เธอย่อมรู้จุดประสงค์ของลูกสาวดี ความลับที่ไม่อาจบอกใครได้เช่นนี้ จะให้พูดออกมาในที่สาธารณะได้ยังไง“เทียนเหลียงล่ะ มีข่าวอะไรจากทางนั้นบ้างหรือเปล่า?” ซูเทียนคั่วถามซูหมิงหยาส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่มีข่าวใหม่เลยค่ะ รู้แค่ว่าเจียเจียถูกกลุ่มคนต่างชาติลักพาตัวไปจากที่ลานจอดรถใต้ดิน”หลังจากลูกสาวขาดการติดต่อ ซูหมิงหยาและถังเทียนเหลียงก็รีบใช้เส้นสายออกตามหาทันทีไม่นาน พวกเขาก็พบรถของถังเจียเจียในลานจอดรถของโรงแรมจากนั้นก็รู้จากการดูภาพในกล้องวงจรปิดว่าถังเจียเจียถูกลักพาตัวไปขณะนี้เอง ซูเฉี่ยนเฉี่ยนและลั่วอู๋ฉางก็เดินเข้ามาในลานบ้าน“พวกเธอสองคน!”เมื่อเห็นทั้งสองคนมีท่าทางผ่อนคลาย หัวเราะพูดคุยกันอย่างมีความสุข ซูหมิงหยาก็โกรธจนหัวเสีย“ลูกสาวฉันถูกลักพาตัวไปแล้ว พวกเธอยังจะดีใจกันได้อีก ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมีศิษย์พี่อยู่ข้างๆ จึงย่อมไม่เกรงใจเธอเลยสักนิด “ถ้าพวกเราร้องไห้สองสามเสียง แล้วถังเจียเจียจะกลับมาได้หรือไง?”“ขอร้องล่ะ เธอแค่ถูกลักพาตัว ไม่ได้ตายแล้วสักหน่อย จะเศร้าไปทำไม?”ซูหมิงหยาโกรธจนหน้าเขียว อกสะท้านแรง “คุณพ่อคะ ฟังสิ ที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยน
ถึงซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะไม่ชอบถังเจียเจีย แม้กระทั่งจะรู้สึกเกลียดเธอก็ตามแต่สิ่งนี้ก็ไม่ทบต่อความมีเมตตาในใจของซูเฉี่ยนเฉี่ยน เมื่อเห็นถังเจียเจียตกอยู่ในสภาพนี้ เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ในวิดีโอ ชายชุดดำคนนั้นพูดภาษาประเทศมังกรอย่างตะกุกตะกักว่า “ให้พวกแกสองชั่วโมง จงเอาของมาไถ่ตัวคนซะ”“ถ้าหมดเวลาแล้วพวกแกยังไม่มา เราจะฆ่าตัวประกันทิ้ง!”“สาวสวยที่อายุยังน้อยแบบนี้ ถ้าฆ่าทิ้งเฉยๆ ก็คงน่าเสียดาย พวกเราเองก็รู้จักใช้ประโยชน์ของสิ่งของให้เต็มที่...ฮ่าๆ พวกแกเข้าใจใช่ไหม!”“ถ้าไม่ทำงามเงื่อนไขของพวกเรา ก็เตรียมตัวเก็บศพเธอได้เลย!”ถังเจียเจียหวาดกลัวจนร้องไห้โฮ ดูน่าสงสารมากซูเทียนคั่วโกรธมาก พูดอย่างโมโห “พวกแกมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน ชาติชั่วยิ่งกว่าสัตว์นรก!”“เทียนเหลียง พวกเขาต้องการเงินเท่าไหร่?”“ไม่ว่าเท่าไหร่ ต่อให้เราสองตระกูลต้องขายทรัพย์สินทั้งหมด ก็จะต้องช่วยเจียเจียกลับมาให้ได้”คำพูดของคุณตาทรงพลัง แสดงถึงความแน่วแน่อย่างมากถังเทียนเหลียงยิ้มแห้งๆ แล้วพูดว่า “ถ้าสามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ผมก็คงไม่มารบกวนคุณพ่อหรอกครับ”“ถึงตระกูลถังจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ค่าไถ่ตัวเล็กๆ น้
ซูเทียนคั่วรู้สึกอึดอัดใจสุดๆ และหันไปขอความช่วยเหลือจากลั่วอู๋ฉางหลายครั้งลั่วอู๋ฉางไม่สนใจเขาและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อแน่ใจว่าเป็นการลักพาตัว ได้แจ้งตำรวจหรือยัง?”ถังเทียนเหลียงเลิ่กคิ้วขึ้น “แจ้งตำรวจทำไม!”“พวกนั้นเป็นคนร้ายจากต่างประเทศ ตำรวจจัดการพวกเขาไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่สามารถเอาความปลอดภัยของลูกสาวมาเสี่ยงได้”ลั่วอู๋ฉางถามต่อ “ต่อให้ตำรวจจัดการไม่ได้ แล้วกองรักษาความปลอดภัยหรือค่ายบู๊ลิ้มก็ทำไม่ได้เหรอ?”ถังเทียนเหลียงเบิกตาโตด้วยความโกรธ “พูดง่ายดีหนิ! ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด ความปลอดภัยของเจียเจียจะรับประกันได้ยังไง?”ซูเทียนคั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า “ท่านลั่ว เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นมองเห็นศักยภาพทางการตลาดอันมหาศาลของยาแก้บาดเจ็บ”“ดังนั้น พวกเขาจึงลักพาตัวเจียเจียไป”ถังเทียนเหลียงเหมือนนึกอะไรออก จึงรีบพูดเสริมว่า “อ้อ พวกเขาระบุชัดเจนว่า หลังได้สูตรยาแล้วจะไม่ขายในประเทศแน่นอน”“เป้าหมายของพวกเขาคือตลาดต่างประเทศ ไม่สนใจที่จะแข่งขันกับร้านสมุนไพรซูเหวยในประเทศ”ซูเทียนคั่วแสดงสีหน้ายินดี “ท่านลั่ว ท่านคิดว่า...”การที่ยังสามารถรักษาตลาดในประเทศไว้ได้ นับว่าเป
"หมอเทวดา ได้โปรดคิดใหม่อีกครั้ง!""เพื่อผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ท่านยอมทอดทิ้งตำแหน่งที่สูงศักดิ์จริง ๆ เหรอ?""ด้วยสถานะของท่าน เพียงท่านพยักหน้า นางแบบระดับโลก นักแสดงหญิงยอดนิยม หรือต่อให้เป็นเจ้าหญิงของประเทศ ก็จะต่อแถวมาปรนนิบัติท่านถึงเตียงนะครับ"เรือนจำเมืองจิงไห่แห่งที่ 1 เป็นเรือนจำระดับสุดยอดที่กักขังเหล่าวายร้ายระดับโลกและคนชั่วในวงการธุรกิจในตอนนี้ที่หน้าประตูเหล็ก ชายชราในชุดเสื้อคอจีนกำลังขอร้องอ้อนวอนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าชายชราผู้นี้คือเหลยเทียนสงหัวหน้าแก๊งนักธุรกิจในประเทศหัวเซี่ย ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจหลายช่องทาง เพียงแค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศล่มสลายได้ในทันที และมีชื่อเสียงในเรื่องความโหดเหี้ยมไม่ไว้หน้าใครเพื่อที่จะตามหาลั่วอู๋ฉางให้รักษาโรคและช่วยชีวิต เหลยเทียนสงเป็นฝ่ายยอมเข้ามารับโทษที่หลงตัน ในที่แห่งนี้ สถานการณ์แบบนี้พบเห็นได้บ่อยมากและด้านหลังชายชรา ผู้คุมและนักโทษทั้งหมดในเรือนจำ คุกเข่าข้างเดียว เรียงตัวกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แสดงสีหน้ามีความหวัง ไม่อยากให้เขาจากไปเพียงเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้ ลั่วอู๋ฉางนอกจากสถานะนักโทษแ
"มาสายเหรอ?"ลั่วอู๋ฉางประหลาดใจเล็กน้อย มองทอดสายตาไปก็ว่างเปล่าภาพที่เขาคาดคิดไม่ได้ปรากฏขึ้น หยางหว่านอวี่ไม่ได้ทำเหมือนกับตอนก่อนที่จะเข้าคุก ที่มอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้เขา ในช่วงเวลาแรกที่เขาออกจากคุกแต่เขาไม่ได้ใส่ใจ ขับรถช้าหน่อยปลอดภัยกว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น รอคอยอยู่เงียบ ๆจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ฝนโปรยลงมาเป็นระยะรถคันหนึ่ง ถึงได้ขับมาจากปลายถนนช้า ๆรถจอดลงด้านข้าง ลั่วอู๋ฉางรีบเดินเข้าไปหาแต่ทว่า คนที่ลงจากรถกลับไม่ใช่หยางหว่านอวี่ภรรยาของเขา แต่เป็นจ้าวเหม่ยอวิ๋นเพื่อนสนิทของเธอ“เหม่ยอวิ๋น ทำไมถึงเป็นเธอ หว่านอวี่ล่ะ?” ลั่วอู๋ฉางรู้สึกแปลกใจจ้าวเหม่ยอวิ๋นกางร่ม เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยเมย “ประธานหยางไม่มา ฉันเป็นเลขาของเธอ นี่คือสิ่งที่ประธานหยางให้ฉันเอามาให้นาย”เธอเปิดแฟ้มเอกสารออก แสดงไปตรงหน้าลั่วอู๋ฉางสัญญาหย่าร้าง!ตัวอักษรใหญ่ ๆ สี่ตัว ทิ่มแทงดวงตาอย่างมากลั่วอู๋ฉางนิ่งอึ้ง จากนั้นยิ้มกริ่ม “อย่าล้อเล่นแบบนี้ รีบให้หว่านอวี่ออกมาเถอะ!”ใบหน้าที่เย็นชาของจ้าวเหม่ยอวิ๋นเผยความดูถูกออกมาแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่แยแส “ไม่มีคนล้อเล่นกับนาย! ลั่วอู๋ฉาง
หยางหว่านอวี่กลับจะคบกับมัน นี่มันเป็นการเหยียดหยามกันอย่างมากในตอนนี้รถเบนซ์คันหนึ่งขับมา ร่างงามลงมาจากรถ ใบหน้าประณีตสวยงามสุด ๆ ชุดทำงานแบรนด์เนมเข้ารูปจนเห็นรูปร่างที่งดงาม ขาเรียวยาวตรงดิ่งทั้งสองข้างที่ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษออร่าที่เหนือกว่าคนทั่วไปของเธอ เหมือนกับราชินี ทำให้ผู้คนตกตะลึงช่วงเวลาสี่ปี ไม่เพียงไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการเวลาใด ๆ ไว้บนใบหน้าของเธอ ในทางกลับกันยังเพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ของผู้หญิงที่แข็งแกร่งอีกด้วย“เสี่ยวอวี่……”ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเผยความดีใจอย่างอดไม่ได้ สาวเท้าเดินเข้าไปหาหยางหว่านอวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ และหลบสายตา “ขออภัย ธุรกิจรัดตัวมาช้าไปหน่อย เลขาจ้าว จัดการเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”ท่าทางเย็นชา กีดกันผู้คนออกไปไกลเป็นหลายพันไมล์จ้าวเหม่ยอวิ๋นสีหน้าประหม่า รีบกางร่มเดินเข้าไป “ฉันกำลังดำเนินการอยู่……อ่อใช่ ประธานหยาง คุณมีนัดกับคุณชายหวังไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลามาที่นี่?”“ไม่กระทบหรอก จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก็จะไปตามนัด”สายตาของหยางหว่านอวี่ถึงได้มองไป เห็นลั่วอู๋ฉางที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เธอเผยสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาก่อน แ
หย่าร้างสำเร็จ!แต่หยางหว่านอวี่สังเกตเห็น ตัวเองไม่ได้ดีใจขนาดนั้นเหมือนอย่างที่คิดไว้แต่เธอยังต้องรักษาท่าทางแข็งกร้าวเอาไว้ พูดว่า "มีแต่คนอ่อนแอถึงจะเห็นศักดิ์ศรี และเกียรติที่ไม่มีค่าสำคัญขนาดนั้น ตอนนี้นายปฏิเสธ จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน"“ของพวกนี้ฉันเก็บเอาไว้ให้นาย คิดได้เมื่อไหร่ ก็มาหาเลขาจ้าวได้ทุกเมื่อ”ลั่วอู๋ฉางผิดหวังอย่างถึงที่สุด หันหลังเดินจากไปมองดูแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หัวใจที่เย็นชาของหยางหว่านอวี่เหมือนกับถูกทิ่มแทง พูดด้วยความสับสน “เหม่ยอวิ๋น ฉันทำแบบนี้……ถูกหรือผิดนะ?”“ถูกอยู่แล้ว เพียงแค่เตะสิ่งกีดขวางออกไป คุณถึงจะแสดงความมุ่งมาดปรารถนาออกมาได้ตามอำเภอใจ กลายเป็นผู้หญิงแกร่งที่อยู่จุดสูงสุด ส่วนลั่วอู๋ฉางก็แค่คนต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่เงยหน้ามองคุณด้วยซ้ำ เก็บเอาไว้มีแต่จะเป็นตัวถ่วงคุณ” จ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างมั่นใจหยางหว่านอวี่ไม่พูดจา แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป เธอเหม่อลอยอยู่ที่เดิมจ้าวเหม่ยอวิ๋นเห็นแบบนี้ รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ฉันสืบถามถึงคุณเกาของเกาซื่อกรุ๊ปได้ เธออยู่ที่กลางเมือง คุณติดที่ไม่ได้เจอตัวจริงของเธอ
เกาชิงเหยียนแทบจะร้องไห้ เธอพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่าน คุณพ่อทำตามคำแนะนำของท่านและเปลี่ยนแนวทางของเขา ละทิ้งพฤติกรรมชั่วเหล่านั้น เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”"ทุกปีเขาจะนำเงินห้าพันล้านบาทออกมาทำการกุศล สร้างสถานเด็กกำพร้าและโรงเรียนประถม ช่วยเหลือกลุ่มคนที่รายรับน้อยกับผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาโรค"“พ่อของฉันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หมอเทวดาลั่วต้องช่วยเขานะคะ เพียงแค่คุณยอมรักษา ตระกูลเกายินยอมมอบโสมพันปีให้!”หลายวันมานี้ เกาชิงเหยียนไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินหลายแสนบาท เชิญหมอที่มีชื่อเสียงรักษาอาการให้พ่อ แต่สุดท้ายต่างก็ล้มเลิกกลางคันมีวันหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้กะทันหัน อาการของพ่อเมื่อสามปีก่อนแย่ยิ่งกว่านี้ แต่ประหลาดตรงที่เขาออกไปรอบหนึ่งก็หายแล้ว เกาฉี่เฉียงบอกว่าตัวเองโชคดี หายป่วยเอง ทำอย่างขอไปทีเกาชิงเหยียนไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าหลังจากที่พ่อกลับมา นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคนจนกระทั่งเกาชิงเหยียนเปิดตู้เซฟออก ได้รู้เรื่องนี้จากบันทึกของพ่อ ถึงได้เข้าใจทันทีผู้มีฝีมือมีกฎเกณฑ์เยอะ เป็นเรื่องป