“จริงแท้แน่นอนเลย!”ซูหมิงหยาขมวดคิ้วตาโต พูดอย่างมั่นใจว่า “เย่ชิงหยุนและหม่าเฉียนคุนร่วมมือกัน มีข่าวว่าทั้งคู่วางแผนเจ้าเล่ห์ เพื่อจะล้มตระกูลซู”“แต่แผนกลับถูกเปิดโปง สุดท้ายก็ล้มเหลว แถมทั้งสองคนยังต้องหลบออกจากที่เกิดเหตุอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เสียหน้าหมดแล้ว!”เมื่อพูดถึงจุดนี้ ซูหมิงหยาก็ทำหน้าอิจฉา กัดฟันพูดว่า “ยาตัวใหม่ที่ตระกูลซูเปิดตัว รู้ไหมว่าขายราคาเท่าไหร่?”“หนึ่งล้านห้าแสนบาทต่อเม็ด!”ถังเจียเจียตกใจแทบช็อค กำลังจะพูดว่า “พวกเขาบ้าหรือเปล่า!”แพงขนาดนี้ ถ้ามีคนซื้อก็แปลกแล้ว!แต่ซูหมิงหยาก็พูดขึ้นมาก่อนว่า “พวกเขาขายดีมากเลย!”“คนหลายร้อยต่อแถวเพื่อซื้อ แถมยังขายแบบจำกัดจำนวนอีก ว่ากันว่าแค่ไม่นานก็ขายได้ห้าร้อยล้านบาทแล้ว”ถังเจียเจียเบิกตากว้าง “คนพวกนี้มีเงินแต่ไม่มีที่ใช้หรือไง? ถึงรีบไปเป็นคนโง่ให้โดนหลอกแบบนั้น!”“ไม่ใช่! พวกเขายังคิดว่าตัวเองซื้อน้อยไปด้วยซ้ำนะ” ซูหมิงหยาพูดด้วยความอิจฉายอดขายห้าร้อยล้านบาทเชียวนะ!ถังเจียเจียขมวดคิ้ว พูดว่า “ยาอะไรกันที่คนแห่ซื้อกันขนาดนี้?”เห็นว่าชื่อยาแก้บาดเจ็บ ได้ข่าวว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอต้องรู้แน
ดังนั้น เธอจึงมั่นใจในตัวเองอย่างมากก็แค่สิทธิ์การจัดจำหน่ายเล็กๆ ถ้าซูเฉี่ยนเฉี่ยนกล้าไม่ให้ จะจัดการเธอแน่ณ โรงแรมฮิลตันนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว แต่ความร้อนแรงในงานเปิดตัวยังไม่ลดลงเลยแต่กลับยิ่งคึกคักขึ้นไปอีกพ่อค้าจากที่อื่นหลายคนกำลังทยอยมาที่นี่กันอย่างไม่ขาดสาย“ประธานหลิ่ว ผู้จัดการโรงแรมมาถามว่าต้องจัดเตรียมอาหารกลางวันหรือไม่? ถ้าต้องการ พวกเขาต้องรีบเตรียมของเพราะมีคนเยอะมากค่ะ” ผู้ช่วยหญิงเดินมาถามหลิ่วซือหยินตอบโดยไม่ต้องคิด “ไม่จำเป็น!”“เราไม่ได้คิดจะเลี้ยงอาหารพวกเขาอยู่แล้ว พวกที่โลเลไปมาแบบนี้ ต่อให้เลี้ยงข้าวก็ไม่สำนึกคุณหรอก”“เตรียมขนมของว่างเล็กๆ น้อยๆ พอให้หายหิวก็พอ ให้พนักงานของเรากินอาหารตรงเวลา”ผู้ช่วยพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ!”หลิ่วซือหยินมองไปทางห้องพัก และสุดท้ายก็ตัดสินใจก้าวขาเดินไปพร้อมรองเท้าส้นสูงยังไม่ทันเข้าไปในห้อง เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่คล้ายระฆังเงินของซูเฉี่ยนเฉี่ยน“ทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงหัวเราะกันสนุกสนานขนาดนี้?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนตอบ “ฉันกับศิษย์พี่กำลังคุยเรื่องที่ครั้งนี้ตระกูลเย่ขาดทุนย่อยยับค่ะ!”“เย่ชิงหยุนค
เมื่อถังเจียเจียได้ยินคำว่า “ค่าตอบแทน” สองคำนี้ ก็ถึงกับดีใจจนลืมตัวในฐานะลูกสาวของพ่อค้าร้านสมุนไพร เธอรู้ดีว่าในสายงานนี้ ค่าตอบแทนควรเป็นเท่าไรปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความหายากของยาสมุนไพรถังเจียเจียเคยเห็นมากับตา พ่อของเธอ ถังเทียนเหลียง เพียงแค่แนะนำธุรกิจให้คนหนึ่ง ก็ได้รับค่าตอบแทนถึง แปดสิบล้านบาท!ตอนที่อีกฝ่ายจ่ายเงิน ไม่เพียงไม่มีท่าทีเสียดายเงิน ยังขอบคุณถังเทียนเหลียงอย่างมากอีกด้วยและยังพูดไม่หยุดว่า ต่อไปถ้ามีสมุนไพรดีๆ แบบนี้อีก ให้คิดถึงเขาเป็นอันดับแรกส่วนราคาของยาแก้บาดเจ็บ หนึ่งเม็ดสูงถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท!ที่สำคัญที่สุดคือยาแก้บาดเจ็บนับว่าเป็นสินค้าที่มีความต้องการตลาดสูงอย่างแน่นอนตั้งแต่เปิดขายจนถึงตอนนี้ เพิ่งขายไปแค่ไม่กี่ร้อยเม็ดเท่านั้นคนที่รู้ข่าวตามมาทีหลัง ไม่เพียงไม่ได้รับส่วนลด 20 เปอร์เซ็น ยังถูกจำกัดให้ซื้อได้แค่คนละเม็ดนี่คือการตลาดแบบขาดแคลนอย่างแท้จริง!แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะสรรพคุณของยาแก้บาดเจ็บมันดีเลิศออกนอกหน้าแบบนั้นความนิยมชมชอบในตัวยานี้ สังเกตดูได้จากบรรยากาศที่คึกคักในงานนี่ก็ใ
หักค่าตอบแทนให้ถังเจียเจียแล้ว ก็ยังสามารถได้กำไรอีก 35 เปอร์เซ็น“โอเค ดูฝีมือฉันได้เลย!”ถังเจียเจียท่าทีมั่นใจมาก เรียกพนักงานคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ แล้วพูดอย่างหยิ่งๆ ว่า “ไปตามผู้รับผิดชอบของพวกคุณมานี่หน่อย!”“ขอโทษครับคุณผู้หญิง มีเรื่องอะไรจะคุยกับผู้รับผิดชอบของเราหรือครับ?” อีกฝ่ายถามอย่างสุภาพแต่ถังเจียเจียกลับแสดงท่าทีหงุดหงิดมากใส่ “ถามทำไมมากมาย นายเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆ ตัดสินใจอะไรไม่ได้อยู่แล้ว!”อีกฝ่ายยังคงรักษาท่าทีสุภาพ “ถ้าผู้จัดการของผมถามขึ้นมา ผมจะได้อธิบายเหตุผลให้เธอฟังได้ไงครับ”“งั้นนายฟังให้ดี ฉันเป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลซู!”ถังเจียเจียพูดอย่างโอ้อวด “งั้นนายไปบอกซูเทียนคั่ว หรือซูเฉี่ยนเฉี่ยน บอกชื่อฉันไปพวกเขาก็รู้แล้ว แล้วก็จะรีบออกมาพบฉันทันที”“ฉันชื่อถังเจียเจีย เป็นหลานสาวที่ท่านประธานซูผู้เฒ่ารักที่สุด!”อีกฝ่ายรีบเปลี่ยนท่าทีเป็นสุภาพมากขึ้นทันที “กรุณารอสักครู่ครับ เดี๋ยวผมจะไปแจ้งคุณซูทั้งสองท่านให้”คุณชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็ยกนิ้วโป้งขึ้นทันทีแล้วชมว่า “คุณหนูถังนี่เก่งจริงๆ ผมแทบไม่เชื่อสายตาเลยนะเนี่ย!”“คุณไม่รู้หรอกว่าฝ่ายจัด
“คุณชายชวีไม่ต้องห่วง ไว้ใจฉันได้เลย!” ถังเจียเจียตบอกตัวเองเพื่อรับประกันคุณชายหนุ่มเห็นเธอมั่นใจขนาดนี้ ก็ย่อมเชื่อไปตามนั้นเขาหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาใครบางคน พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “รีบปล่อยข่าวออกไป บอกว่าตระกูลชวีได้ยาแก้บาดเจ็บมาจำนวนมาก”“ให้คนที่ต้องการซื้อยานำเงินไปที่ร้านยาของตระกูลชวีแล้วรออยู่ที่นั่น!”“ใช่ ต้องการเท่าไหร่ก็ได้! ถ้ามีใครถามก็บอกว่า คุณชายอย่างฉันได้รู้จักกับคนสำคัญของร้านสมุนไพรซูเหวย ซึ่งมีอำนาจเทียบเท่ากับระดับตัวแทนจำหน่ายใหญ่เลย”เมื่อถังเจียเจียได้ฟังคำพูดนี้ก็รู้สึกภาคภูมิใจจนตัวลอยอย่างไม่รู้ตัวตัวแทนจำหน่ายใหญ่? ใช่แล้ว!นี่แหละคือเป้าหมายสูงสุดของฉันที่มาในครั้งนี้!ต่อให้ต้องอาละวาดยังไงก็ต้องเอามาให้ได้!ใครใช้ให้เจ้าของร้านสมุนไพรซูเหวยเป็นคุณตาของฉันล่ะถ้าได้เป็นตัวแทนจำหน่ายใหญ่แล้ว จะรีบโพสต์ลงเฟซบุ๊กเลย พวกผู้หญิงที่ดูถูกฉันในตอนนี้ต้องพากันอิจฉาตายแน่ๆ!ถึงตอนนั้น พวกเธอทั้งหมดก็ต้องมาสรรเสริญฉัน ถังเจียเจียใครที่ยกยอเก่ง ทำให้ฉันพอใจ ถึงจะมีโอกาสได้ยาซื้อยาแก้บาดเจ็บไปถ้าไม่เช่นนั้น ไสหัวไปไกลเท่าไรได้ยิ่งดี!คุณชายช
“ซูเฉี่ยนเฉี่ยน เธอกล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ เชื่อไหมว่าฉันจะฉีกเธอตรงนี้เลย!” ถังเจียเจียเริ่มโกรธจัดลั่วอู๋ฉางมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ก็ลองดูสิ”สองต่อหนึ่ง!ถังเจียเจียเดิมทีก็ไม่ได้เปรียบอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเสียเปรียบไปใหญ่“เจ้าหนู นี่มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”ถังเจียเจียระเบิดอารมณ์ทันที ถูกซูเฉี่ยนเฉี่ยนดูถูกก็ว่าไปอย่าง แม้แต่คนต่างถิ่นที่ไม่มีใครรู้จักคนหนึ่งก็ยังกล้ามาหาเรื่องคุณหนูแบบฉันช่างกล้าหาญแบบไม่กลัวตายเลยจริงๆ!“นี่มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน ไม่เกี่ยวกับคนอื่นอย่างนาย”ถังเจียเจียเบิกตากว้างแล้วตวาดว่า “ถ้ารู้ภาษาคน ก็รีบไปให้พ้นเลย!”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้คุณตาจัดการนายด้วย จะทำให้นายไม่ได้อยู่สุขสบาย เข้าใจไหม?”คราวนี้เปลี่ยนเป็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่มองเธอด้วยสายตาเย็นชาแทน แล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ของฉันไม่ใช่คนนอก”“อีกอย่าง คุณปู่ก็ดีกับศิษย์พี่ลั่วมาก ในสายตาเขา ศิษย์พี่ลั่วสำคัญกว่าเธอที่เป็นหลานสาวเสียอีก"“ถ้าเธอยังไม่มองความเป็นจริง แล้วยังก่อเรื่องที่นี่ไม่เลย สุดท้ายคนที่จะต้องหน้าแตกก็คือตัวเธอนั่นแหละ”ถังเจียเจียด่าหยาบคายทันที “เธอพู
“นายนั่นแหละคนโกหก ทั้งครอบครัวของนายก็เป็นคนโกหกทั้งนั้น!”ถังเจียเจียโกรธขึ้นทันทีเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง “แกก็เป็นแค่ยาจกที่มาจากต่างถิ่น มีสิทธิ์อะไรพูดแบบนี้!”"ยาแก้บาดเจ็บเป็นธุรกิจของคุณตาฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนบ้านนอกอย่างนายเลยสักนิด”“ทุกคนอย่าไปฟังเขาพูดเพ้อเจ้อ ฉันถังเจียเจียจะต้องได้ตำแหน่งตัวแทนจำหน่ายใหญ่นี้แน่นอน!”การแถลงข่าววันนี้ นอกจากเป็นการเปิดตัว “ยาแก้บาดเจ็บ” แล้ว ยังเป็นการเปิดตัวร้านสมุนไพรซูเหวยของตระกูลซูอีกครั้งด้วยหลังจากที่พนักงานแนะนำเรียบร้อย หลายคนก็รู้จักประวัติที่มาของร้านสมุนไพรซูเหวยแล้วใครจะไปคิดว่า ตระกูลซูที่เคยถูกทำให้เป็นชายขอบในวงการแพทย์และสมุนไพร จะมีวันที่กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งเช่นนี้เพียงแค่ยาแก้บาดเจ็บตัวเดียว ก็สามารถทำให้ตระกูลซูทะยานขึ้นฟ้า กลับมามีเกียรติอีกครั้งเหมือนสมัยบรรพบุรุษ!ชื่อร้านสมุนไพรซูเหวย สามารถยึดพื้นที่ในเมืองอันที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดได้สำเร็จตอนนี้ คนหนึ่งคือหลานสาวของตระกูลซู ลูกสาวของตระกูลถังยักษ์ใหญ่ด้านสมุนไพรอีกคนคือคนต่างถิ่นที่ไม่เป็นที่รู้จัก ดูแล้วธรรมดามากทุกคนจะเชื่อใคร?คำตอ
ถังเจียเจียไม่เพียงแค่ไม่เอาถ่าน ยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวงการธุรกิจเลยเธอยิ้มอย่างดูถูก คล้ายกับลูกวัวเกิดใหม่ที่ไม่กลัวเสือ แล้วกล่าวอย่างดูถูกว่า “ตระกูลหลิ่วอะไรกัน ไม่เห็นเคยได้ยินเลย”“จะมาเทียบกับตระกูลถังของเราได้เหรอ?”ยิ่งเห็นคนที่เชื่อเธออย่างสนิทใจ ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาหลายคนกลั้นไม่อยู่ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา“คุณหนูถังคนนี้กล้าจริงๆ เลย น่าขำจริงๆ ตระกูลถังจะเอาอะไรไปเทียบได้”“ต่อหน้าตระกูลหลิ่ว แม้แต่ตระกูลหม่าเองก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน แต่เธอกลับกล้าพูดว่าตระกูลหลิ่วไม่มีคุณสมบัติมาเทียบกับตระกูลถัง”“ฝ่ายที่ไม่มีคุณสมบัติคือตระกูลถังต่างหาก ต่างกับตระกูลหลิ่วอยู่ตั้งไม่รู้กี่ชั้น!”ถังเจียเจียถูกล้อเลียนอย่างหนักเพราะความไม่รู้ของตัวเองใบหน้าเธอแดงก่ำด้วยความอับอายทันที อยากโต้กลับแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อนหลิ่วซือหยินเดินมาด้วยท่าทีสง่างาม ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือบุคลิกภาพ ก็ชัดเจนว่าเหนือกว่าถังเจียเจียมากต่อหน้าหญิงเก่งคนนี้ ถังเจียเจียไม่มีอะไรเทียบเคียงได้เลย ถูกเตะออกจากสนามทันที!“ร้านสมุนไพรซูเหวยใช้รูปแบบการขายตรง ยาแก้บาดเจ็บไม่มีระ
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค