#ตกเย็น วันนี้ตุลลงมือเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเองที่บ้านของฉัน ซึ่งฉันก็ห้ามแล้วเพราะมีพ่อครัวคอยทำให้ แต่แฟนเด็กก็ไม่ยอมในขณะที่กำลังนั่งรอตุลทำอาหารเฮียที่เพิ่งกลับมาบ้านก็เดินมาหาฉัน “ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้” ที่เฮียถามก็เพราะฉันไม่เคยมานั่งรอในห้องโถงที่ใช้สำหรับกินข้าวเลย ปกติต้องมีอาหารมาวางเตรียมแล้วถึงจะมานั่ง “รอตุลทำอาหารน่ะเฮีย” “ทำเป็น?” ขมวดคิ้วเป็นปม เหมือนไม่เชื่อมั่นในตัวตุล ฉันจึงรีบตอบเพื่อยืนยัน “จริง ๆ ก็ทำไม่เป็น แต่ตุลอยากเอาใจหนู เขาก็เลยศึกษาจากยูทูบค่ะ”พูดไปฉันก็เขินไป ถึงตุลจะแข็งกระด้างไปบ้างแต่เดี๋ยวนี้เขารู้จักทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้ฉันนะ เขาเป็นแฟนที่น่ารักที่สุด “เบา ๆ บ้าง หวานเกินหน้าเกินตา” เฮียพูดค้อนเมื่อเห็นฉันยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว “คนมีแฟนนี่นา เฮียเถอะได้ซุกผู้หญิงที่ไหนเอาไว้หรือเปล่าคะ?” ฉันขมวดคิ้วเข้มถามเฮียในเชิงจับผิด และเฮียก็มีพิรุธด้วยการหลบสายตา ว่าแล้วเชียว!! แต่ทำไมมีแฟนแล้วถึงไม่ยอมบอกน้องสาว เก็บเงียบแบบนี้ใช้ไม่ได้เลยต้องพามาแนะนำสิ“วันนี้ทำงานมาเหนื่อย ๆ เฮียขึ้นไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”“แล้วจะกินข้าวด้วยกันไหมคะ?”“ถ้าแฟนลิลทำเฮียค
ตุลอุ้มฉันจากห้องอาหารขึ้นมาถึงห้องนอนโดยไม่บ่นว่าหนักสักคำเพราะเขามีจุดประสงค์ชัดเจน เมื่อถูกวางบนเตียงก็ไม่รีรอ ฉันรีบถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ตุลยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เขาก็ไม่น้อยหน้ารีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเหมือนกัน ร่างหนากระโจนขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉัน จากนั้นก็ก้มลงมาฉกชิมความหวานจากริมฝีปากและค่อย ๆ ใช้มือบีบขยำจนเม็ดไตสีชมพูที่ชูชันขึ้นมา ตุลผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของฉัน เขาตวัดลิ้นเลียไปรอบ ๆ ริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าลงมาใช้ลิ้นตวัดเลียบริเวณซอกคอและต่ำลงเรื่อย ๆ หน้าอกสองเต้าถูกริมฝีปากหนาเล่นงานอย่างหนักหน่วง แต่ฉันกลับรู้สึกดีอยากให้อีกคนทำรุนแรงยิ่งกว่านี้อีก“อ๊า~ ดูดตรงนั้น อ๊ะ แรง ๆ ขึ้นอีก ซี๊ด~” ฉันแอ่นกายขึ้นเล็กน้อยและครางออกมาเสียงกระเส่า ขณะที่ตุลเองก็ดูดเม้มตรงนั้นแรง ๆ ตามที่สั่ง“พี่ลิลชอบให้ทำแรง ๆ เหรอครับ หืม~” แค่เสียงหวาน ๆ ที่เอ่ยถามก็ทำให้ร่างกายของฉันสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้ว ตอนนี้มันพร้อมให้เขาทำทุกอย่างตามใจต้องการ ตุลใช้ลิ้นสากลากเลียไปทั่วบริเวณหน้าท้องแบนราบและเรียวขาอ่อน ก่อนจะซุกใบหน้าลง
ตุลส่ายหน้าบอกแทนคำพูดว่าเขาไม่เป็นอะไร ก่อนจะพูด “แค่คลื่นไส้นิดหน่อย” “พักก่อนไหมหน้าเริ่มซีดแล้วนะ” “ไม่เป็นไรไหวอยู่” ถึงจะบอกว่าไหวแต่สีหน้าของเขาทำให้ฉันรู้สึกเป็นห่วงเอามาก ๆ ฉันคอยเป็นลูกมือช่วยตุลทำอาหารและคอยมองอาการของเขาเป็นระยะ ๆ แต่ถึงจะมีอาการแปลก ๆ ตุลก็ทำอาหารจนเสร็จ พอถึงเวลากินข้าวตุลก็ไม่ยอมกิน เขาบ่น ๆ ว่ารู้สึกไม่ชอบกลิ่นมันและแค่เห็นก็คลื่นไส้จนอยากจะอ้วก #ตกดึก “ถ้ายังมีอาการแบบนี้อยู่พรุ่งนี้ไปหาหมอกันดีไหมตุลา พี่เป็นห่วงจริง ๆ นะ” “คงเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน ไม่เป็นอะไรมากหรอก”“แต่พี่ว่า…”“เลิกคิดมากได้แล้ว” ไม่พูดเปล่า ตุลขึ้นมาคร่อมบนตัวของฉันแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ขั้นตอนผลิดเบบี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่!!!!! จู่ ๆ ตุลก็มีอาการผะอืดผะอมคลื่นไส้จนต้องลุกขึ้นจากตัวฉันวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ทำเอาฉันงุนงงกับอาการที่เขาเป็น ขนาดนี้แล้วยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมากอีก “ไปหาหมอเถอะนะตุล” ฉันเดินมาลูบหลังให้และพูดหว่านล้อมเขา“อึก อ้วก ไม่เป็นไร” “เอ๊ะ! จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง” คนอุตส่าห์เป็นห่วงเขายังเอาแต่ปฏิเสธจะไม่ไปอยู่ได้“ถ้าอาทิตย์นี้ยังไม่หาย
@มหาวิทยาลัย ฉันมาที่ห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัยเพราะกันบอกว่าตุลนอนพักอยู่ เขาไม่สามารถเรียนได้อาจารย์จึงให้พักแวบแรกที่เห็นใบหน้าของตุลทำเอาหัวใจหล่นมาอยู่ที่ตาตุ่ม มันซีดเผือดราวกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง “เป็นหนักขนาดนี้ยังไม่ยอมไปหาหมออีกหรือไง” ตุลหันมามองตามเสียงบ่นของฉันด้วยแววตาที่น่าสงสาร มันน่านัก! ยิ่งเห็นเขาเป็นขนาดนี้ยิ่งเป็นห่วง “ทำไมมาช้าจัง” แทนที่จะสลดแต่เขากลับลุกขึ้นจากเตียงที่นอนพักแล้วเดินมาหาฉันพร้อมกับกอดแขนเอาไว้อย่างกับเด็กติดแม่ “พี่จะพาไปโรงพยาบาล ห้ามขัดด้วย” ฉันบอกเสียงเข้มที่ต้องพูดดักเอาไว้เพราะกลัวว่าตุลจะไม่ยอมอีก ไม่รู้จะรั้นไปถึงไหน “ไปก็ไปไม่เห็นจะต้องทำเสียงดุขนาดนั้น” เขาทำหน้าบึ้งแก้มป่อง เป็นท่าทางที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน พอป่วยแล้วสงสัยสติเลอะเลือน “นั่นอะไร?” สายตาดันเหลือบมองเห็นบางอย่างในมือตุลทำให้แปลกใจจนต้องถาม คนที่ถูกถามชูเจ้าสิ่งนั้นในมือมาตรงหน้าฉันแล้วพูด “เสื้อเมีย” พอได้ยินคำตอบก็ถึงกับตกใจ ใครจะไปคิดว่าเขาจะบ้าถึงขนาดพกเสื้อของฉันมามหาวิทยาลัยด้วย “เอาเสื้อพี่มาทำไมเนี่ย” ฉันคว้ามือหวังจะชิงเอาเสื้อของตัวเองกลับมาแต่ตุลไม่ยอม
Talk ตุล แทบทั้งคืนที่ผมไม่ได้นอนเพราะมันรู้สึกไม่สบายตัวและอยากจะอ้วกในบางครั้ง แต่เพราะไม่ได้กินอะไรเลยทำให้อ้วกก็ไม่มีอะไรออกมา ผมที่ตื่นก่อนกำลังนอนมองใบหน้าหวานของว่าที่ภรรยาในอนาคตที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในตอนนี้ เมื่อคืนเธอคอยตื่นมาดูอาการของผมจนแทบไม่ได้นอนเหมือนกัน “ทำตัวน่ารักขนาดนี้ไม่ให้คลั่งรักได้ยังไง” ผมพูดกับใบหน้าหวานที่กำลังนอนหลับอย่างเอ็นดู ตอนนี้มันชินแล้วที่ตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรก วันไหนไม่ได้นอนด้วยมันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง จุ๊บ! ผมก้มลงหอมแก้มแดงระเรื่อฟอดใหญ่ กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์มันทำให้อยากฝังจมูกอยู่แบบนั้นไม่อยากผละออกไปไหน “อื้อ~” เสียงอู้อี้ในลำคอเหมือนจะรู้สึกรำคาญที่ถูกรบกวนของคนที่กำลังนอนหลับดังขึ้นมา ผมค่อย ๆ ยกปลายจมูกออกจากแก้มนิ่ม ๆ อย่างนึกเสียดายผมจับเอาเสื้อของลิลมาพาดไว้บนบ่า ก่อนจะลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์กับบุหรี่เดินมาที่นอกระเบียง จู่ ๆ ก็ติดกลิ่นเสื้อของเมียขึ้นมา ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมและไม่สามารถอธิบายได้ ขณะที่ยืนสูบบุหรี่ก็ใช้สายตามองเข้าไปในห้องดูลิลที่กำลังนอนหลับ สมองมันคิดถึงวันแรกที่เธอตามจีบ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป การเป็นคนท้องนี่มันสบายแบบนี้นี่เอง เพราะตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลวันนั้นฉันก็แทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย แถมตอนไปเรียนตุลก็กำชับว่าห้ามไปไหนเด็ดขาด ห้ามขับรถ ห้ามเดินเยอะ เขาสั่งให้ฉันอยู่ในห้อง นี่เขาจริงจังถึงขั้นซื้อกล้องมาติดในห้องเพื่อดูฉันเลยนะ เรื่องท้องฉันกับตุลตกลงกันแล้วว่าจะไม่บอกทางบ้าน รอเซอร์ไพรส์วันแต่งงาน หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันแทบไม่เจอเฮียเลย ถึงแม้ปกติจะไม่ค่อยได้เจออยู่แล้วแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป แถมเฮียยังมีท่าทางแปลกๆ มาขอชุดที่ฉันไม่ได้ใส่แล้วบอกว่าจะเอาไปบริจาค มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เฮียจะทำแบบนั้น อย่าคิดนะว่าเห็นอยู่กับฉันเฮียดูเป็นพี่ชายที่แสนดี นั่นมันก็แค่กับฉันที่เป็นน้องสาว ถ้าเป็นคนอื่นเฮียไม่เคยไว้หน้าใคร ก็คิดดูสิว่าคนที่ทำธุรกิจสีเทาได้ต้องโหดขนาดไหน หลายชั่วโมงผ่านไปที่ฉันนอนเบื่อหน่ายอยู่บนเตียงจนกระทั่งตุลกลับมา เขาถือเสื้อของฉันติดมือไม่ยอมให้ห่างเลยจริงๆ “วันนี้เรียนเหนื่อยมาก ขอชาร์จแบตหน่อย” เขาพูดเสียงอ้อนแล้วก็โอบแขนแกร่งมาสวมกอดฉันเพื่อชาร์จแบตให้กับร่างกาย“ขี้อ้อนนะเราเดี๋ยวนี้” “วันนี้ไอ้กันชวนไปวันเกิดมัน” “ว
ฉันนั่งรอแฟนเด็กขี้งอนของตัวเองที่หายไปอยู่ในห้องน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมง พอออกมาก็เห็นว่าเหงื่อท้วมตัวเขาเลย แบบนี้จะให้กลั้นขำได้ยังไง โกรธไม่ลืมหูลืมตาจริงๆ “ขำอะไร” ตุลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนหาเรื่อง ก่อนจะเดินมานอนที่เตียง “เหงื่อท้วมตัวแบบนั้นทำไมไม่ไปอาบน้ำก่อน” “ขี้เกียจ”“ลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ” “รังเกียจขนาดนั้น ?”“เปล่า แค่อยากให้ไปอาบน้ำจะได้สบายตัว” “ขี้เกียจ” เขาพูดย้ำคำเดิมแล้วก็ไม่สนใจ ฉันจึงคิดอะไรดีๆ ออกที่จะทำให้เขาหายงอน “แล้วถ้าพี่บอกว่าจะอาบน้ำให้ล่ะ ตุลจะยอมไปอาบไหม” ร่างหนาลุกขึ้นพรวดพราดแล้วเดินมาถอดเสื้อผ้าลงตะกร้าเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า จากนั้นก็หันมาบอก “ไปรอในห้องน้ำนะ รีบๆ ตามมาด้วยล่ะ” ฉันที่กำลังอึ้งได้แต่พยักหน้าหงึกๆ กับอารมณ์ที่แปรปรวนของตุล เขานี่นะพอเรื่องแบบนั้นก็ยอมกันง่ายๆ ในเมื่อพูดแล้วก็ต้องทำตามที่พูด ฉันถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันตัว จากนั้นก็เดินตามตุลมายังห้องน้ำ “หมอสั่งห้ามนะจำได้ใช่ไหม” ฉันย้ำก่อนเพราะกลัวว่าตุลจะทำอะไรที่มันเลยเถิด อารมณ์ของเขายิ่งพลุกพล่านเกินหักห้ามอยู่ด้วย “มาตรงนี้” เขาดึงผ้าขนห
ตรวจคำผิดย้อนหลัง————ในเมื่อมันเป็นความต้องการของแฟนเด็กฉันก็ไม่สามารถขัดได้ และในตอนนี้ตุลกับฉันกำลังนอนบนเตียง โดยมีอุ้งปากร้อนๆ คาบเม็ดไตบนหน้าอกเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังใช้มือนวดคลึงหน้าอกอีกข้างไปด้วย “อื้อ~ อย่าดูดแรงสิตุล” ฉันร้องอุทานเบาๆ เหมือนโดนแกล้งไม่ให้หลับ พอเคลิ้มจะหลับตุลก็ดูดแรงๆ จนต้องสะดุ้ง “ดูดเบาๆ เองนะ” เขายังมีหน้ามาบอกด้วยใบหน้าทะเล้น อยากจะดีดหูสักที “ไม่ต้องเลย พี่เจ็บไปหมดแล้ว” “จะไปลองชุดเมื่อไร ใกล้จะถึงวันแต่งแล้วนะทำไมเจ้าสาวถึงยังทำตัวชิวอยู่อีก” ตุลพูดค้อน อีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงวันที่เราสองคนได้แต่งงานกันแล้วแต่ฉันยังไม่ได้ไปลองชุด เหตุผลก็เพราะอาการที่ไม่ค่อยจะสู้ดีของเขานั่นแหละ “ถ้าอย่างนั้นเราไปพรุ่งนี้เลยก็ได้” ตุลยิ้มให้กับคำตอบของฉัน เหมือนเขารอให้พํดแบบนี้มานานแล้ว “อยากเห็นเมียใส่ชุดเจ้าสาวจะแย่ ต้องเป็นเจ้าสาวที่สุดที่สุดในโลกแน่ๆ”“พูดเวอร์เกินไปแล้วตุล” “พูดเรื่องจริง” เขาทำเมินกับคำตอบแล้วก็วับเม็ดไตบนหน้าอกของฉันไปดูดอีกครั้ง “สัญญากับพี่นะว่าจะไม่ดึงมือที่สามเข้ามาในชีวิตคู่หลังแต่งงานของเรา ถ้าพี่ต้องเสียใจเพราะตุลอีกครั้ง….”“