Share

บทที่ 202

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
พวกบ่าวรับใช้คุกเข่าดัง ‘ตุบ’

“ใต้เท้าให้พวกข้าไปห้องปลดทุกข์เถิด พวกข้าจะไม่ไหวกันแล้ว”

“พวกข้าจะไม่หนีแน่นอน แค่อยากปลดทุกข์ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น”

พวกบ่าวรับใช้พากันอ้อนวอน ทว่าฉู่จวินสิงยังคงไม่ไหวติง

ตอนนี้พวกเขามีความคิดถึงขั้นว่าอยากตาย

เจี่ยนอันอันไม่อยากได้กลิ่นเหม็นระหว่างทานอาหารซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความอยากอาหาร

นางพูดกับพ่อบ้านหลิว “พ่อบ้านหลิว ท่านพาพวกเขาไปปลดทุกข์เถิด”

พ่อบ้านหลิวขานตอบว่า “ขอรับ” จากนั้นลากโซ่พาพวกบ่าวรับใช้ไปปลดทุกข์

พวกบ่าวรับใช้ลุกขึ้นขอบคุณเจี่ยนอันอันซ้ำไปมา

เจี่ยนอันอันปัดมือด้วยความรำคาญ ไม่อยากสนใจพวกเขาอีก

กระทั่งทุกคนกินข้าวกันเสร็จ พ่อบ้านหลิวถึงค่อยพาพวกบ่าวรับใช้เดินกลับมา

พ่อบ้านหลิวมอบโซ่เหล็กให้ฉู่จวินสิง จากนั้นแยกตัวไปกินข้าวที่โต๊ะของบ่าวใช้คนเดียว

เจี่ยนอันอันสังเกตเห็นว่าโต๊ะที่เขานั่งอยู่เหลือกับข้าวอยู่แค่นิดเดียว

นางรู้สึกว่าคำแนะนำของตัวเองทำให้พ่อบ้านหลิวเสียเวลา

เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกผิด ด้วยเหตุนี้จึงซื้อเนื้อวัวเครื่องเทศชิ้นหนึ่งจากร้านค้าช่องมิติ

จากนั้นไปที่ห้องครัว หั่นเนื้อวัวให้เรียบร้อยแล้วยกมาให้พ่อบ้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Liew Tatsanaviriyaporn
สนุกมาก อย่าเทกันนะจ๊ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 203

    เจี่ยนอันอันกำลังจะพูดแต่ถูกเจี่ยนอันอันยกมือห้ามไว้“ท่านไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเข้าใจว่าหญิงชราหมายถึงอะไร ตอนนี้ข้าอยากคิดบัญชีกับนาง”ท่านปู่เฉินยังไม่รู้ว่าเมื่อคืนแม่ของจางต้าส่งคนไปสร้างปัญหาที่บ้านของเจี่ยนอันอันเช่นกันเขามองเจี่ยนอันอันเดินผ่านข้างกายด้วยความงุนงงเจี่ยนอันอันมาถึงเบื้องหน้าแม่ของจางต้าแล้วตบหน้านางเต็มแรงจนอีกฝ่ายล้มลงกับพื้นแม่ของจางต้ากุมหน้าที่บวมของตัวเองพลางถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน “เจ้ากล้าตบหน้าข้างั้นรึ ไม่มีขื่อไม่มีแปแล้วจริงๆ”“ข้าจะแจ้งที่ว่าการอำเภอ ให้นายอำเภอจับเจ้าเข้าคุก!”เจี่ยนอันอันมองลงไปที่หญิงชราแล้วแสยะยิ้มว่า “ไปแจ้งเลย จะได้ดูว่านายอำเภอจะช่วยข้าหรือว่าช่วยเจ้า”“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าส่งคนมาก่อความไม่สงบที่บ้านข้าเมื่อคืนนะ”“ตอนนี้พวกเขาถูกข้าจับไว้หมดแล้ว อยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก”แม่ของจางต้าลอบสบถในใจเมื่อได้ยินดังนี้“พวกสวะนี่ เลี้ยงมาตั้งหลายปีแต่เสียข้าวสุกกันหมด”“แค่งานง่ายๆ อย่างวางเพลิงยังทำไม่สำเร็จ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”เจี่ยนอันอันลากให้แม่ของจางต้าลุกขึ้นโดยไม่รอให้นางแก้ตัว“ไปเถอะ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 204

    จนถึงตอนนี้ บ่าวรับใช้ที่ออกไปเมื่อคืนนี้ก็ยังไม่กลับมาส่วนตอนนี้ เจ้านายก็มาถูกจับ นี่ยิ่งทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีเจี่ยนอันอันหันไปถลึงตาใส่บ่าวรับใช้สามคนนั้น “ยังไม่รีบตามมาอีก อยากให้ข้าจับหรืออย่างไร!”ทั้งสามคนตัวสั่นเทิ้มกับสายตาของเจี่ยนอันอันชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยกลัวผู้ใด ทว่าสายตาของเจี่ยนอันอันกลับเย็นยะเยียบผิดปกติ ทั้งสามคนสบตากันด้วยอาการขนหัวลุก จากนั้นโยนไม้กระบองทิ้งแล้วตามเจี่ยนอันอันไปตอนแรกเจี่ยนอันอันคิดว่าจะต้องออกแรงเพื่อจัดการเรื่องนี้เสียอีกนึกไม่ถึงว่าจะแก้ไขได้รวดเร็วปานนี้นางลากร่างของแม่จางต้าขึ้นไปบนรถม้า ตามด้วยให้ฉู่จวินสิงรออยู่ที่นี่เสร็จแล้วเข้าบ้านไปดึงโซ่ที่ล่ามบ่าวรับใช้แปดคนนั้นและพาพวกเขาออกมาเหยียนเซ่าได้ยินว่าพวกนางจะไปที่ว่าการอำเภอก็ขอตามมาด้วยฉู่จวินสิงมองรถม้าแล้วพูดเสียงทุ้ม “เจ้าไม่ต้องไปหรอก รถม้าจุคนได้ไม่เยอะขนาดนั้น”“ที่ว่าการอำเภอมีพี่เซิ่งอยู่ ข้ากับอันอันจะไม่เป็นอะไร”เหยียนเซ่าขานรับแล้วไม่ได้ตามขึ้นรถม้าเจี่ยนอันอันนำเชือกมามัดบ่าวรับใช้สามคนนั้นเพิ่มรอจนพวกเขาขึ้นรถม้ากันแล้วใช้เท้าเตะบ่าวรั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 205

    เมื่อมาถึงห้องพิจารณาคดี เซิ่งฟางก็ไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้นายอำเภอเขาตบไม้เรียกสติและพูดเสียงดัง “ทุกคนในห้องโถง เหตุใดพบข้าแล้วจึงไม่คุกเข่า?”สิ้นเสียงของเซิ่งฟาง เหล่าเจ้าหน้าที่ทางการในห้องโถงก็เคาะไม้พลองน้ำไฟ[1]พวกเขาตะโกนว่า “เวย...อู่!”พวกบ่าวรับใช้หวาดกลัวจนหน้าซีดและรีบคุกเข่าพ่อของจางต้าไม่กล้าหยาบคาย รีบคุกเข่าลงเช่นกันส่วนเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงยืนนิ่งอยู่กับที่บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการไม่กล้าส่งเสียงต่อ พวกเขายืนขนาบทั้งสองด้าน สายตามองตรงไปข้างหน้าเซิ่งฟางย่อมไม่ให้พวกเขาคุกเข่าอยู่แล้ว เขาตบไม้เรียกสติอีกครั้งและพูดเสียงดังกับพ่อของจางต้า“คนในห้องโถง เจ้าทำความผิดอะไร?”เจี่ยนอันอันยังไม่ทันตอบ พ่อของจางต้าก็ชิงพูดก่อนว่า “เหตุใดสองคนนี้ไม่คุกเข่า ข้าไม่ยอม!”แม้เซิ่งฟางจะไม่รู้ว่าชายชราผู้นี้เป็นผู้ใดแต่ในเมื่อตกอยู่ในกำมือของเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิง เช่นนั้นก็ต้องกระทำความผิดอะไรแน่นอนเซิ่งฟางตวาดลั่น “บังอาจ! ที่นี่ใช่ที่ที่เจ้าจะทำตัวหยาบคายได้หรือ”“หากยังกล้าก่อความไม่สงบในห้องพิจารณาคดีอีก ข้าจะสั่งโบยเจ้าห้าสิบไม้!”พ่อของจางต้าได้ยินว่าจะถ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 206

    พ่อของจางต้าโมโหเสียจนเลือดลมพลุ่งพล่าน เขาส่งเสียง “อั่ก!” ดังขึ้น ก่อนจะกระอักเลือดออกมาหลังจากที่พ่อของจางต้ากระอักเลือดออกมาแล้ว ก็ล้มลงนอนบนพื้น จับหน้าอกแล้วส่งเสียงร้องครวญครางดังมาไม่หยุดเซิ่งฟางถามออกมา “ที่พวกเจ้าพูดออกมาทั้งหมดนั้น มีหลักฐานหรือไม่?”เด็กรับใช้ที่ทำงานมานานกว่าหนึ่งปี รีบหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อของเขาออกทันทีเขายกกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ด้วยมือทั้งสอง แล้วพูดกับเซิ่งฟาง“ท่านนายอำเภอ นี่คือเรื่องเลวร้ายที่พวกเราทำมาทั้งหมด ข้าล้วนแต่เขียนเอาไว้ในกระดาษหมดแล้ว”“ข้ากลัวก็เพียงแต่ว่าวันหน้าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ข้าจะได้มีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าตัวเองถูกเจ้านายบีบบังคับ”เซิ่งฟางเหลือบมองเจ้าหน้าที่ทางการที่ยืนอยู่ด้านข้าง เจ้าหน้าที่ทางการรีบเดินเข้ามา แล้วมอบกระดาษนั้นให้กับเซิ่งฟางเซิ่งฟางเปิดออกมา บนนั้นเขียนเอาไว้ถึงเรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่ครอบครัวของจางต้าส่งพวกเขาไปทำมาหลายปีเซิ่งฟางตบกระดาษแผ่นนั้นบนโต๊ะ แล้วพูดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“ใครก็ได้ ลากชายชรานี่ไปตัดหัวเสีย ส่วนเด็กรับใช้พวกนี้เอาไปขังคุกรับโทษเสีย”พ่อของจางต้าเมื่อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 207

    ฉู่จวินสิง “อ้อ” ดังขึ้นออกมาในตอนท้าย“หากพี่เซิ่งสะดวกพูดออกมาให้ฟังดู”เซิ่งฟางพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันมานี้เมื่อวานนี้เมื่อเขามาถึงยังที่ว่าการอำเภอ ก็แสดงหนังสืออนุมัติจากท่านเจ้าเมืองออกมาเจ้าหน้าที่ทางการต่างก็ไม่เชื่อว่าหนังสืออนุมัตินี่เป็นของจริง พวกเขาต่างก็ทยอยนำอาวุธออกมา แล้วฟาดลงมายังทางด้านเซิ่งฟางแล้วเซิ่งฟางจะทำลายพวกเขาได้อย่างไรกันหลังจากการต่อสู้กันอยู่หลายครั้ง เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นที่เดิมก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว ทั้งหมดก็ถูกเซิ่งฟางทุบตีจนล้มลงไปเซิ่งฟางเตือนพวกเขาออกมาว่า หากยังไม่ยอมเชื่อฟังอีก พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกฆ่าไปแน่แน่นอนว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ทางการย่อมมีใจไม่ยินยอม มีเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งสบถด่าเซิ่งฟางออกมาว่าเป็นคนชั้นต่ำขายเมืองเพื่อแลกความรุ่งโรจน์ของตนเมื่อเซิ่งฟางกรุ่นโกรธขึ้นมา ก็ตัดหัวเจ้าหน้าที่ทางการคนนั้นเสียเจ้าหน้าที่ทางการคนอื่นๆ เมื่อเห็นเข้า ต่างก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียววิธีการเชือดไก่ให้ลิงดูของเซิ่งฟาง ทำให้ในใจของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาเองก็เป็นเพียงแ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 208

    เมื่อเอาชนะใจของเจ้าหน้าที่ทางการเหล่านี้ได้แล้ว เรื่องต่างๆ ที่เซิ่งฟางจะทำก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมา ช่วงบ่ายของเมื่อวาน มีชาวบ้านวิ่งมาตีกลองร้องทุกข์เซิ่งฟางในฐานะที่เป็นนายอำเภอคนใหม่ แน่นอนว่าย่อมต้องตัดสินคดีความอย่างยุติธรรม ชาวบ้านเหล่านั้นเองก็ไม่คิดว่า นายอำเภอในตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเซิ่งฟางเขายังคิดว่าเซิ่งฟางจะเป็นเหมือนกันกับนายอำเภอคนเก่า ที่จะคิดค่าตัดสินคดีจากพวกเขาแต่กลับไม่คิดเลยว่า เซิ่งฟางจะไม่คิดเงินพวกเขาแม้แต่อีแปะเดียว ก็ตัดสินคดีให้พวกเขาจนเสร็จทัศนคติที่ชาวบ้านเหล่านั้นมีต่อเซิ่งฟาง ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเซิ่งฟางแล้ว เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงเองต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้มองคนผิดไปเจี่ยนอันอันพูดกับเซิ่งฟางออกมา “พี่เซิ่งทำได้ดีมาก”“คิดว่าภายหน้าชาวบ้านเหล่านี้ จะต้องค่อยๆ เปลี่ยนความเป็นศัตรูที่มีต่อท่าน”เซิ่งฟางส่ายศีรษะออกมา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ“ความโกรธแค้นที่ชาวบ้านมีต่อข้านั้นได้ฝังรากลึกแล้ว คิดอยากจะเปลี่ยนความคิดของพวกเขา เกรงว่าคงจะยากยิ่ง”เจี่ยนอันอันพูดแนะนำออกมา “เรื่องในปีนั้นเดิมก็ไม่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 209

    เจี่ยนอันอันช่วยทายาให้กับฉู่จวินสิง แล้วพันผ้าพันแผลให้นางเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าฉู่จวินสิงมองมายังนางโดยไม่หันเหสายตาไปที่ใด ในสายตายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“ท่านอย่ามองข้าเช่นนี้ มันรู้สึกแปลกๆ”เจี่ยนอันอันพูดออกมา แล้วหันหน้าไปอีกด้านหนึ่งฉู่จวินสิงจับใบหน้าของเจี่ยนอันอัน แล้วบีบบังคับให้นางมองสบสายตาของเขา“รอจนเมื่อมือของข้าหายดีแล้ว เจ้าก็สามารถกราบไว้ฟ้าดินแต่งงานกับข้าได้แล้ว”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงพูดถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ทันใดนั้นใบหน้าเล็กๆ ของนางก็แดงก่ำขึ้น“ข้ายังไม่ทันได้เตรียมพร้อมแต่งงานกับท่านเลย”เจี่ยนอันอันพูดออกมา แล้วก้มหน้าลงทว่าใบหน้าของนาง ยังคงถูกมือของฉู่จวินสิงจับเอาไว้นางจึงทำได้เพียงแค่เลื่อนสายตาไปที่อื่นในใจของฉู่จวินสิงรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่เพียงแต่พูดถึงเรื่องแต่งงานกับเจี่ยนอันอันครั้งเดียวเท่านั้นเจี่ยนอันอันมักจะใช้เหตุผลต่างๆ มาเอาชนะเขาฉู่จวินสิงพูดออกมาอย่างร้อนรนเล็กน้อย “ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ว่าเจ้าตอบตกลงข้าแล้วหรือ ว่าจะแต่งงานกับข้า”“ทำไมตอนนี้ถึงได้พูดว่ายังไม่ทันได้เตรียมพร้อมกัน?”เจี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 210

    เช้าวันถัดมาในตอนที่ตื่นขึ้น เจี่ยนอันอันก็มีรอยคล้ำใต้ตาขนาดใหญ่นางเดินออกมาจากห้อง ก็มองเห็นฉู่จวินสิงที่กำลังยืนอยู่ด้านนอก“ทำไมท่านถึงได้ตื่นขึ้นเช้าขนาดนี้?” เจี่ยนอันอันพูดขึ้น ก่อนจะหาวออกมาฟอดใหญ่นางไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน จนถึงตอนนี้ยังคงง่วงนอนมากฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ถามออกมาเสียงอ่อนโยน “เมื่อคืนนี้นอนหลับดีหรือไม่?”“ไม่ดีเลยแม้แต่น้อย” เจี่ยนอันอันมุ่ยปากออกมา แล้วเริ่มหาวออกมาอีกครั้งดวงตาของฉู่จวินสิงมาพร้อมกับรอยยิ้ม ในใจคิดว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีเขาอยู่ เจี่ยนอันอันเกรงว่าก็คงจะนอนไม่หลับและก็เป็นในเวลานี้ที่เซิ่งฟางเดินเข้ามาเขามองเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ตรงประตู ก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “ทั้งสองท่านตื่นขึ้นมาแล้ว ดีเลยไปกินมื้อเช้ากันเถิด”ในตอนที่กินอาหารกันเสร็จ เจี่ยนอันอันก็ถามเซิ่งฟางออกมาว่า เด็กรับใช้ทั้งสิบกว่าคนเหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง?เซิ่งฟางคีบอาหารเข้าปากไป เคี้ยวไปพลางพร้อมกับพูดออกมา “ข้าลงโทษโบยพวกเขาไปแปดสิบไม้”“พวกเขาแต่ละคนอดทนกันได้ยังไม่ถึงสามสิบไม้ ต่างก็พากันสิ้นลมหายใจไป”หลังจากที่ทั้งสามคนกิ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status