เสื้อผ้าที่สวมใส่ของเราสองคนถูกถอดกระจัดกระจายเต็มพื้น เมื่อเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าตุลก็ใช้สายตาที่เป็นประกายสำรวจมองเรือนร่างของฉันจนทำให้รู้สึกเขินอาย “ม… มองนานเกินไปแล้วนะ” “อยากมองเมียนาน ๆ ไม่ได้เลยหรือไง”“พี่เขิน” แก้มฉันมันคงแดงไปหมดแล้วแน่ ๆ ตอนนี้ ตุลมองอีกครั้งแล้วพูดเสียงหวาน “สวยไปทั้งตัว” ร่างหนาโน้มลงมาจูบลงบนริมฝีปากของฉันแล้วค่อย ๆ ดูดเม้มเบา ๆ สลับกับแลกลิ้นกันไปมา ครู่หนึ่งตุลก็ผละจูบออก ก่อนที่จะขยับริมฝีปากมาตวัดเลียใบหูของฉันทำให้ขนลุกซู่อย่างเสียวซ่าน เขาค่อย ๆ ลากลิ้นสากตวัดเลียและขบเม้มไล่ลงมาบริเวณซอกคอ และต่ำลงมาเรื่อย ๆ หน้าอกสองเต้าถูกอุ้งปากที่ร้อนระอุครอบงำพร้อมทั้งฝ่ามือใหญ่เริ่มบีบเคล้นหนัก ๆ “อ๊า~” ฉันแอ่นตัวขึ้นเล็กน้อยและกระตุกเกร็งเพราะถูกลิ้นสากหยอกล้อที่เม็ดไตบนเนินหน้าอกอย่างชำนาญ“รู้สึกดีไหมครับ” เขาเอ่ยถามเสียงหวาน ทำเอาหัวใจดวงน้อยของฉันมันเต้นแรงเพราะคำถามนั้น“อื้อ~” เสียงครางเบา ๆ ในลำคอแทนคำตอบว่าตอนนี้รู้สึกดีขนาดไหนเมื่อหยอกล้อกับหน้าอกสองเต้าจนพอใจ ใบหน้าคมคายก็ค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ เรียวขาสองข้างถูกฝ่ามือใหญ่จับแ
ในขณะที่ตกอยู่ในห้วงความฝันก็ถูกเสียงหวานทุ้มกระซิบพูดใกล้ ๆ หู จนต้องงัวเงียตื่นขึ้น“ขี้เซาจัง ตื่นได้แล้ว” “อื้อ~”“ลิลครับ ตื่นได้แล้วนะ” “อื้อ” ฉันปรือตาขึ้นเห็นตุลยิ้มกว้าง จึงตะแคงตัวหันมากอดเขาแล้วพูดเสียงออดอ้อน “เพิ่งได้นอนตอนเช้านี่เอง ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ” “แต่นี่มันบ่ายสองแล้วนะ ตื่นได้แล้วขี้เซาขนาดนี้เดี๋ยวก็โดนปลุกแบบพิเศษ” “ปลุกแบบพิเศษยังไงเหรอ” ฉันเงยหน้ามองแฟนเด็กของตัวเองพร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดเป็นคำถาม ตุลไม่ตอบอะไร เขาประครองใบหน้าฉันให้เงยขึ้นก่อนจะก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากอย่างนุ่มนวล “อื้อ~” พอถูกจูบครู่หนึ่งฉันก็ตั้งสติแล้วผลักเขาออก จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้“ทำไม?” สายตาคมมองการกระทำของฉันพร้อมกับถามเสียงดุ “เมื่อคืนก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว เอากันถึงเช้าพอตื่นมาจะผลักไสอีกรึไง” “ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหน แค่จูบยังทำท่าทางรังเกียจ” สีหน้าของตุลในตอนนี้มันจริงจังเอามาก ๆ แต่อยากจะบอกว่ามันไม่มีอะไรทั้งนั้น เขาคิดไปเองทั้งหมด “พี่ไม่ได้รังเกียจ แต่เพิ่งตื่นไงน้ำก็ยังไม่ได้อาบ ฟันก็ยังไม่ได้แปรง จะมาจูบได้ไงเล่า” ฉันตอบแบ
สามวันต่อมา ฉันเพิ่งได้กลับบ้านวันนี้ เหตุผลเพราะถูกแฟนเด็กอ้อนให้นอนกับเขาและฉันมันก็เป็นคนขี้ใจอ่อน แต่วันนี้ต้องขอกลับเพราะสภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว ตุลเล่นทำเรื่องอย่างว่าชนิดที่แทบไม่ให้ได้พักผ่อน ทั้งเช้ากลางวันเย็นลากยาวไปเกือบจะเช้าของอีกวัน ไม่รู้ว่าไปอดอยากมาจากไหน จริงๆ เขาก็ไม่อยากให้กลับเท่าไรหรอก แต่ฉันอ้อนจนเขายอมใจอ่อน “ไม่ยอมกลับบ้านเลยนะ” เฮียเดินสวนทางกับฉันที่กำลังเดินเข้าบ้านมาพอดี “จะออกไปข้างนอกเหรอเฮีย” “จะไปดูบ่อนกับโกดังสินค้าหน่อย ช่วงนี้ยุ่งกับงานที่บริษัทไม่มีเวลาไปเท่าไหร่” ฉันพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่เฮียบอกมา ฉันรู้ว่าเฮียทำธุรกิจสีเทาด้วยแต่ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรเพราะเข้าใจว่ามันคือธุรกิจและมันทำเงินให้ได้มหาศาล “เมื่อไรหนูจะเห็นหน้าพี่สะใภ้สักทีคะ รอนานแล้วนะ” ฉันแกล้ง ๆ ถามเฮียเล่น “ถ้าอยากเห็น ฝันเอาง่ายกว่า” เป็นคำตอบที่ทำให้ฉันสิ้นหวังจริง ๆ เฮียนะเฮีย ไม่ยอมมีใครสักที “ให้หนูหาให้ไหม หนูมีเพื่อนที่ต่างประเทศเยอะนะ เฮียชอบแบบไหน แบบเด็ก ๆ …” “เด็กจะเอามาให้ปวดหัวรึไง แล้วก็ไม่ต้องช่วยหาอย่าทำตัวเป็นแม่สื่อ” เฮียกดีดหน้าผากฉันเบา ๆ “ก็หนูอยากให้เฮีย
#สระว่ายน้ำหลังบ้านในขณะที่ฉันกำลังว่ายน้ำเล่นไปมาตุลที่นั่งอยู่บนสระก็มองตาไม่กะพริบ หลายวันมานี้เขาดูหมกมุ่นอยู่กับฉันมากจริง ๆ “ไม่มาเล่นน้ำด้วยกันเหรอ” เพราะเขินที่เอาแต่ถูกมองฉันจึงชวนเขา “อยากดูเมียเล่นมากกว่า” “เล่นคนเดียวพี่เหงานะ”ตุลยิ้มก่อนจะลุกขึ้นถอดเสื้อและกางเกงจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว จากนั้นก็ลงมาในสระ เขาว่ายน้ำมาหาฉันแล้วใช้แขนโอบเอวรั้งเข้าหาตัวเอง ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกผิดแล้วที่ชวนตุลลงมาเล่นน้ำด้วยกัน“จะว่าไปในสระเรายังไม่เคยลองเลยนะ” มุมปากของเขากระตุกยิ้มก่อนจะขยับหน้ามากระซิบเสียงหวาน “พี่ลิลอยากลองไหมครับ”แปะ!! ฉันฟาดแขนแกร่งแรง ๆ ที่แม้แต่นอกบ้านเขาก็ยังทะลึ่ง “ไม่เอาเดี๋ยวมีคนมาเห็น” “แถวนี้ไม่เห็นจะมีใครสักคน” ไม่พูดเปล่า ตอนนี้ฝ่ามือใหญ่เริ่มเลื่อยเป็นปลาหมึกแล้ว “ตุล ยะ... หยุดก่อน” “ซื้อกระเป๋าเพิ่มให้อีกใบ” พอเขารู้จุดอ่อนก็เอากระเป๋ามาล่อฉันใหญ่เลย คิดว่ารอบนี้จะหลงกลหรือไง “ไม่เอาพี่ซื้อเองได้”“แต่ให้ผัวซื้อให้มันดีกว่านะ” “ทำไมเดี๋ยวนี้หื่นจังเลยฮะ” “ใครใช้ให้น่าเอาขนาดนี้ล่ะ”ร่างของฉันถูกดันให้มาติดกับขอบสระ จากนั้นใบหน้าคมคายก็ก้ม
#ตกเย็น วันนี้ตุลลงมือเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเองที่บ้านของฉัน ซึ่งฉันก็ห้ามแล้วเพราะมีพ่อครัวคอยทำให้ แต่แฟนเด็กก็ไม่ยอมในขณะที่กำลังนั่งรอตุลทำอาหารเฮียที่เพิ่งกลับมาบ้านก็เดินมาหาฉัน “ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้” ที่เฮียถามก็เพราะฉันไม่เคยมานั่งรอในห้องโถงที่ใช้สำหรับกินข้าวเลย ปกติต้องมีอาหารมาวางเตรียมแล้วถึงจะมานั่ง “รอตุลทำอาหารน่ะเฮีย” “ทำเป็น?” ขมวดคิ้วเป็นปม เหมือนไม่เชื่อมั่นในตัวตุล ฉันจึงรีบตอบเพื่อยืนยัน “จริง ๆ ก็ทำไม่เป็น แต่ตุลอยากเอาใจหนู เขาก็เลยศึกษาจากยูทูบค่ะ”พูดไปฉันก็เขินไป ถึงตุลจะแข็งกระด้างไปบ้างแต่เดี๋ยวนี้เขารู้จักทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้ฉันนะ เขาเป็นแฟนที่น่ารักที่สุด “เบา ๆ บ้าง หวานเกินหน้าเกินตา” เฮียพูดค้อนเมื่อเห็นฉันยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว “คนมีแฟนนี่นา เฮียเถอะได้ซุกผู้หญิงที่ไหนเอาไว้หรือเปล่าคะ?” ฉันขมวดคิ้วเข้มถามเฮียในเชิงจับผิด และเฮียก็มีพิรุธด้วยการหลบสายตา ว่าแล้วเชียว!! แต่ทำไมมีแฟนแล้วถึงไม่ยอมบอกน้องสาว เก็บเงียบแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยต้องพามาแนะนำสิ“วันนี้ทำงานมาเหนื่อย ๆ เฮียขึ้นไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”“แล้วจะกินข้าวด้วยกันไหมคะ?”“ถ้าแฟนลิลทำเฮียค
ตุลอุ้มฉันจากห้องอาหารขึ้นมาถึงห้องนอนโดยไม่บ่นว่าหนักสักคำเพราะเขามีจุดประสงค์ชัดเจน เมื่อถูกวางบนเตียงก็ไม่รีรอ ฉันรีบถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ตุลยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เขาก็ไม่น้อยหน้ารีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเหมือนกัน ร่างหนากระโจนขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉัน จากนั้นก็ก้มลงมาฉกชิมความหวานจากริมฝีปากและค่อย ๆ ใช้มือบีบขยำจนเม็ดไตสีชมพูที่ชูชันขึ้นมา ตุลผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของฉัน เขาตวัดลิ้นเลียไปรอบ ๆ ริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าลงมาใช้ลิ้นตวัดเลียบริเวณซอกคอและต่ำลงเรื่อย ๆ หน้าอกสองเต้าถูกริมฝีปากหนาเล่นงานอย่างหนักหน่วง แต่ฉันกลับรู้สึกดีอยากให้อีกคนทำรุนแรงยิ่งกว่านี้อีก“อ๊า~ ดูดตรงนั้น อ๊ะ แรง ๆ ขึ้นอีก ซี๊ด~” ฉันแอ่นกายขึ้นเล็กน้อยและครางออกมาเสียงกระเส่า ขณะที่ตุลเองก็ดูดเม้มตรงนั้นแรง ๆ ตามที่สั่ง“พี่ลิลชอบให้ทำแรง ๆ เหรอครับ หืม~” แค่เสียงหวาน ๆ ที่เอ่ยถามก็ทำให้ร่างกายของฉันสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้ว ตอนนี้มันพร้อมให้เขาทำทุกอย่างตามใจต้องการ ตุลใช้ลิ้นสากลากเลียไปทั่วบริเวณหน้าท้องแบนราบและเรียวขาอ่อน ก่อนจะซุกใบหน้าลง
ตุลส่ายหน้าบอกแทนคำพูดว่าเขาไม่เป็นอะไร ก่อนจะพูด “แค่คลื่นไส้นิดหน่อย” “พักก่อนไหมหน้าเริ่มซีดแล้วนะ” “ไม่เป็นไรไหวอยู่” ถึงจะบอกว่าไหวแต่สีหน้าของเขาทำให้ฉันรู้สึกเป็นห่วงเอามาก ๆ ฉันคอยเป็นลูกมือช่วยตุลทำอาหารและคอยมองอาการของเขาเป็นระยะ ๆ แต่ถึงจะมีอาการแปลก ๆ ตุลก็ทำอาหารจนเสร็จ พอถึงเวลากินข้าวตุลก็ไม่ยอมกิน เขาบ่น ๆ ว่ารู้สึกไม่ชอบกลิ่นมันและแค่เห็นก็คลื่นไส้จนอยากจะอ้วก #ตกดึก “ถ้ายังมีอาการแบบนี้อยู่พรุ่งนี้ไปหาหมอกันดีไหมตุลา พี่เป็นห่วงจริง ๆ นะ” “คงเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน ไม่เป็นอะไรมากหรอก”“แต่พี่ว่า…”“เลิกคิดมากได้แล้ว” ไม่พูดเปล่า ตุลขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉันแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ขั้นตอนผลิดเบบี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่!!!!! จู่ ๆ ตุลก็มีอาการผะอืดผะอมคลื่นไส้จนต้องลุกขึ้นจากตัวฉันวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ทำเอาฉันงุนงงกับอาการที่เขาเป็น ขนาดนี้แล้วยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมากอีก “ไปหาหมอเถอะนะตุล” ฉันเดินมาลูบหลังให้และพูดหว่านล้อมเขา“อึก อ้วก ไม่เป็นไร” “เอ๊ะ! จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง” คนอุตส่าห์เป็นห่วงเขายังเอาแต่ปฏิเสธจะไม่ไปอยู่ได้“ถ้าอาทิตย์นี้ยังไม่หาย
@มหาวิทยาลัย ฉันมาที่ห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัยเพราะกันบอกว่าตุลนอนพักอยู่ เขาไม่สามารถเรียนได้อาจารย์จึงให้พักแวบแรกที่เห็นใบหน้าของตุลทำเอาหัวใจหล่นมาอยู่ที่ตาตุ่ม มันซีดเผือดราวกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง “เป็นหนักขนาดนี้ยังไม่ยอมไปหาหมออีกหรือไง” ตุลหันมามองตามเสียงบ่นของฉันด้วยแววตาที่น่าสงสาร มันน่านัก! ยิ่งเห็นเขาเป็นขนาดนี้ยิ่งเป็นห่วง “ทำไมมาช้าจัง” แทนที่จะสลดแต่เขากลับลุกขึ้นจากเตียงที่นอนพักแล้วเดินมาหาฉันพร้อมกับกอดแขนเอาไว้อย่างกับเด็กติดแม่ “พี่จะพาไปโรงพยาบาล ห้ามขัดด้วย” ฉันบอกเสียงเข้มที่ต้องพูดดักเอาไว้เพราะกลัวว่าตุลจะไม่ยอมอีก ไม่รู้จะรั้นไปถึงไหน “ไปก็ไปไม่เห็นจะต้องทำเสียงดุขนาดนั้น” เขาทำหน้าบึ้งแก้มป่อง เป็นท่าทางที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน พอป่วยแล้วสงสัยสติเลอะเลือน “นั่นอะไร?” สายตาดันเหลือบมองเห็นบางอย่างในมือตุลทำให้แปลกใจจนต้องถาม คนที่ถูกถามชูเจ้าสิ่งนั้นในมือมาตรงหน้าฉันแล้วพูด “เสื้อเมีย” พอได้ยินคำตอบก็ถึงกับตกใจ ใครจะไปคิดว่าเขาจะบ้าถึงขนาดพกเสื้อของฉันมามหาวิทยาลัยด้วย “เอาเสื้อพี่มาทำไมเนี่ย” ฉันคว้ามือหวังจะชิงเอาเสื้อของตัวเองกลับมาแต่ตุลไม่ยอม