แก้วแหวนเงินทองด้านในวางกองเป็นภูเขาสามลูกและที่ด้านหน้าสมบัติเหล่านี้ก็มีป้ายหลุมศพป้ายหนึ่งตั้งอยู่เบื้องหน้าป้ายหลุมศพคือร่างของคนจำนวนหนึ่งที่กำลังคุกเข่าร่างของพวกเขาถูกยิงด้วยธนูหลายสิบดอกและกลายเป็นซากโครงกระดูกไปนานแล้ววินาทีที่เห็นสมบัติสามกองใหญ่ เจี่ยนอันอันพลันยิ้มกว้างออกมาทันทีรวยแล้ว!เดิมทีภายในห้วงมิติของนางก็มีสมบัติอยู่หนึ่งกอง หากรวมสมบัติพวกนี้เข้าไปด้วย เช่นนั้นอย่าว่าแต่เมืองอินเป่ยเลย นางสามารถใช้เงินซื้อได้ทั้งแคว้นไท่ยวนด้วยซ้ำข้อสันนิษฐานของนางถูกต้อง ที่นี่มีคลังสมบัติซ่อนอยู่จริงๆ ด้วย!วินาทีที่เซิ่งฟางเห็นแก้วแหวนเงินทองเหล่านี้ เขาอ้าปากกว้างจนคางแทบจะยืดถึงพื้นเขาคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีทรัพย์สมบัติมากมายขนาดนี้เซิ่งฟางอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกอยู่เนิ่นนานเขาดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองอินเป่ยมาตั้งหลายปีแต่กลับไม่รู้ว่าที่มีคลังสมบัติขนาดใหญ่ซ่อนอยู่เจี่ยนอันอันรีบสืบเท้าเดินเข้าไปและทำท่าจะเก็บสมบัติพวกนี้เข้าสู่ห้วงมิติฉู่จวินสิงเห็นดังนี้ก็รีบร้องว่า “อันอัน อย่าเพิ่งขยับ”เจี่ยนอันอันหันกลับไปมองฉู่จวินสิงด้วยความสงสัยฉู่จวินสิงเด
ฉู่จวินสิงระแวดระวังทันทีที่เห็นเจี่ยนอันอันคำนับศีรษะให้ป้ายหลุมศพเขาเอาตัวมาบังด้านหลังเจี่ยนอันอัน แววตาลุ่มลึกกวาดมองรอบด้านถ้าหากประเดี๋ยวมีลูกธนูยิงออกมาอีก เขาต้องปกป้องเจี่ยนอันอันให้ดี ห้ามให้นางถูกธนูยิงแต่ที่น่าแปลกก็คือ คราวนี้ไม่มีธนูยิงออกมาเจี่ยนอันอันเงยหน้าขึ้น พบว่าป้ายหลุมศพไม่ได้สั่นสะเทือนมันตั้งตระหง่านอยู่แน่นิ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหวเจี่ยนอันอันหันไปยิ้มให้ฉู่จวินสิง “หรือว่าข้าจะเป็นผู้มีวาสนาคนนั้น?”ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังพูด ตัวอักษรบนป้ายหลุมศพก็กลายเป็นฝุ่นผงและร่วงสู่พื้นทิ้งให้ป้ายสุสานกลายเป็นเพียงป้ายศิลาธรรมดาเจี่ยนอันอันเห็นดังนี้ก็ลุกพรวดขึ้นนางหยิบอัญมณีเม็ดหนึ่งมาเก็บในห้วงมิติยังคงไม่มีธนูยิงใส่คราวนี้เจี่ยนอันอันเบาใจลงในที่สุดนางกว้านสมบัติเข้าสู่ห้วงมิติอย่างมีความสุข ครั้นเห็นภูเขาทองคำสามลูกถูกเจี่ยนอันอันเก็บเอาไปภายในเวลาไม่นานเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าก็หันไปสบตากันโชคดีที่พวกเขาเคยได้ยินฉู่จวินสิงพูดให้ฟังมาก่อนว่าเขาได้รับถุงเฉียนคุนที่สามารถบรรจุสารพัดสิ่งมาจากผู้วิเศษ มิเช่นนั้นพวกเขาคงคิดว่าตัวเองกำลังฝันเป็
ใบหน้าของบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการต้องซีดเผือดเมื่อได้ยินดังนี้พวกเขาต่างก็รู้ถึงความร้ายกาจของเจี่ยนอันอันหลังจากที่ถูกเข็มเงินของเจี่ยนอันอันทิ่มใส่ จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังเดินไม่ได้เลยอย่าว่าแต่ขยับร่างกายครึ่งซีกไม่ได้ ตอนนี้พวกเขายังขยับร่างกายส่วนใดไม่ได้ทั้งนั้นก่อนหน้านี้นายอำเภอเห็นพวกเขามีสภาพเช่นนี้ก็ด่าว่าเป็นสวะไร้ค่าจากนั้นหมุนตัวเดินเข้าที่ว่าการอำเภอโดยไม่สนใจพวกเขาด้วยซ้ำตอนนี้พวกเขานึกย้อนเสียใจสุดๆบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการไม่อยากยืนแสดงอยู่ที่นี่ พวกเขาพากันวิงวอนว่า “ท่านจอมยุทธ์หญิง ปล่อยพวกข้าไปเถิด”“พวกข้าเพียงแต่ทำตามที่ใต้เท้าสั่ง เขาสั่งสิ่งใดมา พวกข้าก็ต้องทำตามนั้น”“ใช่ขอรับๆ พวกข้าไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับพวกท่านจริงๆ ท่านจอมยุทธ์หญิงปล่อยพวกข้าไปเถิด”เจี่ยนอันอันไม่สนใจคำวิงวอนของพวกเจ้าหน้าที่ทางการ นางเดินตรงเข้าไปในที่ว่าการอำเภอ ไม่อยากจะมองพวกเขาอีกบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการด้านในที่ว่าการอำเภอได้รับการทำแผลอย่างง่ายๆแต่ละคนมีสีหน้าตื่นตกใจเมื่อเห็นพวกเจี่ยนอันอันทั้งสี่คนพวกเขาเห็นกับตาว่าสี่คนนี้ถูกขังในกรงเหล็กไปแล้วพวกเขาออกมาได้อย่
เจี่ยนอันอันหันไปถลึงตาใส่นายอำเภอด้วยความเดือดดาล “นี่เจ้าลงมือกับซ่างชิวหนักปานนี้เชียวหรือ”“หากซ่างชิวเป็นอะไรไป ข้าจะฆ่าพวกเจ้าแล้วส่งไปอยู่กับเขาให้หมด!”นายอำเภอได้ยินว่าต้องตายตามซ่างชิวก็หวาดกลัวจนตัวสั่นอย่างหยุดไม่อยู่“จอมยุทธ์หญิงโปรดไว้ชีวิต ข้าจะไปตามหมอที่เก่งที่สุดในอำเภอมารักษาซ่างชิว โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”เจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็น “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าน้องเขยของเจ้ายังไม่ได้สติใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นก็พาข้าไปพบเขา”นายอำเภอเห็นเจี่ยนอันอันยืนกรานจะพบจางต้าให้ได้ อีกทั้งเขาก็ถูกฉู่จวินสิงจับไม่ปล่อย สุดท้ายจึงได้แต่ยอมตอบตกลงที่จะพาพวกเขาไปพบจางต้าเจี่ยนอันอันให้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าอยู่ดูแลซ่างชิวที่นี่ส่วนตัวเองกับฉู่จวินสิงคุมตัวนายอำเภอเข้าไปยังที่พักของจางต้านายอำเภอผลักประตูเดินเข้าไปด้วยขาสั่นเทิ้มครั้นมาถึงภายในห้อง เจี่ยนอันอันก็เห็นว่าจางต้ากำลังนอนหลับตาอยู่บนเตียงนายอำเภอเดินไปที่เบื้องหน้าจางต้าและชี้ไปที่เขา “เขาก็คือน้องเขยของข้า”เจี่ยนอันอันส่ายมือด้วยความรำคาญ “หลบไป”นายอำเภอไม่กล้าพูดมาก ได้แต่ยอมขยับร่างกายอ้วนตุ๊ต๊ะของตัวเองถอยไปด
นายอำเภอหวาดกลัวจนหน้าซีดหนักกว่าเดิมเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเจี่ยนอันอันดัง ‘ตุบ’“จอมยุทธ์หญิงโปรดไว้ชีวิตจางต้าด้วยเถิด หากเขาตาย ข้าคงได้ถูกอวี้เฟิ่งถลกหนังแน่”ไม่มีผู้ใดกล้าขัดอารมณ์ของอวี้เฟิ่ง แม้แต่พี่ชายอย่างเขาที่เป็นนายอำเภอก็ยังต้องยอมถอยให้หลายส่วนเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอวี้เฟิ่งจะถลกหนังนายอำเภอก็ยิ้มเยาะ “ดีสิ ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่าอวี้เฟิ่งจะถลกหนังเจ้าอย่างไร”นางว่าจบก็กระชากผมจางต้าให้เดินออกไปด้านนอกส่วนฉู่จวินสิงก็คุมตัวนายอำเภอให้เดินออกไปพวกเขากลับไปหาเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าเจี่ยนอันอันพูดกับทั้งสอง “พวกเรากลับหมู่บ้านชิงสุ่ยกันเถอะ ที่นั่นจะมีเรื่องสนุกให้รอชม”เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าไม่รู้ว่าเรื่องสนุกที่เจี่ยนอันอันพูดถึงคืออะไรทว่าเมื่อเห็นจางต้ามีสภาพจนตรอกและเห็นนายอำเภอที่หน้าซีดเผือด ทั้งสองคนก็เข้าใจโดยพลันพวกเขาหามซ่างชิวที่หมดสติแล้วเดินออกจากที่ว่าการอำเภอ บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการเห็นนายอำเภอของตัวเองจะถูกคุมตัวไปหมู่บ้านชิงสุ่ยกระนั้นกลับไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวางทั้งนั้น ได้แต่มองพวกเขาเดินออกจากที่ว่าการอำเภอตาปริบๆเมื่อมาถึงหน้ารถม้า เจ
ชาวบ้านที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินตามหลังรถม้าไปพวกเขาอยากเห็นว่าพวกเจี่ยนอันอันกำลังจะทำอะไรกันแน่รถม้ามาหยุดจอดที่หน้าบ้านซ่างชิวเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าลงจากรถม้าแล้วช่วยกันหามซ่างชิวเข้าไปในบ้านเจี่ยนอันอันให้ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอกเพื่อเฝ้านายอำเภอกับจางต้านางพูดกับเซิ่งฟางและเหยียนเซ่าว่า “ไม่ว่าผู้ใดมาก็ห้ามให้เข้าไปในบ้านทั้งนั้น”เจี่ยนอันอันลงจากรถม้าแล้วเข้าไปในบ้านของซ่างชิวฉู่จวินสิงตามเข้าไปเช่นกัน เจี่ยนอันอันไม่ได้ห้ามปรามอะไรเมื่อมาถึงหน้าเตียงอุ่น เจี่ยนอันอันก็ทำการจับชีพจรให้กับซ่างชิวแม้เขาจะใช้ยาสำหรับรักษาอาการเลือดออกภายในไปแล้ว แต่ฤทธิ์ยาแค่นั้นไม่อาจทำให้ซ่างชิวฟื้นตัวโดยไวเจี่ยนอันอันรีบนำยาเฉพาะทางจากคลังยาในห้วงมิติออกมาฉีดเข้าเส้นเลือดของซ่างชิวจากนั้นช่วยทำแผลบริเวณศีรษะให้กับเขาครั้นทายาสำหรับบาดแผลภายนอกเสร็จก็พันแผลให้ยาเฉพาะทางออกฤทธิ์เร็วมาก หลังจากที่ฉีดให้หนึ่งขวด ซ่างชิวก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสติเขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงอุ่นที่บ้านตัวเอง ข้างกายมีเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงคอยเฝ้าอยู่ซ่างชิวมีสีหน้าสับสน “ไม่ใช่ว่า
บรรดาชาวบ้านสังเกตเห็นว่านายอำเภอมีท่าทีตื่นตระหนก เกรงว่าคงไม่ได้ถูกคนเหล่านี้เชิญตัวมา แต่ถูกจับมามากกว่าเรื่องนี้ทำให้บรรดาชาวบ้านยิ่งสงสัยหนักกว่าเดิม พวกเขาจับนายอำเภอมาทำอะไร?ตอนนี้มีชาวบ้านวิ่งไปแจ้งข่าวที่บ้านแม่สามีของอวี้เฟิ่งแล้วไม่นานอวี้เฟิ่งก็พาบ่าวรับใช้จำนวนหนึ่งเร่งร้อนเดินทางมาที่นี่สีหน้าของนางเปลี่ยนไปโดยพลันเมื่อเห็นจางต้าอยู่บนรถม้าในสภาพจนตรอก“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน ผู้ใดทำร้ายท่านเช่นนี้ บอกข้ามา ข้าจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด!”ความสนใจของเฟิ่งอวี้อยู่ที่จางต้าทั้งหมดนางไม่เห็นว่าเจี่ยนอันอันยืนอยู่หน้าบ้านซ่างชิวอวี้เฟิ่งพูดจบก็เหลือบไปเห็นนายอำเภอผู้เป็นพี่ใหญ่นางเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับชี้หน้าด่านายอำเภอ “เจ้าหมูโง่นี่ เจ้าเป็นคนทำร้ายสามีข้าจนมีสภาพนี้ใช่หรือไม่”“ไสหัวลงจากรถม้าแล้วมาคุยกันเสียดีๆ”เมื่อนายอำเภอเห็นอวี้เฟิ่ง เขาพลันมีอาการเหมือนหนูที่เจอแมวนายอำเภอก้มหน้าอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นานแต่ก็อธิบายเหตุผลอะไรไม่ได้ ตอนนี้เขากล้าพูดอะไรที่ใดกัน ผู้ที่จับเขามาที่นี่กำลังรอดูอยู่ว่าเขาจะถูกถลกหนังอย่างไรหากเขาพูดอะไรที่ทำให้อวี้เฟิ่งโมโห คร
อวี้เฟิ่งรีบร้องว่า “ท่านพี่ ท่านพูดอะไรบ้างสิ รีบขอร้องให้นางปล่อยตัวท่านสิ”จางต้าเผยอปากแต่กลับไม่มีเสียงใดๆ เปล่งออกมาผมของเขาจะถูกเจี่ยนอันอันกระชากจนร่วงหมดแล้วเวลานี้ใบหน้าของเขามีน้ำตาและน้ำมูกไหลมากองกันเขาเองก็อยากร้องขอความเมตตาเช่นกัน ติดก็แต่ทำไม่ได้!จังหวะนี้เอง ท่านปู่เฉินซึ่งได้รับแจ้งข่าวจากชาวบ้านเร่งร้อนเดินเข้ามา“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”บรรดาชาวบ้านเห็นท่านปู่เฉินมาถึงก็รีบเปิดทางให้เขาครั้นท่านปู่เฉินเดินมาถึงหน้ารถม้าก็เห็นเจี่ยนอันอันกระชากผมจางต้าไม่ยอมปล่อยขณะที่อวี้เฟิ่งกับบรรดาบ่าวรับใช้ของนางได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ตรงนั้นท่านปู่เฉินไม่รู้เรื่องที่ซ่างชิวถูกจับ เขาจึงเข้าใจไปว่าเจี่ยนอันอันมีเรื่องบาดหมางกับอวี้เฟิ่งและบ้านแม่สามีของนางอีกแล้วภายในใจเขากลัดกลุ้มขึ้นมาโดยพลันเขารู้ว่าอวี้เฟิ่งกับบ้านแม่สามีของนางต่างก็อวดดีและใช้อำนาจบาตรใหญ่กันมากแต่บรรดาชาวบ้านล้วนแต่พยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีปัญหากับพวกนางมาโดยตลอดเพราะถึงอย่างไรแล้วทุกคนก็ต้องพึ่งพาเสบียงอาหารจากบ้านแม่สามีอวี้เฟิ่งอยู่นับจากที่พวกเจี่ยนอันอันมาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ย ที่นี่ก็
ยิ่งไปกว่านั้น ที่พวกเขายอมตอบตกลงที่จะไปตามหาคลังสมบัติด้วยกันก็เกิดจากความละโมบของพวกเขาเองหากไม่ใช่เพราะคนผู้นั้นเริ่มสังหารเฉียวว่านหลินก่อน พวกเขาก็คงไม่สู้กันในช่องทางลับไม่ต้องมาตายอยู่ในนั้นโดยที่ยังหาคลังสมบัติไม่เจอท่านปู่เฉินมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด และก็ด้วยเหตุนี้เช่นกัน เขาถึงได้ต้องจมอยู่กับความทรมานทุกวันขณะที่ท่านปู่เฉินกำลังคิดว่าจะแก้ตัวอย่างไร เจี่ยนอันอันก็พูดว่า “มาถึงขั้นนี้ ข้าว่าท่านอย่าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านอีกเลย”ท่านปู่เฉินเงยหน้าขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อเขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านชิงสุ่ยมาหลายสิบปี จะต้องมาถูกปลดออกจากตำแหน่งทั้งอย่างนี้หรือ?“แม่นางเจี่ยน ข้าขอโอกาสไถ่โทษสักครั้งได้หรือไม่?”“ข้ายินดีมอบเงินออมทั้งหมดให้ภรรยาและลูกชายของเฉียวว่านหลิน”สิ่งที่เขาพอจะทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่นี้ในบรรดาสี่คนนั้น มีแค่เฉียวว่านหลินที่มีลูกและภรรยา ส่วนอีกสามคนเป็นพวกกล้าตายถึงแม้จะตายไปก็ไม่มีผู้ใดช่วยเก็บศพ เจี่ยนอันอันมองว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางมากนักนางเป็นแค่คนที่ถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่ หากบีบให้ท่านป
เมื่อสามปีก่อน ท่านปู่เฉินได้รู้ว่าเมืองอินเป่ยมีคลังสมบัติจากปากของเฉินหย่งเหนียนเหตุสังหารหมู่เมื่อตอนนั้นเกิดขึ้นเพราะคลังสมบัตินี้เช่นกันแต่พวกคนของราชวงศ์ไม่พบตำแหน่งของคลังสมบัติแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้จึงเปิดฉากสังหารอย่างโจ่งแจ้งบรรดาผู้ที่สังหารหมู่ทำการสังหารคนชรา คนป่วยและคนพิการทิ้งทั้งหมดเหลือไว้เพียงคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อนี้คนในหมู่บ้านชิงสุ่ยต้องใช้ชีวิตแบบอดมื้อกินมื้อหลังจากที่ท่านปู่เฉินได้ยินเรื่องคลังสมบัติในเมืองอินเป่ย เขาก็เกิดความคิดที่จะตามหามันแต่ลำพังแค่เขาเพียงคนเดียวคงไม่มีทางเจอตำแหน่งของคลังสมบัติเพราะขนาดคนของราชวงศ์ก็ยังหาไม่เจอ เช่นนั้นตัวเขาที่เป็นแค่หัวหน้าหมู่บ้านชิงสุ่ยจะหาเจอได้อย่างไรด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้มีการรวบรวมคนจำนวนหนึ่งเพื่อไปตามหาที่ตั้งของคลังสมบัติด้วยกันหากเจอคลังสมบัติจริงๆ เขาก็สามารถใช้เงินพวกนั้นมาช่วยให้หมู่บ้านชิงสุ่ยผ่านพ้นจากวิกฤตและพวกชาวบ้านก็จะได้ไม่ต้องทนถูกครอบครัวของจางต้ากลั่นแกล้งอีกต่อไปเดิมทีแล้วเขามีเจตนาที่ดี แต่นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นการทำร้ายเฉียวว่านหลินตอนนั้นพวกเขาห้าคนช่วยกันตา
ลูกเตะทลายเมฆาของฉู่จวินสิงไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะรับมือได้ท่านปู่เฉินเห็นดังนี้ก็หมุนตัวหลบเท้าของฉู่จวินสิงเตะถูกต้นไม้ด้านหลัง ลำต้นส่ายไหวอย่างรุนแรงหลายครั้งและเกือบถูกถอนออกทั้งราก“แม่นางเจี่ยน นี่พวกท่านหมายความว่าอย่างไรกัน ช่วยอธิบายให้กระจ่างได้หรือไม่?”ท่านปู่เฉินไม่อยากเป็นศัตรูกับพวกเขามาตั้งแต่แรก ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ลงมือต่อสู้กับฉู่จวินสิงทว่าภาพที่เขาหลบการโจมตีของฉู่จวินสิงได้อย่างคล่องแคล่วปราดเปรียวล้วนตกอยู่ในสายตาของเจี่ยนอันอันลูกเตะของฉู่จวินสิงรวดเร็วมาก หากเป็นคนธรรมดาก็ไม่มีทางที่จะหลบพ้น แต่นี่ท่านปู่เฉินกลับหลบได้อย่างว่องไว เรื่องนี้พิสูจน์ว่าศิลปะการต่อสู้ของเขาไม่ได้อ่อนแอ นางพูดกับฉู่จวินสิงว่า “ท่านพี่ พอแล้วเจ้าค่ะ”ฉู่จวินสิงกลับไปยืนข้างเจี่ยนอันอันและมองนางอย่างไม่เข้าใจเช่นกันเจี่ยนอันอันยิ้มว่า “ท่านปู่เฉิน ท่านไม่ได้อ่อนแอแบบที่เห็น”“ท่านเก็บซ่อนศิลปะการต่อสู้ของตัวเองมาโดยตลอด ข้าคิดว่าท่านเป็นคนธรรมดาเหมือนชาวบ้านคนอื่นๆ เสียอีก”ท่านปู่เฉินคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะทำแบบนี้เพื่อดูว่าเขามีศิลปะการต่อสู้หรือไม่หากเขาไม่มีศิ
ฉู่จวินสิงถือโอกาสกดตัวไปข้างหน้าและจุมพิตนับครั้งไม่ถ้วนลงที่ใบหน้าของเจี่ยนอันอัน ในตอนนี้เอง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียงของสี่เอ๋อร์ดังเข้ามา “นายน้อยรอง ฮูหยินน้อยรอง อาหารเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”เจี่ยนอันอันรีบผลักฉู่จวินสิงออก นางสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งออกไปโชคดีว่าสี่เอ๋อร์มาเคาะประตูได้ถูกเวลามาก มิเช่นนั้นประเดี๋ยวนางคงได้กลายเป็นขนมแป้งทอดที่ถูกฉู่จวินสิงพลิกไปมามุมปากของฉู่จวินสิงมีรอยยิ้มประดับ เขาสวมเสื้อผ้าแล้วตามออกไปเช่นกัน หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็เรียกฉู่จื่อซีมาคุยด้วยนางยังไม่ลืมเรื่องที่จะส่งนกพิราบสื่อสารสองตัวไปให้เซิ่งฟาง “อาสะใภ้รอง ท่านมีธุระอะไรกับข้าหรือขอรับ?”ฉู่จือซีกะพริบดวงตาคู่โตของตัวเองเงยหน้ามองเจี่ยนอันอัน เจี่ยนอันอันลูบศีรษะน้อยๆ ของเขาพลางยิ้มว่า “จื่อซีช่วยเรียกนกพิราบมาให้สักสองตัวได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องต้องใช้งาน”ฉู่จื่อซีว่ามีเรื่องที่จะได้ใช้ความสามารถของตัวเองในที่สุดก็วิ่งออกไปด้วยรอยยิ้มทันทีไม่นาน บนบ่าของเขาก็มีนกพิราบสีขาวกับสีเทาบินมาเกาะฉู่จื่อซีพานกพิราบกลับมาหาเจี่ยนอันอัน “อาสะ
สี่เอ๋อร์เห็นเจี่ยนอันอันกลับมาก็วิ่งไปทำอาหารที่ห้องครัวอย่างมีความสุขนางเองก็เป็นห่วงมานานเช่นกัน ตอนนี้สามารถเบาใจลงในที่สุดสี่เอ๋อร์กับสาวใช้อีกสองคนทำอาหารเสร็จแล้วยกออกมาวางบนโต๊ะในลานบ้าน ทั้งครอบครัวนั่งทานอาหารร่วมกัน ฮูหยินใหญ่ถามเจี่ยนอันอันว่าสองวันนี้ไปพบเรื่องราวอะไรมาบ้างเจี่ยนอันอันเล่าเรื่องราวให้ฟังอย่างง่ายๆ ทุกคนฟังแล้วอกสั่นขวัญหายนึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะถูกเจ้าคนที่มีนามว่ากู้มั่วหลีจับตัวไปหากนางไม่ได้หนีออกมาจากห้องลับนั่นจะทำอย่างไร?ไม่แน่ว่าเมื่อได้พบกันอีกครั้ง นางจะกลายเป็นศพไปแล้วฮูหยินใหญ่ยิ่งเป็นห่วงเจี่ยนอันอันหนักกว่าเดิมเมื่อคิดถึงตรงนี้นางดึงมือเจี่ยนอันอันมาจับพลางพูดด้วยความเป็นห่วง “อันอัน ต่อไปอย่าอยู่ห่างจากจวินสิงอีก”“ข้ากลัวว่าคนผู้นั้นจะลงมือต่อเจ้าซ้ำสอง”เจี่ยนอันอันส่งรอยยิ้มปลอบประโลมให้ฮูหยินใหญ่ “ท่านแม่วางใจเถิด ข้ารู้ว่าควรทำอย่างไรเจ้าค่ะ”เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉู่จวินสิงตัดสินใจอะไรบางอย่างได้เช่นกันไม่ว่าต่อไปนี้เจี่ยนอันอันจะไปที่ใด เขาก็จะไม่อยู่ห่างแม้แต่ครึ่งก้าวหลังจากกินข้าวเสร็จ เจี่ยนอันอันก็กลับเ
“พี่รอง พี่สะใภ้รอง ในที่สุดก็หาพวกท่านเจอ” ฉู่อันเจ๋อวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจเมื่อวานนี้ฉู่จวินสิงออกมาตามหา แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะพาเจี่ยนอันอันกลับมาเสียทีคนที่บ้านต่างเป็นกังวล ฮูหยินใหญ่จึงให้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าออกมาตามหาเหยียนเซ่าทำความเคารพเมื่อมาถึงเบื้องหน้าฉู่จวินสิง“นายน้อย ข้ากับนายน้อยอันเจ๋อตามหาพวกท่านมาตลอดทั้งสาย”เจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าการออกมาข้างนอกครั้งหนึ่งของตัวเองจะทำให้คนเป็นห่วงมากมายขนาดนี้นางส่งยิ้มให้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าด้วยความขอโทษแต่ไม่ได้พูดอะไรฉู่จวินสิงถามว่า “ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านใช่หรือไม่?”เหยียนเซ่าตอบด้วยความเคารพ “ที่บ้านไม่ได้มีเรื่องอะไรขอรับ เพียงแต่กำลังรอให้พวกท่านกลับไปอยู่”เจี่ยนอันอันเห็นว่าทั้งสองคนเดินเท้ามา เกรงว่าคงเหนื่อยจากการเดินนางรีบร้อนที่จะตามหารถม้าของบ้านตัวเองมากขึ้นฉู่จวินสิงเดินออกมาด้วยกันกับนาง ไม่ได้จูงรถม้าของบ้านเสิ่นจือเจิ้งออกมาด้วยเมื่อนึกได้ว่ารถม้าคันนั้นยังจอดอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอนางก็ให้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าไปที่ที่ว่าการอำเภอเพื่อจูงรถม้าของบ้านเสิ่นจือเจิ้งมาก หลังจากที
เมื่อครู่นี้เขาวิ่งออกไปตักน้ำจากบ่อที่ที่ลานวัดร้างมาราดใส่ตัวน้ำบ่อเย็นยะเยียบทำให้เขาตัวสั่นเทิ้มด้วยความหนาวหลังจากราดน้ำใส่ไปหลายถัง สิ่งสกปรกบนใบหน้าเขาก็ถูกล้างสะอาดในที่สุดมุมปากของเจี่ยนอันอันกระตุกอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อเห็นเฉียวอี้กลับมาในสภาพตัวเปียกโชก นี่เขาไม่ถอดเสื้อผ้าเวลาอาบน้ำหรือ?เฉียวอี้ไม่สนใจแม้แต่น้อย เขาเคยชินกับการล้างตัวแบบนี้มานานแล้วเจี่ยนอันอันพูดว่า “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถิด ข้าจะดูว่าร่างกายเจ้ามีการติดเชื้อเป็นบริเวณกว้างหรือไม่”เฉียวอี้มองแม่ของตัวเองปราดหนึ่ง เห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้ เขาถอดเสื้อผ้าออกด้วยใบหน้าแดงก่ำ เหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในโชคดีว่าบริเวณที่ติดเชื้อของเฉียวอี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่บริเวณหลังไปถึงลำคอมีพื้นขนาดใหญ่ที่แสดงถึงการเป็นหนองเจี่ยนอันอันนำกระเป๋าเข็มออกมาแล้วพูดกับเฉียวอี้ “ข้าจะทำการฝังเข็มที่หลังเจ้า ทนเจ็บหน่อยนะ”เฉียวอี้ได้ยินว่าจะฝังเข็มให้ก็กัดฟันทันที “ข้าทนได้ ท่านลงมือเถิด”ขอเพียงรักษาโรคเรื้อนได้ เขาจะไม่กลัวการถูกฝังเข็มเจี่ยนอันอันฝังเข็มสิบกว่าเล่มลงที่หลังและคอของเฉียวอี้เฉียวอี้หน้าตาบ
นางไม่ได้ถามออกไป เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ ว่า “ท่านปู่เฉินสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแม้แต่น้อย”“เหอะ…” เฉียวซื่อหัวเราะเสียงเย็นอีกครั้ง “ตัวเขาสุขสบายดีแต่กลับทำร้ายสามีของข้า”มือทั้งสองข้างของนางกำแน่นเป็นหมัด ปากกัดริมฝีปากล่างแน่น แววตาเปี่ยมด้วยความเกลียดชังเจี่ยนอันสงสัยหนักเข้าไปอีก สามีของเฉียวซื่อไปรู้จักกับท่านปู่เฉินได้อย่างไร?เจี่ยนอันอันถามด้วยความสงสัย “บอกข้าได้หรือไม่ว่าระหว่างสามีของท่านกับท่านปู่เฉินมีความแค้นอะไรกัน?”เฉียวซื่อกัดฟันแน่นก่อนจะเล่าเรื่องของสามีออกมาในที่สุดสามีของนางเฉียวมีนามว่าเฉียวว่านหลิน เปิดร้านตีเหล็กแห่งหนึ่งในอำเภอไถหยางแม้ฐานะครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง เมื่อสามปีก่อน ท่านปู่เฉินจากหมู่บ้านชิงสุ่ยได้มาซื้อเครื่องมือเหล็กที่อำเภอไถหยางและได้พบกับร้านของสกุลเฉียวการได้พูดคุยกันทำให้ทั้งสองคนค่อยๆ สนิทกันมากขึ้นท่านปู่เฉินบอกว่าเขาต้องการสร้างอาวุธที่เข้ามือเขาต้องการไปตามหาคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ยเฉียวว่านหลินเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ยเช่นกันแต่เขามองว่ามันเป
เจี่ยนอันอันรู้ว่าเฉียวอี้กังวลเรื่องอะไรแต่เพื่อรักษาอาการป่วยของเฉียวอี้ไม่ให้แพร่กระจายสู่คนอื่นต่อ นางจำเป็นต้องทำแบบนี้“เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าเพียงแต่รักษาอาการป่วยของเจ้า ไม่ได้จะทำอันตราย”คำพูดของเจี่ยนอันอันเป็นดังเสียงวิเศษที่ทำให้เฉียวอี้ซึ่งเป็นกังวลค่อยๆ ผ่อนคลายลงเฉียวอี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะอย่างเขินอายว่า “เนื้อตัวข้าสกปรก ให้ข้าไปล้างตัวก่อนค่อยรักษาดีกว่า”เขาว่าจบก็วิ่งออกไป ฉู่จวินสิงตามออกจากวัดร้างเช่นกันหลังจากที่ทั้งสองคนจากไป เจี่ยนอันอันก็ได้ยินเฉียวซื่อร้องเรียกมาจากห้องด้านหลัง“แม่นาง ท่านช่วยมาที่นี่สักครู่ได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเลิกม่านประตูเดินเข้าไปพบว่าเฉียวซื่อได้ลุกขึ้นนั่ง สีหน้าแสดงความซับซ้อน“มีอะไรหรือ ไม่สบายที่ใดหรือ?”เจี่ยนอันอันถามแล้วก็จะจับชีพจรให้เฉียวซื่อเฉียวซื่อส่ายหน้ายิ้ม “ข้ามองออกว่าแม่นางเป็นคนดี ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าสมควรที่ต้องตอบแทน”“เมื่อครู่นี้ข้าตัดสินใจได้แล้ว ข้าไม่คิดที่จะเก็บหยกพกชิ้นนั้นไว้ ขอมอบให้ท่านดีกว่า”เฉียวซื่อพยายามลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบากก่อนจะเดินกะเผลกออกไปเจี่ยนอันอันไม่เข้าใ