ความเงียบกระจายตัวในอาการศรอบกาย เมื่อได้ยินนางเอ่ย เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย ขณะที่สายตาประสานกัน มีเพียงความคิดหมุนแล่นวนไม่จบสิ้น"ไม่อยากยอมก็ไม่ควรยอมไม่ใช่หรือ"กระทั่งประโยคหนึ่งจากปากนางไหลเข้าสู่โสตประสาท สมองซีจงจวินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ.."ตอนที่ถูกทำร้าย รู้ไหมว่าข้านึกถึงเจ้าเป็นคนแรก"นึกถึง..ข้า?"ตอนที่ถูกมนุษย์พวกนั้นสัมผัส ข้านึกไปว่ามือหลายคู่ที่จับข้าไว้ ให้ความรู้สึกต่างจากมือของเจ้าโดยสิ้นเชิง""...""แม้แต่ตอนที่ท่านอวี้เวินฉิงช่วยข้าออกมา ใจยังพะวงว่าแล้วเจ้าเล่า ป่านนี้ไม่วิ่งหาข้าให้วุ่น ขาแทบหลุดหล่นไปบนพื้นถนนแล้วหรือ"เขาวิ่งหานางให้วุ่นจริง.. วิ่งจนขาแทบไม่รู้สึกอะไร เหมือนมันหายไปแล้วจริง.."ขนาดตอนที่คนชื่อจื่อสุ่ยจิงมาหาเรื่อง ข้ายังคิดว่าอยากให้เจ้ารีบพาออกไปจากตรงนั้นเร็วๆ""แต่สิ่งที่ท่านหวัง ข้ากลับไม่ได้ทำสักอย่าง"ได้ยินเขากล่าวโทษตัวเองเช่นนั้น มี่ฮวาส่ายหน้า ส่งยิ้มพร้อมสายตาหวานละไมให้ผู้เป็นสามี"เจ้ามักจะทำสิ่งที่ข้าคาดไม่ถึงต่างหาก และมันทำให้ข้ารู้สึกดีกว่าเสียอีก"ดวงตาเทพอสูรดูจะมีประกายแสงส่องออกมา ยามได้ยินคำนั้นเขาทำให้นางพอใจได้แล้วอย
ราวยามเซิน ห้วงฝันแสนหวานสิ้นสุด ซีจงจวินตื่นขึ้นมองนางผู้เป็นที่รักกำลังหลับซุกหน้าเข้ากับอกเขาช่วงเวลาต่อจากนี้เขาจะมีนางตลอดไปใช่หรือไม่...เกิดคำถามขึ้นในจิตใจ ซีจงจวินนอนยิ้มคนเดียวราวบุรุษสติฟั่นเฟือนเมื่อให้คำตอบกับตัวเองในใจเขาจะทำให้นางรักมากขึ้นทุกวันจนไปไหนไม่ได้อีก...ชายหนุ่มนอนมองอยู่เช่นนั้น กระทั่งผ่านไปราวเกือบสองเค่อ เปลือกตาขาวเริ่มขยับยุกยิก มี่ฮวาตื่นและสิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกก็คือ...ซีจงจวินที่นอนส่งยิ้มตาปิด ใบหน้าเปี่ยมสุข"ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกข้า""ข้าไม่อยากกวนท่าน เห็นกำลังหลับสบาย""หน้าข้าตอนหลับไม่ได้น่ามองนัก" นางบ่นอุบอิบ แต่ซีจงจวินกลับส่ายหน้า"ถึงอย่างไรข้าก็อยากมองท่าน จดจำสีหน้าทุกรูปแบบของท่านไว้"ยามเขาเอ่ยถ้อยคำหวานซึ้งเช่นบุรุษมากรัก แววตากลับดูใสซื่อเยี่ยงบุรุษน้อยที่ยังไม่เจริญวัยทำเอาคนฟังเขินจนแทบไปไม่เป็น ต้องเบี่ยงประเด็นความสนใจไปที่อื่น เพื่อจะได้ไม่เผลอทำอะไรน่าอายอีก"ข้าอยากอาบน้ำ เจ้าไปเรียกชิงเหลียงกับซวนเฟยให้ที.."มี่ฮวาเปิดผ้าห่มทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะสังเกตผิวเนื้อเปลือยเปล่าของคนที่นอนตะแคงอยู่ข้างๆรอยแผลเป็นทั่วตัวเขาปรา
หลังจากอาบน้ำกินข้าวเย็นกันเสร็จ ค่ำนั้นคู่รักที่ทำตัวเหมือนพึ่งเริ่มชีวิตคู่มานั่งชมจันทร์กันตรงระเบียงห้องชมสวน ซีจงจวินเอาใจมี่ฮวามากขึ้นด้วยการรินชา ป้อนขนมให้นางไม่หยุดมือ"นี่เจ้ากะจะขุนข้าให้อ้วนหรือ" นางแสร้งว่า มองจานขนมรูปดอกไม้ในมือเขาที่พร่องไปเกินครึ่งแล้ว"เห็นท่านกินอิ่มอารมณ์ดีก็พอแล้ว อ้วนหรือไม่สำคัญด้วยหรือ" ถึงนางอ้วนก็ไม่ได้อัปลักษณ์เหมือนเขาหรอก จะกินเท่าไหร่ก็กินไปเถิดมี่ฮวามองคนพูดแล้วต้องถึงกับกระตุกยิ้ม ก่อนเงยหน้ามองพระจันทร์สีเหลืองนวลเคียงคู่กับดวงดาวบนท้องฟ้า"ปีหน้าเจ้าจะพาข้าไปเที่ยวอีกไหม เทศกาลหยวนเซียวอะไรนั่นน่ะ""...ท่านยังอยากไปอยู่อีกหรือ"สีหน้าคนพูดดูไม่ดีนัก นึกถึงแล้วซีจงจวินยังรู้สึกผิดอยู่มากที่ประมาทปล่อยให้มี่ฮวาต้องเจอเรื่องร้ายๆมี่ฮวารู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ นางยื่นมือไปลูบไล้แก้มสากเพื่อปลอบโยน"รู้หรือไม่ว่าเหตุใดวันนั้นข้าถึงถูกจับตัวไป"ซีจงจวินหันมาเลิกคิ้วมองคนที่ล้วงหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนเบิกตากว้างของในมือนางคือปิ่นปักผมเรียบๆอันหนึ่ง ยอดปิ่นทำจากหยกขาวเป็นลวดลายคล้ายเดือนเสี้ยวบนกลีบเมฆ"วันนั้น สิ่งที่ข้ามองเป
ค่ำวันต่อมามี่ฮวาทำอาหารเย็นไว้รอ เพราะซีจงจวินบอกว่ามีธุระต้องสะสางจึงจะกลับบ้านช้าหน่อยแต่ใครจะคาดคิดว่าเขาจะกลับมาด้วยสภาพร่างโชกเลือด...มี่ฮวาที่เดินออกมาหาหน้าบ้านถึงกับต้องรีบปิดจมูกเพราะกลิ่นเหม็นคลุ้งตลบ"เจ้าบาดเจ็บหรือ"ซีจงจวินเห็นภรรยาทำหน้าคล้ายเป็นห่วงแต่ก็ไม่เข้ามาใกล้คล้ายอยากอาเจียนก็ได้แต่ยิ้มแห้ง"ข้าไม่ได้บาดเจ็บหรอก วันนี้ขออาบน้ำก่อน ท่านกินข้าวไปเลยไม่ต้องรอข้า"ไว้เดี๋ยวเขาจะเล่าให้นางฟังทีหลังว่าไปทำอะไรมา"ไม่รอได้อย่างไร รีบไปอาบให้เสร็จเร็วๆเลย ข้าหิวแล้ว"คนพูดไล่แบบส่งๆ ไม่มองหน้ารีบหันหลังเดินหนีไป นางกำลังทำกลบเกลื่อนคำพูดเมื่อครู่ของตัวเองที่ดูราวกับเป็นภรรยาที่แสนดีทำเอาใจสามีชื้นขึ้นมากทีเดียว...หลังอาบน้ำเสร็จซีจงจวินมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับมี่ฮวา"ไปไล่จับตัวอะไรมาถึงมีสภาพแบบนั้น"นางถามขณะคีบข้าวเข้าปาก รู้สึกเหมือนยังคลื่นเหียนกับกลิ่นเลือดอยู่หน่อยๆ ส่วนซีจงจวินนั่งยืดหลังตรง ยิ้มอย่างภาคภูมิใจก่อนตอบ"ข้าไปจัดการวิญญาณมา วิญญาณของพวกคนที่ทำร้ายท่านวันนั้น"ตะเกียบในมือชะงักค้าง ดวงตากลมเลื่อนขึ้นมองใบหน้าคนที่ยังนั่งส่งยิ้มแช่มชื่น
วันต่อมา มี่ฮวาบอกซีจงจวินว่านางจะกลับไปเยี่ยมบ้านและจะรีบกลับมา"สัญญานะว่าจะกลับก่อนมืด""สัญญา ข้าแค่ไปเที่ยวเล่น อยู่ไม่นานหรอก"ได้ยินคำยืนยัน ซีจงจวินเชื่อใจนางจึงเหาะออกจากบ้านไปทำงานตามปกติส่วนนาง... เพียงเข้าไปเก็บสัมภาระจำเป็นนิดหน่อย ก่อนจะเป่าขลุ่ยเรียกหงส์นภาให้มารับแต่ทิศทางที่มันบินไปนั้น... ไม่ใช่แดนอุดรแน่เจ้าหงส์นภาพานางมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก แดนบูรพาอันเป็นพิภพมนุษย์ไม่นานมี่ฮวาให้มันร่อนลงจอดที่ชายป่าหน้าถนนเส้นหลักของเมืองหลวง เสกเรือนผมให้กลายเป็นสีดำสนิทเยี่ยงมนุษย์ทั่วไปก่อนจะเดินเข้าไปปะปนกับฝูงชนเนืองแน่นเบื้องล่างทางไปสำนักมือปราบนางจำได้แม่นยำตามคำบอกของอวี้เวินฉิง..ต้องรู้ให้ได้ ว่าเมื่อสามพันปีก่อนเกิดอะไรขึ้น..ที่ผ่านมา นางเคยพยายามตามหาความทรงจำที่หายไปอยู่หลายครั้ง แต่ไม่เป็นผลเพราะไม่รู้อะไรเลย นอกจากความฝันอันเลือนรางบุรุษในฝันที่นางไม่รู้จัก ทว่ารู้สึกคุ้นเคยนัก...มี่ฮวามักจะหวนนึกถึงเขาผู้นั้นนานๆครั้ง แต่ทุกครั้งหลังตื่นขึ้นมาก็จะเจ็บหน่วงในอกซ้ายตลอดความรู้สึกที่คั่งค้างอยู่ในอกไม่อาจสลายไปง่ายๆและมันทำให้นางไม่เป็นอันทำอะไรที่หน้าสำนั
ผ่านไปราวเจ็ดวันมี่ฮวาไปหาอวี้เวินฉิงอีกครั้ง เขาต้อนรับนางอย่างดีเหมือนเคยทว่าแม้อยู่พูดคุยกันหลายชั่วยามแต่มี่ฮวาก็ยังไม่ได้รู้อะไรมากขึ้นนางขบคิดไม่หยุดว่าทำอย่างไรถึงจะได้ความทรงจำแสนล้ำค่าเหล่านั้นกลับมากันล้ำค่าอย่างไรน่ะหรือ..นางอยากรู้ว่าบุรุษที่มักจะฝันถึงผู้นั้นเป็นใครในความฝันภาพเขาเลือนราง เสียงเขาจางหาย เหลือไว้เพียงความอยากรู้ให้นางต้องไล่ตามหาเมื่อถึงเวลาสมควร หญิงสาวขึ้นขี่หงส์นภาเตรียมบินกลับบ้านยามสายฝนโปรยปรายลงมามี่ฮวาเงยหน้ามองผืนฟ้าสีเทาซึ่งปล่อยหยาดน้ำเย็นพรมลงบนผืนดินโลกมนุษย์ในความฝัน ก็มีสายฝนพรำเช่นนี้เหมือนกัน..ชายผู้นั้น นางเรียกชื่อเขาว่าอะไรนะ...สุดท้ายแล้ว มี่ฮวาก็นึกอะไรไม่ออกจนกระทั่งกลับมาถึงบ้านก็ยังไม่มีกะใจจะคิดเรื่องอื่น..."ซีจงจวิน"เสียงเอ่ยเรียกทำให้คนฝั่งตรงข้ามเงยหน้าจากจานอาหารขึ้นมามอง"เจ้าสูญเสียความทรงจำไป เคยคิดอยากได้กลับคืนมาบ้างไหม"นางถาม คนฟังคิดไปครู่หนึ่งก่อนส่ายหน้าช้าๆ"ทำไมถึงไม่อยากรู้ล่ะ""รู้ไปก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ ข้าไม่สนอดีตอันว่างเปล่า ขอมองแค่อนาคตที่จะได้ใช้ร่วมกันกับท่าน"เขาพูดเช่นนั้นราวกับจะบอกว่าต่อจาก
มี่ฮวาตื่นขึ้นมาในห้องของซีจงจวินตอนหัวค่ำ และพบว่านางตัวนางขยับไม่ได้เพราะถูกสามีนอนกอดเอาไว้พลันความรู้สึกหนึ่งแล่นปราดทิ่มแทงใจ นางพยายามดันเขาออกแต่มือที่มีมากมายนี่ไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปได้ง่ายๆเลยอีกทั้งกลางร่างนางเจ็บจุก จนแม้แต่จะลุกขึ้นนั่งยังลำบากไอ้อสูรชั่ว!!พอรู้สึกตัวว่าคนในอ้อมกอดขยับยุกยิก ซีจงจวินก็ลืมตาขึ้นส่งยิ้มให้เหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ลุก!"นางสั่งแต่เขาไม่ทำตาม กลับกกกอดเอาไว้ ทั้งยังจับมือนางไม่ให้ยื่นมาข่วนหรือตบตีได้"ข้าสั่งไยไม่ทำตาม!!""หากข้าปล่อยท่านลุกไปท่านจะทิ้งข้าใช่หรือไม่ ในเมื่อข้ายอมให้แต่โดยดีแล้วแต่ท่านยังยืนยันเช่นนั้น ข้าก็จะไม่ยอมอีกแล้ว"จะบอกว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ เลยต้องใช้ไม้แข็งแทนอย่างนั้นหรือ!!!มี่ฮวาจ้องเขม็ง ซีจงจวินก็จ้องตอบ แต่สายตาเขาไม่ได้มีความตั้งใจจะยียวน กลับกลายเป็นเศร้าเสียใจเกินจะประเมินความรุนแรงเขาเล่นกับนางแบบนี้เอง ถึงได้ทำใจไปไหนไม่ได้สักที..มี่ฮวามองว่านั่นเป็นการแสดงฉากใหญ่ที่ซีจงจวินสร้างคิดว่าเล่นบทโศกหน่อยแล้วนางจะใจอ่อนอย่างนั้นใช่หรือไม่...ยามเมื่อเขาใช้ไม้อ่อนนางใช้ไม้แข็ง ยามนี้เขาคิดใช้ไม้แข็ง
เซียนนารีวัยแรกแย้มอายุได้สี่พันปีเศษ กำลังเดินตามพี่สาวทั้งเจ็ดของนางอยู่ท้ายขบวนวันนี้ท่านพ่อและท่านแม่จะพาพวกนางไปคารวะองค์มหาเทพด้านบนเขาสวรรค์หน้าบันไดทางขึ้นมีเทพอสูรหน้าตาน่ากลัวท่าทางดุร้ายยืนเฝ้าอยู่สี่องค์ มี่ฮวาไม่กล้ามองด้วยซ้ำ รูปลักษณ์เช่นนี้ทำนางขาสั่นแทบก้าวไม่ออกกระทั่งรู้ตัวอีกทีพวกพี่สาวก็เหาะนำขึ้นไปไกลเสียแล้วนางกำลังจะตามขึ้นไปทว่าความประหม่าทำให้ไม่ทันได้ดูทาง ฝ่าเท้าสะดุดก้อนหินหน้าบันไดเสียก่อนตอนที่กำลังจะล้มลงกับพื้น มี่ฮวาหลับตาปี๋รอความเจ็บแต่มันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย คล้ายตัวนางลอยขึ้นบนอากาศอันว่างเปล่าเสียอย่างนั้นเมื่อลืมตามองพบว่าแขนขาถูกจับเอาไว้โดยมือใหญ่ทั้งหกข้างของเทพอสูรองค์หนึ่ง"เป็นอะไรหรือไม่"เขาเอ่ยถามสีหน้าดูเป็นห่วงยิ่งนัก นั่นทำให้มี่ฮวาปากสั่นราวทำเสียงตัวเองหล่นหายสุดท้ายนางส่ายหน้าเบาๆ เทพอสูรจึงวางร่างบางลงให้ยืนที่พื้นพร้อมกับเอ่ยเสียงเข้ม"เชิญท่านขึ้นด้านบนเถิด แล้วก็รักษาตัวให้ดีด้วยนะขอรับ"เขาพูดจบ มี่ฮวาก็รีบเหาะขึ้นไปอย่างรวดเร็วนึกอายที่ตัวเองทำเรื่องน่าขายหน้าต่อหน้าเทพอสูร..นี่คือครั้งแรกที่พวกเราพบกัน..มี่ฮวาตั้งใจ
ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู
เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ
"ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน
สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้
ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห
เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ
ราชวังมหาเทพ ณ ยอดเขาสวรรค์ เทพบรรพกาลได้ก่อร่างกายทิพย์ของเทพอสูรขึ้นมาใหม่ดวงแสงสีขาวน้อยๆลอยส่องประกายริบหรี่ ปราณเซียนของซีจงจวินถูกนำมาตรึงใส่ไว้ในลูกแก้วกลมสุกใสในมือมหาเทพ"ไปพานางมา"พระองค์สั่ง เทพส่งสารก็รีบร้อนออกไปทันที รอไม่ถึงครึ่งชั่วยามร่างเซียนบุปผาก็มาปรากฏอยู่บนเขาสวรรค์มี่ฮวากลับมาอยู่ในร่างเทพเซียนดังเดิม แม้จะดูดีขึ้นแต่ก็เรียกไม่ได้ว่างดงามเหมือนก่อน"ในลูกแก้วเก็บวิญญาณนี้มีจิตของซีจงจวินอยู่"มหาเทพเอ่ยพร้อมยื่นลูกแก้วที่มีไอแสงสีนวลอ่อนให้นางดู ดวงตากลมสีหยกคู่นั้นดูจะเป็นประกายขึ้นมาซีจงจวินผ่านด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์แล้วใช่หรือไม่.."ข้าจะใส่มันลงไปในร่างใหม่ของสามีเจ้าให้ตามสัญญา""ขอบพระทัยมหาเทพที่เมตตา" มี่ฮวาคุกเข่าก้มหัวหน้าผากจรดพื้น ดีใจจนเนื้อเต้นเก็บสีหน้าไม่อยู่"แต่ข้ายังมีข้อข้องใจอยากจะถามความเห็นเจ้าสักหน่อย"คำนั้นทำให้นางรีบเงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย มหาเทพเอามือเท้าคางในท่าสบายๆเหมือนเคย ในมืออีกข้างกลิ้งดูลูกแก้วกลงกลึง"ข้ามีสองร่างให้พวกเจ้าเลือก ระหว่างร่างกายเดิมของซีจงจวินตอนยังเป็นเทพอสูร กับร่างกายใหม่ที่เป็นของจงซีจ้า
สิ้นเสียงสั่งของแม่ทัพ ศรเกาทัณฑ์หลายหมื่นพุ่งตกเป็นห่าฝน แต่ทหารแคว้นหยวนใช่จะไร้ฝีมือ อาวุธเหล่านี้หาได้สร้างความหวาดหวั่นอีกทั้งจำนวนทหารที่มากกว่าหลายเท่าตัวทำให้ไม่สะทกสะท้านเลยหากคนจะหายไปสักหมื่นต่างฝ่ายต่างวิ่งเข้าโรมรัน เชลยศึกถูกปล่อยจากกรงให้วิ่งหนีตายกันไปคนละทิศละทาง นี่เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาพอจะทำได้ในตอนนี้สู้ไปก็ถอยไป ทหารต้าหลี่เหนื่อยล้าจากการเดินทางและการสู้ศึกถึงสองรอบในเวลาใกล้เคียงกัน พวกเขาค่อยๆล้มตายตามกันไปทีละหลายคนมีเพียงแม่ทัพที่ยังยืนหยัดสู้อยู่ ในบรรดาทหารจงซีจ้านเป็นคนเดียวที่มีฝีมือมากพอจะต่อกรกับคนนับหลายสิบในคราวเดียวได้โดยไม่สร้างบาดแผลใดๆจากไม่ถึงสองหมื่น ตอนนี้ทหารต้าหลี่ในสังกัดแม่ทัพจงเหลือไม่ถึงพันแล้ว ส่วนฝั่งแคว้นหยวนยังมีอีกหลายหมื่นนายดาหน้าเข้ามาไม่รู้จักหมดมี่ฮวาวิ่งหนีเช่นกัน แต่ไปได้ไม่ไกลก็ถูกทหารฝั่งนั้นไล่ตามมาสองคน ในมือถือดาบใหญ่หมายเอาชีวิตนางแน่ฝีเท้าของผู้หญิงหรือจะสู้ทหารที่ถูกฝึกมาเป็นสิบปี ไม่กี่ก้าวมันก็ตามมาทันฉัวะ!!!!เสียงดาบเหล็กฟาดลงกระทบเนื้ออย่างแรงไม่ทันได้ส่งเสียงร้องก็ขาดใจเสียแล้วทว่าคนขาดใจตายไม่ใช่แม่นางต
หลายวันต่อมา จงซีจ้านเจรียมตัวอย่างดี เมื่อเดินออกมาจากตัวเรือนคนรับใช้ก็จูงม้าศึกคู่ใจมาให้จากวันนี้ไปไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง.."ขอให้เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ"เป็นเสียงแม่บ้านชรายืนค้อมศรีษะให้ผู้เป็นนายตรงหน้าประตู คนใช้ทั้งจวนรู้ว่าเขากำลังจะไปไหนยกเว้นมี่ฮวาคนเดียวเขาคิดว่าหากนางไม่รู้ว่าเขาไปไหนและเมื่อไหร่จะกลับมา นางจะได้ตั้งหน้าตั้งตารอและระแวงว่าหากเดินออกนอกลู่นอกทางแล้วเขาจะรู้ ดังนั้นนางก็จะไม่อาจไปหาชายอื่นได้จงซีจ้านจะไม่ทำผิดซ้ำสอง จะไม่มอบรักทั้งหัวใจให้ใครง่ายๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจอีก..."เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"เสียงนั้นทำให้ฝีเท้าหยุดชะงัก น่าแปลกที่วันนี้มี่ฮวาตื่นเช้ากว่าเดิม ทั้งที่ปกติจงซีจ้านไม่ได้ออกจากบ้านเวลานี้นางก็ยังอุตส่าห์รู้หญิงสาววิ่งตามมายื่นของบางสิ่งให้เขา มันคือถุงบุหงาหอมรัญจวนที่นางตั้งใจทำให้ แล้วยังปักลวดลายจันทราในกลีบเมฆ ถักพู่ห้อยสวยงาม..นางไม่รู้ว่าเขาจะไป เหตุใดถึงเอามาให้ คล้ายเป็นของที่ระลึก"เอามาให้ข้าทำไม""ข้าเห็นช่วงนี้ท่านแม่ทัพดูท่าทางไม่ค่อยสบายเจ้าค่ะ คิดว่าเรื่องงานคงยุ่งยากกวน