ถังเจียเจียไม่เพียงแค่ไม่เอาถ่าน ยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวงการธุรกิจเลยเธอยิ้มอย่างดูถูก คล้ายกับลูกวัวเกิดใหม่ที่ไม่กลัวเสือ แล้วกล่าวอย่างดูถูกว่า “ตระกูลหลิ่วอะไรกัน ไม่เห็นเคยได้ยินเลย”“จะมาเทียบกับตระกูลถังของเราได้เหรอ?”ยิ่งเห็นคนที่เชื่อเธออย่างสนิทใจ ต่างเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาหลายคนกลั้นไม่อยู่ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา“คุณหนูถังคนนี้กล้าจริงๆ เลย น่าขำจริงๆ ตระกูลถังจะเอาอะไรไปเทียบได้”“ต่อหน้าตระกูลหลิ่ว แม้แต่ตระกูลหม่าเองก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน แต่เธอกลับกล้าพูดว่าตระกูลหลิ่วไม่มีคุณสมบัติมาเทียบกับตระกูลถัง”“ฝ่ายที่ไม่มีคุณสมบัติคือตระกูลถังต่างหาก ต่างกับตระกูลหลิ่วอยู่ตั้งไม่รู้กี่ชั้น!”ถังเจียเจียถูกล้อเลียนอย่างหนักเพราะความไม่รู้ของตัวเองใบหน้าเธอแดงก่ำด้วยความอับอายทันที อยากโต้กลับแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อนหลิ่วซือหยินเดินมาด้วยท่าทีสง่างาม ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือบุคลิกภาพ ก็ชัดเจนว่าเหนือกว่าถังเจียเจียมากต่อหน้าหญิงเก่งคนนี้ ถังเจียเจียไม่มีอะไรเทียบเคียงได้เลย ถูกเตะออกจากสนามทันที!“ร้านสมุนไพรซูเหวยใช้รูปแบบการขายตรง ยาแก้บาดเจ็บไม่มีระ
"หมอเทวดา ได้โปรดคิดใหม่อีกครั้ง!""เพื่อผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ท่านยอมทอดทิ้งตำแหน่งที่สูงศักดิ์จริง ๆ เหรอ?""ด้วยสถานะของท่าน เพียงท่านพยักหน้า นางแบบระดับโลก นักแสดงหญิงยอดนิยม หรือต่อให้เป็นเจ้าหญิงของประเทศ ก็จะต่อแถวมาปรนนิบัติท่านถึงเตียงนะครับ"เรือนจำเมืองจิงไห่แห่งที่ 1 เป็นเรือนจำระดับสุดยอดที่กักขังเหล่าวายร้ายระดับโลกและคนชั่วในวงการธุรกิจในตอนนี้ที่หน้าประตูเหล็ก ชายชราในชุดเสื้อคอจีนกำลังขอร้องอ้อนวอนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าชายชราผู้นี้คือเหลยเทียนสงหัวหน้าแก๊งนักธุรกิจในประเทศหัวเซี่ย ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจหลายช่องทาง เพียงแค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศล่มสลายได้ในทันที และมีชื่อเสียงในเรื่องความโหดเหี้ยมไม่ไว้หน้าใครเพื่อที่จะตามหาลั่วอู๋ฉางให้รักษาโรคและช่วยชีวิต เหลยเทียนสงเป็นฝ่ายยอมเข้ามารับโทษที่หลงตัน ในที่แห่งนี้ สถานการณ์แบบนี้พบเห็นได้บ่อยมากและด้านหลังชายชรา ผู้คุมและนักโทษทั้งหมดในเรือนจำ คุกเข่าข้างเดียว เรียงตัวกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แสดงสีหน้ามีความหวัง ไม่อยากให้เขาจากไปเพียงเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้ ลั่วอู๋ฉางนอกจากสถานะนักโทษแ
"มาสายเหรอ?"ลั่วอู๋ฉางประหลาดใจเล็กน้อย มองทอดสายตาไปก็ว่างเปล่าภาพที่เขาคาดคิดไม่ได้ปรากฏขึ้น หยางหว่านอวี่ไม่ได้ทำเหมือนกับตอนก่อนที่จะเข้าคุก ที่มอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้เขา ในช่วงเวลาแรกที่เขาออกจากคุกแต่เขาไม่ได้ใส่ใจ ขับรถช้าหน่อยปลอดภัยกว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น รอคอยอยู่เงียบ ๆจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ฝนโปรยลงมาเป็นระยะรถคันหนึ่ง ถึงได้ขับมาจากปลายถนนช้า ๆรถจอดลงด้านข้าง ลั่วอู๋ฉางรีบเดินเข้าไปหาแต่ทว่า คนที่ลงจากรถกลับไม่ใช่หยางหว่านอวี่ภรรยาของเขา แต่เป็นจ้าวเหม่ยอวิ๋นเพื่อนสนิทของเธอ“เหม่ยอวิ๋น ทำไมถึงเป็นเธอ หว่านอวี่ล่ะ?” ลั่วอู๋ฉางรู้สึกแปลกใจจ้าวเหม่ยอวิ๋นกางร่ม เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยเมย “ประธานหยางไม่มา ฉันเป็นเลขาของเธอ นี่คือสิ่งที่ประธานหยางให้ฉันเอามาให้นาย”เธอเปิดแฟ้มเอกสารออก แสดงไปตรงหน้าลั่วอู๋ฉางสัญญาหย่าร้าง!ตัวอักษรใหญ่ ๆ สี่ตัว ทิ่มแทงดวงตาอย่างมากลั่วอู๋ฉางนิ่งอึ้ง จากนั้นยิ้มกริ่ม “อย่าล้อเล่นแบบนี้ รีบให้หว่านอวี่ออกมาเถอะ!”ใบหน้าที่เย็นชาของจ้าวเหม่ยอวิ๋นเผยความดูถูกออกมาแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่แยแส “ไม่มีคนล้อเล่นกับนาย! ลั่วอู๋ฉาง
หยางหว่านอวี่กลับจะคบกับมัน นี่มันเป็นการเหยียดหยามกันอย่างมากในตอนนี้รถเบนซ์คันหนึ่งขับมา ร่างงามลงมาจากรถ ใบหน้าประณีตสวยงามสุด ๆ ชุดทำงานแบรนด์เนมเข้ารูปจนเห็นรูปร่างที่งดงาม ขาเรียวยาวตรงดิ่งทั้งสองข้างที่ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษออร่าที่เหนือกว่าคนทั่วไปของเธอ เหมือนกับราชินี ทำให้ผู้คนตกตะลึงช่วงเวลาสี่ปี ไม่เพียงไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการเวลาใด ๆ ไว้บนใบหน้าของเธอ ในทางกลับกันยังเพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ของผู้หญิงที่แข็งแกร่งอีกด้วย“เสี่ยวอวี่……”ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเผยความดีใจอย่างอดไม่ได้ สาวเท้าเดินเข้าไปหาหยางหว่านอวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ และหลบสายตา “ขออภัย ธุรกิจรัดตัวมาช้าไปหน่อย เลขาจ้าว จัดการเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”ท่าทางเย็นชา กีดกันผู้คนออกไปไกลเป็นหลายพันไมล์จ้าวเหม่ยอวิ๋นสีหน้าประหม่า รีบกางร่มเดินเข้าไป “ฉันกำลังดำเนินการอยู่……อ่อใช่ ประธานหยาง คุณมีนัดกับคุณชายหวังไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลามาที่นี่?”“ไม่กระทบหรอก จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก็จะไปตามนัด”สายตาของหยางหว่านอวี่ถึงได้มองไป เห็นลั่วอู๋ฉางที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เธอเผยสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาก่อน แ
หย่าร้างสำเร็จ!แต่หยางหว่านอวี่สังเกตเห็น ตัวเองไม่ได้ดีใจขนาดนั้นเหมือนอย่างที่คิดไว้แต่เธอยังต้องรักษาท่าทางแข็งกร้าวเอาไว้ พูดว่า "มีแต่คนอ่อนแอถึงจะเห็นศักดิ์ศรี และเกียรติที่ไม่มีค่าสำคัญขนาดนั้น ตอนนี้นายปฏิเสธ จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน"“ของพวกนี้ฉันเก็บเอาไว้ให้นาย คิดได้เมื่อไหร่ ก็มาหาเลขาจ้าวได้ทุกเมื่อ”ลั่วอู๋ฉางผิดหวังอย่างถึงที่สุด หันหลังเดินจากไปมองดูแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หัวใจที่เย็นชาของหยางหว่านอวี่เหมือนกับถูกทิ่มแทง พูดด้วยความสับสน “เหม่ยอวิ๋น ฉันทำแบบนี้……ถูกหรือผิดนะ?”“ถูกอยู่แล้ว เพียงแค่เตะสิ่งกีดขวางออกไป คุณถึงจะแสดงความมุ่งมาดปรารถนาออกมาได้ตามอำเภอใจ กลายเป็นผู้หญิงแกร่งที่อยู่จุดสูงสุด ส่วนลั่วอู๋ฉางก็แค่คนต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่เงยหน้ามองคุณด้วยซ้ำ เก็บเอาไว้มีแต่จะเป็นตัวถ่วงคุณ” จ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างมั่นใจหยางหว่านอวี่ไม่พูดจา แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป เธอเหม่อลอยอยู่ที่เดิมจ้าวเหม่ยอวิ๋นเห็นแบบนี้ รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ฉันสืบถามถึงคุณเกาของเกาซื่อกรุ๊ปได้ เธออยู่ที่กลางเมือง คุณติดที่ไม่ได้เจอตัวจริงของเธอ
เกาชิงเหยียนแทบจะร้องไห้ เธอพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่าน คุณพ่อทำตามคำแนะนำของท่านและเปลี่ยนแนวทางของเขา ละทิ้งพฤติกรรมชั่วเหล่านั้น เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”"ทุกปีเขาจะนำเงินห้าพันล้านบาทออกมาทำการกุศล สร้างสถานเด็กกำพร้าและโรงเรียนประถม ช่วยเหลือกลุ่มคนที่รายรับน้อยกับผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาโรค"“พ่อของฉันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หมอเทวดาลั่วต้องช่วยเขานะคะ เพียงแค่คุณยอมรักษา ตระกูลเกายินยอมมอบโสมพันปีให้!”หลายวันมานี้ เกาชิงเหยียนไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินหลายแสนบาท เชิญหมอที่มีชื่อเสียงรักษาอาการให้พ่อ แต่สุดท้ายต่างก็ล้มเลิกกลางคันมีวันหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้กะทันหัน อาการของพ่อเมื่อสามปีก่อนแย่ยิ่งกว่านี้ แต่ประหลาดตรงที่เขาออกไปรอบหนึ่งก็หายแล้ว เกาฉี่เฉียงบอกว่าตัวเองโชคดี หายป่วยเอง ทำอย่างขอไปทีเกาชิงเหยียนไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าหลังจากที่พ่อกลับมา นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคนจนกระทั่งเกาชิงเหยียนเปิดตู้เซฟออก ได้รู้เรื่องนี้จากบันทึกของพ่อ ถึงได้เข้าใจทันทีผู้มีฝีมือมีกฎเกณฑ์เยอะ เป็นเรื่องป
“อะไรนะ? ห้องสวีทคืนละห้าหมื่นกว่าบาท ไอ้ระยำนี่มันกล้าได้อย่างไร ใช้เงินคนอื่นไม่เสียดายใช่ไหม ดูท่า มันหลอกเอาเงินจากพี่สาวของแกไปไม่น้อย” สวีชุ่ยหลานรู้สึกเสียดายเงิน โมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่หยางจวิ้นหาวพูดอย่างเดือดดาล “ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผมยังไม่เคยพักที่ห้องสวีทเลย!”สองแม่ลูกลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เดินทางไปที่โรงแรมด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดในห้อง ลั่วอู๋ฉางเปิดกระเป๋าผ้าออก เพียงแค่บัตรเครดิตแบล็กการ์ดก็มีสิบกว่าใบขุนนางชั้นสูงผู้สูงศักดิ์มาให้เขารักษาโรค จะต้องเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งออกมาเป็นค่ารักษา ลั่วอู๋ฉางเก็บไว้เพียงส่วนเดียว เก้าส่วนที่เหลือเอาออกมาทำการกุศลต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ยังสั่งสมความมั่งคั่งไว้มากมายความจริงแล้ว เพียงแค่หยางหว่านอวี่พูดมาประโยคเดียว ลั่วอู๋ฉางก็ให้ชีวิตที่เหมือนกับราชินีได้ทั้ง ๆ ที่มีทางลัด เธอกลับเลือกที่จะเดินทางอ้อมจากนั้นก็มีกระเป๋าเข็มหนังกวางชุดหนึ่ง นี่เป็นของเพียงชิ้นเดียวที่อาจารย์ของเขาส่งต่อให้เขา สำหรับลั่วอู๋ฉางแล้วมันสำคัญอย่างมาก ตั้งแต่เขาสืบทอดมรดก ตาแก่ก็ซ่อนตัวขึ้นมา ไม่เผยโฉมหน้าอีกเลย“ปังปังปัง!”เสียงทุบประตูที่ร้
ลั่วอู๋ฉางเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต อดกลั้นไม่ลงมือ ข่มความโมโหไว้แล้วพูดขึ้น “แม่ ต้องทำถึงขั้นนี้เลยเหรอ?”“ขากถุย! ใครแม่แก ไม่ดูตัวเองว่าฐานะอะไร แกคู่ควรเหรอ?”หยางจวิ้นหาวหยิบบัตรเครดิตแบล็กการ์ดขึ้นมา พูดอย่างดูถูก “ของบ้าบออะไร ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ต้องเป็นของปลอมแน่ นี่......ยังมีขยะอะไรอีก?”เขาหยิบกระเป๋าเข็มหนังกวางขึ้นมาดู คิดว่าเป็นเศษโลหะ“เอามาให้ฉัน!” ลั่วอู๋ฉางโมโหอย่างถึงที่สุดหยางจวิ้นหาวไม่เพียงไม่คืนให้ แต่กลับโยนลงบนพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ “ขยะเหมือนกับนักโทษอย่างนาย!”ลั่วอู๋ฉางข่มความโมโหไว้ไม่อยู่อีกต่อไป กำหมัดแน่นจนข้อนิ้วเสียงดังขึ้นมา“สารเลว!”ง้างมือตบลงไปที่ใบหน้าของหยางจวิ้นหาว“เพี๊ยะ!”หยางจวิ้นหาวล้มลงกับพื้น ใบหน้าครึ่งหนึ่งแดงก่ำขึ้นมาอย่างเร็ว“คนเนรคุณที่เลี้ยงไม่เชื่อง ฉันติดคุกแทนนาย นายไม่ซาบซึ้งในบุญคุณ แถมยังเอาแต่พูดว่านักโทษ! พ่อแม่นายไม่สอนให้นายรู้จักมารยาท ฉันสอนเอง!”“กล้าตบลูกฉัน ฉันสู้ตายแล้ว!” สวีชุ่ยหลานร้องตะโกน แยกเขี้ยวยิงฟันจะเข้ามาข่วนลั่วอู๋ฉางหันมาทันที ดวงตาอาฆาตแค้น เย็นชาเคร่งขรึม เอ่ยปากอย่างโมโห “ไสหัวไป!”ด