปเซิ่งฟางบอกกับพวกเขา เขาไม่เคยขายเมืองอินเป่ย ประกาศเหล่านั้นก็เป็นของปลอมทั้งหมดเป็นเพราะมีคนจงใจใส่ร้ายเขาเมื่อผ่านการกระทำหลายวันมานี้ของเซิ่งฟาง ก็ทำให้ชาวบ้านในอำเภอไถหยางรู้ว่า พวกเขาทั้งหมดเข้าใจเขาผิดไป ทำให้ช่วงเวลาถัดมาของเซิ่งฟางดีขึ้นมากเจี่ยนอันอันได้ยินเซิ่งฟางอธิบายออกมา ในใจรู้สึกชื่นชมเขาเมื่อนางเห็นว่าที่นี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วบอกลาเซิ่งฟางส่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 545

    นางหยิบเงินก้อนเล็กสองอันออกมาจากด้านใน มอบให้เจ้าของแผงเจ้าของแผงรับเงินมือหนึ่งด้วยความยินดี อีกมือหนึ่งก็ส่งมอบกระต่ายเจี่ยนอันอันรับกรงเหล็กมา หมุนกายขึ้นรถม้าไปในตอนที่พวกเขากำลังออกไปจากที่นั่น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนออกมา “แม่นางเจี่ยน เป็นท่านจริงๆ!”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่ามีคนเรียกนาง ก็หันไปมอง สวีจงฉือลงมาจากรถม้า เดินก้าวใหญ่มาทางด้านนางใบหน้าของสวีจงฉือแต้มไปด้วยรอยยิ้มหลายวันมานี้ร่างกายของเขาฟื้นฟูไปได้มาก เมื่อวานนี้จึงได้ออกมาจากที่ว่าการอำเภอเพียงแต่ในใจเขา กลับคอยคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะได้พบกับเจี่ยนอันอันอีกเมื่อไหร่กันวันนี้เขาว่าจ้างรถม้า คิดจะไปหาเจี่ยนอันอันที่หมู่บ้านชิงสุ่ยเมื่อครู่นี้ในตอนที่รถม้าผ่านมานั้น เขาก็เปิดม่านขึ้นโดยบังเอิญ แล้วมองเห็นร่างเงาที่คุ้นเคยเข้า กำลังนั่งยองซื้อกระต่ายน้อยที่นั่นนี่เป็นร่างเงาที่เขาไม่เคยลืมเลือน ในใจก็ยินดีขึ้นมา เขารีบให้คนขับรถหยุดลงทันทีเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกำลังจะจากไป สวีจงฉือก็รีบลงจากรถม้าแล้วร้องเรียกนางเอาไว้เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าสีหน้าของสวีจงฉือฟื้นตัวได้ดีขึ้น ดูเหมือนว

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 806

    เมื่อมีชาวบ้านผ่านมาที่นี่แล้วเห็นลูกปลาในสระน้ำเข้าเขาก็ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “แม่นางเจี่ยน เจ้าเป็นคนนำลูกปลาพวกนี้มาปล่อยไว้ในนี้หรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง ชาวบ้านผู้นั้นเรียกคนอื่นๆ มาด้วยความดีใจทุกคนล้วนรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเจี่ยนอันอัน แบบนี้ต่อไปพวกเขาก็จะสามารถกินเนื้อปลาสดใหม่ได้แล้วชาวบ้านจำนวนมากล้วนรู้สึกยินดีเพราะเรื่องนี้ แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่นิ่วหน้าคิ้วขมวดเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “สระน้ำนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่อากาศค่อยๆ เย็นลงแล้ว กลัวจริงๆ ว่าเมื่อถึงฤดูหนาว สระน้ำนี่ก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง”“พอถึงยามนั้น อย่าว่าแต่พวกเราจะไม่ได้กินเนื้อปลา เกรงว่าแม้แต่พืชผักก็คงปลูกไม่ได้เหมือนกัน”วาจาประโยคเดียวของชาวบ้านทำให้คนอื่นๆ กลัดกลุ้มตามไปด้วยหลายวันมานี้อากาศค่อยๆ เย็นลง พวกเขาล้วนแต่เพิ่งปลูกผักทั้งยังได้รับเงินสามสิบตำลึงมาแล้วหากถึงฤดูหนาวจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถปลูกผักพวกนี้ได้อีกแล้วเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะได้กลับไปมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกครั้งพวกเขาเกี่ยวข้าวไว้มากแล้ว แต่ผักพวกนี้ควรทำอย่างไรดีเล่า?หาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 805

    เซียงเสวี่ยเห็นลูกเป็ดและลูกไก่ตัวน้อยที่อยู่ในกรง นางดีใจจนรีบมารับไป“ฮูหยินน้อยรอง อีกหน่อยเมื่อเลี้ยงเป็ดและไก่เหล่านี้จนโต พวกเราก็จะมีเนื้อเป็ดเนื้อไก่กินแล้ว”เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย พลางมองไปยังเสิ่นจือเจิ้ง“พี่ใหญ่ เป็ดไก่เหล่านี้เพียงพอให้พวกท่านกินหลายวันสินะ”เสิ่นจือเจิ้งยิ้มตอบ “เด็กโง่ พี่ใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของท่านคือ?”เสิ่นจือเจิ้งบอกเล่าความคิดของตนให้ฟังเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงเป็ดไก่เหล่านี้ให้โต พร้อมทำการเพาะพันธุ์ต่อจากนั้นก็ทยอยนำเป็ดไก่ไปขาย เชื่อว่าน่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นดั่งเช่นทุกวันนี้อีกเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้พอใช้ได้ ปกติพี่ใหญ่มองการณ์ไกลมากกว่านางอยู่แล้ว“ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่าน”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงคิดจากไปนางยังคิดจะไปดูแอ่งน้ำเสียหน่อย เผื่อจะปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในน้ำบ้างเผื่อวันหน้าปลาโตขึ้น ชาวหมู่บ้านชิงสุ่ยก็จะมีเนื้อปลากินอีกขณะที่เจี่ยนอันอันเตรียมตัวจะออกไป กลับถูกเสิ่นจือเจิ้งเรียกตัวไว้“เมื่อคืนที่บ้านเจ้าได้เกิดเรื่อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status