แชร์

บทที่ 195

ผู้แต่ง: ซินต้งหรูสุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เจี่ยนอันอันแปลงคำว่ายามซวีในหัวถึงเข้าใจว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว

“ดึกขนาดนี้แล้วหรือ สงสัยข้าจะไม่ได้กินมื้อเย็นแล้วสิ”

เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็จะซื้อขนมปังจากร้านค้าในมิติ

แต่กลับได้ยินฉู่จวินสิงพูดว่า “ข้าให้สาวใช้เก็บอาหารบางส่วนไว้ให้เจ้าแล้ว ข้าจะบอกให้พวกนางนำไปอุ่นให้เจ้ากินก็แล้วกัน”

เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงทำท่าจะลงไปจากเตียงอุ่นก็ร้องเรียกเขาไว้

“ไม่ต้องรบกวนพวกนางหรอก ข้าไปอุ่นเองก็ได้”

เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็ลงไปจากเตียงอุ่น

นางมาถึงในครัวก็เห็นข้าวสวยสองถ้วยวางอยู่บนโต๊ะ

นางจึงนำไปทำข้าวผัดไข่เสียเลย

ตั้งแต่มาที่นี่ นางไม่ได้กินข้าวผัดไข่มานานมากแล้ว

เจี่ยนอันอันยกข้าวผัดไข่ออกไปกินในลานบ้าน

ฉู่จวินสิงเดินมานั่งลงข้างๆ นาง

แสงจันทร์สาดส่องลงมายังคนทั้งสองในลานเรือน

กลิ่นหอมของข้าวผัดไข่โชยมาตามลม

ฉู่จวินสิงมองดูข้าวผัดไข่จานใหญ่ใบนั้นแล้วลูกกระเดือกก็ขยับขึ้นลงเล็กน้อย

เจี่ยนอันอันเห็นเขาจ้องข้าวผัดไข่ก็เอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้ม “ท่านก็กินด้วยกันสิ ข้าวผัดไข่ที่ข้าทำอร่อยมากเลยนะ”

ฉู่จวินสิงเบือนหน้าหนี บอกว่าตนเองไม่หิว

เจี่ยนอันอันมองดูท่าทางลอบกลืนน้ำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 196

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงกินข้าวเสร็จแล้วกำลังจะเก็บจานแต่แล้วสี่เอ๋อร์กลับรีบเดินเข้ามา“ข้าจัดการเองเจ้าค่ะ นายน้อยรองกับฮูหยินน้อยรองรีบเข้าไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”เจี่ยนอันอันยิ้มให้สี่เอ๋อร์แล้วกลับเข้าห้องเนื่องจากก่อนหน้านี้นอนมานานมาก อีกทั้งเมื่อครู่ก็กินข้าวเยอะเจี่ยนอันอันจึงได้แต่นอนพลิกตัวไปมาบนเตียง ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับนางตัดสินใจลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูเดินออกไปฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันออกไปก็รีบตามไปตอนนี้ร่างกายเขาใกล้หายดีแล้ว นอกจากมือที่ยังมีผ้าพันแผล ส่วนอื่นก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วเจี่ยนอันอันหันศีรษะกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า พบว่าฉู่จวินสิงตามออกมานางถามด้วยความสงสัย “ท่านตามออกมาทำอันใด?”ฉู่จวินสิงกระแอมไอเบาๆ “ข้านอนคนเดียวไม่หลับ”เจี่ยนอันอันปิดปากลอบหัวเราะ ที่แท้เขาก็ต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อนเวลานอนหรือนี่เจี่ยนอันอันอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกจึงเปิดประตูลานบ้านฉู่จวินสิงรีบตามออกไป“เจ้าจะไปที่ใด?”เจี่ยนอันอันนึกถึงบทสนทนาที่คุยกับสตรีเมื่อช่วงบ่ายนางรู้สึกว่าเรื่องที่ครอบครัวของเสี่ยวโต้วจื่อถูกวางยาพิษต้องเกี่ยวข้องครอบครัวอวี้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 197

    เจี่ยนอันอันนึกได้ว่า ก่อนหน้านี้หญิงชราบ้านอวี้เฟิ่งบอกว่า ต่อให้จางต้าตายเป็นผีไปแล้วก็จะไม่ปล่อยคนพวกนี้นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเริ่มปลอมเป็นผีมาหลอกคนไวขนาดนี้ชายชราใช้ท่อนไม้ฟาดใส่บ่าวรับใช้คนนั้นแต่ถึงอย่างไรบ่าวรับใช้ก็เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อน เขาหลบท่อนไม้ที่ฟาดเข้ามาพลางใช้เท้าถีบชายชราชายชราถูกถีบให้ถอยไปหลายก้าวและเกือบล้มลงพื้นลูกชายของเขาเห็นดังนี้ก็เดือดดาลเขาเหวี่ยงท่อนไม้ในมือใส่ศีรษะของบ่าวรับใช้บ่าวรับใช้จับท่อนไม้เอาไว้แล้วถีบท้องลูกชายของชายชราให้ล้มลงพื้น ชายชราเห็นลูกชายตัวเองถูกถีบล้มก็โกรธจนตัวสั่น“กล้าแตะต้องลูกชายของข้า ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!”ชายชราจะฟาดท่อนไม้ใส่บ่าวรับใช้ต่อแต่ท่อนไม้ในมือเขายังไม่ทันจะฟาดถูกร่างอีกฝ่ายก็ถูกแย่งไปเสียแล้วบ่าวรับใช้ฟาดท่อนไม้ใส่จมูกของชายชราภายในหัวชายชรามีเสียง ‘วิ้ง’ เขากุมจมูกและเซถอยไปหลายก้าวครั้นลดมือลงมองก็พบว่าในนั้นมีแต่โลหิตสตรีในบ้านได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกก็รีบเดินออกมาดูนางตกใจจนเข่าอ่อนนั่งลงที่ประตูเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า“ฆ่าคนแล้ว ช่วยด้วย!” สตรีนางนี้ร้องเสียงดัง หวังว่าจะดึงดู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 198

    บ่าวรับใช้เริ่มหวาดกลัวในที่สุด เขาร้องวิงวอนขอความเมตตาด้วยเสียงแหบแห้ง“แม่นางปล่อยข้าไปเถิด ข้าเองก็ทำตามคำสั่งของเจ้านาย”“พวกเขาสั่งให้ข้าปลอมเป็นผีมาหลอก ข้าจำเป็นต้องทำตามคำสั่ง”“นี่ไม่ใช่เจตนาที่แท้จริงของข้าแต่อย่างใด”เจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็น ไม่ได้เอาท่อนไม้ออกแต่อย่างใด“เจ้านายเจ้าสั่งแค่ให้หลอกผีอย่างเดียว ไม่ได้สั่งอะไรอย่างอื่นหรือ?”นางไม่มีทางเชื่อคำพูดของเขาหากเรื่องราวมันง่ายขนาดนั้นจริงก็คงไม่ใช่บ้านแม่สามีอวี้เฟิ่งแล้วนางจำสายตาที่พ่อแม่สามีอวี้เฟิ่งหันมามองพวกนางก่อนจากไปได้เป็นอย่างดีสายตานั้นโหดเหี้ยมอำมหิต ประหนึ่งอยากจะถลกหนังแล้วกินนางกับฉู่จวินสิงเป็นๆบ่าวรับใช้เห็นเจี่ยนอันอันไม่เชื่อที่ตัวเองพูดก็กัดฟันยอมพูดความจริงในที่สุด“นอกจากการปลอมเป็นผีมาหลอกชาวบ้านแล้ว เจ้านายของข้ายังส่งบ่าวรับคนอื่นๆ ไปสร้างปัญหาที่บ้านพวกเจ้าเช่นกัน”“เวลานี้พวกเขาน่าจะอยู่ที่บ้านพวกเจ้าแล้วล่ะ”เจี่ยนอันอันสังหรณ์ใจไม่ดีนางไม่ได้กลัวอย่างอื่น ห่วงก็แต่เสบียงอาหารกับพืชผักพวกนั้นหากถูกบ่าวรับใช้จุดไฟเผา พวกนางคงไม่เหลืออาหารให้กินเจี่ยนอันอันพูดกับฉู่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 199

    บรรดาบ่าวรับใช้คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะต้องมีจุดจบเช่นนี้พวกเขาไม่เพียงแต่ถูกโซ่เหล็กล่ามไว้เหมือนสุนัข ตอนนี้แม้แต่จะเดินก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำฉู่จวินหลุนเคลื่อนรถเข็นมาหาฉู่จวินสิงเขาถามด้วยความสงสัย “พวกเจ้าสองคนออกไปตั้งแต่เมื่อไร?”ฉู่จวินสิงตอบเสียงทุ้ม “เพิ่งออกไปได้ไม่นานก็เจอพวกเขาปลอมเป็นผีไปหลอกชาวบ้าน”ฉู่จวินหลุนได้ยินดังนี้ก็เข้าใจ มิน่าเล่า พวกเขาถึงได้กลับมาทันเวลาดูแล้วน่าจะทราบเรื่องที่มีคนมาหาเรื่องที่นี่จากทางบ้านที่มีคนหลอกผี“จะทำอย่างไรกับพวกเขา จะฆ่าหรือไม่?” ฉู่อันเจ๋อจับโซ่ไว้แน่นและเงยหน้ามองฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงมองว่าอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่จวนเยียนอ๋อง จะฆ่าคนตามใจชอบไม่ได้แต่จะให้ส่งตัวกลับไปให้บ้านแม่สามีอวี้เฟิ่งก็ดูจะสบายเกินไปหน่อย“พาพวกเขาไปขังที่ห้องใต้ดินก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยพาไปให้พี่เซิ่งจัดการที่ที่ว่าการอำเภอ”ทั้งสามคนเห็นด้วยกับความคิดของฉู่จวินสิงพวกเขาคุมตัวพวกบ่าวรับใช้ไปที่ห้องใต้ดินเจี่ยนอันอันบังคับให้พวกเขากินยาพิษนางเตือนว่า “ทำตัวดีๆ หากกล้าเดินออกไปแม้แต่ก้าวเดียว พวกเจ้าได้ตายเพราะพิษกำเริบแน่”ก่อนออกไป นางหันกลับไปพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 200

    ฉู่จวินสิงรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขากำลังรอดูว่าเจี่ยนอันอันจะข้ามมาฝั่งตัวเองเมื่อไรขณะที่ฉู่จวินสิงนับถึงสิบในใจ เจี่ยนอันอันก็ขยับตัวนางเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วเริ่มขยับมาฝั่งทางฉู่จวินสิงรอยยิ้มมุมปากของฉู่จวินสิงยกโค้งหนักกว่าเดิมท่านอนที่อยู่ไม่สุขของเจี่ยนอันอันถูกฉู่จวินสิงมองว่าเป็นอะไรที่น่ารักมากเจี่ยนอันอันขยับเพียงครู่หนึ่งก็นิ่งไป มือของนางเริ่มคลำไปทางซ้ายขวา ไม่รู้ว่ากำลังคลำหาอะไรไม่นาน เจี่ยนอันอันก็พึมพำว่า “เหตุใดจึงร้อนเช่นนี้ พัดใบตองของข้าอยู่ที่ใด?”ฉู่จวินสิงฟังถึงตรงนี้ก็อดหัวเราะ ‘พรืด’ ออกมาไม่ได้แต่เขาเพิ่งจะหัวเราะก็ได้ยินเจี่ยนอันอันดุว่า “นี่ เจ้าลิงบ้า ขืนยังหัวเราะอีก ข้าจะหักฟันเจ้าเสีย!”ฉู่จวินสิงส่ายหน้ายิ้มๆ เขาขยับเข้าไปใกล้เล็กน้อยและดึงเจี่ยนอันอันมาไว้ในอ้อมกอดศีรษะของเจี่ยนอันอันหนุนบนแขนฉู่จวินสิง นางพลิกตัวมาวางมือและเท้าบนตัวของฉู่จวินสิงนางพึมพำเสียงเบา “เจ้าวัวเฒ่าบ้านข้านี่แหละดีที่สุด รู้สึกดูแลเอาใจใส่ ไม่เหมือนเจ้าลิงบ้าที่ชอบหัวเราะ”เจี่ยนอันอันพูดจบก็กอดฉู่จวินสิงหลับไปอย่างสงบฉู่จวินสิงห่มผ้าลงบนตัวทั้งสอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 201

    เจี่ยนอันอันลงจากเตียงด้วยความโมโหแล้วเดินไปทางประตูฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันเดินออกไปก็พลิกตัวลงจากเตียงเช่นกันเวลานี้บรรดาสาวใช้กำลังหุงหาอาหาร ส่วนสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ก็ออกมานั่งตากลมเย็นข้างนอกอากาศวันนี้มีสายลมพัดคลอเบาๆ ไม่ได้ร้อนอบอ้าวเหมือนที่ผ่านมาเจี่ยนอันอันไปที่โรงเก็บของด้านหลัง นางลงไปที่ชั้นใต้ดิน เห็นว่าบ่าวรับใช้ที่อยู่ด้านในกำลังนอนกันเกลื่อนกลาดพวกเขาพากันลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงครั้นเห็นว่าเป็นเจี่ยนอันอันก็ลุกขึ้นนั่งทันทีเมื่อคืนนี้พวกเขาต่างก็เป็นกังวลกับเรื่องที่ตัวเองจะถูกตัดหัวคิดไว้ว่าหากได้เจอเจี่ยนอันอันแล้วจะขอร้องนางให้ปล่อยพวกเขาไปบ่าวรับใช้ที่อาวุโสมากที่สุดเข้ามาคุกเข่าเบื้องหน้าเจี่ยนอันอันทันทีที่เห็นนาง“แม่นาง พวกข้าสำนึกผิดไปแล้ว แม่นางโปรดเมตตาปล่อยพวกข้าไปเถิด”บ่าวรับใช้คนอื่นๆ คุกเข่าวิงวอนขอให้เจี่ยนอันอันปล่อยตัวเองไปเช่นกันเจี่ยนอันอันแสยะยิ้มพลางว่า “มาขอร้องเอาป่านนี้ ก่อนหน้านี้มัวทำอะไรอยู่”“พวกเจ้าเป็นบ่าวรับใช้ของบ้านแม่สามีอวี้เฟิ่ง คอยช่วยพวกเขาก่อกรรมทำชั่ว”“หากข้าปล่อยพวกเจ้าไป เกรงว่าสวรรค์คงไม่ยินยอม”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 202

    พวกบ่าวรับใช้คุกเข่าดัง ‘ตุบ’“ใต้เท้าให้พวกข้าไปห้องปลดทุกข์เถิด พวกข้าจะไม่ไหวกันแล้ว”“พวกข้าจะไม่หนีแน่นอน แค่อยากปลดทุกข์ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น”พวกบ่าวรับใช้พากันอ้อนวอน ทว่าฉู่จวินสิงยังคงไม่ไหวติงตอนนี้พวกเขามีความคิดถึงขั้นว่าอยากตายเจี่ยนอันอันไม่อยากได้กลิ่นเหม็นระหว่างทานอาหารซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความอยากอาหารนางพูดกับพ่อบ้านหลิว “พ่อบ้านหลิว ท่านพาพวกเขาไปปลดทุกข์เถิด”พ่อบ้านหลิวขานตอบว่า “ขอรับ” จากนั้นลากโซ่พาพวกบ่าวรับใช้ไปปลดทุกข์พวกบ่าวรับใช้ลุกขึ้นขอบคุณเจี่ยนอันอันซ้ำไปมาเจี่ยนอันอันปัดมือด้วยความรำคาญ ไม่อยากสนใจพวกเขาอีกกระทั่งทุกคนกินข้าวกันเสร็จ พ่อบ้านหลิวถึงค่อยพาพวกบ่าวรับใช้เดินกลับมาพ่อบ้านหลิวมอบโซ่เหล็กให้ฉู่จวินสิง จากนั้นแยกตัวไปกินข้าวที่โต๊ะของบ่าวใช้คนเดียวเจี่ยนอันอันสังเกตเห็นว่าโต๊ะที่เขานั่งอยู่เหลือกับข้าวอยู่แค่นิดเดียวนางรู้สึกว่าคำแนะนำของตัวเองทำให้พ่อบ้านหลิวเสียเวลาเรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกผิด ด้วยเหตุนี้จึงซื้อเนื้อวัวเครื่องเทศชิ้นหนึ่งจากร้านค้าช่องมิติจากนั้นไปที่ห้องครัว หั่นเนื้อวัวให้เรียบร้อยแล้วยกมาให้พ่อบ้า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 203

    เจี่ยนอันอันกำลังจะพูดแต่ถูกเจี่ยนอันอันยกมือห้ามไว้“ท่านไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเข้าใจว่าหญิงชราหมายถึงอะไร ตอนนี้ข้าอยากคิดบัญชีกับนาง”ท่านปู่เฉินยังไม่รู้ว่าเมื่อคืนแม่ของจางต้าส่งคนไปสร้างปัญหาที่บ้านของเจี่ยนอันอันเช่นกันเขามองเจี่ยนอันอันเดินผ่านข้างกายด้วยความงุนงงเจี่ยนอันอันมาถึงเบื้องหน้าแม่ของจางต้าแล้วตบหน้านางเต็มแรงจนอีกฝ่ายล้มลงกับพื้นแม่ของจางต้ากุมหน้าที่บวมของตัวเองพลางถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน “เจ้ากล้าตบหน้าข้างั้นรึ ไม่มีขื่อไม่มีแปแล้วจริงๆ”“ข้าจะแจ้งที่ว่าการอำเภอ ให้นายอำเภอจับเจ้าเข้าคุก!”เจี่ยนอันอันมองลงไปที่หญิงชราแล้วแสยะยิ้มว่า “ไปแจ้งเลย จะได้ดูว่านายอำเภอจะช่วยข้าหรือว่าช่วยเจ้า”“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าส่งคนมาก่อความไม่สงบที่บ้านข้าเมื่อคืนนะ”“ตอนนี้พวกเขาถูกข้าจับไว้หมดแล้ว อยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก”แม่ของจางต้าลอบสบถในใจเมื่อได้ยินดังนี้“พวกสวะนี่ เลี้ยงมาตั้งหลายปีแต่เสียข้าวสุกกันหมด”“แค่งานง่ายๆ อย่างวางเพลิงยังทำไม่สำเร็จ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”เจี่ยนอันอันลากให้แม่ของจางต้าลุกขึ้นโดยไม่รอให้นางแก้ตัว“ไปเถอะ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status