Share

บทที่ 118

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ทว่าแม้แต่ฉู่จวินหลุนในตอนนี้เองก็ยังคิดไม่ออกว่าท้ายที่สุดแล้วใครกันที่จะเป็นวางยาให้กับฉู่จื่อซี

นอกจากนี้แล้ว พวกเขาตอนนี้ยังอยู่ในเมืองอินเป่ย บวกกับไม่อาจตามหาคนวางยาพิษคนนั้นได้

เจี่ยนอันอันก็เป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย ภายในคลังยาในห้วงมิติของนาง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นยาตะวันตกและยาสิทธิบัตรจีน

หากจะแก้พิษในร่างกายของฉู่จื่อซี จะต้องใช้วัสดุยาที่หายากถึงจะถูก

นางต้องการวัสดุยา ทว่าตอนนี้ไม่มีวัสดุยาที่จะขุดขึ้นมาได้

เจี่ยนอันอันมองไปยังร้านค้าอีกครั้ง และก็ไม่อาจหาวัสดุยาที่จะนำมาแก้พิษได้

และในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังเป็นกังวลอยู่นั้น เบื้องหน้าของนางก็ปรากฏภารกิจห้วงมิติใหม่ขึ้นมา

[จูบฉู่จวินสิง ก็จะได้คลังวัสดุยา ด้านในมีวัสดุยาหายากเป็นจำนวนมาก]

ในตอนที่เจี่ยนอันอันมองเห็นภารกิจของห้วงมิตินี้นั้น มุมปากก็อดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้

ห้วงมิตินี้กำลังล้อนางเล่นหรืออย่างนั้น?

ทำไมถึงได้ให้นางทำภารกิจเช่นนี้ จะไม่อาจมอบภารกิจที่ปกติเสียหน่อยให้นางอย่างนั้นหรือ?

ความคิดของเจี่ยนอันอันเพิ่งจะเกิดขึ้น ก็มองเห็นภารกิจของห้วงมิติแสดงข้อความใหม่ขึ้นมา

[ภารกิจทั่วไปดูจะไม่มีความหมายจนเ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 119

    เมื่อถูกเจี่ยนอันอันพูดออกมาเช่นนี้ ฟางอิ๋งก็ตื่นตกใจเสียนใบหน้าซีดขาว นางอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยกลับไปก้าวหนึ่ง“เจ้าหมายความว่า เดิมทีคนที่ถูกวางยาพิษ ควรจะเป็นข้า เป็นข้าที่ทำให้จื่อซีกลายเป็นแบบนี้?”เมื่อคิดว่าฉู่จื่อซีที่ถูกวางยาพิษนั้น สี่ปีมานี้ไม่อาจจะได้ยินเสียงและไม่อาจพูดได้ที่แท้ผู้ร้ายตัวจริง กลับกลายเป็นนาง!ทันใดนั้นจมูกก็แสบร้อนขึ้นมา กอดร่างกายเล็กๆ ของฉู่จื่อซีเอาไว้ ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดเสียงร้องของนางดึงดูดให้สมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูล พวกเขาต่างก็หันมามองยังฟางอิ๋งอย่างไม่เข้าใจ“เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ทำไมถึงได้ร้องไห้ออกมาแบบนี้กัน?” ฮูหยินใหญ่มายังเบื้องหน้าของทั้งสามคนอย่างปวดใจเล็กน้อยฮูหยินรองเองก็มองไปยังฟางอิ๋งด้วยใบหน้าเป็นกังวล ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ร้องไห้ออกมาจนกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ฉู่จวินหลุนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในลานดังขึ้น ก็เรียกให้เด็กรับใช้แบกเขาออกมาฉู่จื่อซีเมื่อเห็นว่าแม่ของเขาร้องไห้ เขาก็รีบเอื้อมมือเล็กๆ ออกมาเช็ดน้ำตาให้กับฟางอิ๋งเจี่ยนอันอันเหลือบมองสมาชิกในตระกูลที่อยู่รอบๆ นางรู้สึกว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องบอกกับทุกคนนางให้ฉ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 120

    นางรู้ว่าฉู่จวินหลุนไม่ชอบฉู่ชางเหยียนเพื่อไม่ให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน นางก็เลยหยิบชาขึ้นมาดื่มแทนเหล้าฉู่ชางเหยียนในตอนนั้นเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีแปลกประหลาดใดออกมาหลังจากที่เขาดื่มชาไปแล้วก็ไม่ได้รั้งอยู่นาน ลุกขึ้นออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มในตอนนั้นที่ฉู่จวินหลุนและฟางอิ๋งทั้งสองคนก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นอีกเพราะอย่างไรแล้วเมื่ออยู่ในจวนจิ้นอ๋อง ฉู่ชางเหยียนคิดจะทำร้ายพวกเขา เขาเองก็ต้องชั่งน้ำหนักความสารชมารถของตนเองหลังจากที่ฉู่จวินหลุนพูดเรื่องในปีนั้นออกมา เหล่าสมาชิกในตระกูบที่อยู่ที่นั่นทุกคนต่างก็เข้าใจกันขึ้นมาจะต้องเป็นฉู่ชางเหยียนที่ลอบวางยาเอาไว้ในน้ำชาเขาจะต้องคิดอยากจะฆ่าฉู่จวินหลุนแน่!เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็จะสามารถแย่งชิงบัลลังก์ฮ่องเต้ได้อย่างสบายใจหลังจากที่เจี่ยนอันอันได้ยินแล้ว ก็ถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ “ในเมื่อเขาคิดอยากจะทำร้ายพวกเจ้า ทำไมถึงได้วางยาที่แพร่กระจายได้ช้าเช่นนี้มาทำร้ายพี่สะใภ้ใหญ่กัน?”ฟางอิ๋งในตอนนี้ น้ำตาก็หยุดไหลลงแล้วนางใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะพูดออกมา “ถ้วยชาในตอนนั้น เดิมทีเพื่อให้ฉู่จวินหลุนดื่ม ทว่าในตอนน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 121

    เจี่ยนอันอันหันไปมองยังฉู่จวินสิง ก็พบใบหน้าเศร้าสร้อยของเขา ในใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่รู้สาเหตุนางพึมพำออกมา “ที่จริงแล้ว วัตถุดิบเหล่านี้อยากจะได้มาก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป เพียงแต่ต้องการให้ท่านร่วมมือด้วย”ฉู่จวินสิงเมื่อได้ยิน ในตาก็เผยร่องรอยแห่งความหวังออกมาเขาคว้ามือของเจี่ยนอันอันเอาไว้ “ต้องให้ข้าร่วมมืออย่างไร เจ้ารีบบอกออกมาก็พอแล้ว”เจี่ยนอันอันคิดจะดึงมือกลับมา แต่เมื่อคิดถึงภารกิจของห้วงมิตินั้น นางก็ล้มเลิกความตั้งใจไปเมื่อรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของฉู่จวินสิง ก็สูดลมหายใจเข้าลึกในที่สุดก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมา “ขอเพียงแค่สามารถจูบกับท่าน ข้าก็จะสามารถได้รับคลังวัสดุยา ที่นั่นมีวัตถุดิบยาที่จะช่วยแก้พิษได้”ฉู่จวินสิงมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยสายตาลึกซึ้ง นานกว่าเขาจะพ่นออกมาสี่คำ“ข้าเข้าใจแล้ว”เจี่ยนอันอันไม่รู้ว่าฉู่จวินสิงหมายความว่าอย่างไร เขาเห็นด้วยแล้วหรือว่าจะไม่เห็นด้วยกัน?เมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก มีเพียงแค่สายตาที่จับจ้องเขม็งมายังตนเองเท่านั้นใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็แดงก่ำไปจนทั่วนางรีบพยายามจะดึงมือกล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 122

    เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันวิ่งออกไปด้วยความตื่นตระหนก มุมปากของฉู่จวินสิงก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน่ามองความอบอุ่นบนริมฝีปากยังคงหลงเหลืออยู่ ฉู่จวินสิงยกมือขึ้น ไล้ไปยังริมฝีปากของตนเองเขาไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แต่ความรู้สึกนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เลวเลยเจี่ยนอันอันวิ่งออกไปยังลานบ้าน แก้มของนางเห่อร้อนขึ้น หัวใจก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่งนางนั่งอยู่ในลานบ้าน ใช้มือพัดให้ตนเองเพียงแค่อยากลบภาพฉากเมื่อครู่นี้ให้หายออกไปจากสมองจนหมดสิ้นโชคดีที่ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถทำภารกิจของห้วงมิติได้สำเร็จ และก็สามารถเลือกวัสดุยาที่ช่วยฉู่จื่อซีแก้พิษได้และก็เป็นในตอนที่เจี่ยนอันอันเลือกวัสดุยาอยู่นั้น ซ่างชิวที่ทำงานอยู่ด้านหลังเรือนอยู่ตลอดเวลาก็เดินเข้ามา“แม่นาง น้ำที่พวกเราเอามาไม่เพียงพอใช้ ข้าอยากจะกลับไปเอาน้ำมาอีกสักสองถัง”เจี่ยนอันอันไม่ได้ห้ามเอาไว้ ปล่อยให้ซ่างชิวกลับไปตักน้ำมาซ่างชิวกลับไม่ได้ตักน้ำในเรือนนี้ แต่กลับไปยังบ้านของตนเองไม่นานนัก เขาก็เลือกถังน้ำมาสองถังแล้วย้อนกลับมาเจี่ยนอันอันเองก็อยากรู้ว่าพวกเขาทำงานกันอย่างไรบ้างนางเดินไปยังด้านหลังเรือน ก็พบว่าด้านหลังเรือนนั้น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 123

    เจี่ยนอันกลอกตา หลังจากที่นางหรี่ไฟเตาหลอมยาแล้ว ก็เดินมายังเบื้องหน้าของฉู่จวินสิงนางถลึงตาใส่ฉู่จวินสิงอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “นี่ ท่านคิดจะทำอะไรกัน? ที่นี่มีผู้ชายอยู่ตั้งมากมาย ท่านไม่ยอมให้เขาพาไปให้ปลดทุกข์ ทำไมจะต้องเป็นข้าด้วย?”ฉู่จวินสิงไม่ได้โมโหเพราะว่าคำพูดของเจี่ยนอันอัน มุมปากกลับยกเป็นรอยยิ้มขึ้นมาเจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงยังคงยิ้มออกมา นางคิดอยากจะเหวี่ยงหมัดต่อยเขากลับไปบนเตียงจริงๆฉู่จวินสิงเก็บรอยยิ้ม แล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง “ข้าไม่ชอบชอบแตะต้องผู้อื่นมาโดยตลอด แม้แต่จะเป็นฉู่อันเจ๋อก็ไม่ได้”เจี่ยนอันอันโมโหเสียจนอยากจะกระอักเลือดออกมาอะไรที่เรียกว่าไม่ชอบให้ผู้อื่นแตะต้องกัน ตลอดทางมานี้ ฉู่อันเจ๋อแบกเขามาไม่น้อยและเมื่อวานนี้เขายังให้ฉู่อันเจ๋อประคองเขาออกมาจากบ้านในขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังจะพูดคำในใจ กลับพบว่าฉู่จวินสิงพูดออกมาด้วยใบหน้าร้อนรน “ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว รีบพาข้าไปปลดทุกข์เถอะ”เจี่ยนอันอันถูกฉู่จวินสิงทำให้พ่ายแพ้ไปนางใช้แขนข้างหนึ่งประคองฉู่จวินสิงมาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก ก่อนจะคล้องลงบนไหล่ของตนเองทั้งสองคนเดินมุ่งตรงไปยังห้องปลดทุกข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 124

    “ข้าเข้าไปได้หรือไม่?” เจี่ยนอันอันเคาะประตูห้อง ไม่นานนักด้านในก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นฟางอิ๋งเปิดประตู ก็มองเห็นในมือของเจี่ยนอันอันประคองชามยาเอาไว้ ยืนอยู่ตรงหน้าประตูนางรีบเชิญเจี่ยนอันอันเข้ามาในห้องตอนนี้ฉู่จวินหลุนกำลังนั่งอยู่บนเตียง เล่นอยู่กับฉู่จื่อซีทั้งสองคนเมื่อเห็นว่าเป็นเจี่ยนอันอันที่เข้ามา ก็หยุดเล่นลงเจี่ยนอันพยักหน้าให้กับฉู่จวินหลุน ก่อนจะส่งชามยาให้กับฟางอิ๋ง“พี่สะใภ้ใหญ่ นี่เป็นยาแก้พิษของจื่อซี ท่านให้เขาดื่มเสียก่อน ค่ำวันนี้ข้าจะปรุงยาให้เขาอีกชุดหนึ่ง”ฟางอิ๋งอิ๋งรีบรับชามยามา ก่อนจะกล่อมให้ฉู่จื่อซีดื่มยาที่ขมมากนั้นลงไปดีที่ฉู่จื่อซีเป็นเด็กรู้ความ จึงไม่ได้ร้องไห้งอแงออกมาเพราะว่ายาขมเจี่ยนอันอันชอบเด็กดีว่านอนสอนง่ายอย่างฉู่จื่อซีมากนางหยิบขนมลูกกวาดกระต่ายขาวออกมาชิ้นหนึ่ง ส่งให้กับฉู่จื่อซี“จื่อซีเด็กดี กินยาขมก็ยังไม่ร้องไห้ไม่งอแง ลูกกวาดนี้เป็นรางวัลให้เจ้า กินเสียสิ”ฉู่จื่อซีรับลูกกวาดกระต่ายขาวมาแล้ว สายตาก็จับจ้องไปยังลูกกวาดในมือตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยพบลูกกวาดเช่นนี้มาก่อน บนกระดาษห่อลูกกวาดนั้นยังวาดรูปกระต่ายน้อยเอาไว้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 125

    เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าฟางอิ๋งมีท่าทีลังเล ก็ถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ “พี่สะใภ้ใหญ่มีอะไรจะพูดอย่างนั้นหรือ?”ฟางอิ๋งเหลือบมองไปยังฉู่จวินหลุน แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “อันอัน ตระกูลในตอนนี้ล้วนแต่ต้องอาศัยเจ้าเพียงแค่คนเดียวคอยจัดการ ข้าที่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่รู้สึกผิดจริงๆ”เจี่ยนอันอันโบกมืออย่างเร่งรีบ “ไม่เป็นไรเลย ข้าเองก็หวังว่าทุกคนจะสามารถอยู่ดีกินดีก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ”ฟางอิ๋งมองไปยังฉู่จื่อซีที่กำลังกินลูกกวาดอยู่ นางก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“จื่อซีเด็กคนนี้ช่างมีชะตาที่น่าสงสารเสียจริง อายุยังน้องก็ต้องมาทนลำบากกับพวกเรา” “หากไม่ใช่เพราะว่ามีเจ้ารู้ว่าที่เขาเป็นเช่นนี้เพราะว่ามีพิษอยู่ในร่างกายแล้ว” “เกรงว่าทั้งชีวิตนี้ของพวกเราก็คงจะต้องอยู่ในความมืดมิดไปตลอดชีวิต”เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว ฟางอิ๋งกำลังจะพูดคำขอบคุณกับนางนางรีบพูดออกมา “พี่สะใภ้ใหญ่ พวกเราตอนนี้เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว คำพูดที่เกรงใจกันเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงแล้ว” “นอกจากนี้ ข้าเองก็คงจะไม่ให้วันเวลาอันยากลำบากเช่นนี้ดำเนินต่อไปอีก ข้าจะต้องคิดหาวิธี ให้พวกท่านได้หวนกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งหนึ่งแน่”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 126

    ฉู่จวินหลุนก้มลงมองสองขาของตนเองที่ไร้ความรู้สึกเขาไม่อยากให้เจี่ยนอันอันรักษา เพราะอย่างไรบาดแผลของเขาอยู่ที่กระดูกสันหลังช่วงล่างการจะให้หญิงสาวคนหนึ่งมารักษาให้เขานั้น เขาเอ่ยปากไม่ออกจริง ๆขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธ กลับได้ยินเสียงร้องไห้ของฟางอิ๋งดังขึ้นฟางอิ๋งสะอื้นพลางเอ่ยขึ้นว่า “จวินหลุน หรือท่านคิดจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดชีวิตจริงหรือ ท่านไม่ปรารถนาว่าสักวันหนึ่งจะลุกขึ้นมายืนได้อีกเลยหรือ?”ฉู่จื่อซีที่กำลังกินลูกกวาดกระตายขาว พอเห็นฟางอิ๋งร้องไห้ขึ้นมาเขาก็รีบโยนลูกกวาดในมือทิ้ง แล้ววิ่งเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ฟางอิ๋งใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาขมวดคิ้วตาม เหมือนจะร้องไห้ตามไปด้วยเจี่ยนอันอันพอฟังเข้าใจก็รู้ว่าขาของฉู่จวินหลุนยังมีโอกาสรักษาให้หายได้เพียงแต่ตลอดทางที่ผ่านมา ไม่มีใครกล่าวถึงเรื่องนี้กับนางนางเองก็ยังไม่ได้จับชีพจรของฉู่จวินหลุน และไม่รู้เลยว่าอาการบาดเจ็บของเขาเป็นเช่นไรนางเคยคิดมาตลอดว่า ขาทั้งสองข้างของฉู่จวินหลุนนั้นพิการถาวรไปแล้วจากผลของการรักษาครั้งก่อนเจี่ยนอันอันเอื้อมมือไปลูบหลังของฟางอิ๋งเบา ๆ พลางปลอบโยนว่า “พี่สะใภ้อย่าเพิ่งร้องไห้ ข้าจะหาวิธีรักษ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status