1ลัคนา ไม่เคยได้รับโอกาสดีๆหรือพิเศษในชีวิตเลยสักครั้ง ผิดกับ ลัคนัย ผู้เป็นพี่ชายที่มักจะได้รับสิ่งดีๆจากครอบครัวอยู่เสมอ ลัคนัยหรือพี่แฮม พี่ชายคนเดียวเป็นเด็กหัวดีตั้งแต่ยังเด็ก ความสามารถทั้งทางวิชาการและกิจกรรมทำให้เขาได้รับการส่งเสริมจากครอบครัวและโรงเรียนจนได้มีโอกาสเดินทางลัดฟ้าไปแข่งขันวิชาการอยู่ต่างประเทศเสมอๆ ในขณะที่ตัวของลัคนา เป็นเด็กเรียนเก่งในระดับดีเยี่ยม หากแต่ครอบครัวที่พร้อมใจกันผูกมัดเธอไว้กับบ้าน เพื่อคอยจัดการงานบ้านและเป็นคนรับใช้ทุกอย่างตั้งแต่ยังเด็กลัคนัยเป็นเด็กหัวไวตั้งแต่เด็ก ชีวิตที่มีครอบครัวสนับสนุนทุกทางและเลี้ยงดูอย่างดีดุจราชาองค์น้อยๆ และคอยมีน้องสาวตามติดเป็นบ่าวรับใช้ แล้วยังเป็นความรักและเป็นความหวังของนามสกุล แกร่งกล้ากุล ทำให้เขามีความทะนงตน เย่อหยิ่งอวดดีและเห็นแก่ตัวเพราะเกิดมาไม่ต้องทำเพื่อใคร มีแต่คนมารุมล้อมทำเพื่อเขา ความอวดดีจองหองของเขามักจะสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวเสมอ แต่ลัคนัยไม่เคยเรียนรู้หรือรู้สึกผิดอะไรกับข้อผิดพลาดที่เขาก่อขึ้นเลย เขายังนึกเสมอว่าตนนั้นไม่เคยผิด และเฝ้าแต่โยนความผิด ปัดความรับผิดชอบไปให้คนอื่นในสังคมหนุ
ลัคนาตั้งใจสอนพิเศษ เพื่อเก็บสะสมเงินใหม่ หลังจากที่เงินเก็บที่หามาอย่างยากลำบากถูกพี่ชายขโมยไปใช้จนหมด เธอรีบทำงานอย่างเป็นบ้าเป็นหลังหาเงินให้มากๆหวังจะไปจากบ้านที่อยู่อาศัยเสียให้ได้“หลิว มีโทรศัพท์มาที่กวดวิชา เป็นทางบ้านน่ะ” แม่บ้านเฝ้าโรงเรียนกวดวิชาชะโงกหน้าบอกกับติวเตอร์คนงามที่กำลังสอนลูกศิษย์เต็มห้องลัคนาพอจะรู้ว่าเป็นใครที่ติดต่อมา หากแต่ต้องเดินออกไปรับสายเพื่อเป็นการตัดการรบกวนคนอื่น วันนี้ทั้งวันลัคนัยโทรติดต่อมาหาเธอทั้งวัน โดยโทรเข้าเบอร์ของโรงเรียนกวดวิชา“ฮัลโหล” ลัคนากรอกเสียงลงไปด้วยความเหนื่อยล้า หมดแรงที่จะวิ่งหนีพี่ชายหน้าด้านหน้าทนที่คอยแต่จะรังแกและเอาเปรียบเธออยู่เรื่อยไป“หลิว แกฟังฉันนะ” น้ำเสียงของลัคนัยวางอำนาจดังมาตามสาย“หลิวมีสอนนะพี่แฮม เลิกโทรมาที่โรงเรียนได้แล้ว เกรงใจเขา” ปรามพี่ชายเสียงต่ำให้รู้ว่าโกรธมากขนาดไหน สถาบันกวดวิชาที่เธอรับจ้างสอนหนังสือ ไม่ได้เป็นบ้านของเธอเสียหน่อย เขายังรบกวนได้บ่อยๆอย่างไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจแม้แต่น้อยนิด“ฟังฉันก่อนจะตายไหม” ตะคอกถามเสียงฉุนกลับมา“มีอะไรก็พูดมาค่ะ หลิวต้องไปสอนหนังสือต่อ”“เงินที่ฉันเอาของแกไป ฉั
ลัคนาตื่นขึ้นในช่วงบ่ายโมงของอีกวัน หลังจากพีรภาสเคล้นพลังจากเธอไปจนหมดแรง กว่าจะยอมปล่อยให้เธอเพลียหลับก็ตอนเกือบจะตีสี่ โน้ตเล็กๆถูกวางไว้ที่ตู้ข้างเตียงนอน ในนั้นแจ้งว่าให้เธอพักผ่อนให้พอ เขาสั่งรูมเซอร์วิสไว้ให้ ถ้าหากเธอหิวให้โทรตามพนักงานขึ้นมาเสิร์ฟอาหารแต่หญิงสาวกลับอยากจะออกไปจากที่นี่ เธอรีบแต่งตัวก่อนจะออกจากห้องพักของเขาไปอย่างเงียบๆ ไปเริ่มต้นที่บ้าน อาบน้ำแต่งตัวใหม่และไปรับงานสอนพิเศษ กลับมาใช้ชีวิตให้เป็นปรกติ เพราะเธอจะต้องทำมาหากิน เธอยอมช่วยพี่ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องอยู่งอมืองอเท้าทำตัวเป็นเครื่องขัดดอกเบี้ยให้ใครดูถูก “อ้าวหลิว เป็นไงบ้าง” ลัคนัยเอ่ยทักทายน้องสาวอย่างเสียมิได้ ยามเมื่อเห็นน้องเดินเข้ามาในตัวบ้าน เขาพึ่งตื่นเช่นเคยในวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปทำงาน ตื่นบ่ายสองตรงกับช่วงเวลาที่น้องกำลังเดินกลับเข้าบ้าน“หลิว ยัยหลิว” พี่ชายรีบเดินขึ้นมาดักหน้าหญิงสาวไว้ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเดินไปอีกทาง“พี่แฮม มีอะไรเหรอคะ” ก้มหน้าไว้ไม่ยอมเงยมองผู้เป็นพี่ที่กำลังทักทาย อย่างจงใจหลบหน้าหลบตา“หลิวเป็นไงบ้าง คุณเติร์กเขาทำร้ายหลิวหรือเปล่า” คำถามของพี่ชาย ถ้าได้ยิน
ทั้งพีรภาสและลัคนารู้ตัวเองดี แต่สำหรับชายหนุ่มนั้นเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว หญิงสาวเบือนหน้าหนีรสจูบจากชายที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่กลับต้องมาใกล้ชิดเป็นหนึ่งเดียวแบบนี้ แม้จะเพียงข้ามคืน หรือชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ยิ่งเธอขยับหนีเท่าไหร่ มันกลับไม่พ้น เขายิ่งเข้ามาคุกคามยั่วเย้า“เดี๋ยวค่ะ” เสียงเล็กๆท้วงขึ้น พร้อมทั้งยกมือบางดันแผ่นอกกว้างไว้ไม่ให้เขาโน้มตัวเข้ามาหา “ฉัน ฉันอยากเข้าห้องน้ำหน่อย” ให้เหตุผลก่อนจะเบี่ยงตัวลุกขึ้น แต่เหมือนเรี่ยวแรงขัดขืนมันจะอ่อนระทวยลงไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เธอมีอาการผิดปกตินับตั้งแต่กินนมสดร้อนแก้วนั้นเข้าไป“ไม่เอาหน่า อย่าเสียเวลาเลย เวลาของผมมีค่า อย่าให้เสียไปกับคนอย่างพวกคุณอีกเลย” ว่าอย่างจงใจดูถูก ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เขานั่นแหละที่อดใจไม่ไหว อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรเสียเดียวนี้ พร้อมกับที่มือหนาขยับปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหญิงสาวออกทีละชิ้นน้ำคำของเขาทำให้คนฟังรู้สึกฉุนขึ้นมา เขาพูดเหมือนเขาและเธอมีความเป็นคนไม่เท่ากัน ไม่มีใครชอบโดนดูถูกหรอก แม้จะอยู่ในสถานะที่ต่ำต้อยกว่า “คนอย่างพวกฉันงั้นเหรอ คนอย่างพวกฉันมันทำไม” แต่กลับต้องสำเหนียกตัว
2เสียงข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสัญญาณให้ลัคนารู้ว่าต้องปฏิเสธนัดหมายทุกอย่าง เพื่อที่สามทุ่มจะได้ถึงห้องพักของพีรภาส“พี่แฮม วันนี้หลิวรู้สึกไม่ค่อยสบาย หลิวไม่ไปได้ไหม” บอกออกมาในตอนที่กำลังจะถูกพี่ชายพาไปขึ้นรถ เธอเหมือนหมูในอวยที่กำลังจะถูกส่งไปเชือดที่โรงงานไม่มีผิด ชีวิตของเธอ“แกอย่าเรื่องมาก แกอยากให้เขาตามฆ่าฉันเหรอไง” เผด็จการเห็นแก่ตัวจับน้องสาวยัดเข้าไปในรถ แล้วยังข่มขู่เธอสารพัด“แต่หลิวยังไม่เห็นว่าคุณเติร์กเขาจะทำอะไรพี่เลยนะ”“นั่นแหละ แกถึงต้องไปอยู่กับเขา เอาตัวของแกเข้าแลก แล้วเริ่มพูดยังไงก็ได้ให้เขาไม่เอาเรื่องฉัน” คำตอบของพี่ทำให้คนฟังหน้าเสียและรู้สึกไร้คุณค่าในตัวเอง“แล้วพี่จะให้หลิวเอาตัวเข้าแลกแบบนี้จนถึงเมื่อไหร่ล่ะคะ” รู้สึกเจ็บปวดจนชาไปหมดทั้งความรู้สึก ใจสลายจนไม่อาจประกอบรูปคืนได้อีกลัคนัยทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะหาคำตอบให้น้องได้ “ก็จนกว่าฉันจะหาเงินมาใช้หนี้เขาหมด หรือถ้าเขาเรียกร้องให้ฉันชดใช้ในสิ่งที่ทำกับน้องวุ้นตาล แกก็เอาตัวเข้าแลกไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะเบื่อก็แล้วกัน แต่ห้ามให้เขาล้างแค้นฉันเด็ดขาด ไม่งั้นแกโดนฉันฆ่าแน่” ขู่สำทับในตอนสุดท้ายลัคนาน